12.07.2015 Views

pcx150

pcx150

pcx150

SHOW MORE
SHOW LESS

Create successful ePaper yourself

Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.

ส่วนงานศูนย์ฝึ กอบรมด้านงานขายและเทคนิคบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จํากัด 149 ถนนรถรางเก่า สําโรงใต้ พระประแดง สมุทรปราการ 10130 โทร 0-2757- 611193 KZYA T1 AP


ค ำน ำคู่มือประกอบการอบรมรถจักรยานยนต์ฮอนด้ารุ่น PCX150 (Version 3)นี ้ จัดท าขึ ้น เพื่อให้นายช่างประจ าศูนย์บริการรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทุกท่าน รวมทั ้งผู้สนใจทั่วไป ได้ศึกษาเรียนรู้ถึงกระบวนการท างานของเครื่องยนต์ในระบบฟังก์ชั่นต่างๆ เช่น จุดเด่นของระบบ eSP (enhanced Smart Power) ที่เป็ นขุมพลังแห่งความแรงของรถรุ่นนี ้ โดยมีองค์ประกอบไปด้วย เทคโนโลยีลดแรงเสียดทาน, ประสิทธิภาพการเผาไหม้เป็ นเยี่ยม, ประสิทธิภาพการส่งก าลังป็ นเลิศ, ระบบหัวฉีด PGM FI, ระบบระบายความร้อนแบบบิวท์อิน และระบบสตาร์ทเงียบ (Alternator / Starter) ส่งผลท าให้เครื่องยนต์ แรงขึ ้น ประหยัดขึ ้นสตาร์ทเงียบ เครื่องยนต์เดินเรียบ ทนทาน และท าให้ไอเสียสะอาดเป็ นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็ นต้นดังนั ้น คณะผู้จัดท าหวังเป็ นอย่างยิ่งว่าคู่มือประกอบการอบรมเล่มนี ้จะเป็ นประโยชน์กับนายช่างและผู้ที่ให้ความสนใจทั่วไป หรือผู้ที่เริ่มต้นศึกษาถึงกระบวนการท างานของเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด PGM-FIทุกคนส่วนงานศูนย์ฝึ กอบรมด้านงานขายและเทคนิคบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จ ากัด ข้อมูลต่างๆภาพรายละเอียดและค่ามาตรฐานที่จัดพิมพ์ขึ ้นมาในคู่มือเล่มนี ้ น ามาจากการผลิตครั ้งล่าสุดการเปลี่ยนแปลงใดๆที่เกิดขึ ้นภายหลัง ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ ์ ในการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า การคัดลอกภาพรายละเอียด หรือข้อความใดๆ จากหนังสือเล่มนี ้ ควรขออนุญาตเป็ นลายลักษณ์อักษรก่อนการด าเนินการ


สารบัญรายละเอียดทั่วไป 1-2การรับประกันคุณภาพ, ต าแหน่งหมายเลขตัวถังและหมายเลขเครื่องยนต์ 3การตรวจเช็คสภาพรถจักรยานยนต์ก่อนการส่งมอบ (P.D.I) 4-7จุดเด่นของ eSP (enhanced Smart Power) 8-13อัลเตอร์เนเตอร์ / สตาร์ทเตอร์ 14-17ระบบสัญญาณกันขโมย (Anti Thief Alarm System) 18-23ระบบหยุดการท างานของเครื่องยนต์ในรอบเดินเบา (Idling Stop System) 24-29ระบบควบคุมการปล่อยไอระเหยน ้ามันเชื ้อเพลิง 30-32ระบบควบคุมไอเสีย (Emission Control System) 33การบ ารุงรักษาไส้กรองน ้ามันเชื ้อเพลิง 34-36การปรับตั ้งระยะห่างวาล์ว 37-38ระบบจ่ายน ้ามันเชื ้อเพลิงแบบหัวฉีด PGM - FI 39-50การเรียกดูข้อมูลปัญหา / การลบข้อมูลในหน่วยความจ า 51-52การปรับตั ้งตัวตรวจจับต าแหน่งลิ้นเร่ง 53-54ระบบการตรวจสอบความผิดปกติ 55-56ระบบควบคุมอิเลกทรอนิกส์ PGM - FI 57ตารางแสดงรหัสปัญหา PCX150 58-59เปรียบเทียบอุปกรณ์จักรยานยนต์รุ่น PCX125 กับ PCX150 60-64PGM-FI SYSTEM DIAGRAM 65วงจรสตาร์ท , วงจรไฟชาร์จ , วงจรไฟฟ้ าทั ้งคัน 66-68


รายละเอียดทั่วไป รุ ่น PCX150หัวข้อรายการขนาด,มิติ ความยาวตัวรถ1,917 มม.ความกว้างตัวรถ 738 มม.ค่ามาตรฐานความสูงตัวรถ 1,094 มม.ระยะห่างล้อหน้า - ล้อหลัง 1,315 มม.ความสูงของเบาะนั่ง 761 มม.ความสูงของพักเท้า 260 มม.ระยะห่างจากพื ้น 140 มม.น ้าหนักรถ 129 กก.ตัวถัง แบบตัวถัง อันเดอร์โบน ( Under bone type )ระบบกันสะเทือนหน้า / ระยะยุบ แบบเทเลสโคปิ ค / 89 มม.ระบบกันสะเทือนหลัง / ระยะยุบ แบบยูนิตสวิง / 79 มม.ขนาดยางหน้า 90/90 - 14M/C 46Pขนาดยางหลัง 100/90 - 14M/C 57Pยี่ห้อของยางหน้า SS-560F (IRC) , TT900F (DUNLOP)ยี่ห้อของยางหลัง SS-560R (IRC) , TT900A (DUNLOP)เบรคหน้า แบบดิสก์เบรค / ไฮดรอลิคเบรคหลัง แบบดรัมเบรคมุมแคสเตอร์ / ระยะเทรล 27° 00' / 86 มม.ความจุถังน ้ามันเชื ้อเพลิง 5.9 ลิตรเครื่องยนต์ กระบอกสูบ x ระยะชัก 58 x 57.9 มม.ปริมาตรกระบอกสูบ 152.9 ลูกบาศก์เซนติเมตรอัตราส่วนการอัด 10.6:1จ านวนวาล์วและระบบขับเคลื่อนวาล์ว 2 วาล์ว ใช้โซ่ขับเคลื่อนเพลาลูกเบี ้ยวเดี่ยว SOHCวาล์วไอดี เปิ ด ที่ 1 มม. (0.04 นิ้ว) ยกขึ ้น 5° ก่อนศูนย์ตายบนปิ ด ที่ 1 มม. (0.04 นิ้ว) ยกขึ ้น 35° หลังศูนย์ตายล่างวาล์วไอเสีย เปิ ด ที่ 1 มม. (0.04 นิ้ว) ยกขึ ้น 30° ก่อนศูนย์ตายล่างปิ ด ที่ 1 มม. (0.04 นิ้ว) ยกขึ ้น 0° ศูนย์ตายบนระยะห่าง วาล์วไอดี 0.10 + 0.02 มม. ( 0.006 + 0.001 นิ้ว )วาล์วไอเสีย 0.24 + 0.02 มม. ( 0.006 + 0.001 นิ้ว )1


รายละเอียดทั่วไป รุ ่น PCX150หัวข้อเครื่องยนต์ ระบบหล่อลื่นรายการค่ามาตรฐานใช้แรงดัน / แบบอ่างเปี ยกปั๊มน ้ามันเครื่อง แบบหมุนความจุน ้ามันเครื่อง หลังเปลี่ยนถ่าย 0.8 ลิตร ( 800 ซี.ซี. )หลังประกอบเครื่องยนต์ 0.9 ลิตร ( 900 ซี.ซี. )ข้อแนะน าในการใช้น ้ามันเครื่อง JASO T 903 : MB , Viscosity : SAE 10W - 30ระบบระบายความร้อน ระบายความร้อนด้วยน ้าไส้กรองอากาศ แบบกระดาษเปี ยก (วิสกัส)น ้าหนักเครื่องยนต์ขณะยังไม่เติมน ้ามัน 30.1 กิโลกรัมระบบจ่าย ระบบจ่ายน ้ามันเชื ้อเพลิง PGM-FI (Programmed Fuel Injection)น ้ามัน ขนาดคอคอด 26 มม.เชื้อเพลิง ปั๊มแรงดันสูง แบบใบพัด (Turbine)อัตราการไหล (ที่แรงดันไฟฟ้ า 12โวลต์) ต ่าสุด 98 ลูกบาศก์เซนติเมตร / 10 วินาทีความต้านทานของหัวฉีด 9-12 โอห์ม ที่ 20 o C / 68 o Fตัวควบคุมแรงดัน 294 kPa (43 psi)ความเร็วรอบเดินเบา 1,700 ± 100 รอบ/นาทีระบบ ระบบส่งก าลัง สายพาน วี - เมติกส์ส่งก าลัง ระบบการท างานของคลัทช์ แรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลางอัตโนมัติ, แบบแห้งอัตราทดสายพานขับเคลื่อน 2.45 : 1 - 0.81 : 1อัตราทดขั ้นสุดท้าย 10.552 ( 53 /17 x 44/13 )ความจุน ้ามันเฟื องท้าย หลังเปลี่ยนถ่าย 120 ซี.ซี.หลังถอด-ประกอบ 140 ซี.ซี.ข้อแนะน าในการใช้น ้ามันเฟื องท้าย JASO T 903 : MB , Viscosity : SAE 10W - 30ระบบไฟฟ้ า ระบบจุดระเบิด ทรานซิสเตอร์ เต็มรูปแบบหัวเทียน (STD) CPR7EA – 9 (NGK)ระยะห่างเขี ้ยวหัวเทียน 0.80 - 0.90 มม.ระบบสตาร์ท สตาร์ทไฟฟ้ าระบบไฟชาร์ท สามเฟสจากอัลเตอร์เนเตอร์ระบบแสงสว่าง แบตเตอรี่แบตเตอรี่ /ความจุ 12 V - 5 Ah (10 ชั่วโมง)ฟิ วส์หลัก / ฟิ วส์รอง 10 A x 1, 20 A x 1 / 10 A x 42


การรับประกันคุณภาพรถจักรยานยนต์ฮอนด้ารุ่น PCX150 รับสิทธิ ์ การรับประกันคุณภาพเป็ นระยะเวลา 3 ปี หรือ 30,000 กม.แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน และชิ้นส่วนของระบบหัวฉีดรับประกันคุณภาพเป็ นระยะเวลา 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตรแล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อนได้แก่ ปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิง(ไม่รวมลูกลอยน ้ามันเชื ้อเพลิง), หัวฉีด, เรือนลิ้นเร่ง, กล่องECMชุดตัวตรวจจับสัญญาณ, ตัวตรวจจับอุณหภูมิน ้าหล่อเย็นของเครื่องยนต์, ตัวตรวจจับปริมาณออกซิเจนกรณีรถมีปัญหาทางด้านคุณภาพ อันเนื่องมาจากกรรมวิธีทางการผลิตไม่ดีหรือวัสดุไม่ได้คุณภาพภายใต้การใช้งานและบ ารุงรักษาที่ถูกต้องตามที่ก าหนดไว้ในคู่มือผู้ใช้รถผู้ใช้รถสามารถใช้สิทธิ ์ ในการรับประกัน ณ ร้านผู้จ าหน่ายและศูนย์บริการที่ได้รับการแต่งตั ้งจาก บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จ ากัด ทุกแห่งทั่วประเทศ โดยทางร้านจะท าการแก้ไข ปรับแต่ง หรือเปลี่ยนชิ้นส่วนอะไหล่ที่มีความบกพร่องนั ้นโดยไม่คิดราคาค่าอะไหล่และค่าแรงศูนย์จ าหน่ายและบริการฮอนด้าโทรปรึกษาปัญหาการซ่อมต าแหน่งหมายเลขตัวถังและหมายเลขเครื่องยนต์หมายเลขตัวถังของรถรุ่น PCX150 หมายเลขเครื่องยนต์ของรถรุ่น PCX150อยู่ด้านท้ายของตัวถังใต้เบาะนั่ง อยู่แคร้งด้านล่างซ้ายใต้ฝาครอบห้องสายพาน3


การตรวจเช็คสภาพรถจักรยานยนต์ก่อนการส่งมอบP.D.I. ( Pre-delivery inspection ) หมายถึง การตรวจเช็คสภาพรถจักรยานยนต์ก่อนการส่งมอบให้กับลูกค้า โดยสามารถตรวจเช็คตามรายการในคู่มือรับประกัน มีรายละเอียดดังนี ้ตรวจสอบสภาพภายนอกตรวจการประกอบภายนอกสี, สนิม, รอยขีดข่วน, เสียงสั่นดังของชุดพลาสติก การแตกร้าวของชิ้นส่วนต่างๆ รอบคันตรวจการท างานของ Shutter Key, การล๊อคคอ, การเปิ ดเบาะ, กุญแจสามารถใช้งานได้ทุกดอกฝาถังน ้ามันเชื ้อเพลิง เปิ ด-ปิ ด ได้ปกติ ไม่มีคราบสนิมบริเวณภายในปากถังน ้ามันเชื ้อเพลิงการตรวจสภาพของเครื่องยนต์สภาพภายนอกของแบตเตอรี่ตรงตามที่คู่มือระบุไว้ (YTZ6V ) มีสภาพปกติไม่แตกร้าวพร้อมวัดแรงเคลื่อนได้ค่าเท่าไรลงบันทึกในสมุดรับประกันคุณภาพ (Voltage ต้องไม่ต ่ากว่า 12.4 V.)ตรวจสภาพภายนอก ตรวจสอบแรงเคลื่อนไฟฟ้ า ประกอบแบตเตอรี่หมายเหตุ : แบตเตอรี่ (รถใหม่) ก่อนใช้งานต้องน าไปชาร์จอย่างน้อย 30 นาที เพื่อยืดอายุการใช้งานได้ยาวนาน4


้ตรวจสอบสายไฟ ท่อยางต่างๆ, การรั่วซึมของน ้ามันหล่อลื่น, ระดับน ้ามันเครื่อง, ระดับน ้ามันเบรค, ระดับน ้ามันเฟื องท้ายช่องตรวจระดับน ้ามันเบรคระดับน ้าหล่อเย็นระดับน ้ามันเครื่องระดับน ้ามันเบรคการท างานของเครื่องยนต์สตาร์ทเครื่องยนต์ อุ่นเครื่องยนต์ให้ถึงอุณหภูมิท างานแล้วใช้เครื่องวัดรอบ (เทคโคมิเตอร์) ตรวจวัดรอบเดินเบา เปรียบเทียบกับค่ามาตรฐาน (1,700 ± 100 รอบ/นาที) แล้วบันทึกค่าในสมุดรับประกันฯระบบไฟแสงสว่าง และไฟสัญญาณไฟส่องหน้าปัด ไฟหน้า,ไฟสูง,ไฟต ่า,ไฟเลี ้ยวซ้าย-ขวา,ไฟท้าย,ไฟเบรค, ไฟส่องป้ าย,ไฟเตือนไฟสูง,ไฟเตือนไฟเลี ้ยวระบบแตร, การท างานของมาตรวัดความเร็ว, มาตรวัดระยะทาง, การท างานของเกจวัดระดับน ้ามันเชื ้อเพลิงระบบรองรับและขับเคลื่อนตรวจสอบและเติมลมยางให้ได้ตามค่ามาตรฐานก าหนด ทั ้งล้อหน้าและล้อหลัง มีค่ามาตรฐานดังนีขับขี่คนเดียว ล้อหน้า 200 kPa, 29 psiล้อหลัง 225 kPa, 33 psiขับขี่มีผู้ซ้อนท้าย ล้อหน้า 200 kPa, 29 psiล้อหลัง 225 kPa, 33 psiตรวจเช็คอัตราการขันแน่นของน๊อตยึดเพลาล้อหน้า-หลังน๊อตยึดเพลาล้อหน้า 59 N-m (6.0 Kgf - m)น๊อตยึดเพลาล้อหลัง 118 N-m (12.0 Kgf - m)5


ตรวจสอบการยุบตัวของโช๊คอัพ หน้า-หลัง ตรวจสอบการรั่วซึมของโช๊คอัพ หน้า-หลังตรวจสอบระยะฟรีของคันเร่ง (ค่ามาตรฐาน : 2-6 มิลลิเมตร) และตรวจความคล่องตัวของคันเร่งค่ามาตรฐาน : 2-6 มิลลิเมตรอุปกรณ์อ ำนวยควำมสะดวกตรวจสอบไฟที่หน้าปัดเรือนไมล์ การท างานปกติ หลอดไฟแสดงการท างานของเครื่องยนต์ ติดและดับภายใน 2 วินาทีเมื่อเปิ ดสวิทช์ ตรวจสอบการท างานของเบรคล้อหน้า-หลัง, การท างานของคอมบายเบรคประกอบกระจกมองหลัง และปรับตั ้งกระจกมองหลังปรับมุมมองกระจกมองหลังให้เห็นชัดเจนโดยให้มองเห็นหัวไหล่ของผู้ขับขี่เล็กน้อยเป็ นเกณฑ์6


ตรวจเช็คเครื่องมือประจ ารถ12 3 4 51. สายสลิงร้อยหมวก2. ด้ามไขควง3.ไขควง แฉก+แบน4.ประแจปากตาย 10-145.บล๊อคหัวเทียนเขียนบันทึกและลงชื่อผู้ตรวจเช็ค รถจักรยานยนต์ก่อนส่งมอบ แนะน าข้อมูลการใช้รถและการบ ารุงรักษาฯ สมุดรับประกันคุณภาพ คู่มือการใช้รถ หลักพื ้นฐานการขับขี่ปลอดภัย 10 ประการ PDSA7


จุดเด่นของเครื่องยนต์ eSP ( enhanced Smart Power )องค์ประกอบของ eSPเทคโนโลยีลดแรงเสียดทานระบบสตาร์ทเงียบ AIternator/Starterประสิทธิภาพการเผาไหม้เป็ นเยี่ยมระบบระบายความร้อนด้วยน ้าแบบบิวท์อินระบบหัวฉีดPGM - FIประสิทธิภาพการส่งก าลังเป็ นเลิศผลที่ได้รับแรงขึ ้น ประหยัดขึ ้น สตาร์ทเงียบเครื่องยนต์เดินเรียบ ทนทาน ไอเสียสะอาดเทคโนโลยีลดแรงเสียดทาน ( Intelligent Low Friction )กระเดื่องวาล์วแบบโรลเลอร์ (Roller type rocker arm)ออกแบบพิเศษเพื่อให้ประหยัดพลังงานขณะท างาน โดยที่บริเวณหน้าสัมผัสของกระเดื่องวาล์วไอดี-ไอเสีย(มีโรลเลอร์) และที่สัมผัสแกนกระเดื่องวาล์วไอดี - ไอเสีย มีลูกปื นเข็มโรลเลอร์ลูกปื นเข็ม8


ปลอกเสื้อสูบ แบบมีผิวขรุขระ ( Spiny sleeve )เพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนให้ดียิ่งขึ ้นลดการบิดตัวภายในกระบอกสูบ ขณะที่เครื่องยนต์ท างานช่องทางระบายอากาศ ( Breather passage )ออกแบบให้มีช่องทางระบายอากาศ ( Breather) เพื่อลดแรงดันขณะที่ลูกสูบท างานเคลื่อนที่ขึ ้นลง ลดการสูญเสียน ้ามันเครื่อง จากการหมุนของชิ้นส่วนต่างๆเช่น เพลาข้อเหวี่ยง ปั๊มน ้ามัน โซ่ราวลิ้น เป็ นต้นสามารถลดแรงเสียดทานได้เพลาข้อเหวี่ยงแบบมีระยะอ๊อฟเซ็ต ( Offset cylinder)เพลาข้อเหวี่ยงแบบไม่มีระยะอ๊อฟเซ็ต ท าให้เกิดแรงเสียดทาน ระหว่างลูกสูบกับเสื ้อสูบมากเพลาข้อเหวี่ยงแบบมีระยะอ๊อฟเซ็ต จะลดแรงเสียดทานระหว่างลูกสูบกับเสื ้อสูบได้อย่างดี ท าให้มีอัตราเร่งตอบสนองดียิ่งขึ ้น9


ระบบส่งก าลัง ( Transmission system )ลูกปื น รองรับเพลาเกียร์ ทั ้ง 3 ชุดครีบเรือนชุดเฟืองท้ายเฟืองเฉียงใช้ลูกปื นที่ปลายเพลาเกียร์ทั ้ง 3 เพลา เพื่อให้การท างานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด และใช้เฟื องเฉียงในชุดเกียร์ท าให้เสียงลดลง , ออกแบบครีบที่เรือนชุดเฟื องท้ายให้มีรูปร่างเหมาะสมเพื่อระบายความร้อนให้มีประสิทธิภาพประสิทธิภาพการเผาไหม้ ( Combustion chamber )การออกแบบท่อไอดี และช่องไอเสีย (Cross section of intake and exhaust port shape)ทางฝ่ ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ฯฮอนด้าได้ออกแบบให้ไอดี สามารถไหลผ่านช่องพอร์ทไอดีได้อย่างรวดเร็วเพื่อตอบสนองต่อการบิดคันเร่งที่ความเร็วระดับกลางและต ่า10


พอร์ทไอดีที่เชื่อมต่อกับห้องเผาไหม้ออกแบบใหม่ให้มีรูปทรงสมูท ช่วยให้อากาศในพอร์ทไอดีไหลได้เร็วขึ ้น การตอบสนองต่อการบิดของคันเร่งจึงดีขึ ้น โดยเฉพาะที่ความเร็วระดับกลางและต ่าเซ็ตเวลาการจุดระเบิด เพิ่มความรวดเร็วในการเผาไหม้โดยอาศัยพื ้นที่ Squish ที่อยู่ตรงข้ามหัวเทียนช่วยให้น ้ามันเชื ้อเพลิงผสมกับอากาศแล้วไหลลื่นควบคู่กับการเพิ่ม Knocking resistanceช่องพอร์ทแบบธรรมดาช่องพอร์ทแบบใหม่ประสิทธิภาพการส่งก าลัง ( Transmission )ระบบวีเมติกส์ ( V - Matic )เปรียบเทียบครีบระบายความร้อนสายพานขับเคลื่อน ท าจากยางที่มีความยืดหยุ่นสูง ทนทาน ส่งก าลังขับเคลื่อนได้อย่างดีเยี่ยม พูลเลย์ขับท าจากอลูมิเนียมเฟสที่มีความเหนียวและแข็งสูงรองรับกับรูปทรงของครีบระบายความร้อนที่ติดตั ้งไว้ส่งผลให้ประสิทธิภาพการระบายความร้อนดียิ่งขึ ้น11


ระบบหัวฉีด PGM - FI ( Programmed Fuel injection system )องค์ประกอบส าคัญที่ขาดไม่ได้ส าหรับ เครื่องยนต์อัจฉริยะ eSP นั ้นคือระบบจ่ายน ้ามันแบบหัวฉีด PGM-FIเป็ นระบบจ่ายน ้ามันเชื ้อเพลิงที่มีสมองกล ซึ ่งเรียกว่า ECM ( Engine Control Module ) ค านวณปริมาณและจังหวะเวลาในการฉีดจ่ายน ้ามันอย่างเที่ยงตรงแม่นย ากว่าระบบคาร์บูเรเตอร์ เครื่องยนต์จึงท างานเต็มก าลังเผาไหม้หมดจด ท าให้สมรรถนะสูง อากาศสะอาด และประหยัดน ้ามันระบบระบายความร้อนด้วยน ้าแบบบิวท์อิน ( Built - in Liquid cooling system )ท่อทางน ้าผ่านมีประสิทธิภาพการระบายความร้อนสูง ขนาดกะทัดรัด น ้าหนักเบาหม้อน ้า ท าท่อทางน ้าผ่าน ( Core ) ที่มีประสิทธิภาพการระบายความร้อนสูงRibออกแบบทิศทางการไหลของลมใหม่ ให้ลมที่ผ่านหม้อน ้าแล้ว ไหลเคลื่อนที่ผ่านด้านหลังของเรือนเครื่องยนต์และต่อไปยังตอนหลังของเครื่องยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพออกแบบต าแหน่งปั๊มน ้ามันเครื่องและปั๊มน ้าใหม่ปั๊มน ้ามันเครื่อง ถูกติดตั ้งไว้ภายในเรือนเครื่องยนต์ส่วนปั๊มน ้าติดตั ้งไว้ด้านบนของเพลาลูกเบี ้ยวที่อยู่ข้างฝาสูบ ท าให้ขนาดกะทัดรัดขึ ้น12


ระบบ Alternator / Starterระบบนี ้เป็ นการรวมกันของระบบสตาร์ทและระบบไฟชาร์จเข้าไว้ด้วยกัน โดยเจนเนอเรเตอร์จะท าหน้าที่ทั ้งสองระบบฯ ซึ ่งมีข้อดีคือ ระบบไฟชาร์จจะมีประสิทธิภาพสูงกว่าระบบทั่วไป นอกจากนี ้ยังใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ที่สามารถค านวณสั่งการท างานของเครื่องยนต์ได้อย่างแม่นย า และติดเครื่องยนต์ด้วยเสียงที่นุ่มนวลชุดตัวตรวจจับสัญญาณฝาครอบเครื่องยนต์สกรูยึดจับชุดอัลเตอร์เนเตอร์ขดลวดสเตเตอร์โบ้ลท์ยึดจับชุดอัลเตอร์เนเตอร์13


อัลเตอร์เนเตอร์ / สตาร์ทเตอร์ (ALTERNATOR / STARTER)รถจักรยานยนต์รุ่นนี ้ ได้น าเอาระบบ ACG STARTER มาใช้ซึ ่งระบบนี ้ถูกออกแบบให้มีแรงเสียดทานน้อยที่สุด โดยการผสมผสานกันระหว่างระบบสตาร์ท และระบบผลิตกระแสไฟฟ้ ารวมเข้าไว้ด้วยกัน ซึ ่งจะติดตั ้งACG STARTER ที่ถูกพัฒนาขึ ้นมาใหม่นี ้ จะท าให้การสตาร์ทเป็ นไปอย่างนิ่มนวล และปราศจากเสียงขบของฟันเฟื อง เนื่องจากระบบจะใช้สนามแม่เหล็กเป็ นตัวขับเพลาข้อเหวี่ยงโดยตรงระบบจะอาศัยหลักการดูดและผลักดันระหว่างแม่เหล็ก 2 ชุดคือชุดแม่เหล็กถาวรที่ติดตั ้งอยู่ภายในล้อแม่เหล็ก ( FLYWHEEL ) และชุดที่สองเป็ นแม่เหล็กชั่วคราว ที่เกิดจากการสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้ า ของชุดขดลวดสเตเตอร์ ( STATOR COIL ) แบบ 3 เฟส โดยปราศจากแปรงถ่าน ( BRUSHLESS )โครงสร้างของ ALTERNATOR / STARTERแม่เหล็กถาวรชุดขดลวดเพลาข้อเหวี่ยงล้อแม่เหล็กการท างานขณะสตาร์ทเครื่องยนต์3211. ขณะสตาร์ทเครื่องยนต์กล่องควบคุม ( ECM ) จะปล่อยไฟฟ้ ากระแสสลับไปที่ชุดขดลวด เพื่อท าให้เกิดการสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้ าชั่วคราวขึ ้น ที่ชุดขดลวด ( STATOR COIL )2. ที่ล้อแม่เหล็ก ( FLYWHEEL ) จะมีแม่เหล็กถาวรติดตั ้งอยู่ ดังนั ้นจะเกิดการดูดและผลักดันกันระหว่างขั ้วแม่เหล็กทั ้งสอง ท าให้ล้อแม่เหล็กหมุนขับเพลาข้อเหวี่ยงให้หมุนตาม จึงสามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้14


ขณะเครื่องยนต์ท ำงำน ( ชำร์จไฟ )หลังจากสตาร์ทเครื่องยนต์ติดแล้ว ( ปล่อยปุ ่ มสตาร์ท ) กล่องควบคุม ( ECM ) จะยกเลิกการจ่ายแรงเคลื่อนไฟฟ้ าไปยังชุดขดลวด ดังนั ้นสนามแม่เหล็กไฟฟ้ าที่ชุดขดลวดจึงหมดไป121. เมื่อเครื่องยนต์สามารถสตาร์ทติดได้แล้ว เพลาข้อเหวี่ยงจะเป็ นตัวขับล้อแม่เหล็ก2. สนามแม่เหล็กถาวร ที่ติดตั ้งอยู่ภายในล้อแม่เหล็กหมุนตัดกับชุดขดลวด ( STATOR COIL )จะท าให้เกิดกระแสไฟฟ้ าขึ ้น3. กระแสไฟฟ้ าที่เกิดขึ ้นจะเป็ นไฟฟ้ ากระแสสลับ แบบ 3 เฟส ส่งไปยังเรคกูเลเตอร์ / เรคติไฟเออร์ ที่อยู่ภายในกล่องควบคุม ( ECM ) เพื่อชาร์จไฟเข้าไปเก็บในแบตเตอรี่ ( BATTERY ) และเลี ้ยงระบบไฟฟ้ าทั ้งหมดภายในรถจักรยานยนต์ ขณะที่เครื่องยนต์ท างานกระบวนกำรเพิ่มและลดเส้นแรงแม่เหล็ก3แม่เหล็กถาวรถูกฝังอยู่ที่ ROTOR CORE ในล้อแม่เหล็ก มีหน้าที่เพิ่มและลดเส้นแรงแม่เหล็ก ดังนั ้นขณะสตาร์ทเครื่องยนต์จะเป็ นการเพิ่มแรงดูด และผลักดัน ส่วนขณะชาร์จจะเป็ นการลดเส้นแรงแม่เหล็กROTOR CORESTATOR COREรูปแสดง ขณะชุดขดลวดท าหน้าที่เป็ นมอเตอร์สตาร์ท15


ROTOR CORE ติดตั ้งอยู่วงด้านในล้อแม่เหล็ก ภายในจะมีแม่เหล็กถาวรฝังอยู่ ท าหน้าที่เป็ นแกนสนามแม่เหล็กถาวร จะท างานเมื่อล้อแม่เหล็กหมุนตัดกับขดลวดSTATOR CORE ยึดติดอยู่บริเวณเรือนเครื่องยนต์ด้านขวา มีชุดขดลวดพันอยู่โดยรอบสเตเตอร์คอยล์ท าหน้าที่เป็ นแกนสนามแม่เหล็กชั่วคราวเมื่อมีการปล่อยให้กระแสไฟฟ้ าไหลผ่านสนามแม่เหล็กทั ้งสองชุดนี ้จะมีขั ้วแม่เหล็กที่ต่างกันท าให้เกิดการดูด และผลักดันซึ ่งกันและกัน จะมีมากหรือน้อยขึ ้นอยู่กับสนามแม่เหล็กชั่วคราวที่สร้างขึ ้น แรงผลักดันที่เกิดขึ ้นนี ้จะไปท าให้เพลาข้อเหวี่ยงเกิดการเคลื่อนที่ในขณะสตาร์ทROTOR CORESTATOR COREรูปแสดง ขณะที่ชุดขดลวดท าหน้าที่เป็ นเครื่องก าเนิดไฟฟ้ าเมื่อเครื่องยนต์เริ่มท างาน กล่องควบคุม จะยกเลิกการจ่ายไฟฟ้ าไปที่ชุดขดลวด ดังนั ้นสนามแม่เหล็กชั่วคราวที่ถูกสร้างขึ ้นจะหมดไปแรงดูด และผลักดันที่ชุดขดลวด ( STATOR COIL ) ที่มีล้อแม่เหล็ก ก็จะลดน้อยลง ท าให้เครื่องยนต์สูญเสียก าลังงานน้อยที่สุดการหาต าแหน่งศูนย์ตายบน (TDC)CKP SENSOR ติดตั ้งเป็ นชุดเดียวกันกับชุดขดลวด ( STATOR COIL ) ท าหน้าที่เป็ นตัวตรวจจับความเร็วรอบของเครื่องยนต์ และองศาของเพลาข้อเหวี่ยง โดยช่องระหว่างชุดขดลวด จะมี HOLE IC อยู่ 4 ตัว คือ W,VU และ PCBเมื่อล้อแม่เหล็กหมุนตัดกับชุดขดลวด ( STATOR COIL ) จะเกิดกระแสไฟฟ้ าขึ ้น ( ตามภาพด้านล่าง )ขณะที่ คลื่นไฟฟ้ า PCB กระแสไฟเป็ น UP และ W ก็เป็ น UP ด้วย กล่องควบคุม ( ECM ) จะรับสัญญาณเป็ นTDC ซึ ่งจากภาพเกิดขึ ้นอยู่ 2 ช่วงคือ ศูนย์องศา กับ 360 องศา16


ระบบสัญญาณกันขโมย (ANTI THIEF ALARM SYSTEM )ในรุ่นนี ้ได้ติดตั ้งระบบสัญญาณกันขโมย (ANTI THIEF ALARM SYSTEM ) ที่ควบคุมการสั่งงานด้วยรีโมทคอนโทรล ซึ ่งระบบฯ จะท างานโดยการจับการเคลื่อนที่ของตัวรถส่วนประกอบของระบบ1. รีโมทคอนโทรล ( REMOTE CONTROL SWITCH )2. เรือนไมล์ ( SPEEDO METER )3. หลอดไฟแสดงการท างาน ( ALARM INDICATOR )4. สวิทช์ ( SWITCH )5. สวิทช์จุดระเบิด ( IGNITION SWITCH )6. รีเลย์ตอบรับค าสั่ง ( ANSWER BACK RELAY )7. ไดโอด ( DIODE )รีโมทคอนโทรลสวิทช์เรือนไมล์หลอดไฟแสดงการท างานรีเลย์ตอบรับค าสั่งไดโอดสวิทช์จุดระเบิด18


1. รีโมทคอนโทรล ( REMOTE CONTROL SWITCH )ท าหน้าที่เป็ นตัวส่งสัญญาณ ควบคุมการเปิ ด-ปิ ดระบบสัญญาณกันขโมยไม่เกิน 20 เมตร1.1 กดปุ ่ ม " SET " เมื่อต้องการเปิ ดให้ระบบสัญญาณกันขโมยท างาน1.2 กดปุ ่ ม " UNSET " เมื่อต้องการยกเลิกระบบสัญญาณกันขโมย1.3 ระยะการสั่งงานไม่เกิน 20 เมตร2. เรือนไมล์ ( SPEEDO METER )อุปกรณ์ระบบสัญญาณกันขโมย จะถูกติดตั ้งอยู่ภายในชุดเรือนไมล์ มีส่วนประกอบดังนี ้2.1 ตัวรับสัญญาณ ( RF RECEIVER ) ท าหน้าที่เป็ นตัวรับสัญญาณการสั่งงานจากรีโมทคอนโทรล2.2 สัญญาณเสียง ( BUZZER ) ท าหน้าที่ส่งสัญญาณเสียงเตือน2.3 ตัวตรวจจับการเคลื่อนที่ ( G SENSOR ) ท าหน้าที่ตรวจจับการเคลื่อนที่ของตัวรถSPEEDO METERRF RECEIVERBUZZERG SENSOR19


3. หลอดไฟแสดงการท างาน ( ALARM INDICATOR )หลอดไฟแสดงการท างานของระบบสัญญาณกันขโมย ติดตั ้งอยู่ที่เรือนไมล์ ท าหน้าที่ แสดงการท างานของระบบฯ โดยจะกะพริบทุกๆ 1 วินาทีหลอดไฟแสดงการท างาน4. สวิทช์ที่เรือนไมล์ ( SWITCH )ติดตั ้งอยู่บนหน้าปัดเรือนไมล์ ท าหน้าที่เปิ ดระบบสัญญาณกันขโมยจากตัวรถ โดยกดปุ ่ มค้างไว้ 2 วินาที( สวิทช์จุดระเบิดต้องอยู่ที่ต าแหน่ง " OFF " หรือถอดกุญแจออก )สวิทช์หมายเหตุ สวิทช์จุดระเบิด " ON " กดสวิทช์ จะเป็ นการปรับมาตรวัดระยะทาง ( TRIP )20


5. สวิทช์จุดระเบิด ( IGNITION SWITCH )ท าหน้าที่เปิ ด - ปิ ดวงจรจุดระเบิด และสามารถยกเลิกระบบสัญญาณกันขโมยได้ โดยการเปิ ดสวิทช์กุญแจไปที่ต าแหน่ง " ON " ระบบสัญญาณกันขโมยจะถูกยกเลิกในทันทีสวิทช์จุดระเบิดหมายเหตุ 1. ระบบสัญญาณกันขโมย จะไม่ท างาน เมื่อสวิทช์จุดระเบิดอยู่ในต าแหน่ง " ON "2. ระบบสัญญาณกันขโมย จะท างานได้ต่อเนื่อง 10 วัน หลังจากเปิ ดใช้งาน6. รีเลย์ตอบรับค าสั่ง ( ANSWER BACK RELAY )ติดตั ้งอยู่บริเวณ ใต้ฝาครอบเรือนไมล์ด้านหน้ารถ ท าหน้าที่ ตอบรับค าสั่งเปิ ด-ปิ ด ระบบสัญญาณกันขโมยโดยการแจ้งเตือนไปที่ระบบสัญญาณไฟเลี ้ยวANSWER BACKRELAY21


7. ไดโอด ( DIODE )เลี ้ยวซ้ายหรือขวาติดตั ้งอยู่บริเวณคอรถด้านขวา ท าหน้าที่ป้ องกันไฟไหลย้อนกลับ ในวงจรไฟเลี ้ยวในขณะเปิ ดสัญญาณไฟไดโอดการใช้งาน1. เมื่อปิ ดสวิทช์จุดระเบิด2. กดปุ ่ ม " SET " ที่รีโมทคอนโทรลหนึ ่งครั ้ง หรือกดปุ ่ ม " SWITCH " ที่เรือนไมล์ค้างไว้ 2 วินาทีSETSWITCHระบบสัญญาณกันขโมยจะเริ่มท างาน โดย ANSWER BACK RELAY จะแสดงผลให้ทราบทางสัญญาณไฟเลี ้ยว กะพริบ 1 ครั ้งพร้อมสัญญาณเสียง หลังจากนั ้นอีก 1 วินาที ALARM INDICATOR จะกะพริบพร้อมสัญญาณเสียง และALARM INDICATOR จะกะพริบทุกๆ 1 วินาที ที่ระบบท างาน22


เมื่อตัวตรวจจับการเคลื่อนที่ของรถ ( G SENSOR ) ตรวจพบการเคลื่อนที่หรือการสั่นสะเทือน (ระยะสั ้นๆ )สัญญาณเสียงและสัญญาณไฟเลี ้ยว จะท างานเป็ นเวลา 10 วินาทีสัญญาณไฟเลี ้ยว จะท างานเป็ นเวลา 60 วินาที และระบบจะท างานอย่างต่อเนื่องเมื่อตรวจพบการเคลื่อนที่หรือการสั่นสะเทือนของรถถ้าตัวตรวจจับการเคลื่อนที่ของรถ ตรวจพบการเคลื่อนที่หรือการสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง สัญญาณเสียงและ3. เมื่อกดปุ ่ ม " UNSET " ที่รีโมทคอนโทรล หรือเปิ ดสวิทช์จุดระเบิด*ระบบสัญญาณกันขโมย จะยกเลิกการท างาน โดย ANSWER BACK RELAY จะแสดงผลให้ทราบโดยสัญญาณไฟเลี ้ยว พร้อมกับสัญญาณเสียง 2 ครั ้ง ติดต่อกัน เป็ นการยืนยันค าสั่งยกเลิกหมายเหตุ : กรณีเปิ ดสวิทช์จุดระเบิดจะไม่มีการแสดงผลผ่านสัญญาณไฟเลี้ยวและสัญญาณเสียง23


ระบบหยุดการท างานของเครื่องยนต์ในรอบเดินเบา(IDLING STOP SYSTEM)ระบบหยุดการท างานของเครื่องยนต์ในรอบเดินเบา ติดตั ้งเพื่อลดการสิ้นเปลืองน ้ามันเชื ้อเพลิง และลดการปล่อยก๊าซไอเสียสู่บรรยากาศโดยไม่จ าเป็ น คือระบบจะหยุดการท างานของเครื่องยนต์ เมื่อหยุดรถจักรยานยนต์ ชั่วขณะหรือระยะเวลาไม่นานมากนักเช่น การหยุดรถติดสัญญาณไฟแดง หรือจอดท าธุระช่วงเวลาสั ้นๆส่วนประกอบของระบบ1. สวิทช์ควบคุมการท างาน2. หลอดไฟแสดงการท างาน3. ตัวตรวจจับอุณหภูมิน ้าหล่อเย็น4. ตัวตรวจจับความเร็วของรถ5. ตัวตรวจจับต าแหน่งลิ้นเร่ง6. กล่องควบคุม ( ECM )หลอดไฟแสดงการท างานสวิทช์ควบคุมการท างานตัวตรวจจับต าแหน่งลิ้นเร่งกล่องควบคุม ( ECM )ตัวตรวจจับอุณหภูมิน ้าหล่อเย็นตัวตรวจจับความเร็วของรถรูปแสดง ส่วนประกอบระบบหยุดการท างานของเครื่องยนต์ในรอบเดินเบา ( IDLING STOP SYSTEM )24


1. สวิทช์ควบคุมการท างาน(IDLING STOP SWITCH)ติดตั ้งอยู่ที่สวิทช์แฮนด์ด้านขวา มีหน้าที่ควบคุมการเปิ ด - ปิ ด ของระบบหยุดการท างานของเครื่องยนต์ในรอบเดินเบา( IDLING STOP SYSTEM ) โดยผู้ขับขี่สามารถเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานได้ดังนี ้ต าแหน่ง " IDLING STOP " ( เปิ ดระบบหยุดการท างานของเครื่องยนต์ในรอบเดินเบา )ต าแหน่ง " IDLING " ( ปิ ดระบบ เครื่องยนต์จะเดินเบาต่อเนื่อง )" เปิ ด " ระบบ IDLING STOP SYSTEM " ปิ ด " ระบบ IDLING STOP SYSTEMรูปแสดง ต ำแหน่งกำร " เปิ ด - ปิ ด " ระบบ IDLING STOP SYSTEM2. หลอดไฟแสดงการท างาน(STAND BY INDICATOR)ติดตั ้งอยู่ที่หน้าปัดเรือนไมล์ มีหน้าที่แสดงให้ผู้ขับขี่ทราบว่าระบบหยุดการท างานของเครื่องยนต์ในรอบเดินเบา ท างานอยู่ โดยหลอดไฟ STAND BY จะกะพริบ และหลอดไฟหน้าจะหรี่ลงจากปกติ25


3. ตัวตรวจจับอุณหภูมิน ้ำหล่อเย็น(ECT : ENGINE COOLANT TEMPERATURE SENSOR)ติดตั ้งอยู่ที่ฝาสูบด้านขวา มีหน้าที่ตรวจจับอุณหภูมิของน ้าหล่อเย็น ( อุณหภูมิของเครื่องยนต์ ) แล้วส่งสัญญาณการตรวจจับนี ้ไปที่กล่องควบคุม( ECM )โดยระบบหยุดการท างานของเครื่องยนต์ในรอบเดินเบา จะท างานได้เมื่อเครื่องยนต์มีอุณหภูมิสูงกว่า 60 ๐ Cตัวตรวจจับอุณหภูมิน ้ำหล่อเย็น4. ตัวตรวจจับควำมเร็วของรถ(VS : VEHICLE SPEED SENSOR)ติดตั ้งอยู่เรือนชุดเฟื องท้าย มีหน้าที่ตรวจจับการหมุนของเฟื องแล้วส่งสัญญาณการหมุนออกไป 2 ทาง คือเรือนไมล์เพื่อแสดงความเร็วของรถและกล่องควบคุมเพื่อควบคุมระบบหยุดการท างานของเครื่องยนต์ในรอบเดินเบาโดยเริ่มต้นจากรถจักรยานยนต์จะต้องมีความเร็วมากกว่า 10 กม./ชม. และหยุดนิ่งเป็ นเวลา 3 วินาที ระบบหยุดการท างานของเครื่องยนต์ในรอบเดินเบา จึงจะท างาน26


5. ตัวตรวจจับต ำแหน่งลิ้นเร่ง(TP : THROTTLE POSITION SENSOR )ติดตั ้งอยู่ที่เรือนลิ้นเร่ง ( ชุดตัวตรวจจับ ) มีหน้าที่ตรวจจับการเปิ ด-ปิ ดของลิ้นเร่ง ถ้าลิ้นเร่งถูกตรวจสอบพบว่ามีการเคลื่อนที่ ระบบหยุดการท างานของเครื่องยนต์ในรอบเดินเบาจะไม่ท างานถ้าหากระบบหยุดการท างานของเครื่องยนต์ในรอบเดินเบา ท างานอยู่ เครื่องยนต์จะติดอีกครั ้ง เมื่อลิ้นเร่ง เปิ ดมากกว่า 1 องศา เพื่อเข้าสู่สภาวะการท างานปกติชุดตัวตรวจจับตัวตรวจจับต าแหน่งลิ้นเร่ง6. กล่องควบคุม ECM(ENGINE CONTROL MODULE)ติดตั ้งอยู่ที่โครงตัวถังด้านในหน้าถังน ้ามันเชื ้อเพลิง มีหน้าที่ควบคุมระบบหยุดการท างานของเครื่องยนต์ในรอบเดินเบา ( IDLING STOP SYSTEM ) ระบบสตาร์ท ( STARTER SYSTEM ) ระบบไฟชาร์จ ( CHARGESYSTEM ) ระบบจ่ายน ้ามันเชื ้อเพลิงแบบหัวฉีด ( PGM-FI ) ซึ ่งถือว่าเป็ นหัวใจของรถจักรยานยนต์รุ่นนี ้รูปแสดง กล่องควบคุม ( ECM ) และ เรคกูเลเตอร์ / เรคติไฟเออร์27


วงจรไฟฟ้ าระบบหยุดการท างานของเครื่องในรอบเดินเบา(SYSTEM DIAGRAM IDLING STOP SYSTEM)การท างานของระบบหยุดการท างานของเครื่องยนต์ในรอบเดินเบา( IDLING STOP SYSTEM )ระบบหยุดการท างานของเครื่องยนต์ในรอบเดินเบาใช้กล่องควบคุม ( ECM ) เป็ นศูนย์รวมการท างานของเครื่องยนต์ โดยรับสัญญาณจากตัวตรวจจับต่างๆ เพื่อประมวลผลการท างาน ขณะจอดรถซึ ่งเป็ นไปตามเงื่อนไขการท างาน และจะสั่งงานให้ อัลเตอร์เนเตอร์ / สตาร์ทเตอร์ ( ALTERNATOR / STARTER ) เพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์หลังจากบิดคันเร่ง โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องกดสวิทช์สตาร์ทเงื่อนไขการท างาน ระบบหยุดการท างานของเครื่องยนต์ในรอบเดินเบา มีดังนี้1. เปิ ดสวิทช์เลือก " IDLING STOP " ( เปิ ดระบบ )2. เครื่องยนต์มีอุณหภูมิท างาน หรือสูงกว่า 60 ๐ C3. รถจักรยานยนต์ต้องมีความเร็วเริ่มต้นมากกว่า 10 กม./ชม.4. รถจักรยานยนต์ต้องหยุดนิ่ง เป็ นเวลา 3 วินาที5. ผ่อนคันเร่งให้สุด28


ขณะหยุดรถจักรยานยนต์ ติดสัญญาณไฟแดงและอยู่ในเงื่อนไขระบบหยุดการท างานของเครื่องยนต์ในรอบเดินเบา เครื่องยนต์จะดับ โดยหลอดไฟแสดงการท างาน ( STAND BY INDICATOR ) จะกะพริบเพื่อให้ผู้ขับขี่ทราบว่า ระบบหยุดการท างานของเครื่องยนต์ในรอบเดินเบา ท างาน และไฟหน้าจะลดความสว่างลงเพื่อประหยัดไฟจากแบตเตอรี่รูปแสดง ขณะหยุดรถเมื่อต้องการขับขี่ ไม่ต้องสตาร์ทเครื่องยนต์ เพียงแต่บิดคันเร่ง ตัวตรวจจับต าแหน่งลิ้นเร่งจะส่งสัญญาณไปที่กล่องควบคุม ( ECM ) อัลเตอร์เนเตอร์/สตาร์ทเตอร์จะท างานพร้อมกับระบบจุดระเบิดท างาน เครื่องยนต์ก็จะติดหลอดไฟแสดงการท างาน ( STAND BY INDICATOR ) จะดับลง ไฟหน้าจะสว่างเป็ นปกติและเนื่องจากรถรุ่นPCX150 นี ้ไม่มีสวิทช์เบาะนั่ง เพราะฉะนั ้นหากสวิทช์แฮนด์ด้านขวาอยู่ในต าแหน่งต าแหน่ง " IDLING STOP " ( เปิ ดระบบหยุดการท างานของเครื่องยนต์ในรอบเดินเบา ) ระบบหยุดการท างานของเครื่องยนต์ในรอบเดินเบาก็จะท างานตามปกติแม้จะไม่มีผู้ขับขี่นั่งอยู่บนเบาะนั่งหมายเหตุรูปแสดง ขณะขับขี่ปกติการใช้ขาตั ้งข้างขณะจอดรถ ระบบหยุดการท างานของเครื่องยนต์ขณะเดินเบา จะไม่ท างานค าเตือน : ควรดับเครื่องยนต์ และล็อคคอ ขณะจอดรถ เพื่อป้ องกันการโจรกรรม29


ระบบควบคุมการปล่อยไอระเหยน ้ามันเชื้อเพลิง(EVAPORATIVE EMISSION CONTROL SYSTEM)รถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ จะถูกออกแบบและพัฒนาให้เป็ นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ ้นโดยมีการออกแบบและติดตั ้งระบบควบคุมไอระเหยน ้ามันเชื ้อเพลิง ( Evaporative Emission Control System ) เพื่อท าให้ไอระเหยของน ้ามันเชื ้อเพลิงมีปริมาณน้อยที่สุด ซึ ่งในการควบคุมไอระเหยของน ้ามันเชื ้อเพลิงภายในถังจะถูกดูดซับและก าจัดก่อนปล่อยสู่บรรยากาศกล่องดักไอระเหยน ้ามันเชื ้อเพลิงถังน ้ามันเชื ้อเพลิงเรือนลิ้นเร่งโซลินอยด์ควบคุมการก าจัดไอระเหยน ้ามันเชื ้อเพลิงไอระเหยน ้ามันเชื้อเพลิงอากาศบริสุทธิ ์การท างานเมื่อเกิดไอระเหยของน ้ามันเชื ้อเพลิงภายในถังไอระเหยจะลอยขึ ้นไปด้านบนของถัง และไหลผ่านท่อทางไปยังกล่องดักไอระเหยน ้ามันเชื ้อเพลิง ซึ ่งภายในกล่องนี ้จะมีไส้กรองดูดซับประสิทธิภาพสูงไอระเหยน ้ามันเชื ้อเพลิงจะถูกไส้กรองดูดซับไว้ แล้วปล่อยอากาศดีออกสู่บรรยากาศเมื่อติดเครื่องยนต์และเมื่อเครื่องยนต์ถึงอุณหภูมิท างาน กล่อง ECM จะสั่งให้ โซลินอยด์วาล์วเปิ ด เมื่อความเร็วรอบของเครื่องยนต์สูงเกินกว่า 4,500 รอบ / นาที ไอระเหยที่ถูกไส้กรองดูดซึม / ซับไว้ก็จะถูกดูดผ่านท่อทาง ตามแรงดูดที่เกิดจากสูญญากาศไปยังท่อไอดีเพื่อน าเข้าไปสู่กระบวนการเผาไหม้ภายในห้องเผาไหม้ ซึ ่งจะเกิดขั ้นตอนดังที่กล่าวมาแล้ววนเวียนไปเรื่อยๆ30


ส่วนประกอบของระบบระบบควบคุมไอระเหยน ้ามันเชื ้อเพลิงของรถจักรยานยนต์รุ่น PCX150 ส่วนประกอบของระบบจะอยู่ตอนกลางของรถ บริเวณถังน ้ามันเชื ้อเพลิง เมื่อถอดฝาครอบกลางตัวถังออกจะพบถาดรองน ้ามันเชื ้อเพลิง ให้ถอดฝาถังและดึงถาดรองน ้ามันเชื ้อเพลิงออกจากถังได้[1]เมื่อถอดถาดรองถังน ้ามันเชื ้อเพลิงออกแล้วจะมองเห็นโซลินอยด์วาล์วควบคุมการก าจัดไอระเหยน ้ามันเชื ้อเพลิง[1]ติดตั ้งอยู่บริเวณหน้าถังน ้ามันฯ และกล่องดักไอระเหยน ้ามันเชื ้อเพลิง[2]ติดตั ้งอยู่บริเวณด้านหลังของถังน ้ามัน[2]ท่อรับไอระเหยน ้ามันเชื ้อเพลิง1. กล่องดักไอระเหยน ้ามันเชื ้อเพลิง[ Evaporative (EVAP) Emission Canister ]ภายในจะบรรจุด้วยผงดูดซับประสิทธิภาพสูง เป็ นผงถ่าน(Activated Cabon )ท าหน้าที่ดูดซึม/ซับไอระเหยน ้ามันเชื ้อเพลิงก่อนปล่อยอากาศที่สะอาดออกสู่บรรยากาศ31


รูปแสดง ทิศทางการไหลของไอระเหยน ้าเชื ้อเพลิงโดยผ่านกล่องดักไอระเหย2. โซลินอยด์ควบคุมการก าจัดไอระเหยน ้ามันเชื ้อเพลิง ( EVAP Purge Control Solenoid Valve )จะท าหน้าที่ควบคุมการไหลของไอระเหยที่ถูกดูดโดยสุญญากาศที่ท่อไอดีออกจากกล่องดักไอระเหยน ้ามันเชื ้อเพลิงไปเผาไหม้ในห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์เมื่อเครื่องยนต์ท างานกล่องECMจะสั่งให้โซลินอยด์เปิ ดเมื่อเครื่องยนต์มีความเร็วรอบเกินกว่า 4,500 รอบ / นาที และอุณหภูมิเครื่องยนต์ได้อุณหภูมิท างานEVAP Purge Control Solenoid Valveไปท่อไอดีเพื่อไปก าจัดโดยการเผาไหม้ ดูดจากกล่องดักไอระเหยฯผ่านท่อ PURGE32


ระบบควบคุมไอเสีย ( EMISSION CONTROL SYSTEM )แหล่งก าเนิดไอเสียกระบวนการเผาไหม้ ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ (CO) ไนโตรเจนออกไซด์ (NOx)และก๊าซไฮโดรคาร์บอน (HC) การควบคุมการแพร่กระจายของก๊าซไฮโดรคาร์บอนนั ้นมีความส าคัญเป็ นอย่างยิ่ง เนื่องจากก๊าซไฮโดรคาร์บอนเป็ นสารเคมีที่เราสามารถมองเห็นได้ในรูปแบบของควันเมื่อกระทบเข้ากับแสงอาทิตย์ ส่วนก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์และไนโตรเจนออกไซด์เราไม่สามารถมองเห็นได้ในรูปแบบของควัน แต่เป็ นก๊าซที่มีพิษต่อร่างกายบริษัท ฮอนด้ามอเตอร์ จ ากัด ได้ใช้ประโยชน์หลายๆระบบ โดยมีจุดประสงค์เพื่อลดจ านวนก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์และก๊าซไฮโดรคาร์บอน ที่ออกมาจากเครื่องยนต์เพื่อลดภาวะมลพิษ ซึ ่งก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนได้ระบบควบคุมไอเสียจากห้องเครื่องยนต์ CECS ( Crankcase Emission Control System )เรือนลิ้นเร่งท่อระบายจากห้องเครื่องยนต์เรือนไส้กรองอากาศอากาศบริสุทธิ ์ไอเสียจากห้องเครื่องยนต์เครื่องยนต์ถูกออกแบบเป็ นระบบปิ ด เพื่อป้ องกันไม่ให้ก๊าซพิษที่เกิดขึ ้นภายในห้องเครื่องยนต์แพร่กระจายสู่บรรยากาศ ไอเสียที่ถูกระบายออกจากห้องเครื่องยนต์จะถูกควบคุมให้ไหลย้อนกลับเข้าไปในห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ โดยผ่านเข้าด้านหลังเรือนไส้กรองอากาศ33


ไส้กรองน ้ามันเชื้อเพลิงไส้กรองน ้ามันเชื ้อเพลิงสามารถกรองสิ่งสกปรกที่มีขนาดตั ้งแต่10 ไมครอนขึ ้นไปหมายเหตุ : เปลี่ยนไส้กรองน ้ามันเชื้อเพลิงใหม่ทุกๆ 48,000 กิโลเมตรก่อนการถอดปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิง จ าเป็ นต้องท าการระบายแรงดันของน ้ามันเชื ้อเพลิงในระบบก่อนการระบายแรงดันน ้ามันเชื้อเพลิง/การถอดปั๊มน ้ามันเชื้อเพลิง1. หมุนสวิทช์จุดระเบิดไปที่ต าแหน่ง "OFF"2. ถอดกล่องเก็บของอเนกประสงค์,กล่องแบตเตอรี่ปลดขั ้วต่อ 5P ปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิงขั ้วต่อ[1][2]3. หมุนสวิทช์จุดระเบิดไปที่ต าแหน่ง "ON"4. สตาร์ทเครื่องยนต์และปล่อยเดินเบาจนเครื่องยนต์ดับ5. ปลดสายขั ้วลบ (-) แบตเตอรี่ออก6. ตรวจสอบความสกปรกของข้อต่อเร็ว และท าความสะอาดถ้าจ าเป็ น คลุมข้อต่อเร็วด้วยผ้าที่สะอาด7. ถอดข้อต่อเร็วออกโดยการดันแถบปลดตัวล๊อค[1]ให้เลื่อนไปด้านหน้าและกดตัวล๊อค[2]ลงจนสุด8. ปลดข้อต่อเร็วออกจากท่อทางน ้ามันที่ออกจากปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิง ในขณะที่จับเรือนของข้อต่อไว้ก่อนที่จะท าการถอดตัวปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิงออก หลังจากที่ท าการลดแรงดันและถอดข้อต่อเร็วด้านปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิงออกแล้ว ต่อไปต้องถอดกล่องก าจัดไอระเหยของน ้ามันเชื ้อเพลิง(EVAP CANISTER)กล่องดักไอระเหยของน ้ามันเชื ้อเพลิง9. คลายน๊อตยึดปั๊มฯ 4ตัว ในรูปแบบกากบาท จากนั ้นถอดแผ่นยึดปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิงออก34


10. ดึงตัวปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิงขึ ้นมาทั ้งชุดจนกระทั่งขอบของใส่กรองหลุดออกจากรูที่ถังน ้ามันเชื ้อเพลิงหมุนตัวปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิงจนกระทั่งตัวปั๊มไส้กรองและชุดเซ็นเซอร์วัดระดับน ้ามันหลุดออกจากถังน ้ามันเชื ้อเพลิงถึงขั ้นตอนนี ้ ระมัดระวังความเสียหายที่อาจเกิดขึ ้นกับชุดเซ็นเซอร์วัดระดับน ้ามันเชื ้อเพลิงการเปลี่ยนไส้กรองน ้ามันเชื้อเพลิงตรวจสอบความเสียหายของตัวปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิงเปลี่ยนปั๊มตัวใหม่เมื่อจ าเป็ น จากนั ้นตรวจสอบไส้กรองน ้ามันเชื ้อเพลิงว่ามีการอุดตันหรือฉีกขาดหรือไม่ หากพบควรเปลี่ยนไส้กรองตัวใหม่ไส้กรองน ้ำมันฯ1.ถ่ำงขอเกี่ยวทั ้งสองออกขอเกี่ยว2.หมุนกรองน ้ำมันเชื ้อเพลิงโอริงปลดขอเกี่ยวของกรองน ้ามันเชื ้อเพลิงออกจากเดือยล๊อคโดยค่อยๆ ถ่างขอเกี่ยวทั ้งสองออกแล้วหมุนกรองน ้ามันเชื ้อเพลิงตามเข็มนาฬิกา ดึงกรองน ้ามันเชื ้อเพลิงขึ ้นและถอดกรองน ้ามันเชื ้อเพลิงออกจากปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิง ถอดโอริงออก ทาน ้ามันเครื่องปริมาณเล็กน้อยที่โอริงอันใหม่แล้วประกอบโอริงประกอบกรองน ้ามันเชื ้อเพลิงอันใหม่ในต า-แหน่งที่ถูกต้องเพื่อให้เครื่องหมายสามเหลี่ยมบนไส้กรองฯและที่เรือนปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิงตรงกัน เมื่อเกี่ยวขอเกี่ยวเข้ากับเดือยล๊อคหมุนกรองน ้ามันเชื ้อเพลิงทวนเข็มนาฬิกาจนกระทั่งขอเกี่ยวทั ้งสองถูกยึดเข้ากับเดือยล๊อคจนเข้าที่พอดี ระวังอย่าให้เกิดความเสียหายกับชิ้นส่วนดังกล่าวประกอบปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิงหมุนกรองน ้ำมันเชื ้อเพลิงทวนเครื่องหมำยรูปสำมเหลี่ยม ตรงกัน35


การประกอบทาน ้ามันเครื่องปริมาณเล็กน้อยที่โอริงอันใหม่แล้วประกอบโอริงเข้ากับปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิงประกอบซีลกันฝุ ่ นอันใหม่ในต าแหน่งที่ถูกต้องโอริงซีลกันฝุ ่ นใส่ลูกลอยเข้าไปในรูของถังน ้ามันเชื ้อเพลิงใส่ตัวตรวจจับระดับน ้ามันเชื ้อเพลิงเข้าไปในถังในขณะที่พับไส้กรองน ้ามันฯเข้าหากันระวังอย่าให้เกิดความเสียหายกับไส้กรองน ้ามันฯและแขนของลูกลอยจัดส่วนล่างของปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิงให้ชิดกับบริเวณขอบรูของถังน ้ามันเชื ้อเพลิงพลิกตะแคงตัวปั๊มน ้ามันฯและใส่ปั๊มน ้ามันฯเข้าไปในรูของถังน ้ามันเชื ้อเพลิงให้สนิทกดปั๊มน ้ามันฯเข้าไปในถังน ้ามันฯให้ เขี ้ยวล๊อคของปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิงอยู่ในต าแหน่งระหว่างสันขอบของรูของถังน ้ามันฯ ประกอบแผ่นยึดปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิง 2 แผ่นโดยจัดให้เครื่องหมาย “UP” ของแผ่นยึดทั ้งสองหันขึ ้นในขณะที่กดปั๊มน ้ามันฯลง ประกอบและขันน๊อตยึดแผ่นยึดปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิงเครื่องหมาย " UP "ในลักษณะกากบาทให้แน่นตามอัตราการขันแน่นที่ก าหนด ต่อข้อต่อเร็วและขั ้วต่อ5P จากนั ้นประกอบชิ้นส่วนต่างๆย้อนกลับตามล าดับการถอดให้ถูกต้องอัตราการขันแน่น : 12 นิวตัน-เมตร (1.2 กก.-ม., 9 ฟุต-ปอนด์)36


ระยะห่างวาล์วการตรวจสอบ• ตรวจสอบและปรับตั ้งระยะห่างวาล์วในขณะที่เครื่องยนต์เย็น (อุณหภูมิต ่ากว่า 35 0 C / 95 0 F)ถอดชิ้นส่วนต่อไปนี ้- ฝาครอบข้าง, ตะแกรงกันหม้อน ้า, ฝาครอบฝาสูบ,โบ้ลท์ 3 ตัวที่ฝาครอบช่องระบายอากาศ และท าการถอดฝาครอบช่องระบายอากาศออก- ถอดโบ้ลท์ยึดหม้อน ้า 4 ตัวพร้อมแหวนรองออกและขยับหม้อน ้าออกเพื่อให้สามารถมองเห็นพัดลมระบายความร้อนได้อย่างชัดเจนโบ้ลท์ฝาครอบช่องระบายอากาศข้อควรจ า•ไม่จ าเป็ นต้องปลดท่อน ้าออกจากหม้อน ้าหมุนเพลาข้อเหวี่ยงตามเข็มนาฬิกาอย่างช้าๆ และจัดให้ รอยบากของพัดลมระบายความร้อนตรงกับเครื่องหมายบนฐานยึดหม้อน ้าเครื่องหมาย ขีดเครื่องหมาย จุดต้องแน่ใจว่าเครื่องหมายจุดของเพลาลูกเบี ้ยวและขีดเครื่อง หมายของฝาสูบตรงกันต้องแน่ใจว่าลูกสูบอยู่ที่ต าแหน่งศูนย์ตายบนในจังหวะอัด ต าแหน่งนี ้สามารถยืนยันได้โดยการตรวจสอบระยะฟรีของกระเดื่องวาล์ว(ท่านสามารถขยับกระเดื่องวาล์วได้เล็กน้อย) แต่ถ้าไม่มีระยะฟรี (กระเดื่องวาล์วแน่น) เป็ นเพราะว่าลูกสูบก าลังเคลื่อนผ่านจังหวะคายไปต าแหน่งศูนย์ตายบนหมุนเพลาข้อเหวี่ยงหนึ ่งรอบเต็มทวนเข็มนาฬิกาอย่างช้าๆและจัดให้รอยบากของพัดลมระบายความร้อนตรงกับเครื่องหมายบนฐานยึดหม้อน ้าเครื่องหมายรอยบากหม้อน ้า37


เช็คระยะห่างวาล์วโดยสอดฟิลเลอร์เกจเข้าระหว่างสกรูปรับตั ้งระยะห่างวาล์วกับก้านวาล์วระยะห่างวาล์ว : ไอดี : 0.10 มม. + 0.02 มม.ไอเสีย : 0.24 มม. + 0.02 มม.สกรูปรับตั ้งฟิ ลเลอร์เกจประแจปรับตั ้งวาล์วฟิ ลเลอร์เกจหมุนเครื่องยนต์ตรวจสอบระยะห่างวาล์วอีกครั ้ง จากนั ้นประกอบชิ้นส่วนต่างๆ กลับต าแหน่งเดิมตารางแสดงค่ามาตรฐานระยะห่างวาล์วของรถจักรยานยนต์ฮอนด้ารุ ่นต่างๆWave 100, Wave125, Wave125i V.1-2 0.05 + 0.02 มม. 0.05 + 0.02 มม.Wave125i V.3Sonic125Phantom200Click110, Air Blade110Click125i0.10 + 0.02 มม. 0.10 + 0.02 มม.0.10 + 0.02 มม.0.27 + 0.02 มม.0.10 + 0.02 มม.0.25 + 0.02 มม.Click110i, Air Blade110i 0.14 + 0.02 มม. 0.20 + 0.02 มม.0.24 + 0.02 มม.Spacy i 0.16 + 0.02 มม. 0.16 + 0.02 มม.PCX125 0.10 + 0.02 มม. 0.24 + 0.02 มม.PCX150รุ ่นรถจักรยานยนต์วาล์วไอดี0.06 + 0.02 มม.0.10 + 0.02 มม.0.16 + 0.02 มม.Icon, Scoopy i 014 + 0.02 มม. 0.14 + 0.02 มม.0.10 + 0.02 มม.ระยะห่างวาล์วมาตรฐานวาล์วไอเสียCZ110i, Wave110i, Dream110i 0.10 + 0.02 มม. 0.10 + 0.02 มม.0.24 + 0.02 มม.CBR150R (ทั ้งคาร์บูเรเตอร์ และหัวฉีด) 0.16 + 0.03 มม. 0.25 + 0.03 มม.CBR250R 0.16 + 0.03 มม. 0.27 + 0.03 มม.38


ระบบจ่ายน ้ามันเชื้อเพลิงแบบหัวฉีด ( PGM-FI )ส่วนประกอบของระบบ PGM - FI1. ตัวตรวจจับสัญญาณ (Sensor)1.1 ตัวตรวจจับแรงดันสัมบูรณ์ในท่อไอดี (MAP sensor)1.2 ตัวตรวจจับอุณหภูมิอากาศ (IAT sensor)1.3 ตัวตรวจจับต าแหน่งลิ้นเร่ง (TP sensor)1.4 ตัวตรวจจับอุณหภูมิน ้าหล่อเย็น (ECT sensor)1.5 ตัวตรวจจับต าแหน่งเพลาข้อเหวี่ยง (CKP sensor)1.6 ตัวตรวจจับปริมาณออกซิเจน (O 2 sensor)2. ปั๊มน ้ามันเชื้อเพลิง (Fuel Pump)3. หัวฉีด (Injector)4. วาล์วควบคุมอากาศรอบเดินเบา ( IACV : Idle Air Control Valve )5. หลอดไฟแสดงความผิดปกติ (MIL : Malfunction Indicator Lamp)6. กล่องควบคุมการท างานของเครื่องยนต์ ( ECM : Engine Control Module)7. เรือนลิ้นเร่ง (Throttle Body)สวิทช์จุดระเบิดECMขั ้วตรวจสอบ DLCหัวฉีดวาล์วควบคุมอากาศรอบเดินเบาวาล์วโซลินอยด์ควบคุมการไหลของไอน ้ามันระบบ EVAPปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิงสวิทช์ขาตั ้งข้างตัวตรวจจับความเร็วของรถตัวตรวจจับต าแหน่งเพลาข้อเหวี่ยงตัวตรวจจับปริมาณออกซิเจนตัวตรวจจับอุณหภูมิน ้าหล่อเย็นรูปแสดง ส่วนประกอบของระบบ PGM-FI39


1. ตัวตรวจจับสัญญาณ ( SENSOR )มีหน้าที่ตรวจจับความเปลี่ยนแปลงสภาวะต่างๆ ของเครื่องยนต์ เพื่อส่งข้อมูลต่างๆ ไปยังกล่องECM แล้วน าข้อมูลเหล่านั ้น ไปประมวลผลเพื่อหาปริมาณการฉีด และจังหวะในการจุดระเบิดที่เหมาะสมซึ ่งตัวตรวจจับเหล่านี ้มีความส าคัญต่อระบบ PGM - FI เป็ นอย่างยิ่งในรถจักรยานยนต์รุ่น PCX150 นี ้ ได้มีการติดตั ้งตัวตรวจจับสัญญาณ ต่างๆ ดังนี ้1.1 ตัวตรวจจับแรงดันสัมบูรณ์ในท่อไอดี : MAP sensor( Manifold Absolute Pressure Sensor )ชุดตัวตรวจจับตัวตรวจจับแรงดันในท่อไอดีท าหน้าที่ตรวจจับแรงดันภายในท่อไอดีแล้วเปลี่ยนเป็ นสัญญาณทางไฟฟ้ า ส่งข้อมูลไปยังกล่อง ECM เพื่อท าหน้าที่ประมวลผลหาปริมาณของอากาศเพื่อก าหนดระยะเวลาในการฉีดน ้ามันเชื ้อเพลิงขั ้นพื ้นฐานตัวตรวจจับแรงดันในท่อไอดี เป็ นความต้านทานที่เปลี่ยนแปลงได้แบบสารกึ ่งตัวน า ติดตั ้งอยู่ด้านหลังของลิ้นปี กผีเสื ้อ เพื่อตรวจจับแรงดันของอากาศ ก่อนเข้าเครื่องยนต์ แล้วเปลี่ยนแรงดันอากาศเป็ นสัญญาณทางไฟฟ้ าส่งไปยังกล่อง ECM เพื่อประมวลผลหาปริมาณอากาศ และรอสัญญาณต าแหน่งเพลา-ข้อเหวี่ยงของเครื่องยนต์ ซึ ่งเป็ นข้อมูลในการสั่งจ่ายน ้ามันเชื ้อเพลิงขั ้นพื ้นฐานให้เหมาะสมกับความต้องการของเครื่องยนต์ ในสภาวะนั ้นๆตัวตรวจจับแรงดัน(ซิลิโคน ไดอะแฟรม)MAP SENSOR5V5VECMOUTPUT VOLTAGE3.41VOUTPUTVOLTAGEแอมปลิไฟเออร์ทางเข้าสุญญากาศ0.5V13 kPa 120 kPaLOWHIGHPRESSUREถ้าตัวตรวจจับแรงดันในท่อไอดี ส่งสัญญาณไปยังกล่อง ECM แล้วประมวลผลพบว่าแรงดันในท่อไอดีสูงแสดงว่าขณะนั ้นมีปริมาณอากาศมาก กล่อง ECM จะสั่งจ่ายน ้ามันเชื ้อเพลิงมาก และในทางกลับกันถ้าแรงดันในท่อไอดีต ่าปริมาณอากาศจะน้อย กล่อง ECM จะสั่งจ่ายน ้ามันเชื ้อเพลิงน้อย40


1.2 ตัวตรวจจับอุณหภูมิอากาศ : IAT sensor ( Intake Air Temperature Sensor )ชุดตัวตรวจจับตัวตรวจจับอุณหภูมิอากาศท าหน้าที่ตรวจจับอุณหภูมิของอากาศที่บรรจุเข้ากระบอกสูบ แล้วเปลี่ยนเป็ นสัญญาณทางไฟฟ้ าส่งไปยังกล่อง ECM เพื่อปรับเปลี่ยนระยะเวลาในการฉีดน ้ามันเชื ้อเพลิงให้เหมาะสมตัวตรวจจับอุณหภูมิอากาศเป็ นเทอร์มิสเตอร์ที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของอากาศได้ถึงแม้จะ เป็ นความร้อนแค่เล็กน้อย จะติดตั ้งอยู่ด้านหน้าของลิ้นปี กผีเสื ้อ เพื่อตรวจสอบอุณหภูมิของอากาศที่บรรจุเข้ากระบอกสูบTHERMISTORECMOUTPUT VOLTAGEIAT SENSOR5VINPUTVOLTAGE4.63V0.47V-20 ๐ C 100 ๐ CINTAKE AIRTEMPERATUREเนื่องจากอุณหภูมิของอากาศจะมีผลต่อความหนาแน่นของอากาศ การที่อุณหภูมิของอากาศไม่คงที่จะท าให้ความหนาแน่นของอากาศเปลี่ยนแปลงไปด้วย ส่งผลให้การจ่ายน ้ามันเชื ้อเพลิงผสมกับอากาศผิดพลาดจึงจ าเป็ นต้องมีตัวตรวจจับอุณหภูมิอากาศก่อนเข้าเครื่องยนต์ แล้วส่งข้อมูลให้กับกล่อง ECM เพื่อหาปริมาณอากาศที่แท้จริง แล้วสั่งจ่ายน ้ามันเชื ้อเพลิงในปริมาณที่เหมาะสมกับปริมาณอากาศในขณะนั ้น41


1.3 ตัวตรวจจับต ำแหน่งลิ้นเร่ง : TP sensor ( Throttle Position Sensor )ชุดตัวตรวจจับตัวตรวจจับต าแหน่งลิ้นเร่งท าหน้าที่ตรวจจับต าแหน่งการเปิ ด - ปิ ด ของลิ้นเร่งแล้วเปลี่ยนเป็ นสัญญาณทางไฟฟ้ าส่งข้อมูลไปยังกล่อง ECM เพื่อประมวลผลหาปริมาณการจ่ายน ้ามันเชื ้อเพลิงให้เหมาะสมกับความต้องการของเครื่องยนต์ในขณะนั ้น และยังส่ง ข้อมูลสั่งตัดการจ่ายน ้ามันเชื ้อเพลิงขณะผ่อนคันเร่งโดยเปรียบเทียบกับสัญญาณของตัวตรวจจับต าแหน่งเพลาข้อเหวี่ยง และสัญญาณของตัวตรวจจับอุณหภูมิน ้าหล่อเย็นตัวตรวจจับต าแหน่งลิ้นเร่ง จะบอกถึงการเปิ ด - ปิ ด ของลิ้นเร่ง แล้วส่งเป็ นสัญญาณทางไฟฟ้ าซึ ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของความต้านทาน ที่ติดตั ้งอยู่ที่ส่วนปลายของเพลาลิ้นเร่งความต้านทานที่เปลี่ยนค่าได้ECMOUTPUT VOLTAGETP SENSOR5VOUTPUTVOLTAGE4.76 V0.29 Vหน้าสัมผัสFULL CLOSE ( IDLE )FULL OPENTHROTTLE VALVE OPENING DEGREEเมื่อลิ้นเร่งอยู่ในต าแหน่งปิ ดสุด ชุดหน้าสัมผัสการเปิ ดลิ้นเร่ง ซึ ่งต่อที่ส่วนปลายของเพลาลิ้นเร่งที่ต าแหน่งนี ้จะมีความต้านทานมาก ท าให้ไฟที่จ่ายมาจากขั ้ว VCC 5 โวลท์ ไหลผ่านความต้านทานมากจึงท าให้กระแสไฟไหลกลับไปที่กล่อง ECM ที่ขั ้ว THR น้อย( 0.29 โวลท์ )ในต าแหน่งนี ้กล่อง ECM จะสั่งให้หัวฉีดจ่ายน ้ามันเชื ้อเพลิงน้อยเมื่อบิดคันเร่งมากขึ ้น ชุดหน้าสัมผัสการเปิ ดลิ้นเร่ง จะเคลื่อนที่เข้าหาขั ้ว VCC มากขึ ้น ท าให้ค่าความต้านทานระหว่างขั ้ว VCC กับ THR ลดลง ท าให้กระแสไฟฟ้ าไหลกลับไปที่กล่อง ECM ที่ขั ้ว THRมากขึ ้น ท าให้กล่อง ECM จ่ายน ้ามันเชื ้อเพลิงมากขึ ้น ถ้าลิ้นเร่งเปิ ดสุด ความต้านทานจะน้อยที่สุดท าให้ไฟไหลกลับไปที่กล่อง ECM ได้มากที่สุด ( 4.76 โวลท์ ) กล่อง ECM จะสั่งจ่ายน ้ามันเชื ้อเพลิงสูงสุด42


1.4 ตัวตรวจจับอุณหภูมิน ้ำหล่อเย็น : ECT sensor ( Engine Coolant Temperature Sensor )ตัวตรวจจับอุณหภูมิน ้ำหล่อเย็นท าหน้าที่ตรวจจับอุณหภูมิน ้าหล่อเย็น แล้วเปลี่ยนเป็ นสัญญาณทางไฟฟ้ าส่งเข้ากล่อง ECM เพื่อเพิ่มหรือลดปริมาณการฉีดน ้ามันเชื ้อเพลิง ให้เหมาะสมกับอุณหภูมิของเครื่องยนต์THERMISTOREOT SENSOR5 VECMINPUTVOLTAGE4.54 VINPUT VOLTAGE0.63 V-20 ๐ C 100 ๐ CENGINE OILTEMPERATUREตัวตรวจจับอุณหภูมิน ้าหล่อเย็น ติดตั ้งอยู่ที่ฝาสูบด้านขวา บริเวณปั๊มน ้า ภายในประกอบด้วยความต้านทานที่เปลี่ยนแปลงตามอุณหภูมิแบบค่าสัมประสิทธิ ์ เป็ นลบ กล่าวคือเมื่ออุณหภูมิสูงขึ ้นความต้านทานจะลดลง จากคุณสมบัติดังกล่าวจะถูกน าไปใช้เปลี่ยนแปลงแรงดันไฟฟ้ า ที่ส่งเข้ากล่อง ECM เพื่อเป็ นข้อมูลในการประมวลผลหาปริมาณการฉีดน ้ามันเชื ้อเพลิงที่เหมาะสมกับอุณหภูมิของเครื่องยนต์ขณะนั ้น43


1.5 ตัวตรวจจับต ำแหน่งเพลำข้อเหวี่ยง : CKP sensor ( Crankshaft Position Sensor )ภาพแสดง ตัวตรวจจับต าแหน่งเพลาข้อเหวี่ยง : CKP Sensorท าหน้าที่ตรวจจับต าแหน่งเพลาข้อเหวี่ยง แล้วส่งสัญญาณทางไฟฟ้ าเข้ากล่อง ECM เพื่อเป็ นข้อมูลพื ้นฐาน ในการประมวลผลหาอัตราการฉีดน ้ามันเชื ้อเพลิง และก าหนดจังหวะจุดระเบิดให้เหมาะสมกับการท างานของเครื่องยนต์ รวมถึงส่งสัญญาณความเปลี่ยนแปลงของต าแหน่งเพลาข้อเหวี่ยงไปพร้อมกันด้วยเพื่อเปรียบเทียบต าแหน่งในแต่ละจุดว่ามีการเปลี่ยนแปลงเพียงใด กล่อง ECM จะรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงนั ้นเพื่อที่จะประมวลผลให้เหมาะสมและทันต่อสภาวะของเครื่องยนต์1.6 ตัวตรวจจับปริมำณออกซิเจน : O 2 sensor ( Oxygem Sensor )ตัวตรวจจับปริมาณออกซิเจน44


ท าหน้าที่ตรวจจับปริมาณออกซิเจน ในไอเสียที่เครื่องยนต์ปล่อยออกมา แล้วเปลี่ยนเป็ นสัญญาณทางไฟฟ้ า ส่งเข้า ECM เพื่อเพิ่มหรือลดปริมาณการฉีดน ้ามันเชื ้อเพลิง ให้เหมาะสมกับการท างานของเครื่องยนต์ตัวตรวจจับปริมาณออกซิเจน ติดตั ้งอยู่ที่ฝาสูบบริเวณปากท่อไอเสียด้านซ้าย ภายในประกอบด้วยแผ่นเซอร์โคเนีย ( ZIRCONIA ) ที่ฉาบด้วยแพลทินั่ม ( PLATINUM ) ซึ ่งมีลักษณะเป็ นรูรอบๆ เพื่อตรวจจับก๊าซไอเสียที่เกิดจากการเผาไหม้ในขณะนั ้น ว่าเครื่องยนต์เผาไหม้สมบูรณ์เพียงใด ถ้าเครื่องยนต์เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ตัวตรวจจับปริมาณออกซิเจนจะไม่สามารถตรวจจับออกซิเจนในก๊าซไอเสียได้กล่อง ECM ก็จะสั่งลดปริมาณการฉีดน ้ามันเชื ้อเพลิงให้น้อยลงจนกว่าจะจับปริมาณออกซิเจนในก๊าซไอเสียได้และในทางกลับกันถ้าตัวตรวจจับปริมาณออกซิเจนในก๊าซไอเสียพบปริมาณออกซิเจนมากกล่องECMจะเพิ่มปริมาณการฉีดให้สัมพันธ์กับการท างานของเครื่องยนต์ATMOSPHERE(บรรยำกำศ)WHITE GOLD-COATED POLE( ATMOSPHERE SIDE )เคลือบทองค ำขำว(ด้ำนบรรยำกำศ)ZIRCONIA DEVICE ( สำรประกอบเซอร์โคเนีย)WHITE GOLD-COATED POLE( EXHAUST SIDE )เคลือบทองค ำขำว (ด้ำนไอเสีย)O 2 SENSORECMINPUTVOLTAGEELECTROMOTIVE ( VOLTAGE )HIGHRICH AIR/FUEL RATIOPERFECT AIR/FUEL RATIOLEAN AIR/FUEL RATIOPROCESSLOWINTAKE IGNITION INTAKE IGNITIONCOMPRESSION EXHAUST COMPRESSION EXHAUSTข้อควรระวัง :- ห้ามใช้ น ้ามันเครื่อง จาระบี น ้า หรือสารละลายอื่นๆทุกชนิด ใส่ไปในรูอากาศตัวตรวจจับปริมาณออกซิเจน- ห้ามใช้ น ้ามันเครื่อง จาระบี น ้า หรือสารละลายอื่นๆทุกชนิด ใส่ภายในปลั๊กตัวตรวจจับปริมาณออกซิเจน- ต้องเปลี่ยนตัวตรวจจับปริมาณออกซิเจนใหม่ เมื่อตก - หล่น45


2. ปั๊มน ้ำมันเชื้อเพลิง ( Fuel Pump )ตัวควบคุมแรงดันไปยังหัวฉีดลิ้นกันกลับขดลวดอาร์เมเจอร์เรือนปั๊มไส้กรองน ้ามันเชื ้อเพลิงใบพัดตัวอย่างภาพอธิบายโครงสร้างภายในปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิงกรองน ้ามันเชื ้อเพลิงสามารถกรองสิ่งสกปรกที่มีขนาดตั ้งแต่ 10 ไมครอนขึ ้นไป และยังถอดเปลี่ยนใหม่ได้ (เปลี่ยนทุกๆ 48,000 กม.)ติดตั ้งอยู่ภายในถังน ้ามันเชื ้อเพลิง ท าหน้าที่ดูดน ้ามันจากถังส่งไปยังหัวฉีดตลอดเวลาปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิงเป็ นแบบใบพัด ( Turbine ) ท างานด้วยมอเตอร์แบบ DC. 12 V. จ่ายน ้ามันเชื ้อเพลิงด้วยอัตราการไหลคงที่ แรงดัน 294 kPa (กิโลปาสคาล ) หรือ 3.0 Kgf / cm 2 โดยท่อดูดของปั๊มจะอยู่ที่จุดต ่าสุดของถังน ้ามันเชื ้อเพลิง และจะมีกรองน ้ามันเชื ้อเพลิงเพื่อกรองสิ่งสกปรกที่มีขนาดตั ้งแต่ 10 ไมครอนขึ ้นไป โดยที่ปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิง จะถูกสั่งงานโดยกล่อง ECMปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิงจะจ่ายน ้ามันด้วยอัตราการไหลคงที่ตลอดเวลา แต่การท างานของเครื่องยนต์ต้องการปริมาณน ้ามันไม่คงที่ ดังนั ้นจึงต้องมีการควบคุมแรงดันในระบบโดยใช้ตัวควบคุมแรงดันซึ ่งติดตั ้งอยู่กับปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิง ก่อนที่จะส่งไปยังหัวฉีดท าให้ไม่มีน ้ามันส่วนเกินไปยังหัวฉีด เพราะน ้ามันเชื ้อเพลิงส่วนที่เกินนี ้จะถูกปล่อยกลับถังน ้ามันเชื ้อเพลิง แล้วน ากลับมาใช้ใหม่ปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิงประกอบด้วย ขดลวดอาร์เมเจอร์, มอเตอร์, ชุดปั๊ม, ใบพัด, ห้องปั๊มน ้ามัน, ลิ้นกันกลับ, ท่อทางดูดและท่อทางจ่าย ปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิงจะท างานทุกครั ้งที่เปิ ดสวิทช์กุญแจ โดยกล่อง ECM จะสั่งให้ปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิงท างานเป็ นเวลา 2 วินาทีแล้วตัดการท างานและจะท างานอีกครั ้งเมื่อมีสัญญาณต าแหน่งเพลาข้อเหวี่ยง ส่งมาที่กล่อง ECMปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิงจะท างานตามสัญญาณต าแหน่งเพลาข้อเหวี่ยง และจะหยุดโดยอัตโนมัติเมื่อไม่มีสัญญาณต าแหน่งเพลาข้อเหวี่ยง ส่งมาที่กล่อง ECM และแรงดันน ้ามันในระบบจะถูกรักษาไว้โดยลิ้นกันกลับ46


3. หัวฉีด ( Injector )ท าหน้าที่ฉีดน ้ามันเชื ้อเพลิงให้เป็ นฝอยละออง เพื่อผสมกับอากาศบริเวณท่อไอดี ก่อนผ่านวาล์วไอดีเข้าสู่กระบอกสูบ หัวฉีดที่ใช้เป็ นแบบไฟฟ้ าคือบังคับการเปิ ดของหัวฉีดโดยโซลินอยด์สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้ าเพื่อยกเข็มหัวฉีดขึ ้น และปิ ดโดยใช้แรงดันสปริงการท างานน ้ามันเชื ้อเพลิงจากถังน ้ามันจะถูกสร้างแรงดันให้สูงขึ ้นด้วยปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิงควบคุมแรงดัน โดยตัวควบคุมแรงดันแล้วส่งน ้ามันไปยังหัวฉีด โดยผ่านตะแกรงกรองที่อยู่ด้านบน ลงไปยังเข็มหัวฉีดที่ปลายด้านล่างของหัวฉีด ซึ ่งในขณะที่หัวฉีดยังไม่ท างาน เข็มหัวฉีดจะถูกสปริงดันให้แนบสนิทอยู่กับบ่าของเข็มหัวฉีด จังหวะนี ้จะไม่มีการฉีดน ้ามันเชื ้อเพลิงกล่อง ECM จะสั่งให้หัวฉีดท างานโดยต่อวงจรไฟฟ้ าที่มาจากหัวฉีดลงกราวนด์ ท าให้โซลินอยด์เกิดสนามแม่เหล็ก ดูดพลังเยอร์ที่อยู่ตรงกลางขึ ้น เข็มหัวฉีดที่ติดเป็ นชุดเดียวกับพลังเยอร์ก็จะยกตัวขึ ้นจากบ่าของเข็มหัวฉีด ท าให้น ้ามันเชื ้อเพลิงที่มีแรงดันสูง ( 294 kPa ) ถูกฉีดออกมาในลักษณะเป็ นฝอยละอองเพื่อผสมกับอากาศก่อนเข้าสู่กระบอกสูบภาพแสดง การท างานของหัวฉีดน ้ามันเชื ้อเพลิงหมายเหตุ : ถ้าต่อวงจรไฟฟ้ าของชุดหัวฉีดลงกราวนด์นาน จะท าให้เข็มของหัวฉีดเปิ ดนาน ส่งผลให้ปริมาณของน ้ามันเชื ้อเพลิงที่ฉีดออกมามีปริมาณมากตามไปด้วย47


4. วาล์วควบคุมอากาศรอบเดินเบา : IACV ( Idle Air Control Valve )ท าหน้าที่ควบคุมปริมาณอากาศที่เข้าสู่เครื่องยนต์โดยไม่ผ่านทางลิ้นเร่ง โดยท าให้วาล์วควบคุมอากาศรอบเดินเบาเคลื่อนที่ สอดคล้องกับสัญญาณเข้าที่มาจากกล่อง ECM เพื่อที่จะรักษาความเร็วรอบของเครื่องยนต์ให้ได้ตามที่ก าหนดไว้ที่ 1,700 ± 100 รอบต่อนาทีวงจรบายพาสของเรือนลิ้นเร่งชุดวาล์วควบคุมอากาศรอบเดินเบาต าแหน่งการไหลของอากาศสูงสุดที่วาล์วควบคุมอากาศรอบเดินเบาต าแหน่งการไหลของอากาศต ่าสุดที่วาล์วควบคุมอากาศรอบเดินเบาการท างานเมื่อเปิ ดสวิทช์กุญแจกล่อง ECM จะสั่งให้มอเตอร์ปรับระยะดึงวาล์วควบคุมอากาศเข้าหาตัวมอเตอร์ในขณะที่ท าการตรวจวัดอุณหภูมิน ้าหล่อเย็นของเครื่องยนต์ กล่อง ECM จะท าให้มอเตอร์ปรับระยะหมุนเพื่อเลื่อนวาล์วควบคุมอากาศรอบเดินเบากลับคืนต าแหน่งที่เหมาะสม ซึ ่งเป็ นต าแหน่งที่มีปริมาณของอากาศที่เข้ามาเพียงพอต่อการสตาร์ทติดเครื่องยนต์ได้เมื่อเครื่องยนต์ยังไม่ถึงอุณหภูมิท างาน กล่อง ECM จะควบคุมต าแหน่งของวาล์วควบคุมอากาศรอบเดินเบาเพื่อที่จะเพิ่มปริมาณของอากาศที่เข้ามา เพื่อให้ความเร็วรอบของเครื่องยนต์ถูกรักษาให้อยู่ที่1,900 ± 100 รอบต่อนาทีเมื่อเครื่องยนต์มีอุณหภูมิสูงขึ ้น กล่อง ECM จะสั่งวาล์วควบคุมอากาศรอบเดินเบาคืนกลับต าแหน่งเดิมเพื่อลดปริมาณของอากาศและควบคุมรอบเดินเบาของเครื่องยนต์ให้อยู่ที่ 1,700 ± 100 รอบต่อนาทีวาล์วควบคุมอากาศรอบเดินเบาวาล์วควบคุมอากาศรอบเดินเบา48


5. หลอดไฟแสดงความผิดปกติของเครื่องยนต์ (MIL : Malfunction Indicator Lamp)เป็ นระบบที่ติดตั ้งเข้ามาเพื่ออ านวยความสะดวกให้กับนายช่าง โดยระบบนี ้อยู่ภายในกล่อง ECMจะคอยตรวจสอบการท างานของตัวตรวจจับ ( SENSOR ) อยู่ตลอดเวลา เมื่อระบบตรวจสอบพบความผิดปกติเกิดขึ ้นกับตัวตรวจจับ ( SENSOR ) ระบบก็จะแสดงผลออกมาทางหลอดไฟ ซึ ่งติดตั ้งอยู่ที่หน้าปัดเรือนไมล์โดยการกะพริบ ของหลอดไฟการท างานเมื่อเปิ ดสวิทช์กุญแจไปที่ต าแหน่ง " ON " หลอดไฟจะติดขึ ้นมา 2 วินาทีแล้วดับลง ถ้าระบบตรวจพบความผิดปกติของตัวตรวจจับ ( SENSOR ) หลอดไฟจะกะพริบเป็ นรหัสเพื่อแจ้งปัญหาให้ทราบโดยหลอดไฟจะกะพริบเมื่อสวิทช์กุญแจอยู่ในต าแหน่ง " ON " และเครื่องยนต์มีความเร็วรอบ ไม่เกิน2,200 รอบต่อนาทีถ้าเครื่องยนต์มีความเร็วรอบมากกว่า 2,200 รอบต่อนาที หลอดไฟ จะติดตลอดเวลา และจะกะพริบอีกครั ้งเมื่อความเร็วรอบของเครื่องยนต์ต ่ากว่า 2,200 รอบต่อนาทีหมายเหตุ : - ระบบจะตรวจสอบเฉพาะปัญหาที่เกิดจากการเปิ ดของวงจร หรือลัดวงจร เท่านั ้น- ข้อมูลความผิดปกติจะถูกบันทึกไว้ในกล่อง ECM ตลอดไป จนกว่าจะมีการลบข้อมูล6. กล่องควบคุมการท างานของเครื่องยนต์ (ECM : Engine Control Module )มีหน้าที่ควบคุมการท างานทั ้งหมดของระบบPGM - FI โดยรับสัญญาณต่างๆจากตัวตรวจจับแล้วน าไปประมวลผล การสั่งจ่ายน ้ามันเชื ้อเพลิงก าหนดจังหวะจุดระเบิด, การตัด - ต่อการสั่งจ่ายน ้ามันเชื ้อเพลิง, ระบบควบคุมอากาศวงจรเดินเบาระบบตรวจสอบความผิดปกติของระบบ PGM-FIและยังท าหน้าที่ควบคุมการท างานของระบบสตาร์ท ระบบไฟชาร์จ และระบบหยุดการท างานของเครื่องยนต์ในรอบเดินเบาอีกด้วย49


7. เรือนลิ้นเร่ง (Throttle Body)เป็ นที่ติดตั ้งของชุดเซนเซอร์, ชุดวาล์วควบคุมอากาศรอบเดินเบา และหัวฉีดน ้ามันเชื ้อเพลิงเรือนลิ้นเร่งชุดเซนเซอร์ชุดวาล์วควบคุมอากาศรอบเดินเบา50


การเรียกดูข้อมูลปัญหาขั ้นตอน1. ปิ ดสวิทช์กุญแจไปที่ต าแหน่ง " OFF "2. เปิ ดเบาะนั่งขึ ้น ถอดฝาครอบแบตเตอรี่ ถอดฝาครอบขั ้วตรวจสอบ แล้วต่อเครื่องมือพิเศษต าแหน่งการต่อสาย : สายสี น ้าตาล กับ สายสี น ้าเงิน / เขียว3. เปิ ดสวิทช์กุญแจไปที่ต าแหน่ง " ON " สังเกตุการท างานของหลอดไฟแสดงความผิดปกติเครื่องมือพิเศษ (070PZ-ZY30100)ช็อตขั ้วสายและเปิ ดสวิทช์ "ON"ติดหลอดไฟติดตลอดแสดงว่าไม่มีข้อมูลปัญหาไม่มีข้อมูลปัญหาดับติดมีข้อมูลปัญหาดับ0.3 วินาทีมีรหัสความผิดปกติที่จัดเก็บอยู ่ในหน่วยความจ า51


การลบข้อมูลปัญหาขั ้นตอนต่อจากการเรียกดูข้อมูลปัญหาแล้ว1. ถอดเครื่องมือพิเศษออก แล้วต่อกลับให้ทันภายในเวลา 5 วินาทีต่อกลับภายในเวลา 5 วินาทีเครื่องมือพิเศษ (070PZ-ZY30100) ถอดออกแล้วต่อกลับให้ทันภายในเวลา 5 วินาที2. ถ้าหลอดไฟแสดงความผิดปกติดับ แล้วกะพริบต่อเนื่อง แสดงว่าข้อมูลปัญหาถูกลบแล้วลบข้อมูลส าเร็จONภายใน 5 วินาที2-3 วินาที0.3 วินาทีหลอดไฟกะพริบด้วยความถี่เท่ากันOFFONOFFปิ ด - เปิ ดสวิทช์รหัสความผิดปกติ การลบข้อมูล การลบข้อมูลส าเร็จหลอดไฟติดตลอดแสดงว่าไม่มีข้อมูลปัญหาลบข้อมูลไม่ส าเร็จONOFFONOFFปิ ด - เปิ ดสวิทช์มากกว่า 5 วินาที 2-3 วินาทีหลอดไฟติดค้างรหัสความผิดปกติ การลบข้อมูล การลบข้อมูลไม่ส าเร็จแสดงรหัสปัญหา52


การปรับตั ้งตัวตรวจจับต าแหน่งลิ้นเร่งหลังจากมีการถอด-ประกอบชุดเซนเซอร์ ต้องท าการปรับตั ้งตัวตรวจจับต าแหน่งลิ้นเร่งทุกครั ้งชุดเซนเซอร์ข้อควรจ า• ต้องแน่ใจว่าไม่มีข้อมูลรหัสข้อขัดข้องจัดเก็บอยู่ในกล่อง ECM ถ้ามีข้อมูลรหัสข้อขัดข้องจัดเก็บอยู่ในกล่องECM จะไม่สามารถปรับตั ้งตัวตรวจจับต าแหน่งลิ้นเร่งได้ขั ้นตอน ต่อจากการลบข้อมูลแล้ว และเครื่องมือพิเศษยังต่ออยู ่กับขั ้วตรวจสอบ1. ปิ ดสวิทช์ แล้วถอดขั ้วต่อตัวตรวจจับอุณหภูมิน ้าหล่อเย็น แล้วช๊อตขัวสายด้วยสายพ่วงดังภาพต าแหน่งการต่อสาย : สายสีเขียว/ส้ม กับ ชมพู/ขาวเขียว/ส้มชมพู/ขำวเครื่องมือพิเศษ(070PZ-ZY30100)2. เปิ ดสวิทช์จุดระเบิดไปที่ต าแหน่ง "ON" จากนั ้นปลดสายพ่วงออกจากขั ้วต่อตัวตรวจจับอุณหภูมิน ้าหล่อเย็นภายในเวลา 10 วินาทีขั ้วสำยไฟตัวตรวจจับอุณหภูมิน ้ำหล่อเย็นเปิ ดสวิทช์ไปที่ต ำแหน่ง "ON"3. ตรวจสอบการกะพริบของหลอดไฟแสดงความผิดปกติ หลังจากปลดสายพ่วงออกหลอดไฟจะดับแล้วกะพริบแสดงว่าการปรับตั ้งส าเร็จ53


ONOFFONOFF0.1 วินาที1.3 วินาทีภายใน 10 วินาทีระบบก าลังรับข้อมูลการปรับตั ้งใหม่0.3 วินาที0.3 วินาทีการปรับตั ้งประสบความส าเร็จหลอดไฟกะพริบด้วยความถี่เท่ากันหมายเหตุ : กรณีถ้าไม่ถอดสายพ่วงออกภายในเวลา 10 วินาที หลังจากเปิ ดสวิทช์ หลอดไฟจะดับแล้วติดค้างแสดงว่าการปรับตั ้งไม่ส าเร็จ4. ปิ ดสวิทช์ไปที่ต าแหน่ง "OFF"5. ต่อขั ้วต่อตัวตรวจจับอุณหภูมิน ้าหล่อเย็น6. ปลดเครื่องมือออกจากขั ้วตรวจสอบ7. ประกอบชิ้นส่วนกลับ54


ระบบตรวจสอบความผิดปกติเป็ นระบบที่ติดตั ้งเข้ามาเพื่ออ านวยความสะดวกให้กับนายช่าง โดยระบบจะตรวจสอบการท างานของตัวตรวจจับ ( SENSOR ) อยู่ตลอดเวลา และเมื่อใดที่ระบบตรวจพบความผิดปกติเกิดขึ ้นกับตัวตรวจจับ ระบบจะแสดงผลออกมาทางหลอดไฟแสดงความผิดปกติของเครื่องยนต์ ที่อยู่บนหน้าปัดโดยหลอดไฟจะกะพริบเป็ นรหัสปัญหาต่างๆรหัสแสดงความผิดปกติเมื่อเปิ ดสวิทช์กุญแจไปที่ต าแหน่ง " ON " หลอดไฟแสดงความผิดปกติของเครื่องยนต์จะติด 2 วินาทีแล้วดับลง ถ้าระบบตรวจพบความผิดปกติของตัวตรวจจับต่างๆ หลอดไฟแสดงความผิดปกติของเครื่องยนต์จะกะพริบเป็ นรหัสเพื่อแจ้งปัญหาให้ทราบโดยหลอดไฟกะพริบก็ต่อเมื่อสวิทช์กุญแจอยู่ในต าแหน่ง " ON " และเครื่องยนต์มีความเร็วรอบไม่เกิน2,200 รอบต่อนาที ถ้าความเร็วรอบของเครื่องยนต์สูงกว่านี ้หลอดไฟจะติดตลอด และจะกะพริบอีกครั ้งเมื่อความเร็วรอบของเครื่องยนต์ต ่ากว่า 2,200 รอบต่อนาทีระบบจะตรวจสอบเฉพาะปัญหาที่เกิดจากการเปิ ดของวงจร ( OPEN CIRCUIT ) หรือปัญหาที่เกิดจากการลัดวงจร ( SHORT CIRCUIT ) เท่านั ้นและข้อมูลความผิดปกติจะถูกบันทึกไว้ในกล่อง ECM จนกว่าจะมีการลบข้อมูลภายในกล่อง ECM55


รหัสแสดงความผิดปกติจะมีอยู ่ด้วยกัน 2 แบบ คือ รหัสเดี่ยว และรหัสคู ่รหัสเดี่ยวเป็ นการแสดงรหัสข้อขัดข้องแบบ 1 สัญญาณ ( กะพริบสั ้น ) โดยการกะพริบของหลอดไฟแสดงความผิดปกติของเครื่องยนต์ ตามจ านวนครั ้งของรหัสด้วยความถี่ที่เท่ากัน0.3 วินาที0.4 วินาทีรหัสคู ่เป็ นการแสดงรหัสข้อขัดข้องแบบ 2 สัญญาณ ( กะพริบยาว - สั ้น ) โดยการกะพริบของหลอดไฟแสดงความผิดปกติของเครื่องยนต์ ตามจ านวนครั ้งของรหัสด้วยการกะพริบยาว และกะพริบสั ้นสลับกันรหัส 71.3 วินาที0.5 วินาที0.3 วินาทีรหัส 1256


ระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ PGM - FIหน่วยตรวจสอบหน่วยควบคุมอุปกรณ์ท างานตัวตรวจจับ• แรงดันในท่อไอดี• ต าแหน่งลิ้นเร่ง• อุณหภูมิอากาศตัวตรวจจับต าแหน่งเพลาข้อเหวี่ยงตัวตรวจจับอุณหภูมิน ้าหล่อเย็นตัวตรวจจับปริมาณออกซิเจนตัวตรวจจับความเร็วรถECMควบคุมการฉีดน ้ามันเชื ้อเพลิงควบคุมการท างานของปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิงควบคุมการท างานของระบบจุดระเบิดควบคุมการท างานของหลอดไฟแสดงความผิดปกติของเครื่องยนต์ควบคุมความเร็วรอบเดินเบาควบคุมการท างานของวาล์วโซลินอยด์ควบคุมการไหลของไอน ้ามันระบบ EVAPหัวฉีดปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิงคอยล์จุดระเบิดหลอดไฟแสดงความผิดปกติของเครื่องยนต์วาล์วควบคุมอากาศรอบเดินเบาวาล์วโซลินอยด์ควบคุมการไหลของไอน ้ามันระบบEVAP57


ตารางแสดงรหัสปัญหา PCX 150รหัสปัญหา จุดที่เกิดปัญหา / สาเหตุ อาการของปัญหารหัส 1 ตัวตรวจจับแรงดันสัมบูรณ์ในท่อไอดีท างานบกพร่อง • เครื่องยนต์ท างานได้ตามปกติMAP sensor • หน้าสัมผัสที่ขั ้วต่อของตัวตรวจจับแรงดันสัมบูรณ์ในท่อไอดีหลวมหรือไม่ดี• ตัวตรวจจับแรงดันสัมบูรณ์ในท่อไอดีหรือวงจรของตัวตรวจจับแรงดันสัมบูรณ์ในท่อไอดีท างานบกพร่องรหัส 7 ตัวตรวจจับอุณหภูมิน ้าหล่อเย็นของเครื่องยนต์ • เครื่องยนต์สตาร์ทติดยากที่อุณหภูมิต ่าECT sensor ท างานบกพร่อง• หน้าสัมผัสที่ขั ้วต่อของตัวตรวจจับอุณหภูมิน ้าหล่อเย็นของเครื่องยนต์หลวมหรือไม่ดี• ตัวตรวจจับอุณหภูมิน ้าหล่อเย็นของเครื่องยนต์หรือวงจรท างานบกพร่องรหัส 8 ตัวตรวจจับต าแหน่งลิ้นเร่งท างานบกพร่อง • การเร่งความเร็วของเครื่องยนต์ไม่ดีพอTP sensor • หน้าสัมผัสที่ขั ้วต่อของตัวตรวจจับต าแหน่งลิ้นเร่งหลวมหรือไม่ดี• ตัวตรวจจับต าแหน่งลิ้นเร่งหรือวงจรของตัวตรวจจับต าแหน่งลิ้นเร่งท างานบกพร่องรหัส 9 ตัวตรวจจับอุณหภูมิอากาศท างานบกพร่อง • เครื่องยนต์ท างานได้ตามปกติIAT sensor • หน้าสัมผัสที่ขั ้วต่อของตัวตรวจจับอุณหภูมิอากาศหลวมหรือไม่ดี• ตัวตรวจจับอุณหภูมิอากาศหรือวงจรของตัวตรวจจับอุณหภูมิอากาศท างานบกพร่องรหัส 11 ตัวตรวจจับความเร็วของรถท างานบกพร่อง • เครื่องยนต์ท างานได้ตามปกติVS sensor • หน้าสัมผัสที่ขั ้วต่อของตัวตรวจจับความเร็วของรถ • ระบบหยุดการท างานของเครื่องยนต์หลวมหรือไม่ดี ในรอบเดินเบาไม่ท างาน• ตัวตรวจจับความเร็วของรถหรือวงจรของตัวตรวจจับความเร็วของรถท างานบกพร่อง58


ตารางแสดงรหัสปัญหา PCX 150รหัสปัญหา จุดที่เกิดปัญหา / สาเหตุ อาการของปัญหารหัส 12 หัวฉีดท างานบกพร่อง • เครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติดInjector • หน้าสัมผัสที่ขั ้วต่อของหัวฉีดหลวมหรือไม่ดี • หัวฉีดไม่ท างาน• หัวฉีดหรือวงจรของหัวฉีดท างานบกพร่อง • ปั๊มน ้ามันเชื ้อเพลิงไม่ท างาน• ระบบจุดระเบิดไม่ท างานรหัส 21 ตัวตรวจจับปริมาณออกซิเจนท างานบกพร่อง • เครื่องยนต์ท างานได้ตามปกติO 2 sensor • หน้าสัมผัสที่ขั ้วต่อของตัวตรวจจับปริมาณออกซิเจนหลวมหรือไม่ดี• ตัวตรวจจับปริมาณออกซิเจนหรือวงจรของตัวตรวจจับปริมาณออกซิเจนท างานบกพร่องรหัส 29 ชุดวาล์วควบคุมอากาศรอบเดินเบาท างานบกพร่อง • เครื่องยนต์ติดขัด สตาร์ทติดยากIACV • หน้าสัมผัสที่ขั ้วต่อของชุดวาล์วควบคุมอากาศ เดินเบาไม่เรียบรอบเดินเบาหลวมหรือไม่ดี• ชุดวาล์วควบคุมอากาศรอบเดินเบาหรือวงจรของชุดวาล์วควบคุมอากาศรอบเดินเบาท างานบกพร่องรหัส 52 ตัวตรวจจับต าแหน่งเพลาข้อเหวี่ยงท างานบกพร่อง • เครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติดCKP sensor • หน้าสัมผัสที่ขั ้วต่อของตัวตรวจจับต าแหน่งเพลาข้อเหวี่ยงหลวมหรือไม่ดี• ตัวตรวจจับต าแหน่งเพลาข้อเหวี่ยงหรือวงจรของตัวตรวจจับต าแหน่งเพลาข้อเหวี่ยงท างานบกพร่อง• ระบบจุดระเบิดไม่ท างาน59


เปรียบเทียบอุปกรณ์รถจักรยานยนต์รุ ่น PCX 125 กับ PCX 150ชิ้นส่วน / รายละเอียด PCX 125 ชิ้นส่วน / รายละเอียด PCX 150เครื่องยนต์ ( Engine) เครื่องยนต์ ( Engine)แตกต่างกันที่จุดยึดกับโครงรถ• ขนาด 125 ซี.ซี.• ระบายความร้อนด้วยน ้า• ขนาด 150 ซี.ซี.• ระบายความร้อนด้วยน ้าลูกสูบ ( Piston ) ลูกสูบ ( Piston )• เส้นผ่าศูนย์กลางภายนอกลูกสูบ 52.370 - 52.390 มม. • เส้นผ่าศูนย์กลางภายนอกลูกสูบ 57.970 - 57.990 มม.กระเดื่องวาล์ว (Rocker arm) กระเดื่องวาล์ว (Rocker arm)ลูกปื นเข็ม• ไม่มีลูกปื นที่แกนกระเดื่องวาล์ว • มีลูกปื นที่แกนกระเดื่องวาล์วฝาสูบ ( Cylinder head ) ฝาสูบ ( Cylinder head )• ฝาสูบ ออกแบบช่องทางระบายอากาศแบบใหม่เพื่อลดแรงดันและความร้อน• พอร์ทไอดีออกแบบใหม่ ช่วยให้อากาศไหลเร็วขึ ้น60


เปรียบเทียบอุปกรณ์รถจักรยานยนต์รุ ่น PCX 125 กับ PCX 150เสื ้อสูบ (Cylinder )ชิ้นส่วน / รายละเอียด PCX 125 ชิ้นส่วน / รายละเอียด PCX 150เสื ้อสูบ (Cylinder )• ปลอกเสื ้อสูบ แบบผิวเรียบ• ปริมาตรกระบอกสูบ 124.9 ลูกบาศก์เซ็นติเมตร• ปลอกเสื ้อสูบ ออกแบบใหม่ให้มีผิวขรุขระเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนให้ดียิ่งขึ ้น• ปริมาตรกระบอกสูบ 152.9 ลูกบาศก์เซ็นติเมตรพูลเลย์ขับ ( Drive pulley face ) พูลเลย์ขับ ( Drive pulley face )• พูลเลย์ขับเป็ นแบบ Sirocco• พูลเลย์ขับออกแบบใหม่ใหญ่กว่าเดิม เป็ นใบพัดแบบ Turboเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ ้นชุดสปริงที่หน้าสัมผัสพูลเลย์ตาม ( Driven face spring) ชุดสปริงที่หน้าสัมผัสพูลเลย์ตาม ( Driven face spring)• ความยาวอิสระของสปริง 151.1 มม.• ค่าจ ากัดการซ่อม 146.6 มม.• ความยาวอิสระของสปริงประมาณ 150.81 มม.• ค่าจ ากัดการซ่อม 103.1 มม.เรือนลิ้นเร่ง (Throttle body)เรือนลิ้นเร่ง (Throttle body)• ขนาดของคอคอด 24 มม.• ขนาดของคอคอด 26 มม.61


เปรียบเทียบอุปกรณ์รถจักรยานยนต์รุ ่น PCX 125 กับ PCX 150ชิ้นส่วน / รายละเอียด PCX 125 ชิ้นส่วน / รายละเอียด PCX 150ท่อไอดี ( Intake Pipe)ท่อไอดี ( Intake Pipe)• ขนาดสั ้นกว่า และ ด้านหน้ามีโอริงฉนวนท่อไอดี ( Insulator)ด้านหน้าด้านหลัง• ขนาดยาวกว่ามีท่อต่อกับโซลินอยด์ ควบคุมการก าจัดไอระเหยน ้ามันเชื ้อเพลิง และด้านหน้าไม่มีโอริงฉนวนท่อไอดี ( Insulator)เดือย ด้านหน้า ด้านหลังมีตัวเลขไม่มีตัวเลขโอริง• มีโอริงด้านหน้า และมีเดือยอยู ่ด้านหลัง (ขนาดใหญ่)ไส้กรองอากาศ ( Air Filter)โอริงโอริง• มีโอริงด้านหน้าและด้านหลัง (ขนาดใหญ่)ไส้กรองอากาศ ( Air Filter)• กรองกระดาษแบบเปี ยก (วิสกัส)ค าเตือน : 1. ห้ามท าความสะอาดไส้กรองอากาศ ค าเตือน : 1. ห้ามท าความสะอาดไส้กรองอากาศ2. เปลี่ยนทุกๆ 16,000 กิโลเมตร 2. เปลี่ยนทุกๆ 16,000 กิโลเมตรกรองบ าบัดไอระเหยน ้ามันเชื ้อเพลิง ( Evap Canister )X• ไม่มีกรองบ าบัดไอระเหยน ้ามันเชื ้อเพลิง• กรองกระดาษแบบเปี ยก (วิสกัส)กรองบ าบัดไอระเหยน ้ามันเชื ้อเพลิง ( Evap Canister )• มีกรองบ าบัดไอระเหยน ้ามันเชื ้อเพลิง ติดตั ้งบนถังน ้ามันเชื ้อเพลิงด้านหน้า62


เปรียบเทียบอุปกรณ์รถจักรยานยนต์รุ ่น PCX 125 กับ PCX 150ชิ้นส่วน / รายละเอียด PCX 125 ชิ้นส่วน / รายละเอียด PCX 150โซลินอยด์ควบคุมการก าจัดไอระเหยน ้ามันเชื ้อเพลิง โซลินอยด์ควบคุมการก าจัดไอระเหยน ้ามันเชื ้อเพลิงX• ไม่มีโซลินอยด์ควบคุมการก าจัดไอระเหยน ้ามันเชื ้อเพลิงไส้กรองน ้ำมันเชื ้อเพลิง (Fuel Filter)• มีโซลินอยด์ควบคุมการก าจัดไอระเหยน ้ามันเชื ้อเพลิงติดตั ้งอยู ่บนถังน ้ามันเชื ้อเพลิงไส้กรองน ้ำมันเชื ้อเพลิง (Fuel Filter)• สำมำรถกรองสิ่งสกปรกขนำดตั ้งแต่ 10 ไมครอนขึ ้นไป • สำมำรถกรองสิ่งสกปรกขนำดตั ้งแต่ 10 ไมครอนขึ ้นไป• ไม่สำมำรถเปลี่ยนไส้กรองน ้ำมันเชื ้อเพลิงได้ • ก ำหนดเปลี่ยนไส้กรองทุกๆ 48,000 กิโลเมตรหัวฉีด (Injector)หัวฉีด (Injector)• แบบ 6 รู• แบบ 6 รู• หัวฉีดมีขนาดเล็กกว่าและใช้แทนกันกับรุ่น PCX 125 ไม่ได้กล่องควบคุมกำรท ำงำนของเครื่องยนต์ ( ECM ) กล่องควบคุมกำรท ำงำนของเครื่องยนต์ ( ECM )• รหัสกล่อง ECM KWNA - 901 - TH 01• ขั ้วต่อของกล่อง ECM มีจ านวน 33 ขั ้ว ( ขั ้วต่อ 33P )• รหัสกล่อง ECM KZYA - 701 - TH 11• ขั ้วต่อของกล่อง ECM มีจ านวน 33 ขั ้ว ( ขั ้วต่อ 33P )63


เปรียบเทียบอุปกรณ์รถจักรยานยนต์รุ ่น PCX 125 กับ PCX 150ชิ้นส่วน / รายละเอียด PCX 125 ชิ้นส่วน / รายละเอียด PCX 150เรคกูเรเตอร์/เรคติไฟเออร์ ( Regulator/Rectifier)เรคกูเรเตอร์/เรคติไฟเออร์ ( Regulator/Rectifier)• อยู ่ร่วมกับกล่อง ECM (ขั ้วต่อ 33P)• อยู ่ร่วมกับกล่อง ECM (ขั ้วต่อ 33P)ท่อน ้ำมันเชื ้อเพลิง ( Fuel Feed Hose)ท่อน ้ำมันเชื ้อเพลิง ( Fuel Feed Hose)• แบบข้อต่อเร็ว• แบบข้อต่อเร็ว• ขนำดยำวกว่ำ• ท่อน ้ำมันเชื ้อเพลิงใช้แทนกันไม่ได้• คลิ๊ปล๊อค• ท่อน ้ำมันเชื ้อเพลิงใช้แทนกันไม่ได้• คลิ๊ปล๊อคออกแบบใหม่64


PGM-FI SYSTEM DIAGRAM65


วงจรไฟฟ้ าขณะสตาร์ทเครื่อง1. เอาขาตั ้งข้างขึ ้น เป็ นการต่อวงจรกราวนด์ของกล่อง ECM2. เปิ ดสวิทช์จุดระเบิดไฟจากแบตเตอรี่ สายสีแดง ไหลผ่านฟิ วส์หลักตัวที่ 1 (10 A) ออกมา สายสีแดง/ขาวเข้าสวิทช์จุดระเบิด ออกมา สายสีด า/ขาว แยกออกเป็ น 2 ทางทางที่ 1 เข้าไปเลี ้ยงกล่อง ECM และขดลวดรีเลย์สตาร์ท/ไฟชาร์จ ออกจากรีเลย์ สายสีเหลือง มารอลงกราวนด์ที่กล่อง ECMทางที่ 2 เข้าขดลวดรีเลย์หลัก ออกจากรีเลย์ลงกราวนด์ ครบวงจรเกิดสนามแม่เหล็กดูดหน้าคอนแทคให้ต่อกัน ท าให้ไฟที่มาจากฟิ วส์หลักตัวที่ 2 (20A) สายสีแดง/ขาว ไหลผ่านหน้าคอนแทคออกมาสายสีแดง/ด า เข้าไปที่ฟิ วส์ไฟสัญญาณ 10A ออกจากฟิ วส์ สายสีด า/น ้าตาล เข้าสวิทช์ INHIBITORเมื่อบีบเบรกด้านซ้ายไฟก็จะไหลผ่านสวิทช์ออกมา สายสีชมพู เข้าไปที่สวิทช์สตาร์ท เมื่อกดสวิทช์สตาร์ทไฟก็จะไหลผ่านสวิทช์ออกมา สายสีเหลือง/เขียว เข้ากล่อง ECM3. เมื่อได้รับสัญญาณจากสวิทช์ไฟเบรก กล่อง ECM จะสั่งให้ไฟที่มาจากขดลวดรีเลย์สตาร์ท/ไฟชาร์จสายสีเหลือง ลงกราวนด์ และเกิดสนามแม่เหล็กที่รีเลย์ ดูดหน้าคอนแทคของรีเลย์ให้ต่อกัน ท าให้ไฟที่มาจากขั ้วบวกของแบตเตอรี่ สายสีแดง ไหลผ่านหน้าคอนแทคของรีเลย์ออกมา สายสีแดง/เหลืองเข้ากล่อง ECM ผ่านวงจร FET เพื่อแปลงไฟกระแสตรงให้เป็ นกระแสสลับแบบสามเฟส ส่งไปที่ขดลวด Alternator/Starter ท าให้เกิดสนามแม่เหล็กไปดูด และผลักกับแม่เหล็กถาวรที่ล้อแม่เหล็ก ล้อแม่เหล็กหมุนสตาร์ทเครื่องยนต์ได้66


วงจรไฟฟ้ าขณะชาร์จไฟ1. เมื่อเครื่องยนต์ท างานเพลาข้อเหวี่ยงจะเป็ นตัวขับล้อแม่เหล็กให้หมุนตัดกับชุดขดลวด Alternator/Starterท าให้เกิดไฟฟ้ ากระแสสลับแบบ 3 เฟสขึ ้น ส่งมาที่กล่อง ECM ผ่านวงจร FET แปลงไฟจากไฟกระแสสลับให้เป็ นไฟกระแสตรง2. ไฟกระแสตรง ออกจากกล่อง ECM สายสีแดง/เหลือง เข้าไปที่หน้าคอนแทคของรีเลย์สตาร์ท/ไฟชาร์จผ่านหน้าคอนแทคของรีเลย์ ออกมา สายสีแดง/ด า เข้าหน้าคอนแทคของรีเลย์หลัก ออกมา สายสีแดง/ขาวเข้าฟิ วส์หลักตัวที่ 2 (20A) ออกมา สายสีแดง เข้าไปชาร์จให้กับแบตเตอรี่ และเลี ้ยงระบบไฟฟ้ าทั ้งหมด67


วงจรไฟฟ้ า68


บันทึกเพิ่มเติม


S 600010042012PRINTED IN THAILAND

Hooray! Your file is uploaded and ready to be published.

Saved successfully!

Ooh no, something went wrong!