16.08.2016 Views

Better Health magazine

The magazine for patients and friends of Bumrungrad International Hospital, Thailand.

The magazine for patients and friends of Bumrungrad International Hospital, Thailand.

SHOW MORE
SHOW LESS

Create successful ePaper yourself

Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.

“ ผู้ที่เคยเป็นโรคอีสุกอีใสทุกคน<br />

มีความเสี่ยงต่อการเป็น<br />

โรคงูสวัด หากภูมิคุ้มกัน<br />

ในร่างกายไม่แข็งแรงพอ”<br />

พญ.ลิลลี่ ชัยสมพงษ์<br />

ทั้งนี้ ลักษณะของโรคงูสวัดจะแตกต่างจาก<br />

โรคอีสุกอีใสซึ่งเป็นตุ่มแดงอักเสบเห่อขึ้นมา<br />

ทั้งตัว แต่งูสวัดจะเป็นตุ่มหรือผื่นขึ้นเฉพาะตาม<br />

ปมประสาทที่ไวรัสซ่อนตัวอยู่ โดยขึ้นเป็นแถบ<br />

ตามแนวเส้นประสาทไม่กระจายตัว เริ่มจากเกิด<br />

ตุ่มแดงแล้วจึงกลายเป็นตุ่มนูน ตุ่มใส ในที่สุด<br />

จะแตกและตกสะเก็ด พบได้บ่อยตามลำตัว เอว<br />

หลัง รวมถึงบริเวณใบหน้าและดวงตาซึ่งเป็นกรณี<br />

ที่อันตรายและอาจทำให้ตาบอดได้<br />

อาการปวดแสบปวดร้อน<br />

อาการที่เด่นชัดของโรคงูสวัดนอกเหนือจาก<br />

ตุ่มหรือผื่นผิวหนังก็คือ อาการปวดเส้นประสาทที่<br />

เรียกว่า neuropathic pain คือปวดแสบปวดร้อน<br />

ตามแนวเส้นประสาท บางรายปวดเหมือนโดน<br />

ไฟช็อต รวมถึงเจ็บตามตุ่มเนื่องจากการอักเสบ<br />

“ผู้สูงอายุบางท่านมีอาการปวดมากตั้งแต่เริ่ม<br />

มีตุ่มแดง บางท่านยังไม่มีตุ่มขึ้นเลยแต่มีอาการ<br />

ปวดนำก่อน ยิ่งมีตุ่มมากก็ยิ่งปวดมาก เรียกว่าแค่<br />

สัมผัสกับเสื้อผ้าบางๆ ก็ปวดแล้ว บางท่านนอน<br />

ไม่ได้เพราะนอนท่าไหนก็ปวด เรียกว่าเป็นโรค<br />

ที่ค่อนข้างทรมาน” พญ.ลิลลี่ กล่าวเสริม<br />

นอกจากนี้แล้ว ในผู้ป่วยบางรายอาจมีภาวะ<br />

แทรกซ้อนของโรคเกิดขึ้นได้ อาทิ การอักเสบติด<br />

เชื้อที่ตุ่มหรือผื่นผิวหนัง และอาการปวดตามแนว<br />

เส้นประสาทหลังเป็นงูสวัดหรือ postherpetic<br />

neuralgia ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้มากถึงร้อยละ<br />

70-80 ในผู้ป่วยที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป* โดยผู้ป่วย<br />

*ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม<br />

คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล<br />

จะมีอาการปวดค้างอยู่แม้จะหายจากโรคแล้ว<br />

ก็ตาม โดยอาจปวดเป็นเดือน เป็นปี หรือปวด<br />

ตลอดชีวิต<br />

“อาการปวดตามแนวเส้นประสาทเป็นได้กับ<br />

ทุกคน แต่เราพบมากในผู้สูงอายุเนื่องจากเป็น<br />

กลุ่มที่ป่วยเป็นโรคงูสวัดมากที่สุด เป็นภาวะ<br />

แทรกซ้อนที่รบกวนคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย<br />

อย่างมาก เพราะหมดความสุขสบายในชีวิต<br />

บางรายต้องรับประทานยาแก้ปวดชนิดออก<br />

ฤทธิ์แรงซึ่งอาจทำให้ง่วงได้ พอง่วงก็จะหกล้ม<br />

และเกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา”<br />

การรักษาและป้องกัน<br />

ในรายที่อาการไม่รุนแรงและไม่มีภาวะแทรกซ้อน<br />

โรคงูสวัดอาจหายได้ภายในหนึ่งสัปดาห์จากการ<br />

รักษาตามอาการ อย่างไรก็ตาม เมื่อทราบว่าเป็น<br />

โรคงูสวัดอย่าปล่อยทิ้งไว้แต่ควรรีบมาพบแพทย์<br />

เพราะยิ่งได้รับยาต้านเชื้อไวรัสเร็วก็จะยิ่งลดความ<br />

รุนแรงของโรคลงได้แม้จะไม่ทั้งหมด<br />

“ผู้ป่วยสูงอายุหลายท่านไม่ทราบว่าตัวเองเป็น<br />

อะไร คิดว่าแพ้หรือเป็นตุ่มแมลงกัดต่อย กว่าจะ<br />

มาพบแพทย์ก็ผ่านไป 3-4 วันแล้วซึ่งอาการจะ<br />

เริ่มรุนแรง กรณีนี้ลูกหลานหรือผู้ดูแลต้องหมั่น<br />

สังเกต หากพบว่ามีตุ่มหรือผื่นบริเวณผิวหนัง<br />

ร่วมกับอาการปวด ให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจเป็น<br />

โรคงูสวัด”<br />

และเนื่องจากการรักษาโรคงูสวัดไม่สามารถ<br />

ป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้ 100% การป้องกัน<br />

โรคจึงเป็นทางเลือกที่แพทย์แนะนำ นั่นคือเข้ารับ<br />

การฉีดวัคซีนป้องกันโรคงูสวัดซึ่งมีให้บริการแล้ว<br />

ในประเทศไทยและพบว่าสามารถลดอุบัติการณ์<br />

ของโรคได้ถึงร้อยละ 51.3 ในกลุ่มผู้ที่มีอายุ<br />

ระหว่าง 60-70 ปี*<br />

สำหรับอายุที่เหมาะสมในการฉีดวัคซีนคือ<br />

60 ปีขึ้นไป แต่ในกรณีของผู้ป่วยโรคเรื้อรังหรือ<br />

มีโรคอื่นๆ ที่ทำให้ภูมิต้านทานไม่แข็งแรง ผู้ป่วย<br />

อาจเข้ารับการฉีดวัคซีนก่อนอายุ 60 ปีก็ได้เช่นกัน<br />

ปัจจุบันวัคซีน 1 เข็มมีประสิทธิภาพในการป้องกัน<br />

โรคได้ดีที่สุดคือประมาณ 10 ปีนับจากวันที่ฉีด<br />

“การฉีดวัคซีนป้องกันโรคงูสวัดนั้นไม่ได้<br />

หมายความว่าจะทำให้ไม่เป็นโรคเลย แต่เป็นการ<br />

ช่วยลดโอกาสของการเกิดโรคได้กว่าครึ่งและ<br />

ลดความรุนแรงของโรคลงได้” พญ.ลิลลี่ กล่าว<br />

ในท้ายที่สุด<br />

วัคซีนสุขภาพดี<br />

เ<br />

ทางเลือกเพื่อสุขภาพผู้สูงวัย<br />

พราะการป้องกันย่อมดีกว่าการรักษา<br />

คลินิกสุขภาพผู้สูงอายุนิวไลฟ์ โรงพยาบาล<br />

บำรุงราษฎร์ ปรารถนาให้ผู้สูงวัยมีสุขภาพ<br />

ดีด้วย โปรแกรมวัคซีนสุขภาพดีสำหรับ<br />

ผู้สูงวัย ซึ่งประกอบไปด้วยวัคซีนที่จำเป็น<br />

ต่อการป้องกันโรคที่พบบ่อยในผู้สูงวัย<br />

อันได้แก่<br />

+ วัคซีนป้องกันโรคงูสวัด แนะนำให้ฉีด<br />

วัคซีนโรคงูสวัด 1 เข็ม ในผู้ที่มีอายุ<br />

ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป<br />

+ วัคซีนป้องกันโรคบาดทะยัก แนะนำให้<br />

ฉีดวัคซีนป้องกันโรคบาดทะยัก 1 เข็ม<br />

โดยส่วนใหญ่จะมีภูมิต้านทานอยู่<br />

ประมาณ 10 ปี<br />

+ วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ แนะนำ<br />

ให้ฉีดเป็นประจำทุกปีในช่วงปลาย<br />

ฤดูฝนถึงช่วงฤดูหนาว<br />

+ แพ็กเกจวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ<br />

แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคปอด<br />

อักเสบ 2 ชนิด คือ ชนิดคอนจูเกต<br />

13 สายพันธุ์ 1 เข็ม และชนิดโพลี<br />

แซคคาไรด์ 23 สายพันธุ์ 1 เข็ม<br />

ทั้งนี้ คลินิกสุขภาพผู้สูงอายุนิวไลฟ์<br />

พร้อมให้คำแนะนำในการรับวัคซีนจากแพทย์<br />

ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุและ<br />

บุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ<br />

เฉพาะทาง<br />

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม<br />

โทร 0 2667 2000<br />

19

Hooray! Your file is uploaded and ready to be published.

Saved successfully!

Ooh no, something went wrong!