à¹à¸¥à¹à¸¡à¸à¸µà¹ 33 (2553) - à¸à¸´à¸ªà¸´à¸ - มหาวิà¸à¸¢à¸²à¸¥à¸±à¸¢à¸à¸¹à¸£à¸à¸²
à¹à¸¥à¹à¸¡à¸à¸µà¹ 33 (2553) - à¸à¸´à¸ªà¸´à¸ - มหาวิà¸à¸¢à¸²à¸¥à¸±à¸¢à¸à¸¹à¸£à¸à¸² à¹à¸¥à¹à¸¡à¸à¸µà¹ 33 (2553) - à¸à¸´à¸ªà¸´à¸ - มหาวิà¸à¸¢à¸²à¸¥à¸±à¸¢à¸à¸¹à¸£à¸à¸²
14 มกราคม : วันอนุรักษทรัพยากรปาไมแหงชาติ กรองจันทร รัตนประดิษฐ ปาไมเปนทรัพยากรที่สําคัญของชาติ ใหประโยชนทั้งทางตรงและทางออม แกประชาชน มีความสําคัญทั้งตอระบบนิเวศวิทยา ชวยปองกันการชะลางพังทลาย ของดินทําใหดินอุดมสมบูรณ เปนตนน้ําลําธาร รวมถึงเปนที่อยูอาศัยของสัตวปา มี ความสําคัญดานเศรษฐกิจเนื่องจากทําใหเกิดผลผลิตที่นํามาใชประโยชนตอมนุษย ไดอยางมากมาย มีความสําคัญดานนันทนาการในการเปนแหลงพักผอนหยอนใจ ของมนุษย เปนแหลงศึกษาธรรมชาติวิทยา นอกจากนี้ปาไมยังชวยรักษาความสมดุล ของภาวะแวดลอมและปองกันภัยธรรมชาติ ซึ่งนําความเสียหายอยางรายแรงแกชีวิต และทรัพยสินของประชาชน สาเหตุสําคัญของการลดลงของพื้นที่ปาเกิดจากการลักลอบตัดไมทําลายปา ปริมาณปาไมที่ถูกทําลายนี้นับวันจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามอัตราเพิ่มของจํานวนประชากร ยิ่งมีประชากรเพิ่มขึ้นเทาใดความตองการในการใชไมก็เพิ่มมากขึ้นตาม เมื่อ ประชากรเพิ่มสูงขึ้นความตองการใชที่ดินเพื่อปลูกสรางที่อยูอาศัยและที่ดินทํากิน ก็สูงขึ้น เปนผลผลักดันใหประชาชนเขาไปบุกรุกพื้นที่ปาไม หรือเผาปาทําไรเลื่อน ลอย นอกจากนี้ยังมีนายทุนที่ดินเขาไปทําลายปาเพื่อจับจองที่ดินไวขายตอไป การ สงเสริมการปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตวเศรษฐกิจเพื่อการสงออก เชน มันสําปะหลัง ปอ เปนตน โดยไมสงเสริมการใชที่ดินอยางเต็มประสิทธิภาพทั้ง ๆ ที่พื้นที่ปาบางแหง เลมที่ 33 59
ไมเหมาะสมที่จะนํามาใชในการเกษตร การกําหนดแนวเขตพื้นที่ปากระทําไมชัดเจน หรือไมกระทําเลยในหลาย ๆ พื้นที่ ทําใหประชาชนเกิดความสับสนทั้งโดยเจตนาและ ไมเจตนา การจัดสรางสาธารณูปโภคของรัฐ เชน เขื่อน อางเก็บน้ํา เสนทางคมนาคม การสรางเขื่อนขวางลําน้ําจะทําใหพื้นที่เก็บน้ําหนาเขื่อนที่อุดมสมบูรณถูกตัดโคนมา ใชประโยชน สวนตนไมขนาดเล็กหรือที่ทําการยายออกมาไมทันก็จะถูกน้ําทวม ตอมาจึงเกิดปญหาน้ําเนาไหลลงลําน้ํา ไฟไหมปา การทําเหมืองแรซึ่งมีความจําเปน ที่จะตองเปดหนาดินกอนจึงทําใหปาไมที่ขึ้นปกคลุมถูกทําลายลง สวนเสนทางขนยาย แรในบางครั้งตองทําลายปาไมลงเปนจํานวนมากเพื่อสรางถนนหนทาง และการ ระเบิดหนาดินเพื่อใหไดมาซึ่งแรธาตุ สาเหตุดังกลาวนี้สงผลถึงการทําลายปา ทําให เกิดความไมสมดุลทางภาวะแวดลอมขึ้นจนถึงขั้นเปนอันตรายตอชีวิตและทรัพยสิน จากอุทกภัยภาคใตที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2531 โดยเฉพาะที่ ตําบลกระทูน อําเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช และวาตภัยจากพายุเกยที่จังหวัด ชุมพร เมื่อ พ.ศ.2532 เปนสาเหตุที่ทําใหวันที่ 14 มกราคม พ.ศ.2532 พระบาทสมเด็จ พระเจาอยูหัวทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชกําหนดแกไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ปาไม พ.ศ.2484 และพระราชกําหนดแกไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.อุทยานแหงชาติ พ.ศ.2504 พระราชกําหนดดังกลาวไดใหอํานาจรัฐมนตรีวาการกระทรวงเกษตรและสหกรณ โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีมีอํานาจสั่งการใหสัมปทานปาไมสิ้นสุดลงทั้ง แปลงได ดังนั้นการจัดวางโครงการทําไมทั่วประเทศตองยุติลงทุกโครงการและพื้นที่ และกระทรวงเกษตรและสหกรณพิจารณาแลวเห็นวา ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นเปนสวน หนึ่งมาจากสาเหตุการลักลอบตัดไมทําลายปา ดังนั้นในการแกไขปญหาการลักลอบ ตัดไมทําลายปาจึงจําเปนตองทําการรณรงคอยางตอเนื่องและระยะยาว ใหประชาชน ไดเขาใจและใหความสําคัญกับการอนุรักษทรัพยากรปาไม และทําใหเกิดความ ตระหนักตออันตรายซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการตัดไมทําลายปาใหได โดยสรางจิตสํานึก ใหกับประชาชนเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดไมทําลายปา เพื่อตองการ 60 วิทยาศาสตรเพื่อประชาชน
- Page 24 and 25: ตําลึง ผักริ
- Page 26 and 27: ผล: แกฝแดงทั้
- Page 28 and 29: โรคนิ้วล็อค
- Page 30 and 31: ได ถาใชมือมา
- Page 32 and 33: กินแลวสวย แน
- Page 34 and 35: ยังมีธาตุเห
- Page 36 and 37: กิ้งกือมังก
- Page 38 and 39: (สปชีส) สําหร
- Page 40 and 41: พระบาทสมเด็
- Page 42 and 43: กลาวคือ โปรด
- Page 44 and 45: เรื่องนารูเ
- Page 46 and 47: ภาวะเปนพิษอ
- Page 48 and 49: การแพรระบาด
- Page 50 and 51: จากที่เลามา
- Page 52 and 53: คนเดียวกันค
- Page 54 and 55: ประมวลและกล
- Page 56 and 57: ในเลือดใหอย
- Page 58 and 59: แหลงอางอิง ก
- Page 60 and 61: สถานที่ซึ่ง
- Page 62 and 63: แหลงอางอิง ป
- Page 64 and 65: สนใจ และพื้น
- Page 66 and 67: http://www.expert2you.com/view_arti
- Page 68 and 69: ไมคอยมีผลขา
- Page 70 and 71: สรางแรงบันด
- Page 72 and 73: สาเหตุ มาจาก
- Page 76 and 77: อนุรักษปาไม
- Page 78 and 79: ไฮโดรเจน : พล
- Page 80 and 81: รีแอกเตอร โด
- Page 82 and 83: ความรูเรื่อ
- Page 84 and 85: ออกแบบผลิตภ
- Page 86 and 87: ไมมีทางรักษ
- Page 88 and 89: ทางเพศเพราะ
- Page 90 and 91: * ภาชนะที่ใชต
- Page 92 and 93: แหลงอางอิง บ
- Page 94 and 95: ผิดปกติและห
- Page 96 and 97: แหลงอางอิง ก
- Page 98 and 99: จึงมีความเส
- Page 100 and 101: แหลงอางอิง ย
- Page 102 and 103: สวนผสมในอาห
- Page 104 and 105: กรวี จิตวิสุ
- Page 106 and 107: ซึ่งโฟมทําใ
- Page 108 and 109: “Biodegradable package” 2544
- Page 110 and 111: ควบคุมดาวเท
- Page 112 and 113: http://www.thaigmap.com/article/gps
- Page 114 and 115: และเมื่อเปน
- Page 116 and 117: แหลงอางอิง ข
- Page 118 and 119: ในอดีตมีการ
- Page 120 and 121: แหลงอางอิง ส
- Page 122 and 123: และจากงานวิ
14 มกราคม :<br />
วันอนุรักษทรัพยากรปาไมแหงชาติ<br />
กรองจันทร รัตนประดิษฐ<br />
ปาไมเปนทรัพยากรที่สําคัญของชาติ ใหประโยชนทั้งทางตรงและทางออม<br />
แกประชาชน มีความสําคัญทั้งตอระบบนิเวศวิทยา ชวยปองกันการชะลางพังทลาย<br />
ของดินทําใหดินอุดมสมบูรณ เปนตนน้ําลําธาร รวมถึงเปนที่อยูอาศัยของสัตวปา มี<br />
ความสําคัญดานเศรษฐกิจเนื่องจากทําใหเกิดผลผลิตที่นํามาใชประโยชนตอมนุษย<br />
ไดอยางมากมาย มีความสําคัญดานนันทนาการในการเปนแหลงพักผอนหยอนใจ<br />
ของมนุษย เปนแหลงศึกษาธรรมชาติวิทยา นอกจากนี้ปาไมยังชวยรักษาความสมดุล<br />
ของภาวะแวดลอมและปองกันภัยธรรมชาติ ซึ่งนําความเสียหายอยางรายแรงแกชีวิต<br />
และทรัพยสินของประชาชน<br />
สาเหตุสําคัญของการลดลงของพื้นที่ปาเกิดจากการลักลอบตัดไมทําลายปา<br />
ปริมาณปาไมที่ถูกทําลายนี้นับวันจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามอัตราเพิ่มของจํานวนประชากร<br />
ยิ่งมีประชากรเพิ่มขึ้นเทาใดความตองการในการใชไมก็เพิ่มมากขึ้นตาม เมื่อ<br />
ประชากรเพิ่มสูงขึ้นความตองการใชที่ดินเพื่อปลูกสรางที่อยูอาศัยและที่ดินทํากิน<br />
ก็สูงขึ้น เปนผลผลักดันใหประชาชนเขาไปบุกรุกพื้นที่ปาไม หรือเผาปาทําไรเลื่อน<br />
ลอย นอกจากนี้ยังมีนายทุนที่ดินเขาไปทําลายปาเพื่อจับจองที่ดินไวขายตอไป การ<br />
สงเสริมการปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตวเศรษฐกิจเพื่อการสงออก เชน มันสําปะหลัง ปอ<br />
เปนตน โดยไมสงเสริมการใชที่ดินอยางเต็มประสิทธิภาพทั้ง ๆ ที่พื้นที่ปาบางแหง<br />
เลมที่ <strong>33</strong> 59