B-19 - AS Nida
B-19 - AS Nida
B-19 - AS Nida
Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
2.2 Vendor managed inventory in<br />
Healthcare<br />
การประชุมวิชาการด้านการวิจัยด าเนินงาน<br />
แห่งชาติ ประจ าปี 2555<br />
วันที่<br />
6-7 กันยายน 2555 ณ โรงแรม พูลแมน บางกอก คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ<br />
วัตถุประสงค์หลักในการจัดการคลังสินค้า<br />
ในโรงพยาบาล ก็คือ ลดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจาก<br />
การด าเนินงานภายในคลังยา ในขณะเดียวกัน<br />
ต้องไม่ส่งผลกระทบท าให้ระดับการให้บริการ<br />
ค น ไ ข้ ล ด ต่ า ล ง [ 9] แ ต่ ท ว่ า ก า ร ตั ด สิ น ใ จ<br />
เปรียบเทียบระหว่างค่าใช้จ่ายและระดับความ<br />
ต้องการในโรงพยาบาลยากและซับซ้อนกว่าใน<br />
อุตสาหกรรมการผลิตทั่วไป<br />
เพราะผลกระทบที่<br />
เกิดจากการบริหารจัดการและตัดสินใจที่<br />
ผิดพลาดจะส่งผลร้ายแรงอย่างมาก ไม่ว่าจะเกิด<br />
ปัญหาการขาดแคลนยาที่หมายถึงการเสียชีวิต<br />
ของผู้ป่วย<br />
หรือการที่เก็บยาในคลังมากเกินไป<br />
ก็<br />
จะท าให้โรงพยาบาลต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่าย<br />
มากเกินความจ าเป็น [10]<br />
Mustaffa และ Potter (2009) [11]<br />
ท าการศึกษาและเปรียบเทียบ เพื่อหาวิธีที่<br />
เหมาะสมส าหรับการพัฒนาการบริหารจัดการ<br />
สินค้าคงคลังในโรงพยาบาล ก็คือ Just-in-time,<br />
Stockless และ VMI เนื่องจากทั้ง<br />
3 วิธี<br />
เหมาะสมกับองค์กรที่ความต้องการลูกค้ามีความ<br />
แปรปรวนสูงและพยากรณ์ความต้องการท าได้<br />
ยาก จากนั้นได้ท<br />
าการเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย<br />
ของแต่ละวิธี พบว่า VMI เป็นวิธีที่ดีที่สุดส<br />
าหรับ<br />
การจัดการสินค้าคงคลังในโรงพยาบาล เพราะ<br />
ท าให้เกิดเหตุการณ์ขาดแคลนยาต่าที่สุด<br />
ซึ่งเป็น<br />
เงื่อนไขที่ส<br />
าคัญต่อการจัดการสินค้าคงคลังใน<br />
โรงพยาบาล<br />
แต่ทว่าการตัดสินใจในส่วนของจ านวนเติม<br />
เต็มยาของโรงพยาบาล เป็นซึ่งเรื่องที่ยุ่งยากและ<br />
ซับซ้อนอย่างมาก ต้องอาศัยข้อมูลอัตราการใช้<br />
ยาในอดีต ร่วมกับการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่<br />
จัดซื้อทางโรงพยาบาล<br />
จะช่วยให้การค านวน<br />
จ านวนเติมเต็มยาแม่นย าและน่าเชื่อถือเพิ่มมาก<br />
ขึ้น<br />
[12-13] ซึ่งความแม่นย<br />
าในการค านวนจะ<br />
ขึ้นอยู่กับ<br />
ข้อมูลที่ใกล้เคียงความเป็นจริง<br />
เจ้าหน้าที่มีทักษะและประสบการณ์ท<br />
างานมาเป็น<br />
เวลานาน ดังนั้นถ้าต้องการให้<br />
VMI ประสบ<br />
ความส าเร็ จ จึงจ าเป็นต้องหา วิธีการแล ะ<br />
เครื่องมือในการจ<br />
าลองกระบวนการคิดของ<br />
เจ้าหน้าที่จัดซื้อ<br />
เพื่อช่วยตัดสินใจว่าควรซื้อยา<br />
จ านวนเท่าไรและเมื่อไร<br />
จึงเหมาะสมในแต่ละ<br />
สถานการณ์มากที่สุด<br />
[14-15]<br />
2.3 ตรรกะศาสตร์แบบคลุมเครือ<br />
ตรรกะศาสตร์คลุมเครือ (Fuzzy logic) เป็น<br />
เครื่องมือที่ช่วยในการตัดสินใจภายในใต้ความ<br />
ไม่แน่นอนของข้อมูล โดยเป็นตรรกะที่มีความ<br />
ยืดหยุ่นสูง<br />
ไม่มีข้อจ ากัดในทางสถิติ และใช้หลัก<br />
เหตุผลที่คล้ายกับการจ<br />
าลองวิธีคิดที่ซับซ้อนของ<br />
มนุษย์ ตรรกะศาสตร์คลุมเครือมีลักษณะที่พิเศษ<br />
กว่าตรรกะศาสตร์จริงเท็จ (Boolean logic) คือ<br />
เป็นแนวคิดที่มีการขยายในส่วนของความจริง<br />
(Partial true) โดยค่าอยู่ในช่วงระหว่างจริง<br />
(Completely true) กับเท็จ (Completely false)<br />
ส่วนตรรกะศาสตร์จริงเท็จจะมีค่าเป็นจริงกับเท็จ<br />
เท่านั้น<br />
(ดังรูปที่<br />
1)<br />
รูปที่<br />
1 ตรรกะจริงเท็จกับตรรกะคลุมเครือ<br />
รูปที่<br />
2 โครงสร้างของรูปแบบตรรกะคลุมเครือ<br />
โครงสร้างของการประมวลผลตรรกะศาสตร์<br />
แบบคลุมเครือ (ดังรูปที่<br />
2) แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ<br />
2.3.1 กระบวนการฟัซซีฟิเคชั่น<br />
(Fuzzification)<br />
เป็นขั้นตอนก<br />
าหนดค่าความเป็นสมาชิกของตัว<br />
แปรที่ใช้<br />
โดยการแทนตัวแปรแบบฟัซซีด้วย<br />
ฟังก์ชันความเป็นสมาชิก