99201-3
99201-3 99201-3
3-6 วิทยาศาสตร์ส าหรับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ที่มา: Chang Raymond and Overby Jason, 2011. ภาพที่ 3.1 ตัวอย่างการเปลี่ยนสถานะของน ้า ในปัจจุบันมีการแบ่งสถานะของสารเพิ ่มมาเป็นสถานะที ่ 4 คือพลาสมา เป็นสถานะที ่ยังไม่คุ้นเคยมากนัก เนื ่องจากส่วนใหญ่เป็นสถานะที ่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าทางฟิสิกส์ โดยสถานะพลาสมาคือ แก๊สที ่มีสภาพเป็นไอออน เกิดจากการได้รับพลังงานที ่มากพอจนท าให้อิเล็กตรอนหลุดออกจากอะตอมเกิดเป็นไอออนบวกและลบ จึงเกิดประจุ ไฟฟ้าอิสระบนอะตอม ท าให้สถานะพลาสมามีสภาพน าไฟฟ้า แบบจ าลองอนุภาคของสารทั้ง 4 สถานะเมื ่อมีการให้พลังงานเพิ ่มขึ ้นแสดงดังภาพที ่ 3.2 (ก) ของแข็ง (ข) ของเหลว (ค) แก๊ส (ง) พลาสมา ภาพที่ 3.2 แบบจ าลองอนุภาคของสารทั ้ง 4 สถานะเมื่อมีการให้พลังงานเพิ่มขึ้น
้ เคมีพื ้นฐาน 3-7 2. การแบ่งประเภทตามลักษณะเนื้อสาร เป็นการจ าแนกประเภทของสารโดยใช้ลักษณะเนื ้อสารและขนาด ของอนุภาคสารเป็นเกณฑ์ สามารถท าการจ าแนกเบื ้องต้นได้จากการสังเกตและการมองเห็นจากลักษณะทางกายภาพ เช่น พื ้นผิว สี สถานะของสาร เป็นต้น ซึ ่งแบ่งสารเป็น 2 ส่วน คือ สารเนื ้อเดียว (homogeneous mixture) และ สารเนื ้อผสม (heterogeneous mixture) ดังแสดงในภาพที ่ 3.3 ภาพที่ 3.3 แสดงการแบ่งชนิดของสารตามเนื้อสาร 2.1 สารเนื้อเดียว หมายถึง สารที ่มีสมบัติเหมือนกันตลอดทุกส่วน ซึ ่งอาจมีส่วนประกอบเป็นสาร เพียงชนิดเดียวหรือมากกว่าหนึ ่งชนิดผสมกันอยู่อย่างกลมกลืน และมองเห็นเป็นเนื ้อเดียวกัน พบได้ทั้ง 3 สถานะ ดังนี 1) สารเนื ้อเดียวสถานะของแข็ง เช่น เหล็ก ทองค า ทองแดง หินปูน เกลือแกง เป็นต้น 2) สารเนื ้อเดียวสถานะของเหลว เช่น น ้าเกลือ น ้าอัดลม น ้าเชื ่อม น ้านม เป็นต้น 3) สารเนื ้อเดียวสถานะแก๊ส เช่น อากาศ แก๊สหุงต้ม แก๊สออกซิเจน เป็นต้น ซึ ่งเมื ่อแบ่งสารเนื ้อเดียวตามส่วนประกอบภายในสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ (1) สารบริสุทธิ ์ หมายถึง สารเนื ้อเดียวที ่ประกอบด้วยสารเพียงชนิดเดียว ได้แก่ ธาตุ (element) และสารประกอบ (compound) ก. ธาตุ หมายถึง สารบริสุทธิ ์เนื ้อเดียวที ่ไม่สามารถแยกเป็นสารใหม่ต่อไปได้อีก เมื ่อแบ่ง ตามสมบัติทางกายภาพของธาตุสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ โลหะ กึ ่งโลหะ และอโลหะ โดยแต่ละประเภทมี สมบัติดังนี ้
- Page 1 and 2: หน่วยที่ 3 เค
- Page 3 and 4: เคมีพื ้นฐาน
- Page 5: ้ เคมีพื ้นฐา
- Page 9 and 10: เคมีพื ้นฐาน
- Page 11 and 12: เคมีพื ้นฐาน
- Page 13 and 14: เคมีพื ้นฐาน
- Page 15 and 16: ้ เคมีพื ้นฐา
- Page 17 and 18: ้ ่ เคมีพื ้น
- Page 19 and 20: เคมีพื ้นฐาน
- Page 21 and 22: ้ ้ ่ เคมีพื ้
- Page 23 and 24: ้ เคมีพื ้นฐา
- Page 25 and 26: ้ เคมีพื ้นฐา
- Page 27 and 28: เคมีพื ้นฐาน
- Page 29 and 30: เคมีพื ้นฐาน
- Page 31 and 32: เคมีพื ้นฐาน
- Page 33 and 34: ้ ่ ่ เคมีพื ้
- Page 35 and 36: เคมีพื ้นฐาน
- Page 37 and 38: ้ เคมีพื ้นฐา
- Page 39 and 40: เคมีพื ้นฐาน
- Page 41 and 42: เคมีพื ้นฐาน
- Page 43 and 44: เคมีพื ้นฐาน
- Page 45 and 46: เคมีพื ้นฐาน
- Page 47 and 48: ้ เคมีพื ้นฐา
- Page 49 and 50: เคมีพื ้นฐาน
- Page 51 and 52: ้ ้ เคมีพื ้น
- Page 53 and 54: ้ เคมีพื ้นฐา
- Page 55 and 56: ่ เคมีพื ้นฐา
3-6 วิทยาศาสตร์ส าหรับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร<br />
ที่มา: Chang Raymond and Overby Jason, 2011.<br />
ภาพที่ 3.1 ตัวอย่างการเปลี่ยนสถานะของน ้า<br />
ในปัจจุบันมีการแบ่งสถานะของสารเพิ ่มมาเป็นสถานะที ่ 4 คือพลาสมา เป็นสถานะที ่ยังไม่คุ้นเคยมากนัก<br />
เนื ่องจากส่วนใหญ่เป็นสถานะที ่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าทางฟิสิกส์ โดยสถานะพลาสมาคือ แก๊สที ่มีสภาพเป็นไอออน<br />
เกิดจากการได้รับพลังงานที ่มากพอจนท าให้อิเล็กตรอนหลุดออกจากอะตอมเกิดเป็นไอออนบวกและลบ จึงเกิดประจุ<br />
ไฟฟ้าอิสระบนอะตอม ท าให้สถานะพลาสมามีสภาพน าไฟฟ้า<br />
แบบจ าลองอนุภาคของสารทั้ง 4 สถานะเมื ่อมีการให้พลังงานเพิ ่มขึ ้นแสดงดังภาพที ่ 3.2<br />
(ก) ของแข็ง (ข) ของเหลว (ค) แก๊ส (ง) พลาสมา<br />
ภาพที่ 3.2 แบบจ าลองอนุภาคของสารทั ้ง 4 สถานะเมื่อมีการให้พลังงานเพิ่มขึ้น