การอนุรักษ์พลังงานด้านการขนส่ง (Energy in Transport)

การอนุรักษ์พลังงานด้านการขนส่ง (Energy in Transport) การอนุรักษ์พลังงานด้านการขนส่ง (Energy in Transport)

11.07.2015 Views

่ ⌫ จากภาวะวิกฤตราคาน้ำมันในตลาดโลกที ่มีความผันผวนและราคายังคงสูงอย่างต่อเนื ่องนั ้น ประเทศไทยก็เป็นประเทศหนึ ่งที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำมันมีราคาแพง เพราะไทยเป็นประเทศที ่ยังต้องนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศในแต่ละปีนับเป็นมูลค่ามหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ ่งคือ น้ำมัน ซึ ่งกว่า 90% ของน้ำมันที่ใช้ในประเทศยังต้องซื้อมาจากนอกประเทศ ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องมีมาตรการรองรับทางด้านพลังงาน ได้แก่การประหยัดพลังงาน การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์จากพลังงานภายในประเทศให้มากที่สุดรวมทั้งการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนอย่างจริงจังในฐานะที ่ “กระทรวงพลังงาน” เป็นองค์กรที ่กำกับดูแลให้เกิดความมั ่นคงด้านพลังงานแก่ประเทศ และส่งเสริมให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในราคาที ่เป็นธรรม ส่งเสริมการแข่งขันระหว่างภาคเอกชน สร้างทางเลือกในการใช้พลังงานแก่ผู้บริโภค รวมทั้งผลักดันให้ประเทศไทยเป็นผู้นำในด้านการอนุรักษ์พลังงานด้วย กองบรรณาธิการจึงขอนำบทสัมภาษณ์ของ นายวิเศษ จูภิบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเกี่ยวกับแผนยุทธศาสตร์พลังงานของไทยในปี 2549 นี้ มาเผยแพร่ต่อท่านผู้อ่านในฉบับนี้ อยากทราบแนวนโยบายด้านพลังงานของรัฐบาลในปี2549 ว่าจะเน้นให้ความสำคัญในเรื่องใด ?รัฐบาลให้ความสำคัญต่อยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาพลังงานของประเทศไทยตามที ่คณะรัฐมนตรีได้มีมติไว้ เมื ่อวันที17 พฤษภาคม 2548 โดยจะยังคงเน้นหนักในเรื ่องของการประหยัดพลังงาน การปรับโครงสร้างการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพการเร่งรัดส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือกหรือพลังงานทดแทนการขยายความร่วมมือกับต่างประเทศในการจัดหาพลังงาน และการสร้างมูลค่าเพิ ่มในทรัพยากรพลังงานโดยส่งเสริมการแข่งขันเสรีผลงานประหยัดพลังงานของไทยในปีที ่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง และรัฐบาลมีนโยบายในเรื่องนี้ต่อไปอย่างไรในปี2549 นี ้ ?รัฐบาลมีความพอใจในผลการประหยัดพลังงานของประเทศโดยรวมในปีที ่เพิ ่งผ่านไปเป็นอันมาก และในปี 2549 นี ้ กระทรวงพลังงานก็จะยังคงสานต่อนโยบายประหยัดพลังงานนี ้อย่างจริงจังและต่อเนื่องต่อไป

่ในปี 2548 ที่ผ่านมา รัฐบาลได้รณรงค์ให้มีการประหยัดพลังงานอย่างจริงจังในโครงการ “รวมพลังไทย ลดใช้พลังงาน” โดยเริ ่มเมื ่อวันที ่ 1 มิถุนายน - ธันวาคม 2548 พบว่า มีการประหยัดพลังงานรวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 34,000 ล้านบาท โดยในภาคการใช้ไฟฟ้าสามารถประหยัดได้ถึง 315 ล้านหน่วย (KW-hour)คิดเป็นค่าพลังงานกว่า 1,070 ล้านบาทนอกจากนี ้ ในภาคอุตสาหกรรมจะเพิ ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานเพื่อลดต้นทุนการผลิตลง และเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน ได้แก่• มีการเปลี ่ยนมาใช้ก๊าซธรรมชาติแทนน้ำมันเตามากขึ ้นในนิคมอุตสาหกรรมมีการส่งเสริมให้ใช้ระบบ CombinedHeat & Power (หรือ Co-Generation) ผลิตทั ้งไฟฟ้าและความร้อนร่วมกัน• การผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็นในระบบ Distributed Generationตามศูนย์การค้าขนาดใหญ่ตามแนวท่อส่งก๊าซ• รวมทั ้งการส่งเสริมระบบ Gas District Cooling เช่น ทีสนามบินสุวรรณภูมิ• การสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนจากกองทุนอนุรักษ์พลังงาน เพื่อให้กลุ่มธุรกิจ SME สามารถลงทุนประหยัดพลังงานหรือใช้พลังงานทดแทน (เช่น พลังงานชีวมวล (Biomass)และก๊าซชีวภาพ (Biogas) เป็นต้น)• เพิ่มเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการอนุรักษ์พลังงานจำนวน2,000 ล้านบาท โดยร่วมมือกับสถาบันการเงินให้กู ้ดอกเบี ้ยต่ำอีก 10,000 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการนำไปปรับปรุงประสิทธิภาพเครื ่องจักรอุปกรณ์การใช้พลังงาน ซึ ่งเป็นที ่ยอมรับของผู้ประกอบการมาก เพราะเป็นการลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มกำไรในการประกอบกิจการอย่างเห็นได้ชัดสิ่งที่ผมอยากจะพูดถึงอีกเรื่องก็คือ ในเรื่องของภาคการขนส่ง ซึ ่งเป็นส่วนที ่ใช้พลังงานมากที ่สุด และเกี ่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของพวกเราทุกคน เราจะต้องพัฒนาระบบมวลชนขนส่ง (Mode of Transportation) เพื ่อให้คนไทยหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มมากขึ้น (Public Transport) เน้นการเปลี ่ยนจากการขนส่งคนจากระบบรถมาเป็นระบบราง ปรับปรุงระบบขนส่งสินค้ามาใช้ทางน้ำและระบบรางให้มากขึ ้น ส่งเสริมขนส่งพลังงานทางท่อ เช่น ท่อน้ำมันและท่อก๊าซ และเปลี ่ยนการใช้เชื ้อเพลิงมาเป็นพลังงานทดแทนให้มากขึ ้นกระทรวงพลังงานหวังเป็นอย่างยิ ่งว่า จากผลการประหยัดพลังงานในทุกภาคส่วนอย่างจริงจัง จะทำให้ภาพรวมของประสิทธิภาพการใช้พลังงานของประเทศไทยดีขึ้น โดยเราตั้งเป้าหมายว่า สัดส่วนอัตราการเพิ่มขึ้นของการใช้พลังงานต่ออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือค่า EnergyElasticity จะลดลงจาก 1.2:1 ในปัจจุบัน เป็น 1:1 หรือต่ำกว่านั ้นภายในอีก 5 ปีข้างหน้าในประเด็นของการเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานรัฐบาลมีนโยบายที่จะดำเนินงานอย่างไร ?ความมั ่นคงทางด้านพลังงานถือเป็นภารกิจหลักของกระทรวงพลังงาน แม้ว่าประเทศไทยเราจะเป็นผู้นำเข้าพลังงานซึ่งส่วนใหญ่เป็นน้ำมันในปีที ่แล้วเป็นมูลค่าถึงกว่า 600,000 ล้านบาท(หรือกว่า 8% ของ GDP) ซึ ่งนับว่าเป็นสถิติที ่สูงมาก นอกจากนั ้น มูลค่าพลังงานที ่เราใช้ในแต่ละปีจะประกอบไปด้วยน้ำมันถึงเกือบครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว ขณะที่น้ำมันที่ไทยเราใช้กว่า 90%ต้อง import เข้ามา ฉะนั้นถ้าราคาน้ำมันยังแพงอยู่เช่นนี้ประกอบกับการบริโภคพลังงานโดยเฉพาะน้ำมันและไฟฟ้าของคนไทยยังเพิ ่มขึ ้นในอัตราสูงอย่างนี ้ต่อไปเรื ่อยๆ ผลที ่จะตามมาก็คือการสูญเสียเงินตราต่างประเทศในการซื ้อพลังงาน ส่งผลต่อการขาดดุลทางการค้า ดังนั ้น เราต้องพยายามสร้างความมั ่นคงให้กับประเทศของเราเอง เพื ่อลดการพึ ่งพาการนำเข้าพลังงานโดยการกำหนดยุทธศาสตร์จัดหาแหล่งพลังงานทั้งในและนอกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาก๊าซธรรมชาติ การผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำและใช้เทคโนโลยีถ่านหินสะอาด รวมทั้งส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนเพิ ่มขึ ้นผมขอเรียนว่า เมื ่อพูดถึงการจัดหาก๊าซธรรมชาตินั ้น ก๊าซธรรมชาติจะยังคงเป็นแหล่งพลังงานที ่สำคัญของประเทศอยู ่ต่อไปตราบใดที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังมีราคาสูง คาดว่าปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติที ่มีอยู ่ในประเทศจะสามารถใช้ได้อีก

่ ⌫ จากภาวะวิกฤตราคาน้ำมันในตลาดโลกที ่มีความผันผวนและราคายังคงสูงอย่างต่อเนื ่องนั ้น ประเทศไทยก็เป็นประเทศหนึ ่งที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำมันมีราคาแพง เพราะไทยเป็นประเทศที ่ยังต้องนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศในแต่ละปีนับเป็นมูลค่ามหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ ่งคือ น้ำมัน ซึ ่งกว่า 90% ของน้ำมันที่ใช้ในประเทศยังต้องซื้อมาจากนอกประเทศ ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องมีมาตรการรองรับทางด้านพลังงาน ได้แก่การประหยัดพลังงาน การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์จากพลังงานภายในประเทศให้มากที่สุดรวมทั้งการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนอย่างจริงจังในฐานะที ่ “กระทรวงพลังงาน” เป็นองค์กรที ่กำกับดูแลให้เกิดความมั ่นคงด้านพลังงานแก่ประเทศ และส่งเสริมให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในราคาที ่เป็นธรรม ส่งเสริมการแข่งขันระหว่างภาคเอกชน สร้างทางเลือกในการใช้พลังงานแก่ผู้บริโภค รวมทั้งผลักดันให้ประเทศไทยเป็นผู้นำในด้านการอนุรักษ์พลังงานด้วย กองบรรณาธิการจึงขอนำบทสัมภาษณ์ของ นายวิเศษ จูภิบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเกี่ยวกับแผนยุทธศาสตร์พลังงานของไทยในปี 2549 นี้ มาเผยแพร่ต่อท่านผู้อ่านในฉบับนี้ อยากทราบแนวนโยบายด้านพลังงานของรัฐบาลในปี2549 ว่าจะเน้นให้ความสำคัญในเรื่องใด ?รัฐบาลให้ความสำคัญต่อยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาพลังงานของประเทศไทยตามที ่คณะรัฐมนตรีได้มีมติไว้ เมื ่อวันที17 พฤษภาคม 2548 โดยจะยังคงเน้นหนักในเรื ่องของการประหยัดพลังงาน การปรับโครงสร้างการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพการเร่งรัดส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือกหรือพลังงานทดแทนการขยายความร่วมมือกับต่างประเทศในการจัดหาพลังงาน และการสร้างมูลค่าเพิ ่มในทรัพยากรพลังงานโดยส่งเสริมการแข่งขันเสรีผลงานประหยัดพลังงานของไทยในปีที ่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง และรัฐบาลมีนโยบายในเรื่องนี้ต่อไปอย่างไรในปี2549 นี ้ ?รัฐบาลมีความพอใจในผลการประหยัดพลังงานของประเทศโดยรวมในปีที ่เพิ ่งผ่านไปเป็นอันมาก และในปี 2549 นี ้ กระทรวงพลังงานก็จะยังคงสานต่อนโยบายประหยัดพลังงานนี ้อย่างจริงจังและต่อเนื่องต่อไป

Hooray! Your file is uploaded and ready to be published.

Saved successfully!

Ooh no, something went wrong!