Power Plant and Substation - สภาวิศวà¸à¸£
Power Plant and Substation - สภาวิศวà¸à¸£
Power Plant and Substation - สภาวิศวà¸à¸£
You also want an ePaper? Increase the reach of your titles
YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.
สาขา: ไฟฟาแขนงไฟฟากําลัง วิชา: EE04 <strong>Power</strong> <strong>Plant</strong> <strong>and</strong> <strong>Substation</strong><br />
ขอที่ : 1<br />
ขอที่ : 2<br />
ขอที่ : 3<br />
ขอที่ : 4<br />
โรงงานมีการใชไฟฟาทั้งหมดในหนึ่งวันเทากับ 4,200 กิโลวัตตตอชั่วโมง โดยทํางานวันละ 15 ชั่วโมง และมีการใชไฟฟาสูงสุด 300 kW ใหหาแฟกเตอรของโหลด (Load factor)<br />
คําตอบ 1 : 0.56<br />
คําตอบ 2 : 0.58<br />
คําตอบ 3 : 0.93<br />
คําตอบ 4 : 0.47<br />
โหลดสองชุดมีการใชไฟฟาสูงสุดรวม 300 kW ดังนี้ โหลดชุด1 มีการใชไฟฟาสูงสุด 200 kW ใชพลังงานไฟฟา 3,120 kWh/วัน โหลดชุด 2 มีการใชไฟฟาสูงสุด 150 kW ใช<br />
พลังงานไฟฟา 2,400 kWh/วัน ใหหาโหลดแฟกเตอรของโหลดรวม<br />
คําตอบ 1 : 0.77<br />
คําตอบ 2 : 0.86<br />
คําตอบ 3 : 0.66<br />
คําตอบ 4 : 0.58<br />
โหลดแฟกเตอร (Load factor) คือ<br />
คําตอบ 1 : กําลังไฟฟาเฉลี่ย / กําลังไฟฟาสูงสุด<br />
คําตอบ 2 : กําลังไฟฟาสูงสุด / กําลังไฟฟาทั้งหมดที่ตออยู<br />
คําตอบ 3 : กําลังไฟฟาเฉลี่ย / กําลังไฟฟาทั้งหมดที่ตออยู<br />
คําตอบ 4 : กําลังไฟฟาต่ําสุด / กําลังไฟฟาเฉลี่ย<br />
มีการใชกําลังไฟฟาในหนึ่งวันเปนดังนี้ 12 MW ใชนาน 4 ชม., 10 MW ใชนาน 4 ชม., 8 MW ใชนาน 6 ชม., 15 MW ใชนาน 8 ชม., 6 MW ใชนาน 2 ชม. ใหหาโหลดแฟกเตอร<br />
ของการใชกําลังไฟฟาขางตน<br />
คําตอบ 1 : 0.4<br />
คําตอบ 2 : 0.74<br />
คําตอบ 3 : 0.54<br />
คําตอบ 4 : 0.5<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
1 of 237<br />
ขอที่ : 5
โหลดแฟกเตอร (Load factor) มีประโยชนอะไร ใหเลือกคําตอบที่เหมาะสมที่สุด<br />
คําตอบ 1 : ทําใหทราบวามีกําลังไฟฟาเหลือจายมากนอยเพียงใด<br />
คําตอบ 2 : ทําใหทราบวาระบบมีการใชกําลังไฟฟาเหมาะสมและมีประสิทธิภาพหรือไมจากแหลงจายที่มี<br />
คําตอบ 3 : ทําใหทราบวาโหลดมีคาสูงสุดเปนอยางไร<br />
คําตอบ 4 : ทําใหทราบวาควรออกแบบขนาดสายสงหรือตัวนําอยางไร<br />
2 of 237<br />
ขอที่ : 6<br />
การพยากรณโหลดแบบระยะยาวคือครอบคลุมระยะเวลาถึง 20 ปมีไวเพื่ออะไร<br />
คําตอบ 1 : ตระเตรียมงบประมาณ<br />
คําตอบ 2 : เลือกขนาดของโรงจักร<br />
คําตอบ 3 : จัดหาแหลงพลังงาน<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขอที่ : 7<br />
ขอที่ : 8<br />
พารามิเตอรตัวใดตอไปนี้สงผลกระทบโดยตรงตอตนทุนตอหนวยการผลิตกระแสไฟฟา<br />
คําตอบ 1 : Dem<strong>and</strong> Factor<br />
คําตอบ 2 : Load Factor<br />
คําตอบ 3 : Diversity Factor<br />
คําตอบ 4 : Maximum Dem<strong>and</strong><br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
จากขอมูลการใชไฟฟาในอดีตที่แสดงในตาราง ถาไมมีปจจัยอื่นมากระทบ จงพยากรณวาในป 2010 นาจะมีการใชปริมาณไฟฟามากนอยเพียงไร
3 of 237<br />
ขอที่ : 9<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
1,500 MW<br />
1,800 MW<br />
2,200 MW<br />
2,600 MW<br />
ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับ Load factor, <strong>Plant</strong> capacity factor และ <strong>Plant</strong> use factor<br />
คําตอบ 1 : ตัวเศษของตัวประกอบทั้ง 3 เปนคาเดียวกัน<br />
คําตอบ 2 : <strong>Plant</strong> capacity factor < Load factor < <strong>Plant</strong> use factor<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 3 : ถา <strong>Plant</strong> use factor ทีคามากในขณะที่ Load factor มีคานอยแสดงวาแตละเครื่องทํางานเต็มประสิทธิภาพแตจะมีบางเครื่องไมถูกใชงาน<br />
คําตอบ 4 : การเลือกขนาดและจํานวนของเครื่องจักรจะพิจารณาจาก Load factor เปนหลัก<br />
ขอที่ : 10<br />
สมการในขอใดตอไปนี้ไมถูกตอง
4 of 237<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :
5 of 237<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 3 :
6 of 237<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 4 :
7 of 237<br />
ขอที่ : 11<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
จาก Load Curve ที่กําหนดให จงหา Load Factor
8 of 237<br />
ขอที่ : 12<br />
คําตอบ 1 : 0.3<br />
คําตอบ 2 : 0.4<br />
คําตอบ 3 : 0.5<br />
คําตอบ 4 : 0.6<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
จากแผนภาพที่กําหนดให ถาระหวางผูบริโภคมีคา Diversity factor = 1.5 และระหวางหมอแปลงมีคา Diversity factor = 1.2 จงหาขนาดโหลดของ Feeder F1
9 of 237<br />
ขอที่ : 13<br />
คําตอบ 1 : 200 kW<br />
คําตอบ 2 : 230 kW<br />
คําตอบ 3 : 275 kW<br />
คําตอบ 4 : 393 kW<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
จาก Load curve ขางตนที่กําหนดให ถาเลือกโรงไฟฟาขนาด 1,000 kW 2 เครื่องและ 500 kW 1 เครื่อง โดยตองใชเครื่องกําเนิดไฟฟาสํารองขนาด 1,000 kW จงหา <strong>Plant</strong><br />
capacity factor
10 of 237<br />
ขอที่ : 14<br />
คําตอบ 1 : 42.57 %<br />
คําตอบ 2 : 48.57 %<br />
คําตอบ 3 : 53.33 %<br />
คําตอบ 4 : 68 %<br />
ขอใดคือความหมายของ Load Factor<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 3 :
11 of 237<br />
คําตอบ 4 :<br />
ถูกทั้งคําตอบ 1 และ 2<br />
ขอที่ : 15<br />
ขอใดคือความหมายของ Diversity factor<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 : ถูกทั้งคําตอบ 1 และ 2<br />
ขอที่ : 16<br />
ขอใดคือความหมายของ <strong>Plant</strong> capacity factor<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 4 :
12 of 237<br />
ขอที่ : 17<br />
ขอใดคือความหมายของ <strong>Plant</strong> use factor<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ขอที่ : 18<br />
Load curve เปนกราฟที่ Plot ระหวาง<br />
คําตอบ 1 : Load dem<strong>and</strong> กับ เวลาที่เกิด<br />
คําตอบ 2 : Load dem<strong>and</strong> กับ เปอรเซ็นตของเวลาที่เกิดขึ้น<br />
คําตอบ 3 : Peak dem<strong>and</strong> กับ เวลาที่เกิด<br />
คําตอบ 4 : Peak dem<strong>and</strong> กับ เปอรเซ็นตของเวลาที่เกิดขึ้น<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอที่ : 19<br />
Load duration curve เปนกราฟที่ Plot ระหวาง<br />
คําตอบ 1 : Load dem<strong>and</strong> กับ เวลาที่เกิด<br />
คําตอบ 2 : Load dem<strong>and</strong> กับ เปอรเซ็นตของเวลาที่เกิดขึ้น<br />
คําตอบ 3 : Peak dem<strong>and</strong> กับ เวลาที่เกิด<br />
คําตอบ 4 : Peak dem<strong>and</strong> กับ เปอรเซ็นตของเวลาที่เกิดขึ้น
ขอที่ : 20<br />
พื้นที่ใตกราฟของ Load curve คือ<br />
คําตอบ 1 : kW/h<br />
คําตอบ 2 : kW<br />
คําตอบ 3 : kWh<br />
คําตอบ 4 :<br />
ขอที่ : 21<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
พื้นที่ใตกราฟของ Load duration curve คือ<br />
คําตอบ 1 : kW/h<br />
คําตอบ 2 : kW<br />
คําตอบ 3 : kWh<br />
13 of 237
14 of 237<br />
ขอที่ : 22<br />
คําตอบ 4 :<br />
ในการเลือกขนาดกําลังผลิตตอหนวยผลิตที่เหมาะสมนั้น <strong>Plant</strong> use factor ควรมีคาเทาไร<br />
คําตอบ 1 : เขาใกล 0%<br />
คําตอบ 2 : เขาใกล 50%<br />
คําตอบ 3 : เขาใกล 100%<br />
คําตอบ 4 : มีคามากๆ<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอที่ : 23<br />
คาใชจายในการสรางโรงจักรและการผลิตไฟฟา ตอ kWh จะต่ําเมื่อ<br />
คําตอบ 1 : Load factor เปนลบ<br />
คําตอบ 2 : Load factor เขาใกล 0%
คําตอบ 3 : Load factor เขาใกล 50%<br />
คําตอบ 4 : Load factor เขาใกล 100%<br />
15 of 237<br />
ขอที่ : 24<br />
% Load factor ของผูใชไฟฟารายหนึ่งมีคาสูงความหมายอยางไร<br />
คําตอบ 1 : มีการใชพลังงานไฟฟาไมตอเนื่อง<br />
คําตอบ 2 : มีการใชพลังงานไฟฟาไมสม่ําเสมอ<br />
คําตอบ 3 : มีการใชพลังงานไฟฟาคอนขางคงที่<br />
คําตอบ 4 : มีการใชพลังงานไฟฟาต่ํา<br />
ขอที่ : 25<br />
diversity factor ของระบบไฟฟาแหงหนึ่งมีคาสูงหมายความวาอยางไร<br />
คําตอบ 1 : มีการใชกําลังไฟฟาของโหลดแตละประเภทไมตอเนื่อง<br />
คําตอบ 2 : มีการใชกําลังไฟฟาสูงสุดของโหลดแตละประเภทไมพรอมกัน<br />
คําตอบ 3 : มีการใชกําลังไฟฟาต่ําสุดของโหลดแตละประเภทไมพรอมกัน<br />
คําตอบ 4 : มีการใชกําลังไฟฟาเฉลี่ยของโหลดแตละประเภทคอนขางเทากัน<br />
ขอที่ : 26<br />
Daily load curve คือ<br />
ขอที่ : 27<br />
คําตอบ 1 : กราฟแสดงจํานวนกิโลวัตตที่ใชเทียบกับเวลาใน 1 วัน<br />
คําตอบ 2 : กราฟแสดงจํานวนพลังงานที่ใชเทียบกับเวลาใน 1 วัน<br />
คําตอบ 3 : กราฟแสดงจํานวนผูใชไฟฟาเทียบกับเวลาใน 1 วัน<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
พื้นที่ใต Daily load curve คือ<br />
คําตอบ 1 : จํานวนกิโลวัตตที่ใชเทียบกับเวลาใน 1 วัน<br />
คําตอบ 2 : จํานวนพลังงานที่ใชเทียบกับเวลาใน 1 วัน<br />
คําตอบ 3 : จํานวนผูใชไฟเทียบกับเวลาใน 1 วัน<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขอที่ : 28
Load duration curve คือ<br />
คําตอบ 1 : กราฟแสดงชวงเวลาในการเกิดโหลดสูงสุด<br />
คําตอบ 2 : กราฟแสดง Load curve เรียงลําดับจากมากไปหานอย<br />
คําตอบ 3 : กราฟแสดง Load curve เรียงลําดับจากนอยไปหามาก<br />
คําตอบ 4 : ผิดทุกขอ<br />
16 of 237<br />
ขอที่ : 29<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
500 MWh<br />
1,250 MWh<br />
2,500 MWh<br />
3,400 MWh<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอที่ : 30
17 of 237<br />
ขอที่ : 31<br />
คําตอบ 1 : 14.1%<br />
คําตอบ 2 : 28.1%<br />
คําตอบ 3 : 38.3%<br />
คําตอบ 4 : 45.1%<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
18 of 237<br />
ขอที่ : 32<br />
คําตอบ 1 : 33.33%<br />
คําตอบ 2 : 50.25%<br />
คําตอบ 3 : 71.33%<br />
คําตอบ 4 : 83.33%<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
19 of 237<br />
ขอที่ : 33<br />
คําตอบ 1 : 25.7%<br />
คําตอบ 2 : 33.3%<br />
คําตอบ 3 : 56.7%<br />
คําตอบ 4 : 94.5%<br />
โหลด 4 กลุมตออยูกับโรงไฟฟาแหงหนึ่ง โดยโหลดแตละกลุมมีความตองการไฟฟาสูงสุดเทากับ 30 MW, 20 MW, 10 MW และ 14 MW และความตองการกําลังไฟฟาสูงสุด<br />
ของโรงไฟฟาคือ 60 MW หากกําหนดใหขนาดของโรงไฟฟาคือ 80 MW และ Load Factor = 0.6 จงคํานวณหา Dem<strong>and</strong> Factor<br />
คําตอบ 1 : 0.65<br />
คําตอบ 2 : 0.71<br />
คําตอบ 3 : 0.81<br />
คําตอบ 4 : 0.88<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอที่ : 34<br />
Dem<strong>and</strong> factor สําหรับอาคารพานิช ควรมีคาเปนอยางไร<br />
คําตอบ 1 : สูง เพราะจํานวนชั่วโมงการใชงานไฟฟาสูง
คําตอบ 2 : ต่ํา เพราะจํานวนชั่วโมงการใชงานไฟฟาต่ํา<br />
คําตอบ 3 : สูง เพราะอุปกรณตางๆ มีโอกาสใชงานพรอมกัน<br />
คําตอบ 4 : สูง เพราะคาเฉลี่ยในการใชกําลังไฟฟาสูง<br />
20 of 237<br />
ขอที่ : 35<br />
ผูใชไฟตอไปนี้มีคา Diversity factor ต่ําที่สุด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
บานพักอาศัย<br />
อาคารพานิช<br />
โรงงานอุตสาหกรรม<br />
สาธารณูปโภค<br />
ขอที่ : 36<br />
Load factor มีประโยชนอยางไร<br />
ขอที่ : 37<br />
ขอที่ : 38<br />
คําตอบ 1 :<br />
สามารถนํามาคิดรายจายประจําปของระบบผลิตไฟฟา<br />
คําตอบ 2 : สามารถนํามาใชประกอบการเดินเครื่องกําเนิดไฟฟาในแตละวัน<br />
คําตอบ 3 : สามารถนํามาใชในการจัดระบบการใชพลังงานไฟฟาใหมีประสิทธิภาพดีขึ้น<br />
คําตอบ 4 : สามารถนํามาใชวางแผนขยายการผลิตของระบบจําหนาย<br />
ขอใดคือสมการของ S-curve ที่ใชในการทํานายโหลดดวยระเบียบวิธี extrapolation<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
y = a + bx<br />
y = a + bx + cx2<br />
y = a + bx + cx2 + dx3<br />
y = cedx<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอใดตอไปนี้ถูกตองเกี่ยวกับการทํานายโหลดดวยระเบียบวิธี extrapolation<br />
คําตอบ 1 : ใชการเพิ่มขึ้นของประชากร (Population growth) มารวมในการทํานาย<br />
คําตอบ 2 : ใชกระบวนการสุม (R<strong>and</strong>om process) เขาชวย<br />
คําตอบ 3 : นําปจจัยการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Economic growth) รวมในการทํางาน<br />
คําตอบ 4 : ใชหลักการของ Curve fitting
ขอที่ : 39<br />
ปจจัยในขอใดตอไปนี้สงผลตอการเปลี่ยนแปลงโหลด<br />
คําตอบ 1 : ฤดูกาล<br />
คําตอบ 2 : อุณหภูมิ<br />
คําตอบ 3 : จํานวนประชากร<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขอที่ : 40<br />
โรงไฟฟาพลังความรอนแหงหนึ่ง มีกําลังผลิตติดตั้ง 20 MW จายโหลดสูงสุด 15 MW มีตัวประกอบโหลด (load factor) 80% จงหาคาโหลดเฉลี่ยของโรงไฟฟา<br />
คําตอบ 1 : 8 MW<br />
คําตอบ 2 : 9 MW<br />
คําตอบ 3 : 10 MW<br />
คําตอบ 4 : 12 MW<br />
ขอที่ : 41<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
21 of 237<br />
โรงไฟฟาแหงหนึ่งจายโหลดดังตารางตอไปนี้ จงคํานวณตัวประกอบโหลดของโรงไฟฟาแหงนี้
22 of 237<br />
ขอที่ : 42<br />
คําตอบ 1 : 9 MW<br />
คําตอบ 2 : 12 MW<br />
คําตอบ 3 : 15 MW<br />
คําตอบ 4 : 18 MW<br />
สถานีไฟฟายอยแหงหนึ่งมีสายปอน 10 วงจรยอย โดยแตละวงจรยอยมีคาโหลดสูงสุดเปน 12 MW, 8 MW, 16 MW, 12 MW, 10 MW, 9 MW, 16 MW, 16 MW, 15 MW<br />
และ 14 MW ถาสถานีไฟฟายอยแหงนี้มี diversity factor เปน 2.0 จงคํานวณโหลดสูงสุดของสถานีไฟฟายอยแหงนี้<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
32 MW<br />
48 MW<br />
64 MW<br />
80 MW
ขอที่ : 43<br />
ขอที่ : 44<br />
ขอที่ : 45<br />
ขอที่ : 46<br />
ขอใดตอไปนี้ถูกตองที่สุด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
Diversity factor มีคาไมเกิน 1.0 เสมอ<br />
Load factor มีคาไมนอยกวา 1.0 เสมอ<br />
คําตอบ 3 : Load factor เทากับ 1.0 หมายความวา โหลดเฉลี่ยของโรงไฟฟามีคาเทากับโหลดต่ําสุด<br />
คําตอบ 4 : Diversity factor เทากับ 1.0 หมายความวา โหลดเฉลี่ยของโรงไฟฟามีคาเทากับโหลดสูงสุด<br />
โรงไฟฟาแหงหนึ่งมีกําลังผลิตติดตั้ง (Installed capacity) 30 MW มีโหลดติดตั้ง (Connected load) 25 MW มีตัวประกอบโหลด (Load factor) 60% มีโหลดเฉลี่ย 9 MW ขอ<br />
ใดตอไปนี้ไมถูกตอง<br />
คําตอบ 1 :<br />
โหลดสูงสุดมีคาเปน 15 MW<br />
คําตอบ 2 : ใน 1 วันโรงไฟฟาแหงนี้จายพลังงานไฟฟาทั้งสิ้น 216,000 หนวย<br />
คําตอบ 3 : diversity factor มีคาเทากับ 1.6<br />
คําตอบ 4 : dem<strong>and</strong> factor มีคาเทากับ load factor<br />
ทําไมจึงตองทําการศึกษาเรื่อง Load curve<br />
คําตอบ 1 : เพื่อนําขอมูลของ Load curve ที่คํานวณไดไปเลือกชนิดของโรงไฟฟา<br />
คําตอบ 2 : เพื่อนําขอมูลของ Load curve ที่คํานวณไดไปสรางโรงจักรเพิ่มขึ้นเพื่อใหเปนโรงไฟฟาสํารอง<br />
คําตอบ 3 : เพื่อนําขอมูลของ Load curve ที่คํานวณไดไปเลือกชนิดของเชื้อเพลิงที่จะใชในการผลิตแระแสไฟฟา<br />
คําตอบ 4 : เพื่อนําขอมูลของ Load curve ที่คํานวณไดไปคํานวณเปนคาไฟฟาในการเก็บเงินของบานพักอาศัย<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
23 of 237<br />
การใชไฟฟาของสถานประกอบการหนึ่งมีสภาวะการใชพลังงานดังตาราง คา Load Factor ของสถานประกอบการนี้มีคากี่เปอรเซ็นต
24 of 237<br />
ขอที่ : 47<br />
คําตอบ 1 : 1.0958 %<br />
คําตอบ 2 : 8.76 %<br />
คําตอบ 3 : 26.3 %<br />
คําตอบ 4 : 109.58 %<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
การใชไฟฟาของสถานประกอบการหนึ่งมีสภาวะการใชพลังงานดังตาราง คา Dem<strong>and</strong> Factor ของถานประกอบการนี้มีคาเทากับเทาไหร
25 of 237<br />
คําตอบ 1 : 0.475<br />
คําตอบ 2 : 47.5<br />
คําตอบ 3 : 1,250<br />
คําตอบ 4 : 2,630<br />
ขอที่ : 48<br />
ขอใดตอไปนี้เปนเปาหมายในการศึกษาการทํานายโหลด(Prediction of load)<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 1 : เพื่อนําคาที่ทํานายไดไปวางแผนการผลิตกระแสไฟฟาใหพอเพียงกับ Load ที่ตองการ<br />
คําตอบ 2 : เพื่อนําคาที่ทํานายไดไปวางแผนการจัดซื้อเครื่องวัดพลังงาน<br />
คําตอบ 3 : เพื่อนําคาที่ทํานายไดไปวางแผนการพัฒนาประเทศ<br />
คําตอบ 4 : เพื่อนําคาที่ทํานายไดไปเปนเกณฑในการลดการใชพลังงานในปถัดไป<br />
ขอที่ : 49
ขอใดตอไปนี้กลาวถูกตอง<br />
คําตอบ 1 :<br />
ในการผลิตกําลังไฟฟาทางการไฟฟาจะผลิตกําลังไฟฟาเทากับ Peak load<br />
คําตอบ 2 : ในการผลิตกําลังไฟฟาทางการไฟฟาจะผลิตกําลังไฟฟาเทากับ Maximum dem<strong>and</strong> ของปที่ผานมา<br />
คําตอบ 3 : ในการผลิตกําลังไฟฟาทางการไฟฟาจะผลิตกําลังไฟฟาเทากับ Average load<br />
คําตอบ 4 : ในการผลิตกําลังไฟฟาทางการไฟฟาจะผลิตกําลังไฟฟามากกวา Maximum dem<strong>and</strong> ในขณะนั้นเล็กนอย<br />
26 of 237<br />
ขอที่ : 50<br />
ขอที่ : 51<br />
ขอที่ : 52<br />
ในโรงงานอุตสาหกรรมแหงหนึ่งมีคาการใชกําลังไฟฟาดังรายละเอียดดานลางนี้ จงหาคา Load factor ของโรงงานนี้ ชวงเวลา 0.00 น. ถึง 06.00 น. คาการใชกําลังไฟฟาชั่วโมงละ<br />
2.5 kW ชวงเวลา 6.00 น. ถึง 12.00 น. คาการใชกําลังไฟฟาชั่วโมงละ 9.5 kW ชวงเวลา 12.00 น. ถึง 18.00 น. คาการใชกําลังไฟฟาชั่วโมงละ 7.5 kW ชวงเวลา 18.00 น. ถึง<br />
00.00 น. คาการใชกําลังไฟฟาชั่วโมงละ 2.5 kW<br />
คําตอบ 1 : 0.579<br />
คําตอบ 2 : 0.92<br />
คําตอบ 3 : 2.316<br />
คําตอบ 4 : 5.5<br />
ในโรงงานอุตสาหกรรมแหงหนึ่งมีคาการใชกําลังไฟฟาดังรายละเอียดดานลางนี้ จงหาคา Load factor ของโรงงานนี้ ชวงเวลา 0.00 น. ถึง 06.00 น. คาการใชกําลังไฟฟาชั่วโมงละ<br />
2.5 kW ชวงเวลา 6.00 น. ถึง 12.00 น. คาการใชกําลังไฟฟาชั่วโมงละ 9.5 kW ชวงเวลา 12.00 น. ถึง 18.00 น. คาการใชกําลังไฟฟาชั่วโมงละ 7.5 kW ชวงเวลา 18.00 น. ถึง<br />
00.00 น. คาการใชกําลังไฟฟาชั่วโมงละ 2.5 kW<br />
คําตอบ 1 : 0.579<br />
คําตอบ 2 : 0.92<br />
คําตอบ 3 : 2.316<br />
คําตอบ 4 : 5.5<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
27 of 237<br />
ขอที่ : 53<br />
คําตอบ 1 : 10 kW<br />
คําตอบ 2 : 35 kW<br />
คําตอบ 3 : 45 kW<br />
คําตอบ 4 : 77.5 kW<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
28 of 237<br />
ขอที่ : 54<br />
คําตอบ 1 : 1.22<br />
คําตอบ 2 : 1.458<br />
คําตอบ 3 : 1.542<br />
คําตอบ 4 : 3.229<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
29 of 237<br />
ขอที่ : 55<br />
คําตอบ 1 : 4.65 %<br />
คําตอบ 2 : 46.5 %<br />
คําตอบ 3 : 53 %<br />
คําตอบ 4 : 77.5 %<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
โหลดรายชั่วโมงของการไฟฟาแหงหนึ่งมีคาดังแสดงในตาราง พลังงานที่ใชการไฟฟาจายใหแกโหลดตั้งแตเวลา 0 – 24 น. มีคาเทาใด
30 of 237<br />
ขอที่ : 56<br />
คําตอบ 1 : 24,000 MWh<br />
คําตอบ 2 : 21,000 MWh<br />
คําตอบ 3 : 18,000 MWh<br />
คําตอบ 4 : 12,000 MWh<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
จงคํานวณคา Load Factor ในรอบวันของโหลดดังแสดงในตาราง
31 of 237<br />
ขอที่ : 57<br />
คําตอบ 1 : 50%<br />
คําตอบ 2 : 60%<br />
คําตอบ 3 : 70%<br />
คําตอบ 4 : 80%<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
การไฟฟาแหงหนึ่งมีคาโหลดรายชั่วโมงดังแสดงในตาราง จงคํานวณคาตัวประกอบโหลด (Load Factor) ของการไฟฟา
32 of 237<br />
ขอที่ : 58<br />
คําตอบ 1 : 0.500<br />
คําตอบ 2 : 0.583<br />
คําตอบ 3 : 0.683<br />
คําตอบ 4 : 0.753<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
การไฟฟาแหงหนึ่งทําการจายไฟฟาใหแกโหลด 4 คาเปนจํานวนชั่วโมงดังแสดงในตาราง จงคํานวณคาตัวประกอบโหลด (Load Factor) ในรอบวันของการไฟฟาแหงนี้
33 of 237<br />
ขอที่ : 59<br />
คําตอบ 1 : 0.514<br />
คําตอบ 2 : 0.625<br />
คําตอบ 3 : 0.775<br />
คําตอบ 4 : 0.875<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
สถานีไฟฟายอยแหงหนึ่งมีคาโหลดรายชั่วโมงดังแสดงในตาราง จงคํานวณคาตัวประกอบความตองการไฟฟา (Dem<strong>and</strong> factor) ของสถานีไฟฟายอยแหงนี้
34 of 237<br />
ขอที่ : 60<br />
คําตอบ 1 : 0.653<br />
คําตอบ 2 : 0.783<br />
คําตอบ 3 : 0.833<br />
คําตอบ 4 : 0.933<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
สถานีไฟฟายอยแหงหนึ่งมีคาโหลดรายชั่วโมงดังแสดงในตาราง จงคํานวณคาตัวประกอบความตองการไฟฟา (Dem<strong>and</strong> Factor) ของสถานีไฟฟายอยแหงนี้
35 of 237<br />
ขอที่ : 61<br />
คําตอบ 1 : 0.833<br />
คําตอบ 2 : 0.783<br />
คําตอบ 3 : 0.653<br />
คําตอบ 4 : 0.555<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
สถานีไฟฟายอยแหงหนึ่งจายไฟใหแกลูกคา 2 ราย (A และ B) ซึ่งมีการใชไฟฟาในรอบวันดังแสดงในตารางขางลาง จงคํานวณคาตัวประกอบไดเวอรซิตี (Diversity factor) ของ<br />
สถานีไฟฟายอยแหงนี้
36 of 237<br />
ขอที่ : 62<br />
คําตอบ 1 : 0.75<br />
คําตอบ 2 : 0.83<br />
คําตอบ 3 : 1.2<br />
คําตอบ 4 : 1.33<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
สถานีไฟฟายอยแหงหนึ่งจายไฟใหแกลูกคา 2 ราย (A และ B) ซึ่งมีการใชไฟฟาในรอบวันดังแสดงในตารางขางลาง จงคํานวณคาตัวประกอบโคอินซิเดนซ (Coincidence factor)<br />
ของสถานีไฟฟายอยแหงนี้
37 of 237<br />
ขอที่ : 63<br />
คําตอบ 1 : 0.75<br />
คําตอบ 2 : 0.83<br />
คําตอบ 3 : 1.2<br />
คําตอบ 4 : 1.33<br />
สถานีไฟฟายอยแหงหนึ่งรับไฟฟาจากสถานีตนทางรวมตลอดทั้งปเปนปริมาณ 70,080,000 kWh ในวันที่มีโหลดสูงสุดในปนั้น คาโหลดสูงสุดและพลังงานที่สงผานสถานีไฟฟายอย<br />
คือ 20,000 kW และ 216,000 kWh ตามลําดับ จงคํานวณคาตัวประกอบโหลดประจําป<br />
คําตอบ 1 : 0.40<br />
คําตอบ 2 : 0.45<br />
คําตอบ 3 : 0.50<br />
คําตอบ 4 : 0.55<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 64<br />
ขอที่ : 65<br />
ขอที่ : 66<br />
ขอที่ : 67<br />
สถานีไฟฟายอยแหงหนึ่งรับไฟฟาจากสถานีตนทางรวมตลอดทั้งปเปนปริมาณ 70,080,000 kWh ในวันที่มีโหลดสูงสุดในปนั้น คาโหลดสูงสุดและพลังงานที่สงผานสถานีไฟฟายอย<br />
38 of 237<br />
คือ 20,000 kW และ 216,000 kWh ตามลําดับ จงคํานวณคาตัวประกอบโหลดของวันที่มีโหลดสูงสุด<br />
คําตอบ 1 : 0.40<br />
คําตอบ 2 : 0.45<br />
คําตอบ 3 : 0.50<br />
คําตอบ 4 : 0.55<br />
ขอใดมิใชวัตถุประสงคของการนําการพยากรณโหลดรายชั่วโมงและโหลดรายวันไปใชงาน<br />
คําตอบ 1 : กําหนดเวลาการเดินเครื่องของโรงไฟฟา<br />
คําตอบ 2 : ประเมินสถานภาพการทํางานของระบบไฟฟา<br />
คําตอบ 3 : จัดสรรกําลังการผลิตใหแกโรงไฟฟา<br />
คําตอบ 4 : วางแผนขยายกําลังการผลิตไฟฟา<br />
ขอใดมิใชวัตถุประสงคของการพยากรณโหลดในระยะปานกลาง – ระยะยาว<br />
คําตอบ 1 : วางแผนการบํารุงรักษาเครื่องกําเนิดไฟฟา<br />
คําตอบ 2 : วางแผนขยายกําลังการผลิตไฟฟา<br />
คําตอบ 3 : ประเมินความเชื่อถือไดและคาใชจายในการผลิตไฟฟา<br />
คําตอบ 4 : กําหนดเวลาการเดินเครื่องของโรงไฟฟา<br />
ความตองการกําลังไฟฟาของผูใชไฟที่เปนที่พักอาศัยดูไดจาก factor ใดบาง<br />
คําตอบ 1 : ประเภทของที่พักอาศัย<br />
คําตอบ 2 : จํานวนผูที่พักอาศัย<br />
คําตอบ 3 : ฐานะ<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอที่ : 68<br />
ความตองการกําลังไฟฟาของผูใชไฟที่เปนธุรกิจดูไดจาก Factor ใดบาง<br />
คําตอบ 1 : ประเภทของธุรกิจ<br />
คําตอบ 2 : พื้นที่ใชงาน
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ความหรูหรา<br />
ถูกทุกขอ<br />
39 of 237<br />
ขอที่ : 69<br />
ขอที่ : 70<br />
ขอที่ : 71<br />
ขอที่ : 72<br />
ความตองการกําลังไฟฟาของผูใชไฟที่เปนอุตสาหกรรมดูไดจาก Factor ใดบาง<br />
คําตอบ 1 : ประเภทของอุตสาหกรรม<br />
คําตอบ 2 : ขนาดกําลังผลิต/วัน<br />
คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />
คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />
ความตองการกําลังไฟฟาของผูใชไฟที่เปนระบบขนสงมวลชน ดูไดจาก Factor ใดบาง<br />
คําตอบ 1 : จํานวนตูรถไฟฟา<br />
คําตอบ 2 : จํานวนคนที่ขนถาย<br />
คําตอบ 3 : จํานวนเที่ยวตอวัน<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ความตองการกําลังไฟฟาของผูใชไฟที่เปนที่การสูบน้ําดวยไฟฟา ดูไดจาก factor ใดบาง<br />
คําตอบ 1 : Pressure head<br />
คําตอบ 2 : ขนาด Pump<br />
คําตอบ 3 : ถูกทั้งขอ 1 และ 2<br />
คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />
ผูใชไฟมีอุปกรณไฟฟาตออยูทั้งหมด เทากับ 100 kW หมายถึง<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
Connected load = 100 kW<br />
Maximum dem<strong>and</strong> = 100 kW<br />
Minimum dem<strong>and</strong> = 100 kW<br />
ถูกทุกขอ<br />
ขอที่ : 73
การใชกําลังไฟฟาของผูใชในแตละชวงเวลาตลอดชวงเวลาที่พิจารณาหมายถึง<br />
คําตอบ 1 : Load duration curve<br />
คําตอบ 2 : Load curve<br />
คําตอบ 3 : Load factor<br />
คําตอบ 4 : Dem<strong>and</strong> factor<br />
40 of 237<br />
ขอที่ : 74<br />
ขอที่ : 75<br />
ขอที่ : 76<br />
ขอที่ : 77<br />
ใชกําลังไฟฟาสูงสุดเทากับ 0.9 เทาของอุปกรณไฟฟาที่ตออยูทั้งหมดหมายถึง<br />
คําตอบ 1 : Load curve = 0.9<br />
คําตอบ 2 : Maximum dem<strong>and</strong> = 0.9<br />
คําตอบ 3 : Dem<strong>and</strong> factor = 0.9<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
การใชกําลังไฟฟาเฉลี่ยตลอด 24 ชม. เทากับ 30 % ของความตองการกําลังไฟฟาสูงสุดเทาไร<br />
คําตอบ 1 : Dem<strong>and</strong> factor = 30 %<br />
คําตอบ 2 : Load factor = 30 %<br />
คําตอบ 3 : Average dem<strong>and</strong> = 30 %<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ผูใชไฟแตละรายรวมใจใชกําลังไฟฟาสูงสุดตลอดเวลาแสดงวา Diversity factor เทาไร<br />
คําตอบ 1 : เทากับ 1<br />
คําตอบ 2 : มากกวา 1<br />
คําตอบ 3 : เทากับ 0<br />
คําตอบ 4 : มากกวา 0<br />
ถา Diversity factor เทากับ Consider factor เทากับเทาไร<br />
คําตอบ 1 : 0.25<br />
คําตอบ 2 : 0.2<br />
คําตอบ 3 : 0.15<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 78<br />
ขอที่ : 79<br />
ขอที่ : 80<br />
ขอที่ : 81<br />
คําตอบ 4 : 0.1<br />
ขอใดไมใชประโยชนโดยตรงของการพยากรณความตองการใชไฟฟา<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
วางแผนสรางโรงไฟฟา<br />
วางแผนสรางระบบสงไฟฟา<br />
คําตอบ 3 : วางแผนจัดหาแหลงเชื้อเพลิง<br />
คําตอบ 4 : วางแผนกําหนดอัตราคาไฟฟา<br />
คาตัวประกอบโหลด (Load factor) ที่จะสงผลดีที่สุดตอการวางแผนเกี่ยวกับระบบผลิตไฟฟา ควรเปนอยางไร<br />
คําตอบ 1 : มีคาสูงกวา 1.0<br />
คําตอบ 2 : มีคาต่ํากวา 1.0<br />
คําตอบ 3 : มีคาเขาใกล 1.0<br />
คําตอบ 4 : สรุปไมได ขึ้นอยูกับประเภทของความตองการใชไฟฟา<br />
ขอใดตอไปนี้กลาว ไมถูกตอง<br />
คําตอบ 1 : เครื่องกําเนิดไฟฟาสําหรับจายโหลดที่มีการเปลี่ยนแปลงอยางรวดเร็ว ตองมีความเฉื่อยต่ํา<br />
คําตอบ 2 : ปริมาณการใชไฟฟาของระบบ หมายถึง คาความตองการไฟฟาสูงสุดในแตละชวงเวลาตามที่กําหนด<br />
คําตอบ 3 : การทราบถึงปริมาณและลักษณะโหลด มีประโยชนในการวางแผนผลิตไฟฟา<br />
คําตอบ 4 : Load duration curve ใชประมาณปริมาณความตองการใชไฟฟาและกําลังไฟฟาสูงสุดที่คาดวาจะเกิดขึ้น<br />
ตัวประกอบโหลด คือ อัตราสวนของคาความตองการใชไฟฟาเฉลี่ยตอคาความตองการใชไฟฟาสูงสุด หากระบบใดๆ มีคาตัวประกอบโหลดต่ํา หมายความวา การใชไฟฟาของระบบดัง<br />
กลาวดีหรือไม เพราะเหตุใด<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 1 : ดี เนื่องจากลักษณะการใชไฟฟาของระบบจะมีความสม่ําเสมอ และสงผลใหตนทุนการผลิตไฟฟาถูกลง<br />
คําตอบ 2 : ดี เนื่องจากความตองการใชไฟฟาเฉลี่ยและความตองการใชไฟฟาสูงสุดมีคาแตกตางกันมาก<br />
คําตอบ 3 : ไมดี เนื่องจากมีการใชไฟฟาสูงกวาปกติ ณ เวลาสั้นๆ ซึ่งไมเปนผลดีตอการจัดเตรียมกําลังผลิตไฟฟา<br />
คําตอบ 4 : ไมดี เนื่องจากระบบไฟฟามีลักษณะ และเวลาการใชไฟฟาแตกตางกัน ทําใหความตองการใชไฟฟามีคาไมแนนอน<br />
41 of 237<br />
ขอที่ : 82
ลักษณะการใชไฟฟารายวันในโรงงานแหงหนึ่ง คํานวณคาตัวประกอบโหลด (Load factor) ไดเทากับ 0.75 มีปริมาณการใชไฟฟาในแตละวันคิดเปนประมาณ 3,600 kWh อยาก<br />
ทราบวาประมาณความตองการกําลังไฟฟาสูงสุดของโรงงานแหงนั้นมีคาเปนเทาใด<br />
คําตอบ 1 : 112.5 kW<br />
คําตอบ 2 : 150 kW<br />
คําตอบ 3 : 200 kW<br />
คําตอบ 4 : ขอมูลไมเพียงพอ<br />
ขอที่ : 83<br />
ขอมูลใดไมสามารถบอกไดจากลักษณะโหลดรายวัน (Daily load curve)<br />
คําตอบ 1 : Total connected load<br />
คําตอบ 2 : Base load<br />
คําตอบ 3 : Peak load<br />
คําตอบ 4 : Load factor<br />
ขอที่ : 84<br />
ถากําหนดใหโหลดเริ่มตนที่ 4,700 MVA โดยมีอัตราการเติบโตของโหลดรายปเฉลี่ย 9.5% จงพยากรณโหลดปที่ 15<br />
คําตอบ 1 : 18,336 MVA<br />
คําตอบ 2 : 13,368 MVA<br />
คําตอบ 3 : 18,633 MVA<br />
คําตอบ 4 : 16,833 MVA<br />
ขอที่ : 85<br />
กําหนดใหโหลดเริ่มตนที่ 1,000 MVA เมื่อเวลาผานไป ปรากฎวาโหลดในปดังกลาวคือ 20,000 MVA กําหนดใหอัตราการเติบโตของโหลดรายป 10% จงหาเวลาที่ผานไป<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
41.3 ป<br />
43.1 ป<br />
34.1 ป<br />
31.43 ป<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอที่ : 86<br />
ขอใดคือการแบงโหลดตามสภาพแวดลอม<br />
คําตอบ 1 : โหลดวิกฤต<br />
คําตอบ 2 : โหลดในเมือง<br />
คําตอบ 3 : โหลดปกติ<br />
42 of 237
คําตอบ 4 :<br />
โหลดฉุกเฉิน<br />
ขอที่ : 87<br />
เสนโคงโหลด (Load curve) แสดงความสัมพันธของคาใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ขอที่ : 88<br />
Dem<strong>and</strong> factor คือคาใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ขอที่ : 89<br />
Connected load คือคาใด<br />
ขอที่ : 90<br />
คําตอบ 1 :<br />
ความตองการกําลังไฟฟาของโหลดกับชวงเวลาความตองการ<br />
ความตองการแรงดันไฟฟากับชวงเวลาความตองการ<br />
ความตองการกระแสไฟฟากับชวงเวลาความตองการ<br />
ความตองการประจุไฟฟากับชวงเวลาความตองการ<br />
อัตราสวนของความตองการกําลังไฟฟาสูงสุดตอโหลดรวมพิกัดของระบบ<br />
อัตราสวนของความตองการแรงดันไฟฟาสูงสุดตอโหลดรวมพิกัดของระบบ<br />
อัตราสวนของความตองการกระแสไฟฟาสูงสุดตอโหลดรวมพิกัดของระบบ<br />
อัตราสวนของความตองการประจุไฟฟาสูงสุดตอโหลดรวมพิกัดของระบบ<br />
ผลรวมของกําลังไฟฟาในยานธุรกิจในเมือง<br />
คําตอบ 2 : ผลรวมความตองการไฟฟาขณะต่ําสุดของระบบ<br />
คําตอบ 3 : ผลรวมความตองการไฟฟาขณะสูงสุดของระบบ<br />
คําตอบ 4 : ผลรวมพิกัดตอเนื่องของโหลดที่ตอกับระบบ<br />
การพยากรณคาโหลดในปอนาคตสามารถหาไดจากสมการใด เมื่อกําหนดให Ln = โหลดของปที่ n g = อัตราการเติบโตรายป Lo = โหลดเริ่มตน N = จํานวนปที่พยากรณ<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
Ln = Lo(1+ng)^n<br />
Ln = Lo(1+g)^ng<br />
Ln = Lo(1+g)^n<br />
Ln = Lo(1+n)^g<br />
43 of 237<br />
ขอที่ : 91<br />
ความหมายของความตองการกําลังสูงสุดคือขอใด
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Minimum factor<br />
Maximum factor<br />
Maximum dem<strong>and</strong><br />
Minimum dem<strong>and</strong><br />
44 of 237<br />
ขอที่ : 92<br />
ความหมายของความตองการกําลังไฟฟาเฉลี่ยคือขอใด<br />
คําตอบ 1 : Average factor<br />
คําตอบ 2 : Average dem<strong>and</strong><br />
คําตอบ 3 : Maximum dem<strong>and</strong><br />
คําตอบ 4 : Minimum dem<strong>and</strong><br />
ขอที่ : 93<br />
กําลังผลิตไฟฟาจากประเภทของโรงไฟฟาในประเทศไทย ใหเรียงลําดับจากการผลิตจากโรงไฟฟามากที่สุดไปหาประเภทโรงไฟฟาที่มีกําลังผลิตต่ําสุด<br />
คําตอบ 1 : พลังงานน้ํา ไอน้ํา กาซเทอรไบน ดีเซล<br />
คําตอบ 2 : ไอน้ํา กาซเทอรไบน พลังงานน้ํา ดีเซล<br />
คําตอบ 3 : กาซเทอรไบน ไอน้ํา พลังงานน้ํา ดีเซล<br />
คําตอบ 4 : ไอน้ํา พลังงานน้ํา กาซเทอรไบน ดีเซล<br />
ขอที่ : 94<br />
โรงไฟฟาประเภทใดที่จายโหลดพื้นฐาน (Base load) ใหเลือกคําตอบที่ถูกตองสมบูรณที่สุด<br />
คําตอบ 1 : ไอน้ํา<br />
คําตอบ 2 : พลังงานน้ํา ไอน้ํา<br />
คําตอบ 3 : กาซเทอรไบน ไอน้ํา<br />
คําตอบ 4 : ไอน้ํา กาซเทอรไบน พลังงานน้ํา<br />
ขอที่ : 95<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
เขื่อนใดตอไปนี้เปนเขื่องคอนกรีตรูปโคง<br />
คําตอบ 1 : เขื่อนภูมิพล<br />
คําตอบ 2 : เขื่อนสิริกิต<br />
คําตอบ 3 : เขื่อนศรีนครินทร<br />
คําตอบ 4 : เขื่อนอุบลรัตน
ขอที่ : 96<br />
ถาตําแหนงของโหลดพรอมทั้งขนาดแสดงในรูปขางลาง จงหาตําแหนง (X, Y) ของสถานีไฟฟายอย ที่เหมาะสมซึ่งจะทําใหประหยัดสายไฟฟาที่สุด<br />
45 of 237<br />
ขอที่ : 97<br />
คําตอบ 1 : (10, 12)<br />
คําตอบ 2 : (20, 10)<br />
คําตอบ 3 : (30, 9)<br />
คําตอบ 4 : (40, 8)<br />
ราคาในการกอสรางของโรงไฟฟาชนิดใดตอไปนี้มีราคาแพงที่สุด<br />
คําตอบ 1 : โรงไฟฟาพลังงานน้ํา<br />
คําตอบ 2 : โรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา<br />
คําตอบ 3 : โรงไฟฟากังหันกาซ<br />
คําตอบ 4 : โรงไฟฟาดีเซล<br />
ขอที่ : 98<br />
Fuel cell คืออะไร<br />
ขอที่ : 99<br />
คําตอบ 1 : เชื้อเพลิงใหมซึ่งไดรับการพัฒนาขึ้นเพื่อใชแทนน้ํามันและถานหิน<br />
คําตอบ 2 : เทคโนโลยีการผลิตไฟฟาที่อาศัยกระบวนการทางไฟฟาเคมีระหวางไฮโดรเจนและออกซีเจน<br />
คําตอบ 3 : เชื้อเพลิงสําหรับใชในเตาปฎิกรณ<br />
คําตอบ 4 : แบตเตอรีชนิดใหม<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําวา Co-generation ในเรื่องของการผลิตไฟฟาหมายถึงอะไร<br />
คําตอบ 1 : ระบบการผลิตกระแสไฟฟาที่ใหทั้งพลังงานไฟฟาและพลังงานความรอน<br />
คําตอบ 2 : การเชื่อมตอกันของเครื่องกําเนิดไฟฟาหลายเครื่องเพื่อรวมกันจายพลังงาน<br />
คําตอบ 3 : การเชื่อมตอกันของเครื่องตนกําลังหลายเครื่องเพื่อชวยกันขับเครื่องกําเนิดไฟฟา<br />
คําตอบ 4 : ระบบการผลิตไฟฟาที่ใชโรงไฟฟากังหันกาซรวมกับโรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา
ขอที่ : 100<br />
ขอที่ : 101<br />
ขอที่ : 102<br />
โรงไฟฟาชนิดใดเหมาะที่จะใชเปน Base load plant<br />
คําตอบ 1 : โรงไฟฟานิวเคลียรและเครื่องจักรพลังไอน้ํา<br />
คําตอบ 2 : โรงไฟฟาพลังงานน้ําและโรงไฟฟาดีเซล<br />
คําตอบ 3 : โรงไฟฟากังหันกาซและโรงไฟฟาดีเซล<br />
คําตอบ 4 : โรงไฟฟาพลังงานไอน้ําและโรงไฟฟากังหันกาซ<br />
ขอใดกลาวไมถูกตอง<br />
คําตอบ 1 : โรงไฟฟาพลังงานน้ํามีอายุการใชงานนานกวาโรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา<br />
คําตอบ 2 : โรงไฟฟาพลังงานไอน้ําใชน้ําหลอเย็นมากกวาโรงไฟฟาดีเซล<br />
คําตอบ 3 : โรงไฟฟานิวเคลียรตองใช Condenser เชนเดียวกับโรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา<br />
คําตอบ 4 : โรงไฟฟากังหันกาซเหมาะจะใชเปน Base load plant<br />
ขอใดไมใชปจจัยหลักในการเลือกสถานที่ตั้งโรงไฟฟา<br />
คําตอบ 1 : ราคาของการสงถายพลังงานไฟฟาไปยังผูบริโภค<br />
คําตอบ 2 : กําลังการผลิต<br />
คําตอบ 3 : ราคาที่ดิน<br />
คําตอบ 4 : ความแข็งแรงของฐานราก<br />
ขอที่ : 103<br />
Water treatment plant อยูในโรงไฟฟาใด<br />
คําตอบ 1 : พลังงานไอน้ํา<br />
คําตอบ 2 : พลังงานน้ํา<br />
คําตอบ 3 : gas turbine<br />
คําตอบ 4 : ดีเซล<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
46 of 237<br />
ขอที่ : 104<br />
หมอแปลงขนาด 50 MVA 22kV/230 kV ซื้อมาในราคา 50 ลานบาท เมื่อครบอายุ 20 ป จะมีราคาซาก 2 ลานบาท คาเสื่อมราคาตอปของหมอแปลงนี้เมื่อคิดแบบสมการเสนตรง<br />
เปนเงิน<br />
คําตอบ 1 :<br />
2 ลานบาท
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
2.4 ลานบาท<br />
2.5 ลานบาท<br />
ผิดทุกขอ<br />
47 of 237<br />
ขอที่ : 105<br />
เชื้อเพลิงที่ใชในโรงไฟฟากังหันกาซคือ<br />
คําตอบ 1 :<br />
กาซธรรมชาติอยางเดียว<br />
คําตอบ 2 : กาซธรรมชาติและน้ํามัน<br />
คําตอบ 3 : กาซธรรมชาติและถานหิน<br />
คําตอบ 4 : ถานหินอยางเดียว<br />
ขอที่ : 106<br />
Combined cycle power plant คือ<br />
ขอที่ : 107<br />
คําตอบ 1 : โรงไฟฟาพลังงานน้ําและดีเซลทํางานรวมกัน<br />
คําตอบ 2 : โรงไฟฟาพลังงานน้ําและความรอนทํางานรวมกัน<br />
คําตอบ 3 : โรงไฟฟาพลังงานความรอนและดีเซลทํางานรวมกัน<br />
คําตอบ 4 : โรงไฟฟากังหันกาซและพลังงานความรอนทํางานรวมกัน<br />
การจุดเตาของโรงไฟฟาพลังความรอนที่แมเมาะ ทําดังนี้<br />
คําตอบ 1 : จุดดวยถานหินที่บดจนปนเปนผง<br />
คําตอบ 2 : จุดดวยกาซ ตามดวยถานหินที่บดเปนผง<br />
คําตอบ 3 : จุดดวยกาซ ตามดวยน้ํามัน ตามดวยถานหินที่บดเปนผง<br />
คําตอบ 4 : จุดดวยน้ํามันตามดวยถานหินที่บดเปนผง<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอที่ : 108<br />
Cooling tower ในโรงไฟฟาพลังความรอน มีหนาที่<br />
คําตอบ 1 : ทําใหน้ําหลอเย็นอุนขึ้น<br />
คําตอบ 2 : ทําความเย็นภายในโรงไฟฟา<br />
คําตอบ 3 : ทําใหน้ําหลอเย็นเย็นลง<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ
ขอที่ : 109<br />
ขอที่ : 110<br />
ขอที่ : 111<br />
ขอที่ : 112<br />
น้ําหลอเย็นจากโรงไฟฟาที่จะปลอยทิ้งลงแมน้ํา โดยไมทําลายสิ่งแวดลอม ตองมีอุณหภูมิไมเกินกี่องศาเซลเซียส<br />
คําตอบ 1 : 29<br />
คําตอบ 2 : 32<br />
คําตอบ 3 : 35<br />
คําตอบ 4 : 38<br />
การพิจารณากําลังการผลิตไฟฟารวมของประเทศขึ้นอยูกับปจจัยใดบาง<br />
คําตอบ 1 : ความตองการไฟฟาสูงสุด (Maximum dem<strong>and</strong>)<br />
คําตอบ 2 : ความตองการไฟฟาที่เพิ่มขึ้นในแตละป (Growth of load)<br />
คําตอบ 3 : ระดับกําลังไฟฟาสํารอง (Reserve capacity)<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
โรงไฟฟาประเภทใดที่ตอบสนองตอการเปลี่ยนแปลงของโหลดไดรวดเร็วที่สุด<br />
คําตอบ 1 :<br />
โรงไฟฟานิวเคลียร<br />
คําตอบ 2 : โรงไฟฟาพลังน้ํา<br />
คําตอบ 3 : โรงไฟฟาพลังไอน้ํา<br />
คําตอบ 4 : โรงไฟฟาพลังความรอนรวม<br />
ถานหินที่มีคุณภาพดีที่สุดคือถานหินประเภทใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ถานหินพีท<br />
ถานหินแอนทราไซด<br />
ถานหินลิกไนต<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ถานหินบิทูมินัส<br />
48 of 237<br />
ขอที่ : 113<br />
การพิจารณาสถานที่ตั้งโรงไฟฟาพลังงานความรอนจะตองพิจารณาปจจัยใดบาง<br />
คําตอบ 1 : แหลงน้ํา<br />
คําตอบ 2 : ราคาที่ดินของโรงไฟฟา
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ระยะทางระหวางศูนยกลางโหลดและโรงไฟฟา<br />
ถูกทุกขอ<br />
49 of 237<br />
ขอที่ : 114<br />
ขอที่ : 115<br />
ขอที่ : 116<br />
ขอที่ : 117<br />
ขอดีของการผลิตกระแสไฟฟาจากโรงไฟฟาดีเซลคืออะไร<br />
คําตอบ 1 : คาการผลิตกระแสไฟฟาที่ต่ํา<br />
คําตอบ 2 : ตอบสนองตอการเปลี่ยนแปลงของโหลดไดอยางรวดเร็ว<br />
คําตอบ 3 : คาบํารุงรักษาต่ํา<br />
คําตอบ 4 : ไมมีปญหาเรื่องเสียง<br />
โรงไฟฟา Gas turbine มี คาLoad factor = 0.82 คา Capacity factor = 0.70 และความตองการกําลังไฟฟาสูงสุดเทากับ 750 MW จงคํานวณหา พลังงานไฟฟาที่โรงไฟฟาผลิต<br />
ไดใน 24 ชั่วโมง<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
12,750 MWh<br />
13,500 MWh<br />
14,760 MWh<br />
15,500 MWh<br />
โหลด 4 กลุมตออยูกับโรงไฟฟาแหงหนึ่ง โดยโหลดแตละกลุมมีความตองการกําลังไฟฟาสูงสุดเทากับ 30 MW 20 MW 10 MW และ 14 MW และความตองการไฟฟาสูงสุดของ<br />
โรงไฟฟาคือ 60 MW หากกําหนดใหขนาดของโรงไฟฟาคือ 80 MW และ Load Factor = 0.6 จงคํานวณหา คาเฉลี่ยของโหลด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
12 MW<br />
18 MW<br />
36 MW<br />
44 MW<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอดีของโรงไฟฟาพลังน้ําไดแก<br />
คําตอบ 1 : ใชเวลากอสรางที่สั้น<br />
คําตอบ 2 : กําลังไฟฟาที่ตองการผลิตสามารถควบคุมไดโดยไมขึ้นกับปจจัยภายนอกอื่นๆ<br />
คําตอบ 3 : คาการผลิตกระแสไฟฟาต่ํา ไมตองใชเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟา<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ
ขอที่ : 118<br />
ขอใดตอไปนี้ไมใชเชื้อเพลิงหลักที่นํามาใชผลิตกระแสไฟฟาในเมืองไทย<br />
คําตอบ 1 : น้ํา<br />
คําตอบ 2 : ถานหิน<br />
คําตอบ 3 : กาซธรรมชาติ<br />
คําตอบ 4 : ยูเรเนียม<br />
ขอที่ : 119<br />
โรงไฟฟากําลังไอน้ําที่ใหญที่สุดในประเทศไทยตั้งอยูที่ใด<br />
คําตอบ 1 : กรุงเทพมหานคร<br />
คําตอบ 2 : ลําปาง<br />
คําตอบ 3 : ตาก<br />
คําตอบ 4 : ขอนแกน<br />
ขอที่ : 120<br />
เครื่องกําเนิดไฟฟาที่ติดตั้งอยูภายในโรงไฟฟาโดยทั่วไปมีระดับแรงดันผลิตอยูในชวงใด<br />
คําตอบ 1 : 0.1 – 1.0 kV<br />
คําตอบ 2 : 1.0 – 10.0 kV<br />
คําตอบ 3 : 10.0 – 20.0 kV<br />
คําตอบ 4 : 20.0 – 50.0 kV<br />
ขอที่ : 121<br />
ขอใดไมใชปจจัยที่นํามาใชเลือกสถานที่ตั้งโรงไฟฟาพลังความรอน<br />
คําตอบ 1 : ควรจะตั้งอยูใกลแหลงเชื้อเพลิง<br />
คําตอบ 2 : ราคาที่ดินสําหรับกอสรางโรงไฟฟาไมแพง<br />
คําตอบ 3 : ควรจะตั้งอยูใกลแหลงน้ํา<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 4 : ควรจะตั้งอยูใกลแหลงชุมชน<br />
50 of 237<br />
ขอที่ : 122<br />
โรงไฟฟาพลังความรอนแหงหนึ่งเดินเครื่องตลอดวัน มีกําลังผลิตติดตั้ง 20 MW จายโหลดสูงสุด 15 MW มีตัวประกอบโหลด (Load factor) 80% จงหาคา <strong>Plant</strong> use factor ของ<br />
โรงไฟฟา<br />
คําตอบ 1 : 0.5<br />
คําตอบ 2 : 0.6
คําตอบ 3 : 0.7<br />
คําตอบ 4 : 0.8<br />
51 of 237<br />
ขอที่ : 123<br />
ขอที่ : 124<br />
ขอที่ : 125<br />
ขอที่ : 126<br />
ระบบไฟฟากําลังแหงหนึ่งประกอบดวยโรงไฟฟาขนาด 20 MW จํานวน 4 แหง โรงไฟฟาขนาด 25 MW จํานวน 4 แหง และขนาด 30 MW จํานวน 8 แหง ถากําหนดใหระบบไฟฟา<br />
แหงนี้มี Load factor เทากับ 0.6 และจายโหลดเฉลี่ย 210 MW จงคํานวณ Spinning reserve ของระบบ<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
60 MW<br />
70 MW<br />
80 MW<br />
90 MW<br />
ขอใดตอไปนี้ไมใชโรงไฟฟาแบบ Thermal power plant<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Steam power plant<br />
Gas turbine power plant<br />
Combine cycle power plant<br />
Hydro power plant<br />
โรงไฟฟาแบบใดมีประสิทธิภาพมากที่สุด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Steam turbine power plant<br />
Gas turbine power plant<br />
Combine cycle power plant<br />
Renewable energy electric power plant<br />
ขอใดตอไปนี้ไมใชการผลิตไฟฟาโดยใชแรงดันของไอน้ํา<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
Diesel power plant<br />
Combine cycle power plant<br />
Nuclear power plant<br />
Steam turbine power plant
ขอที่ : 127<br />
ขอที่ : 128<br />
ขอที่ : 129<br />
ขอที่ : 130<br />
ในการเลือกขนาดของเครื่องกําเนิดไฟฟาสํารองของโรงไฟฟาจะเลือกขนาดพิกัดตามขอใด<br />
คําตอบ 1 : เลือกตามขนาดของเครื่องกําเนิดไฟฟาที่มีพิกัดต่ําที่สุด<br />
คําตอบ 2 : เลือกตามขนาดของเครื่องกําเนิดไฟฟาที่มีพิกัดที่ใหญที่สุด<br />
คําตอบ 3 : เลือกตามขนาดของคาเฉลี่ยของโหลดที่ตออยูในระบบ<br />
คําตอบ 4 : เลือกตามคา Load factor<br />
โรงไฟฟาชนิดใดใชเดินเครื่องชวงที่เปน Peak load<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Steam turbine power plant<br />
Combine cycle power plant<br />
Diesel power plant<br />
Gas turbine power plant<br />
ในการคิดคาเสื่อมราคา โรงจักรแบบใดมีคาเสื่อมราคานอยที่สุด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Steam turbine power plant<br />
Combine cycle power plant<br />
Hydro power plant<br />
Gas turbine power plant<br />
หมอแปลงไฟฟาขนาดพิกัด 1,000 kVA 22 kV / 416 V จัดซื้อดวยวิธีการประมูลในราคา 350,000 บาท หมอแปลงไฟฟานี้มีอัตราคาเสื่อมราคา 10 % ตอป ทางโรงงานมีแนวโนม<br />
ที่จะเปลี่ยนหมอแปลงใหมีพิกัดที่ใหญขึ้น ในอีก 7 ป ใหหาราคาเมื่อตองการขายหมอแปลงนี้ในอีก 7 ปขางหนา ดวยวิธี Reducing balance method<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
105,000 บาท<br />
167,670 บาท<br />
245,000 บาท<br />
315,000 บาท<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
52 of 237<br />
ขอที่ : 131<br />
โรงไฟฟาแบบ Steam turbine power plant ที่ใชเชื้อเพลิงแบบถานหิน มีคา Fixed cost เทากับ 9,800 บาท/kW ที่ติดตั้งตอป และโรงไฟฟานี้มีคาใชจายในการขนสงและคาแรง<br />
งานของพนักงาน 5.5 บาทตอ kWh ใหคํานวณหาคาใชจายรวมตอชั่วโมงของโรงไฟฟานี้เมื่อ Load factor มีคาเทากับ 65 %<br />
คําตอบ 1 :<br />
1.12 บาท
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
5.5 บาท<br />
9.075 บาท<br />
35.75 บาท<br />
53 of 237<br />
ขอที่ : 132<br />
ขอที่ : 133<br />
ขอที่ : 134<br />
ขอที่ : 135<br />
ในการพยากรณความตองการใชไฟฟาของประเทศไทยในอนาคตพบวา คาตัวประกอบโหลดของประเทศมีแนวโนมเพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลา หากทานเปนผูวางแผนกําลังการผลิตไฟฟา<br />
ของประเทศ ทานคิดวาควรกอสรางโรงไฟฟาประเภทใดเพิ่มขึ้นในระบบจึงจะเหมาะสมที่สุด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Base-load<br />
Intermediate-load<br />
Peak-load<br />
Emergency-load<br />
ตามปกติในชวงเวลาโหลดสูงสุด (Peak-load) ความตองใชไฟฟาจะมีคาเพิ่มขึ้นอยางรวดเร็ว ทานควรจะใชโรงจักรประเภทใดตอไปนี้ในการจายโหลดสวนที่เพิ่มขึ้นในชวงเวลาดัง<br />
กลาวจึงจะเหมาะสมและประหยัดคาใชจาย<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
โรงไฟฟาพลังความรอนขนาดใหญ<br />
โรงไฟฟากังหันกาซ<br />
โรงไฟฟาดีเซล<br />
โรงไฟฟาพลังแสงอาทิตย<br />
หากมีเชื้อเพลิงหรือแหลงตนกําลังพอเพียง ทานคิดวาโรงไฟฟาชนิดใดตอไปนี้มีคาความพรอมในการใชงาน (Availability) สูงที่สุด<br />
คําตอบ 1 : โรงไฟฟาพลังงานไอน้ําที่ใชถานหิน<br />
คําตอบ 2 : โรงไฟฟาพลังงานไอน้ําที่ใชกาซธรรมชาติ<br />
คําตอบ 3 : โรงไฟฟาพลังความรอนรวม<br />
คําตอบ 4 : โรงไฟฟาพลังงานน้ํา<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
โรงไฟฟาประเภทใดตอไปนี้ มีประสิทธิภาพรวมในการเดินเครื่องที่คาพิกัดสูงที่สุด<br />
คําตอบ 1 : โรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา<br />
คําตอบ 2 : โรงไฟฟากังหันกาซ<br />
คําตอบ 3 : โรงไฟฟาพลังงานความรอนรวม<br />
คําตอบ 4 : โรงไฟฟาดีเซล
ขอที่ : 136<br />
ขอที่ : 137<br />
ขอที่ : 138<br />
ขอที่ : 139<br />
โรงไฟฟาขนาด 500 MW แหงหนึ่งมีคาใชจายในการผลิตไฟฟาตามสมการ C(P) = P2+ 320 P + 80,000 บาท/ชั่วโมง คาใชจายในการผลิตตอหนวยสุดทาย (Marginal cost)<br />
ขณะที่โรงไฟฟาแหงนี้จายไฟฟาที่ 400 MW คือเทาใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
520 บาท/MWh<br />
920 บาท/MWh<br />
1,120 บาท/MWh<br />
1,600 บาท/MWh<br />
เครื่องกําเนิดไฟฟาซิงโครนัสขนาด 4 ขั้วติดตั้งทํางานอยูในโรงไฟฟาแหงหนึ่งในภาคใต โรเตอรของเครื่องกําเนิดไฟฟาเครื่องนี้ตองการหมุนที่ความเร็วกี่ rpm.<br />
คําตอบ 1 : 1,000<br />
คําตอบ 2 : 1,200<br />
คําตอบ 3 : 1,500<br />
คําตอบ 4 : 3,000<br />
ขอใดตอไปนี้ไมเกี่ยวของกับการควบคุมกําลังไฟฟาที่ผลิต ณ โรงไฟฟาโดยตรง<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Load frequency control (LFC)<br />
Automatic voltage regulator (AVR)<br />
Automatic generation control (AGC)<br />
On-Load tap changing (OLTC)<br />
ในการเลือกชนิดของโรงจักรจะตองพิจารณาสิ่งใดบาง<br />
คําตอบ 1 :<br />
ขนาดกําลังผลิต / หนวยการผลิต<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 2 : ธรรมชาติของโหลดที่จะจาย<br />
คําตอบ 3 : ชนิดของเชื้อเพลิง<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
54 of 237<br />
ขอที่ : 140<br />
ในการเลือกสถานที่กอสรางโรงจักรจะตองพิจารณาสิ่งใดบาง<br />
คําตอบ 1 : ระยะทางสายสง
คําตอบ 2 : การขนสงเชื้อเพลิง<br />
คําตอบ 3 : การขนสงน้ําและมลภาวะ<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
55 of 237<br />
ขอที่ : 141<br />
ขอที่ : 142<br />
ขอที่ : 143<br />
ขอที่ : 144<br />
ทําไมโรงจักรไฟฟาบอนอกและบานหินกรูดจึงถูกระงับการกอสราง<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
เพราะขาดเงินทุน<br />
เพราะการตอตานจากชุมชน<br />
คําตอบ 3 : มีผลกระทบตอสิ่งแวดลอม<br />
คําตอบ 4 : ถูกทั้งขอ 2 และ 3<br />
ในการลงทุนสรางโรงจักรไฟฟาขอใดที่ไมใช Variable cost<br />
คําตอบ 1 : ราคาเชื้อเพลิง<br />
คําตอบ 2 : เงินเดือนพนักงาน<br />
คําตอบ 3 : อัตราดอกเบี้ย<br />
คําตอบ 4 : คาซอมบํารุง<br />
ในการลงทุนสรางโรงจักรไฟฟา ขอใดที่ไมใช Fixed cost<br />
คําตอบ 1 : งบประมาณที่ใชจายประจําป<br />
คําตอบ 2 : อัตราดอกเบี้ย<br />
คําตอบ 3 : การประกันภัย<br />
คําตอบ 4 : ราคาโรงจักร<br />
การขายพลังงานไฟฟาใหกับผูใชไฟฟาประกอบดวยคาอะไรบางตอไปนี้<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
kWh<br />
kW สูงสุด<br />
Ft<br />
ถูกทุกขอ
ขอที่ : 145<br />
ขอที่ : 146<br />
ขอที่ : 147<br />
ขอที่ : 148<br />
ในการผลิตพลังงานไฟฟาจายใหกับผูใชไฟถา Load factor เทากับ 99 % จะทําใหตนทุนในการผลิต / kWh เปนอยางไร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ถูก<br />
แพง<br />
ปานกลาง<br />
ถูกทุกขอ<br />
ในหนึ่งโรงจักรใดๆ ขนาดและจํานวนหนวยการผลิตที่เหมาะสมควรอยูระหวางกี่หนวยผลิต<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
1 หนวยผลิต<br />
2 – 10 หนวยผลิต<br />
มากกวา 10 หนวยผลิต<br />
ถูกทุกขอ<br />
ถาโรงจักรผลิตกําลังผลิตตามแผนการผลิตเทากับ 100 MW แลวผูใช ใชตาม Load curve เทากับ 95 MW ณ เวลาใดๆ โรงจักรนี้จะมี Hot reserve เทาใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
10 MW<br />
9 MW<br />
5 MW<br />
1 MW<br />
ในโรงจักรหนึ่งมี Hot reserve เทากับ 50 MW แลวโรงจักรเชื่อมตอกับโรงจักรสองดวยสายสงถาโรงจักรสองตองการสายสงกําลังไฟฟาเพิ่ม 40 MW โรงจักรหนึ่งจะจาย Spinning<br />
reserve ใหโรงจักรสองเทาใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
50 MW<br />
40 MW<br />
10 MW<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 4 : ไมมีคําตอบที่ถูกตอง<br />
56 of 237<br />
ขอที่ : 149<br />
โรงจักรหนึ่งมี 4 หนวยผลิตๆ ละ 500 MW จงหากําลังผลิตยามปกติวามีคาเทาไร<br />
คําตอบ 1 : 2000 MW<br />
คําตอบ 2 : 1500 MW
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
1000 MW<br />
500 MW<br />
57 of 237<br />
ขอที่ : 150<br />
ขอที่ : 151<br />
ขอที่ : 152<br />
ขอที่ : 153<br />
โรงจักรหนึ่งมีหนวยผลิต ๆ ละ 500 MW จงหากําลังผลิตสํารองเทาไร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
200 MW<br />
1,500 MW<br />
1,000 MW<br />
500 MW<br />
โรงจักรหนึ่งมี 4 หนวยผลิตๆละ 500 MW จงหากําลังผลิตสูงสุดที่โรงจักรสามารถผลิตได<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
2,000 MW<br />
1,500 MW<br />
1,000 MW<br />
500 MW<br />
ถาโรงจักรจายกําลังผลิตใหกับผูใชไฟเทากับ 60 % ของกําลังผลิตสูงสุดหมายถึงมีคาใดเทากับ 60 %<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
<strong>Plant</strong> use factor<br />
<strong>Plant</strong> capacity factor<br />
Installation capacity<br />
Cold reserve<br />
ถาโรงจักรกําลังผลิตใหกับผูใชไฟเทากับ 60 % ของกําลังผลิตสูงสุดจะเหลือกําลังผลิตสํารองกี่เปอรเซนต<br />
คําตอบ 1 : 40 %<br />
คําตอบ 2 : 30 %<br />
คําตอบ 3 : 20 %<br />
คําตอบ 4 : 10 %<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอที่ : 154
ถาโรงจักรจายกําลังผลิตใหกับผูใชไฟเทากับ 99 % ของกําลังผลิตยามปกติหมายถึงคาใดเทากับ 99 %<br />
คําตอบ 1 : <strong>Plant</strong> use factor<br />
คําตอบ 2 : <strong>Plant</strong> capacity factor<br />
คําตอบ 3 : Installation capacity<br />
คําตอบ 4 : Cold reserve<br />
58 of 237<br />
ขอที่ : 155<br />
ขอที่ : 156<br />
ขอที่ : 157<br />
ขอที่ : 158<br />
ถาโรงจักรจายกําลังผลิตใหกับผูใชไฟเทากับ 99 % ของกําลังผลิตยามปกติจงหาวา Hot reserve มีคากี่เปอรเซ็นต<br />
คําตอบ 1 : 100 %<br />
คําตอบ 2 : 99 %<br />
คําตอบ 3 : 1 %<br />
คําตอบ 4 : 0 %<br />
ทําไมตองติดตั้งกําลังผลิตสํารองเพิ่มอีก 1 หนวยผลิตในโรงจักรใดๆ<br />
คําตอบ 1 : เพิ่ม Stability ของโรงจักร<br />
คําตอบ 2 : เพิ่ม Reliability ของโรงจักร<br />
คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />
คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />
หนวยงานหลักที่รับผิดชอบระบบผลิตไฟฟาของประเทศไทย ณ ปจจุบัน คือ หนวยงานใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
กฟน.<br />
กฟผ.<br />
กฟภ.<br />
IPP และ SPP<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอใดตอไปนี้ควรคํานึงถึง นอยที่สุด ในการวางแผนกอสรางโรงไฟฟา<br />
คําตอบ 1 : แหลงเชื้อเพลิง และการขนสงเชื้อเพลิง<br />
คําตอบ 2 : เทคโนโลยีที่ทันสมัย<br />
คําตอบ 3 : ผลกระทบตอสิ่งแวดลอม
คําตอบ 4 : ขนาดกําลังการผลิตติดตั้ง<br />
ขอที่ : 159<br />
ขอที่ : 160<br />
ขอที่ : 161<br />
ขอที่ : 162<br />
ขอใด ไมใช การจําแนกประเภทของโหลด เพื่อใชในการวางแผนผลิตไฟฟา<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Base load<br />
Intermediate load<br />
Emergency load<br />
Reserved load<br />
โรงไฟฟาประเภทใดในปจจุบัน มีตนทุนคาเชื้อเพลิงตอหนวยการผลิตไฟฟาสูงที่สุด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
โรงไฟฟาพลังความรอน<br />
โรงไฟฟานิวเคลียร<br />
คําตอบ 3 : โรงไฟฟาเครื่องยนตดีเซล<br />
คําตอบ 4 : โรงไฟฟาพลังงานแสงอาทิตย<br />
โรงไฟฟาประเภทใดในปจจุบันมีตนทุนการผลิตตอหนวยพลังงานไฟฟาที่ได สูงที่สุด เมื่อคิดตลอดอายุการใชงานของโรงไฟฟา<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
โรงไฟฟาพลังความรอน<br />
โรงไฟฟาพลังความรอนรวม<br />
โรงไฟฟาดีเซล<br />
โรงไฟฟาพลังแสงอาทิตย<br />
โรงไฟฟาประเภทใดตอไปนี้มีประสิทธิภาพการผลิตไฟฟาสูงที่สุด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
โรงไฟฟาพลังงานความรอนรวม<br />
โรงไฟฟากังหันกาซ<br />
คําตอบ 3 : โรงไฟฟากังหันไอน้ํา<br />
คําตอบ 4 : โรงไฟฟาพลังงานแสงอาทิตย<br />
59 of 237<br />
ขอที่ : 163<br />
โรงไฟฟาใดตอไปนี้ที่ไมเสียคาใชจายเชื้อเพลิง
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Hydro power plant<br />
Steam turbine power plant<br />
Gas turbine power plant<br />
Combine cycle power plant<br />
60 of 237<br />
ขอที่ : 164<br />
ขอที่ : 165<br />
ขอที่ : 166<br />
ขอที่ : 167<br />
ในประเทศไทยมีโรงไฟฟากี่ชนิดที่รวมกันจายกําลังผลิตเขาระบบของประเทศแลวควบคุมจากศูนยควบคุมการผลิตและสงจายกําลังไฟฟาของประเทศไทย<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
5 ชนิด<br />
6 ชนิด<br />
7 ชนิด<br />
8 ชนิด<br />
การควบคุมการรวมกันจายกําลังผลิตเขาระบบไฟฟาของประเทศไทยแบงการควบคุมออกเปนกี่พื้นที่<br />
คําตอบ 1 : 2 พื้นที่<br />
คําตอบ 2 : 3 พื้นที่<br />
คําตอบ 3 : 4 พื้นที่<br />
คําตอบ 4 : 5 พื้นที่<br />
ถาประเทศไทยมีโรงไฟฟานิวเคลียร และโรงไฟฟาพลังงานน้ําแบบ Run off river และ Tidal plant เสริมเขาระบบของประเทศ จะมีผลอยางไร<br />
คําตอบ 1 :<br />
ทําให คาไฟฟา / MWh ลดลง<br />
คําตอบ 2 : ทําให คาไฟฟา / MWh เพิ่มขึ้น<br />
คําตอบ 3 : ทําให คาไฟฟา / MWh คงที่<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ในป พ.ศ. 2548 ประเทศไทยไดเซ็นตสัญญาซื้อพลังงานไฟฟาจากประเทศใดมาเสริมความตองการกําลังไฟฟาของประเทศ<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ลาว<br />
มาเลเซีย<br />
เวียดนาม<br />
จีน
ขอที่ : 168<br />
ขอที่ : 169<br />
ขอที่ : 170<br />
ขอที่ : 171<br />
สายสงพลังงานไฟฟาที่ประเทศไทยซื้อพลังงานไฟฟาจากมาเลเซียเปนสายสงชนิดใดและแรงดันเทาใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
DC 600 kV<br />
AC 600 kV<br />
DC 500 kV<br />
AC 500 kV<br />
ถาจะทําให <strong>Power</strong> loss ในสายสงรวมของประเทศไทยลดนอยลงควรจะปรับปรุงเปนระดับแรงดันเปนเทาใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
115 kV<br />
230 kV<br />
500 kV<br />
ถูกทุกขอ<br />
ทานเปนรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของประเทศไทย ทานคิดวาทานจะสรางโรงไฟฟาชนิดใด จึงจะพัฒนาประเทศไทยใหแขงขันในเชิงการคากับนาๆประเทศได<br />
คําตอบ 1 : โรงไฟฟานิวเคลียร<br />
คําตอบ 2 : โรงไฟฟาพลังงาน Hydrogen<br />
คําตอบ 3 : โรงไฟฟาพลังงานน้ําแบบ Run off river และ Tidal<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ตามภูมิประเทศของประเทศไทย โรงไฟฟาพลังงานน้ําชนิดใดที่ควรจะสรางเพิ่มเติม<br />
คําตอบ 1 : พัฒนา Reservoir plant ใหมีจํานวนชั้นมากกวา 1 ชั้น<br />
คําตอบ 2 : พัฒนา Reservoir plant เดิมใหเปน Pump storage plant<br />
คําตอบ 3 : สราง Run off river plant และ Tidal power plant<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
61 of 237<br />
ขอที่ : 172<br />
เขื่อนใดในประเทศลาวที่ผลิตไฟฟาขายใหประเทศไทย<br />
คําตอบ 1 : . เขื่อนน้ํางึม
คําตอบ 2 : เขื่อนน้ําเทิน<br />
คําตอบ 3 : เขื่อนน้ํางัด<br />
คําตอบ 4 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />
62 of 237<br />
ขอที่ : 173<br />
ขอที่ : 174<br />
ขอที่ : 175<br />
ขอที่ : 176<br />
จีนขายพลังงานไฟฟาใหประเทศไทยดวยสายสงแรงดันเทาไร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
230 kV<br />
500 kV<br />
600 kV<br />
1,000 kV<br />
ภายในศูนยควบคุมการผลิตและสงจายกําลังไฟฟาของประเทศไทย ประกอบดวยระบบใดบาง<br />
คําตอบ 1 :<br />
Computer<br />
คําตอบ 2 : สื่อสาร<br />
คําตอบ 3 : Load <strong>and</strong> Frequency control<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
การเลือกสรางชนิดของโรงจักรจะตองพิจารณาจากขอใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
ขนาดกําลังการผลิต<br />
คําตอบ 2 : เลือกสถานที่กอสราง<br />
คําตอบ 3 : ระยะทางของสายสงตองสั้นที่สุด<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ความหมายของ Cold reserve คือขอใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
กําลังผลิตสํารอง<br />
กําลังผลิตปกติ<br />
หนวยผลิตยามฉุกเฉิน<br />
ขอ 1 และ 3 ถูก
ขอที่ : 177<br />
ขอที่ : 178<br />
ขอที่ : 179<br />
ขอที่ : 180<br />
โรงจักรชนิดใดเหมาะที่จะใชในกรณีฉุกเฉิน<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
โรงไฟฟาดีเซล<br />
โรงไฟฟาพลังความรอน<br />
โรงไฟฟานิวเคลียร<br />
ถูกทุกขอ<br />
ขอดีของโรงไฟฟาพลังน้ําคือขอใด<br />
คําตอบ 1 : เดินเครื่องไดรวดเร็ว<br />
คําตอบ 2 : เสียคาเชื้อเพลิงต่ํา<br />
คําตอบ 3 : สามารถนําน้ําไปใชในการเกษตรได<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขอใดไมใชเชื้อเพลิงสําหรับโรงไฟฟาที่มีในประเทศไทย<br />
คําตอบ 1 : น้ํามันเตา<br />
คําตอบ 2 : แกสธรรมชาติ<br />
คําตอบ 3 : ถานหิน<br />
คําตอบ 4 : ธาตุยูเรเนียม<br />
โรงไฟฟาพลังงานทดแทนใชแหลงพลังงานจากขอใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
พลังงานจากแสงแดด<br />
พลังงานจากความรอนใตพิภพ<br />
พลังงานจากการแตกตัวของธาตุ<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอ 1และ 2 ถูก<br />
63 of 237<br />
ขอที่ : 181<br />
การกําหนดขนาดหนวยผลิตสํารองมีวิธีการกําหนดอยางไร<br />
คําตอบ 1 : กําหนดเทากับหนวยที่ใหญที่สุดในโรงไฟฟา<br />
คําตอบ 2 : กําหนดเทากับหนวยที่เล็กที่สุดในโรงไฟฟา
คําตอบ 3 : กําหนดเทากับหนวยผลิตเฉลี่ยทั้งโรงไฟฟา<br />
คําตอบ 4 : ไมมีขอถูก<br />
64 of 237<br />
ขอที่ : 182<br />
ขอที่ : 183<br />
ขอที่ : 184<br />
ขอที่ : 185<br />
โรงไฟฟานิวเคลียรมีลักษณะการทํางานคลายกับโรงไฟฟาในขอใด<br />
คําตอบ 1 : โรงไฟฟาพลังน้ํา<br />
คําตอบ 2 : โรงไฟฟากังหันแกส<br />
คําตอบ 3 : โรงไฟฟาพลังความรอน<br />
คําตอบ 4 : โรงไฟฟาดีเซล<br />
การพิจารณาสถานที่ตั้งโรงไฟฟานิวเคลียร ควรพิจารณาจากขอใด<br />
คําตอบ 1 : มีแหลงน้ําเพียงพอ<br />
คําตอบ 2 : อยูใกลจุดศูนยกลางโหลด<br />
คําตอบ 3 : หางไกลแหลงชุมชน<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
การใชงานของโรงจักร Diesel มีกี่แบบ<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
1 แบบ<br />
2 แบบ<br />
8 แบบ<br />
10 แบบ<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คุณสมบัติใดที่ไมใชเปนของเครื่องกําเนิดดีเซล<br />
คําตอบ 1 : เดินเครื่องไดเร็ว<br />
คําตอบ 2 : จายกําลังไฟฟาไดนอยเมื่อเทียบกับโรงจักรอื่นๆ<br />
คําตอบ 3 : เหมาะสําหรับการจายโหลดสูง(Peak load)<br />
คําตอบ 4 : ตองทํางานรวมกับเครื่องกําเนิดกาซเทอรไบน<br />
ขอที่ : 186
ขอความใดไมถูกตอง<br />
คําตอบ 1 : เครื่องจักรดีเซล 4 จังหวะ หมายถึงการเคลื่อนของลูกสูบทํางาน 4 จังหวะ<br />
คําตอบ 2 : ที่ความเร็วเทากันและขนาดเทากันเครื่องยนตดีเซลแบบ 2 จังหวะใหกําลังงานออกมามากกวา<br />
คําตอบ 3 : กาซเสียที่เหลือในการเผาไหมของเชื้อเพลิงในเครื่องยนต 2 จังหวะมีมากกวาแบบเครื่องยนต 4 จังหวะ<br />
คําตอบ 4 : เครื่องยนต 4 จังหวะสามารถหมุนในทิศทางใดก็ไดซึ่งเปนขอไดเปรียบเครื่องยนต 2 จังหวะ<br />
65 of 237<br />
ขอที่ : 187<br />
โรงไฟฟาดีเซลมีขอเสียเมื่อเทียบกับเครื่องกําเนิดหรือโรงไฟฟาแบบอื่นๆคือ<br />
คําตอบ 1 : ราคาเชื่อเพลิงสูงเมื่อเทียบกับถานหิน<br />
คําตอบ 2 : คาหลอลื่นในเครื่องยนตดีเซลสูง<br />
คําตอบ 3 : กําลังโหลดเกินของเครื่องมีขีดจํากัด<br />
คําตอบ 4 : ใชน้ําเพื่อระบายความรอนมาก<br />
ขอที่ : 188<br />
ประสิทธิภาพเครื่องกลหรือทางกล(Mechanical efficiency) หมายถึง<br />
ขอที่ : 189<br />
คําตอบ 1 : อัตราสวนของกําลังมาแรงบิด(Brake horse power) หรือ กําลังมาอินดิเกต(Indicated horse power)ตอพลังงานความรอนที่ไดจากเชื้อเพลิงในชวงเวลาเดียวกัน<br />
คําตอบ 2 : อัตราสวนของกําลังมาแรงบิด(Brake horse power) ตอ กําลังมาอินดิเกต(Indicated horse power)<br />
คําตอบ 3 : อัตราสวนของปริมาตรอากาศ Va ที่เขามาในกระบอกสูบที่อุณหภูมิและความดันปกติตอปริมาตรการดูดของลูกสูบ Vs<br />
คําตอบ 4 : อัตราสวนของประสิทธิภาพความรอนอินดิเกตตอประสิทธิภาพความรอนอุดมคติ<br />
ประสิทธิภาพความรอน คือ<br />
คําตอบ 1 : อัตราสวนของกําลังมาแรงบิด(Brake horse power) หรือ กําลังมาอินดิเกต(Indicated horse power)ตอพลังงานความรอนที่ไดจากเชื้อเพลิงในชวงเวลาเดียวกัน<br />
คําตอบ 2 : อัตราสวนของกําลังมาแรงบิด(Brake horse power) ตอ กําลังมาอินดิเกต(Indicated horse power)<br />
คําตอบ 3 : อัตราสวนของปริมาตรอากาศ Va ที่เขามสในกระบอกสูบที่อุณหภูมิและความดันปกติตอปริมาตรการดูดของลูกสูบ Vs<br />
คําตอบ 4 : อัตราสวนของประสิทธิภาพความรอนอินดิเกตตอประสิทธิภาพความรอนอุดมคติ<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอที่ : 190<br />
ประสิทธิภาพสัมพัทธ(relative efficiency)<br />
คําตอบ 1 : อัตราสวนของกําลังมาแรงบิด(Brake horse power) หรือ กําลังมาอินดิเกต(indicated horse power)ตอพลังงานความรอนที่ไดจากเชื้อเพลิงในชวงเวลาเดียวกัน<br />
คําตอบ 2 : อัตราสวนของกําลังมาแรงบิด(Brake horse power) ตอ กําลังมาอินดิเกต(indicated horse power)<br />
คําตอบ 3 : อัตราสวนของปริมาตรอากาศ Va ที่เขามสในกระบอกสูบที่อุณหภูมิและความดันปกติตอปริมาตรการดูดของลูกสูบ Vs
คําตอบ 4 :<br />
อัตราสวนของประสิทธิภาพความรอนอินดิเกตตอประสิทธิภาพความรอนอุดมคติ<br />
ขอที่ : 191<br />
ขอที่ : 192<br />
ขอที่ : 193<br />
ขอดีของโรงไฟฟาดีเซลคือขอใด<br />
คําตอบ 1 : เดินเครื่องไดรวดเร็ว<br />
คําตอบ 2 : เหมาะที่จะเปนโรงไฟฟาสํารองหรือโรงไฟฟาฉุกเฉิน<br />
คําตอบ 3 : สามารถเคลื่อนยายไดสะดวกกวาโรงไฟฟาชนิดอื่น<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขอใดที่ไมใช จังหวะการทํางานของเครื่องยนตดีเซล 4 จังหวะ<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Suction<br />
Compression<br />
Ignition<br />
Extinction<br />
เครื่องยนตดีเซล 2 จังหวะตางจาก 4 จังหวะอยางไร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ไมมี Suction stroke<br />
ไมมี Compression stroke<br />
ไมมี Ignition stroke<br />
ไมมี Expansion stroke<br />
ขอที่ : 194<br />
Super-charging มีหนาที่อะไร<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 1 : ทําหนาที่เพิ่มน้ําหนักของอากาศเขาลูกสูบมากขึ้น ทําใหฉีดน้ํามันไดมากขึ้น<br />
คําตอบ 2 : เปนการเพิ่มกําลังเครื่องยนตดีเซลโดยประสิทธิภาพไมเปลี่ยน<br />
คําตอบ 3 : ใชเพิ่มกําลังเครื่องยนตที่อยูสูงจากระดับน้ําทะเล<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
66 of 237<br />
ขอที่ : 195<br />
<strong>Power</strong> output ของเครื่องยนตดีเซลสัมพันธกับการติดตั้งที่ความสูงเหนือระดับน้ําทะเลอยางไร
คําตอบ 1 : Rated power output ของเครื่องยนตดีเซลจะลดลงเมื่อความสูงเพิ่มขึ้น<br />
คําตอบ 2 : Rated power output ของเครื่องยนตดีเซลจะเพิ่มขึ้นเมื่อความสูงเพิ่มขึ้น<br />
คําตอบ 3 : Rated power output ของเครื่องยนตดีเซลจะไมเกี่ยวของกับความสูง<br />
คําตอบ 4 : Rated power output ของเครื่องยนตดีเซลจะคงที่เสมอ<br />
67 of 237<br />
ขอที่ : 196<br />
ขอที่ : 197<br />
ขอที่ : 198<br />
ขอที่ : 199<br />
ขอใดไมใชวิธี Cooling สําหรับเครื่องยนตดีเซลที่ใชในโรงไฟฟาดีเซล<br />
คําตอบ 1 : ใชน้ําจากแหลงน้ําธรรมชาติปมเขามาแลวปลอยออกไป<br />
คําตอบ 2 : ใช Ice cooling ในการผลิตน้ําแข็งเพื่อหลอเย็น<br />
คําตอบ 3 : ใช Cooling tower ในโรงไฟฟาขนาดใหญและกรณีที่น้ําขาดแคลน<br />
คําตอบ 4 : ใชบอ Cooling water pond อาจใชการ spray ชวยในกรณีที่น้ําในบออุณหภูมิสูงเกินไป<br />
ขอใดไมถือเปนคาใชจายในการดําเนินงานของโรงจักรดีเซล<br />
คําตอบ 1 : คาเสื่อมราคา<br />
คําตอบ 2 : คาน้ํามันเชื้อเพลิง<br />
คําตอบ 3 : คาน้ํามันหลอลื่น<br />
คําตอบ 4 : คาน้ําสําหรับหลอเย็น<br />
โรงไฟฟาดีเซลไมนิยมใชในกรณีใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Base-load plant<br />
Peak-load plant<br />
St<strong>and</strong>by plant<br />
Emergency plant<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คุณสมบัติใดที่แสดงวาเครื่องยนตนั้นเปนเครื่องยนตดีเซล<br />
คําตอบ 1 : มีหัวฉีดน้ํามันเชื้อเพลิง<br />
คําตอบ 2 : มีการดูดไอดีเขาหองเผาไหม<br />
คําตอบ 3 : ใชปมเชื้อเพลิงความดันสูง<br />
คําตอบ 4 : ไมมีหัวเทียน
ขอที่ : 200<br />
ขอที่ : 201<br />
ขอที่ : 202<br />
ขอที่ : 203<br />
การเปดสวิทชในการสตารทเครื่องยนตดีเซลนานติดตอกันมีผลเสียอยางไร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
เฟองของมอเตอรชํารุด<br />
เปลืองไฟ<br />
มอเตอรรอนจัด<br />
คําตอบ 4 : เครื่องยนตชํารุด<br />
ขอดีของการวางกระบอกสูบแบบวีคือ<br />
คําตอบ 1 :<br />
งายตอการซอมแซม<br />
คําตอบ 2 : เครื่องยนตหมุนเรียบขึ้น<br />
คําตอบ 3 : ประหยัดเนื้อที่ในแนวตั้ง<br />
คําตอบ 4 : เพลาขอเหวี่ยงมีความแข็งแรงมากขึ้น<br />
ลอชวยแรง (Flywheel) มีประโยชนอยางไร<br />
คําตอบ 1 : ทําใหเครื่องยนตมีแรงเฉื่อยมากขึ้น<br />
คําตอบ 2 : ชวยลดแรงกระทําตอลูกสูบ<br />
คําตอบ 3 : การสตารทเครื่องสะดวก รวดเร็วมากขึ้น<br />
คําตอบ 4 : เครื่องยนตหมุนเรียบสม่ําเสมอ<br />
การดูแลรักษาเครื่องยนตดีเซล ควรปฏิบัติอยางไร<br />
คําตอบ 1 : เดินเครื่องตัวเปลากอนจายภาระ<br />
คําตอบ 2 : เปลี่ยนน้ํามันหลอลื่นตามกําหนด<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 3 : ถายน้ําระบายความรอนออกใหหมด เมื่อตองหยุดเครื่องนานๆ<br />
คําตอบ 4 : ตรวจเติมนําระบายความรอน<br />
68 of 237<br />
ขอที่ : 204<br />
ขอใดตอไปนี้ไมถูกตอง<br />
คําตอบ 1 : โรงไฟฟาดีเซลสามารถนํามาติดตั้งบนรถบรรทุกเคลื่อนที่เพื่อใชเปน Mobile plant ได
คําตอบ 2 :<br />
โรงไฟฟาดีเซลสามารถนํามาจาย Auxiliary power ใหโรงไฟฟาพลังความรอนขนาดใหญได<br />
คําตอบ 3 : Operating cost ต่ํา<br />
คําตอบ 4 : มีประสิทธิภาพสูง ถึงแมจะจายที่ Light load<br />
69 of 237<br />
ขอที่ : 205<br />
ขอที่ : 206<br />
ขอที่ : 207<br />
ขอที่ : 208<br />
ขอใดตอไปนี้ถูกตอง<br />
คําตอบ 1 : โรงไฟฟาดีเซลขนาดเล็กใชการระบายความรอนดวยน้ําเปนสวนใหญ<br />
คําตอบ 2 : หลักการทํางานของโรงไฟฟาดีเซลเปนไปตามวัฏจักรเบรยตัน (Brayton cycle)<br />
คําตอบ 3 : Common rail injection system เปนระบบที่ทําหนาที่ใหโมเลกุลของน้ํามันเกิดการแตกตัวที่ความดันสูง<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขอใดตอไปนี้จัดเปนขอไดเปรียบของโรงไฟฟาดีเซล<br />
คําตอบ 1 : เหมาะสมที่จะทํางานในสภาวะโหลดเกิน<br />
คําตอบ 2 : คาบํารุงรักษาต่ํา<br />
คําตอบ 3 : มีประสิทธิภาพสูง ถึงแมจะจายที่ Light load<br />
คําตอบ 4 : ไมมีปญหาทางดานมลภาวะทางเสียง<br />
โรงไฟฟาดีเซลของการไฟฟาฝายผลิตแหงประเทศไทยถูกติดตั้งอยูที่จังหวัดใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ตราด<br />
แมฮองสอน<br />
ยะลา<br />
มุกดาหาร<br />
โรงไฟฟาดีเซลเปนโรงไฟฟาขนาดเล็ก โดยปกติจะมีกําลังผลิตประมาณไมเกินเทาใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
50 kW<br />
500 kW<br />
5.0 MW<br />
50.0 MW
ขอที่ : 209<br />
ขอที่ : 210<br />
ขอที่ : 211<br />
ขอที่ : 212<br />
ขอใดตอไปนี้เปนหลักการทํางานของเครื่องยนตดีเซลแบบ 4 จังหวะ<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ดูด(Suction) – อัด(Compression) – ระเบิด(Ignition <strong>and</strong> expansion) – คาย(Exhaust)<br />
อัด(Compression) – ระเบิด(Ignition <strong>and</strong> expansion) – คาย(Exhaust) - ดูด(Suction)<br />
ดูด(Suction) – อัด(Compression) – คาย(Exhaust) – ระเบิด(Ignition <strong>and</strong> expansion)<br />
คาย(Exhaust) - ดูด(Suction) – ระเบิด(Ignition <strong>and</strong> expansion) - อัด(Compression)<br />
ขอใดตอไปนี้คือเหตุผลในการติดตั้ง Super charging ใหกับโรงไฟฟาดีเซล<br />
คําตอบ 1 : เนื่องจากตองการใหเครื่องยนตมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น<br />
คําตอบ 2 : เนื่องจากตองการใหเครื่องยนตมีกําลังเพิ่มมากขึ้นในกรณีที่ติดตั้งอยูเหนือจากระดับน้ําทะเลมากๆ<br />
คําตอบ 3 : เนื่องจากตองการใหเครื่องยนตทํางานไดครบ 4 จังหวะ<br />
คําตอบ 4 : เนื่องจากระบบ Super charging เปนสวนหนึ่งการเดินโรงไฟฟาดีเซล<br />
ขอใดตอไปนี้ไมใชคุณสมบัติของโรงไฟฟาดีเซล<br />
คําตอบ 1 :<br />
มีขนาดเล็ก<br />
คําตอบ 2 : สามารถเดินเครื่องและสามารถหยุดเดินไดอยางทันทีทันใด<br />
คําตอบ 3 : ใชน้ําหลอเย็นนอย<br />
คําตอบ 4 : ขนาดพื้นที่ใชในการติดตั้งไมขึ้นอยูกับ Capacity ของเครื่องกําเนิด<br />
ขอใดตอไปนี้ไมใชเปาหมายของโรงไฟฟาดีเซล<br />
คําตอบ 1 : เดินเครื่องตลอดเวลา(Base load)<br />
คําตอบ 2 : เดินเครื่องในกรณี Peak load<br />
คําตอบ 3 : ติดตั้งโรงไฟฟาดีเซลในที่หางไกลซึ่งสายสงไฟฟากําลังติดตั้งลําบาก<br />
คําตอบ 4 : ติดตั้งโรงไฟฟาดีเซลเพื่อใชเปน St<strong>and</strong>by plant<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
70 of 237<br />
ขอที่ : 213<br />
Name plate ของเครื่องยนตดีเซลที่ใชเปนตนกําลังในการผลิตไฟฟา มีรายละเอียดดังนี้ ใชงานที่ระดับความสูง 450 m, 32 องศาเซลเซียส และ ความดัน 717.5 mm.Hg ขอใดตอ<br />
ไปนี้ถูกตอง<br />
คําตอบ 1 : สามารถนําเครื่องยนตนี้ไปติดตั้งใชงานที่อุทยานแหงชาติดอยอินทนนท ไดเลย<br />
คําตอบ 2 : นําเครื่องยนตนี้ไปติดตั้งใชงานที่อุทยานแหงชาติดอยอินทนนท จะทําใหสามารถผลิตกระแสไฟฟาเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากประสิทธิภาพของเครื่องยนตทํางานดีขึ้น
คําตอบ 3 : สามารถนําเครื่องยนตนี้ไปติดตั้งใชงานที่อุทยานแหงชาติดอยอินทนนท ไดแตตองพิจารณาปรับใหขนาดของ Generator ใหต่ําลง<br />
คําตอบ 4 : ไมสามารถติดตั้งไดเนื่องจากเครื่องยนตและ Generator มีขนาดใหญจึงไมเหมาะที่จะนําไปติดตั้งใชงานที่สูงๆ<br />
71 of 237<br />
ขอที่ : 214<br />
ขอที่ : 215<br />
ในการออกแบบโรงไฟฟาดีเซล พิกัด 700 kW ติดตั้งใชงานที่ระดับความสูง 1,000 เมตร เหนือระดับน้ําทะเล , เครื่องยนตที่เลือกใชนี้จะติดตั้ง Super charging และ Generator มี<br />
ประสิทธิภาพ 90 % ใหหาขนาดของเครื่องยนตที่ใชในการผลิตไฟฟานี้ (เครื่องยนตที่ติดตั้งเหนือจากระดับน้ําทะเล 1,000 เมตร จะทําใหเครื่องยนตมี Rating ลดลง 92 %)<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
700 kW<br />
760.9 kW<br />
777.78 kW<br />
845.41 kW<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ในการออกแบบโรงไฟฟาดีเซล พิกัด 700 kW จํานวน 2 Unit ติดตั้งใชงานที่ระดับความสูง 1,000 เมตร เหนือระดับน้ําทะเล , เครื่องยนตที่เลือกใชนี้จะติดตั้ง Super charging และ<br />
Generator มีประสิทธิภาพ 90 % เครื่องยนตเปนแบบ 4 จังหวะ 375 rpm ชนิด airless injection, คา Dem<strong>and</strong> สูงสุดของสถานีคือ 1,400 kW ที่ 0.8 p.f. lagging, คา load<br />
factor เฉลี่ย 50%, annual capacity factor 44% ใหหาขนาดของ Main dimension ขอ
72 of 237<br />
ขอที่ : 216<br />
คําตอบ 1 : เสนผานศูนยกลางเทากับ 31.763 cm , ความยาว Stroke เทากับ 44.468 cm<br />
คําตอบ 2 : เสนผานศูนยกลางเทากับ 32.2 cm , ความยาว Stroke เทากับ 45 cm<br />
คําตอบ 3 : เสนผานศูนยกลางเทากับ 35.763 cm , ความยาว Stroke เทากับ 44.468 cm<br />
คําตอบ 4 : เสนผานศูนยกลางเทากับ 36.254 cm , ความยาว Stroke เทากับ 46.725 cm<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ในการออกแบบโรงไฟฟาดีเซล พิกัด 700 kW จํานวน 2 Unit ติดตั้งใชงานที่ระดับความสูง 1,000 เมตร เหนือระดับน้ําทะเล , เครื่องยนตที่เลือกใชนี้จะติดตั้ง Super charging และ<br />
Generator มีประสิทธิภาพ 90 % เครื่องยนตเปนแบบ 4 จังหวะ 375 rpm ชนิด airless injection, คา Dem<strong>and</strong> สูงสุดของสถานีคือ 1,400 kW ที่ 0.8 p.f. lagging, คา load<br />
factor เฉลี่ย 50%, annual capacity factor 44%
73 of 237<br />
ขอที่ : 217<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
เสนผานศูนยกลางเทากับ 138 cm , ความยาวแกนเทากับ 27.1 cm<br />
เสนผานศูนยกลางเทากับ 140 cm , ความยาวแกนเทากับ 30 cm<br />
เสนผานศูนยกลางเทากับ 142.5 cm , ความยาวแกนเทากับ 32.5 cm<br />
เสนผานศูนยกลางเทากับ 148 cm , ความยาวแกนเทากับ 52 cm<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ในระบบของโรงไฟฟาดีเซลประกอบดวยสวนหลักคือ Generator กับเครื่องยนตดีเซล และ ระบบควบคุมคือ AVR และ GOV control AVR มีไวเพื่อควบคุมอะไร<br />
คําตอบ 1 : V ที่ Bus ใหคงที่<br />
คําตอบ 2 : f ที่ Bus ใหคงที่<br />
คําตอบ 3 : P ที่ Bus ใหคงที่<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขอที่ : 218
ขอที่ : 219<br />
ขอที่ : 220<br />
ขอที่ : 221<br />
ถาในโรงไฟฟาดีเซล 1 โรงจักรมีจํานวนหนวยผลิตเทากับ 4 หนวยผลิตๆละ 500 kW จงหากําลังทางกล (Pm) ที่ขับGenerator /หนวยผลิตเมื่อประสิทธิภาพของ Generator เทากับ<br />
92%<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
500 kW<br />
543 kW<br />
600 kW<br />
700 kW<br />
ในระบบของโรงไฟฟาดีเซลประกอบดวยสวนหลักคือ Generator กับเครื่องยนตดีเซล และ ระบบควบคุมคือ AVR และ GOV control GOV มีไวเพื่อควบคุมอะไร<br />
คําตอบ 1 : V ที่ Bus ใหคงที่<br />
คําตอบ 2 : f ที่ Bus ใหคงที่<br />
คําตอบ 3 : P ที่ Bus ใหคงที่<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ถา Generator มีขนาดกําลังผลิต / หนวยผลิตเทากับ 500 kW โดยเปนโรงไฟฟาดีเซลที่ใชงานที่ความสูง 2,500 เมตร เหนือระดับน้ําทะเล เครื่องยนตที่ใชควรจะมี Out put rating<br />
ขนาดเทาใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ขนาดเทากับ 500 kW<br />
ขนาดมากกวา 500 kW<br />
ขนาดนอยกวา 500 kW<br />
ไมมีขอใดถูกตอง<br />
ขอใดตอไปนี้ไมใช Specification ของ Generator ขนาด 500 kW ที่ใชในโรงไฟฟาดีเซล<br />
คําตอบ 1 : 3 เฟส , 440 v , 50 Hz<br />
คําตอบ 2 : <strong>Power</strong>factor 4.8 lagging<br />
คําตอบ 3 : ประสิทธิภาพ 92%<br />
คําตอบ 4 : จํานวน Pole 2 Pole ที่ 1,500 rpm<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
74 of 237<br />
ขอที่ : 222<br />
ขนาดของเสนผานศูนยกลางและความยาวของ stator ของ Generator ที่ใชในโรงไฟฟาดีเซลควรจะมีขนาดเสนผานศูนยกลางเทาใด
คําตอบ 1 :<br />
:สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 2<br />
75 of 237
คําตอบ 3 :สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
76 of 237
คําตอบ 4 :สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
77 of 237
78 of 237<br />
ขอที่ : 223<br />
จะตองหาคาสิ่งใดตอไปนี้กอนจึงจะบอกขนาดของเสื้อสูบได<br />
คําตอบ 1 : จํานวนกระบอกสูบ<br />
คําตอบ 2 : ขนาดของเสนผานศูนยกลาง<br />
คําตอบ 3 : ชวงชักของลูกสูบ<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขอที่ : 224<br />
ปริมาตรของกระบอกสูบสามารถบอกไดจากคาใดตอไปนี้<br />
คําตอบ 1 : stroke / Bore ratio<br />
คําตอบ 2 : Out put rating<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Pressure ในกระบอกสูบ<br />
ถูกทุกขอ<br />
79 of 237<br />
ขอที่ : 225<br />
ขอที่ : 226<br />
ขอที่ : 227<br />
การจะหาขนาดของถังน้ํามันที่ใชใน 1 วัน / หนวยผลิต และขนาดถังน้ํามันสํารองที่ใชใน 1 เดือนจะตองทราบคาใดบาง<br />
คําตอบ 1 : อัตราการกินน้ํามัน / ชั่วโมง<br />
คําตอบ 2 : จํานวนหนวยผลิตที่ติดตั้ง<br />
คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
น้ําระบายความรอนในเครื่องยนตควรจะมีอุณหภูมิขาออกไมควรเกินกี่องศาเซลเซียส<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
40 องศาเซลเซียส<br />
50 องศาเซลเซียส<br />
60 องศาเซลเซียส<br />
70 องศาเซลเซียส<br />
การทํา <strong>Plant</strong> lag Out ของโรงไฟฟาดีเซลเพื่อบอกอะไร<br />
คําตอบ 1 :<br />
ขนาดของโรงไฟฟาดีเซล<br />
คําตอบ 2 : พื้นที่ ที่ใชกอสรางโรงไฟฟา<br />
คําตอบ 3 : ขนาดของถังเชื้อเพลิง<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขอที่ : 228<br />
Bid document คืออะไร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
แบบของโรงไฟฟา<br />
Specification ของโรงไฟฟา<br />
เอกสารประกวดราคา<br />
ไมมีขอใดถูกตอง<br />
ขอที่ : 229
การทํา Bid document เพื่อบอกสิ่งใด<br />
คําตอบ 1 : พื้นที่ของโรงไฟฟา<br />
คําตอบ 2 : ราคากลางในการกอสรางโรงไฟฟา<br />
คําตอบ 3 : ราคาน้ํามัน<br />
คําตอบ 4 : ราคา Generator<br />
80 of 237<br />
ขอที่ : 230<br />
ขอที่ : 231<br />
ขอที่ : 232<br />
ขอที่ : 233<br />
การสรางโรงไฟฟาดีเซลอื่นๆ โดยที่เจาของงานใหบริษัทที่ประมูลไดสรางจนเสร็จแลวสงมอบโรงไฟฟาที่เสร็จสมบูรณใหเจาของงานเรียกการกอสรางลักษณะนี้วา<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Turn key plant<br />
Project plant<br />
Construetion plant<br />
ถูกทุกขอ<br />
ขอใดตอไปนี้ไมใชคุณสมบัติของโรงไฟฟาดีเซล<br />
คําตอบ 1 : ขนาดกําลังผลิต 1 หนวยผลิตต่ํา<br />
คําตอบ 2 : Start / stop ไดรวดเร็ว<br />
คําตอบ 3 : สรางในที่ซึ่งมีน้ํามันราคาถูก<br />
คําตอบ 4 : จายเขา Grid system ของประเทศไทย<br />
การใชงานของโรงไฟฟาดีเซลในลักษณะจาย Load แทนโรงไฟฟาอื่นในขนาดกําลังผลิตที่เทากันเรียกการใชงานลักษณะนี้วา<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
St<strong>and</strong>by plant<br />
Peak load plant<br />
Emergency plant<br />
Nersery station<br />
การใชงานของโรงไฟฟาดีเซลในลักษณะจาย Load ฉุกเฉินแทนไฟจากการไฟฟาเรียกการใชงานลักษณะนี้วา<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
St<strong>and</strong>by plant<br />
Peak load plant<br />
Emergency plant
คําตอบ 4 :<br />
Nersery station<br />
ขอที่ : 234<br />
ขอที่ : 235<br />
ขอที่ : 236<br />
ขอที่ : 237<br />
การใชงานของโรงไฟฟาดีเซลในลักษณะจาย Load ชั่วคราวเมื่อไฟของการไฟฟาจายใหไมพอเรียกการใชงานลักษณะนี้วา<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
St<strong>and</strong>by plant<br />
Peak load plant<br />
Emergency plant<br />
Nersery station<br />
ขอดีของโรงไฟฟาดีเซล คือ ขอใด<br />
คําตอบ 1 : กําลังการผลิตติดตั้งสูง<br />
คําตอบ 2 : ประสิทธิภาพในการผลิตสูง<br />
คําตอบ 3 : ตนทุนตอหนวยการผลิตต่ํา<br />
คําตอบ 4 : ตอบสนองตอการเปลี่ยนแปลงโหลดไดอยางรวดเร็ว<br />
โรงไฟฟาดีเซลมีหลักการทํางานอยางไร<br />
คําตอบ 1 : เปลี่ยนพลังงานจากถานหินเปนพลังงานความรอน<br />
คําตอบ 2 : เปลี่ยนพลังงานความรอนเปนพลังงานกลไปขับโรเตอร<br />
คําตอบ 3 : เปลี่ยนพลังงานนิวเคลียรเปนพลังงานความรอน<br />
คําตอบ 4 : เปลี่ยนพลังงานจากการเผาไหมของน้ํามันเปนพลังงานกลไปขับโรเตอรของเครื่องเครื่องกําเนิดไฟฟา<br />
ขอใดคือขอดีของโรงไฟฟาดีเซล<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 1 : สามารถเดินเครื่องไดรวดเร็ว<br />
คําตอบ 2 : เหมาะสําหรับจายโหลดฉุกเฉิน<br />
คําตอบ 3 : ขอ 1 และ 2 ถูก<br />
คําตอบ 4 : ผิดทุกขอ<br />
81 of 237<br />
ขอที่ : 238<br />
ในโรงไฟฟาดีเซลคําวา Day tank หมายถึงสวนใดของโรงไฟฟา
คําตอบ 1 : ถังน้ํามันเชื้อเพลิงที่ใชใน 1 วัน/หนวยผลิต<br />
คําตอบ 2 : ถังน้ํามันเชื้อเพลิงที่ใชใน 1 สัปดาห/หนวยผลิต<br />
คําตอบ 3 : ถังน้ํามันเชื้อเพลิงที่ใชใน 1 เดือน/หนวยผลิต<br />
คําตอบ 4 : ถังน้ํามันเชื้อเพลิงที่ใชใน 1 ป/หนวยผลิต<br />
82 of 237<br />
ขอที่ : 239<br />
ขอที่ : 240<br />
ขอที่ : 241<br />
ขอที่ : 242<br />
ในโรงไฟฟาดีเซลคําวา Reserve tank หมายถึงสวนใดของโรงไฟฟา<br />
คําตอบ 1 : ถังน้ํามันเชื้อเพลิงที่ใชใน 1 วัน/หนวยผลิต<br />
คําตอบ 2 : ถังน้ํามันเชื้อเพลิงที่ใชใน 1 สัปดาห/หนวยผลิต<br />
คําตอบ 3 : ถังน้ํามันเชื้อเพลิงที่ใชใน 1 เดือน/หนวยผลิต<br />
คําตอบ 4 : ถังน้ํามันเชื้อเพลิงที่ใชใน 1 ป/หนวยผลิต<br />
พัลเวอรไรเซอร (Pulverizer) คืออุปกรณประเภทใดในโรงไฟฟาพลังไอน้ํา<br />
คําตอบ 1 : อุปกรณสงสัญญาณ Pulse เพื่อควบคุมการทํางานของโรงไฟฟาจากศูนยควบคุม<br />
คําตอบ 2 : อุปกรณบดถานหินเปนผงกอนฉีดเขาเตาเผาไหม<br />
คําตอบ 3 : อุปกรณแยกไอน้ําและน้ําออกจากกันและลดจํานวนสารที่เจือปนมากับไอน้ําใหนอยลงเพื่อไมใหเทอรไบนเสียหาย<br />
คําตอบ 4 : อุปกรณกลั่นไอน้ําใหกลายเปนน้ําเพื่อฉีดเขาเตาเผาไหม<br />
ดรัม (Drum) ในโรงไฟฟาพลังงานไอน้ําคืออะไร<br />
คําตอบ 1 : อุปกรณแยกไอน้ําและน้ําออกจากกันและลดจํานวนสารที่เจือปนมากับไอน้ําใหนอยลงเพื่อไมใหเทอรไบนเสียหาย<br />
คําตอบ 2 : อุปกรณกลั่นไอน้ําใหกลายเปนน้ําเพื่อฉีดเขาเตาเผาไหม<br />
คําตอบ 3 : อุปกรณสงสัญญาณ pulse เพื่อควบคุมการทํางานของโรงไฟฟาจากศูนยควบคุม<br />
คําตอบ 4 : อุปกรณกําจัดกาซหรือสารที่เจือปนมากับไอน้ําและไมสามารถกลั่นตัว<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ความเร็วรอบ (รอบ/นาที) ของเทอรไบนเพื่อไปขับเครื่องกําเนิดไฟฟาของโรงไฟฟาพลังงานไอน้ําโดยทั่วไปมีคาประมาณเทาใด<br />
คําตอบ 1 : 3,000<br />
คําตอบ 2 : 600<br />
คําตอบ 3 : 800<br />
คําตอบ 4 : 1,500
ขอที่ : 243<br />
ขอที่ : 244<br />
สวนประกอบหรืออุปกรณใดที่ไมใชเปนสวนหนึ่งของโรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา<br />
คําตอบ 1 : เครื่องควบแนน<br />
คําตอบ 2 : พัลเวอรไรเซอร (Pulverizer)<br />
คําตอบ 3 : ดรัม (Drum)<br />
คําตอบ 4 : วงลอผีเสื้อ (Butterfly wheel)<br />
ขอใดตอไปนี้ไมใชเปนองคประกอบของโรงไฟฟาแบบ Steam power plant<br />
คําตอบ 1 :<br />
สามารถสรางไดใกลจุด Load center<br />
คําตอบ 2 : สามารถผลิตกําลังไฟฟาไดอยางสม่ําเสมอ<br />
คําตอบ 3 : มีคาใชจายในการผลิตตอหนวยสูง<br />
คําตอบ 4 : เหมาะสําหรับเดินเครื่องเปน Peaking<br />
ขอที่ : 245<br />
Precipitator เปนสวนหนึ่งของระบบใดในโรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
ระบบระบายความรอน<br />
ระบบกําจัดเถาถาน<br />
คําตอบ 3 : ระบบควบคุมคุณถาพน้ํา<br />
คําตอบ 4 : ระบบบําบัดน้ําเสีย<br />
ขอที่ : 246<br />
Cycle แบบใดที่นิยมใชกับโรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Brayton cycle<br />
Joule cycle<br />
Rankine cycle<br />
Carnot cycle<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
83 of 237<br />
ขอที่ : 247<br />
Steam power station เหมาะสําหรับใชเปน<br />
คําตอบ 1 :<br />
Base-load plant
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Peak-load plant<br />
St<strong>and</strong>by plant<br />
Emergency plant<br />
84 of 237<br />
ขอที่ : 248<br />
ขอที่ : 249<br />
ขอที่ : 250<br />
ขอที่ : 251<br />
ขอใดไมใชสวนประกอบของ Steam power station<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Boiler<br />
Stream turbine<br />
Generator<br />
Reactor<br />
ขอใดไมใชสวนประกอบของการลําเลียงถานหินของ Steam power plant ที่ใชถานหินเปนเชื้อเพลิง<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Unloading plant<br />
Conveying plant<br />
Sieving plant<br />
Crushing plant<br />
ขอใดเปนชนิดของ Steam turbine<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Francis turbine<br />
Jet turbine<br />
Propeller turbine<br />
Curtis turbine<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอใดไมใชการพิจารณาในการออกแบบ Boiler ของ Steam power plant<br />
คําตอบ 1 : ปริมาณเชื้อเพลิงที่จะถูกเผา<br />
คําตอบ 2 : ความดันที่ใชงาน<br />
คําตอบ 3 : อุณหภูมิ<br />
คําตอบ 4 : แรงดันไฟฟาที่ผลิต
ขอที่ : 252<br />
ขอไดไมใชอุปกรณสําหรับเพิ่มประสิทธิภาพ Boiler ของ Steam power plant<br />
คําตอบ 1 : Superheater<br />
คําตอบ 2 : Super-charger<br />
คําตอบ 3 : Economizer<br />
คําตอบ 4 : Feed-water heater<br />
ขอที่ : 253<br />
เหตุใดการเลือกที่ตั้งของโรงไฟฟาพลังงานไอน้ําจึงควรเลือกบริเวณใกลแหลงน้ํา<br />
คําตอบ 1 : มีความตองการใชน้ํามากในการผลิตไฟฟา<br />
คําตอบ 2 : เพื่อความสะดวกในการขนสงเชื้อเพลิง<br />
คําตอบ 3 : ราคาที่ดินไมแพงมากนัก<br />
คําตอบ 4 : สะดวกในการปลอยน้ําที่เหลือจากกระบวนการผลิตไฟฟา<br />
ขอที่ : 254<br />
ขอใดตอไปนี้ไมใชการลําเลียงเชื้อเพลิงที่เปนถานหิน เขาเตาเผาไหมที่ใชกันอยู<br />
คําตอบ 1 : ใชคนงานที่มีความชํานาญกระจายถานหินใหสม่ําเสมอ<br />
คําตอบ 2 : ใชเครื่องจักรกลลําเลียงเชื้อเพลิง<br />
คําตอบ 3 : บดถานหินใหเปนผงละเอียดแลวพนเขาไปในเตาเผา<br />
คําตอบ 4 : อัดใหถานหินมีความดันสูงแลวจึงสงเขาเตาเผา<br />
ขอที่ : 255<br />
เหตุใดจึงตองมีเงื่อนไขบังคับสําหรับภาระต่ําสุดของ โรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา<br />
คําตอบ 1 : เพื่อใหหมอตมน้ําทํางานไดอยางเต็มประสิทธิภาพ<br />
คําตอบ 2 : เพื่อเสถียรภาพในการเผาไหมของเชื้อเพลิง<br />
คําตอบ 3 : เพื่อใหประสิทธิภาพในการระบายความรอนเปนไปอยางสูงสุด<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 4 : เพื่อเปนการประหยัดเชื้อเพลิง<br />
85 of 237<br />
ขอที่ : 256<br />
ขอใดตอไปนี้ไมสามารถจัดใหเปนโรงไฟฟาพลังงานความรอนได<br />
คําตอบ 1 : โรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา<br />
คําตอบ 2 : โรงไฟฟาพลังงานน้ํา
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
โรงไฟฟานิวเคลียร<br />
ไมมีขอใดถูก<br />
86 of 237<br />
ขอที่ : 257<br />
ขอใดไมจัดเปน Liquid petroleum gas (LPG)<br />
คําตอบ 1 : Propane<br />
คําตอบ 2 : Butane<br />
คําตอบ 3 : Octance<br />
คําตอบ 4 : Kerosene<br />
ขอที่ : 258<br />
ขอใดคือโรงไฟฟาพลังงานความรอนในการผลิตไฟฟาที่ใหญที่สุดในเมืองไทย<br />
คําตอบ 1 : โรงไฟฟาวังนอย<br />
คําตอบ 2 : โรงไฟฟาบางปะกง<br />
คําตอบ 3 : โรงไฟฟาแมเมาะ<br />
คําตอบ 4 : โรงไฟฟาพระนครเหนือ<br />
ขอที่ : 259<br />
ระบบของโรงไฟฟา Steam หรือ Thermal ประกอบดวย Main part กี่สวน<br />
ขอที่ : 260<br />
คําตอบ 1 : 2 สวน<br />
คําตอบ 2 : 3 สวน<br />
คําตอบ 3 : 4 สวน<br />
คําตอบ 4 : 5 สวน<br />
ระบบของโรงไฟฟา Steam หรือ Thermal ประกอบดวยระบบใหญๆเชื่อมตอกับกี่ระบบ<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
6 ระบบ<br />
7 ระบบ<br />
8 ระบบ<br />
9 ระบบ<br />
ขอที่ : 261
อุปกรณใด ไมถูกใช ในกระบวนการผลิตไฟฟาของโรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา<br />
คําตอบ 1 : เตาเผา (Burner)<br />
คําตอบ 2 : หมอไอน้ํา (Boiler)<br />
คําตอบ 3 : กังหัน (Turbine)<br />
คําตอบ 4 : หองอัดอากาศ (Compressor)<br />
87 of 237<br />
ขอที่ : 262<br />
ขอที่ : 263<br />
ขอที่ : 264<br />
ขอที่ : 265<br />
ขอใดตอไปนี้ไมใชขอดีของโรงไฟฟาพลังงานความรอนแบบกังหันไอน้ํา<br />
คําตอบ 1 : ตนทุนการผลิตตอหนวยต่ํา<br />
คําตอบ 2 : ไมสงผลกระทบตอสิ่งแวดลอม<br />
คําตอบ 3 : กําลังการผลิตติดตั้งสูง<br />
คําตอบ 4 : ใชเชื้อเพลิงไดหลากหลาย<br />
ขอใดไมใชอุปกรณสําหรับผลิตไอน้ําที่ใชในโรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา (Steam power plant)<br />
คําตอบ 1 : หมอน้ํา<br />
คําตอบ 2 : เครื่องกรองอากาศ<br />
คําตอบ 3 : เครื่องแยกไอน้ํา<br />
คําตอบ 4 : เครื่องควบแนน<br />
ในระบบเตาหลอมเชื้อเพลิงของโรงไฟฟา Steam หรือ Thermal ถาเชื้อเพลิงที่ใชเปนถานหิน สวนของ Coal h<strong>and</strong>ing plant คืออะไร<br />
คําตอบ 1 : เครื่องบดถานหินใหเปนผง<br />
คําตอบ 2 : เครื่องผสมถานหิน<br />
คําตอบ 3 : เครื่องแยกถานหิน<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ถานหินที่ใชเปนเชื้อเพลิงที่เก็บอยูใน Coal bamker สามารถใชไดกี่ชั่วโมง<br />
คําตอบ 1 : 8 ชั่วโมง ถาเปน Full load<br />
คําตอบ 2 : 24 ชั่วโมงถาเปน High load<br />
คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2
คําตอบ 4 : ไมจํากัดชั่วโมง<br />
ขอที่ : 266<br />
ขอที่ : 267<br />
ขอที่ : 268<br />
ขอที่ : 269<br />
ถานหินที่ใชใน Coal bunker มีขนาดเสนผานศูนยกลางเทาใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
18 มิลลิเมตร<br />
19 มิลลิเมตร<br />
20 มิลลิเมตร<br />
19 มิลลิเมตรหรือเล็กกวา<br />
ระบบเตรียมน้ําของโรงไฟฟาแบบ Steam หรือ Thermal จะตองนําน้ําจากแหลงน้ําจืดมาผานขบวนการใดกอนเติมเขา Boiler<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Condensing plant<br />
Water cooling plant<br />
Water treatment plant<br />
ถูกทุกขอ<br />
ในระบบของ Boiler จะมีสวนที่เรียกวา Heat recovery apparatus นั้นหมายถึงสิ่งใดตอไปนี้<br />
คําตอบ 1 : Precipitator<br />
คําตอบ 2 : Economizer<br />
คําตอบ 3 : Air preheater<br />
คําตอบ 4 : ถูกทั้ง 2 และ 3<br />
ประสิทธิภาพของ Boiler ในระบบเชื้อเพลิงที่เปนถานหินจะมีคาเทาใด<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 1 : 75 ถึง 77 %<br />
คําตอบ 2 : 80 ถึง 90 %<br />
คําตอบ 3 : 85 ถึง 100 %<br />
คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />
88 of 237<br />
ขอที่ : 270<br />
High pressure boiler ที่ใชในโรงไฟฟาแบบ Steam หรือ Thermal ขนาดกําลังผลิตมากกวา 625 MW ควรจะมี Steam flow กี่ Ton/hr
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
800 Ton/hr<br />
900 Ton/hr<br />
1,000 Ton/hr<br />
ไมมีขอใดถูก<br />
89 of 237<br />
ขอที่ : 271<br />
Steam turbine ของโรงไฟฟาแบบ Thermal แบงเปนกี่ชนิด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
2 ชนิด<br />
3 ชนิด<br />
4 ชนิด<br />
5 ชนิด<br />
ขอที่ : 272<br />
Steam turbine ของโรงจักร Thermal ที่มีกําลังผลิตมากกวา 120 MW ควรจะมีกี่ State<br />
ขอที่ : 273<br />
ขอที่ : 274<br />
คําตอบ 1 : 1<br />
คําตอบ 2 : 2<br />
คําตอบ 3 : 3<br />
คําตอบ 4 : 4<br />
ประสิทธิภาพของ Turbine ในโรงไฟฟา แบบ Steam หรือ Thermal ที่ใชเชื่อเพลิงถานหินมีคาเทาไร<br />
คําตอบ 1 : 24 ถึง 32 %<br />
คําตอบ 2 : 25 ถึง 35 %<br />
คําตอบ 3 : 30 ถึง 40 %<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ระบบชวยทํางานที่สําคัญของ Boiler มีกี่ระบบ<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
9 ระบบ<br />
10 ระบบ<br />
11 ระบบ<br />
12 ระบบ
ขอที่ : 275<br />
ขอที่ : 276<br />
ขอที่ : 277<br />
ระบบชวยทํางานที่สําคัญของ Turbine มีกี่ระบบ<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
9 ระบบ<br />
10 ระบบ<br />
11 ระบบ<br />
11 ระบบ<br />
ระบบชวยบริการในโรงไฟฟาแบบ Steam หรือ Thermal มีกี่ระบบ<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
14 ระบบ<br />
15 ระบบ<br />
16 ระบบ<br />
17 ระบบ<br />
ระบบฉุกเฉินที่จะตองมีไฟฟาจายทันทีเมื่อโรงไฟฟาแบบ Thermal shunt down มีกี่ระบบ<br />
คําตอบ 1 : 3<br />
คําตอบ 2 : 4<br />
คําตอบ 3 : 5<br />
คําตอบ 4 : 6<br />
ขอที่ : 278<br />
Cooling tower ที่เปนระบบระบายความรอนของน้ําใน Condensing unit แบงเปนกี่แบบ<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
2 แบบ<br />
3 แบบ<br />
4 แบบ<br />
5 แบบ<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
90 of 237<br />
ขอที่ : 279<br />
Generator ของโรงไฟฟาแบบ Thermal มีประสิทธิภาพกี่เปอรเซ็นต<br />
คําตอบ 1 :<br />
98 ถึง 99 เปอรเซ็นต
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
100 เปอรเซ็นต<br />
95 เปอรเซ็นต<br />
ถูกทุกขอ<br />
91 of 237<br />
ขอที่ : 280<br />
ขอที่ : 281<br />
ขอที่ : 282<br />
ขอที่ : 283<br />
ทําไม Generator ของโรงจักรแบบ Thermal จึงตองมีระบบหลอเย็นดวย Hydrogen<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
เพราะ Hydrogen ดี<br />
เพราะจะทําใหทองแดงคงรูป<br />
เพราะจะทําใหทนกระแสไดสูง<br />
ไมมีขอใดถูก<br />
อะไรตอไปนี้คือระบบกําจัดของเสียและเถาถานของโรงไฟฟาแบบ Steam<br />
คําตอบ 1 : Precipitator<br />
คําตอบ 2 : Gas detector<br />
คําตอบ 3 : Economizer<br />
คําตอบ 4 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />
ของเสียที่ปลอยออกทางปลองของโรงไฟฟาแบบ Steam ควรมีคาเทาใดของความเขมขอในเตาเผา<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
1 เปอรเซ็นต<br />
1.5 ถึง 2 เปอรเซ็นต<br />
2 ถึง 3 เปอรเซ็นต<br />
4 ถึง 5 เปอรเซ็นตๆ<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
มลภาวะที่เกิดจากโรงไฟฟาแบบ Steam หรือ Thermal เกิดทางใดบาง<br />
คําตอบ 1 : ทางน้ํา<br />
คําตอบ 2 : ทางอากาศ<br />
คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />
คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก
ขอที่ : 284<br />
ขอที่ : 285<br />
ขอที่ : 286<br />
ขอที่ : 287<br />
ผลิตภัณฑที่ไดจากการกําจัดของเสียของโรงไฟฟาแบบ Steam เมื่อเชื้อเพลิงเปนถานหินเกรดต่ํา(ลิกไนต) มีอะไรบาง<br />
คําตอบ 1 :<br />
ปูนซีเมนต<br />
คําตอบ 2 : ยิปซั่ม<br />
คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ระบบชวยทํางานของโรงไฟฟาแบบ Steam หรือ Thermal มีอะไรบางตอไปนี้<br />
คําตอบ 1 : ระบบชวยทํางานที่สําคัญ<br />
คําตอบ 2 : ระบบชวยบริการ<br />
คําตอบ 3 : ระบบฉุกเฉิน<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ในการควบคุมโรงไฟฟาแบบ Thermal มีจุดประสงคหลักกี่ขอ<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
4 ขอ<br />
5 ขอ<br />
6 ขอ<br />
7 ขอ<br />
ในการควบคุมแรงดันที่บัสของโรงไฟฟาใหคงที่จะตองควบคุมจากระบบใดตอไปนี้<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
AVR control<br />
GOV control<br />
Water flow control<br />
Steam flow control<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
92 of 237<br />
ขอที่ : 288<br />
ในการควบคุมความถี่ที่บัสของโรงไฟฟาแบบ Thermal ใหคงที่จะตองควบคุมจากระบบใดตอไปนี้<br />
คําตอบ 1 : Combustion control<br />
คําตอบ 2 : Feed water flow control
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
stream temperature control<br />
ถูกทุกขอ<br />
93 of 237<br />
ขอที่ : 289<br />
ขอใดคือความสัมพันธของขนาดความยาวและเสนผานศูนยกลางของ Stator ของ Generator ในโรงไฟฟาแบบ Thermal<br />
คําตอบ 1 : L = (0.8 – 1.2 )( pri D/P)<br />
คําตอบ 2 : L = (2 – 2.4 ) (pri D/P)<br />
คําตอบ 3 : L = (3 – 5) (pri D/P)<br />
คําตอบ 4 : L = (pri D/P)<br />
ขอที่ : 290<br />
คา B (Flux density) ของ Generator ที่ใชในโรงไฟฟาแบบ Thermal ควรจะมีคาเทาใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
94 of 237<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :
95 of 237<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 4 :
96 of 237<br />
ขอที่ : 291<br />
ขอที่ : 292<br />
คา ac (Ampere – conductors per cm. Of stator per’s phase) ของ Genarator ที่ใชในโรงไฟฟาแบบ Thermal ควรจะมีคาเทาไร<br />
คําตอบ 1 : 300 – 430<br />
คําตอบ 2 : 400 – 500<br />
คําตอบ 3 : 500 – 600<br />
คําตอบ 4 : 700 – 800<br />
ประสิทธิภาพรวมของโรงไฟฟาแบบ Thermal มีคาอยูใน Range ใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
18 – 32 เปอรเซ็นต<br />
35 – 40 เปอรเซ็นต<br />
มากกวา 40 เปอรเซ็นต<br />
มากกวา 50 เปอรเซ็นต<br />
ขอที่ : 293
ในการทํา <strong>Plant</strong> lay out ของโรงไฟฟาแบบ Steam เพื่อกําหนดสิ่งใด<br />
คําตอบ 1 : พื้นที่กอสรางโรงไฟฟา<br />
คําตอบ 2 : ราคาโรงไฟฟา<br />
คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />
คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />
97 of 237<br />
ขอที่ : 294<br />
ในการลงทุนกอสรางโรงไฟฟาแบบ Steam แบงออกเปนกี่หมวด<br />
คําตอบ 1 : 2 หมวด<br />
คําตอบ 2 : 3 หมวด<br />
คําตอบ 3 : 4 หมวด<br />
คําตอบ 4 : 5 หมวด<br />
ขอที่ : 295<br />
เมื่อสรางโรงไฟฟาแบบ Steam เสร็จแลวในการผลิตไฟฟาจะเสียคาใชจายในหมวดเชื้อเพลิงกี่เปอรเซ็นต<br />
คําตอบ 1 : 40 – 50 เปอรเซ็นต<br />
คําตอบ 2 : 50 – 60 เปอรเซ็นต<br />
คําตอบ 3 : 60 – 75 เปอรเซ็นต<br />
คําตอบ 4 : 80 – 100 เปอรเซ็นต<br />
ขอที่ : 296<br />
โรงไฟฟาแบบ Steam เหมาะสําหรับที่จะเดินเครื่องเพื่อจายโหลดในลักษณะใด<br />
คําตอบ 1 : Peak load plant<br />
คําตอบ 2 : Base load plant<br />
คําตอบ 3 : St<strong>and</strong>by plant<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขอที่ : 297<br />
ขอใดตอไปนี้ไมใชคุณสมบัติของโรงไฟฟาแบบ Steam<br />
คําตอบ 1 : มี St<strong>and</strong>by loss<br />
คําตอบ 2 : ตองสรางใกลแหลงเชื้อเพลิงและแหลงน้ํา<br />
คําตอบ 3 : พื้นที่ที่ใชกอสรางโรงไฟฟาตองใชมากๆ<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 4 : มีกําลังผลิตตอหนวยผลิตต่ําในชวง 25 – 5,000 kW<br />
ขอที่ : 298<br />
ขอที่ : 299<br />
ขอที่ : 300<br />
ขอที่ : 301<br />
โรงไฟฟาแบบ Steam ที่อําเภอแมเมาะใชเชื้อเพลิงชนิดใด<br />
คําตอบ 1 : น้ํามันเตา<br />
คําตอบ 2 : กาซธรรมชาติ<br />
คําตอบ 3 : ถานหินลิกไนต<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
เมื่อหลายปกอนโรงไฟฟาแมเมาะถูกประชาชนที่อาศัยอยูรอบๆโรงไฟฟานี้ฟองรองเรียกคาเสียหายจากสาเหตุใด<br />
คําตอบ 1 : ปลอยน้ําเสียลงแหลงน้ํา<br />
คําตอบ 2 : ปลอยกาซพิษทําใหเกิดฝนกรด<br />
คําตอบ 3 : ปลอยฝุนจากถานหินใหฟุงกระจาย<br />
คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />
โรงไฟฟาแบบ Steam นอกจากที่แมเมาะแลวมีที่ใดอีกในประเทศไทย<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
พระนครเหนือ<br />
บางปะกง<br />
ขนอม<br />
ถูกทุกขอ<br />
กระบวนการใดไมไดทําเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
Deaerator<br />
Economizer<br />
Reheat<br />
Regeneration<br />
98 of 237<br />
ขอที่ : 302<br />
ระบบของโรงจักรพลังความรอนประกอบดวยขอใด
คําตอบ 1 : ระบบเตรียมเชื้อเพลิง<br />
คําตอบ 2 : ระบบเตรียมน้ําสําหรับ Boiler<br />
คําตอบ 3 : ระบบกําจัดของเสีย<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
99 of 237<br />
ขอที่ : 303<br />
ขอที่ : 304<br />
การพิจารณาสรางโรงไฟฟาพลังงานความรอนคือขอใด<br />
คําตอบ 1 : ตองสรางใกลแหลงน้ํา<br />
คําตอบ 2 : ตองสรางใกลแหลงเชื้อเพลิง<br />
คําตอบ 3 : ขอ1และ 2 ถูก<br />
คําตอบ 4 : ผิดทุกขอ<br />
กําหนดใหประสิทธิภาพโดยรวมในการผลิตไฟฟาจากโรงไฟฟาที่ใชลิกไนท มีคา 30% และ กําหนดให พลังงานไฟฟา 1 kWh = 860 k Cal ลิกไนท 1 กก. = 2,500 k Cal หากตอง<br />
การผลิตไฟฟาจากโรงไฟฟาที่ใชลิกไนทใน 1 ป เปนปริมาณ 30,000 GWh จงคํานวณปริมาณลิกไนทที่ตองในการผลิตไฟฟาวามีคากี่ตันตอป<br />
คําตอบ 1 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
100 of 237<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
101 of 237<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 2 :
102 of 237<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 3 :
103 of 237<br />
ขอที่ : 305<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
โรงไฟฟาที่ใชลิกไนทเปนเชื้อเพลิงแหงหนึ่งมีประสิทธิภาพโดยรวม 30% หากมีลิกไนทสําหรับใชผลิตไฟฟาอยูเปนปริมาณ 10,000 ตัน และโรงไฟฟาแหงนี้จายโหลดเฉลี่ย 50 MW<br />
จงคํานวณวาโรงไฟฟาแหงนี้จะจายไฟฟาไดเปนระยะเวลากี่วัน กําหนดให ลิกไนท 1 กก. = 2,500 k Cal พลังงานไฟฟา 1 kWh = 860 k Cal<br />
คําตอบ 1 : 7.27 วัน<br />
คําตอบ 2 : 24.22 วัน<br />
คําตอบ 3 : 48.44 วัน<br />
คําตอบ 4 : 96.88 วัน
ขอที่ : 306<br />
ขอที่ : 307<br />
ขอที่ : 308<br />
ขอที่ : 309<br />
หลักการพื้นฐานในการผลิตกระแสไฟฟาของ Steam power plant ใชหลักการแบบใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Heat recovery<br />
Rankine cycle<br />
Brayton cycle<br />
Steam cycle<br />
ขอใดตอไปนี้เปนลักษณะของไอน้ําที่จะเขา Turbine<br />
คําตอบ 1 : ไอน้ํามีความชื้นเล็กนอย<br />
คําตอบ 2 : ไอน้ําเปยก<br />
คําตอบ 3 : ไอน้ําแหง<br />
คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />
ขอใดตอไปนี้ไมใชวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพของ Rankine cycle<br />
คําตอบ 1 : เพิ่มคุณภาพไอน้ําจากสภาพอิ่มตัวเปนไอรอนยวดยิ่ง<br />
คําตอบ 2 : เพิ่มความดันใน Boiler<br />
คําตอบ 3 : ลด Condenser pressure<br />
คําตอบ 4 : ปรับปรุงคุณภาพของน้ํากอนเขา Boiler<br />
ขอใดตอไปนี้ไมใชเปนวิธีการแกไขไอเปรียกใหเปนไอน้ําแหงกอนเขา Turbine<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Reheat cycle<br />
Regenerative cycle<br />
Regenerative <strong>and</strong> reheat cycle<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ไมมีขอใดถูก<br />
104 of 237<br />
ขอที่ : 310<br />
ในการแกไขหลักการของ Rankine cycle โดยการเพิ่มหลักการของ Reheat cycle จะทําใหสวนใดของ Steam power plant ดีขึ้น<br />
คําตอบ 1 : ลด Wet steam ที่ Turbine, อุณหภูมิของ Steam ไมสูงมาก
คําตอบ 2 : ลดจํานวนเชื้อเพลิงที่ฉีดเขา Boiler<br />
คําตอบ 3 : ทําให Wet steam ลดลง<br />
คําตอบ 4 : ทําให Turbine มีอายุใชงานยาวนานขึ้น<br />
105 of 237<br />
ขอที่ : 311<br />
ขอที่ : 312<br />
ขอที่ : 313<br />
ขอที่ : 314<br />
ในการแกไขหลักการของ Rankine cycle โดยการเพิ่มหลักการของ Regenerative cycle จะทําใหสวนใดของ Steam power plant ดีขึ้น<br />
คําตอบ 1 : ลด Wet steam ที่ Turbine, อุณหภูมิของ Steam ไมสูงมาก<br />
คําตอบ 2 : ลดจํานวนเชื้อเพลิงที่ฉีดเขา Boiler<br />
คําตอบ 3 : ทําให Wet steam ลดลง<br />
คําตอบ 4 : ทําให Turbine มีอายุใชงานยาวนานขึ้น<br />
ในการแกไขหลักการของ Rankine cycle โดยการเพิ่มหลักการของ Regenerative <strong>and</strong> reheat cycle ขอใดตอไปนี้ไมใชผลของการเพิ่มหลักการดังกลาว<br />
คําตอบ 1 : ลด Wet steam ที่ Turbine, อุณหภูมิของ Steam ไมสูงมาก<br />
คําตอบ 2 : ลดจํานวนเชื้อเพลิงที่ฉีดเขา Boiler<br />
คําตอบ 3 : ทําให Wet steam ลดลง , ทําให Turbine มีอายุใชงานยาวนานขึ้น<br />
คําตอบ 4 : ไมมีขอใดผิด<br />
การเพิ่มประสิทธิภาพของกาซเทอรไบนแบบ Intercooling หมายถึงอะไร<br />
คําตอบ 1 : การใหอากาศรอนที่ออกจากเทอรไบนกลับมาถายเทความรอนใหกับกาซรอนที่ออกจากคอมเพรสเซอรไปเขาเทอรไบน<br />
คําตอบ 2 : การทําใหอากาศรอนที่ออกจากคอมเพรสเซอรหนึ่งใหมีอุณภูมิลดลงกอนเขาในคอมเพรสเซอรชุดถัดไป<br />
คําตอบ 3 : การทําใหกาซรอนที่ออกจากเทอรไบนรอนขึ้นโดยการผานเขาหองเผาไหมกอนเขาไปเทอรไบนชุดตอไป<br />
คําตอบ 4 : การนํากาซรอนที่ออกจากเทอรไบนไปใชในกิจการอื่นเพื่อใหเกิดประโยชนแทนที่จะปลอยใหเสียไป<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
การเพิ่มประสิทธิภาพของกาซเทอรไบนแบบ Regenerate หมายถึง<br />
คําตอบ 1 : การทําใหกาซรอนที่ออกจากเทอรไบนรอนขึ้นโดยการผานเขาหองเผาไหมกอนเขาไปเทอรไบนชุดตอไป<br />
คําตอบ 2 : การใหอากาศรอนที่ออกจากเทอรไบนกลับมาถายเทความรอนใหกับกาซรอนที่ออกจากคอมเพรสเซอรไปเขาเทอรไบน<br />
คําตอบ 3 : การทําใหอากาศรอนที่ออกจากคอมเพรสเซอรหนึ่งใหมีอุณภูมิลดลงกอนเขาในคอมเพรสเซอรชุดถัดไป<br />
คําตอบ 4 : การใหอากาศกอนเขาคอมเพรสเซอรผานทอที่เลี้ยงดวยน้ําเย็นกอน
ขอที่ : 315<br />
ขอที่ : 316<br />
ขอที่ : 317<br />
ขอที่ : 318<br />
ขอที่ : 319<br />
การเพิ่มประสิทธิภาพกาซเทอรไบนแบบ Reheating คืออะไร<br />
คําตอบ 1 : การนํากาซรอนที่ออกจากเทอรไบนไปใชในกิจการอื่นเพื่อใหเกิดประโยชนแทนที่จะปลอยใหเสียไป<br />
คําตอบ 2 : การทําใหกาซรอนที่ออกจากเทอรไบนรอนขึ้นโดยการผานเขาหองเผาไหมกอนเขาไปเทอรไบนชุดตอไป<br />
คําตอบ 3 : การใหอากาศรอนที่ออกจากเทอรไบนกลับมาถายเทความรอนใหกับกาซรอนที่ออกจากคอมเพรสเซอรไปเขาเทอรไบน<br />
คําตอบ 4 : การใหอากาศกอนเขาคอมเพรสเซอรผานทอที่เลี้ยงดวยน้ําเย็นกอน<br />
ขอไดเปรียบของโรงไฟฟากาซเทอรไบนเมื่อเทียบกับโรงไฟฟาพลังงานไอน้ําขอใดที่ไมถูกตอง<br />
คําตอบ 1 : ไมตองปอนกําลังงานใหกับคอมเพรสเซอรตอนเริ่มเดินเครื่อง<br />
คําตอบ 2 : ที่ขนาดโรงจักรที่เทากันคาลงทุนและคาดําเนินการถูกกวาโรงจักรไอน้ํา<br />
คําตอบ 3 : ความดันใชงานต่ํากวาแบบโรงจักรไอน้ําทําใหเกิดความเครียดนอยกับอุปกรณทางกลตางๆ<br />
คําตอบ 4 : คาบํารุงรักษาต่ํากวา<br />
ขอใดคือขอดีของโรงไฟฟากังหันกาซ<br />
คําตอบ 1 : เดินเครื่องหรือหยุดไดรวดเร็ว<br />
คําตอบ 2 : เปลี่ยนแปลงระดับการผลิต(Load changing) ทําไดรวดเร็ว<br />
คําตอบ 3 : ไมตองมีน้ําระบายความรอน<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
โรงไฟฟาชนิดใดตองใชมอเตอรชวยสตารท<br />
คําตอบ 1 : โรงไฟฟาพลังงานน้ํา<br />
คําตอบ 2 : โรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา<br />
คําตอบ 3 : โรงไฟฟากังหันกาซ<br />
คําตอบ 4 : โรงไฟฟาดีเซล<br />
ขอใดไมใชสวนประกอบของโรงไฟฟากังหันกาซ<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
Compressor<br />
Combustion chamber<br />
106 of 237
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Turbine<br />
Condenser<br />
107 of 237<br />
ขอที่ : 320<br />
ขอที่ : 321<br />
ขอที่ : 322<br />
ขอที่ : 323<br />
ประสิทธิภาพของโรงไฟฟากังหันกาซขึ้นกับอุณหภูมิตรงสวนใดมากที่สุด<br />
คําตอบ 1 : อุณหภูมิของอากาศที่ไหลเขา Compressor<br />
คําตอบ 2 : อุณหภูมิของอากาศที่ไหลออกจาก Compressor<br />
คําตอบ 3 : อุณหภูมิของอากาศที่ไหลเขา Turbine<br />
คําตอบ 4 : อุณหภูมิของอากาศที่ไหลออกจาก Turbine<br />
ขอใดไมใชสวนประกอบของ Gas turbine plant<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Boiler<br />
Compressor<br />
Combustion chamber<br />
Turbine<br />
ขอใดไมใชคุณสมบัติของ Gas turbine plant<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
Start และ Shutdown ไดเร็ว<br />
มีขนาดใหญกวา Stream power plant<br />
คําตอบ 3 : ไมตองใชน้ําปริมาณมาก<br />
คําตอบ 4 : ใชเปน Peak load plant<br />
หลักการทํางานของ Gas turbine เปนไปตามใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
Pressure/volume diagram<br />
Flow duration curve<br />
Brayton cycle<br />
Mass curve<br />
ขอที่ : 324
ขอใดถูกตอง<br />
คําตอบ 1 : Gas turbine ทํางานที่อุณหภูมิสูงกวา Steam turbine ทําใหมีประสิทธิภาพสูงกวา<br />
คําตอบ 2 : เชื้อเพลิงของ Gas turbine ถูกกวา ถานหิน ที่ใชใน Steam turbine<br />
คําตอบ 3 : ขนาดของ Gas turbine plant ใหญกวา Steam turbine plant ที่พิกัดเทากัน<br />
คําตอบ 4 : Gas turbine ตองการน้ําหลอเย็นมากกวา Steam turbine<br />
108 of 237<br />
ขอที่ : 325<br />
ขอที่ : 326<br />
ขอที่ : 327<br />
ขอที่ : 328<br />
ขอใดไมถูกตอง<br />
คําตอบ 1 :<br />
การบํารุงรักษา Gas turbine งายกวา Diesel plant<br />
คําตอบ 2 : ขนาดของ Gas turbine plant เล็กกวา Diesel plant ที่พิกัดเทากัน<br />
คําตอบ 3 : ใน Gas turbine plant ไมมีลูกสูบจึงไมเกิดการกระตุกเหมือนเกิด Diesel plant เมื่อ Torque เปลี่ยนไป<br />
คําตอบ 4 : ราคาของ Gas turbine plant สูงกวา Diesel <strong>Plant</strong> ที่พิกัดเทากัน<br />
ขอเสียของ Gas turbine power plant ไดแก<br />
คําตอบ 1 : มีประสิทธิภาพต่ํา<br />
คําตอบ 2 : ไมสามารถตอบสนองตอการเปลี่ยนแปลงของโหลดที่รวดเร็วได<br />
คําตอบ 3 : มีความนาเชื่อถือในการผลิตไฟฟาต่ํา<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขอใดเปนสาเหตุของการนําโรงไฟฟากังหันกาซ มาใชแทนโรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา<br />
คําตอบ 1 : แหลงน้ําขนาดใหญหายาก<br />
คําตอบ 2 : มีคาใชจายต่ํา<br />
คําตอบ 3 : ใหกําลังการผลิตไดมากขึ้น<br />
คําตอบ 4 : สามารถลดปริมาณเชื้อเพลิงลงได<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอใดตอไปนี้เปนความคลายกันของโรงไฟฟากังหันกาซกับโรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา<br />
คําตอบ 1 : ใชหลักการเครื่องยนตชนิดเดียวกัน<br />
คําตอบ 2 : มีอัตราการผลิตกําลังไฟฟาใกลเคียงกัน<br />
คําตอบ 3 : ใชแหลงน้ําขนาดใหญเหมือนกัน
ขอที่ : 329<br />
ขอที่ : 330<br />
ขอที่ : 331<br />
ขอที่ : 332<br />
คําตอบ 4 : เปลี่ยนพลังงานความรอนเปนพลังงานกลที่ตัวกังหันเหมือนกัน<br />
โดยปกติโรงไฟฟากังหันกาซใชกับงานประเภทใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
เปนโรงไฟฟาจายไฟฟาสํารอง<br />
เปนโรงไฟฟาจายไฟฟาหลัก<br />
คําตอบ 3 : ใชกับโหลดที่ตองการกําลังต่ํา<br />
คําตอบ 4 : ใชกับโหลดที่ตองการกําลังสูง<br />
การเพิ่มประสิทธิภาพของโรงไฟฟากังหันกาซโดยระบบ Regenerating ทํางานอยางไร<br />
คําตอบ 1 : เพิ่มอุณหภูมิของกาซรอนใหสูงขึ้นกอนเขากังหัน<br />
คําตอบ 2 : เพิ่มความดันของอากาศที่ออกจากเครื่องอัดอากาศใหสูงขึ้น<br />
คําตอบ 3 : ถายเทความรอนของอากาศรอนจากกังหันใหอากาศบริเวณกอนหองเผาไหม<br />
คําตอบ 4 : เพิ่มอัตราเชื้อเพลิงในหองเผาไหม<br />
ขอเสียของโรงไฟฟากังหันกาซเมื่อเปรียบเทียบกับโรงไฟฟาพลังงานไอน้ําคือ<br />
คําตอบ 1 : ตองมีตัวจายกําลังขณะเริ่มเดินเครื่อง<br />
คําตอบ 2 : การลงทุนกอสรางมีราคาสูง<br />
คําตอบ 3 : การเดินเครื่องมีขอยุงยาก จากอุปกรณที่มีจํานวนมากกวา<br />
คําตอบ 4 : คาใชจายในการบํารุงรักษาสูง<br />
ขอใดตอไปนี้จัดเปนขอดอยของโรงไฟฟากังหันกาซ<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 1 : มีปญหาเรื่องขี้เถาจากกระบวนการผลิตกําลังงานผลิตไฟฟา<br />
คําตอบ 2 : เปนโรงไฟฟาที่เดินเครื่องไดชา<br />
คําตอบ 3 : ประสิทธิภาพขึ้นอยูกับ Ambient temperature<br />
คําตอบ 4 : capital cost สูง<br />
109 of 237<br />
ขอที่ : 333<br />
โรงไฟฟาพลังงานความรอนแหงหนึ่งใชกาซธรรมชาติเปนเชื้อเพลิงและมีประสิทธิภาพรวมเฉลี่ยของโรงไฟฟาอยูที่ 50% หากโรงไฟฟาแหงนี้จายโหลดสูงสุดอยูที่ 500 MW และมี
ขอที่ : 334<br />
ขอที่ : 335<br />
ขอที่ : 336<br />
ขอที่ : 337<br />
คา Annual plant factor อยูที่ 75% จงคํานวณวาโรงไฟฟาแหงนี้ตองใชกาซธรรมชาติจํานวนกี่ลาน ลบ. ฟุต/ป หมายเหตุ: กําหนดใหกาซธรรมชาติ 1 ลบ.ฟุต มีคาความรอนจําเพาะ<br />
250 k Cal และพลังงานไฟฟา 1 kWh มีคาพลังงานเทียบเทากับ 860 k Cal<br />
คําตอบ 1 : 9.5<br />
คําตอบ 2 : 11.3<br />
คําตอบ 3 : 19.1<br />
คําตอบ 4 : 22.6<br />
ขอใดตอไปนี้ เปนคุณสมบัติเดนของโรงไฟฟากังหันกาซ<br />
คําตอบ 1 : ระยะเวลากอสรางโรงไฟฟาสั้น<br />
คําตอบ 2 : ตนทุนการผลิตตอหนวยต่ํา<br />
คําตอบ 3 : ประสิทธิภาพการผลิตสูง<br />
คําตอบ 4 : กําลังการผลิตติดตั้งสูง<br />
ขอใดคือจุดเดนของโรงไฟฟากังหันกาซ<br />
คําตอบ 1 : ใชพลังงานน้ําในการขับกังหัน<br />
คําตอบ 2 : ใชพลังงานแสงแดดในการขับกังหัน<br />
คําตอบ 3 : ใชระบบไอน้ําในการขับกังหัน<br />
คําตอบ 4 : ใชกาซรอนในการขับกังหัน<br />
ขอใดตอไปนี้เปนขอมูลของโรงไฟฟากังหันกาซที่ผิดจากความเปนจริง<br />
คําตอบ 1 : กอสรางงาย ขนาดเล็ก ใชเวลาสั้น<br />
คําตอบ 2 : ตองใชน้ําระบายความรอน<br />
คําตอบ 3 : การเดินเครื่องทําไดในเวลาอันรวดเร็ว<br />
คําตอบ 4 : การเปลี่ยนแปลงระดับการผลิตทําไดรวดเร็ว<br />
โรงไฟฟาแบบ Gas turbine ประกอบดวย Main part กี่สวน<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
2 สวน<br />
3 สวน<br />
4 สวน<br />
110 of 237
คําตอบ 4 :<br />
5 สวน<br />
ขอที่ : 338<br />
ขอที่ : 339<br />
ขอที่ : 340<br />
ขอที่ : 341<br />
โรงไฟฟาแบบ Gas turbine สามารถใชเชื้อเพลิงไดกี่ชนิด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
2 ชนิด<br />
3 ชนิด<br />
4 ชนิด<br />
5 ชนิด<br />
เชื้อเพลิงที่นิยมใชในการเดินเครื่องของโรงไฟฟาแบบ Gas turbine คือเชื้อเพลิงใดบางตอไปนี้<br />
คําตอบ 1 :<br />
กาซธรรมชาติ<br />
คําตอบ 2 : น้ํามันดีเซล<br />
คําตอบ 3 : น้ํามันเตา<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
การใชงานของโรงไฟฟาแบบ Gas turbine จะเดินเครื่องจายโหลดในลักษณะใด<br />
คําตอบ 1 : Peak load plant<br />
คําตอบ 2 : St<strong>and</strong>by plant<br />
คําตอบ 3 : Base load plant<br />
คําตอบ 4 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />
โรงไฟฟาแบบ Gas turbine สามารถเดินเครื่องจายโหลดสลับกับโรงไฟฟาใดตอไปนี้จึงจะเหมาะสมที่สุด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
Steam power plant<br />
Nuclear power plant<br />
Hydro power plant<br />
Tidal power plant<br />
111 of 237<br />
ขอที่ : 342<br />
ขอใดตอไปนี้เปนขอเสียของโรงไฟฟาแบบ Gas turbine
คําตอบ 1 :<br />
ตองมี Starting motor<br />
คําตอบ 2 : ไมสามารถเดินเครื่องติดตอกันเปนเวลานาน<br />
คําตอบ 3 : ขณะเดินเครื่องมีอุณหภูมิสูงถึง 650 องศาเซลเซียสหรือมากกวา<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
112 of 237<br />
ขอที่ : 343<br />
ขอที่ : 344<br />
ขอที่ : 345<br />
โรงไฟฟาใดตอไปนี้ในประเทศไทยที่ไมใชโรงไฟฟาแบบ Gas turbine<br />
คําตอบ 1 :<br />
โรงไฟฟาหนองจอก<br />
คําตอบ 2 : โรงไฟฟาน้ําพอง<br />
คําตอบ 3 : โรงไฟฟาระยอง<br />
คําตอบ 4 : โรงไฟฟาพระนครเหนือ<br />
ปลองควันของโรงไฟฟาแบบ Gas turbine เปนลักษณะใด<br />
คําตอบ 1 : เสนผานศูนยกลางใหญและต่ํา<br />
คําตอบ 2 : เสนผานศูนยกลางเล็กและสูง<br />
คําตอบ 3 : เสนผานศูนยกลางใหญเหมือนปากแตรและต่ํา<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
กําหนดใหประสิทธิภาพโดยรวมในการผลิตไฟฟาจากโรงไฟฟาที่ใชกาซธรรมชาติ มีคา 50% และ กําหนด ใหพลังงานไฟฟา 1 kWh = 860 k Cal กาซธรรมชาติ 1 ลบ.ฟุต = 250 k<br />
Cal หากตองการผลิตไฟฟาจากโรงไฟฟาที่ใชกาซธรรมชาติใน 1 ป เปนปริมาณ 70,000 GWh จงคํานวณปริมาณกาซธรรมชาติที่ตองใชในการผลิตไฟฟาวามีคากี่ลานลบ.ฟุตตอป<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
113 of 237<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 1 :
114 of 237<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 2 :
115 of 237<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 3 :
116 of 237<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 4 :<br />
ขอที่ : 346
117 of 237<br />
คําตอบ 1 : 1,000 ชม.<br />
คําตอบ 2 : 2,000 ชม.<br />
คําตอบ 3 : 3,125 ชม.<br />
คําตอบ 4 : 6,250 ชม.<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอที่ : 347<br />
ในการผลิตกระแสไฟฟาของ Gas turbine ใชหลักการแบบใด<br />
คําตอบ 1 : Heat recovery
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Rankine cycle<br />
Brayton cycle<br />
Steam cycle<br />
118 of 237<br />
ขอที่ : 348<br />
โรงไฟฟาพลังความรอนรวมเปนการทํางานรวมกันของขอใด<br />
คําตอบ 1 : กังหันแกสและกังหันไอน้ํา<br />
คําตอบ 2 : กังหันแกสและกังหันลม<br />
คําตอบ 3 : พลังน้ําและกังหันไอน้ํา<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขอที่ : 349<br />
Magneto Hydro Dynamics (MHD) Generator คือเครื่องกําเนิดไฟฟาที่ทํางานดวยหลักการใด<br />
ขอที่ : 350<br />
คําตอบ 1 : ใหกาซรอนที่นําไฟฟาเคลื่อนที่ผานสนามแมเหล็กความหนาแนนสูง<br />
คําตอบ 2 : ใหน้ําเคลื่อนที่ผานสนามแมเหล็กความหนาแนนสูง<br />
คําตอบ 3 : ใหไอน้ําเคลื่อนที่ผานสนามแมเหล็กความหนาแนนสูง<br />
คําตอบ 4 : ใหแมเหล็กเคลื่อนอยูในของไหล<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
MHD Genarator เครื่องหนึ่งมีพารามิเตอรตางๆ ดังรูปดานลางนี้ ถาทอสวนที่อยูภายใตสนามแมเหล็กมีปริมาตร 5 ลบ.ม. จงหากําลังไฟฟาที่เครื่องกําเนิดดังกลาวสามารถผลิตได
119 of 237<br />
คําตอบ 1 : 300 MW<br />
คําตอบ 2 : 400 MW<br />
คําตอบ 3 : 500 MW<br />
คําตอบ 4 : 600 MW<br />
ขอที่ : 351<br />
ขอใดตอไปนี้เปนขอจํากัดของไอน้ําที่นํามาใชในโรงไฟฟาพลังความรอนและสงผลใหเกิดการพัฒนาโรงไฟฟาวัฏจักรรวม (Combined cycle power plant)<br />
คําตอบ 1 : ไดความรอนในปริมาณต่ําเมื่อเทียบกับอุณหภูมิที่ใชในกระบวนการ<br />
คําตอบ 2 : ตองการตัวใหความรอนซ้ํา (Reheater) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางความรอนใหกระบวนการ<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 3 : อุณหภูมิวิกฤติ (Critical temperature) ของไอน้ํามีคาต่ํา<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขอที่ : 352<br />
ขอใดจัดเปนขอดีของโรงไฟฟาพลังความรอนรวม (Combined cycle power plant)<br />
คําตอบ 1 : ประสิทธิภาพโดยรวมของโรงไฟฟามีคาสูง
คําตอบ 2 : ใชน้ําหลอเย็นประมาณ 40 – 50% ของโรงไฟฟาพลังความรอนเทานั้น<br />
คําตอบ 3 : เกิดผลกระทบตอสิ่งแวดลอมนอย<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
120 of 237<br />
ขอที่ : 353<br />
ขอที่ : 354<br />
ขอที่ : 355<br />
ขอที่ : 356<br />
ขอใดตอไปนี้ไมใชโรงไฟฟาพลังความรอนรวม (Combined cycle power plant)<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
โรงไฟฟาราชบุรี<br />
โรงไฟฟาพระนครใต<br />
โรงไฟฟาลําตะคอง<br />
คําตอบ 4 : โรงไฟฟาน้ําพอง<br />
โรงไฟฟาพลังความรอนรวมเปนการนําโรงไฟฟาประเภทใดมาใชงานรวมกัน<br />
ก. โรงไฟฟาพลังไอน้ํา<br />
ข. โรงไฟฟากังหันกาซ<br />
ค. โรงไฟฟาเครื่องยนตเผาไหมภายใน<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ก และ ข<br />
ก และ ค<br />
ข และ ค<br />
ก ข และ ค<br />
ประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟาของโรงไฟฟาพลังงานความรอนรวม อยูที่ประมาณเทาใด<br />
คําตอบ 1 : 25-30 %<br />
คําตอบ 2 : 35-40 %<br />
คําตอบ 3 : 55-60 %<br />
คําตอบ 4 : 65-70 %<br />
องคประกอบใดมีเฉพาะในโรงไฟฟาพลังงานความรอนรวม แตไมมีในโรงไฟฟาพลังงานความรอนทั่วไป<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
High-Pressured Steam Turbine<br />
Heat Recovery Steam Generator<br />
Condenser <strong>and</strong> cooling tower
คําตอบ 4 :<br />
Combustion chamber<br />
ขอที่ : 357<br />
ขอใด ไมใช เหตุผลสําคัญที่ทําใหโรงไฟฟาพลังงานความรอนรวมไดรับความนิยมแพรหลายในปจจุบัน<br />
คําตอบ 1 : ประสิทธิภาพในการผลิตสูง<br />
คําตอบ 2 : มีความยืดหยุนในการใชงานสูง<br />
คําตอบ 3 : ใชเงินลงทุนในการกอสรางต่ํา<br />
คําตอบ 4 : ตองการดูแลและบํารุงรักษาต่ํา<br />
ขอที่ : 358<br />
โรงไฟฟา Combined cycle หรือโรงไฟฟาพลังงานความรอนรวม ในประเทศไทยเปนลักษณะใด<br />
คําตอบ 1 : Gas turbine + steam turbine power plant<br />
คําตอบ 2 : MHD + steam turbine power plant<br />
คําตอบ 3 : MHD + Fuel cell<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขอที่ : 359<br />
ขอที่ : 360<br />
โรงไฟฟาใดตอไปนี้ในประเทศไทยที่เปนโรงไฟฟา Combined cycle<br />
คําตอบ 1 : โรงไฟฟาวังนอย<br />
คําตอบ 2 : โรงไฟฟาราชบุรี<br />
คําตอบ 3 : โรงไฟฟาราชบุรี<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
โรงไฟฟาใดตอไปนี้ที่ใชเชื้อเพลิงคุมคาที่สุด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
Diesel<br />
Steam<br />
Gas turbine<br />
Combined cycle<br />
121 of 237<br />
ขอที่ : 361<br />
ในโรงไฟฟา MHD ถา B = 4 Tesla, conductivity = 6 mho/m, v = 2,000 m/sec. K = 0.5 จะไดกําลังผลิต/m3 เทาใด
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
100 MW/m3<br />
200 MW/m3<br />
300 MW/m3<br />
400 MW/m3<br />
122 of 237<br />
ขอที่ : 362<br />
ขอที่ : 363<br />
ขอที่ : 364<br />
ขอที่ : 365<br />
โรงไฟฟาใดตอไปนี้ในประเทศไทยที่เปนระบบของโรงจักร MHD<br />
คําตอบ 1 : โรงไฟฟากระบี่<br />
คําตอบ 2 : โรงไฟฟาน้ําพอง<br />
คําตอบ 3 : โรงไฟฟาน้ําพอง<br />
คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />
ยูเรเนียมที่ใชเปนเชื้อเพลิงในโรงไฟฟานิวเคลียร คือ ชนิดใด<br />
คําตอบ 1 : U 335<br />
คําตอบ 2 : U 325<br />
คําตอบ 3 : U 235<br />
คําตอบ 4 : U 239<br />
โมเดอเรเตอร (Moderator) คืออุปกรณที่ทําหนาที่อะไรในโรงไฟฟานิวเคลียร<br />
คําตอบ 1 : เพื่อเพิ่มความเร็วของนิวตรอนเพื่อใหมีพลังงานสูงขึ้นจนเกิดปฏิกริยานิวเคลียร<br />
คําตอบ 2 : ลดความเร็วต่ําลงจนผานพลังงานเรโซแนนซในสารซึ่งไมจับหรือดูดนิวตรอนมากเกินไป<br />
คําตอบ 3 : อุปกรณสําหรับเปลี่ยนพลังงานความรอนเปนพลังงานไฟฟา<br />
คําตอบ 4 : อุปกรณแปลงสัญญาณไฟฟาจากสภาพหนึ่งไปยังอีกสภาพหนึ่ง<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอใดที่ไมใชคุณสมบัติของการมีหรือสรางโรงไฟฟานิวเคลียร<br />
คําตอบ 1 : ของเสียเชื้อเพลิงหลังจากการใชงานตองนําไปทิ้งกลางทะเลหรือขุดฝงดินลึก<br />
คําตอบ 2 : เงินลงทุนสูงมากเมื่อเทียบกับโรงไฟฟาอื่นๆ<br />
คําตอบ 3 : คําดําเนินการและการบํารุงรักษาสูงมาก<br />
คําตอบ 4 : คาขนสงเชื้อเพลิงสูงมากเมื่อเทียบกับโรงไฟฟาเชื้อเพลิงอื่น
ขอที่ : 366<br />
ขอที่ : 367<br />
ขอที่ : 368<br />
ขอที่ : 369<br />
ปฏิกริยานิวเคลียรแบบฟวชัน (Fusion) หมายถึง<br />
คําตอบ 1 : นิวเคลียสสองนิวเคลียสหรือมากกวามารวมกันกลายเปนนิวเคลียสใหมที่หนักกวาและเสถียรภาพมากกวา แตน้ําหนักนอยกวาผมรวมของนิวเคลียสทั้งหมด<br />
คําตอบ 2 : นิวเคลียสแตกตัวออกเปนนิวเคลียสสองนิวเคลียสหรือมากกวาซึ่งน้ําหนักรวมนอยกวาน้ําหนักนิวเคลียสเดิม<br />
คําตอบ 3 : อะตอมชนกับอิเล็กตรอนจํานวนมากที่มาวิ่งมารวมตัวกัน<br />
คําตอบ 4 : อิเล็กตรอนหลุดออกจากวงโคจรของอะตอมมาก<br />
ปฏิกริยานิวเคลียร ฟสชัน (Fission) หมายถึง<br />
คําตอบ 1 :<br />
อิเล็กตรอนหลุดออกจากวงโคจรของอะตอมมาก<br />
คําตอบ 2 : นิวเคลียสสองนิวเคลียสหรือมากกวามารวมกันกลายเปนนิวเคลียสใหมที่หนักกวาและเสถียรภาพมากกวา แตน้ําหนักนอยกวาผมรวมของนิวเคลียสทั้งหมด<br />
คําตอบ 3 : อะตอมชนกับอิเล็กตรอนจํานวนมากที่มาวิ่งมารวมตัวกัน<br />
คําตอบ 4 : นิวเคลียสแตกตัวออกเปนนิวเคลียสสองนิวเคลียสหรือมากกวาซึ่งน้ําหนักรวมนอยกวาน้ําหนักนิวเคลียสเดิม<br />
องคประกอบใดที่ไมไดใชหรือมีการใชนอยที่สุดในการเลือกที่ตั้งของโรงไฟฟานิวเคลียร<br />
คําตอบ 1 : ไมควรอยูหางไกลจากแหลงเชื้อเพลิง<br />
คําตอบ 2 : ปริมาณน้ําที่ตองมีเปนจํานวนมาก<br />
คําตอบ 3 : บริเวณที่ตั้งที่ควรหางไกลจากแหลงชุมชนใหมากที่สุด<br />
คําตอบ 4 : การกําจัดของเสีย<br />
ขอใดไมใชขอดีของโรงไฟฟานิวเคลียร<br />
คําตอบ 1 : ไมตองหวงเรื่องราคาของเชื้อเพลิงที่ใชเหมือนอยางกรณีของของถาหินและน้ํามันที่มีแนวโนมเพิ่มสูงขึ้น<br />
คําตอบ 2 : ราคาโรงไฟฟาถูก<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 3 : ใชพื้นที่คอนขางนอย<br />
คําตอบ 4 : สามารถผลิตกําลังไดมาก<br />
123 of 237<br />
ขอที่ : 370<br />
ปกติโรงไฟฟานิวเคลียรจะเปลี่ยนรูปพลังงานที่ไดเปนพลังงานไฟฟาโดยอาศัยโรงไฟฟาประเภทใด<br />
คําตอบ 1 : โรงไฟฟาดีเซล
คําตอบ 2 : โรงไฟฟาพลังงานน้ํา<br />
คําตอบ 3 : โรงไฟฟากังหันกาซ<br />
คําตอบ 4 : โรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา<br />
124 of 237<br />
ขอที่ : 371<br />
ขอใดไมใช Reactor ที่ใชในโรงไฟฟานิวเคลียร<br />
คําตอบ 1 : Pressurized water reactor<br />
คําตอบ 2 : Boiling water reactor<br />
คําตอบ 3 : Gas cooled graphit moderated reactor<br />
คําตอบ 4 : Vacuum graphit moderated reactor<br />
ขอที่ : 372<br />
ขอใดไมใชขอดีของ Nuclear power plant<br />
คําตอบ 1 : ไมตองใช ถานหิน น้ํามัน และ กาซ ซึ่งราคาจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และจะหมดไป<br />
คําตอบ 2 : น้ําหนักของเชื้อเพลิงที่ใชสําหรับ Nuclear power plant นอยมากเมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงที่ใชสําหรับ <strong>Plant</strong> ชนิดอื่นที่ พิกัดเดียวกัน ทําใหประหยัดคาขนสง<br />
คําตอบ 3 : ใชพื้นที่นอยเมื่อเทียบกับ <strong>Plant</strong> ชนิดอื่นที่พิกัดเดียวกัน<br />
คําตอบ 4 : คากอสราง Nuclear power plant มีราคาถูกกวา เมื่อเทียบกับ <strong>Plant</strong> ชนิดอื่นที่พิกัดเดียวกัน<br />
ขอที่ : 373<br />
ขอใดไมใชสวนประกอบของ Nuclear power plant<br />
คําตอบ 1 : Reactor<br />
คําตอบ 2 : Boiler<br />
คําตอบ 3 : Combustion chamber<br />
คําตอบ 4 : Stream Turbine<br />
ขอที่ : 374<br />
ขอใดไมใชสวนประกอบของ Reactor ของ Nuclear power plant<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
Refinery<br />
Moderator<br />
Reactor core<br />
Shielding
ขอที่ : 375<br />
ขอที่ : 376<br />
ขอที่ : 377<br />
ขอที่ : 378<br />
ขอที่ : 379<br />
ขอใดไมใชชนิดของ Reactor ของ Nuclear power plant<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Magnox reactor<br />
Advance gas cooled reactor<br />
Melting water reactor<br />
C<strong>and</strong>u type reactor<br />
ขอใดไมใชปจจัยพื้นฐานที่ตองพิจารณาในการออกแบบ Nuclear power plant<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
ชนิดของ Reactor<br />
<strong>Power</strong> rating<br />
ความปลอดภัย<br />
คําตอบ 4 : แหลงน้ํามัน<br />
ปฏิกิริยานิวเคลียรที่สามารถใชงานไดในโรงไฟฟาในปจจุบันคือ<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ใชปฏิกิริยาเคมี<br />
ใชปฏิกิริยา Fission<br />
ใชปฏิกิริยา Fusion<br />
ใชปฏิกิริยาไฟฟา<br />
ปฏิกิริยานิวเคลียรแบบ Fission คือ<br />
คําตอบ 1 : การแตกตัวเปนออกซิเจนและไฮโดรเจนของน้ํา<br />
คําตอบ 2 : ปฏิกิริยาการเกิดกระแสไฟฟาในสารอิเล็กโทรไลต<br />
คําตอบ 3 : วิธีการกําจัดกากนิวเคลียร<br />
คําตอบ 4 : ปฏิกิริยาการเกิดความรอนจากการชนกันของอนุภาคระดับอะตอมหรือเล็กกวา<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอใดเปนวิธีการหยุดการทํางานของเตาปฏิกรณที่ถูกตอง<br />
คําตอบ 1 : ฉีดน้ําเขาไปในเตาปฏิกรณ<br />
คําตอบ 2 : นําเอายูเรเนียมออกจากเตาปฏิกรณ<br />
125 of 237
คําตอบ 3 : ใชปมสุญญากาศดูดเอาสารกัมมันตรังสีออกจากเตาปฏิกรณ<br />
คําตอบ 4 : ใสแทงควบคุมในเตาปฏิกรณเพื่อดูดกลืนนิวตรอน<br />
126 of 237<br />
ขอที่ : 380<br />
ขอที่ : 381<br />
ขอที่ : 382<br />
ขอที่ : 383<br />
เลขอะตอม (Atomic number) บอกคาของ<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
จํานวนนิวตรอน<br />
จํานวนโปรตอน<br />
คําตอบ 3 : น้ําหนักอะตอม<br />
คําตอบ 4 : น้ําหนักนิวเคลียส<br />
ปฏิกริยาใดตอไปนี้เปนปฏิกริยานิวเคลียร<br />
คําตอบ 1 : ปฏิกริยาที่เกิดจากการรวมตัวกันของอะตอม 2 อะตอมขึ้นไป<br />
คําตอบ 2 : ปฏิกริยาการแตกตัวของอะตอม<br />
คําตอบ 3 : ปฏิกริยาการแลกเปลี่ยนอิเล็กตรอนที่หมุนในวงโคจร<br />
คําตอบ 4 : ปฏิกริยาที่นิวเคลียสถูกยิงดวยอนุภาคนิวตรอนแลวแยกเปนสวนที่เล็กลง<br />
การใชน้ําเปนสารหนวงนิวตรอนมีขอดีอยางไร<br />
คําตอบ 1 : การเหนี่ยวนําใหเกิดรังสีต่ํา<br />
คําตอบ 2 : ไมตองใชเชื้อเพลิงมาก<br />
คําตอบ 3 : มีความดันในเตาปฏิกรณสูง<br />
คําตอบ 4 : อุปกรณตางๆ มีการสึกกรอนนอย<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอใดตอไปนี้ไมใชประเด็นหลักในการพิจารณาเริ่มกอสรางโรงไฟฟานิวเคลียร<br />
คําตอบ 1 : แหลงน้ํา<br />
คําตอบ 2 : แหลงชุมชน<br />
คําตอบ 3 : การกําจัดของเสีย<br />
คําตอบ 4 : คาขนสงเชื้อเพลิง<br />
ขอที่ : 384
ขอใดคือสารกัมมันตรังสีที่สามารถนํามาใชในโรงไฟฟานิวเคลียรได<br />
คําตอบ 1 : ธอเรียม (Thorium)<br />
คําตอบ 2 : ยูเรเนียม (Uranium)<br />
คําตอบ 3 : พลูโตเนียม (Plutonium)<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
127 of 237<br />
ขอที่ : 385<br />
ขอที่ : 386<br />
ขอที่ : 387<br />
ขอที่ : 388<br />
ขอใดไมใชชนิดของรีแอกเตอรที่ใชในโรงไฟฟานิวเคลียร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Pressurized water reactor (PWR)<br />
Cooling water reactor (CWR)<br />
Boiling water reactor (BWR)<br />
High-temperature gas-cooled reactor (HTGR)<br />
ขอใดไมใชปจจัยที่นํามาใชเลือกสถานที่ตั้งโรงไฟฟานิวเคลียร<br />
คําตอบ 1 : ควรจะตั้งอยูใกลแหลงเชื้อเพลิง<br />
คําตอบ 2 : ควรหลีกเลี่ยงบริเวณที่อาจจะเกิดแผนดินไหว<br />
คําตอบ 3 : ควรจะตั้งอยูใกลแหลงน้ํา<br />
คําตอบ 4 : ควรจะตั้งอยูใกลแหลงชุมชน<br />
ขอใด ไมใช ขอเสียของโรงไฟฟานิวเคลียร<br />
คําตอบ 1 : ตนทุนคาเชื้อเพลิงตอหนวยไฟฟาที่ผลิตไดสูงมาก<br />
คําตอบ 2 : ใชเงินลงทุนในการกอสรางสูงมาก<br />
คําตอบ 3 : การจัดการกากเชื้อเพลิงตองอาศัยความระมัดระวังสูงมาก<br />
คําตอบ 4 : ไมสามารถตอบสนองตอการเปลี่ยนแปลงโหลดอยางรวดเร็วได<br />
โรงไฟฟานิวเคลียรใชจายโหลดในกรณีใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
โหลดฐาน<br />
โหลดปานกลาง<br />
โหลดฐานและโหลดฉุกเฉิน
คําตอบ 4 :<br />
โหลดคายอด<br />
ขอที่ : 389<br />
ขอที่ : 390<br />
โรงจักรไฟฟานิวเคลียรนิยมใชผลิตไฟฟาในชวงใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
ชวงโหลดสูง<br />
คําตอบ 2 : ชวงโหลดต่ํา<br />
คําตอบ 3 : ชวงเบสโหลด<br />
คําตอบ 4 : ตลอดทุกชวงโหลด<br />
ขอใดไมใชปญหาของโรงไฟฟานิวเคลียร<br />
คําตอบ 1 :<br />
การลงทุนใชงบประมาณสูง<br />
คําตอบ 2 : อันตรายเนื่องจากรังสีในโรงไฟฟา<br />
คําตอบ 3 : ตองมีทําเลอยูใกลแหลงน้ํา<br />
คําตอบ 4 : ปญหาการกําจัดกากกัมมันตภาพรังสี<br />
ขอที่ : 391<br />
Furnance ในโรงไฟฟา Steam เทียบไดกับสวนใดของโรงไฟฟา Nuclear<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Reactor<br />
Heat exchange<br />
Boiler<br />
Turbine<br />
ขอที่ : 392<br />
Boiler ในโรงไฟฟา Steam เทียบไดกับสวนใดของโรงไฟฟา Nuclear<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
Reactor<br />
Heat exchange<br />
Boiler<br />
Turbine<br />
128 of 237<br />
ขอที่ : 393<br />
เชื้อเพลิงใดตอไปนี้ที่ไมสามารถใชไดในโรงไฟฟา Nuclear
คําตอบ 1 : U235<br />
คําตอบ 2 : U238<br />
คําตอบ 3 : Uranium oxide<br />
คําตอบ 4 : Cobol 60<br />
129 of 237<br />
ขอที่ : 394<br />
ขอที่ : 395<br />
ขอที่ : 396<br />
โรงไฟฟา Nuclear ใชงานในลักษณะใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Peak load plant<br />
Base load plant<br />
St<strong>and</strong>by plant<br />
ถูกทุกขอ<br />
โรงไฟฟา Nuclear เหมาะที่จะจายใหกับโหลดที่มี Load factor เทาใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
80 เปอรเซ็นต<br />
มากกวา 80 เปอรเซ็นต<br />
นอยกวา 80 เปอรเซ็นต<br />
ถูกทุกขอ<br />
สถานที่ ที่เหมาะสมที่จะสรางโรงไฟฟา Nuclear ควรจะอยูที่ใด<br />
คําตอบ 1 : ติดปาที่สมบูรณ<br />
คําตอบ 2 : ติดทะเลหรือแหลงน้ําขนาดใหญ<br />
คําตอบ 3 : ติดภูเขาที่มีปาสมบูรณ<br />
คําตอบ 4 : ถูกทั้ง 2 และ 3<br />
ขอที่ : 397<br />
Reactor หรือ เตาปฏิกรณ ที่มีขายแบงเปนกี่ชนิด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
6 ชนิด<br />
7 ชนิด<br />
8 ชนิด<br />
9 ชนิด
ขอที่ : 398<br />
Reacotr หรือเตาปฏิกรณชนิดใดในโรงไฟฟา Nuclear ที่ใหสารกัมมันตภาพรังสีออกมากับน้ําระบายความรอนมากที่สุด<br />
ขอที่ : 399<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Magnox<br />
AGR<br />
BWR<br />
Condu<br />
สิ่งใดตอไปนี้ที่ไมใชของเสียที่ระบายออกมาจากโรงไฟฟา Nuclear<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
Iodine<br />
130 of 237
131 of 237<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :
132 of 237<br />
ขอที่ : 400<br />
จากสถาบันกําหนดมาตรฐานนานาชาติ กําหนดวาคนสามารถทนสารกัมมันตภาพรังสีไดจากสมการใด ( N = อายุคน)<br />
คําตอบ 1 : D = 5 (N – 18) rem<br />
คําตอบ 2 : D = N – 18 rem<br />
คําตอบ 3 : D = 5N rem<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขอที่ : 401<br />
บุคคลที่ปฏิบัติงานในโรงไฟฟา Nuclear จะตองมีสารกัมมันตภาพรังสีในเลือดไมเกินเทาใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
0.5 rem/ป<br />
1.0 rem/ป<br />
1.5 rem/ป<br />
ไมมีขอใดถูก<br />
ขอที่ : 402
Capital cost ในการกอสรางโรงไฟฟา Nuclear มีคากี่เปอรเซ็นต<br />
คําตอบ 1 : 60 เปอรเซ็นต<br />
คําตอบ 2 : 65 เปอรเซ็นต<br />
คําตอบ 3 : 70 เปอรเซ็นต<br />
คําตอบ 4 : 75 เปอรเซ็นต<br />
133 of 237<br />
ขอที่ : 403<br />
Fuel cost และ Operating cost ของโรงไฟฟา Nuclear มีคากี่เปอรเซ็นต<br />
ขอที่ : 404<br />
ขอที่ : 405<br />
ขอที่ : 406<br />
คําตอบ 1 : 20, 10<br />
คําตอบ 2 : 10, 20<br />
คําตอบ 3 : 30, 10<br />
คําตอบ 4 : 10 , 30<br />
ราคาในการกอสรางโรงไฟฟาใดตอไปนี้ ที่มีราคากอสรางสูงสุด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Diesel<br />
Steam<br />
Gas turbine<br />
Nuclear<br />
ปลองควันของโรงไฟฟา Nuclear เปนลักษณะใด<br />
คําตอบ 1 : เสนผานศูนยกลางใหญ และต่ํา<br />
คําตอบ 2 : เสนผานศูนยกลางเล็ก และสูง<br />
คําตอบ 3 : เสนผานศูนยกลางใหญเหมือนปากแตรและต่ํา<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ในการผลิตกระแสไฟฟาโดยใชพลังงาน Nuclear จะทําใหเกดผลกระทบตอปฎิกิริยาเรือนกระจกอยางไร<br />
คําตอบ 1 : นอยที่สุดเมื่อเทียบกับการผลิตดวยหลังงานอยางอื่น<br />
คําตอบ 2 : มากที่สุดเมื่อเทียบกับการผลิตดวยหลังงานอยางอื่น<br />
คําตอบ 3 : ปานกลางที่สุดเมื่อเทียบกับการผลิตดวยหลังงานอยางอื่น
คําตอบ 4 :<br />
ไมมีขอใดถูก<br />
ขอที่ : 407<br />
ขอที่ : 408<br />
ขอที่ : 409<br />
กากยูเรเนียม 235 น้ําหนัก 1 กิโลกรัม ที่เลิกใชจากโรงไฟฟานิวเคลียร นําไปฝงกลบลงดินลึก 50 เมตร อยากทราบวาในอีก 150 ป จะเหลือกากยูเรเนียมน้ําหนักเทาไหร เมื่อ Half<br />
life ของยูเรนียมเทากับ 5213 ป<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
0.98 kg<br />
34.75 g<br />
0.3475 kg<br />
3 g<br />
กากโคบอล 60 ที่เลิกใชจากโรงไฟฟานิวเคลียร นําไปฝงกลบลงดินลึก 100 เมตร ในอีก 1500 ปตอมาขุดขึ้นมาชั่งน้ําหนักเหลือ 0.75 กรัมโดย Half life ของโคบอล 60 เทากับ<br />
1213 ป อยากทราบวาเมื่อตอนนําโคบอล 60 มาฝงมีน้ําหนักเทาไหร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
1.5 g<br />
0.0882 g<br />
0.5 g<br />
1.767 g<br />
กากโคบอล 60 น้ําหนัก 0.89 g ที่เลิกใชจากโรงไฟฟานิวเคลียร นําไปฝงกลบลงดินลึก 100 เมตร ในอีก 1500 ปตอมาขุดขึ้นมาชั่งน้ําหนักเหลือ 0.75 กรัม อยากทราบวา Half life<br />
ของโคบอล 60 มีคาเทากับเทาไหร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
2,456 ป<br />
6,087.36 ป<br />
1,500 ป<br />
3,000 ป<br />
134 of 237<br />
ขอที่ : 410<br />
กากพลูโตเนียม น้ําหนัก 0.95 กิโลกรัม ที่เลิกใชจากโรงไฟฟานิวเคลียร นําไปฝงกลบลงดินลึก 50 เมตร อยากทราบวาในอีก 120 ป จะเหลือกากพลูโตเนียมน้ําหนักเทาไหร เมื่อ
Half life ของพลูโตเนียมเทากับ 1250 ป<br />
ขอที่ : 411<br />
ขอที่ : 412<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
0.889 kg<br />
0.889 g<br />
0.3475 kg<br />
3 g<br />
กากพลูโตเนียมที่เลิกใชจากโรงไฟฟานิวเคลียร นําไปฝงกลบลงดินลึก 200 เมตร ในอีก 100 ปตอมาขุดขึ้นมาชั่งน้ําหนักเหลือ 0.75 กรัมโดย Half life ของพลูโตเนียมเทากับ 800<br />
ป อยากทราบวาเมื่อตอนนําพลูโตเนียมมาฝงมีน้ําหนักเทาไหร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
1.5 g<br />
0.0882 g<br />
0.5 g<br />
0.818 g<br />
กากพลูโตเนียมน้ําหนัก 0.69 g ที่เลิกใชจากโรงไฟฟานิวเคลียร นําไปฝงกลบลงดินลึก 100 เมตร ในอีก 1000 ปตอมาขุดขึ้นมาชั่งน้ําหนักเหลือ 0.35 กรัม อยากทราบวา Half life<br />
ของพลูโตเนียมมีคาเทากับเทาไหร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
2,456 ป<br />
1020.84 ป<br />
1,500 ป<br />
3,000 ป<br />
ขอที่ : 413<br />
Reactor แบบใดที่ผลิตกระแสไฟฟาโดยตรง<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
Pressurized water reactor (PWR)<br />
Boiling water reactor (BWR)<br />
C<strong>and</strong>u<br />
ไมมีขอใดถูก<br />
135 of 237
ขอที่ : 414<br />
Reactor แบบใดที่มีอุปกรณและเปลี่ยนความรอน (Heat exchange)<br />
ขอที่ : 415<br />
ขอที่ : 416<br />
ขอที่ : 417<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Pressurized water reactor (PWR)<br />
Boiling water reactor (BWR)<br />
C<strong>and</strong>u<br />
ไมมีขอใดถูก<br />
เชื้อเพลิงที่ออกจาก Reactor จะตองนําไปแชอยูในน้ําเปนเวลาเทาไหร<br />
คําตอบ 1 : ไมต่ํากวา 6 เดือน<br />
คําตอบ 2 : ไมต่ํากวา 2 เดือน<br />
คําตอบ 3 : ไมต่ํากวา 6 ชั่วโมง<br />
คําตอบ 4 : ไมต่ํากวา 2 ชั่วโมง<br />
องคกรกลางที่ดูแลทางดาน Nuclear คือองคกรใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
PEA<br />
MEA<br />
IAEA<br />
TIS<br />
ลักษณะของปานที่ใชเตือนบริเวณที่มีรังสี จะมีลักษณะแบบใด<br />
คําตอบ 1 : พื้นแดง อักษรขาว<br />
คําตอบ 2 : พื้นเหลือง อักษรขาว<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 3 : พื้นแดง อังษรดํา<br />
คําตอบ 4 : พื้นเหลือง อังษรสีดํา<br />
136 of 237<br />
ขอที่ : 418<br />
หนวยที่ใชในการเรียกปริมาณรังสีคือขอใด<br />
คําตอบ 1 : Rem
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
กรัม<br />
กิโลกรัม<br />
137 of 237<br />
ขอที่ : 419<br />
ขอที่ : 420<br />
ขอที่ : 421<br />
ใหเลือกคําตอบที่ไมใชขอดีของโรงไฟฟาพลังงานน้ํา<br />
คําตอบ 1 : คาใชจายในการดําเนินงานต่ํา<br />
คําตอบ 2 : ไมมีควันเสียหรือกาซพิษ<br />
คําตอบ 3 : สามารถเดินโรงไฟฟาใหเขากับการเปลี่ยนโหลดไดเร็ว<br />
คําตอบ 4 : จายโหลดไดมากเปนเวลานานๆ<br />
ขอใดไมใชขอเสียของโรงไฟฟาพลังงานน้ํา<br />
คําตอบ 1 :<br />
คาใชจายสรางโรงไฟฟาสูง<br />
คําตอบ 2 : โรงไฟฟาอยูหางไกลจากศูนยกลางโหลด<br />
คําตอบ 3 : จํานวนคนทํางานมากที่สุดเมื่อเทียบกับโรงไฟฟาพลังงานอื่นๆ<br />
คําตอบ 4 : ใชเวลาในการกอสรางนาน<br />
เขื่อนในประเทศไทยสวนใหญเปนเขื่อนประเภทใด<br />
คําตอบ 1 : เขื่อนดิน<br />
คําตอบ 2 : เขื่อนคอนกรีต<br />
คําตอบ 3 : เขื่อนหินถมแกนดินเหนียว<br />
คําตอบ 4 : เขื่อนไม<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอที่ : 422<br />
Surge tank ในโรงไฟฟาพลังงานน้ํา มีประโยชนอยางไร<br />
คําตอบ 1 : รองรับปริมาณน้ําจํานวนมากที่เกิดในหนาฝนลงมาที่อางเก็บน้ํา<br />
คําตอบ 2 : รองรับปริมาณน้ําจํานวนมากที่ทายน้ําเพื่อไมใหดินทายน้ําพังเสียหาย<br />
คําตอบ 3 : ควบคุมความดันที่เพิ่มขึ้นของน้ําในทอสงน้ํา (Penstock)<br />
คําตอบ 4 : เพื่อจายน้ํากรณีขาดแคลนน้ําในอางเก็บน้ํา
ขอที่ : 423<br />
ขอที่ : 424<br />
ขอที่ : 425<br />
ขอที่ : 426<br />
โรงไฟฟาพลังงานน้ําที่เขื่อนใดในประเทศไทยที่มีเทอรไบนแบบแรงกระแทก (Impulse turbine)<br />
คําตอบ 1 : เขื่อนแกงกระจาน<br />
คําตอบ 2 : เขื่อนภูมิพล<br />
คําตอบ 3 : เขื่อนอุบลรัตน<br />
คําตอบ 4 : เขื่อนจุฬาภรณ<br />
อุปกรณใดที่ไมใชเปนสวนหนึ่งของโรงไฟฟาพลังงานน้ํา<br />
คําตอบ 1 : ฟรานซิสเทอรไบน (Francis turbine)<br />
คําตอบ 2 : เพลตันเทอรไบน (Pelton turbine)<br />
คําตอบ 3 : เทอรไบนความดันต่ํา (Low pressure turbine)<br />
คําตอบ 4 : คาปลานเทอรไบน (Kalplan turbine)<br />
เครื่องจักรพลังน้ําเครื่องหนึ่งทํางานที่ความเร็วรอบ 300 rpm อยากทราบวาเครื่องกําเนิดไฟฟาที่ใชตองมีกี่ขั้ว<br />
คําตอบ 1 : 2 ขั้ว<br />
คําตอบ 2 : 8 ขั้ว<br />
คําตอบ 3 : 14 ขั้ว<br />
คําตอบ 4 : 20 ขั้ว<br />
น้ําไหลจากแหลงน้ําผานทอที่มีเสนผานศูนยกลาง 1 เมตร ยาว 500 เมตร ที่ความเร็วเฉลี่ย 1.5 เมตร ตอวินาที ไปสูกังหัน ถาดานเขาของกังหันอยูต่ํากวาผิวของแหลงน้ํา 300 เมตร<br />
จงหากําลังดานออกถาประสิทธิภาพของระบบเปน 90 %<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
3,120 kW<br />
3,432 kW<br />
4,380 kW<br />
5,200 kW<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
138 of 237<br />
ขอที่ : 427<br />
Hydrograph เปนกราฟที่ plot ระหวาง<br />
คําตอบ 1 :<br />
Discharge (ลูกบาศกเมตรตอวินาที) กับ เวลา(hours)
คําตอบ 2 : Discharge (ลูกบาศกเมตรตอวินาที) รายวัน รายสัปดาห หรือ รายเดือน กับ Percent of time<br />
คําตอบ 3 : ปริมาณน้ําสะสมที่สามารถเก็บจากการไหลของน้ํา กับ เวลา เปนวัน สัปดาห หรือ เดือน มีหนวยเปน Day-second-metre<br />
คําตอบ 4 : ปริมาณน้ําสะสมที่สามารถเก็บจากการไหลของน้ํา กับ Percent of time มีหนวยเปน ลูกบาศกเมตร<br />
139 of 237<br />
ขอที่ : 428<br />
Flow duration curve เปนกราฟที่ Plot ระหวาง<br />
ขอที่ : 429<br />
คําตอบ 1 : Discharge (ลูกบาศกเมตรตอวินาที) กับ เวลา (Hours)<br />
คําตอบ 2 : Discharge (ลูกบาศกเมตรตอวินาที) รายวัน รายสัปดาห หรือ รายเดือน กับ Percent of time<br />
คําตอบ 3 : ปริมาณน้ําสะสมที่สามารถเก็บจากการไหลของน้ํา กับ เวลา เปนวัน สัปดาห หรือ เดือน มีหนวยเปน Day-second-metre<br />
คําตอบ 4 : ปริมาณน้ําสะสมที่สามารถเก็บจากการไหลของน้ํา กับ Percent of time มีหนวยเปน ลูกบาศกเมตร<br />
จาก Mass curve ที่ใหมาเพื่อใชออกแบบขนาดความจุของอางเก็บน้ํา จะสามารถคํานวณหาอัตราการไหลของน้ําทีไดหลังจากสรางอางเก็บน้ําจาก<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 1 : พื้นที่ใตกราฟ ABDA<br />
คําตอบ 2 : ขนาดของ CD<br />
คําตอบ 3 : ขนาดของ FG<br />
คําตอบ 4 : Slope ของ AB
ขอที่ : 430<br />
Mass curve เปนกราฟที่ plot ระหวาง<br />
ขอที่ : 431<br />
ขอที่ : 432<br />
ขอที่ : 433<br />
ขอที่ : 434<br />
คําตอบ 1 : Discharge (ลูกบาศกเมตรตอวินาที) กับ เวลา(hours)<br />
คําตอบ 2 : Discharge (ลูกบาศกเมตรตอวินาที) รายวัน รายสัปดาห หรือ รายเดือน กับ percent of time<br />
คําตอบ 3 : ปริมาณน้ําสะสมที่สามารถเก็บจากการไหลของน้ํา กับ เวลา เปนวัน สัปดาห หรือ เดือน มีหนวยเปน day-second-metre<br />
คําตอบ 4 : ปริมาณน้ําสะสมที่สามารถเก็บจากการไหลของน้ํา กับ Percent of time มีหนวยเปน ลูกบาศกเมตร<br />
ปริมาณน้ํา 1 Day-second-metre หมายถึง<br />
คําตอบ 1 : ปริมาตรน้ําที่ไหลในอัตรา 1 ลูกบาศกเมตรตอวินาที เปนเวลา 1 วัน<br />
คําตอบ 2 : ปริมาตรน้ําที่ไหลในอัตรา 1 ลูกบาศกเมตรตอวัน เปนเวลา 1 sec<br />
คําตอบ 3 : ปริมาตรน้ํา 86,400 ลูกบาศกเมตร<br />
คําตอบ 4 : ถูกทั้งคําตอบ 1 และ 3<br />
ขอใดไมใชชนิดของเขื่อน<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
เขื่อนภูมิพลเปนเขื่อนชนิดใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Solid gravity concrete dams<br />
Arch dams<br />
Rock-fill dams<br />
Steel dams<br />
Earth dam<br />
Arch dam<br />
Rock-fill dam<br />
Steel dam<br />
ขอใดไมใชสวนประกอบของเขื่อน<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
Spill ways<br />
Intake<br />
140 of 237
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Outtake<br />
Penstock<br />
141 of 237<br />
ขอที่ : 435<br />
ขอใดไมใชชนิดของ Turbine ของ Hydro power <strong>Plant</strong><br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Francis turbine<br />
Jet turbine<br />
Propeller turbine<br />
Pelton wheel<br />
ขอที่ : 436<br />
โรงไฟฟาพลังงานน้ําเขื่อนจุฬาภรณมีเฮด(Head) สูง 370 เมตร ใชกังหันน้ําชนิดใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Kaplan<br />
Propeller<br />
Francis<br />
Pelton<br />
ขอที่ : 437<br />
โรงไฟฟาพลังงานน้ําเขื่อภูมิพลมีเฮด(Head) สูง 80 เมตร ใชกังหันน้ําชนิดใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ขอที่ : 438<br />
Spill way คือ<br />
Kaplan<br />
Propeller<br />
Francis<br />
Pelton<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 1 : ทางนําน้ําเขาสูกังหันน้ํา<br />
คําตอบ 2 : ทางนําน้ําออกจากกังหันน้ําไปสูทายน้ํา<br />
คําตอบ 3 : ทางนําน้ําที่จะลนออกจากเขื่อน<br />
คําตอบ 4 : ทางนําน้ําเขาสูงเครื่องสูบน้ํา<br />
ขอที่ : 439
Penstock คือ<br />
คําตอบ 1 : ทางนําน้ําเขาสูงกังหันน้ํา<br />
คําตอบ 2 : ทางนําน้ําออกจากกังหันน้ําไปสูทายน้ํา<br />
คําตอบ 3 : ทางนําน้ําที่จะลนออกจากเขื่อน<br />
คําตอบ 4 : ทางนําน้ําเขาสูเครื่องสูบน้ํา<br />
142 of 237<br />
ขอที่ : 440<br />
Draft tube คือ<br />
คําตอบ 1 : ทางนําน้ําเขาสูกังหันน้ํา<br />
คําตอบ 2 : ทางนําน้ําออกจากกังหันน้ําไปสูทายน้ํา<br />
คําตอบ 3 : ทางนําน้ําที่จะลนออกจากเขื่อน<br />
คําตอบ 4 : ทางนําน้ําเขาสูเครื่องสูบน้ํา<br />
ขอที่ : 441<br />
Surge tank คือ<br />
คําตอบ 1 : ถังเก็บน้ําที่ตอจากทอนําน้ําเขากังหันโดยที่ปลายเปดออกสูบรรยากาศ<br />
คําตอบ 2 : ถังเก็บน้ําในโรงจักรพลังน้ําที่ปลายเปดออกสูบรรยากาศ<br />
คําตอบ 3 : ถังระบายน้ําลนดานหนาของเขื่อน<br />
คําตอบ 4 : ผิดทุกขอ<br />
ขอที่ : 442<br />
Intake gate คือ<br />
คําตอบ 1 : ประตูระบายน้ําลน<br />
คําตอบ 2 : ประตูเปดน้ําเขาสูกังหันน้ํา<br />
คําตอบ 3 : ประตูฉุกเฉินปดน้ําไมใหเขากังหัน<br />
คําตอบ 4 : ประตูปดทายน้ํา<br />
ขอที่ : 443<br />
Water power ของกังหันน้ําที่เขื่อนแหงหนึ่ง เมื่อเฮด(Head) เปน 100 เมตร และอัตราการไหลเปน 2 ลูกบาศกเมตรตอวินาที คือ<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
200 กิโลวัตต<br />
1,862 กิโลวัตต<br />
1,603 กิโลวัตต
คําตอบ 4 :<br />
1,963 กิโลวัตต<br />
ขอที่ : 444<br />
Dead storage ของอางเก็บน้ําคือ<br />
คําตอบ 1 : ปริมาตรของน้ําสวนที่เปนของตาย<br />
คําตอบ 2 : ปริมาตรของน้ําสวนที่ปลอยทิ้งไปทายน้ํา<br />
คําตอบ 3 : ปริมาตรของน้ําสวนที่นําไปใชงานได<br />
คําตอบ 4 : ปริมาตรของน้ําสวนที่ใชงานไมได<br />
ขอที่ : 445<br />
Active storage ของอางเก็บน้ําคือ<br />
ขอที่ : 446<br />
ขอที่ : 447<br />
คําตอบ 1 : ปริมาตรของน้ําตนทุน<br />
คําตอบ 2 : ปริมาตรของน้ําสวนที่ปลอยทิ้งไปทายน้ํา<br />
คําตอบ 3 : ปริมาตรของน้ําสวนที่นําไปใชงานได<br />
คําตอบ 4 : ปริมาตรของน้ําสวนที่ใชงานไมได<br />
กังหันของโรงไฟฟาพลังงานน้ําแบบใดที่น้ํามีทิศทางการไหลผานตามแนวรัศมีของกังหัน<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Francis turbine<br />
Kaplan turbine<br />
Pelton turbine<br />
Bulb type turbine<br />
กังหันของโรงไฟฟาพลังงานน้ําแบบใดที่น้ํามีมีทิศทางการไหลผานตามแนวแกนของกังหัน<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
Francis turbine<br />
Kaplan turbine<br />
Pelton turbine<br />
Bulb type turbine<br />
143 of 237<br />
ขอที่ : 448<br />
กังหันของโรงไฟฟาพลังงานน้ําแบบใดที่น้ํามีทิศทางการไหลผานตามแนวสัมผัสของกังหัน
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Francis turbine<br />
Kaplan turbine<br />
Pelton turbine<br />
Bulb type turbine<br />
144 of 237<br />
ขอที่ : 449<br />
ขอที่ : 450<br />
ขอที่ : 451<br />
ขอที่ : 452<br />
กังหันของโรงไฟฟาพลังงานน้ําแบบใดที่น้ํามีทิศทางการไหลผานตามแนวขวางของกังหัน<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Francis turbine<br />
Kaplan turbine<br />
Pelton turbine<br />
Bulb type turbine<br />
กังหันน้ําประเภทใดที่เหมาะที่จะใชกับโรงไฟฟาพลังงานน้ําที่มี Water head สูง<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Francis turbine<br />
Kaplan turbine<br />
Pelton turbine<br />
Bulb type turbine<br />
การพิจารณาสถานที่ตั้งโรงไฟฟาพลังงานน้ําจะตองพิจารณาปจจัยใดบาง<br />
คําตอบ 1 : ศักยภาพดานน้ํา<br />
คําตอบ 2 : ระยะทางจากโรงไฟฟาถึงโหลดศูนยกลาง<br />
คําตอบ 3 : ชนิดของดินและหินของบริเวณที่ตั้งเขื่อน<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
เมื่อโหลดของโรงไฟฟาพลังงานน้ําเพิ่มขึ้น ขอใดตอไปนี้เปนจริง<br />
คําตอบ 1 : วาลวจะชดเชยโดยการเปดน้ําเพิ่มเพื่อใหกังหันหมุนเร็วขึ้น<br />
คําตอบ 2 : วาลวจะชดเชยโดยการเปดน้ําเพิ่มเพื่อใหกังหันหมุนชาลง<br />
คําตอบ 3 : วาลวจะชดเชยโดยการเปดน้ําเพิ่มเพื่อใหกังหันหมุนดวยความเร็วคงที่<br />
คําตอบ 4 : วาลวจะชดเชยโดยการเปดน้ําเทาเดิมเพื่อใหกังหันหมุนดวยความเร็วคงที่
ขอที่ : 453<br />
ขอใดไมใชเขื่อนที่ใชในการผลิตไฟฟา<br />
คําตอบ 1 : เขื่อนภูมิพล<br />
คําตอบ 2 : เขื่อนเจาพระยา<br />
คําตอบ 3 : เขื่อนอุบลรัตน<br />
คําตอบ 4 : เขื่อนปากมูล<br />
ขอที่ : 454<br />
ขอใดตอไปนี้คือโรงไฟฟาพลังงานน้ําแบบสูบกลับ (Pump storage plant)<br />
คําตอบ 1 : เขื่อนลําตะคอง<br />
คําตอบ 2 : เขื่อนลํามูลบน<br />
คําตอบ 3 : เขื่อนลําพระเพลิง<br />
คําตอบ 4 : เขื่อนลําปลายมาศ<br />
ขอที่ : 455<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
145 of 237<br />
จงคํานวณขนาดของเครื่องกําเนิดไฟฟาที่ตองใชในการสรางโรงไฟฟาพลังน้ําที่มีอัตราการไหลของน้ําผานกังหัน 500 m3/s มีคาหัวน้ํา (Water head) 150 m กังหันน้ํามีประสิทธิภาพ<br />
60%
146 of 237<br />
ขอที่ : 456<br />
คําตอบ 1 : 120 MW<br />
คําตอบ 2 : 240 MW<br />
คําตอบ 3 : 360 MW<br />
คําตอบ 4 : 450 MW<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอใดตอไปนี้คือความหมายของคําวา Steam flow<br />
คําตอบ 1 : อัตราการไหลของน้ํา ณ บริเวณที่จะสรางเขื่อนที่เก็บเปนรายสัปดาห เพื่อนํามาคํานวณหาอัตราการไหลของน้ําเฉลี่ยและ Output power ที่ควรจะได<br />
คําตอบ 2 : อัตราความรอนสะสม ณ บริเวณที่จะสรางเขื่อนที่เก็บเปนรายสัปดาห เพื่อนํามาคํานวณหาอัตราการไหลของน้ําเฉลี่ยและ Output power ที่ควรจะได<br />
คําตอบ 3 : อัตราของฝนที่ตกลงมา ณ บริเวณที่จะสรางเขื่อนที่เก็บเปนรายสัปดาห เพื่อนํามาคํานวณหาอัตราการไหลของน้ําเฉลี่ยและ Output power ที่ควรจะได<br />
คําตอบ 4 : อุณหภูมิของไอน้ํา ณ บริเวณที่จะสรางเขื่อนที่เก็บเปนรายสัปดาห เพื่อนํามาคํานวณหาอัตราการไหลของน้ําเฉลี่ยและ Output power ที่ควรจะได<br />
ขอที่ : 457
โรงไฟฟาพลังงานน้ําแบบสูบกลับ มีลักษณะการใชงานที่สําคัญ คือ ขอใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
กักเก็บพลังงาน<br />
บริหารจัดการการผลิตไฟฟา<br />
คําตอบ 3 : เพิ่มความมั่นคงใหระบบ<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
147 of 237<br />
ขอที่ : 458<br />
ขอที่ : 459<br />
ขอที่ : 460<br />
ขอที่ : 461<br />
ขอใดตอไปนี้บงชี้ลักษณะสําคัญของโรงไฟฟาพลังน้ําไดถูกตองที่สุด<br />
คําตอบ 1 :<br />
กอสรางรวดเร็ว อายุการใชงานนาน<br />
คําตอบ 2 : ใชเงินลงทุนต่ํา คาดําเนินการและคาบํารุงรักษาต่ํา<br />
คําตอบ 3 : เดินเครื่อง หยุดเครื่องไดรวดเร็ว มีความแนนอนในการทํางานสูง<br />
คําตอบ 4 : ไมมีคาเชื้อเพลิง และไมมีผลกระทบตอสิ่งแวดลอม<br />
โดยหลักแลวควรใชโรงไฟฟาพลังงานน้ําแบบมีอางเก็บน้ํา เพื่อผลิตไฟฟาใชในกรณีใดเปนสําคัญ<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
โหลดฐาน<br />
โหลดปานกลาง<br />
โหลดคายอดและกําลังการผลิตสํารอง<br />
โหลดใดก็ได<br />
ปริมาตรน้ํา 3.6 ลานลูกบาศกเมตร ถูกนํามาใชในการผลิตไฟฟา โดยเขื่อนที่มีหัวน้ําสูง 100 เมตร และมีประสิทธิภาพโดยรวมของทอสงน้ํา กังหันน้ํา เครื่องกําเนิดไฟฟา และหมอ<br />
แปลงไฟฟากําลัง คิดเปน 80% จะสามารถผลิตพลังงานไฟฟาไดกี่ยูนิต (kWh)<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
1,226,250 kWh<br />
981,000 kWh<br />
784,800 kWh<br />
80,000 kWh<br />
โรงไฟฟาพลังงานน้ําแบงออกเปนกี่แบบ<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
2 แบบ<br />
3 แบบ<br />
4 แบบ
คําตอบ 4 :<br />
5 แบบ<br />
ขอที่ : 462<br />
ชนิดของเขื่อนที่ใชสําหรับโรงไฟฟาพลังงานน้ําแบงเปนกี่แบบ<br />
คําตอบ 1 : 2 แบบ<br />
คําตอบ 2 : 3 แบบ<br />
คําตอบ 3 : 4 แบบ<br />
คําตอบ 4 : 5 แบบ<br />
ขอที่ : 463<br />
ในการสรางเขื่อน จะตองมีการสํารวจขอมูลเพื่อนําไปคํานวณขนาดกําลังผลิตของโรงไฟฟาพลังงานน้ํา ขอมูลที่ตองการคือขอใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
148 of 237<br />
คําตอบ 2 : ความสูงของน้ํา m
คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />
คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />
149 of 237<br />
ขอที่ : 464<br />
จาก Flow duration curve สามารถแปลงเปน <strong>Power</strong> duration curve ไดจากสมการใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 2 :<br />
:สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 3<br />
150 of 237
คําตอบ 4 :สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
151 of 237
152 of 237<br />
ขอที่ : 465<br />
จาก <strong>Power</strong> duration curve ที่ไดจะสามารถหาขนาดกําลังผลิตของโรงไฟฟาพลังงานน้ํา ไดที่กี่เปอรเซ็นตของเวลา<br />
คําตอบ 1 : 10 %<br />
คําตอบ 2 : 20 %<br />
คําตอบ 3 : 30 %<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขอที่ : 466<br />
Turbine ที่ใชในโรงไฟฟาแบบอาศัยปรากฎการณของน้ําขึ้นและลงระหวางปากแมน้ํากับทะเลเปนแบบใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
Kaplan<br />
Francis
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Pelton<br />
Bulb type<br />
153 of 237<br />
ขอที่ : 467<br />
โรงไฟฟาแบบ Run of river ที่สรางในประเทศไทย คือเขื่อนใดตอไปนี้<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ปากมูล<br />
ลําตะคลอง<br />
รัชประภา<br />
ศรีนครินทร<br />
ขอที่ : 468<br />
Tidal power plant ที่สรางในประเทศไทยคือที่จังหวัดใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สุราษฎรธานี<br />
อุบลราชธานี<br />
ยะลา<br />
ไมมีขอใดถูก<br />
ขอที่ : 469<br />
Tidal power plant จะตองมีความสูงของน้ํา ประมาณเทาใดจึงจะผลิตไฟฟาได<br />
ขอที่ : 470<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
0 – 3 เมตร<br />
3 – 25 เมตร<br />
30 – 40 เมตร<br />
50 – 100 เมตร<br />
โรงไฟฟาพลังงานน้ําแหงหนึ่ง มีกําลังผลิตติดตั้งเทากับ 50 MW กําลังผลิตสํารองเทากับ 10 MW จงหาวาโรงไฟฟาแหงนี้จะมีกี่หนวยผลิต<br />
คําตอบ 1 : 4<br />
คําตอบ 2 : 5<br />
คําตอบ 3 : 6<br />
คําตอบ 4 : 7<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอที่ : 471
Reaction turbine ในโรงไฟฟาพลังงานน้ําอาศัยสิ่งใดตอไปนี้ในการเปลี่ยนใหเปนกําลังทางกลที่เพลาของ Turbine<br />
คําตอบ 1 : ความเร็วของน้ําในทอนําน้ํา<br />
คําตอบ 2 : ความดันของน้ําในทอนําน้ํา<br />
คําตอบ 3 : ความหนาแนนของน้ํา<br />
คําตอบ 4 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />
154 of 237<br />
ขอที่ : 472<br />
Impulse turbine ในโรงไฟฟาพลังงานน้ําอาศัยสิ่งใดตอไปนี้ในการเปลี่ยนใหเปนกําลังทางกลที่เพลาของ Turbine<br />
คําตอบ 1 : พลังงานจลนของน้ําที่หัวฉีด<br />
คําตอบ 2 : ความสูงของน้ํา<br />
คําตอบ 3 : ความหนาแนนของน้ํา<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขอที่ : 473<br />
Turbine ชนิดใดตอไปนี้ที่เหมาะกับ Load ที่เปลี่ยนแปลง<br />
คําตอบ 1 : Kaplan<br />
คําตอบ 2 : Francis<br />
คําตอบ 3 : Pelton<br />
คําตอบ 4 : ถูกทั้ง 1 และ 3<br />
ขอที่ : 474<br />
Turbine ชนิดใดตอไปนี้ที่เหมาะกับ Load ที่คงที่<br />
คําตอบ 1 : Kaplan<br />
คําตอบ 2 : Francis<br />
คําตอบ 3 : Pelton<br />
คําตอบ 4 : ถูกทั้ง 1 และ 3<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอที่ : 475<br />
Specific speed ของ Turbine ในโรงไฟฟาพลังงานน้ําหาไดจากสมการ
คําตอบ 1 :<br />
:สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 2<br />
155 of 237
คําตอบ 3 :สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
156 of 237
คําตอบ 4 :สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
157 of 237
158 of 237<br />
ขอที่ : 476<br />
Specific speed ของ Turbine ชนิด Pelton 2 หัวฉีดมีคาเทาใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
17 – 50 rpm<br />
24 – 70 rpm<br />
120 – 220 rpm<br />
310 – 1,000 rpm<br />
ขอที่ : 477<br />
Specific speed ของ Turbine ชนิด Francis (normal)<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
17 – 50 rpm<br />
24 – 70 rpm
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
120 – 220 rpm<br />
310 – 1,000 rpm<br />
159 of 237<br />
ขอที่ : 478<br />
Specific speed ของ Turbine ชนิด Kaplan<br />
ขอที่ : 479<br />
ขอที่ : 480<br />
ขอที่ : 481<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
17 – 50 rpm<br />
24 – 70 rpm<br />
120 – 220 rpm<br />
310 – 1,000 rpm<br />
ในการออกแบบเลือก Generator ของโรงไฟฟาพลังงานน้ําถา Speed ของ Turbine = 1,280 rpm ควรจะเลือก Generator กี่ Poles<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
4 Pole 50 Hz<br />
5 Pole 50 Hz<br />
6 Pole 50 Hz<br />
7 Pole 50 Hz<br />
ขนาดหรือ Main dimension ของ Reaction turbine ที่ใชในโรงไฟฟาพลังงานน้ํา จะตองบอกคาใดบางตอไปนี้<br />
คําตอบ 1 : เสนผานศูนยกลางของทางนําน้ําเขา Turbine<br />
คําตอบ 2 : เสนผานศูนยกลางของทางน้ําเขา Turbine<br />
คําตอบ 3 : ระยะกวางของใบ Turbine<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขนาดหรือ Main dimension ของ Impulse turbine ที่ใชในโรงไฟฟาพลังงานน้ํา จะตองบอกคาใดบางตอไปนี้<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
เสนผานศูนยกลางกงลอ Turbine<br />
เสนผานศูนยกลางของหัวฉีด<br />
จํานวนลูกถวย<br />
ถูกทุกขอ<br />
ขอที่ : 482
ในการ Set turbine เหนือระดับทายนี้ จะสามารถคํานวณหาไดจากวิธีการใด<br />
คําตอบ 1 : Beraulli’s equation<br />
คําตอบ 2 : Sanitation coefficient<br />
คําตอบ 3 : Matlab<br />
คําตอบ 4 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />
160 of 237<br />
ขอที่ : 483<br />
ในการคํานวณหาคา Turbine setting<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
3.62 เมตร<br />
3.52 เมตร<br />
3.72 เมตร<br />
3.12 เมตร
ขอที่ : 484<br />
161 of 237<br />
ขอที่ : 485<br />
คําตอบ 1 : 2.42 m<br />
คําตอบ 2 : 2.41 m<br />
คําตอบ 3 : 2.32 m<br />
คําตอบ 4 : 33 m<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
162 of 237<br />
ขอที่ : 486<br />
คําตอบ 1 : 0.95 cm<br />
คําตอบ 2 : 1.25 cm<br />
คําตอบ 3 : 1.5 cm<br />
คําตอบ 4 : 2.0 cm<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขนาดเสนผานศูนยกลางและความยาวของ Stator ของ Generator ที่ใชในโรงไฟาพลังงานน้ําควรมีความสัมพันธเชนไร
คําตอบ 1 :<br />
:สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 2<br />
163 of 237
คําตอบ 3 :สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
164 of 237
165 of 237<br />
คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />
ขอที่ : 487<br />
คา B (Flux density) ของ Generator ที่ใชในโรงไฟฟาพลังงานน้ําควรมีคาอยูใน Range ใด<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :<br />
:สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 2<br />
166 of 237
คําตอบ 3 :สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
167 of 237
168 of 237<br />
คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />
ขอที่ : 488<br />
ขนาดกําลังผลิต/หนวยผลิต ของโรงไฟฟาพลังงานน้ํา ควรจะมีคาอยูใน Range ใดตามมาตรฐาน<br />
คําตอบ 1 : 3 – 200 MW<br />
คําตอบ 2 : 500 kW - 200 MW<br />
คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />
คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูกตอง<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอที่ : 489<br />
ถา X = 5, ns ของ Turbine = 120 rpm, เสนผานศูนยกลางของทอนําน้ําออก Turbine = 2.42 m จงหาระยะหางระหวางจุดศูนยกลางของแตละหนวยผลิต<br />
คําตอบ 1 : 12.10 m
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
12.15 m<br />
12 m<br />
11.99 m<br />
169 of 237<br />
ขอที่ : 490<br />
การนํา <strong>Plant</strong> lay out ของโรงไฟฟาพลังงานน้ํา พรอมแบบอาคารโรงไฟฟาและอื่นๆ เพื่อบอกสิ่งใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ราคากลางในการกอสรางโรงไฟฟา<br />
ราคาในการผลิตกระแสไฟฟา<br />
ราคาขายพลังงานไฟฟา<br />
ถูกทุกขอ<br />
ขอที่ : 491<br />
ราคาในการกอสรางโรงไฟฟาพลังงานน้ําแบบใดมีราคาแพงที่สุดในขนาดกําลังผลิตที่เทากัน(150 MW )<br />
ขอที่ : 492<br />
ขอที่ : 493<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Reservoir plant<br />
Pump storage plant<br />
Run off river plant<br />
Tidal power plant<br />
ความสูงของน้ําที่ใชผลิตไฟฟา ของโรงไฟฟาพลังงานน้ําแบบใดที่มีความสูงของน้ํามากที่สุด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Reservoir plant<br />
Pump storage plant<br />
Run off river plant<br />
Tidal power plant<br />
โรงไฟฟาพลังงานไอน้ําใชเชื้อเพลิงแบบเดียวกันทั้งสองเครื่อง และรวมกันจายโหลด ใหพิจารณาวาคําตอบขางลางใดถูกตอง F1,F2 = คาเชื้อเพลิงสําหรับผลิตไฟฟา P1,P2 =<br />
กําลังไฟฟาจากโรงจักร 1 และ 2 ตามลําดับ<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
การจายโหลดอยางประหยัดโดยรวม ตองให F1/P1=F2/P2<br />
การจายโหลดอยางประหยัดโดยรวม ตองให dF1/dP1=dF2/dP2<br />
คําตอบ 3 : การจายโหลดอยางประหยัดโดยรวมตองใหโรงไฟฟาทั้งสองมีประสิทธิภาพในการจายสูงสุด<br />
คําตอบ 4 : การจายโหลดไมวากรณีใดตองใหโรงไฟฟาที่มีคา F/P ต่ํากวาเปนโรงจักรที่จายโหลดออกมากอน
ขอที่ : 494<br />
ขอที่ : 495<br />
ขอที่ : 496<br />
โรงไฟฟาสองแหง มีการจายโหลด P ที่สัมพันธกับคาใชจายเชื้อเพลิง F ดังนี้ โรงไฟฟาที่ 1 dF1=P1+40 โรงไฟฟาที่ 2 dF2=P2+100 รวมกันจายโหลด 400 MW ใหหาคา P1,<br />
P2 ที่จายโหลดอยางประหยัด<br />
คําตอบ 1 : P1=200, P2=200<br />
คําตอบ 2 : P1=170, P2=230<br />
คําตอบ 3 : P1=230, P2=170<br />
คําตอบ 4 : P1=150, P2=250<br />
ใหเลือกคําตอบที่คิดวาถูกตองที่สุดสําหรับ การจายโหลดอยางประหยัด<br />
คําตอบ 1 : คาเชื้อเพลิง+คาบํารุงรักษาต่ําที่สุด<br />
คําตอบ 2 : คาเชื้อเพลิง+คาบํารุงรักษา+เงินเดือนต่ําที่สุด<br />
คําตอบ 3 : คาเชื้อเพลิง+คาบํารุงรักษา+เงินเดือน+คาวัสดุต่ําที่สุด<br />
คําตอบ 4 : คาเชื้อเพลิง+คาบํารุงรักษา+เงินเดือน+คาวัสดุ+คาดําเนินการอื่นๆรวมต่ําที่สุด<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
170 of 237<br />
โรงจักรไฟฟาแหงหนึ่งมีขนาดเครื่องจักรขนาด 600 kW 2 เครื่อง โดยมีคาใชจายในการผลิตกระแสไฟฟาเปนดังสมการดานลาง ถาตองใชโหลดขนาด 920 kW ถามวาตองใหเครื่อง<br />
ไหนจายโหลดเทาไรจึงจะประหยัดคาใชจายที่สุด
171 of 237<br />
ขอที่ : 497<br />
คําตอบ 1 : เครื่องที่ 1 จาย 600 kW เครื่องที่ 2 จาย 320 kW<br />
คําตอบ 2 : เครื่องที่ 1 จาย 500 kW เครื่องที่ 2 จาย 420 kW<br />
คําตอบ 3 : เครื่องที่ 1 จาย 460 kW เครื่องที่ 2 จาย 460 kW<br />
คําตอบ 4 : เครื่องที่ 1 จาย 320 kW เครื่องที่ 2 จาย 600 kW<br />
โรงไฟฟาพลังงานไอน้ํามีเครื่องกําเนิดไฟฟาขนาด 300 MW 2 เครื่อง แตละเครื่องมีความสามารถจายโหลดสูงสุดได 300 MW จายโหลดต่ําสุดได 100 MW แตละเครื่องมี Fuel<br />
incremental cost คือ เครื่องที่ 1 dF1/dP1 = ( 0.14P1 + 12 ) Bath per MWh เครื่องที่ 2 dF2/dP2 = ( 0.13P2 + 14 ) Bath per MWh จงหากําลังผลิตของแตละเครื่องที่<br />
ประหยัดที่สุด เมื่อโหลดรวมของทั้งโรงไฟฟาเทากับ 210 MW<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
P1 = 100 MW P2 = 110 MW<br />
P1 = 80 MW P2 = 130 MW<br />
P1 = 100 MW P2 = 100 MW<br />
P1 = 140 MW P2 = 70 MW<br />
ขอที่ : 498<br />
โรงไฟฟาพลังงานไอน้ํามีเครื่องกําเนิดไฟฟาขนาด 300 MW 2 เครื่อง แตละเครื่องมีความสามารถจายโหลดสูงสุดได 300 MW จายโหลดต่ําสุดได 100 MW แตละเครื่องมี fuel
ขอที่ : 499<br />
ขอที่ : 500<br />
incremental cost คือ เครื่องที่ 1 dF1/dP1 = ( 0.14P1 + 12 ) Bath per MWh เครื่องที่ 2 dF2/dP2 = ( 0.13P2 + 14 ) Bath per MWh จงหากําลังผลิตของแตละเครื่องที่<br />
ประหยัดที่สุด เมื่อโหลดรวมของทั้งโรงไฟฟาเทากับ 400 MW<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
P2 = 200 MW P1= 200 MW<br />
P2 = 214.8 MW P1= 185.2 MW<br />
P2 = 190 MW P1= 210 MW<br />
P2 = 150 MW P1= 250 MW<br />
โรงไฟฟาพลังงานไอน้ํามีเครื่องกําเนิดไฟฟาขนาด 300 MW 2 เครื่อง แตละเครื่องมีความสามารถจายโหลดสูงสุดได 300 MW จายโหลดต่ําสุดได 100 MW แตละเครื่องมี fuel<br />
incremental cost คือ เครื่องที่ 1 dF1/dP1 = ( 0.14P1 + 12 ) Bath per MWh เครื่องที่ 2 dF2/dP2 = ( 0.13P2 + 14 ) Bath per MWh จงหากําลังผลิตของแตละเครื่องที่<br />
ประหยัดที่สุด เมื่อโหลดรวมของทั้งโรงไฟฟาเทากับ 580 MW<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
P2= 500 MW P1= 180 MW<br />
P2= 180 MW P1= 500 MW<br />
P2= 250 MW P1= 330 MW<br />
P2= 300 MW P1= 280 MW<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
172 of 237<br />
เครื่องกําเนิดไฟฟาขนาด 320 MW มีฟงกชันคาเชื้อเพลิงเปน
173 of 237<br />
ขอที่ : 501<br />
คําตอบ 1 : 108,000<br />
คําตอบ 2 : 132,000<br />
คําตอบ 3 : 168,960<br />
คําตอบ 4 : 191,840<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
เครื่องกําเนิดไฟฟาขนาด 200 MW มีฟงกชั่นคาเชื้อเพลิงเปน
174 of 237<br />
ขอที่ : 502<br />
คําตอบ 1 : 7.6<br />
คําตอบ 2 : 8.4<br />
คําตอบ 3 : 9.2<br />
คําตอบ 4 : 10.8<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
โรงไฟฟาแหงหนึ่งมีหนวยผลิตยอย 2 หนวย แตละหนวยมีคาเชื้อเพลิงดังนี้
175 of 237<br />
ขอที่ : 503<br />
คําตอบ 1 : หนวยที่ 1 ผลิต 100 MW, หนวยที่ 2 ผลิต 400 MW<br />
คําตอบ 2 : หนวยที่ 1 ผลิต 200 MW, หนวยที่ 2 ผลิต 300 MW<br />
คําตอบ 3 : หนวยที่ 1 ผลิต 300 MW, หนวยที่ 2 ผลิต 200 MW<br />
คําตอบ 4 : หนวยที่ 1 ผลิต 400 MW, หนวยที่ 2 ผลิต 100 MW<br />
ความเร็วซิงโครนัสสําหรับเครื่องกําเนิดไฟฟาชนิด 48 ขั้ว ความถี่ 50 Hz มีคาเปนเทาใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
75 rpm<br />
125 rpm<br />
250 rpm<br />
325 rpm<br />
ขอที่ : 504
ขอที่ : 505<br />
เครื่องกําเนิดไฟฟาซิงโครนัสเดินเครื่องตัวเปลามีแรงดันที่ขั้วเปน 14.8 kV ความถี่ 52.4 Hz นํามาจายโหลดขนาด 6.4 MW จงคํานวณความถี่ของระบบภายหลังการเชื่อมตอโหลดนี้<br />
เมื่อกําหนดให speed regulation ของเครื่องกําเนิดไฟฟานี้มีคาเปน 3.2 MW/Hz<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
49.8 Hz<br />
50.4 Hz<br />
51.0 Hz<br />
51.8 Hz<br />
โรงไฟฟาแหงหนึ่งมีเครื่องกําเนิดไฟฟา 2 เครื่อง (G1 และ G2) แตละเครื่องมีคาใชจายในการผลิตไฟฟาตามสมการตอไปนี้ กําหนดใหเครื่องกําเนิดไฟฟาทั้งสองเครื่องมีพิสัยการ<br />
ผลิตไฟฟาในชวง 100-400 MW หากโรงไฟฟาไดรับคําสั่งจากศูนยควบคุมระบบไฟฟาใหทําการจายโหลดขนาด 500 MW จงคํานวณวา G1 และ G2 ควรจายโหลดเครื่องละเทาไร<br />
จึงจะทําใหโรงไฟฟาแหงนี้มีคาใชจายต่ําที่สุด<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
176 of 237<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
G1 = 120 MW ; G2 = 380 MW<br />
G1 = 380 MW ; G2 = 120 MW<br />
G1 = 250 MW ; G2 = 250 MW
คําตอบ 4 :<br />
G1 = 333 MW ; G2 = 167 MW<br />
ขอที่ : 506<br />
ขอที่ : 507<br />
โรงไฟฟาแหงหนึ่งมีเครื่องกําเนิดไฟฟา 2 เครื่อง (G1 และ G2) แตละเครื่องมีคาใชจายในการผลิตไฟฟาตามสมการตอไปนี้ กําหนดใหเครื่องกําเนิดไฟฟาทั้งสองเครื่องมีพิสัยการ<br />
ผลิตไฟฟาในชวง 150-400 MW หากโรงไฟฟาไดรับคําสั่งจากศูนยควบคุมระบบไฟฟาใหทําการจายโหลดขนาด 500 MW จงคํานวณวา G1 และ G2 ควรจายโหลดเครื่องละเทาไร<br />
จึงจะทําใหโรงไฟฟาแหงนี้มีคาใชจายต่ําที่สุด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
G1 = 120 MW ; G2 = 380 MW<br />
G1 = 380 MW ; G2 = 120 MW<br />
G1 = 150 MW ; G2 = 350 MW<br />
G1 = 350 MW ; G2 = 150 MW<br />
เจาหนาที่ผูหนึ่งกําลังพิจารณากําหนดการเดินเครื่องและจัดสรรกําลังการผลิตสําหรับโรงไฟฟาพลังความรอน 3 แหงที่มีคาใชจายในการผลิตไฟฟาดังนี้<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
177 of 237
คําตอบ 1 : เดินเครื่องโรงไฟฟา 2 โรงแรก โดยจัดสรรกําลังการผลิต ให P1 = 450 MW และ P2 = 450 MW<br />
คําตอบ 2 : เดินเครื่องโรงไฟฟา 2 โรงแรก โดยจัดสรรกําลังการผลิต ให P1 = 500 MW และ P2 = 400 MW<br />
คําตอบ 3 : เดินเครื่องโรงไฟฟา 3 โรงแรก โดยจัดสรรกําลังการผลิต ให P1 = 300 MW , P2 = 300 MW และ P3 = 300 MW<br />
คําตอบ 4 : เดินเครื่องโรงไฟฟา 3 โรงแรก โดยจัดสรรกําลังการผลิต ให P1 = 500 MW , P2 = 300 MW และ P3 = 100 MW<br />
178 of 237<br />
ขอที่ : 508<br />
เจาหนาที่ผูหนึ่งกําลังพิจารณาจัดสรรกําลังการผลิตสําหรับโรงไฟฟาพลังความรอน 2 แหงซึ่งกําลังเชื่อมตออยูกับระบบไฟฟา โรงไฟฟาทั้ง 2 แหงมีคาใชจายในการผลิตไฟฟาดังนี้<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
P1 = 300 MW , P2 = 500 MW<br />
P1 = 400 MW , P2 = 400 MW<br />
P1 = 500 MW , P2 = 300 MW<br />
ไมมีขอใดถูกตอง<br />
ขอที่ : 509
เจาหนาที่ผูหนึ่งกําลังพิจารณาจัดสรรกําลังการผลิตสําหรับโรงไฟฟาพลังความรอน 2 แหงซึ่งกําลังเชื่อมตออยูกับระบบไฟฟา โรงไฟฟาทั้ง 2 แหงมีคาใชจายในการผลิตไฟฟาดังนี้<br />
179 of 237<br />
ขอที่ : 510<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
P1 = 500 MW , P2 = 150 MW<br />
P1 = 450 MW , P2 = 200 MW<br />
P1 = 400 MW , P2 = 250 MW<br />
P1 = 350 MW , P2 = 300 MW<br />
ขณะที่กําลังการผลิตและโหลดของระบบไฟฟาแหงหนึ่งสมดุลอยูที่ประมาณ 20,000 MW ในชวงวินาทีตอมา ประชาชนรวมใจกันปดไฟฟาทันทีเปนขนาด 500 MW ความถี่ของ<br />
ระบบในชวง 1 – 5 วินาที จากนั้นจะเปนเชนไร<br />
คําตอบ 1 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คงเดิม<br />
คําตอบ 2 : เพิ่มขึ้น<br />
คําตอบ 3 : ลดลง<br />
คําตอบ 4 : เพิ่มขึ้นกอนแลวจึงลดลง
ขอที่ : 511<br />
ขอที่ : 512<br />
ขอที่ : 513<br />
ขอที่ : 514<br />
ขณะที่การผลิตและโหลดสมดุลของระบบไฟฟาแหงหนึ่งสมดุลอยูที่ประมาณ 20,000 MW หากโรงไฟฟาขนาด 500 MW เกิดหลุดออกจากระบบ (Forced outage) แตระบบ<br />
สามารถรักษาเสถียรภาพไวได ความถี่ของระบบในชวงเวลาประมาณ 10 นาที หลังจากเกิดเหตุการณนั้นเปนเชนไร<br />
คําตอบ 1 :<br />
ลดลง<br />
คําตอบ 2 : เพิ่มขึ้น<br />
คําตอบ 3 : เพิ่มขึ้นชั่วครู จากนั้นคอย ๆ ลดลงจนเขาสูความถี่คงที่<br />
คําตอบ 4 : ลดลงชั่วครู จากนั้นคอย ๆ เพิ่มขึ้นจนเขาสูความถี่คงที่<br />
อุปกรณหรือระบบทางไฟฟาตอไปนี้ ขอใดมีวัตถุประสงคในการควบคุมตางไปจากการควบคุมแบบอื่น<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Automatic generation control<br />
Automatic voltage regulator<br />
Tab-changing transformer<br />
Synchronous condenser<br />
การควบคุมแบบ Load frequency control จะไมสงผลตอพฤติกรรมใดของระบบไฟฟา<br />
คําตอบ 1 : การรักษาสมดุลของกําลังการผลิตและโหลดในพื้นที่<br />
คําตอบ 2 : การรักษาความถี่ของระบบที่คากําหนด<br />
คําตอบ 3 : การรักษาขนาดของแรงดันที่คาโหลดความตองการในพื้นที่<br />
คําตอบ 4 : การรักษากําลังการผลิตในพื้นที่ใหสอดคลองกับปริมาณการซื้อขายไฟไวลวงหนากับระบบขางเคียง<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
180 of 237<br />
โรงไฟฟากําลังความรอนมี 2 หนวยผลิต แตละหนวยผลิตมีขนาด 200 MW และมีคา Incremental fuel cost ดังนี้
181 of 237<br />
ขอที่ : 515<br />
คําตอบ 1 : P1 = 200 MW, P2 = 180 MW<br />
คําตอบ 2 : P1 = 180 MW, P2 = 200 MW<br />
คําตอบ 3 : P1 = 190 MW, P2 = 190 MW<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
โรงไฟฟาพลังงานความรอนมี 2 หนวยผลิต แตละหนวยผลิตมีขนาด 200 MW และมีคา Incremental fuel cost ดังนี้
182 of 237<br />
ขอที่ : 516<br />
คําตอบ 1 : 31 บาท/MWh<br />
คําตอบ 2 : 32 บาท/MWh<br />
คําตอบ 3 : 33 บาท/MWh<br />
คําตอบ 4 : 34 บาท/MWh<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ถาโรงไฟฟาที่เสียคาใชจายเชื้อเพลิงกําลังผลิตผานสายสงที่มี <strong>Power</strong> loss = PL จะมีผลทําใหคาใชจายของเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นตามขอใดตอไปนี้
คําตอบ 1 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 2 :<br />
183 of 237
คําตอบ 3 :สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
184 of 237
คําตอบ 4 :สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
185 of 237
186 of 237<br />
ขอที่ : 517<br />
การควบคุมการจาย Load อยางประหยัดของทุกชนิดของโรงไฟฟาจะถูกควบคุมโดยอัตโนมัติจากศูนยควบคุมการผลิตและสงจายกําลังไฟฟา ศูนยดังกลาวของประเทศไทยอยูที่ใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
โรงไฟฟาความรอนรวมราชบุรี<br />
โรงไฟฟาความรอนรวมแมเมาะ<br />
โรงไฟฟาความรอนรวมบางปะกง<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
โรงไฟฟาพระนครเหนือ<br />
ขอที่ : 518<br />
โรงไฟฟาใดที่เสียคาใชจายเชื้อเพลิงจะควบคุมใหแตละหนวยผลิตเกิดการจาย Load อยางประหยัด<br />
คําตอบ 1 : ควบคุมใหคา dF / dP ของแตละหนวยผลิตเทากัน<br />
คําตอบ 2 : ควบคุมใหคา dF / dP ของแตละหนวยผลิตต่ําสุด
คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />
คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />
187 of 237<br />
ขอที่ : 519<br />
ขอที่ : 520<br />
ขอที่ : 521<br />
โรงไฟฟาใดที่เสียคาใชจายเชื้อเพลิงสูงและต่ํา เมื่อนํามารวมกันจายกําลังผลิตรวมกัน จะตองควบคุมเชนไรจึงจะเกิดการจาย Load อยางประหยัด<br />
คําตอบ 1 : ใหโรงไฟฟาที่เสียคาใชจายเชื้อเพลิงสูงเปน Peak load<br />
คําตอบ 2 : ใหโรงไฟฟาที่เสียคาใชจายเชื้อเพลิงต่ําเปน Base load<br />
คําตอบ 3 : ใหโรงไฟฟาที่เสียคาใชจายเชื้อเพลิงต่ํารับ <strong>Power</strong> loss ในสายสง<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
การจายกําลังผลิตรวมกันระหวางโรงไฟฟาที่เสียคาใชจายเชื้อเพลิงกับไมเสียคาใชจายเชื้อเพลิงจะตองควบคุมเชนไรจึงจะเกิดการจาย Load อยางประหยัด<br />
คําตอบ 1 : ใหโรงไฟฟาที่เสียคาใชจายเชื้อเพลิงเปน Peak load<br />
คําตอบ 2 : ใหโรงไฟฟาที่ไมเสียคาใชจายเชื้อเพลิงเปน Base load<br />
คําตอบ 3 : ใหโรงไฟฟาที่ไมเสียคาใชจายเชื้อเพลิงรับ <strong>Power</strong> loss ในสายสง<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
188 of 237<br />
ขอที่ : 522<br />
คําตอบ 1 : 160,308 kWh<br />
คําตอบ 2 : 238,868 kWh<br />
คําตอบ 3 : 320,616 kWh<br />
คําตอบ 4 : 477,736 kWh<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
189 of 237<br />
ขอที่ : 523<br />
คําตอบ 1 : 160,308 kWh<br />
คําตอบ 2 : 238,868 kWh<br />
คําตอบ 3 : 320,616 kWh<br />
คําตอบ 4 : 477,736 kWh<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
โรงไฟฟาพลังความรอน 2 แหงมี Cost function ดังนี้
190 of 237<br />
ขอที่ : 524<br />
คําตอบ 1 : 363.64 MW<br />
คําตอบ 2 : 436.2 MW<br />
คําตอบ 3 : 540.5 MW<br />
คําตอบ 4 : 563.8 MW<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
โรงไฟฟาพลังความรอน 2 แหงมี Cost function ดังนี้
191 of 237<br />
ขอที่ : 525<br />
คําตอบ 1 : 436.2 MW<br />
คําตอบ 2 : 459.5 MW<br />
คําตอบ 3 : 563.8 MW<br />
คําตอบ 4 : 636.6 MW<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
โรงไฟฟาพลังความรอน 2 แหงมี Cost function ดังนี้
192 of 237<br />
ขอที่ : 526<br />
คําตอบ 1 : 275.1 MW<br />
คําตอบ 2 : 436.2 MW<br />
คําตอบ 3 : 563.8 MW<br />
คําตอบ 4 : 724.9 MW<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
โรงไฟฟาพลังความรอน 2 แหงมี Cost function ดังนี้
193 of 237<br />
ขอที่ : 527<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
275.1 MW<br />
436.2 MW<br />
563.8 MW<br />
724.9 MW<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
โรงไฟฟาสองแหง มีการจายโหลด P ที่สัมพันธกับคาใชจายเชื้อเพลิง F ดังนี้ โรงไฟฟาที่ 1 dF1=1.5P1+20 โรงไฟฟาที่ 2 dF2=P2+50 รวมกันจายโหลด 400 MW ใหหาคา P1,<br />
P2 ที่จายโหลดอยางประหยัด<br />
คําตอบ 1 : P1=200, P2=200<br />
คําตอบ 2 : P1=172, P2=228<br />
คําตอบ 3 : P1=230, P2=170<br />
คําตอบ 4 : P1=228, P2=172
ขอที่ : 528<br />
ขอที่ : 529<br />
ขอที่ : 530<br />
ขอที่ : 531<br />
โรงไฟฟาสองแหง มีการจายโหลด P ที่สัมพันธกับคาใชจายเชื้อเพลิง F ดังนี้ โรงไฟฟาที่ 1 dF1=1.5P1+20 โรงไฟฟาที่ 2 dF2=P2+40 รวมกันจายโหลด 200 MW ใหหาคา P1,<br />
P2 ที่จายโหลดอยางประหยัด<br />
คําตอบ 1 : P1=100, P2=100<br />
คําตอบ 2 : P1=88, P2=112<br />
คําตอบ 3 : P1=80, P2=120<br />
คําตอบ 4 : P1=60, P2=140<br />
โรงไฟฟาพลังงานไอน้ํามีเครื่องกําเนิดไฟฟาขนาด 300 MW 2 เครื่อง แตละเครื่องมีความสามารถจายโหลดสูงสุดได 300 MW จายโหลดต่ําสุดได 100 MW แตละเครื่องมี fuel<br />
incremental cost คือ เครื่องที่ 1 dF1/dP1 = ( 3P1 + 40 ) Bath per MWh เครื่องที่ 2 dF2/dP2 = ( 2P2 + 30 ) Bath per MWh จงหากําลังผลิตของแตละเครื่องที่ประหยัดที่<br />
สุด เมื่อโหลดรวมของทั้งโรงไฟฟาเทากับ 600 MW<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
P2= 238 MW P1= 362 MW<br />
P2= 362 MW P1= 238 MW<br />
P2= 250 MW P1= 350 MW<br />
P2= 300 MW P1= 300 MW<br />
โรงไฟฟาพลังงานไอน้ํามีเครื่องกําเนิดไฟฟาขนาด 300 MW 2 เครื่อง แตละเครื่องมีความสามารถจายโหลดสูงสุดได 300 MW จายโหลดต่ําสุดได 100 MW แตละเครื่องมี fuel<br />
incremental cost คือ เครื่องที่ 1 dF1/dP1 = ( 3P1 + 40 ) Bath per MWh เครื่องที่ 2 dF2/dP2 = ( 2P2 + 30 ) Bath per MWh จงหากําลังผลิตของแตละเครื่องที่ประหยัดที่<br />
สุด เมื่อโหลดรวมของทั้งโรงไฟฟาเทากับ 200 MW<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
P2= 100 MW P1= 100 MW<br />
P2= 78 MW P1= 122 MW<br />
P2= 122 MW P1= 78 MW<br />
P2= 30 MW P1= 170 MW<br />
โรงไฟฟาพลังงานไอน้ํามีเครื่องกําเนิดไฟฟาขนาด 300 MW 2 เครื่อง แตละเครื่องมีความสามารถจายโหลดสูงสุดได 300 MW จายโหลดต่ําสุดได 50 MW แตละเครื่องมี fuel<br />
incremental cost คือ เครื่องที่ 1 dF1/dP1 = ( 3P1 + 40 ) Bath per MWh เครื่องที่ 2 dF2/dP2 = ( 2P2 + 30 ) Bath per MWh จงหากําลังผลิตของแตละเครื่องที่ประหยัดที่<br />
สุด เมื่อโหลดรวมของทั้งโรงไฟฟาเทากับ 200 MW<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
P2= 100 MW P1= 100 MW<br />
P2= 78 MW P1= 122 MW<br />
P2= 122 MW P1= 78 MW<br />
194 of 237
คําตอบ 4 :<br />
P2= 30 MW P1= 170 MW<br />
ขอที่ : 532<br />
ขอที่ : 533<br />
ขอที่ : 534<br />
ขอที่ : 535<br />
โรงไฟฟาพลังงานไอน้ํามีเครื่องกําเนิดไฟฟาขนาด 400 MW 2 เครื่อง แตละเครื่องมีความสามารถจายโหลดสูงสุดได 400 MW จายโหลดต่ําสุดได 100 MW แตละเครื่องมี fuel<br />
incremental cost คือ เครื่องที่ 1 dF1/dP1 = ( 3P1 + 40 ) Bath per MWh เครื่องที่ 2 dF2/dP2 = ( 2P2 + 30 ) Bath per MWh จงหากําลังผลิตของแตละเครื่องที่ประหยัดที่<br />
สุด เมื่อโหลดรวมของทั้งโรงไฟฟาเทากับ 550 MW<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
P2= 218 MW P1= 332 MW<br />
P2= 332 MW P1= 218 MW<br />
P2= 250 MW P1= 300 MW<br />
P2= 225 MW P1= 225 MW<br />
โรงไฟฟาพลังงานไอน้ํามีเครื่องกําเนิดไฟฟาขนาด 400 MW 2 เครื่อง แตละเครื่องมีความสามารถจายโหลดสูงสุดได 400 MW จายโหลดต่ําสุดได 50 MW แตละเครื่องมี fuel<br />
incremental cost คือ เครื่องที่ 1 dF1/dP1 = ( 3P1 + 40 ) Bath per MWh เครื่องที่ 2 dF2/dP2 = ( 2P2 + 30 ) Bath per MWh จงหากําลังผลิตของแตละเครื่องที่ประหยัดที่<br />
สุด เมื่อโหลดรวมของทั้งโรงไฟฟาเทากับ 120 MW<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
P1= 46 MW P21= 74 MW<br />
P1=74 MW P2= 46 MW<br />
P1= 50 MW P2= 70 MW<br />
P1= 70 MW P2= 50 MW<br />
เครื่องกําเนิดไฟฟาขนาด 300 MW มีฟงกชันคาเชื้อเพลังเปน f= 42,000+800P+0.5P2 บาท/ชั่วโมง จงคํานวณคาเชื้อเพลิงของโรงไฟฟานี้ที่กําลังผลิตพิกัดในหนวย บาท/ชั่วโมง<br />
คําตอบ 1 : 173,250<br />
คําตอบ 2 : 222,000<br />
คําตอบ 3 : 327,000<br />
คําตอบ 4 : 442,000<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
เครื่องกําเนิดไฟฟาขนาด 300 MW มีฟงกชันคาเชื้อเพลังเปน f= 42,000+800P+0.5P2 บาท/ชั่วโมง จงคํานวณคาเชื้อเพลิงของโรงไฟฟานี้ที่กําลังผลิตที่ 2/3 ของพิกัดในหนวย<br />
บาท/ชั่วโมง<br />
คําตอบ 1 : 173,250<br />
คําตอบ 2 : 222,000<br />
คําตอบ 3 : 327,000<br />
195 of 237
ขอที่ : 536<br />
ขอที่ : 537<br />
ขอที่ : 538<br />
ขอที่ : 539<br />
คําตอบ 4 : 442,000<br />
เครื่องกําเนิดไฟฟาขนาด 300 MW มีฟงกชันคาเชื้อเพลังเปน f= 42,000+800P+0.5P2 บาท/ชั่วโมงจงคํานวณคาเชื้อเพลิงของโรงไฟฟานี้ที่กําลังผลิตที่ 1/2 ของพิกัดในหนวย<br />
บาท/ชั่วโมง<br />
คําตอบ 1 : 173,250<br />
คําตอบ 2 : 222,000<br />
คําตอบ 3 : 327,000<br />
คําตอบ 4 : 442,000<br />
ขอความใดที่ไมถูกตองเกี่ยวกับสถานีไฟฟา<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
สถานีไฟฟาไมจําเปนตองมีอะเรสเตอรปองกันถามีเสาสูงปองกัน<br />
สถานีไฟฟาอาจไมมีการแปลงระดับแรงดันไฟฟา<br />
คําตอบ 3 : สถานีไฟฟาตองมีการปองกันฟาผาลงโดยตรงโดยติดตั้งเสาสูงปลายแหลมรอบสถานีไฟฟา<br />
คําตอบ 4 : สถานีไฟฟาตองติดตั้งระบบการตอลงดินเพื่อตอเขากับอุปกรณไฟฟาในสถานี<br />
สถานีไฟฟาภายในหรือสถานีไฟฟาที่ใชอุปกรณที่ใช SF6 มีขอใดที่ไมถูกตอง<br />
คําตอบ 1 : เนื่องจากเทคโนโลยีทันสมัยและดีขึ้นทําใหสถานีไฟฟาที่สรางใหมใช SF6 ทั้งหมด<br />
คําตอบ 2 : อุปกรณ SF6 จะมีขนาดเล็กลงกวาอุปกรณไฟฟาทั่วไป<br />
คําตอบ 3 : SF6 เปนกาซที่สามารถทนสนามไฟฟาไดสูงกวาอากาศไมนอยกวา 2.3 เทา<br />
คําตอบ 4 : อุปกรณ SF6 ตองมีระบบเช็คความดันและมีสัญญาณเตือนเมื่อความดันต่ํากวากําหนด<br />
ขอใดที่ไมใชประเภทหรือชนิดของการจัดบัส<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
Single bus<br />
Double bus, Double breaker<br />
Main <strong>and</strong> transfer bus<br />
Radial <strong>and</strong> loop tie<br />
196 of 237<br />
ขอที่ : 540
การตอลงดินหรือสวนประกอบของการตอหรือวิธีการในสถานีไฟฟายอยในขอใดที่ไมถูกตอง<br />
คําตอบ 1 : แรงดันเมช (Mesh voltage) มีคาสูงกวาหรือเทากับแรงดันสัมผัสเสมอ<br />
คําตอบ 2 : เพื่อใหอุปกรณไฟฟาตอลงดินทุกอุปกรณ<br />
คําตอบ 3 : โรยหินกรวดในสถานีไฟฟายอยีเพื่อใหดินใตหินกรวดชุมชื้นตลอดและเพื่อใหมีความตานทานสูง<br />
คําตอบ 4 : สถานีไฟฟายอยที่มีความตานทานจําเพาะของดินสูงไมปลอดภัยกวาสถานีไฟฟายอยที่มีความตานทานจําเพาะของดินต่ําเสมอ<br />
197 of 237<br />
ขอที่ : 541<br />
ขอที่ : 542<br />
ขอใดคืออุปกรณปองกันเมื่อตัวมันทํางานแลวสามารถนํากลับมาใชใหมได<br />
คําตอบ 1 : ดร็อปเอาทฟวส(Drop out fuse)<br />
คําตอบ 2 : แอรเซอรกิตเบรคเกอร(ACB)<br />
คําตอบ 3 : เบรคเกอรแบบน้ํามัน(OCB)<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขอใดตอไปนี้ไมใชหนาที่และจุดประสงคของ <strong>Substation</strong><br />
คําตอบ 1 : เปนจุดเปลี่ยนระดับแรงดันไฟฟา<br />
คําตอบ 2 : เปนจุดวัดปริมาณไฟฟา<br />
คําตอบ 3 : เปนจุดปรับระดับแรงดันในระบบใหคงที่<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขอที่ : 543<br />
Differential Relay ไมไดถูกใชสําหรับปองกันอุปกรณใด<br />
ขอที่ : 544<br />
คําตอบ 1 : เครื่องกําเนิดไฟฟา<br />
คําตอบ 2 : บัสบาร<br />
คําตอบ 3 : หมอแปลง<br />
คําตอบ 4 : สายสง<br />
ขอใดไมใชวิธีการตอลงดินในระบบไฟฟากําลัง<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
Soil earthing<br />
Reactance earthing<br />
Capacitance earthing
คําตอบ 4 :<br />
Earth fault neutralizer earthing<br />
ขอที่ : 545<br />
ขอใดไมใชรูปแบบสําหรับการจัดวางบัสบาร<br />
คําตอบ 1 : Ring bus<br />
คําตอบ 2 : Double bus<br />
คําตอบ 3 : Breaker <strong>and</strong> one half<br />
คําตอบ 4 : Control bus<br />
ขอที่ : 546<br />
ขอใดไมใชอุปกรณหลักของโรงไฟฟา<br />
คําตอบ 1 : Generator<br />
คําตอบ 2 : Transformer<br />
คําตอบ 3 : Circuit breaker<br />
คําตอบ 4 : Computer<br />
ขอที่ : 547<br />
ขอที่ : 548<br />
ขอใดไมใชขอหลักสําหรับการพิจารณาการติดตั้งหมอแปลงในโรงไฟฟา<br />
คําตอบ 1 : การตอขนานหมอแปลง<br />
คําตอบ 2 : วัสดุเคลือบผิวตัวถังหมอแปลง<br />
คําตอบ 3 : Harmonics<br />
คําตอบ 4 : Vector group<br />
ขอใดไมใชประโยชนของระบบตอลงดินในโรงไฟฟา<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ลดจํานวนสายตัวนําไฟฟา<br />
ลดคาใชจายในการบํารุงรักษา<br />
ชวยเสริมการปองกันฟาผา<br />
คําตอบ 4 : เพิ่มความปลอดภัย<br />
198 of 237<br />
ขอที่ : 549<br />
ขอใดไมใชวิธีการตอลงดินในโรงไฟฟา
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Solid earthing<br />
Reactance earthing<br />
Capacitance earthing<br />
Resistance earthing<br />
199 of 237<br />
ขอที่ : 550<br />
ขอใดไมใชชนิดของ circuit breaker<br />
คําตอบ 1 : Oil circuit breaker<br />
คําตอบ 2 : Air circuit breaker<br />
คําตอบ 3 : SF6 circuit breaker<br />
คําตอบ 4 : CO2 circuit breaker<br />
ขอที่ : 551<br />
ขอใดไมเกี่ยวของกับ Generator<br />
คําตอบ 1 : Exciter<br />
คําตอบ 2 : Current regulator<br />
คําตอบ 3 : Voltage regulator<br />
คําตอบ 4 : Synchronous compensator<br />
ขอที่ : 552<br />
ขอที่ : 553<br />
ขอใดตอไปนี้เปนหนาที่ของ Shunt reactor<br />
คําตอบ 1 : เปนตัวจาย VAR ใหกับระบบเนื่องจากแรงดันในระบบต่ําเกิน<br />
คําตอบ 2 : เปนตัวรับ VAR ในระบบ เนื่องจากแรงดันในระบบสูงเกิน<br />
คําตอบ 3 : เปนตัวจาย VA ใหกับระบบ เนื่องจากแรงดันในระบบสูงเกิน<br />
คําตอบ 4 : เปนตัวรับ VA ในระบบ เนื่องจากแรงดันในระบบต่ําเกิน<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอใดตอไปนี้ไมใชหนาที่ของ Shunt capacitor<br />
คําตอบ 1 : ชวยเพิ่มระดับแรงดันไฟฟา<br />
คําตอบ 2 : ชวยลด Loss ในสายสง และเพิ่ม PF ของเครื่องกําเนิดไฟฟา<br />
คําตอบ 3 : เปนอุปกรณรับ VAR ของระบบ<br />
คําตอบ 4 : ชวยใหหมอแปลงถึง Full load ชาลง
ขอที่ : 554<br />
ขอที่ : 555<br />
ขอที่ : 556<br />
ขอที่ : 557<br />
หนาที่หลักของสถานีไฟฟายอยไดแก<br />
คําตอบ 1 :<br />
ตัดตอนระบบไฟฟา<br />
คําตอบ 2 : ปรับระดับแรงดันไฟฟาใหคงที่<br />
คําตอบ 3 : เปลี่ยนระดับแรงดันไฟฟา<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขอดีของการสรางสถานีไฟฟายอยแบบ Gas insulated substation (GIS) ไดแก<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
การขยายสถานีไฟฟายอยทําไดงาย<br />
ราคาคากอสรางถูกวาแบบ Air insulated substation (AIS)<br />
การบํารุงรักษานอยกวาแบบ Air insulated substation (AIS)<br />
ถูกทุกขอ<br />
ขอดีของการสรางสถานีไฟฟายอยแบบ Air insulated substation (AIS) ไดแก<br />
คําตอบ 1 : มีความปลอดภัยในการใชงานสูงกวาแบบ Gas insulated <strong>Substation</strong> (GIS)<br />
คําตอบ 2 : มีการปองกันมลภาวะจากฝุนละอองและสารแปลกปลอมอื่นๆไดดีกวาแบบ Gas insulated substation (GIS)<br />
คําตอบ 3 : การกอสรางสถานีไฟฟายอยทําไดงายกวาแบบ Gas insulated substation (GIS)<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
แรงดันยางกาว (Step voltage) ในสถานีไฟฟาคือ<br />
คําตอบ 1 : ความตางศักยที่รูสึกไดโดยบุคคลไมตองสัมผัสกับวัตถุขณะยืนเทาหางกันประมาณ 1 เมตร<br />
คําตอบ 2 : ความตางศักยระหวางพื้นดินกับจุดที่บุคคลสัมผัสโครงสรางที่ตอลงดิน<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 3 : แรงดันสูงสุดที่ตาขายลงดินของสถานีไฟฟามีจุดตอลงดินอื่น<br />
คําตอบ 4 : แรงดันระหวางวัตถุที่เปนโลหะซึ่งเกิดจากการสัมผัสวัตถุทั้งสอง<br />
200 of 237<br />
ขอที่ : 558<br />
หมอแปลงจําหนายมักจะถูกติดตั้งอยูที่ใด<br />
คําตอบ 1 : ติดกับเครื่องกําเนิดไฟฟา
คําตอบ 2 :<br />
ในสถานีจายไฟฟายอย<br />
คําตอบ 3 : กอนเขาสูอาคารผูใชไฟฟา<br />
คําตอบ 4 : บริเวณลานไกไฟฟา<br />
201 of 237<br />
ขอที่ : 559<br />
ขอที่ : 560<br />
ขอที่ : 561<br />
ขอที่ : 562<br />
การตอรีแอคเตอรไวในระบบการสงจายไฟฟามีประโยชนอยางไร<br />
คําตอบ 1 : เพิ่มประสิทธิภาพของระบบ<br />
คําตอบ 2 : ปรับคาเพาเวอรแฟคเตอร<br />
คําตอบ 3 : เพื่อความสมดุลของระบบ<br />
คําตอบ 4 : เปนตัวจํากัดกระแสที่จายจากเครื่องกําเนิดไฟฟา<br />
โดยปกติถามีความผิดปกติเกิดขึ้นที่ตัวรีเลย ที่แผงควบคุมจะมีสัญญาณเตือนอยางไร<br />
คําตอบ 1 :<br />
สัญญาณไฟจะกระพริบ<br />
คําตอบ 2 : เสียงสัญญาณจะดังขึ้น<br />
คําตอบ 3 : เสียงระเบิดของรีเลยจะไดยินชัดเจน<br />
คําตอบ 4 : ไมมีการเตือน เนื่องจากไมสามารถรูไดวารีเลยตัวไหนทํางานผิดปกติ<br />
ขอใดไมใชคุณสมบัติที่ดีของระบบปองกัน<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
ความถูกตองในการทํางาน<br />
ประสิทธิภาพ<br />
ความรวดเร็ว<br />
คําตอบ 4 : ความเชื่อถือได<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอใดตอไปนี้ไมถูกตองเกี่ยวกับระบบปองกันของสายสง เมื่อมีความผิดพลาดหรือเหตุขัดของเกิดขึ้น<br />
คําตอบ 1 : รีเลยปองกันสั่งใหเบรกเกอรตัดวงจรโดยอัตโนมัติ<br />
คําตอบ 2 : เมื่อมีการตัดวงจรสายสงครั้งแรก สายสงจะถูกเชื่อมตออีกครั้งทันที<br />
คําตอบ 3 : ถายังมีความผิดพลาดอยูในระบบ ก็จะตัดวงจรอีกครั้ง<br />
คําตอบ 4 : เมื่อมีการตัดวงจรสายสงครั้งตอมา สายสงก็จะถูกเชื่อมตออยูเรื่อยๆ
ขอที่ : 563<br />
ขอที่ : 564<br />
ขอที่ : 565<br />
ขอที่ : 566<br />
ขอที่ : 567<br />
ขอใดตอไปนี้ถูกตอง<br />
คําตอบ 1 : การจัดบัสแบบบัสคูเบรกเกอรคูจะใชเบรกเกอรทั้งสิ้น 2 ตัวตอ 1 วงจร<br />
คําตอบ 2 : การจัดบัสแบบเบรกเกอรครึ่งจะใชเบรกเกอรทั้งสิ้น 3 ตัวตอ 2 วงจร<br />
คําตอบ 3 : การจัดบัสแบบบัสประธานคูและบัสโอนจะใชเบรกเกอรทั้งสิ้น 1 ตัวตอ 1 วงจร รวมกับเบรกเกอรเชื่อมโยงอีก 2 ตัว<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
การไฟฟาสวนภูมิภาคใชระดับแรงดันจําหนายเทาใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
220 V<br />
2.2 kV<br />
22 kV<br />
24 kV<br />
การปองกันชนิดใดพบไดเฉพาะในการปองกันเครื่องกําเนิดไฟฟาขนาดใหญ<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ขอใดตอไปนี้ถูกตอง<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
over-current protection<br />
over-voltage protection<br />
out-of-step protection<br />
differential protection<br />
51 คือ device number ของ AC directional over-current relay<br />
52 คือ device number ของ AC time over-current relay<br />
67 คือ device number ของ distance relay<br />
87 คือ device number ของ differential protective relay<br />
การปองกัน Bus bar ใช relay อะไร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
Overcurrent relay<br />
Differential relay<br />
202 of 237
คําตอบ 3 : Earth fault relay<br />
คําตอบ 4 : ถูกทั้ง 1 และ 3<br />
203 of 237<br />
ขอที่ : 568<br />
ขอที่ : 569<br />
ขอที่ : 570<br />
ขอที่ : 571<br />
การปองกัน Bus bar ใช relay อะไร<br />
คําตอบ 1 : overcurrent relay<br />
คําตอบ 2 : Differential relay<br />
คําตอบ 3 : Earth fault relay<br />
คําตอบ 4 : ถูกทั้ง 2 และ 3<br />
ขอใดมิใชหนาที่ของสถานีไฟฟายอย<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
ปรับระดับและควบคุมแรงดันไฟฟาในระบบจําหนายไฟฟา<br />
ทําการตัดตอวงจรของระบบไฟฟา<br />
วัดปริมาณความตองการกําลังไฟฟาและพลังงานไฟฟา<br />
คําตอบ 4 : เปนที่ตั้งของเครื่องกําเนิดไฟฟา<br />
ขณะที่กําลังการผลิตไฟฟาและโหลดสมดุล หากในชวงวินาทีตอมามีโหลดเปนปริมาณมากเพิ่มขึ้นอยางฉับพลัน ความถี่ของระบบไฟฟาในชวงเวลานั้นควรเปนเชนไร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คงเดิม<br />
คําตอบ 2 : เพิ่มขึ้น<br />
คําตอบ 3 : ลดลง<br />
คําตอบ 4 : เพิ่มขึ้นกอนแลวจึงลดลง<br />
อุปกรณใดไมไดติดตั้งอยูภายในสถานีไฟฟายอย (<strong>Substation</strong>)<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
<strong>Power</strong> transformer<br />
Primary feeder<br />
Lightning arrester<br />
Current transformer<br />
ขอที่ : 572
Generator ที่ใชในโรงไฟฟาเปนแบบใดในปจจุบัน<br />
คําตอบ 1 : D.C generator<br />
คําตอบ 2 : Synchronous generator<br />
คําตอบ 3 : Induction generator<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
204 of 237<br />
ขอที่ : 573<br />
การพิจารณา Short circuit current ใน generator ควรจะดูจากคา Reactance ของ generator คาใด<br />
คําตอบ 1 : Xd<br />
คําตอบ 2 : X’d<br />
คําตอบ 3 : X”d<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขอที่ : 574<br />
คา Xd และ Xq ใน Synchronous generator มีคาตางกันเทาใด<br />
คําตอบ 1 : Xq = 0.4 – 0.5 Xd<br />
คําตอบ 2 : Xq = 0.6 – 0.7 Xd<br />
คําตอบ 3 : Xq = 0.7 – 0.8 Xd<br />
คําตอบ 4 : Xq = Xd<br />
ขอที่ : 575<br />
คา Reactance ของ generator คาใดที่ใชสําหรับคํานวณหากระแสลัดวงจรแบบไมสมมาตร<br />
ขอที่ : 576<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Xd, Xq<br />
X”d, X”d<br />
X2, X0<br />
X1, X5<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ระบบตอลงดินในระบบไฟฟากําลังแบงออกเปนกี่แบบ<br />
คําตอบ 1 : 1 แบบ<br />
คําตอบ 2 : 2 แบบ<br />
คําตอบ 3 : 3 แบบ
คําตอบ 4 :<br />
4 แบบ<br />
ขอที่ : 577<br />
ขอที่ : 578<br />
จุดตอลงดินในระบบไฟฟากําลังสามารถตอลงดินไดที่ใดบาง<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Generator<br />
Transformer<br />
Bus bar<br />
ถูกทุกขอ<br />
หมอแปลงที่เปน <strong>Power</strong> transformer ที่ใชใน <strong>Substation</strong> ควรมีขนาดเทาใด<br />
คําตอบ 1 : นอยกวา 5 MW<br />
คําตอบ 2 : มากกวา 5 MW<br />
คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />
คําตอบ 4 : คาเทาใดก็ได<br />
ขอที่ : 579<br />
Vector group ของหมอแปลงแบงเปนกี่ Group<br />
ขอที่ : 580<br />
คําตอบ 1 : 2<br />
คําตอบ 2 : 3<br />
คําตอบ 3 : 4<br />
คําตอบ 4 : 5<br />
หมอแปลงที่ใชใน Switch yard ของโรงไฟฟาควรจะเปน Group ใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
Group No.1<br />
Group No.2<br />
Group No.3<br />
Group ใดก็ได<br />
205 of 237<br />
ขอที่ : 581<br />
หมอแปลงที่ใชใน <strong>Substation</strong> ควรจะเปน Group ใด
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Group No.1<br />
Group No.2<br />
Group No.3<br />
Group ใดก็ได<br />
206 of 237<br />
ขอที่ : 582<br />
หมอแปลงที่ใชใน Distribution substation ควรเปน Group ใด<br />
คําตอบ 1 : Group No.3<br />
คําตอบ 2 : Group No.4<br />
คําตอบ 3 : Group No.5<br />
คําตอบ 4 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />
ขอที่ : 583<br />
Vector group ของหมอแปลงระบุวาเปน Dy1 หมายถึงขอใดตอไปนี้<br />
ขอที่ : 584<br />
ขอที่ : 585<br />
คําตอบ 1 : ขดลวด Primary ตอ แบบ Delta<br />
คําตอบ 2 : ขดลวด Secondary ตอแบบ Star<br />
คําตอบ 3 : มุมของแรงดันทางดาน Primary ตางกับ Secondary เทากับ – 30 องศา<br />
คําตอบ 4 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />
หมอแปลงที่ใชในโรงไฟฟาและสถานีไฟฟายอยจะเปนแบบ 3 ขดลวด ขด Terming มีไวเพื่ออะไร<br />
คําตอบ 1 : จายกําลังไฟฟาใหระบบไฟฟาในโรงไฟฟา<br />
คําตอบ 2 : จายกําลังไฟฟาใหระบบไฟฟาในสถานีไฟฟายอย<br />
คําตอบ 3 : ไมมีประโยชนอะไร<br />
คําตอบ 4 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />
ในการขนานหมอแปลงที่เปนแบบ 2 ขดลวด หมอแปลงจะตองมีคุณสมบัติใดบางที่สําคัญที่สุด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
Vector group เดียวกัน<br />
MVA หรือ kVA เทากัน<br />
Transformation ratio เทากัน<br />
ถูกทุกขอ
ขอที่ : 586<br />
ขอที่ : 587<br />
ในการเลือกหมอแปลงมาใชในระบบไฟฟากําลังควรจะเลือกขอใดประหยัดพลังงาน<br />
คําตอบ 1 : Copper loss ต่ําสุด<br />
คําตอบ 2 : Core loss ต่ําสุด<br />
คําตอบ 3 : กําลังไฟฟาต่ําสุด<br />
คําตอบ 4 : กําลังไฟฟาสูงๆ<br />
ในการออกแบบ Circuit breaker ควรจะตองตัดตอวงจรในชวงใด<br />
คําตอบ 1 : Wave from ของกระแสเปน 0<br />
คําตอบ 2 : Wave from ของแรงดันเปน 0<br />
คําตอบ 3 : ชวงใดก็ได<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขอที่ : 588<br />
Circuit breaker ที่ควรจะเลือกใชใน <strong>Substation</strong> แรงดัน 500 kV ควรจะเปนแบบใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Air circuit breaker<br />
Oil circuit breaker<br />
Vacuum circuit breaker<br />
SF6<br />
ขอที่ : 589<br />
Oil circuit breaker จะตัดวงจรในกี่ Cycle<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
3 Cycle<br />
5 cycle<br />
8 Cycle<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ถูกทุกขอ<br />
207 of 237<br />
ขอที่ : 590<br />
เวลาในการตัดวงจรของ Circuit breaker 3 cycle, 50 Hz มีคาเทาใด<br />
คําตอบ 1 : 0.06 sec
คําตอบ 2 : 60 msec<br />
คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />
คําตอบ 4 : กี่ sec ก็ได<br />
208 of 237<br />
ขอที่ : 591<br />
ขอที่ : 592<br />
ในการจัด Bus bar ใน <strong>Substation</strong> แบบใดที่มีผลใหมีโอกาสเกิดไฟดับนอยที่สุด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Single bus bar<br />
Double bus bar<br />
Breaker <strong>and</strong> a half<br />
ถูกทุกขอ<br />
การตอ Reactor สามารถตอที่ใดไดบาง<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Generator<br />
Feeder<br />
Bus bar<br />
ถูกทุกขอ<br />
ขอที่ : 593<br />
Reactor ที่ตอในระบบไฟฟากําลังทําหนาที่อะไร<br />
ขอที่ : 594<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
ลดแรงดัน<br />
จํากัดกระแสลัดวงจรในระบบ<br />
คําตอบ 3 : เพิ่มกําลังไฟฟาในระบบ<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
การหาขนาดของ Reactor ที่จะติดตั้งในระบบไฟฟากําลังหาไดจากสมการใด
คําตอบ 1 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 2 :<br />
209 of 237
210 of 237<br />
คําตอบ 3 : X = เทาใดก็ได<br />
คําตอบ 4 : X = 0<br />
ขอที่ : 595<br />
การควบคุมแรงดันที่ Bus ของโรงไฟฟาใหคงที่ ควบคุมไดจากขอใด<br />
คําตอบ 1 : ระบบExcitation ของ Generator<br />
คําตอบ 2 : GOV control<br />
คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />
คําตอบ 4 : Voltage control<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอที่ : 596<br />
การควบคุมความถี่ที่ Bus ของโรงไฟฟาใหคงที่ ควบคุมไดจากขอใด
คําตอบ 1 : ระบบ Excitation ของ Generator<br />
คําตอบ 2 : GOV control<br />
คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />
คําตอบ 4 : Voltage control<br />
211 of 237<br />
ขอที่ : 597<br />
สิ่งใดตอไปนี้ที่ไมใชระบบ Excitation control ของ Generator<br />
คําตอบ 1 : GOV control<br />
คําตอบ 2 : AVR control<br />
คําตอบ 3 : Pulse type voltage regulator<br />
คําตอบ 4 : Servo type voltage regulator<br />
ขอที่ : 598<br />
เมื่อสรางโรงไฟฟาเสร็จแลว กอนจายไฟฟาเขาระบบของประเทศจะตองตรวจสอบสวนใดของ Generator บาง<br />
คําตอบ 1 : ทดสอบฉนวน<br />
คําตอบ 2 : ทดสอบระบบปองกัน<br />
คําตอบ 3 : ทดสอบระบบ Synchronize<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขอที่ : 599<br />
ขอที่ : 600<br />
การควบคุมเสถียรภาพของ Generator ภานในโรงไฟฟาพิจารณาไดจากสิ่งใดบาง<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
<strong>Power</strong> angle<br />
Swing equation<br />
เวลาในการตัดวงจรของ Circuit breaker<br />
ถูกทุกขอ<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
การควบคุมแรงดันในสายสงใหคงที่ ควบคุมไดจากสิ่งใดตอไปนี้<br />
คําตอบ 1 : Tap change ของหมอแปลง<br />
คําตอบ 2 : Generator<br />
คําตอบ 3 : Reactor<br />
คําตอบ 4 : ระบบตอลงดิน
ขอที่ : 601<br />
ขอที่ : 602<br />
ขอที่ : 603<br />
ขอที่ : 604<br />
การควบคุมการเชื่อมตอโรงไฟฟาตางๆใหจายกําลังผลิตผานสายสงไฟฟา ผูใชไฟสามารถควบคุมไดที่<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Dispatching center<br />
Generator center<br />
<strong>Substation</strong> center<br />
ไมมีขอใดถูก<br />
ในการควบคุมการเชื่อตอโรงไฟฟา ในโรงไฟฟาจะสงขอมูลไปยังศูนยควบคุมดวยระบบอะไร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Voltage control<br />
Frequency control<br />
Telemetering<br />
ถูกทุกขอ<br />
ในการควบคุมกําลังไฟฟาใหสงไฟฟ ผูใชไดสูงสุด ในกรณีที่สายสงยาวมากๆ ควรจะควบคุมจากสิ่งใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
หมอแปลง<br />
คําตอบ 2 : ตอ C ที่ปลายทาง<br />
คําตอบ 3 : Static VAR ที่กลางสายสง<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ระบบปองกันใน Switch yard ของโรงไฟฟาที่Zone ในการปองกันกี่ Zone<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
3 Zone<br />
4 Zone<br />
5 Zone<br />
6 Zone<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
212 of 237<br />
ขอที่ : 605<br />
Relay ใดตอไปนี้ที่ไมใช Relay ที่ใชในการปองกัน Generator ในโรงไฟฟา<br />
คําตอบ 1 :<br />
Differential relay
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Frequency relay<br />
Over/under voltage relay<br />
Carrier protection relay<br />
213 of 237<br />
ขอที่ : 606<br />
Relay ใดตอไปนี้ ที่ใชปองกันหมอแปลง<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Differential relay<br />
Distance relay<br />
Frequency relay<br />
Phase frailer relay<br />
ขอที่ : 607<br />
Relay ใดตอไปนี้ใชปองกัน Bus bar<br />
คําตอบ 1 : Differential relay<br />
คําตอบ 2 : Earth fault relay<br />
คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขอที่ : 608<br />
Buchholz relay ใชปองกันอะไรในหมอแปลง<br />
ขอที่ : 609<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Pressure<br />
Temperature<br />
Voltage<br />
Current<br />
ถา Field coil ใน Rotor ของ Synchronous generator ขาดจะเกิดปรากฎกาณใดตอไปนี้<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
Generator ไมสามารถจายกําลังผลิตได<br />
Generator เกิดการแกวง<br />
Primover หยุดหมุน<br />
ถูกทุกขอ
ขอที่ : 610<br />
ขอที่ : 611<br />
ขอที่ : 612<br />
ขอที่ : 613<br />
ถาเกิด Short turnในขดลวดหมอแปลงที่เฟส A สวนเฟส B, C ปกติ แลวหมอแปลงตอแบบ Star ลง Ground จะเกิดปรากฏการณใด<br />
คําตอบ 1 : แรงดันในเฟส A, B, C ไมเทากัน<br />
คําตอบ 2 : มีกระแส In มากผิดปรกติ<br />
คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ถาเชื้อเพลิงที่ใชอยูคือ ถานหิน, น้ํามัน, Gas , สารกัมมันตภาพรังสี หมดจากโลกนี้ โรงไฟฟาในอนคตจะใชเชื้อเพลิงใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
Hydrogen<br />
Oxygen<br />
คําตอบ 3 : Gas เฉื่อย<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ในการวัดคาความตานทานของดิน (Soil resistivity) ดวยวิธี Wenner method โดยจะทําการปก Ground refferent จํานวน 4 แทงลงในดิน มีระยะหางระหวางแทง เทากับ 2 เมตร<br />
และปกลึกลงดินเทากับ 10 เซนติเมตร และอานคาจากเครื่องมือวัดไดคาความตานทานเทากับ 15 ohm.m อยากทราบวาคา Soil resistivity มีคาเทากับเทาไหร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
188.5 ohm.m<br />
30 ohm.m<br />
600 ohm.m<br />
47.124 ohm.m<br />
ขอใดตอไปนี้เปนปจจัยในการออกแบบสถานีไฟฟา<br />
คําตอบ 1 : ความนาเชื่อถือ และการจัดเตรียมเผื่อการขยายระบบ<br />
คําตอบ 2 : ความปลอดภัย<br />
คําตอบ 3 : ความงายในการใชงาน และ คาใชจายในการลงทุน<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
214 of 237<br />
ขอที่ : 614<br />
ในการออกแบบระยะนอยที่สุดของสวนที่มีแรงดันไฟฟา(Hot part) จะตองทําการออกแบบสวนใด<br />
คําตอบ 1 : สวนที่เปน Hot part กับระยะพื้นดิน(Groung level)<br />
คําตอบ 2 : สวนที่เปน Hot part กับระยะพื้นถนน(Road level)
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ขอ ก. และ ข. ถูก<br />
ไมมีขอใดถูก<br />
215 of 237<br />
ขอที่ : 615<br />
ขอที่ : 616<br />
ในกรณีที่เกิดกระแสลัดวงจรและไหลผานรางกาย ขอใดตอไปนี้ทําใหเกิดอันตรายตอรางกายมากที่สุด<br />
คําตอบ 1 : กระแสไหลผานไหลผานรางกายมาก แตไหลเปนระยะเวลาสั้นๆ<br />
คําตอบ 2 : กระแสไหลผานรางกายนอย แตเปนระยะเวลานาน<br />
คําตอบ 3 : กระแสไหลผานรางกายนอย เปนเวลาสั้น<br />
คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />
ในการออกแบบสถานีไฟฟาแหงหนึ่งตองการวาง Current transformer เพื่อใชวัดคากระแสไฟฟา ของระดับแรงดัน 230 kV อยากทราบวาระยะหางที่ต่ําที่สุดของจุดที่เปน Hot part<br />
กับ Hot part จะมีระยะเทาใดตามมาตรฐาน NEMA st<strong>and</strong>ard<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
226.06 cm<br />
180.34 cm<br />
210 cm<br />
134.62 cm<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอที่ : 617<br />
ในสถานีไฟฟาแรงสูงพิกัดแรงดัน 230 kVแหงหนึ่ง ขนาด 100 x 100 เมตร และมี <strong>Power</strong> transformer ขนาด 25 MVA ซึ่งมีความจําเปนที่จะตองนํารถเครนเขาซอมบํารุงตัวหมอ<br />
แปลงนี้ โดยความสูงของรถเครนมีขนาด 7.5 เมตร อยากทราบวาระยะความสูง Hot part ของเสาตน Deat end จะตองมีความสูงเทากับเทาไหร
216 of 237<br />
ขอที่ : 618<br />
คําตอบ 1 : 457.2 m<br />
คําตอบ 2 : 914.4 m<br />
คําตอบ 3 : 12.072 m<br />
คําตอบ 4 : 16.644 m<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ในสถานีไฟฟาแรงสูงพิกัดแรงดัน 230 kVแหงหนึ่ง ขนาด 100 x 100 เมตร และมี <strong>Power</strong> transformer ขนาด 25 MVA โดยตอกับ Bus bar อลูมิเนียม ขนาด 10 นิ้ว ระยะหาง<br />
ระหวาง Bus bar อลูมิเนียมเทากับ 226.06 cm อยากทราบวา Bus bar อลูมิเนียมนี้จะตองสูงเทาไหร ซึ่งจะตองใหผูปฏิบัติงานสูง 160 cm และยืดแขนจะสามารถวัดสวนปลายแขน<br />
ถึงเทาได 195 cm เขาไปปฏิบัติงานดานลาง Bus bar ในกรณีจายไฟฟา
217 of 237<br />
ขอที่ : 619<br />
คําตอบ 1 : 457.2 cm<br />
คําตอบ 2 : 617.2 cm<br />
คําตอบ 3 : 652.2 cm<br />
คําตอบ 4 : 1371.6 cm<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
จากรูปดานลางนี้ เปนการจัดวางอุปกรณของสถานีไฟฟาระดับแรงดัน 115 kV ใหคํานวณหาระยะ a จะมีระยะหางต่ําสุดเทาไหรตามมาตรฐาน IEC st<strong>and</strong>ard.
218 of 237<br />
ขอที่ : 620<br />
คําตอบ 1 : 110 cm<br />
คําตอบ 2 : 575 cm<br />
คําตอบ 3 : 650 cm<br />
คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอใดตอไปนี้ไมใชหลักการวัดคา Soil resistivity<br />
คําตอบ 1 : 2 point method<br />
คําตอบ 2 : 3 point method<br />
คําตอบ 3 : 4 point method<br />
คําตอบ 4 : 5 point method
ขอที่ : 621<br />
ขอที่ : 622<br />
ขอที่ : 623<br />
ขอที่ : 624<br />
ในการวัดคา Soil resistivity ของสถานีไฟฟาแหงหนึ่ง ทําการวัดดวยวิธี 4 point method โดยวางระยะหางของ Electrode จํานวน 4 แทงวางหางเทาๆ กันคือระยะ 5 เมตร ตาม<br />
มาตรฐาน IEEE 80-2000 อยากทราบวาจะตองฝงแทง Electrode นี้ลึกลงในดินเทาไหร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
5 m<br />
1 m<br />
0.25 m<br />
ไมตองคํานึงถึงความลึกในการฝงแทง Electrode<br />
ในการวัดคา Soil resistivity ดวยวิธี 4 Point method จะใชแทง Electrode จํานวน 4 แทงฝงในดิน ขอใดตอไปนี้กลาวถูกตอง<br />
คําตอบ 1 : แทง Electrode คูนอกเปน Voltage และคูในเปน Current<br />
คําตอบ 2 : แทง Electrode คูนอกเปน Current และคูในเปน Voltage<br />
คําตอบ 3 : แทง Electrode คูทางดานซายเปน Voltage และคูทางดานขวาเปน Current<br />
คําตอบ 4 : แทง Electrode คูทางดานซายเปน Current และคูทางดานขวาเปน Voltage<br />
ขอใดตอไปนี้ไมใชผลของการใชหินโรยหนาผิวดินในสถานีไฟฟา<br />
คําตอบ 1 : เพิ่มคาความตานทานของผิวดิน<br />
คําตอบ 2 : เพื่อลดกระแสไหลผานรางกาย<br />
คําตอบ 3 : เพื่อใหกระแสไหลผานรางกายไดเร็วๆ<br />
คําตอบ 4 : ขอ ก. และ ข. ถูก<br />
ในการออกแบบระบบรากสายดินของสถานีไฟฟาจะตองทําการคํานวณหาคาแรงดันที่ตกคลอมรางกาย เมื่อมีกระสลัดวงจรเทากับ 31.5 kA, คาความตานทานของรางกายเทากับ<br />
1,000 ohm และคาความตานทานที่เทา 2 ขางเทากับ 800 ohm ใหทําการคํานวณหาคาแรงดันที่ตกคลอมรางกายจะเทากับเทาไหร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
31,500 kV<br />
25,200 kV<br />
56,700 kV<br />
39.375 kV<br />
219 of 237<br />
ขอที่ : 625<br />
ขอใดตอไปนี้ไมใชวิธีการปองกันฟาในสถานีไฟฟา
คําตอบ 1 : การปองกันโดยใช Earth fault relay<br />
คําตอบ 2 : การปองกันโดยใชเสาสอฟา (High mast air terminal)<br />
คําตอบ 3 : การปองกันโดยใชสายดินลอฟาวางเหนือระบบ (Overhead ground wire)<br />
คําตอบ 4 : การปองกันโดยใชทั้งเสาและสายดินลอฟาวางเหนือระบบ<br />
220 of 237<br />
ขอที่ : 626<br />
ระบบปองกันฟาผาของสถานีไฟฟาของการไฟฟาฝายผลิตแหงประเทศไทยใชขนาดสายที่มีเสนผานศูนยกลางเทากับ 3/8 นิ้ว 7 St<strong>and</strong> galvanized steel , ความสูงเฉลี่ยของตัวนํา<br />
ปองกันที่จะปองกันเทากับ 30 เมตร ใหคํานวณหาคา Surge impedance ในขณะที่เกิดฟาผาลงบนระบบสายสง<br />
คําตอบ 1 : 363.36<br />
คําตอบ 2 : 346.1<br />
คําตอบ 3 : 566.4796<br />
คําตอบ 4 : 128.91<br />
ขอที่ : 627<br />
. ในสายสงไฟฟาของการไฟฟาแหงหนึ่งที่สงจายจากสถานีไฟฟา A ไปยังสถานีไฟฟา B และเกิดฟาผาที่ตําแหนงหางจากสถานีไฟฟา A ออกไป 3 km มีคา Surge impedance<br />
เทากับ 235 และคา BIL เทากับ 35 kV ใหทําการคํานวณหาคา กระแสฟาผาที่เกิดขึ้นจะเทากับเทาไหร<br />
ขอที่ : 628<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
35 kA<br />
0.149 kA<br />
105 kA<br />
0.298 kA<br />
ในสถานีไฟฟามีการติดตั้ง <strong>Power</strong> transformer ขนาด 10 MVA แตยังไมไดใชงาน เกิดฟาผาที่บริเวณขั้วดานแรงสูงของหมอแปลงตัวนี้ โดยที่หมอแปลงตัวนี้มีคา BIL เทากับ 70<br />
kV และมีคา Surge impedance เทากับ 445 อยากทราบวากระแสฟาผามีคาเทากับเทาไหร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
0.157 kA<br />
142.857 kA<br />
22.471 kA<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ไมมีขอใดถูก<br />
ขอที่ : 629<br />
ในสถานีไฟฟามีการติดตั้ง <strong>Power</strong> transformer ขนาด 10 MVA แตยังไมไดใชงาน เกิดฟาผาที่บริเวณขั้วดานแรงสูงของหมอแปลงตัวนี้ โดยที่หมอแปลงตัวนี้มีคา BIL เทากับ 70<br />
kV และมีคา Surge impedance เทากับ 445 อยากทราบวากระแสฟาผาวิกฤติมีคาเทากับเทาไหร เมื่อกระแสฟาผาวิกฤติเทากับ 1.1 ของกระแสฟาผา
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
0.1727 kA<br />
157.1427 kA<br />
0.1727 kA<br />
ไมมีขอใดถูก<br />
221 of 237<br />
ขอที่ : 630<br />
ขอใดตอไปนี้ไมใชปจจัยของคากระแสที่มีผลทําใหเกิดอันตรายตอรางกาย<br />
คําตอบ 1 : เสนทางที่กระแสไหลผานรางกายจากทางเขาถึงทางออก<br />
คําตอบ 2 : ปริมาณกระแสที่ไหลผานรางกาย<br />
คําตอบ 3 : ระยะเวลาที่กระแสไหลผานรางกาย<br />
คําตอบ 4 : ภูมิคุมกันภายในของรางกาย<br />
ขอที่ : 631<br />
จากรูปวงจรดานลางใหทําการคํานวณหา ZEQ โดยที่วงจรนี้ใชกับแรงดัน 50 โวลต ที่ความถี่ 50 Hz<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :
222 of 237<br />
ขอที่ : 632<br />
จากรูปวงจรดานลางใหทําการคํานวณหากระแสในวงจร โดยที่วงจรนี้ใชกับแรงดัน 50 โวลต มุม 30 องศา ที่ความถี่ 50 Hz<br />
ขอที่ : 633<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
จากรูปวงจรดานลางใหทําการคํานวณหา <strong>Power</strong> factor โดยที่วงจรนี้ใชกับแรงดัน 50 โวลต ที่ความถี่ 50 Hz
223 of 237<br />
ขอที่ : 634<br />
คําตอบ 1 : 0.457<br />
คําตอบ 2 : 0.895<br />
คําตอบ 3 : 0.567<br />
คําตอบ 4 : 0.399<br />
จากรูปวงจรดานลางใหทําการคํานวณหา <strong>Power</strong> โดยที่วงจรนี้ใชกับแรงดัน 50 โวลต ที่ความถี่ 50 Hz<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
15.9201 W<br />
20.56 W<br />
25.74 W<br />
35.21 W<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอที่ : 635<br />
วงจรสมมูลยของหมอแปลงไฟฟาในอุดมคติดังรูปใหคํานวณหา Z ทางดาน Primary
224 of 237<br />
คําตอบ 1 : 18 – j4<br />
คําตอบ 2 : 2 + j1<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 : 30 – j4<br />
ขอที่ : 636<br />
วงจรสมมูลยของหมอแปลงไฟฟาในอุดมคติดังรูปใหคํานวณหากระแส I1<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :<br />
225 of 237<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ขอที่ : 637<br />
วงจรสมมูลยของหมอแปลงไฟฟาในอุดมคติดังรูปใหคํานวณหาแรงดันทางดาน Primary<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :<br />
226 of 237<br />
ขอที่ : 638<br />
วงจรสมมูลยของหมอแปลงไฟฟาในอุดมคติดังรูปใหคํานวณหากระแส I2<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอที่ : 639<br />
วงจรสมมูลยของหมอแปลงไฟฟาในอุดมคติดังรูปใหคํานวณหาแรงดันทางดาน Secondary
227 of 237<br />
ขอที่ : 640<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
จากมาตรฐาน ANSI C37.04 กําหนดคา IC ของ Circuit breaker แบบใชฉนวนเปน SF6 เทากับ 37 kA ที่แรงดัน 72.5 kV โดยมีคา Voltage range factor k เทากับ 1.1 อยาก<br />
ทราบวาถาจะนํา Circuit breaker นี้มาใชที่ระดับแรงดัน 69 kV คา IC จะเปนเทาไหร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
37 kA<br />
38.9 kA<br />
35.21 kA<br />
40.7 kA<br />
ขอที่ : 641
ขอที่ : 642<br />
ขอที่ : 643<br />
ขอที่ : 644<br />
จากมาตรฐาน ANSI C37.04 กําหนดคา IC ของ Circuit breaker แบบใชฉนวนเปน SF6 เทากับ 37 kA ที่แรงดัน 72.5 kV โดยมีคา Voltage range factor k เทากับ 1.1 อยาก<br />
ทราบวา Maximum symmetrical interrupting current เทากับเทาไหร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
37 kA<br />
38.9 kA<br />
35.21 kA<br />
40.7 kA<br />
จากมาตรฐาน ANSI C37.04 กําหนดคา IC ของ Circuit breaker แบบใชฉนวนเปน SF6 เทากับ 37 kA ที่แรงดัน 72.5 kV โดยมีคา Voltage range factor k เทากับ 1.1 ให<br />
คํานวณหาวาแรงดันต่ําสุดที่จะสามารถนํา Circuit breaker ตัวนี้นําไปใชไดที่แรงดันเทาไหร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
79.75 kV<br />
72.5 kV<br />
65.9 kV<br />
ไมมีขอใดถูก<br />
จากมาตรฐาน ANSI C37.04 กําหนดคา IC ของ Circuit breaker แบบใชฉนวนเปน SF6 เทากับ 37 kA ที่แรงดัน 72.5 kV โดยมีคา Voltage range factor k เทากับ 1.1 ให<br />
คํานวณหา Close <strong>and</strong> latch (C&L) ที่ระดับแรงดัน 69 kV เมื่อ C&L = 1.6 (k) (rate short circuit current<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
65.1 kA<br />
68.464 kA<br />
82.5 kA<br />
90 kA<br />
ขอใดตอไปนี้เปนการระบายความรอนดวย OA ของ Transformer<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Liquid immersed, self cooled<br />
Liquid immersed<br />
Liquid immersed, Forced air cooled<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ไมมีขอใดถูก<br />
228 of 237<br />
ขอที่ : 645<br />
ขอใดตอไปนี้เปนการระบายความรอนดวย OA/FA/FA ของ Transformer<br />
คําตอบ 1 : Liquid immersed, self cooled
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Liquid immersed, self cooled / Forced air cooled / Forced air cooled<br />
Liquid immersed, Forced air cooled<br />
ไมมีขอใดถูก<br />
229 of 237<br />
ขอที่ : 646<br />
ขอใดตอไปนี้เปนการระบายความรอนดวย AA/FA ของ Transformer<br />
คําตอบ 1 : Liquid immersed, self cooled<br />
คําตอบ 2 : Liquid immersed, self cooled / Forced air cooled / Forced air cooled<br />
คําตอบ 3 : Liquid immersed, Forced air cooled<br />
คําตอบ 4 : Ventilated, Self-cooled / forced-air cooled<br />
ขอที่ : 647<br />
ขอใดตอไปนี้เปนการระบายความรอนดวย OA/FA/FOA ของ Transformer<br />
ขอที่ : 648<br />
ขอที่ : 649<br />
คําตอบ 1 : Liquid immersed, self cooled<br />
คําตอบ 2 : Liquid immersed, self cooled / Forced air cooled / Forced air cooled<br />
คําตอบ 3 : Liquid immersed, Self-cooled / Forced air cooled / forced-liquid cooled<br />
คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />
ขอใดตอไปนี้เปนการระบายความรอนดวย OA/FA ของ Transformer<br />
คําตอบ 1 : Liquid immersed, self cooled<br />
คําตอบ 2 : Liquid immersed, self cooled / Forced air cooled<br />
คําตอบ 3 : Liquid immersed, Forced air cooled<br />
คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />
ในการเคลือบผิวของโครงสรางที่เปนเหล็กตามมาตรฐาน ASTM A123 จะตองเคลือบดวย Galvanizing อยางนอยที่สุดเทากับเทาไหร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
0.008636 มิลลิเมตร<br />
0.08636 มิลลิเมตร<br />
0.1 มิลลิเมตร<br />
เทาไหรก็ได
ขอที่ : 650<br />
ขอที่ : 651<br />
ขอที่ : 652<br />
ขอที่ : 653<br />
สถานีไฟฟาแหงหนึ่งตองการแรงดันไฟฟาสํารองที่เปนแบบใช Battery ขนาด 140 V โดยคุณสมบัติของ Battery ที่มีขายในประเทศไทยขนาด 1.25 Volt per<br />
230<br />
cell<br />
of<br />
อยากทราบวาจะ<br />
237<br />
ตองใช Battery จํานวนเทาไหร เพื่อใหไดแรงดันไฟฟาเทากับ 140 V<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
140 cell<br />
100 cell<br />
175 cell<br />
112 cell<br />
ในสวนของลานหมอแปลงจะตองทําการโรยหินเบอรอะไร และตองมีความหนาอยางนอยเทากับเทาไหร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
เบอร 1 หนาอยานอย 100 mm<br />
เบอร 2 หนาอยานอย 100 mm<br />
เบอร 2 หนาอยานอย 300 mm<br />
เบอร 1 หนาอยานอย 300 mm<br />
ในลานหมอแปลงของสถานีไฟฟาแหงหนึ่งมีหมอแปลงติดตั้งอยู ขนาดคือ 1,500 MVA , โดยที่หมอแปลงขนาด 1500 MVA มีปริมาณน้ํามันเทากับ 1,989 ลิตร อยากทราบวาจะ<br />
ตองกําหนดใหบอรองรับน้ํามันที่รั่วไหลเทากับเทาไหร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
5,967 ลิตร<br />
5,301 ลิตร<br />
1,989 ลิตร<br />
3,778 ลิตร<br />
ในลานหมอแปลงของสถานีไฟฟาแหงหนึ่งมีหมอแปลงติดตั้งอยู 3 ขนาดคือ 1,500 MVA , 100 MVA และ 200 MVA โดยที่หมอแปลงขนาด 1500 MVA มีปริมาณน้ํามันเทากับ<br />
1,989 ลิตร, หมอแปลงขนาด 100 MVA มีปริมาณน้ํามันเทากับ 1,523 ลิตร และ หมอแปลงขนาด 200 MVA มีปริมาณน้ํามันเทากับ 1,789 ลิตร อยากทราบวาจะตองกําหนดใหบอ<br />
รองรับน้ํามันที่รั่วไหลเทากับเทาไหร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
5,967 ลิตร<br />
5,301 ลิตร<br />
1,989 ลิตร<br />
3,778 ลิตร<br />
ขอที่ : 654
ในลานหมอแปลงของสถานีไฟฟาแหงหนึ่งมีหมอแปลงติดตั้งอยู ขนาดคือ 1,500 MVA , โดยที่หมอแปลงขนาด 1500 MVA มีปริมาณน้ํามันเทากับ 1,989 ลิตร อยากทราบวาจะ<br />
ตองกําหนดใหบอมีขนาดเทากับเทากับเทาไหร เพื่อรองรับน้ํามันที่รั่วไหล<br />
คําตอบ 1 : กวาง 63.071 เมตร ยาว 63.071 เมตร สูง 0.5 เมตร<br />
คําตอบ 2 : กวาง 63.071 เมตร ยาว 63.071 เมตร สูง 0.5 เซนติเมตร<br />
คําตอบ 3 : กวาง 63.071 เซนติเมตร ยาว 63.071 เมตร สูง 0.5 เมตร<br />
คําตอบ 4 : กวาง 63.071 เซนติเมตร ยาว 63.071 เมตร สูง 0.5 เซนติเมตร<br />
ขอที่ : 655<br />
ระยะเวลาของ Duty cycle ของ Circuit breaker ในกรณี Two close – open ตามมาตรฐาน ANSI/IEEE C37.04 อยูที่เทาไหร<br />
คําตอบ 1 : 5 Second<br />
คําตอบ 2 : 10 Second<br />
คําตอบ 3 : 15 Second<br />
คําตอบ 4 : 20 Second<br />
ขอที่ : 656<br />
ในการนํากระแสของบัสบารทองแดง เทากับ 2500 A ถาเปลี่ยนบัสบารเปนอลูมิเนียม จะนํากระแสเทากับเทาไหร<br />
คําตอบ 1 : 2,500 A<br />
คําตอบ 2 : 1,923.077 A<br />
คําตอบ 3 : 1,250 A<br />
คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />
ขอที่ : 657<br />
ในการนํากระแสของบัสบารอลูมิเนียม เทากับ 5,000 A ถาเปลี่ยนบัสบารเปนทองแดง จะนํากระแสเทากับเทาไหร<br />
คําตอบ 1 : 2,500 A<br />
คําตอบ 2 : 4,166.67 A<br />
คําตอบ 3 : 5,000 A<br />
คําตอบ 4 : 6,500 A<br />
ขอที่ : 658<br />
ในการออกแบบบัสบารอลูมิเนียมของสถานีไฟฟา จะตองคํานึงถึงเรื่องใด<br />
คําตอบ 1 : แรงลม<br />
คําตอบ 2 : ขนาดของกระแส<br />
คําตอบ 3 : อุณหภูมิ<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
231 of 237
คําตอบ 4 :<br />
ถูกทุกขอ<br />
ขอที่ : 659<br />
ขอที่ : 660<br />
ขอที่ : 661<br />
ขอที่ : 662<br />
ในกรณีติดตั้ง Battery back up ระบบ ในสถานีไฟฟา ขนาด 750 Ah อยากทราบวาตามมาตรฐาน IEEE 450-1987 จะยอมใหขนาด Capacity drop ลงถึงเทาไหร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
675 Ah<br />
600 Ah<br />
525 Ah<br />
450 Ah<br />
ลักษณะเฉพาะของฉนวน Non-sele restoring คือขอใด<br />
คําตอบ 1 : ไมสามารถกลับคืนสภาพความเปนฉนวนได เมื่อเกิด flashover<br />
คําตอบ 2 : สามารถกลับคืนสูความเปนฉนวนไดอีกครั้ง เมื่อเกิด flashover<br />
คําตอบ 3 : สามารถกลับคืนสูสภาพความเปนฉนวนไดหลายครั้ง เมื่อเกิด flashover<br />
คําตอบ 4 : เมื่อเกิด flashover ไมสามารถทําลายฉนวนได<br />
การออกแบบเพื่อทนตอ Pollution ตองพิจารณาถึงความเหมาะสม Long creepier distance insulation ของอะไรบาง<br />
คําตอบ 1 : Insulator ที่ใชใกลชายทะเล<br />
คําตอบ 2 : Insulator ที่ใชบริเวณอุตสาหกรรมฝุนมาก<br />
คําตอบ 3 : มีมูลนกมาก<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
โหลดสูญเสีย (Load loss) ขณะที่หมอแปลงจาย Load เกิดจากสวนใดบาง<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
เกิดจากคาความตานทานของขดลวด<br />
เกิดจาก Eddy current ในขดลวด<br />
คําตอบ 3 : เกิดจาก Stray loss ในสวนประกอบที่เปนเหล็ก<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
232 of 237<br />
ขอที่ : 663<br />
ในการออกแบบระบบรากสายดินของสถานีไฟฟาจะตองทําการกําหนดคา Shock duration อยูที่เทาไหรตามมาตรฐาน IEEE80-2000
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
0.01 ถึง 0.03 seconds<br />
0.5 ถึง 5 seconds<br />
0.03 ถึง 3 seconds<br />
ไมตองคํานึงถึง<br />
233 of 237<br />
ขอที่ : 664<br />
ขอที่ : 665<br />
ขอที่ : 666<br />
ขอที่ : 667<br />
จากมาตรฐาน ANSI C37.04 กําหนดคา IC ของ Circuit breaker แบบใชฉนวนเปน Vacuum circuit breaker เทากับ 27 kA ที่แรงดัน 35 kV โดยมีคา Voltage range factor<br />
k เทากับ 1.1 อยากทราบวาถาจะนํา Circuit breaker นี้มาใชที่ระดับแรงดัน 22 kV คา IC จะเปนเทาไหร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
27 kA<br />
42.955 kA<br />
29.7 kA<br />
21 kA<br />
จากมาตรฐาน ANSI C37.04 กําหนดคา IC ของ Circuit breaker แบบใชฉนวนเปน Vacuum circuit breaker เทากับ 27 kA ที่แรงดัน 35 kV โดยมีคา Voltage range factor<br />
k เทากับ 1.1 อยากทราบวา Maximum symmetrical interrupting current เทากับเทาไหร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
27 kA<br />
42.955 kA<br />
29.7 kA<br />
21 kA<br />
จากมาตรฐาน ANSI C37.04 กําหนดคา IC ของ Circuit breaker แบบใชฉนวนเปน SF6 เทากับ 27 kA ที่แรงดัน 35 kV โดยมีคา Voltage range factor k เทากับ 1.1 ให<br />
คํานวณหาวาแรงดันต่ําสุดที่จะสามารถนํา Circuit breaker ตัวนี้นําไปใชไดที่แรงดันเทาไหร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
37 kV<br />
29.27 kV<br />
31.82 kV<br />
ไมมีขอใดถูก<br />
จากมาตรฐาน ANSI C37.04 กําหนดคา IC ของ Circuit breaker แบบใชฉนวนเปน SF6 เทากับ 27 kA ที่แรงดัน 35 kV โดยมีคา Voltage range factor k เทากับ 1.1ให<br />
คํานวณหา Close <strong>and</strong> latch (C&L) ที่ระดับแรงดัน 24 kV เมื่อ C&L = 1.6 (k) (rate short circuit current)<br />
คําตอบ 1 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
47.52 kA
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
29.27 kA<br />
43.2 kA<br />
75.6008 kA<br />
234 of 237<br />
ขอที่ : 668<br />
ในการออกแบบฉนวนไฟฟา (Insulator) ถาตองไปติดตั้งในบริเวณที่เปนแบบ Light pollution จะทําการออกแบบที่กี่มิลลิเมตรตอkV<br />
คําตอบ 1 : 16 mm / kV<br />
คําตอบ 2 : 20 mm / kV<br />
คําตอบ 3 : 25 mm / kV<br />
คําตอบ 4 : 31 mm / kV<br />
ขอที่ : 669<br />
ในการออกแบบฉนวนไฟฟา (Insulator) ถาตองไปติดตั้งในบริเวณที่เปนแบบ Medium pollution จะทําการออกแบบที่กี่มิลลิเมตรตอkV<br />
คําตอบ 1 : 16 mm / kV<br />
คําตอบ 2 : 20 mm / kV<br />
คําตอบ 3 : 25 mm / kV<br />
คําตอบ 4 : 31 mm / kV<br />
ขอที่ : 670<br />
ในการออกแบบฉนวนไฟฟา (Insulator) ถาตองไปติดตั้งในบริเวณที่เปนแบบ Heavy duty pollution จะทําการออกแบบที่กี่มิลลิเมตรตอkV<br />
คําตอบ 1 : 16 mm / kV<br />
คําตอบ 2 : 20 mm / kV<br />
คําตอบ 3 : 25 mm / kV<br />
คําตอบ 4 : 31 mm / kV<br />
ขอที่ : 671<br />
ในการออกแบบฉนวนไฟฟา (Insulator) ถาตองไปติดตั้งในบริเวณที่เปนแบบ Very heavy duty pollution จะทําการออกแบบที่กี่มิลลิเมตรตอkV<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
16 mm / kV<br />
20 mm / kV<br />
25 mm / kV<br />
31 mm / kV
ขอที่ : 672<br />
ขอที่ : 673<br />
ขอที่ : 674<br />
ขอที่ : 675<br />
ในการออกแบบฉนวนไฟฟา (Insulator) ถาตองไปติดตั้งในบริเวณที่เปนแบบ Light pollution ของสถานีไฟฟา ระดับแรงดัน 115 kV คาต่ําสุดของ Insulator จะตองยาวเทาไหร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
1,840 mm<br />
2,300 mm<br />
2,875 mm<br />
3,565 mm<br />
ในการออกแบบฉนวนไฟฟา (Insulator) ถาตองไปติดตั้งในบริเวณที่เปนแบบ Medium pollution ของสถานีไฟฟา ระดับแรงดัน 115 kV คาต่ําสุดของ Insulator จะตองยาวเทา<br />
ไหร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
1,840 mm<br />
2,300 mm<br />
2,875 mm<br />
3,565 mm<br />
ในการออกแบบฉนวนไฟฟา (Insulator) ถาตองไปติดตั้งในบริเวณที่เปนแบบ Heavy duty pollution ของสถานีไฟฟา ระดับแรงดัน 115 kV คาต่ําสุดของ Insulator จะตองยาวเทา<br />
ไหร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
1,840 mm<br />
2,300 mm<br />
2,875 mm<br />
3,565 mm<br />
ในการออกแบบฉนวนไฟฟา (Insulator) ถาตองไปติดตั้งในบริเวณที่เปนแบบ Very heavy duty pollution ของสถานีไฟฟา ระดับแรงดัน 115 kV คาต่ําสุดของ Insulator จะตอง<br />
ยาวเทาไหร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
1,840 mm<br />
2,300 mm<br />
2,875 mm<br />
3,565 mm<br />
235 of 237<br />
ขอที่ : 676<br />
สายชนิดใดที่ใชในการเปนตัวนําในสถานีไฟฟาขนาดเล็กๆ
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สายชนิด AAC (All aluminum conductor)<br />
สายชนิด ACSR (Aluminum conductor steel conductor reinforced)<br />
สายชนิด THW<br />
สายชนิด NYY<br />
236 of 237<br />
ขอที่ : 677<br />
ขอที่ : 678<br />
ขอที่ : 679<br />
ขอที่ : 680<br />
สายชนิดใดที่ใชในการเปนสายตัวนํา ในกรณีตองรับแรงดึง และมีขนาดยาวๆ<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สายชนิด AAC (All aluminum conductor)<br />
สายชนิด ACSR (Aluminum conductor steel conductor reinforced)<br />
สายชนิด THW<br />
สายชนิด NYY<br />
ในการวัดคา Soil resistivity ของดินวัดคาไดเทากับ 25 ohm.m และทําการวัดโดยวิธี Winner method โดยทําการปก Electrode ลงในดินลึก 0.25 cm วัดคาความตานทานได<br />
เทากับ 10 ohm อยากทราบวาระยะหางระหวาง Electrode เทากับเทาไหร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
5 เมตร<br />
10 เมตร<br />
15 เมตร<br />
20 เมตร<br />
ในการวัดคา Soil resistivity ของดินวัดคาไดเทากับ 25 ohm.m และทําการวัดโดยวิธี Winner method โดยทําการปก Electrode ระยะหางเทากับ 2 เมตร และปกลึกลงในดินลึก<br />
0.25 cm อยากทราบวาจะวัดคาความตานทานไดเทากับเทาไหร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
1.989 ohm<br />
25 ohm<br />
157.08 ohm<br />
12.5 ohm<br />
ขอใดตอไปนี้ไมใชผลกระทบอันเนื่องมาจากฟาผา<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ผลกระทบดานความรอน<br />
ผลกระทบดานแรง<br />
ผลกระทบดานไฟฟา
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 4 : ผลกระทบทางดานเสียง<br />
237 of 237