06.01.2015 Views

Power Plant and Substation - สภาวิศวกร

Power Plant and Substation - สภาวิศวกร

Power Plant and Substation - สภาวิศวกร

SHOW MORE
SHOW LESS

You also want an ePaper? Increase the reach of your titles

YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.

สาขา: ไฟฟาแขนงไฟฟากําลัง วิชา: EE04 <strong>Power</strong> <strong>Plant</strong> <strong>and</strong> <strong>Substation</strong><br />

ขอที่ : 1<br />

ขอที่ : 2<br />

ขอที่ : 3<br />

ขอที่ : 4<br />

โรงงานมีการใชไฟฟาทั้งหมดในหนึ่งวันเทากับ 4,200 กิโลวัตตตอชั่วโมง โดยทํางานวันละ 15 ชั่วโมง และมีการใชไฟฟาสูงสุด 300 kW ใหหาแฟกเตอรของโหลด (Load factor)<br />

คําตอบ 1 : 0.56<br />

คําตอบ 2 : 0.58<br />

คําตอบ 3 : 0.93<br />

คําตอบ 4 : 0.47<br />

โหลดสองชุดมีการใชไฟฟาสูงสุดรวม 300 kW ดังนี้ โหลดชุด1 มีการใชไฟฟาสูงสุด 200 kW ใชพลังงานไฟฟา 3,120 kWh/วัน โหลดชุด 2 มีการใชไฟฟาสูงสุด 150 kW ใช<br />

พลังงานไฟฟา 2,400 kWh/วัน ใหหาโหลดแฟกเตอรของโหลดรวม<br />

คําตอบ 1 : 0.77<br />

คําตอบ 2 : 0.86<br />

คําตอบ 3 : 0.66<br />

คําตอบ 4 : 0.58<br />

โหลดแฟกเตอร (Load factor) คือ<br />

คําตอบ 1 : กําลังไฟฟาเฉลี่ย / กําลังไฟฟาสูงสุด<br />

คําตอบ 2 : กําลังไฟฟาสูงสุด / กําลังไฟฟาทั้งหมดที่ตออยู<br />

คําตอบ 3 : กําลังไฟฟาเฉลี่ย / กําลังไฟฟาทั้งหมดที่ตออยู<br />

คําตอบ 4 : กําลังไฟฟาต่ําสุด / กําลังไฟฟาเฉลี่ย<br />

มีการใชกําลังไฟฟาในหนึ่งวันเปนดังนี้ 12 MW ใชนาน 4 ชม., 10 MW ใชนาน 4 ชม., 8 MW ใชนาน 6 ชม., 15 MW ใชนาน 8 ชม., 6 MW ใชนาน 2 ชม. ใหหาโหลดแฟกเตอร<br />

ของการใชกําลังไฟฟาขางตน<br />

คําตอบ 1 : 0.4<br />

คําตอบ 2 : 0.74<br />

คําตอบ 3 : 0.54<br />

คําตอบ 4 : 0.5<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

1 of 237<br />

ขอที่ : 5


โหลดแฟกเตอร (Load factor) มีประโยชนอะไร ใหเลือกคําตอบที่เหมาะสมที่สุด<br />

คําตอบ 1 : ทําใหทราบวามีกําลังไฟฟาเหลือจายมากนอยเพียงใด<br />

คําตอบ 2 : ทําใหทราบวาระบบมีการใชกําลังไฟฟาเหมาะสมและมีประสิทธิภาพหรือไมจากแหลงจายที่มี<br />

คําตอบ 3 : ทําใหทราบวาโหลดมีคาสูงสุดเปนอยางไร<br />

คําตอบ 4 : ทําใหทราบวาควรออกแบบขนาดสายสงหรือตัวนําอยางไร<br />

2 of 237<br />

ขอที่ : 6<br />

การพยากรณโหลดแบบระยะยาวคือครอบคลุมระยะเวลาถึง 20 ปมีไวเพื่ออะไร<br />

คําตอบ 1 : ตระเตรียมงบประมาณ<br />

คําตอบ 2 : เลือกขนาดของโรงจักร<br />

คําตอบ 3 : จัดหาแหลงพลังงาน<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขอที่ : 7<br />

ขอที่ : 8<br />

พารามิเตอรตัวใดตอไปนี้สงผลกระทบโดยตรงตอตนทุนตอหนวยการผลิตกระแสไฟฟา<br />

คําตอบ 1 : Dem<strong>and</strong> Factor<br />

คําตอบ 2 : Load Factor<br />

คําตอบ 3 : Diversity Factor<br />

คําตอบ 4 : Maximum Dem<strong>and</strong><br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

จากขอมูลการใชไฟฟาในอดีตที่แสดงในตาราง ถาไมมีปจจัยอื่นมากระทบ จงพยากรณวาในป 2010 นาจะมีการใชปริมาณไฟฟามากนอยเพียงไร


3 of 237<br />

ขอที่ : 9<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

1,500 MW<br />

1,800 MW<br />

2,200 MW<br />

2,600 MW<br />

ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับ Load factor, <strong>Plant</strong> capacity factor และ <strong>Plant</strong> use factor<br />

คําตอบ 1 : ตัวเศษของตัวประกอบทั้ง 3 เปนคาเดียวกัน<br />

คําตอบ 2 : <strong>Plant</strong> capacity factor < Load factor < <strong>Plant</strong> use factor<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 3 : ถา <strong>Plant</strong> use factor ทีคามากในขณะที่ Load factor มีคานอยแสดงวาแตละเครื่องทํางานเต็มประสิทธิภาพแตจะมีบางเครื่องไมถูกใชงาน<br />

คําตอบ 4 : การเลือกขนาดและจํานวนของเครื่องจักรจะพิจารณาจาก Load factor เปนหลัก<br />

ขอที่ : 10<br />

สมการในขอใดตอไปนี้ไมถูกตอง


4 of 237<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :


5 of 237<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 3 :


6 of 237<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 4 :


7 of 237<br />

ขอที่ : 11<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

จาก Load Curve ที่กําหนดให จงหา Load Factor


8 of 237<br />

ขอที่ : 12<br />

คําตอบ 1 : 0.3<br />

คําตอบ 2 : 0.4<br />

คําตอบ 3 : 0.5<br />

คําตอบ 4 : 0.6<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

จากแผนภาพที่กําหนดให ถาระหวางผูบริโภคมีคา Diversity factor = 1.5 และระหวางหมอแปลงมีคา Diversity factor = 1.2 จงหาขนาดโหลดของ Feeder F1


9 of 237<br />

ขอที่ : 13<br />

คําตอบ 1 : 200 kW<br />

คําตอบ 2 : 230 kW<br />

คําตอบ 3 : 275 kW<br />

คําตอบ 4 : 393 kW<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

จาก Load curve ขางตนที่กําหนดให ถาเลือกโรงไฟฟาขนาด 1,000 kW 2 เครื่องและ 500 kW 1 เครื่อง โดยตองใชเครื่องกําเนิดไฟฟาสํารองขนาด 1,000 kW จงหา <strong>Plant</strong><br />

capacity factor


10 of 237<br />

ขอที่ : 14<br />

คําตอบ 1 : 42.57 %<br />

คําตอบ 2 : 48.57 %<br />

คําตอบ 3 : 53.33 %<br />

คําตอบ 4 : 68 %<br />

ขอใดคือความหมายของ Load Factor<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 3 :


11 of 237<br />

คําตอบ 4 :<br />

ถูกทั้งคําตอบ 1 และ 2<br />

ขอที่ : 15<br />

ขอใดคือความหมายของ Diversity factor<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 : ถูกทั้งคําตอบ 1 และ 2<br />

ขอที่ : 16<br />

ขอใดคือความหมายของ <strong>Plant</strong> capacity factor<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 4 :


12 of 237<br />

ขอที่ : 17<br />

ขอใดคือความหมายของ <strong>Plant</strong> use factor<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ขอที่ : 18<br />

Load curve เปนกราฟที่ Plot ระหวาง<br />

คําตอบ 1 : Load dem<strong>and</strong> กับ เวลาที่เกิด<br />

คําตอบ 2 : Load dem<strong>and</strong> กับ เปอรเซ็นตของเวลาที่เกิดขึ้น<br />

คําตอบ 3 : Peak dem<strong>and</strong> กับ เวลาที่เกิด<br />

คําตอบ 4 : Peak dem<strong>and</strong> กับ เปอรเซ็นตของเวลาที่เกิดขึ้น<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอที่ : 19<br />

Load duration curve เปนกราฟที่ Plot ระหวาง<br />

คําตอบ 1 : Load dem<strong>and</strong> กับ เวลาที่เกิด<br />

คําตอบ 2 : Load dem<strong>and</strong> กับ เปอรเซ็นตของเวลาที่เกิดขึ้น<br />

คําตอบ 3 : Peak dem<strong>and</strong> กับ เวลาที่เกิด<br />

คําตอบ 4 : Peak dem<strong>and</strong> กับ เปอรเซ็นตของเวลาที่เกิดขึ้น


ขอที่ : 20<br />

พื้นที่ใตกราฟของ Load curve คือ<br />

คําตอบ 1 : kW/h<br />

คําตอบ 2 : kW<br />

คําตอบ 3 : kWh<br />

คําตอบ 4 :<br />

ขอที่ : 21<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

พื้นที่ใตกราฟของ Load duration curve คือ<br />

คําตอบ 1 : kW/h<br />

คําตอบ 2 : kW<br />

คําตอบ 3 : kWh<br />

13 of 237


14 of 237<br />

ขอที่ : 22<br />

คําตอบ 4 :<br />

ในการเลือกขนาดกําลังผลิตตอหนวยผลิตที่เหมาะสมนั้น <strong>Plant</strong> use factor ควรมีคาเทาไร<br />

คําตอบ 1 : เขาใกล 0%<br />

คําตอบ 2 : เขาใกล 50%<br />

คําตอบ 3 : เขาใกล 100%<br />

คําตอบ 4 : มีคามากๆ<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอที่ : 23<br />

คาใชจายในการสรางโรงจักรและการผลิตไฟฟา ตอ kWh จะต่ําเมื่อ<br />

คําตอบ 1 : Load factor เปนลบ<br />

คําตอบ 2 : Load factor เขาใกล 0%


คําตอบ 3 : Load factor เขาใกล 50%<br />

คําตอบ 4 : Load factor เขาใกล 100%<br />

15 of 237<br />

ขอที่ : 24<br />

% Load factor ของผูใชไฟฟารายหนึ่งมีคาสูงความหมายอยางไร<br />

คําตอบ 1 : มีการใชพลังงานไฟฟาไมตอเนื่อง<br />

คําตอบ 2 : มีการใชพลังงานไฟฟาไมสม่ําเสมอ<br />

คําตอบ 3 : มีการใชพลังงานไฟฟาคอนขางคงที่<br />

คําตอบ 4 : มีการใชพลังงานไฟฟาต่ํา<br />

ขอที่ : 25<br />

diversity factor ของระบบไฟฟาแหงหนึ่งมีคาสูงหมายความวาอยางไร<br />

คําตอบ 1 : มีการใชกําลังไฟฟาของโหลดแตละประเภทไมตอเนื่อง<br />

คําตอบ 2 : มีการใชกําลังไฟฟาสูงสุดของโหลดแตละประเภทไมพรอมกัน<br />

คําตอบ 3 : มีการใชกําลังไฟฟาต่ําสุดของโหลดแตละประเภทไมพรอมกัน<br />

คําตอบ 4 : มีการใชกําลังไฟฟาเฉลี่ยของโหลดแตละประเภทคอนขางเทากัน<br />

ขอที่ : 26<br />

Daily load curve คือ<br />

ขอที่ : 27<br />

คําตอบ 1 : กราฟแสดงจํานวนกิโลวัตตที่ใชเทียบกับเวลาใน 1 วัน<br />

คําตอบ 2 : กราฟแสดงจํานวนพลังงานที่ใชเทียบกับเวลาใน 1 วัน<br />

คําตอบ 3 : กราฟแสดงจํานวนผูใชไฟฟาเทียบกับเวลาใน 1 วัน<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

พื้นที่ใต Daily load curve คือ<br />

คําตอบ 1 : จํานวนกิโลวัตตที่ใชเทียบกับเวลาใน 1 วัน<br />

คําตอบ 2 : จํานวนพลังงานที่ใชเทียบกับเวลาใน 1 วัน<br />

คําตอบ 3 : จํานวนผูใชไฟเทียบกับเวลาใน 1 วัน<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขอที่ : 28


Load duration curve คือ<br />

คําตอบ 1 : กราฟแสดงชวงเวลาในการเกิดโหลดสูงสุด<br />

คําตอบ 2 : กราฟแสดง Load curve เรียงลําดับจากมากไปหานอย<br />

คําตอบ 3 : กราฟแสดง Load curve เรียงลําดับจากนอยไปหามาก<br />

คําตอบ 4 : ผิดทุกขอ<br />

16 of 237<br />

ขอที่ : 29<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

500 MWh<br />

1,250 MWh<br />

2,500 MWh<br />

3,400 MWh<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอที่ : 30


17 of 237<br />

ขอที่ : 31<br />

คําตอบ 1 : 14.1%<br />

คําตอบ 2 : 28.1%<br />

คําตอบ 3 : 38.3%<br />

คําตอบ 4 : 45.1%<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


18 of 237<br />

ขอที่ : 32<br />

คําตอบ 1 : 33.33%<br />

คําตอบ 2 : 50.25%<br />

คําตอบ 3 : 71.33%<br />

คําตอบ 4 : 83.33%<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


19 of 237<br />

ขอที่ : 33<br />

คําตอบ 1 : 25.7%<br />

คําตอบ 2 : 33.3%<br />

คําตอบ 3 : 56.7%<br />

คําตอบ 4 : 94.5%<br />

โหลด 4 กลุมตออยูกับโรงไฟฟาแหงหนึ่ง โดยโหลดแตละกลุมมีความตองการไฟฟาสูงสุดเทากับ 30 MW, 20 MW, 10 MW และ 14 MW และความตองการกําลังไฟฟาสูงสุด<br />

ของโรงไฟฟาคือ 60 MW หากกําหนดใหขนาดของโรงไฟฟาคือ 80 MW และ Load Factor = 0.6 จงคํานวณหา Dem<strong>and</strong> Factor<br />

คําตอบ 1 : 0.65<br />

คําตอบ 2 : 0.71<br />

คําตอบ 3 : 0.81<br />

คําตอบ 4 : 0.88<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอที่ : 34<br />

Dem<strong>and</strong> factor สําหรับอาคารพานิช ควรมีคาเปนอยางไร<br />

คําตอบ 1 : สูง เพราะจํานวนชั่วโมงการใชงานไฟฟาสูง


คําตอบ 2 : ต่ํา เพราะจํานวนชั่วโมงการใชงานไฟฟาต่ํา<br />

คําตอบ 3 : สูง เพราะอุปกรณตางๆ มีโอกาสใชงานพรอมกัน<br />

คําตอบ 4 : สูง เพราะคาเฉลี่ยในการใชกําลังไฟฟาสูง<br />

20 of 237<br />

ขอที่ : 35<br />

ผูใชไฟตอไปนี้มีคา Diversity factor ต่ําที่สุด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

บานพักอาศัย<br />

อาคารพานิช<br />

โรงงานอุตสาหกรรม<br />

สาธารณูปโภค<br />

ขอที่ : 36<br />

Load factor มีประโยชนอยางไร<br />

ขอที่ : 37<br />

ขอที่ : 38<br />

คําตอบ 1 :<br />

สามารถนํามาคิดรายจายประจําปของระบบผลิตไฟฟา<br />

คําตอบ 2 : สามารถนํามาใชประกอบการเดินเครื่องกําเนิดไฟฟาในแตละวัน<br />

คําตอบ 3 : สามารถนํามาใชในการจัดระบบการใชพลังงานไฟฟาใหมีประสิทธิภาพดีขึ้น<br />

คําตอบ 4 : สามารถนํามาใชวางแผนขยายการผลิตของระบบจําหนาย<br />

ขอใดคือสมการของ S-curve ที่ใชในการทํานายโหลดดวยระเบียบวิธี extrapolation<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

y = a + bx<br />

y = a + bx + cx2<br />

y = a + bx + cx2 + dx3<br />

y = cedx<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอใดตอไปนี้ถูกตองเกี่ยวกับการทํานายโหลดดวยระเบียบวิธี extrapolation<br />

คําตอบ 1 : ใชการเพิ่มขึ้นของประชากร (Population growth) มารวมในการทํานาย<br />

คําตอบ 2 : ใชกระบวนการสุม (R<strong>and</strong>om process) เขาชวย<br />

คําตอบ 3 : นําปจจัยการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Economic growth) รวมในการทํางาน<br />

คําตอบ 4 : ใชหลักการของ Curve fitting


ขอที่ : 39<br />

ปจจัยในขอใดตอไปนี้สงผลตอการเปลี่ยนแปลงโหลด<br />

คําตอบ 1 : ฤดูกาล<br />

คําตอบ 2 : อุณหภูมิ<br />

คําตอบ 3 : จํานวนประชากร<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขอที่ : 40<br />

โรงไฟฟาพลังความรอนแหงหนึ่ง มีกําลังผลิตติดตั้ง 20 MW จายโหลดสูงสุด 15 MW มีตัวประกอบโหลด (load factor) 80% จงหาคาโหลดเฉลี่ยของโรงไฟฟา<br />

คําตอบ 1 : 8 MW<br />

คําตอบ 2 : 9 MW<br />

คําตอบ 3 : 10 MW<br />

คําตอบ 4 : 12 MW<br />

ขอที่ : 41<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

21 of 237<br />

โรงไฟฟาแหงหนึ่งจายโหลดดังตารางตอไปนี้ จงคํานวณตัวประกอบโหลดของโรงไฟฟาแหงนี้


22 of 237<br />

ขอที่ : 42<br />

คําตอบ 1 : 9 MW<br />

คําตอบ 2 : 12 MW<br />

คําตอบ 3 : 15 MW<br />

คําตอบ 4 : 18 MW<br />

สถานีไฟฟายอยแหงหนึ่งมีสายปอน 10 วงจรยอย โดยแตละวงจรยอยมีคาโหลดสูงสุดเปน 12 MW, 8 MW, 16 MW, 12 MW, 10 MW, 9 MW, 16 MW, 16 MW, 15 MW<br />

และ 14 MW ถาสถานีไฟฟายอยแหงนี้มี diversity factor เปน 2.0 จงคํานวณโหลดสูงสุดของสถานีไฟฟายอยแหงนี้<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

32 MW<br />

48 MW<br />

64 MW<br />

80 MW


ขอที่ : 43<br />

ขอที่ : 44<br />

ขอที่ : 45<br />

ขอที่ : 46<br />

ขอใดตอไปนี้ถูกตองที่สุด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

Diversity factor มีคาไมเกิน 1.0 เสมอ<br />

Load factor มีคาไมนอยกวา 1.0 เสมอ<br />

คําตอบ 3 : Load factor เทากับ 1.0 หมายความวา โหลดเฉลี่ยของโรงไฟฟามีคาเทากับโหลดต่ําสุด<br />

คําตอบ 4 : Diversity factor เทากับ 1.0 หมายความวา โหลดเฉลี่ยของโรงไฟฟามีคาเทากับโหลดสูงสุด<br />

โรงไฟฟาแหงหนึ่งมีกําลังผลิตติดตั้ง (Installed capacity) 30 MW มีโหลดติดตั้ง (Connected load) 25 MW มีตัวประกอบโหลด (Load factor) 60% มีโหลดเฉลี่ย 9 MW ขอ<br />

ใดตอไปนี้ไมถูกตอง<br />

คําตอบ 1 :<br />

โหลดสูงสุดมีคาเปน 15 MW<br />

คําตอบ 2 : ใน 1 วันโรงไฟฟาแหงนี้จายพลังงานไฟฟาทั้งสิ้น 216,000 หนวย<br />

คําตอบ 3 : diversity factor มีคาเทากับ 1.6<br />

คําตอบ 4 : dem<strong>and</strong> factor มีคาเทากับ load factor<br />

ทําไมจึงตองทําการศึกษาเรื่อง Load curve<br />

คําตอบ 1 : เพื่อนําขอมูลของ Load curve ที่คํานวณไดไปเลือกชนิดของโรงไฟฟา<br />

คําตอบ 2 : เพื่อนําขอมูลของ Load curve ที่คํานวณไดไปสรางโรงจักรเพิ่มขึ้นเพื่อใหเปนโรงไฟฟาสํารอง<br />

คําตอบ 3 : เพื่อนําขอมูลของ Load curve ที่คํานวณไดไปเลือกชนิดของเชื้อเพลิงที่จะใชในการผลิตแระแสไฟฟา<br />

คําตอบ 4 : เพื่อนําขอมูลของ Load curve ที่คํานวณไดไปคํานวณเปนคาไฟฟาในการเก็บเงินของบานพักอาศัย<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

23 of 237<br />

การใชไฟฟาของสถานประกอบการหนึ่งมีสภาวะการใชพลังงานดังตาราง คา Load Factor ของสถานประกอบการนี้มีคากี่เปอรเซ็นต


24 of 237<br />

ขอที่ : 47<br />

คําตอบ 1 : 1.0958 %<br />

คําตอบ 2 : 8.76 %<br />

คําตอบ 3 : 26.3 %<br />

คําตอบ 4 : 109.58 %<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

การใชไฟฟาของสถานประกอบการหนึ่งมีสภาวะการใชพลังงานดังตาราง คา Dem<strong>and</strong> Factor ของถานประกอบการนี้มีคาเทากับเทาไหร


25 of 237<br />

คําตอบ 1 : 0.475<br />

คําตอบ 2 : 47.5<br />

คําตอบ 3 : 1,250<br />

คําตอบ 4 : 2,630<br />

ขอที่ : 48<br />

ขอใดตอไปนี้เปนเปาหมายในการศึกษาการทํานายโหลด(Prediction of load)<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 1 : เพื่อนําคาที่ทํานายไดไปวางแผนการผลิตกระแสไฟฟาใหพอเพียงกับ Load ที่ตองการ<br />

คําตอบ 2 : เพื่อนําคาที่ทํานายไดไปวางแผนการจัดซื้อเครื่องวัดพลังงาน<br />

คําตอบ 3 : เพื่อนําคาที่ทํานายไดไปวางแผนการพัฒนาประเทศ<br />

คําตอบ 4 : เพื่อนําคาที่ทํานายไดไปเปนเกณฑในการลดการใชพลังงานในปถัดไป<br />

ขอที่ : 49


ขอใดตอไปนี้กลาวถูกตอง<br />

คําตอบ 1 :<br />

ในการผลิตกําลังไฟฟาทางการไฟฟาจะผลิตกําลังไฟฟาเทากับ Peak load<br />

คําตอบ 2 : ในการผลิตกําลังไฟฟาทางการไฟฟาจะผลิตกําลังไฟฟาเทากับ Maximum dem<strong>and</strong> ของปที่ผานมา<br />

คําตอบ 3 : ในการผลิตกําลังไฟฟาทางการไฟฟาจะผลิตกําลังไฟฟาเทากับ Average load<br />

คําตอบ 4 : ในการผลิตกําลังไฟฟาทางการไฟฟาจะผลิตกําลังไฟฟามากกวา Maximum dem<strong>and</strong> ในขณะนั้นเล็กนอย<br />

26 of 237<br />

ขอที่ : 50<br />

ขอที่ : 51<br />

ขอที่ : 52<br />

ในโรงงานอุตสาหกรรมแหงหนึ่งมีคาการใชกําลังไฟฟาดังรายละเอียดดานลางนี้ จงหาคา Load factor ของโรงงานนี้ ชวงเวลา 0.00 น. ถึง 06.00 น. คาการใชกําลังไฟฟาชั่วโมงละ<br />

2.5 kW ชวงเวลา 6.00 น. ถึง 12.00 น. คาการใชกําลังไฟฟาชั่วโมงละ 9.5 kW ชวงเวลา 12.00 น. ถึง 18.00 น. คาการใชกําลังไฟฟาชั่วโมงละ 7.5 kW ชวงเวลา 18.00 น. ถึง<br />

00.00 น. คาการใชกําลังไฟฟาชั่วโมงละ 2.5 kW<br />

คําตอบ 1 : 0.579<br />

คําตอบ 2 : 0.92<br />

คําตอบ 3 : 2.316<br />

คําตอบ 4 : 5.5<br />

ในโรงงานอุตสาหกรรมแหงหนึ่งมีคาการใชกําลังไฟฟาดังรายละเอียดดานลางนี้ จงหาคา Load factor ของโรงงานนี้ ชวงเวลา 0.00 น. ถึง 06.00 น. คาการใชกําลังไฟฟาชั่วโมงละ<br />

2.5 kW ชวงเวลา 6.00 น. ถึง 12.00 น. คาการใชกําลังไฟฟาชั่วโมงละ 9.5 kW ชวงเวลา 12.00 น. ถึง 18.00 น. คาการใชกําลังไฟฟาชั่วโมงละ 7.5 kW ชวงเวลา 18.00 น. ถึง<br />

00.00 น. คาการใชกําลังไฟฟาชั่วโมงละ 2.5 kW<br />

คําตอบ 1 : 0.579<br />

คําตอบ 2 : 0.92<br />

คําตอบ 3 : 2.316<br />

คําตอบ 4 : 5.5<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


27 of 237<br />

ขอที่ : 53<br />

คําตอบ 1 : 10 kW<br />

คําตอบ 2 : 35 kW<br />

คําตอบ 3 : 45 kW<br />

คําตอบ 4 : 77.5 kW<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


28 of 237<br />

ขอที่ : 54<br />

คําตอบ 1 : 1.22<br />

คําตอบ 2 : 1.458<br />

คําตอบ 3 : 1.542<br />

คําตอบ 4 : 3.229<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


29 of 237<br />

ขอที่ : 55<br />

คําตอบ 1 : 4.65 %<br />

คําตอบ 2 : 46.5 %<br />

คําตอบ 3 : 53 %<br />

คําตอบ 4 : 77.5 %<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

โหลดรายชั่วโมงของการไฟฟาแหงหนึ่งมีคาดังแสดงในตาราง พลังงานที่ใชการไฟฟาจายใหแกโหลดตั้งแตเวลา 0 – 24 น. มีคาเทาใด


30 of 237<br />

ขอที่ : 56<br />

คําตอบ 1 : 24,000 MWh<br />

คําตอบ 2 : 21,000 MWh<br />

คําตอบ 3 : 18,000 MWh<br />

คําตอบ 4 : 12,000 MWh<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

จงคํานวณคา Load Factor ในรอบวันของโหลดดังแสดงในตาราง


31 of 237<br />

ขอที่ : 57<br />

คําตอบ 1 : 50%<br />

คําตอบ 2 : 60%<br />

คําตอบ 3 : 70%<br />

คําตอบ 4 : 80%<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

การไฟฟาแหงหนึ่งมีคาโหลดรายชั่วโมงดังแสดงในตาราง จงคํานวณคาตัวประกอบโหลด (Load Factor) ของการไฟฟา


32 of 237<br />

ขอที่ : 58<br />

คําตอบ 1 : 0.500<br />

คําตอบ 2 : 0.583<br />

คําตอบ 3 : 0.683<br />

คําตอบ 4 : 0.753<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

การไฟฟาแหงหนึ่งทําการจายไฟฟาใหแกโหลด 4 คาเปนจํานวนชั่วโมงดังแสดงในตาราง จงคํานวณคาตัวประกอบโหลด (Load Factor) ในรอบวันของการไฟฟาแหงนี้


33 of 237<br />

ขอที่ : 59<br />

คําตอบ 1 : 0.514<br />

คําตอบ 2 : 0.625<br />

คําตอบ 3 : 0.775<br />

คําตอบ 4 : 0.875<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

สถานีไฟฟายอยแหงหนึ่งมีคาโหลดรายชั่วโมงดังแสดงในตาราง จงคํานวณคาตัวประกอบความตองการไฟฟา (Dem<strong>and</strong> factor) ของสถานีไฟฟายอยแหงนี้


34 of 237<br />

ขอที่ : 60<br />

คําตอบ 1 : 0.653<br />

คําตอบ 2 : 0.783<br />

คําตอบ 3 : 0.833<br />

คําตอบ 4 : 0.933<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

สถานีไฟฟายอยแหงหนึ่งมีคาโหลดรายชั่วโมงดังแสดงในตาราง จงคํานวณคาตัวประกอบความตองการไฟฟา (Dem<strong>and</strong> Factor) ของสถานีไฟฟายอยแหงนี้


35 of 237<br />

ขอที่ : 61<br />

คําตอบ 1 : 0.833<br />

คําตอบ 2 : 0.783<br />

คําตอบ 3 : 0.653<br />

คําตอบ 4 : 0.555<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

สถานีไฟฟายอยแหงหนึ่งจายไฟใหแกลูกคา 2 ราย (A และ B) ซึ่งมีการใชไฟฟาในรอบวันดังแสดงในตารางขางลาง จงคํานวณคาตัวประกอบไดเวอรซิตี (Diversity factor) ของ<br />

สถานีไฟฟายอยแหงนี้


36 of 237<br />

ขอที่ : 62<br />

คําตอบ 1 : 0.75<br />

คําตอบ 2 : 0.83<br />

คําตอบ 3 : 1.2<br />

คําตอบ 4 : 1.33<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

สถานีไฟฟายอยแหงหนึ่งจายไฟใหแกลูกคา 2 ราย (A และ B) ซึ่งมีการใชไฟฟาในรอบวันดังแสดงในตารางขางลาง จงคํานวณคาตัวประกอบโคอินซิเดนซ (Coincidence factor)<br />

ของสถานีไฟฟายอยแหงนี้


37 of 237<br />

ขอที่ : 63<br />

คําตอบ 1 : 0.75<br />

คําตอบ 2 : 0.83<br />

คําตอบ 3 : 1.2<br />

คําตอบ 4 : 1.33<br />

สถานีไฟฟายอยแหงหนึ่งรับไฟฟาจากสถานีตนทางรวมตลอดทั้งปเปนปริมาณ 70,080,000 kWh ในวันที่มีโหลดสูงสุดในปนั้น คาโหลดสูงสุดและพลังงานที่สงผานสถานีไฟฟายอย<br />

คือ 20,000 kW และ 216,000 kWh ตามลําดับ จงคํานวณคาตัวประกอบโหลดประจําป<br />

คําตอบ 1 : 0.40<br />

คําตอบ 2 : 0.45<br />

คําตอบ 3 : 0.50<br />

คําตอบ 4 : 0.55<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


ขอที่ : 64<br />

ขอที่ : 65<br />

ขอที่ : 66<br />

ขอที่ : 67<br />

สถานีไฟฟายอยแหงหนึ่งรับไฟฟาจากสถานีตนทางรวมตลอดทั้งปเปนปริมาณ 70,080,000 kWh ในวันที่มีโหลดสูงสุดในปนั้น คาโหลดสูงสุดและพลังงานที่สงผานสถานีไฟฟายอย<br />

38 of 237<br />

คือ 20,000 kW และ 216,000 kWh ตามลําดับ จงคํานวณคาตัวประกอบโหลดของวันที่มีโหลดสูงสุด<br />

คําตอบ 1 : 0.40<br />

คําตอบ 2 : 0.45<br />

คําตอบ 3 : 0.50<br />

คําตอบ 4 : 0.55<br />

ขอใดมิใชวัตถุประสงคของการนําการพยากรณโหลดรายชั่วโมงและโหลดรายวันไปใชงาน<br />

คําตอบ 1 : กําหนดเวลาการเดินเครื่องของโรงไฟฟา<br />

คําตอบ 2 : ประเมินสถานภาพการทํางานของระบบไฟฟา<br />

คําตอบ 3 : จัดสรรกําลังการผลิตใหแกโรงไฟฟา<br />

คําตอบ 4 : วางแผนขยายกําลังการผลิตไฟฟา<br />

ขอใดมิใชวัตถุประสงคของการพยากรณโหลดในระยะปานกลาง – ระยะยาว<br />

คําตอบ 1 : วางแผนการบํารุงรักษาเครื่องกําเนิดไฟฟา<br />

คําตอบ 2 : วางแผนขยายกําลังการผลิตไฟฟา<br />

คําตอบ 3 : ประเมินความเชื่อถือไดและคาใชจายในการผลิตไฟฟา<br />

คําตอบ 4 : กําหนดเวลาการเดินเครื่องของโรงไฟฟา<br />

ความตองการกําลังไฟฟาของผูใชไฟที่เปนที่พักอาศัยดูไดจาก factor ใดบาง<br />

คําตอบ 1 : ประเภทของที่พักอาศัย<br />

คําตอบ 2 : จํานวนผูที่พักอาศัย<br />

คําตอบ 3 : ฐานะ<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอที่ : 68<br />

ความตองการกําลังไฟฟาของผูใชไฟที่เปนธุรกิจดูไดจาก Factor ใดบาง<br />

คําตอบ 1 : ประเภทของธุรกิจ<br />

คําตอบ 2 : พื้นที่ใชงาน


คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ความหรูหรา<br />

ถูกทุกขอ<br />

39 of 237<br />

ขอที่ : 69<br />

ขอที่ : 70<br />

ขอที่ : 71<br />

ขอที่ : 72<br />

ความตองการกําลังไฟฟาของผูใชไฟที่เปนอุตสาหกรรมดูไดจาก Factor ใดบาง<br />

คําตอบ 1 : ประเภทของอุตสาหกรรม<br />

คําตอบ 2 : ขนาดกําลังผลิต/วัน<br />

คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />

คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />

ความตองการกําลังไฟฟาของผูใชไฟที่เปนระบบขนสงมวลชน ดูไดจาก Factor ใดบาง<br />

คําตอบ 1 : จํานวนตูรถไฟฟา<br />

คําตอบ 2 : จํานวนคนที่ขนถาย<br />

คําตอบ 3 : จํานวนเที่ยวตอวัน<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ความตองการกําลังไฟฟาของผูใชไฟที่เปนที่การสูบน้ําดวยไฟฟา ดูไดจาก factor ใดบาง<br />

คําตอบ 1 : Pressure head<br />

คําตอบ 2 : ขนาด Pump<br />

คําตอบ 3 : ถูกทั้งขอ 1 และ 2<br />

คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />

ผูใชไฟมีอุปกรณไฟฟาตออยูทั้งหมด เทากับ 100 kW หมายถึง<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

Connected load = 100 kW<br />

Maximum dem<strong>and</strong> = 100 kW<br />

Minimum dem<strong>and</strong> = 100 kW<br />

ถูกทุกขอ<br />

ขอที่ : 73


การใชกําลังไฟฟาของผูใชในแตละชวงเวลาตลอดชวงเวลาที่พิจารณาหมายถึง<br />

คําตอบ 1 : Load duration curve<br />

คําตอบ 2 : Load curve<br />

คําตอบ 3 : Load factor<br />

คําตอบ 4 : Dem<strong>and</strong> factor<br />

40 of 237<br />

ขอที่ : 74<br />

ขอที่ : 75<br />

ขอที่ : 76<br />

ขอที่ : 77<br />

ใชกําลังไฟฟาสูงสุดเทากับ 0.9 เทาของอุปกรณไฟฟาที่ตออยูทั้งหมดหมายถึง<br />

คําตอบ 1 : Load curve = 0.9<br />

คําตอบ 2 : Maximum dem<strong>and</strong> = 0.9<br />

คําตอบ 3 : Dem<strong>and</strong> factor = 0.9<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

การใชกําลังไฟฟาเฉลี่ยตลอด 24 ชม. เทากับ 30 % ของความตองการกําลังไฟฟาสูงสุดเทาไร<br />

คําตอบ 1 : Dem<strong>and</strong> factor = 30 %<br />

คําตอบ 2 : Load factor = 30 %<br />

คําตอบ 3 : Average dem<strong>and</strong> = 30 %<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ผูใชไฟแตละรายรวมใจใชกําลังไฟฟาสูงสุดตลอดเวลาแสดงวา Diversity factor เทาไร<br />

คําตอบ 1 : เทากับ 1<br />

คําตอบ 2 : มากกวา 1<br />

คําตอบ 3 : เทากับ 0<br />

คําตอบ 4 : มากกวา 0<br />

ถา Diversity factor เทากับ Consider factor เทากับเทาไร<br />

คําตอบ 1 : 0.25<br />

คําตอบ 2 : 0.2<br />

คําตอบ 3 : 0.15<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


ขอที่ : 78<br />

ขอที่ : 79<br />

ขอที่ : 80<br />

ขอที่ : 81<br />

คําตอบ 4 : 0.1<br />

ขอใดไมใชประโยชนโดยตรงของการพยากรณความตองการใชไฟฟา<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

วางแผนสรางโรงไฟฟา<br />

วางแผนสรางระบบสงไฟฟา<br />

คําตอบ 3 : วางแผนจัดหาแหลงเชื้อเพลิง<br />

คําตอบ 4 : วางแผนกําหนดอัตราคาไฟฟา<br />

คาตัวประกอบโหลด (Load factor) ที่จะสงผลดีที่สุดตอการวางแผนเกี่ยวกับระบบผลิตไฟฟา ควรเปนอยางไร<br />

คําตอบ 1 : มีคาสูงกวา 1.0<br />

คําตอบ 2 : มีคาต่ํากวา 1.0<br />

คําตอบ 3 : มีคาเขาใกล 1.0<br />

คําตอบ 4 : สรุปไมได ขึ้นอยูกับประเภทของความตองการใชไฟฟา<br />

ขอใดตอไปนี้กลาว ไมถูกตอง<br />

คําตอบ 1 : เครื่องกําเนิดไฟฟาสําหรับจายโหลดที่มีการเปลี่ยนแปลงอยางรวดเร็ว ตองมีความเฉื่อยต่ํา<br />

คําตอบ 2 : ปริมาณการใชไฟฟาของระบบ หมายถึง คาความตองการไฟฟาสูงสุดในแตละชวงเวลาตามที่กําหนด<br />

คําตอบ 3 : การทราบถึงปริมาณและลักษณะโหลด มีประโยชนในการวางแผนผลิตไฟฟา<br />

คําตอบ 4 : Load duration curve ใชประมาณปริมาณความตองการใชไฟฟาและกําลังไฟฟาสูงสุดที่คาดวาจะเกิดขึ้น<br />

ตัวประกอบโหลด คือ อัตราสวนของคาความตองการใชไฟฟาเฉลี่ยตอคาความตองการใชไฟฟาสูงสุด หากระบบใดๆ มีคาตัวประกอบโหลดต่ํา หมายความวา การใชไฟฟาของระบบดัง<br />

กลาวดีหรือไม เพราะเหตุใด<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 1 : ดี เนื่องจากลักษณะการใชไฟฟาของระบบจะมีความสม่ําเสมอ และสงผลใหตนทุนการผลิตไฟฟาถูกลง<br />

คําตอบ 2 : ดี เนื่องจากความตองการใชไฟฟาเฉลี่ยและความตองการใชไฟฟาสูงสุดมีคาแตกตางกันมาก<br />

คําตอบ 3 : ไมดี เนื่องจากมีการใชไฟฟาสูงกวาปกติ ณ เวลาสั้นๆ ซึ่งไมเปนผลดีตอการจัดเตรียมกําลังผลิตไฟฟา<br />

คําตอบ 4 : ไมดี เนื่องจากระบบไฟฟามีลักษณะ และเวลาการใชไฟฟาแตกตางกัน ทําใหความตองการใชไฟฟามีคาไมแนนอน<br />

41 of 237<br />

ขอที่ : 82


ลักษณะการใชไฟฟารายวันในโรงงานแหงหนึ่ง คํานวณคาตัวประกอบโหลด (Load factor) ไดเทากับ 0.75 มีปริมาณการใชไฟฟาในแตละวันคิดเปนประมาณ 3,600 kWh อยาก<br />

ทราบวาประมาณความตองการกําลังไฟฟาสูงสุดของโรงงานแหงนั้นมีคาเปนเทาใด<br />

คําตอบ 1 : 112.5 kW<br />

คําตอบ 2 : 150 kW<br />

คําตอบ 3 : 200 kW<br />

คําตอบ 4 : ขอมูลไมเพียงพอ<br />

ขอที่ : 83<br />

ขอมูลใดไมสามารถบอกไดจากลักษณะโหลดรายวัน (Daily load curve)<br />

คําตอบ 1 : Total connected load<br />

คําตอบ 2 : Base load<br />

คําตอบ 3 : Peak load<br />

คําตอบ 4 : Load factor<br />

ขอที่ : 84<br />

ถากําหนดใหโหลดเริ่มตนที่ 4,700 MVA โดยมีอัตราการเติบโตของโหลดรายปเฉลี่ย 9.5% จงพยากรณโหลดปที่ 15<br />

คําตอบ 1 : 18,336 MVA<br />

คําตอบ 2 : 13,368 MVA<br />

คําตอบ 3 : 18,633 MVA<br />

คําตอบ 4 : 16,833 MVA<br />

ขอที่ : 85<br />

กําหนดใหโหลดเริ่มตนที่ 1,000 MVA เมื่อเวลาผานไป ปรากฎวาโหลดในปดังกลาวคือ 20,000 MVA กําหนดใหอัตราการเติบโตของโหลดรายป 10% จงหาเวลาที่ผานไป<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

41.3 ป<br />

43.1 ป<br />

34.1 ป<br />

31.43 ป<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอที่ : 86<br />

ขอใดคือการแบงโหลดตามสภาพแวดลอม<br />

คําตอบ 1 : โหลดวิกฤต<br />

คําตอบ 2 : โหลดในเมือง<br />

คําตอบ 3 : โหลดปกติ<br />

42 of 237


คําตอบ 4 :<br />

โหลดฉุกเฉิน<br />

ขอที่ : 87<br />

เสนโคงโหลด (Load curve) แสดงความสัมพันธของคาใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ขอที่ : 88<br />

Dem<strong>and</strong> factor คือคาใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ขอที่ : 89<br />

Connected load คือคาใด<br />

ขอที่ : 90<br />

คําตอบ 1 :<br />

ความตองการกําลังไฟฟาของโหลดกับชวงเวลาความตองการ<br />

ความตองการแรงดันไฟฟากับชวงเวลาความตองการ<br />

ความตองการกระแสไฟฟากับชวงเวลาความตองการ<br />

ความตองการประจุไฟฟากับชวงเวลาความตองการ<br />

อัตราสวนของความตองการกําลังไฟฟาสูงสุดตอโหลดรวมพิกัดของระบบ<br />

อัตราสวนของความตองการแรงดันไฟฟาสูงสุดตอโหลดรวมพิกัดของระบบ<br />

อัตราสวนของความตองการกระแสไฟฟาสูงสุดตอโหลดรวมพิกัดของระบบ<br />

อัตราสวนของความตองการประจุไฟฟาสูงสุดตอโหลดรวมพิกัดของระบบ<br />

ผลรวมของกําลังไฟฟาในยานธุรกิจในเมือง<br />

คําตอบ 2 : ผลรวมความตองการไฟฟาขณะต่ําสุดของระบบ<br />

คําตอบ 3 : ผลรวมความตองการไฟฟาขณะสูงสุดของระบบ<br />

คําตอบ 4 : ผลรวมพิกัดตอเนื่องของโหลดที่ตอกับระบบ<br />

การพยากรณคาโหลดในปอนาคตสามารถหาไดจากสมการใด เมื่อกําหนดให Ln = โหลดของปที่ n g = อัตราการเติบโตรายป Lo = โหลดเริ่มตน N = จํานวนปที่พยากรณ<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

Ln = Lo(1+ng)^n<br />

Ln = Lo(1+g)^ng<br />

Ln = Lo(1+g)^n<br />

Ln = Lo(1+n)^g<br />

43 of 237<br />

ขอที่ : 91<br />

ความหมายของความตองการกําลังสูงสุดคือขอใด


คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Minimum factor<br />

Maximum factor<br />

Maximum dem<strong>and</strong><br />

Minimum dem<strong>and</strong><br />

44 of 237<br />

ขอที่ : 92<br />

ความหมายของความตองการกําลังไฟฟาเฉลี่ยคือขอใด<br />

คําตอบ 1 : Average factor<br />

คําตอบ 2 : Average dem<strong>and</strong><br />

คําตอบ 3 : Maximum dem<strong>and</strong><br />

คําตอบ 4 : Minimum dem<strong>and</strong><br />

ขอที่ : 93<br />

กําลังผลิตไฟฟาจากประเภทของโรงไฟฟาในประเทศไทย ใหเรียงลําดับจากการผลิตจากโรงไฟฟามากที่สุดไปหาประเภทโรงไฟฟาที่มีกําลังผลิตต่ําสุด<br />

คําตอบ 1 : พลังงานน้ํา ไอน้ํา กาซเทอรไบน ดีเซล<br />

คําตอบ 2 : ไอน้ํา กาซเทอรไบน พลังงานน้ํา ดีเซล<br />

คําตอบ 3 : กาซเทอรไบน ไอน้ํา พลังงานน้ํา ดีเซล<br />

คําตอบ 4 : ไอน้ํา พลังงานน้ํา กาซเทอรไบน ดีเซล<br />

ขอที่ : 94<br />

โรงไฟฟาประเภทใดที่จายโหลดพื้นฐาน (Base load) ใหเลือกคําตอบที่ถูกตองสมบูรณที่สุด<br />

คําตอบ 1 : ไอน้ํา<br />

คําตอบ 2 : พลังงานน้ํา ไอน้ํา<br />

คําตอบ 3 : กาซเทอรไบน ไอน้ํา<br />

คําตอบ 4 : ไอน้ํา กาซเทอรไบน พลังงานน้ํา<br />

ขอที่ : 95<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

เขื่อนใดตอไปนี้เปนเขื่องคอนกรีตรูปโคง<br />

คําตอบ 1 : เขื่อนภูมิพล<br />

คําตอบ 2 : เขื่อนสิริกิต<br />

คําตอบ 3 : เขื่อนศรีนครินทร<br />

คําตอบ 4 : เขื่อนอุบลรัตน


ขอที่ : 96<br />

ถาตําแหนงของโหลดพรอมทั้งขนาดแสดงในรูปขางลาง จงหาตําแหนง (X, Y) ของสถานีไฟฟายอย ที่เหมาะสมซึ่งจะทําใหประหยัดสายไฟฟาที่สุด<br />

45 of 237<br />

ขอที่ : 97<br />

คําตอบ 1 : (10, 12)<br />

คําตอบ 2 : (20, 10)<br />

คําตอบ 3 : (30, 9)<br />

คําตอบ 4 : (40, 8)<br />

ราคาในการกอสรางของโรงไฟฟาชนิดใดตอไปนี้มีราคาแพงที่สุด<br />

คําตอบ 1 : โรงไฟฟาพลังงานน้ํา<br />

คําตอบ 2 : โรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา<br />

คําตอบ 3 : โรงไฟฟากังหันกาซ<br />

คําตอบ 4 : โรงไฟฟาดีเซล<br />

ขอที่ : 98<br />

Fuel cell คืออะไร<br />

ขอที่ : 99<br />

คําตอบ 1 : เชื้อเพลิงใหมซึ่งไดรับการพัฒนาขึ้นเพื่อใชแทนน้ํามันและถานหิน<br />

คําตอบ 2 : เทคโนโลยีการผลิตไฟฟาที่อาศัยกระบวนการทางไฟฟาเคมีระหวางไฮโดรเจนและออกซีเจน<br />

คําตอบ 3 : เชื้อเพลิงสําหรับใชในเตาปฎิกรณ<br />

คําตอบ 4 : แบตเตอรีชนิดใหม<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําวา Co-generation ในเรื่องของการผลิตไฟฟาหมายถึงอะไร<br />

คําตอบ 1 : ระบบการผลิตกระแสไฟฟาที่ใหทั้งพลังงานไฟฟาและพลังงานความรอน<br />

คําตอบ 2 : การเชื่อมตอกันของเครื่องกําเนิดไฟฟาหลายเครื่องเพื่อรวมกันจายพลังงาน<br />

คําตอบ 3 : การเชื่อมตอกันของเครื่องตนกําลังหลายเครื่องเพื่อชวยกันขับเครื่องกําเนิดไฟฟา<br />

คําตอบ 4 : ระบบการผลิตไฟฟาที่ใชโรงไฟฟากังหันกาซรวมกับโรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา


ขอที่ : 100<br />

ขอที่ : 101<br />

ขอที่ : 102<br />

โรงไฟฟาชนิดใดเหมาะที่จะใชเปน Base load plant<br />

คําตอบ 1 : โรงไฟฟานิวเคลียรและเครื่องจักรพลังไอน้ํา<br />

คําตอบ 2 : โรงไฟฟาพลังงานน้ําและโรงไฟฟาดีเซล<br />

คําตอบ 3 : โรงไฟฟากังหันกาซและโรงไฟฟาดีเซล<br />

คําตอบ 4 : โรงไฟฟาพลังงานไอน้ําและโรงไฟฟากังหันกาซ<br />

ขอใดกลาวไมถูกตอง<br />

คําตอบ 1 : โรงไฟฟาพลังงานน้ํามีอายุการใชงานนานกวาโรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา<br />

คําตอบ 2 : โรงไฟฟาพลังงานไอน้ําใชน้ําหลอเย็นมากกวาโรงไฟฟาดีเซล<br />

คําตอบ 3 : โรงไฟฟานิวเคลียรตองใช Condenser เชนเดียวกับโรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา<br />

คําตอบ 4 : โรงไฟฟากังหันกาซเหมาะจะใชเปน Base load plant<br />

ขอใดไมใชปจจัยหลักในการเลือกสถานที่ตั้งโรงไฟฟา<br />

คําตอบ 1 : ราคาของการสงถายพลังงานไฟฟาไปยังผูบริโภค<br />

คําตอบ 2 : กําลังการผลิต<br />

คําตอบ 3 : ราคาที่ดิน<br />

คําตอบ 4 : ความแข็งแรงของฐานราก<br />

ขอที่ : 103<br />

Water treatment plant อยูในโรงไฟฟาใด<br />

คําตอบ 1 : พลังงานไอน้ํา<br />

คําตอบ 2 : พลังงานน้ํา<br />

คําตอบ 3 : gas turbine<br />

คําตอบ 4 : ดีเซล<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

46 of 237<br />

ขอที่ : 104<br />

หมอแปลงขนาด 50 MVA 22kV/230 kV ซื้อมาในราคา 50 ลานบาท เมื่อครบอายุ 20 ป จะมีราคาซาก 2 ลานบาท คาเสื่อมราคาตอปของหมอแปลงนี้เมื่อคิดแบบสมการเสนตรง<br />

เปนเงิน<br />

คําตอบ 1 :<br />

2 ลานบาท


คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

2.4 ลานบาท<br />

2.5 ลานบาท<br />

ผิดทุกขอ<br />

47 of 237<br />

ขอที่ : 105<br />

เชื้อเพลิงที่ใชในโรงไฟฟากังหันกาซคือ<br />

คําตอบ 1 :<br />

กาซธรรมชาติอยางเดียว<br />

คําตอบ 2 : กาซธรรมชาติและน้ํามัน<br />

คําตอบ 3 : กาซธรรมชาติและถานหิน<br />

คําตอบ 4 : ถานหินอยางเดียว<br />

ขอที่ : 106<br />

Combined cycle power plant คือ<br />

ขอที่ : 107<br />

คําตอบ 1 : โรงไฟฟาพลังงานน้ําและดีเซลทํางานรวมกัน<br />

คําตอบ 2 : โรงไฟฟาพลังงานน้ําและความรอนทํางานรวมกัน<br />

คําตอบ 3 : โรงไฟฟาพลังงานความรอนและดีเซลทํางานรวมกัน<br />

คําตอบ 4 : โรงไฟฟากังหันกาซและพลังงานความรอนทํางานรวมกัน<br />

การจุดเตาของโรงไฟฟาพลังความรอนที่แมเมาะ ทําดังนี้<br />

คําตอบ 1 : จุดดวยถานหินที่บดจนปนเปนผง<br />

คําตอบ 2 : จุดดวยกาซ ตามดวยถานหินที่บดเปนผง<br />

คําตอบ 3 : จุดดวยกาซ ตามดวยน้ํามัน ตามดวยถานหินที่บดเปนผง<br />

คําตอบ 4 : จุดดวยน้ํามันตามดวยถานหินที่บดเปนผง<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอที่ : 108<br />

Cooling tower ในโรงไฟฟาพลังความรอน มีหนาที่<br />

คําตอบ 1 : ทําใหน้ําหลอเย็นอุนขึ้น<br />

คําตอบ 2 : ทําความเย็นภายในโรงไฟฟา<br />

คําตอบ 3 : ทําใหน้ําหลอเย็นเย็นลง<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ


ขอที่ : 109<br />

ขอที่ : 110<br />

ขอที่ : 111<br />

ขอที่ : 112<br />

น้ําหลอเย็นจากโรงไฟฟาที่จะปลอยทิ้งลงแมน้ํา โดยไมทําลายสิ่งแวดลอม ตองมีอุณหภูมิไมเกินกี่องศาเซลเซียส<br />

คําตอบ 1 : 29<br />

คําตอบ 2 : 32<br />

คําตอบ 3 : 35<br />

คําตอบ 4 : 38<br />

การพิจารณากําลังการผลิตไฟฟารวมของประเทศขึ้นอยูกับปจจัยใดบาง<br />

คําตอบ 1 : ความตองการไฟฟาสูงสุด (Maximum dem<strong>and</strong>)<br />

คําตอบ 2 : ความตองการไฟฟาที่เพิ่มขึ้นในแตละป (Growth of load)<br />

คําตอบ 3 : ระดับกําลังไฟฟาสํารอง (Reserve capacity)<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

โรงไฟฟาประเภทใดที่ตอบสนองตอการเปลี่ยนแปลงของโหลดไดรวดเร็วที่สุด<br />

คําตอบ 1 :<br />

โรงไฟฟานิวเคลียร<br />

คําตอบ 2 : โรงไฟฟาพลังน้ํา<br />

คําตอบ 3 : โรงไฟฟาพลังไอน้ํา<br />

คําตอบ 4 : โรงไฟฟาพลังความรอนรวม<br />

ถานหินที่มีคุณภาพดีที่สุดคือถานหินประเภทใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ถานหินพีท<br />

ถานหินแอนทราไซด<br />

ถานหินลิกไนต<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ถานหินบิทูมินัส<br />

48 of 237<br />

ขอที่ : 113<br />

การพิจารณาสถานที่ตั้งโรงไฟฟาพลังงานความรอนจะตองพิจารณาปจจัยใดบาง<br />

คําตอบ 1 : แหลงน้ํา<br />

คําตอบ 2 : ราคาที่ดินของโรงไฟฟา


คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ระยะทางระหวางศูนยกลางโหลดและโรงไฟฟา<br />

ถูกทุกขอ<br />

49 of 237<br />

ขอที่ : 114<br />

ขอที่ : 115<br />

ขอที่ : 116<br />

ขอที่ : 117<br />

ขอดีของการผลิตกระแสไฟฟาจากโรงไฟฟาดีเซลคืออะไร<br />

คําตอบ 1 : คาการผลิตกระแสไฟฟาที่ต่ํา<br />

คําตอบ 2 : ตอบสนองตอการเปลี่ยนแปลงของโหลดไดอยางรวดเร็ว<br />

คําตอบ 3 : คาบํารุงรักษาต่ํา<br />

คําตอบ 4 : ไมมีปญหาเรื่องเสียง<br />

โรงไฟฟา Gas turbine มี คาLoad factor = 0.82 คา Capacity factor = 0.70 และความตองการกําลังไฟฟาสูงสุดเทากับ 750 MW จงคํานวณหา พลังงานไฟฟาที่โรงไฟฟาผลิต<br />

ไดใน 24 ชั่วโมง<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

12,750 MWh<br />

13,500 MWh<br />

14,760 MWh<br />

15,500 MWh<br />

โหลด 4 กลุมตออยูกับโรงไฟฟาแหงหนึ่ง โดยโหลดแตละกลุมมีความตองการกําลังไฟฟาสูงสุดเทากับ 30 MW 20 MW 10 MW และ 14 MW และความตองการไฟฟาสูงสุดของ<br />

โรงไฟฟาคือ 60 MW หากกําหนดใหขนาดของโรงไฟฟาคือ 80 MW และ Load Factor = 0.6 จงคํานวณหา คาเฉลี่ยของโหลด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

12 MW<br />

18 MW<br />

36 MW<br />

44 MW<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอดีของโรงไฟฟาพลังน้ําไดแก<br />

คําตอบ 1 : ใชเวลากอสรางที่สั้น<br />

คําตอบ 2 : กําลังไฟฟาที่ตองการผลิตสามารถควบคุมไดโดยไมขึ้นกับปจจัยภายนอกอื่นๆ<br />

คําตอบ 3 : คาการผลิตกระแสไฟฟาต่ํา ไมตองใชเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟา<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ


ขอที่ : 118<br />

ขอใดตอไปนี้ไมใชเชื้อเพลิงหลักที่นํามาใชผลิตกระแสไฟฟาในเมืองไทย<br />

คําตอบ 1 : น้ํา<br />

คําตอบ 2 : ถานหิน<br />

คําตอบ 3 : กาซธรรมชาติ<br />

คําตอบ 4 : ยูเรเนียม<br />

ขอที่ : 119<br />

โรงไฟฟากําลังไอน้ําที่ใหญที่สุดในประเทศไทยตั้งอยูที่ใด<br />

คําตอบ 1 : กรุงเทพมหานคร<br />

คําตอบ 2 : ลําปาง<br />

คําตอบ 3 : ตาก<br />

คําตอบ 4 : ขอนแกน<br />

ขอที่ : 120<br />

เครื่องกําเนิดไฟฟาที่ติดตั้งอยูภายในโรงไฟฟาโดยทั่วไปมีระดับแรงดันผลิตอยูในชวงใด<br />

คําตอบ 1 : 0.1 – 1.0 kV<br />

คําตอบ 2 : 1.0 – 10.0 kV<br />

คําตอบ 3 : 10.0 – 20.0 kV<br />

คําตอบ 4 : 20.0 – 50.0 kV<br />

ขอที่ : 121<br />

ขอใดไมใชปจจัยที่นํามาใชเลือกสถานที่ตั้งโรงไฟฟาพลังความรอน<br />

คําตอบ 1 : ควรจะตั้งอยูใกลแหลงเชื้อเพลิง<br />

คําตอบ 2 : ราคาที่ดินสําหรับกอสรางโรงไฟฟาไมแพง<br />

คําตอบ 3 : ควรจะตั้งอยูใกลแหลงน้ํา<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 4 : ควรจะตั้งอยูใกลแหลงชุมชน<br />

50 of 237<br />

ขอที่ : 122<br />

โรงไฟฟาพลังความรอนแหงหนึ่งเดินเครื่องตลอดวัน มีกําลังผลิตติดตั้ง 20 MW จายโหลดสูงสุด 15 MW มีตัวประกอบโหลด (Load factor) 80% จงหาคา <strong>Plant</strong> use factor ของ<br />

โรงไฟฟา<br />

คําตอบ 1 : 0.5<br />

คําตอบ 2 : 0.6


คําตอบ 3 : 0.7<br />

คําตอบ 4 : 0.8<br />

51 of 237<br />

ขอที่ : 123<br />

ขอที่ : 124<br />

ขอที่ : 125<br />

ขอที่ : 126<br />

ระบบไฟฟากําลังแหงหนึ่งประกอบดวยโรงไฟฟาขนาด 20 MW จํานวน 4 แหง โรงไฟฟาขนาด 25 MW จํานวน 4 แหง และขนาด 30 MW จํานวน 8 แหง ถากําหนดใหระบบไฟฟา<br />

แหงนี้มี Load factor เทากับ 0.6 และจายโหลดเฉลี่ย 210 MW จงคํานวณ Spinning reserve ของระบบ<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

60 MW<br />

70 MW<br />

80 MW<br />

90 MW<br />

ขอใดตอไปนี้ไมใชโรงไฟฟาแบบ Thermal power plant<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Steam power plant<br />

Gas turbine power plant<br />

Combine cycle power plant<br />

Hydro power plant<br />

โรงไฟฟาแบบใดมีประสิทธิภาพมากที่สุด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Steam turbine power plant<br />

Gas turbine power plant<br />

Combine cycle power plant<br />

Renewable energy electric power plant<br />

ขอใดตอไปนี้ไมใชการผลิตไฟฟาโดยใชแรงดันของไอน้ํา<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

Diesel power plant<br />

Combine cycle power plant<br />

Nuclear power plant<br />

Steam turbine power plant


ขอที่ : 127<br />

ขอที่ : 128<br />

ขอที่ : 129<br />

ขอที่ : 130<br />

ในการเลือกขนาดของเครื่องกําเนิดไฟฟาสํารองของโรงไฟฟาจะเลือกขนาดพิกัดตามขอใด<br />

คําตอบ 1 : เลือกตามขนาดของเครื่องกําเนิดไฟฟาที่มีพิกัดต่ําที่สุด<br />

คําตอบ 2 : เลือกตามขนาดของเครื่องกําเนิดไฟฟาที่มีพิกัดที่ใหญที่สุด<br />

คําตอบ 3 : เลือกตามขนาดของคาเฉลี่ยของโหลดที่ตออยูในระบบ<br />

คําตอบ 4 : เลือกตามคา Load factor<br />

โรงไฟฟาชนิดใดใชเดินเครื่องชวงที่เปน Peak load<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Steam turbine power plant<br />

Combine cycle power plant<br />

Diesel power plant<br />

Gas turbine power plant<br />

ในการคิดคาเสื่อมราคา โรงจักรแบบใดมีคาเสื่อมราคานอยที่สุด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Steam turbine power plant<br />

Combine cycle power plant<br />

Hydro power plant<br />

Gas turbine power plant<br />

หมอแปลงไฟฟาขนาดพิกัด 1,000 kVA 22 kV / 416 V จัดซื้อดวยวิธีการประมูลในราคา 350,000 บาท หมอแปลงไฟฟานี้มีอัตราคาเสื่อมราคา 10 % ตอป ทางโรงงานมีแนวโนม<br />

ที่จะเปลี่ยนหมอแปลงใหมีพิกัดที่ใหญขึ้น ในอีก 7 ป ใหหาราคาเมื่อตองการขายหมอแปลงนี้ในอีก 7 ปขางหนา ดวยวิธี Reducing balance method<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

105,000 บาท<br />

167,670 บาท<br />

245,000 บาท<br />

315,000 บาท<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

52 of 237<br />

ขอที่ : 131<br />

โรงไฟฟาแบบ Steam turbine power plant ที่ใชเชื้อเพลิงแบบถานหิน มีคา Fixed cost เทากับ 9,800 บาท/kW ที่ติดตั้งตอป และโรงไฟฟานี้มีคาใชจายในการขนสงและคาแรง<br />

งานของพนักงาน 5.5 บาทตอ kWh ใหคํานวณหาคาใชจายรวมตอชั่วโมงของโรงไฟฟานี้เมื่อ Load factor มีคาเทากับ 65 %<br />

คําตอบ 1 :<br />

1.12 บาท


คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

5.5 บาท<br />

9.075 บาท<br />

35.75 บาท<br />

53 of 237<br />

ขอที่ : 132<br />

ขอที่ : 133<br />

ขอที่ : 134<br />

ขอที่ : 135<br />

ในการพยากรณความตองการใชไฟฟาของประเทศไทยในอนาคตพบวา คาตัวประกอบโหลดของประเทศมีแนวโนมเพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลา หากทานเปนผูวางแผนกําลังการผลิตไฟฟา<br />

ของประเทศ ทานคิดวาควรกอสรางโรงไฟฟาประเภทใดเพิ่มขึ้นในระบบจึงจะเหมาะสมที่สุด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Base-load<br />

Intermediate-load<br />

Peak-load<br />

Emergency-load<br />

ตามปกติในชวงเวลาโหลดสูงสุด (Peak-load) ความตองใชไฟฟาจะมีคาเพิ่มขึ้นอยางรวดเร็ว ทานควรจะใชโรงจักรประเภทใดตอไปนี้ในการจายโหลดสวนที่เพิ่มขึ้นในชวงเวลาดัง<br />

กลาวจึงจะเหมาะสมและประหยัดคาใชจาย<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

โรงไฟฟาพลังความรอนขนาดใหญ<br />

โรงไฟฟากังหันกาซ<br />

โรงไฟฟาดีเซล<br />

โรงไฟฟาพลังแสงอาทิตย<br />

หากมีเชื้อเพลิงหรือแหลงตนกําลังพอเพียง ทานคิดวาโรงไฟฟาชนิดใดตอไปนี้มีคาความพรอมในการใชงาน (Availability) สูงที่สุด<br />

คําตอบ 1 : โรงไฟฟาพลังงานไอน้ําที่ใชถานหิน<br />

คําตอบ 2 : โรงไฟฟาพลังงานไอน้ําที่ใชกาซธรรมชาติ<br />

คําตอบ 3 : โรงไฟฟาพลังความรอนรวม<br />

คําตอบ 4 : โรงไฟฟาพลังงานน้ํา<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

โรงไฟฟาประเภทใดตอไปนี้ มีประสิทธิภาพรวมในการเดินเครื่องที่คาพิกัดสูงที่สุด<br />

คําตอบ 1 : โรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา<br />

คําตอบ 2 : โรงไฟฟากังหันกาซ<br />

คําตอบ 3 : โรงไฟฟาพลังงานความรอนรวม<br />

คําตอบ 4 : โรงไฟฟาดีเซล


ขอที่ : 136<br />

ขอที่ : 137<br />

ขอที่ : 138<br />

ขอที่ : 139<br />

โรงไฟฟาขนาด 500 MW แหงหนึ่งมีคาใชจายในการผลิตไฟฟาตามสมการ C(P) = P2+ 320 P + 80,000 บาท/ชั่วโมง คาใชจายในการผลิตตอหนวยสุดทาย (Marginal cost)<br />

ขณะที่โรงไฟฟาแหงนี้จายไฟฟาที่ 400 MW คือเทาใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

520 บาท/MWh<br />

920 บาท/MWh<br />

1,120 บาท/MWh<br />

1,600 บาท/MWh<br />

เครื่องกําเนิดไฟฟาซิงโครนัสขนาด 4 ขั้วติดตั้งทํางานอยูในโรงไฟฟาแหงหนึ่งในภาคใต โรเตอรของเครื่องกําเนิดไฟฟาเครื่องนี้ตองการหมุนที่ความเร็วกี่ rpm.<br />

คําตอบ 1 : 1,000<br />

คําตอบ 2 : 1,200<br />

คําตอบ 3 : 1,500<br />

คําตอบ 4 : 3,000<br />

ขอใดตอไปนี้ไมเกี่ยวของกับการควบคุมกําลังไฟฟาที่ผลิต ณ โรงไฟฟาโดยตรง<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Load frequency control (LFC)<br />

Automatic voltage regulator (AVR)<br />

Automatic generation control (AGC)<br />

On-Load tap changing (OLTC)<br />

ในการเลือกชนิดของโรงจักรจะตองพิจารณาสิ่งใดบาง<br />

คําตอบ 1 :<br />

ขนาดกําลังผลิต / หนวยการผลิต<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 2 : ธรรมชาติของโหลดที่จะจาย<br />

คําตอบ 3 : ชนิดของเชื้อเพลิง<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

54 of 237<br />

ขอที่ : 140<br />

ในการเลือกสถานที่กอสรางโรงจักรจะตองพิจารณาสิ่งใดบาง<br />

คําตอบ 1 : ระยะทางสายสง


คําตอบ 2 : การขนสงเชื้อเพลิง<br />

คําตอบ 3 : การขนสงน้ําและมลภาวะ<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

55 of 237<br />

ขอที่ : 141<br />

ขอที่ : 142<br />

ขอที่ : 143<br />

ขอที่ : 144<br />

ทําไมโรงจักรไฟฟาบอนอกและบานหินกรูดจึงถูกระงับการกอสราง<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

เพราะขาดเงินทุน<br />

เพราะการตอตานจากชุมชน<br />

คําตอบ 3 : มีผลกระทบตอสิ่งแวดลอม<br />

คําตอบ 4 : ถูกทั้งขอ 2 และ 3<br />

ในการลงทุนสรางโรงจักรไฟฟาขอใดที่ไมใช Variable cost<br />

คําตอบ 1 : ราคาเชื้อเพลิง<br />

คําตอบ 2 : เงินเดือนพนักงาน<br />

คําตอบ 3 : อัตราดอกเบี้ย<br />

คําตอบ 4 : คาซอมบํารุง<br />

ในการลงทุนสรางโรงจักรไฟฟา ขอใดที่ไมใช Fixed cost<br />

คําตอบ 1 : งบประมาณที่ใชจายประจําป<br />

คําตอบ 2 : อัตราดอกเบี้ย<br />

คําตอบ 3 : การประกันภัย<br />

คําตอบ 4 : ราคาโรงจักร<br />

การขายพลังงานไฟฟาใหกับผูใชไฟฟาประกอบดวยคาอะไรบางตอไปนี้<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

kWh<br />

kW สูงสุด<br />

Ft<br />

ถูกทุกขอ


ขอที่ : 145<br />

ขอที่ : 146<br />

ขอที่ : 147<br />

ขอที่ : 148<br />

ในการผลิตพลังงานไฟฟาจายใหกับผูใชไฟถา Load factor เทากับ 99 % จะทําใหตนทุนในการผลิต / kWh เปนอยางไร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ถูก<br />

แพง<br />

ปานกลาง<br />

ถูกทุกขอ<br />

ในหนึ่งโรงจักรใดๆ ขนาดและจํานวนหนวยการผลิตที่เหมาะสมควรอยูระหวางกี่หนวยผลิต<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

1 หนวยผลิต<br />

2 – 10 หนวยผลิต<br />

มากกวา 10 หนวยผลิต<br />

ถูกทุกขอ<br />

ถาโรงจักรผลิตกําลังผลิตตามแผนการผลิตเทากับ 100 MW แลวผูใช ใชตาม Load curve เทากับ 95 MW ณ เวลาใดๆ โรงจักรนี้จะมี Hot reserve เทาใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

10 MW<br />

9 MW<br />

5 MW<br />

1 MW<br />

ในโรงจักรหนึ่งมี Hot reserve เทากับ 50 MW แลวโรงจักรเชื่อมตอกับโรงจักรสองดวยสายสงถาโรงจักรสองตองการสายสงกําลังไฟฟาเพิ่ม 40 MW โรงจักรหนึ่งจะจาย Spinning<br />

reserve ใหโรงจักรสองเทาใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

50 MW<br />

40 MW<br />

10 MW<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 4 : ไมมีคําตอบที่ถูกตอง<br />

56 of 237<br />

ขอที่ : 149<br />

โรงจักรหนึ่งมี 4 หนวยผลิตๆ ละ 500 MW จงหากําลังผลิตยามปกติวามีคาเทาไร<br />

คําตอบ 1 : 2000 MW<br />

คําตอบ 2 : 1500 MW


คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

1000 MW<br />

500 MW<br />

57 of 237<br />

ขอที่ : 150<br />

ขอที่ : 151<br />

ขอที่ : 152<br />

ขอที่ : 153<br />

โรงจักรหนึ่งมีหนวยผลิต ๆ ละ 500 MW จงหากําลังผลิตสํารองเทาไร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

200 MW<br />

1,500 MW<br />

1,000 MW<br />

500 MW<br />

โรงจักรหนึ่งมี 4 หนวยผลิตๆละ 500 MW จงหากําลังผลิตสูงสุดที่โรงจักรสามารถผลิตได<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

2,000 MW<br />

1,500 MW<br />

1,000 MW<br />

500 MW<br />

ถาโรงจักรจายกําลังผลิตใหกับผูใชไฟเทากับ 60 % ของกําลังผลิตสูงสุดหมายถึงมีคาใดเทากับ 60 %<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

<strong>Plant</strong> use factor<br />

<strong>Plant</strong> capacity factor<br />

Installation capacity<br />

Cold reserve<br />

ถาโรงจักรกําลังผลิตใหกับผูใชไฟเทากับ 60 % ของกําลังผลิตสูงสุดจะเหลือกําลังผลิตสํารองกี่เปอรเซนต<br />

คําตอบ 1 : 40 %<br />

คําตอบ 2 : 30 %<br />

คําตอบ 3 : 20 %<br />

คําตอบ 4 : 10 %<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอที่ : 154


ถาโรงจักรจายกําลังผลิตใหกับผูใชไฟเทากับ 99 % ของกําลังผลิตยามปกติหมายถึงคาใดเทากับ 99 %<br />

คําตอบ 1 : <strong>Plant</strong> use factor<br />

คําตอบ 2 : <strong>Plant</strong> capacity factor<br />

คําตอบ 3 : Installation capacity<br />

คําตอบ 4 : Cold reserve<br />

58 of 237<br />

ขอที่ : 155<br />

ขอที่ : 156<br />

ขอที่ : 157<br />

ขอที่ : 158<br />

ถาโรงจักรจายกําลังผลิตใหกับผูใชไฟเทากับ 99 % ของกําลังผลิตยามปกติจงหาวา Hot reserve มีคากี่เปอรเซ็นต<br />

คําตอบ 1 : 100 %<br />

คําตอบ 2 : 99 %<br />

คําตอบ 3 : 1 %<br />

คําตอบ 4 : 0 %<br />

ทําไมตองติดตั้งกําลังผลิตสํารองเพิ่มอีก 1 หนวยผลิตในโรงจักรใดๆ<br />

คําตอบ 1 : เพิ่ม Stability ของโรงจักร<br />

คําตอบ 2 : เพิ่ม Reliability ของโรงจักร<br />

คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />

คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />

หนวยงานหลักที่รับผิดชอบระบบผลิตไฟฟาของประเทศไทย ณ ปจจุบัน คือ หนวยงานใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

กฟน.<br />

กฟผ.<br />

กฟภ.<br />

IPP และ SPP<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอใดตอไปนี้ควรคํานึงถึง นอยที่สุด ในการวางแผนกอสรางโรงไฟฟา<br />

คําตอบ 1 : แหลงเชื้อเพลิง และการขนสงเชื้อเพลิง<br />

คําตอบ 2 : เทคโนโลยีที่ทันสมัย<br />

คําตอบ 3 : ผลกระทบตอสิ่งแวดลอม


คําตอบ 4 : ขนาดกําลังการผลิตติดตั้ง<br />

ขอที่ : 159<br />

ขอที่ : 160<br />

ขอที่ : 161<br />

ขอที่ : 162<br />

ขอใด ไมใช การจําแนกประเภทของโหลด เพื่อใชในการวางแผนผลิตไฟฟา<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Base load<br />

Intermediate load<br />

Emergency load<br />

Reserved load<br />

โรงไฟฟาประเภทใดในปจจุบัน มีตนทุนคาเชื้อเพลิงตอหนวยการผลิตไฟฟาสูงที่สุด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

โรงไฟฟาพลังความรอน<br />

โรงไฟฟานิวเคลียร<br />

คําตอบ 3 : โรงไฟฟาเครื่องยนตดีเซล<br />

คําตอบ 4 : โรงไฟฟาพลังงานแสงอาทิตย<br />

โรงไฟฟาประเภทใดในปจจุบันมีตนทุนการผลิตตอหนวยพลังงานไฟฟาที่ได สูงที่สุด เมื่อคิดตลอดอายุการใชงานของโรงไฟฟา<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

โรงไฟฟาพลังความรอน<br />

โรงไฟฟาพลังความรอนรวม<br />

โรงไฟฟาดีเซล<br />

โรงไฟฟาพลังแสงอาทิตย<br />

โรงไฟฟาประเภทใดตอไปนี้มีประสิทธิภาพการผลิตไฟฟาสูงที่สุด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

โรงไฟฟาพลังงานความรอนรวม<br />

โรงไฟฟากังหันกาซ<br />

คําตอบ 3 : โรงไฟฟากังหันไอน้ํา<br />

คําตอบ 4 : โรงไฟฟาพลังงานแสงอาทิตย<br />

59 of 237<br />

ขอที่ : 163<br />

โรงไฟฟาใดตอไปนี้ที่ไมเสียคาใชจายเชื้อเพลิง


คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Hydro power plant<br />

Steam turbine power plant<br />

Gas turbine power plant<br />

Combine cycle power plant<br />

60 of 237<br />

ขอที่ : 164<br />

ขอที่ : 165<br />

ขอที่ : 166<br />

ขอที่ : 167<br />

ในประเทศไทยมีโรงไฟฟากี่ชนิดที่รวมกันจายกําลังผลิตเขาระบบของประเทศแลวควบคุมจากศูนยควบคุมการผลิตและสงจายกําลังไฟฟาของประเทศไทย<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

5 ชนิด<br />

6 ชนิด<br />

7 ชนิด<br />

8 ชนิด<br />

การควบคุมการรวมกันจายกําลังผลิตเขาระบบไฟฟาของประเทศไทยแบงการควบคุมออกเปนกี่พื้นที่<br />

คําตอบ 1 : 2 พื้นที่<br />

คําตอบ 2 : 3 พื้นที่<br />

คําตอบ 3 : 4 พื้นที่<br />

คําตอบ 4 : 5 พื้นที่<br />

ถาประเทศไทยมีโรงไฟฟานิวเคลียร และโรงไฟฟาพลังงานน้ําแบบ Run off river และ Tidal plant เสริมเขาระบบของประเทศ จะมีผลอยางไร<br />

คําตอบ 1 :<br />

ทําให คาไฟฟา / MWh ลดลง<br />

คําตอบ 2 : ทําให คาไฟฟา / MWh เพิ่มขึ้น<br />

คําตอบ 3 : ทําให คาไฟฟา / MWh คงที่<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ในป พ.ศ. 2548 ประเทศไทยไดเซ็นตสัญญาซื้อพลังงานไฟฟาจากประเทศใดมาเสริมความตองการกําลังไฟฟาของประเทศ<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ลาว<br />

มาเลเซีย<br />

เวียดนาม<br />

จีน


ขอที่ : 168<br />

ขอที่ : 169<br />

ขอที่ : 170<br />

ขอที่ : 171<br />

สายสงพลังงานไฟฟาที่ประเทศไทยซื้อพลังงานไฟฟาจากมาเลเซียเปนสายสงชนิดใดและแรงดันเทาใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

DC 600 kV<br />

AC 600 kV<br />

DC 500 kV<br />

AC 500 kV<br />

ถาจะทําให <strong>Power</strong> loss ในสายสงรวมของประเทศไทยลดนอยลงควรจะปรับปรุงเปนระดับแรงดันเปนเทาใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

115 kV<br />

230 kV<br />

500 kV<br />

ถูกทุกขอ<br />

ทานเปนรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของประเทศไทย ทานคิดวาทานจะสรางโรงไฟฟาชนิดใด จึงจะพัฒนาประเทศไทยใหแขงขันในเชิงการคากับนาๆประเทศได<br />

คําตอบ 1 : โรงไฟฟานิวเคลียร<br />

คําตอบ 2 : โรงไฟฟาพลังงาน Hydrogen<br />

คําตอบ 3 : โรงไฟฟาพลังงานน้ําแบบ Run off river และ Tidal<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ตามภูมิประเทศของประเทศไทย โรงไฟฟาพลังงานน้ําชนิดใดที่ควรจะสรางเพิ่มเติม<br />

คําตอบ 1 : พัฒนา Reservoir plant ใหมีจํานวนชั้นมากกวา 1 ชั้น<br />

คําตอบ 2 : พัฒนา Reservoir plant เดิมใหเปน Pump storage plant<br />

คําตอบ 3 : สราง Run off river plant และ Tidal power plant<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

61 of 237<br />

ขอที่ : 172<br />

เขื่อนใดในประเทศลาวที่ผลิตไฟฟาขายใหประเทศไทย<br />

คําตอบ 1 : . เขื่อนน้ํางึม


คําตอบ 2 : เขื่อนน้ําเทิน<br />

คําตอบ 3 : เขื่อนน้ํางัด<br />

คําตอบ 4 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />

62 of 237<br />

ขอที่ : 173<br />

ขอที่ : 174<br />

ขอที่ : 175<br />

ขอที่ : 176<br />

จีนขายพลังงานไฟฟาใหประเทศไทยดวยสายสงแรงดันเทาไร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

230 kV<br />

500 kV<br />

600 kV<br />

1,000 kV<br />

ภายในศูนยควบคุมการผลิตและสงจายกําลังไฟฟาของประเทศไทย ประกอบดวยระบบใดบาง<br />

คําตอบ 1 :<br />

Computer<br />

คําตอบ 2 : สื่อสาร<br />

คําตอบ 3 : Load <strong>and</strong> Frequency control<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

การเลือกสรางชนิดของโรงจักรจะตองพิจารณาจากขอใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

ขนาดกําลังการผลิต<br />

คําตอบ 2 : เลือกสถานที่กอสราง<br />

คําตอบ 3 : ระยะทางของสายสงตองสั้นที่สุด<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ความหมายของ Cold reserve คือขอใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

กําลังผลิตสํารอง<br />

กําลังผลิตปกติ<br />

หนวยผลิตยามฉุกเฉิน<br />

ขอ 1 และ 3 ถูก


ขอที่ : 177<br />

ขอที่ : 178<br />

ขอที่ : 179<br />

ขอที่ : 180<br />

โรงจักรชนิดใดเหมาะที่จะใชในกรณีฉุกเฉิน<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

โรงไฟฟาดีเซล<br />

โรงไฟฟาพลังความรอน<br />

โรงไฟฟานิวเคลียร<br />

ถูกทุกขอ<br />

ขอดีของโรงไฟฟาพลังน้ําคือขอใด<br />

คําตอบ 1 : เดินเครื่องไดรวดเร็ว<br />

คําตอบ 2 : เสียคาเชื้อเพลิงต่ํา<br />

คําตอบ 3 : สามารถนําน้ําไปใชในการเกษตรได<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขอใดไมใชเชื้อเพลิงสําหรับโรงไฟฟาที่มีในประเทศไทย<br />

คําตอบ 1 : น้ํามันเตา<br />

คําตอบ 2 : แกสธรรมชาติ<br />

คําตอบ 3 : ถานหิน<br />

คําตอบ 4 : ธาตุยูเรเนียม<br />

โรงไฟฟาพลังงานทดแทนใชแหลงพลังงานจากขอใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

พลังงานจากแสงแดด<br />

พลังงานจากความรอนใตพิภพ<br />

พลังงานจากการแตกตัวของธาตุ<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอ 1และ 2 ถูก<br />

63 of 237<br />

ขอที่ : 181<br />

การกําหนดขนาดหนวยผลิตสํารองมีวิธีการกําหนดอยางไร<br />

คําตอบ 1 : กําหนดเทากับหนวยที่ใหญที่สุดในโรงไฟฟา<br />

คําตอบ 2 : กําหนดเทากับหนวยที่เล็กที่สุดในโรงไฟฟา


คําตอบ 3 : กําหนดเทากับหนวยผลิตเฉลี่ยทั้งโรงไฟฟา<br />

คําตอบ 4 : ไมมีขอถูก<br />

64 of 237<br />

ขอที่ : 182<br />

ขอที่ : 183<br />

ขอที่ : 184<br />

ขอที่ : 185<br />

โรงไฟฟานิวเคลียรมีลักษณะการทํางานคลายกับโรงไฟฟาในขอใด<br />

คําตอบ 1 : โรงไฟฟาพลังน้ํา<br />

คําตอบ 2 : โรงไฟฟากังหันแกส<br />

คําตอบ 3 : โรงไฟฟาพลังความรอน<br />

คําตอบ 4 : โรงไฟฟาดีเซล<br />

การพิจารณาสถานที่ตั้งโรงไฟฟานิวเคลียร ควรพิจารณาจากขอใด<br />

คําตอบ 1 : มีแหลงน้ําเพียงพอ<br />

คําตอบ 2 : อยูใกลจุดศูนยกลางโหลด<br />

คําตอบ 3 : หางไกลแหลงชุมชน<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

การใชงานของโรงจักร Diesel มีกี่แบบ<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

1 แบบ<br />

2 แบบ<br />

8 แบบ<br />

10 แบบ<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คุณสมบัติใดที่ไมใชเปนของเครื่องกําเนิดดีเซล<br />

คําตอบ 1 : เดินเครื่องไดเร็ว<br />

คําตอบ 2 : จายกําลังไฟฟาไดนอยเมื่อเทียบกับโรงจักรอื่นๆ<br />

คําตอบ 3 : เหมาะสําหรับการจายโหลดสูง(Peak load)<br />

คําตอบ 4 : ตองทํางานรวมกับเครื่องกําเนิดกาซเทอรไบน<br />

ขอที่ : 186


ขอความใดไมถูกตอง<br />

คําตอบ 1 : เครื่องจักรดีเซล 4 จังหวะ หมายถึงการเคลื่อนของลูกสูบทํางาน 4 จังหวะ<br />

คําตอบ 2 : ที่ความเร็วเทากันและขนาดเทากันเครื่องยนตดีเซลแบบ 2 จังหวะใหกําลังงานออกมามากกวา<br />

คําตอบ 3 : กาซเสียที่เหลือในการเผาไหมของเชื้อเพลิงในเครื่องยนต 2 จังหวะมีมากกวาแบบเครื่องยนต 4 จังหวะ<br />

คําตอบ 4 : เครื่องยนต 4 จังหวะสามารถหมุนในทิศทางใดก็ไดซึ่งเปนขอไดเปรียบเครื่องยนต 2 จังหวะ<br />

65 of 237<br />

ขอที่ : 187<br />

โรงไฟฟาดีเซลมีขอเสียเมื่อเทียบกับเครื่องกําเนิดหรือโรงไฟฟาแบบอื่นๆคือ<br />

คําตอบ 1 : ราคาเชื่อเพลิงสูงเมื่อเทียบกับถานหิน<br />

คําตอบ 2 : คาหลอลื่นในเครื่องยนตดีเซลสูง<br />

คําตอบ 3 : กําลังโหลดเกินของเครื่องมีขีดจํากัด<br />

คําตอบ 4 : ใชน้ําเพื่อระบายความรอนมาก<br />

ขอที่ : 188<br />

ประสิทธิภาพเครื่องกลหรือทางกล(Mechanical efficiency) หมายถึง<br />

ขอที่ : 189<br />

คําตอบ 1 : อัตราสวนของกําลังมาแรงบิด(Brake horse power) หรือ กําลังมาอินดิเกต(Indicated horse power)ตอพลังงานความรอนที่ไดจากเชื้อเพลิงในชวงเวลาเดียวกัน<br />

คําตอบ 2 : อัตราสวนของกําลังมาแรงบิด(Brake horse power) ตอ กําลังมาอินดิเกต(Indicated horse power)<br />

คําตอบ 3 : อัตราสวนของปริมาตรอากาศ Va ที่เขามาในกระบอกสูบที่อุณหภูมิและความดันปกติตอปริมาตรการดูดของลูกสูบ Vs<br />

คําตอบ 4 : อัตราสวนของประสิทธิภาพความรอนอินดิเกตตอประสิทธิภาพความรอนอุดมคติ<br />

ประสิทธิภาพความรอน คือ<br />

คําตอบ 1 : อัตราสวนของกําลังมาแรงบิด(Brake horse power) หรือ กําลังมาอินดิเกต(Indicated horse power)ตอพลังงานความรอนที่ไดจากเชื้อเพลิงในชวงเวลาเดียวกัน<br />

คําตอบ 2 : อัตราสวนของกําลังมาแรงบิด(Brake horse power) ตอ กําลังมาอินดิเกต(Indicated horse power)<br />

คําตอบ 3 : อัตราสวนของปริมาตรอากาศ Va ที่เขามสในกระบอกสูบที่อุณหภูมิและความดันปกติตอปริมาตรการดูดของลูกสูบ Vs<br />

คําตอบ 4 : อัตราสวนของประสิทธิภาพความรอนอินดิเกตตอประสิทธิภาพความรอนอุดมคติ<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอที่ : 190<br />

ประสิทธิภาพสัมพัทธ(relative efficiency)<br />

คําตอบ 1 : อัตราสวนของกําลังมาแรงบิด(Brake horse power) หรือ กําลังมาอินดิเกต(indicated horse power)ตอพลังงานความรอนที่ไดจากเชื้อเพลิงในชวงเวลาเดียวกัน<br />

คําตอบ 2 : อัตราสวนของกําลังมาแรงบิด(Brake horse power) ตอ กําลังมาอินดิเกต(indicated horse power)<br />

คําตอบ 3 : อัตราสวนของปริมาตรอากาศ Va ที่เขามสในกระบอกสูบที่อุณหภูมิและความดันปกติตอปริมาตรการดูดของลูกสูบ Vs


คําตอบ 4 :<br />

อัตราสวนของประสิทธิภาพความรอนอินดิเกตตอประสิทธิภาพความรอนอุดมคติ<br />

ขอที่ : 191<br />

ขอที่ : 192<br />

ขอที่ : 193<br />

ขอดีของโรงไฟฟาดีเซลคือขอใด<br />

คําตอบ 1 : เดินเครื่องไดรวดเร็ว<br />

คําตอบ 2 : เหมาะที่จะเปนโรงไฟฟาสํารองหรือโรงไฟฟาฉุกเฉิน<br />

คําตอบ 3 : สามารถเคลื่อนยายไดสะดวกกวาโรงไฟฟาชนิดอื่น<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขอใดที่ไมใช จังหวะการทํางานของเครื่องยนตดีเซล 4 จังหวะ<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Suction<br />

Compression<br />

Ignition<br />

Extinction<br />

เครื่องยนตดีเซล 2 จังหวะตางจาก 4 จังหวะอยางไร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ไมมี Suction stroke<br />

ไมมี Compression stroke<br />

ไมมี Ignition stroke<br />

ไมมี Expansion stroke<br />

ขอที่ : 194<br />

Super-charging มีหนาที่อะไร<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 1 : ทําหนาที่เพิ่มน้ําหนักของอากาศเขาลูกสูบมากขึ้น ทําใหฉีดน้ํามันไดมากขึ้น<br />

คําตอบ 2 : เปนการเพิ่มกําลังเครื่องยนตดีเซลโดยประสิทธิภาพไมเปลี่ยน<br />

คําตอบ 3 : ใชเพิ่มกําลังเครื่องยนตที่อยูสูงจากระดับน้ําทะเล<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

66 of 237<br />

ขอที่ : 195<br />

<strong>Power</strong> output ของเครื่องยนตดีเซลสัมพันธกับการติดตั้งที่ความสูงเหนือระดับน้ําทะเลอยางไร


คําตอบ 1 : Rated power output ของเครื่องยนตดีเซลจะลดลงเมื่อความสูงเพิ่มขึ้น<br />

คําตอบ 2 : Rated power output ของเครื่องยนตดีเซลจะเพิ่มขึ้นเมื่อความสูงเพิ่มขึ้น<br />

คําตอบ 3 : Rated power output ของเครื่องยนตดีเซลจะไมเกี่ยวของกับความสูง<br />

คําตอบ 4 : Rated power output ของเครื่องยนตดีเซลจะคงที่เสมอ<br />

67 of 237<br />

ขอที่ : 196<br />

ขอที่ : 197<br />

ขอที่ : 198<br />

ขอที่ : 199<br />

ขอใดไมใชวิธี Cooling สําหรับเครื่องยนตดีเซลที่ใชในโรงไฟฟาดีเซล<br />

คําตอบ 1 : ใชน้ําจากแหลงน้ําธรรมชาติปมเขามาแลวปลอยออกไป<br />

คําตอบ 2 : ใช Ice cooling ในการผลิตน้ําแข็งเพื่อหลอเย็น<br />

คําตอบ 3 : ใช Cooling tower ในโรงไฟฟาขนาดใหญและกรณีที่น้ําขาดแคลน<br />

คําตอบ 4 : ใชบอ Cooling water pond อาจใชการ spray ชวยในกรณีที่น้ําในบออุณหภูมิสูงเกินไป<br />

ขอใดไมถือเปนคาใชจายในการดําเนินงานของโรงจักรดีเซล<br />

คําตอบ 1 : คาเสื่อมราคา<br />

คําตอบ 2 : คาน้ํามันเชื้อเพลิง<br />

คําตอบ 3 : คาน้ํามันหลอลื่น<br />

คําตอบ 4 : คาน้ําสําหรับหลอเย็น<br />

โรงไฟฟาดีเซลไมนิยมใชในกรณีใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Base-load plant<br />

Peak-load plant<br />

St<strong>and</strong>by plant<br />

Emergency plant<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คุณสมบัติใดที่แสดงวาเครื่องยนตนั้นเปนเครื่องยนตดีเซล<br />

คําตอบ 1 : มีหัวฉีดน้ํามันเชื้อเพลิง<br />

คําตอบ 2 : มีการดูดไอดีเขาหองเผาไหม<br />

คําตอบ 3 : ใชปมเชื้อเพลิงความดันสูง<br />

คําตอบ 4 : ไมมีหัวเทียน


ขอที่ : 200<br />

ขอที่ : 201<br />

ขอที่ : 202<br />

ขอที่ : 203<br />

การเปดสวิทชในการสตารทเครื่องยนตดีเซลนานติดตอกันมีผลเสียอยางไร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

เฟองของมอเตอรชํารุด<br />

เปลืองไฟ<br />

มอเตอรรอนจัด<br />

คําตอบ 4 : เครื่องยนตชํารุด<br />

ขอดีของการวางกระบอกสูบแบบวีคือ<br />

คําตอบ 1 :<br />

งายตอการซอมแซม<br />

คําตอบ 2 : เครื่องยนตหมุนเรียบขึ้น<br />

คําตอบ 3 : ประหยัดเนื้อที่ในแนวตั้ง<br />

คําตอบ 4 : เพลาขอเหวี่ยงมีความแข็งแรงมากขึ้น<br />

ลอชวยแรง (Flywheel) มีประโยชนอยางไร<br />

คําตอบ 1 : ทําใหเครื่องยนตมีแรงเฉื่อยมากขึ้น<br />

คําตอบ 2 : ชวยลดแรงกระทําตอลูกสูบ<br />

คําตอบ 3 : การสตารทเครื่องสะดวก รวดเร็วมากขึ้น<br />

คําตอบ 4 : เครื่องยนตหมุนเรียบสม่ําเสมอ<br />

การดูแลรักษาเครื่องยนตดีเซล ควรปฏิบัติอยางไร<br />

คําตอบ 1 : เดินเครื่องตัวเปลากอนจายภาระ<br />

คําตอบ 2 : เปลี่ยนน้ํามันหลอลื่นตามกําหนด<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 3 : ถายน้ําระบายความรอนออกใหหมด เมื่อตองหยุดเครื่องนานๆ<br />

คําตอบ 4 : ตรวจเติมนําระบายความรอน<br />

68 of 237<br />

ขอที่ : 204<br />

ขอใดตอไปนี้ไมถูกตอง<br />

คําตอบ 1 : โรงไฟฟาดีเซลสามารถนํามาติดตั้งบนรถบรรทุกเคลื่อนที่เพื่อใชเปน Mobile plant ได


คําตอบ 2 :<br />

โรงไฟฟาดีเซลสามารถนํามาจาย Auxiliary power ใหโรงไฟฟาพลังความรอนขนาดใหญได<br />

คําตอบ 3 : Operating cost ต่ํา<br />

คําตอบ 4 : มีประสิทธิภาพสูง ถึงแมจะจายที่ Light load<br />

69 of 237<br />

ขอที่ : 205<br />

ขอที่ : 206<br />

ขอที่ : 207<br />

ขอที่ : 208<br />

ขอใดตอไปนี้ถูกตอง<br />

คําตอบ 1 : โรงไฟฟาดีเซลขนาดเล็กใชการระบายความรอนดวยน้ําเปนสวนใหญ<br />

คําตอบ 2 : หลักการทํางานของโรงไฟฟาดีเซลเปนไปตามวัฏจักรเบรยตัน (Brayton cycle)<br />

คําตอบ 3 : Common rail injection system เปนระบบที่ทําหนาที่ใหโมเลกุลของน้ํามันเกิดการแตกตัวที่ความดันสูง<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขอใดตอไปนี้จัดเปนขอไดเปรียบของโรงไฟฟาดีเซล<br />

คําตอบ 1 : เหมาะสมที่จะทํางานในสภาวะโหลดเกิน<br />

คําตอบ 2 : คาบํารุงรักษาต่ํา<br />

คําตอบ 3 : มีประสิทธิภาพสูง ถึงแมจะจายที่ Light load<br />

คําตอบ 4 : ไมมีปญหาทางดานมลภาวะทางเสียง<br />

โรงไฟฟาดีเซลของการไฟฟาฝายผลิตแหงประเทศไทยถูกติดตั้งอยูที่จังหวัดใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ตราด<br />

แมฮองสอน<br />

ยะลา<br />

มุกดาหาร<br />

โรงไฟฟาดีเซลเปนโรงไฟฟาขนาดเล็ก โดยปกติจะมีกําลังผลิตประมาณไมเกินเทาใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

50 kW<br />

500 kW<br />

5.0 MW<br />

50.0 MW


ขอที่ : 209<br />

ขอที่ : 210<br />

ขอที่ : 211<br />

ขอที่ : 212<br />

ขอใดตอไปนี้เปนหลักการทํางานของเครื่องยนตดีเซลแบบ 4 จังหวะ<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ดูด(Suction) – อัด(Compression) – ระเบิด(Ignition <strong>and</strong> expansion) – คาย(Exhaust)<br />

อัด(Compression) – ระเบิด(Ignition <strong>and</strong> expansion) – คาย(Exhaust) - ดูด(Suction)<br />

ดูด(Suction) – อัด(Compression) – คาย(Exhaust) – ระเบิด(Ignition <strong>and</strong> expansion)<br />

คาย(Exhaust) - ดูด(Suction) – ระเบิด(Ignition <strong>and</strong> expansion) - อัด(Compression)<br />

ขอใดตอไปนี้คือเหตุผลในการติดตั้ง Super charging ใหกับโรงไฟฟาดีเซล<br />

คําตอบ 1 : เนื่องจากตองการใหเครื่องยนตมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น<br />

คําตอบ 2 : เนื่องจากตองการใหเครื่องยนตมีกําลังเพิ่มมากขึ้นในกรณีที่ติดตั้งอยูเหนือจากระดับน้ําทะเลมากๆ<br />

คําตอบ 3 : เนื่องจากตองการใหเครื่องยนตทํางานไดครบ 4 จังหวะ<br />

คําตอบ 4 : เนื่องจากระบบ Super charging เปนสวนหนึ่งการเดินโรงไฟฟาดีเซล<br />

ขอใดตอไปนี้ไมใชคุณสมบัติของโรงไฟฟาดีเซล<br />

คําตอบ 1 :<br />

มีขนาดเล็ก<br />

คําตอบ 2 : สามารถเดินเครื่องและสามารถหยุดเดินไดอยางทันทีทันใด<br />

คําตอบ 3 : ใชน้ําหลอเย็นนอย<br />

คําตอบ 4 : ขนาดพื้นที่ใชในการติดตั้งไมขึ้นอยูกับ Capacity ของเครื่องกําเนิด<br />

ขอใดตอไปนี้ไมใชเปาหมายของโรงไฟฟาดีเซล<br />

คําตอบ 1 : เดินเครื่องตลอดเวลา(Base load)<br />

คําตอบ 2 : เดินเครื่องในกรณี Peak load<br />

คําตอบ 3 : ติดตั้งโรงไฟฟาดีเซลในที่หางไกลซึ่งสายสงไฟฟากําลังติดตั้งลําบาก<br />

คําตอบ 4 : ติดตั้งโรงไฟฟาดีเซลเพื่อใชเปน St<strong>and</strong>by plant<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

70 of 237<br />

ขอที่ : 213<br />

Name plate ของเครื่องยนตดีเซลที่ใชเปนตนกําลังในการผลิตไฟฟา มีรายละเอียดดังนี้ ใชงานที่ระดับความสูง 450 m, 32 องศาเซลเซียส และ ความดัน 717.5 mm.Hg ขอใดตอ<br />

ไปนี้ถูกตอง<br />

คําตอบ 1 : สามารถนําเครื่องยนตนี้ไปติดตั้งใชงานที่อุทยานแหงชาติดอยอินทนนท ไดเลย<br />

คําตอบ 2 : นําเครื่องยนตนี้ไปติดตั้งใชงานที่อุทยานแหงชาติดอยอินทนนท จะทําใหสามารถผลิตกระแสไฟฟาเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากประสิทธิภาพของเครื่องยนตทํางานดีขึ้น


คําตอบ 3 : สามารถนําเครื่องยนตนี้ไปติดตั้งใชงานที่อุทยานแหงชาติดอยอินทนนท ไดแตตองพิจารณาปรับใหขนาดของ Generator ใหต่ําลง<br />

คําตอบ 4 : ไมสามารถติดตั้งไดเนื่องจากเครื่องยนตและ Generator มีขนาดใหญจึงไมเหมาะที่จะนําไปติดตั้งใชงานที่สูงๆ<br />

71 of 237<br />

ขอที่ : 214<br />

ขอที่ : 215<br />

ในการออกแบบโรงไฟฟาดีเซล พิกัด 700 kW ติดตั้งใชงานที่ระดับความสูง 1,000 เมตร เหนือระดับน้ําทะเล , เครื่องยนตที่เลือกใชนี้จะติดตั้ง Super charging และ Generator มี<br />

ประสิทธิภาพ 90 % ใหหาขนาดของเครื่องยนตที่ใชในการผลิตไฟฟานี้ (เครื่องยนตที่ติดตั้งเหนือจากระดับน้ําทะเล 1,000 เมตร จะทําใหเครื่องยนตมี Rating ลดลง 92 %)<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

700 kW<br />

760.9 kW<br />

777.78 kW<br />

845.41 kW<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ในการออกแบบโรงไฟฟาดีเซล พิกัด 700 kW จํานวน 2 Unit ติดตั้งใชงานที่ระดับความสูง 1,000 เมตร เหนือระดับน้ําทะเล , เครื่องยนตที่เลือกใชนี้จะติดตั้ง Super charging และ<br />

Generator มีประสิทธิภาพ 90 % เครื่องยนตเปนแบบ 4 จังหวะ 375 rpm ชนิด airless injection, คา Dem<strong>and</strong> สูงสุดของสถานีคือ 1,400 kW ที่ 0.8 p.f. lagging, คา load<br />

factor เฉลี่ย 50%, annual capacity factor 44% ใหหาขนาดของ Main dimension ขอ


72 of 237<br />

ขอที่ : 216<br />

คําตอบ 1 : เสนผานศูนยกลางเทากับ 31.763 cm , ความยาว Stroke เทากับ 44.468 cm<br />

คําตอบ 2 : เสนผานศูนยกลางเทากับ 32.2 cm , ความยาว Stroke เทากับ 45 cm<br />

คําตอบ 3 : เสนผานศูนยกลางเทากับ 35.763 cm , ความยาว Stroke เทากับ 44.468 cm<br />

คําตอบ 4 : เสนผานศูนยกลางเทากับ 36.254 cm , ความยาว Stroke เทากับ 46.725 cm<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ในการออกแบบโรงไฟฟาดีเซล พิกัด 700 kW จํานวน 2 Unit ติดตั้งใชงานที่ระดับความสูง 1,000 เมตร เหนือระดับน้ําทะเล , เครื่องยนตที่เลือกใชนี้จะติดตั้ง Super charging และ<br />

Generator มีประสิทธิภาพ 90 % เครื่องยนตเปนแบบ 4 จังหวะ 375 rpm ชนิด airless injection, คา Dem<strong>and</strong> สูงสุดของสถานีคือ 1,400 kW ที่ 0.8 p.f. lagging, คา load<br />

factor เฉลี่ย 50%, annual capacity factor 44%


73 of 237<br />

ขอที่ : 217<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

เสนผานศูนยกลางเทากับ 138 cm , ความยาวแกนเทากับ 27.1 cm<br />

เสนผานศูนยกลางเทากับ 140 cm , ความยาวแกนเทากับ 30 cm<br />

เสนผานศูนยกลางเทากับ 142.5 cm , ความยาวแกนเทากับ 32.5 cm<br />

เสนผานศูนยกลางเทากับ 148 cm , ความยาวแกนเทากับ 52 cm<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ในระบบของโรงไฟฟาดีเซลประกอบดวยสวนหลักคือ Generator กับเครื่องยนตดีเซล และ ระบบควบคุมคือ AVR และ GOV control AVR มีไวเพื่อควบคุมอะไร<br />

คําตอบ 1 : V ที่ Bus ใหคงที่<br />

คําตอบ 2 : f ที่ Bus ใหคงที่<br />

คําตอบ 3 : P ที่ Bus ใหคงที่<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขอที่ : 218


ขอที่ : 219<br />

ขอที่ : 220<br />

ขอที่ : 221<br />

ถาในโรงไฟฟาดีเซล 1 โรงจักรมีจํานวนหนวยผลิตเทากับ 4 หนวยผลิตๆละ 500 kW จงหากําลังทางกล (Pm) ที่ขับGenerator /หนวยผลิตเมื่อประสิทธิภาพของ Generator เทากับ<br />

92%<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

500 kW<br />

543 kW<br />

600 kW<br />

700 kW<br />

ในระบบของโรงไฟฟาดีเซลประกอบดวยสวนหลักคือ Generator กับเครื่องยนตดีเซล และ ระบบควบคุมคือ AVR และ GOV control GOV มีไวเพื่อควบคุมอะไร<br />

คําตอบ 1 : V ที่ Bus ใหคงที่<br />

คําตอบ 2 : f ที่ Bus ใหคงที่<br />

คําตอบ 3 : P ที่ Bus ใหคงที่<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ถา Generator มีขนาดกําลังผลิต / หนวยผลิตเทากับ 500 kW โดยเปนโรงไฟฟาดีเซลที่ใชงานที่ความสูง 2,500 เมตร เหนือระดับน้ําทะเล เครื่องยนตที่ใชควรจะมี Out put rating<br />

ขนาดเทาใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ขนาดเทากับ 500 kW<br />

ขนาดมากกวา 500 kW<br />

ขนาดนอยกวา 500 kW<br />

ไมมีขอใดถูกตอง<br />

ขอใดตอไปนี้ไมใช Specification ของ Generator ขนาด 500 kW ที่ใชในโรงไฟฟาดีเซล<br />

คําตอบ 1 : 3 เฟส , 440 v , 50 Hz<br />

คําตอบ 2 : <strong>Power</strong>factor 4.8 lagging<br />

คําตอบ 3 : ประสิทธิภาพ 92%<br />

คําตอบ 4 : จํานวน Pole 2 Pole ที่ 1,500 rpm<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

74 of 237<br />

ขอที่ : 222<br />

ขนาดของเสนผานศูนยกลางและความยาวของ stator ของ Generator ที่ใชในโรงไฟฟาดีเซลควรจะมีขนาดเสนผานศูนยกลางเทาใด


คําตอบ 1 :<br />

:สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 2<br />

75 of 237


คําตอบ 3 :สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

76 of 237


คําตอบ 4 :สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

77 of 237


78 of 237<br />

ขอที่ : 223<br />

จะตองหาคาสิ่งใดตอไปนี้กอนจึงจะบอกขนาดของเสื้อสูบได<br />

คําตอบ 1 : จํานวนกระบอกสูบ<br />

คําตอบ 2 : ขนาดของเสนผานศูนยกลาง<br />

คําตอบ 3 : ชวงชักของลูกสูบ<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขอที่ : 224<br />

ปริมาตรของกระบอกสูบสามารถบอกไดจากคาใดตอไปนี้<br />

คําตอบ 1 : stroke / Bore ratio<br />

คําตอบ 2 : Out put rating<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Pressure ในกระบอกสูบ<br />

ถูกทุกขอ<br />

79 of 237<br />

ขอที่ : 225<br />

ขอที่ : 226<br />

ขอที่ : 227<br />

การจะหาขนาดของถังน้ํามันที่ใชใน 1 วัน / หนวยผลิต และขนาดถังน้ํามันสํารองที่ใชใน 1 เดือนจะตองทราบคาใดบาง<br />

คําตอบ 1 : อัตราการกินน้ํามัน / ชั่วโมง<br />

คําตอบ 2 : จํานวนหนวยผลิตที่ติดตั้ง<br />

คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

น้ําระบายความรอนในเครื่องยนตควรจะมีอุณหภูมิขาออกไมควรเกินกี่องศาเซลเซียส<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

40 องศาเซลเซียส<br />

50 องศาเซลเซียส<br />

60 องศาเซลเซียส<br />

70 องศาเซลเซียส<br />

การทํา <strong>Plant</strong> lag Out ของโรงไฟฟาดีเซลเพื่อบอกอะไร<br />

คําตอบ 1 :<br />

ขนาดของโรงไฟฟาดีเซล<br />

คําตอบ 2 : พื้นที่ ที่ใชกอสรางโรงไฟฟา<br />

คําตอบ 3 : ขนาดของถังเชื้อเพลิง<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขอที่ : 228<br />

Bid document คืออะไร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

แบบของโรงไฟฟา<br />

Specification ของโรงไฟฟา<br />

เอกสารประกวดราคา<br />

ไมมีขอใดถูกตอง<br />

ขอที่ : 229


การทํา Bid document เพื่อบอกสิ่งใด<br />

คําตอบ 1 : พื้นที่ของโรงไฟฟา<br />

คําตอบ 2 : ราคากลางในการกอสรางโรงไฟฟา<br />

คําตอบ 3 : ราคาน้ํามัน<br />

คําตอบ 4 : ราคา Generator<br />

80 of 237<br />

ขอที่ : 230<br />

ขอที่ : 231<br />

ขอที่ : 232<br />

ขอที่ : 233<br />

การสรางโรงไฟฟาดีเซลอื่นๆ โดยที่เจาของงานใหบริษัทที่ประมูลไดสรางจนเสร็จแลวสงมอบโรงไฟฟาที่เสร็จสมบูรณใหเจาของงานเรียกการกอสรางลักษณะนี้วา<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Turn key plant<br />

Project plant<br />

Construetion plant<br />

ถูกทุกขอ<br />

ขอใดตอไปนี้ไมใชคุณสมบัติของโรงไฟฟาดีเซล<br />

คําตอบ 1 : ขนาดกําลังผลิต 1 หนวยผลิตต่ํา<br />

คําตอบ 2 : Start / stop ไดรวดเร็ว<br />

คําตอบ 3 : สรางในที่ซึ่งมีน้ํามันราคาถูก<br />

คําตอบ 4 : จายเขา Grid system ของประเทศไทย<br />

การใชงานของโรงไฟฟาดีเซลในลักษณะจาย Load แทนโรงไฟฟาอื่นในขนาดกําลังผลิตที่เทากันเรียกการใชงานลักษณะนี้วา<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

St<strong>and</strong>by plant<br />

Peak load plant<br />

Emergency plant<br />

Nersery station<br />

การใชงานของโรงไฟฟาดีเซลในลักษณะจาย Load ฉุกเฉินแทนไฟจากการไฟฟาเรียกการใชงานลักษณะนี้วา<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

St<strong>and</strong>by plant<br />

Peak load plant<br />

Emergency plant


คําตอบ 4 :<br />

Nersery station<br />

ขอที่ : 234<br />

ขอที่ : 235<br />

ขอที่ : 236<br />

ขอที่ : 237<br />

การใชงานของโรงไฟฟาดีเซลในลักษณะจาย Load ชั่วคราวเมื่อไฟของการไฟฟาจายใหไมพอเรียกการใชงานลักษณะนี้วา<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

St<strong>and</strong>by plant<br />

Peak load plant<br />

Emergency plant<br />

Nersery station<br />

ขอดีของโรงไฟฟาดีเซล คือ ขอใด<br />

คําตอบ 1 : กําลังการผลิตติดตั้งสูง<br />

คําตอบ 2 : ประสิทธิภาพในการผลิตสูง<br />

คําตอบ 3 : ตนทุนตอหนวยการผลิตต่ํา<br />

คําตอบ 4 : ตอบสนองตอการเปลี่ยนแปลงโหลดไดอยางรวดเร็ว<br />

โรงไฟฟาดีเซลมีหลักการทํางานอยางไร<br />

คําตอบ 1 : เปลี่ยนพลังงานจากถานหินเปนพลังงานความรอน<br />

คําตอบ 2 : เปลี่ยนพลังงานความรอนเปนพลังงานกลไปขับโรเตอร<br />

คําตอบ 3 : เปลี่ยนพลังงานนิวเคลียรเปนพลังงานความรอน<br />

คําตอบ 4 : เปลี่ยนพลังงานจากการเผาไหมของน้ํามันเปนพลังงานกลไปขับโรเตอรของเครื่องเครื่องกําเนิดไฟฟา<br />

ขอใดคือขอดีของโรงไฟฟาดีเซล<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 1 : สามารถเดินเครื่องไดรวดเร็ว<br />

คําตอบ 2 : เหมาะสําหรับจายโหลดฉุกเฉิน<br />

คําตอบ 3 : ขอ 1 และ 2 ถูก<br />

คําตอบ 4 : ผิดทุกขอ<br />

81 of 237<br />

ขอที่ : 238<br />

ในโรงไฟฟาดีเซลคําวา Day tank หมายถึงสวนใดของโรงไฟฟา


คําตอบ 1 : ถังน้ํามันเชื้อเพลิงที่ใชใน 1 วัน/หนวยผลิต<br />

คําตอบ 2 : ถังน้ํามันเชื้อเพลิงที่ใชใน 1 สัปดาห/หนวยผลิต<br />

คําตอบ 3 : ถังน้ํามันเชื้อเพลิงที่ใชใน 1 เดือน/หนวยผลิต<br />

คําตอบ 4 : ถังน้ํามันเชื้อเพลิงที่ใชใน 1 ป/หนวยผลิต<br />

82 of 237<br />

ขอที่ : 239<br />

ขอที่ : 240<br />

ขอที่ : 241<br />

ขอที่ : 242<br />

ในโรงไฟฟาดีเซลคําวา Reserve tank หมายถึงสวนใดของโรงไฟฟา<br />

คําตอบ 1 : ถังน้ํามันเชื้อเพลิงที่ใชใน 1 วัน/หนวยผลิต<br />

คําตอบ 2 : ถังน้ํามันเชื้อเพลิงที่ใชใน 1 สัปดาห/หนวยผลิต<br />

คําตอบ 3 : ถังน้ํามันเชื้อเพลิงที่ใชใน 1 เดือน/หนวยผลิต<br />

คําตอบ 4 : ถังน้ํามันเชื้อเพลิงที่ใชใน 1 ป/หนวยผลิต<br />

พัลเวอรไรเซอร (Pulverizer) คืออุปกรณประเภทใดในโรงไฟฟาพลังไอน้ํา<br />

คําตอบ 1 : อุปกรณสงสัญญาณ Pulse เพื่อควบคุมการทํางานของโรงไฟฟาจากศูนยควบคุม<br />

คําตอบ 2 : อุปกรณบดถานหินเปนผงกอนฉีดเขาเตาเผาไหม<br />

คําตอบ 3 : อุปกรณแยกไอน้ําและน้ําออกจากกันและลดจํานวนสารที่เจือปนมากับไอน้ําใหนอยลงเพื่อไมใหเทอรไบนเสียหาย<br />

คําตอบ 4 : อุปกรณกลั่นไอน้ําใหกลายเปนน้ําเพื่อฉีดเขาเตาเผาไหม<br />

ดรัม (Drum) ในโรงไฟฟาพลังงานไอน้ําคืออะไร<br />

คําตอบ 1 : อุปกรณแยกไอน้ําและน้ําออกจากกันและลดจํานวนสารที่เจือปนมากับไอน้ําใหนอยลงเพื่อไมใหเทอรไบนเสียหาย<br />

คําตอบ 2 : อุปกรณกลั่นไอน้ําใหกลายเปนน้ําเพื่อฉีดเขาเตาเผาไหม<br />

คําตอบ 3 : อุปกรณสงสัญญาณ pulse เพื่อควบคุมการทํางานของโรงไฟฟาจากศูนยควบคุม<br />

คําตอบ 4 : อุปกรณกําจัดกาซหรือสารที่เจือปนมากับไอน้ําและไมสามารถกลั่นตัว<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ความเร็วรอบ (รอบ/นาที) ของเทอรไบนเพื่อไปขับเครื่องกําเนิดไฟฟาของโรงไฟฟาพลังงานไอน้ําโดยทั่วไปมีคาประมาณเทาใด<br />

คําตอบ 1 : 3,000<br />

คําตอบ 2 : 600<br />

คําตอบ 3 : 800<br />

คําตอบ 4 : 1,500


ขอที่ : 243<br />

ขอที่ : 244<br />

สวนประกอบหรืออุปกรณใดที่ไมใชเปนสวนหนึ่งของโรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา<br />

คําตอบ 1 : เครื่องควบแนน<br />

คําตอบ 2 : พัลเวอรไรเซอร (Pulverizer)<br />

คําตอบ 3 : ดรัม (Drum)<br />

คําตอบ 4 : วงลอผีเสื้อ (Butterfly wheel)<br />

ขอใดตอไปนี้ไมใชเปนองคประกอบของโรงไฟฟาแบบ Steam power plant<br />

คําตอบ 1 :<br />

สามารถสรางไดใกลจุด Load center<br />

คําตอบ 2 : สามารถผลิตกําลังไฟฟาไดอยางสม่ําเสมอ<br />

คําตอบ 3 : มีคาใชจายในการผลิตตอหนวยสูง<br />

คําตอบ 4 : เหมาะสําหรับเดินเครื่องเปน Peaking<br />

ขอที่ : 245<br />

Precipitator เปนสวนหนึ่งของระบบใดในโรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

ระบบระบายความรอน<br />

ระบบกําจัดเถาถาน<br />

คําตอบ 3 : ระบบควบคุมคุณถาพน้ํา<br />

คําตอบ 4 : ระบบบําบัดน้ําเสีย<br />

ขอที่ : 246<br />

Cycle แบบใดที่นิยมใชกับโรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Brayton cycle<br />

Joule cycle<br />

Rankine cycle<br />

Carnot cycle<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

83 of 237<br />

ขอที่ : 247<br />

Steam power station เหมาะสําหรับใชเปน<br />

คําตอบ 1 :<br />

Base-load plant


คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Peak-load plant<br />

St<strong>and</strong>by plant<br />

Emergency plant<br />

84 of 237<br />

ขอที่ : 248<br />

ขอที่ : 249<br />

ขอที่ : 250<br />

ขอที่ : 251<br />

ขอใดไมใชสวนประกอบของ Steam power station<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Boiler<br />

Stream turbine<br />

Generator<br />

Reactor<br />

ขอใดไมใชสวนประกอบของการลําเลียงถานหินของ Steam power plant ที่ใชถานหินเปนเชื้อเพลิง<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Unloading plant<br />

Conveying plant<br />

Sieving plant<br />

Crushing plant<br />

ขอใดเปนชนิดของ Steam turbine<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Francis turbine<br />

Jet turbine<br />

Propeller turbine<br />

Curtis turbine<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอใดไมใชการพิจารณาในการออกแบบ Boiler ของ Steam power plant<br />

คําตอบ 1 : ปริมาณเชื้อเพลิงที่จะถูกเผา<br />

คําตอบ 2 : ความดันที่ใชงาน<br />

คําตอบ 3 : อุณหภูมิ<br />

คําตอบ 4 : แรงดันไฟฟาที่ผลิต


ขอที่ : 252<br />

ขอไดไมใชอุปกรณสําหรับเพิ่มประสิทธิภาพ Boiler ของ Steam power plant<br />

คําตอบ 1 : Superheater<br />

คําตอบ 2 : Super-charger<br />

คําตอบ 3 : Economizer<br />

คําตอบ 4 : Feed-water heater<br />

ขอที่ : 253<br />

เหตุใดการเลือกที่ตั้งของโรงไฟฟาพลังงานไอน้ําจึงควรเลือกบริเวณใกลแหลงน้ํา<br />

คําตอบ 1 : มีความตองการใชน้ํามากในการผลิตไฟฟา<br />

คําตอบ 2 : เพื่อความสะดวกในการขนสงเชื้อเพลิง<br />

คําตอบ 3 : ราคาที่ดินไมแพงมากนัก<br />

คําตอบ 4 : สะดวกในการปลอยน้ําที่เหลือจากกระบวนการผลิตไฟฟา<br />

ขอที่ : 254<br />

ขอใดตอไปนี้ไมใชการลําเลียงเชื้อเพลิงที่เปนถานหิน เขาเตาเผาไหมที่ใชกันอยู<br />

คําตอบ 1 : ใชคนงานที่มีความชํานาญกระจายถานหินใหสม่ําเสมอ<br />

คําตอบ 2 : ใชเครื่องจักรกลลําเลียงเชื้อเพลิง<br />

คําตอบ 3 : บดถานหินใหเปนผงละเอียดแลวพนเขาไปในเตาเผา<br />

คําตอบ 4 : อัดใหถานหินมีความดันสูงแลวจึงสงเขาเตาเผา<br />

ขอที่ : 255<br />

เหตุใดจึงตองมีเงื่อนไขบังคับสําหรับภาระต่ําสุดของ โรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา<br />

คําตอบ 1 : เพื่อใหหมอตมน้ําทํางานไดอยางเต็มประสิทธิภาพ<br />

คําตอบ 2 : เพื่อเสถียรภาพในการเผาไหมของเชื้อเพลิง<br />

คําตอบ 3 : เพื่อใหประสิทธิภาพในการระบายความรอนเปนไปอยางสูงสุด<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 4 : เพื่อเปนการประหยัดเชื้อเพลิง<br />

85 of 237<br />

ขอที่ : 256<br />

ขอใดตอไปนี้ไมสามารถจัดใหเปนโรงไฟฟาพลังงานความรอนได<br />

คําตอบ 1 : โรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา<br />

คําตอบ 2 : โรงไฟฟาพลังงานน้ํา


คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

โรงไฟฟานิวเคลียร<br />

ไมมีขอใดถูก<br />

86 of 237<br />

ขอที่ : 257<br />

ขอใดไมจัดเปน Liquid petroleum gas (LPG)<br />

คําตอบ 1 : Propane<br />

คําตอบ 2 : Butane<br />

คําตอบ 3 : Octance<br />

คําตอบ 4 : Kerosene<br />

ขอที่ : 258<br />

ขอใดคือโรงไฟฟาพลังงานความรอนในการผลิตไฟฟาที่ใหญที่สุดในเมืองไทย<br />

คําตอบ 1 : โรงไฟฟาวังนอย<br />

คําตอบ 2 : โรงไฟฟาบางปะกง<br />

คําตอบ 3 : โรงไฟฟาแมเมาะ<br />

คําตอบ 4 : โรงไฟฟาพระนครเหนือ<br />

ขอที่ : 259<br />

ระบบของโรงไฟฟา Steam หรือ Thermal ประกอบดวย Main part กี่สวน<br />

ขอที่ : 260<br />

คําตอบ 1 : 2 สวน<br />

คําตอบ 2 : 3 สวน<br />

คําตอบ 3 : 4 สวน<br />

คําตอบ 4 : 5 สวน<br />

ระบบของโรงไฟฟา Steam หรือ Thermal ประกอบดวยระบบใหญๆเชื่อมตอกับกี่ระบบ<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

6 ระบบ<br />

7 ระบบ<br />

8 ระบบ<br />

9 ระบบ<br />

ขอที่ : 261


อุปกรณใด ไมถูกใช ในกระบวนการผลิตไฟฟาของโรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา<br />

คําตอบ 1 : เตาเผา (Burner)<br />

คําตอบ 2 : หมอไอน้ํา (Boiler)<br />

คําตอบ 3 : กังหัน (Turbine)<br />

คําตอบ 4 : หองอัดอากาศ (Compressor)<br />

87 of 237<br />

ขอที่ : 262<br />

ขอที่ : 263<br />

ขอที่ : 264<br />

ขอที่ : 265<br />

ขอใดตอไปนี้ไมใชขอดีของโรงไฟฟาพลังงานความรอนแบบกังหันไอน้ํา<br />

คําตอบ 1 : ตนทุนการผลิตตอหนวยต่ํา<br />

คําตอบ 2 : ไมสงผลกระทบตอสิ่งแวดลอม<br />

คําตอบ 3 : กําลังการผลิตติดตั้งสูง<br />

คําตอบ 4 : ใชเชื้อเพลิงไดหลากหลาย<br />

ขอใดไมใชอุปกรณสําหรับผลิตไอน้ําที่ใชในโรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา (Steam power plant)<br />

คําตอบ 1 : หมอน้ํา<br />

คําตอบ 2 : เครื่องกรองอากาศ<br />

คําตอบ 3 : เครื่องแยกไอน้ํา<br />

คําตอบ 4 : เครื่องควบแนน<br />

ในระบบเตาหลอมเชื้อเพลิงของโรงไฟฟา Steam หรือ Thermal ถาเชื้อเพลิงที่ใชเปนถานหิน สวนของ Coal h<strong>and</strong>ing plant คืออะไร<br />

คําตอบ 1 : เครื่องบดถานหินใหเปนผง<br />

คําตอบ 2 : เครื่องผสมถานหิน<br />

คําตอบ 3 : เครื่องแยกถานหิน<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ถานหินที่ใชเปนเชื้อเพลิงที่เก็บอยูใน Coal bamker สามารถใชไดกี่ชั่วโมง<br />

คําตอบ 1 : 8 ชั่วโมง ถาเปน Full load<br />

คําตอบ 2 : 24 ชั่วโมงถาเปน High load<br />

คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2


คําตอบ 4 : ไมจํากัดชั่วโมง<br />

ขอที่ : 266<br />

ขอที่ : 267<br />

ขอที่ : 268<br />

ขอที่ : 269<br />

ถานหินที่ใชใน Coal bunker มีขนาดเสนผานศูนยกลางเทาใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

18 มิลลิเมตร<br />

19 มิลลิเมตร<br />

20 มิลลิเมตร<br />

19 มิลลิเมตรหรือเล็กกวา<br />

ระบบเตรียมน้ําของโรงไฟฟาแบบ Steam หรือ Thermal จะตองนําน้ําจากแหลงน้ําจืดมาผานขบวนการใดกอนเติมเขา Boiler<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Condensing plant<br />

Water cooling plant<br />

Water treatment plant<br />

ถูกทุกขอ<br />

ในระบบของ Boiler จะมีสวนที่เรียกวา Heat recovery apparatus นั้นหมายถึงสิ่งใดตอไปนี้<br />

คําตอบ 1 : Precipitator<br />

คําตอบ 2 : Economizer<br />

คําตอบ 3 : Air preheater<br />

คําตอบ 4 : ถูกทั้ง 2 และ 3<br />

ประสิทธิภาพของ Boiler ในระบบเชื้อเพลิงที่เปนถานหินจะมีคาเทาใด<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 1 : 75 ถึง 77 %<br />

คําตอบ 2 : 80 ถึง 90 %<br />

คําตอบ 3 : 85 ถึง 100 %<br />

คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />

88 of 237<br />

ขอที่ : 270<br />

High pressure boiler ที่ใชในโรงไฟฟาแบบ Steam หรือ Thermal ขนาดกําลังผลิตมากกวา 625 MW ควรจะมี Steam flow กี่ Ton/hr


คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

800 Ton/hr<br />

900 Ton/hr<br />

1,000 Ton/hr<br />

ไมมีขอใดถูก<br />

89 of 237<br />

ขอที่ : 271<br />

Steam turbine ของโรงไฟฟาแบบ Thermal แบงเปนกี่ชนิด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

2 ชนิด<br />

3 ชนิด<br />

4 ชนิด<br />

5 ชนิด<br />

ขอที่ : 272<br />

Steam turbine ของโรงจักร Thermal ที่มีกําลังผลิตมากกวา 120 MW ควรจะมีกี่ State<br />

ขอที่ : 273<br />

ขอที่ : 274<br />

คําตอบ 1 : 1<br />

คําตอบ 2 : 2<br />

คําตอบ 3 : 3<br />

คําตอบ 4 : 4<br />

ประสิทธิภาพของ Turbine ในโรงไฟฟา แบบ Steam หรือ Thermal ที่ใชเชื่อเพลิงถานหินมีคาเทาไร<br />

คําตอบ 1 : 24 ถึง 32 %<br />

คําตอบ 2 : 25 ถึง 35 %<br />

คําตอบ 3 : 30 ถึง 40 %<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ระบบชวยทํางานที่สําคัญของ Boiler มีกี่ระบบ<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

9 ระบบ<br />

10 ระบบ<br />

11 ระบบ<br />

12 ระบบ


ขอที่ : 275<br />

ขอที่ : 276<br />

ขอที่ : 277<br />

ระบบชวยทํางานที่สําคัญของ Turbine มีกี่ระบบ<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

9 ระบบ<br />

10 ระบบ<br />

11 ระบบ<br />

11 ระบบ<br />

ระบบชวยบริการในโรงไฟฟาแบบ Steam หรือ Thermal มีกี่ระบบ<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

14 ระบบ<br />

15 ระบบ<br />

16 ระบบ<br />

17 ระบบ<br />

ระบบฉุกเฉินที่จะตองมีไฟฟาจายทันทีเมื่อโรงไฟฟาแบบ Thermal shunt down มีกี่ระบบ<br />

คําตอบ 1 : 3<br />

คําตอบ 2 : 4<br />

คําตอบ 3 : 5<br />

คําตอบ 4 : 6<br />

ขอที่ : 278<br />

Cooling tower ที่เปนระบบระบายความรอนของน้ําใน Condensing unit แบงเปนกี่แบบ<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

2 แบบ<br />

3 แบบ<br />

4 แบบ<br />

5 แบบ<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

90 of 237<br />

ขอที่ : 279<br />

Generator ของโรงไฟฟาแบบ Thermal มีประสิทธิภาพกี่เปอรเซ็นต<br />

คําตอบ 1 :<br />

98 ถึง 99 เปอรเซ็นต


คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

100 เปอรเซ็นต<br />

95 เปอรเซ็นต<br />

ถูกทุกขอ<br />

91 of 237<br />

ขอที่ : 280<br />

ขอที่ : 281<br />

ขอที่ : 282<br />

ขอที่ : 283<br />

ทําไม Generator ของโรงจักรแบบ Thermal จึงตองมีระบบหลอเย็นดวย Hydrogen<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

เพราะ Hydrogen ดี<br />

เพราะจะทําใหทองแดงคงรูป<br />

เพราะจะทําใหทนกระแสไดสูง<br />

ไมมีขอใดถูก<br />

อะไรตอไปนี้คือระบบกําจัดของเสียและเถาถานของโรงไฟฟาแบบ Steam<br />

คําตอบ 1 : Precipitator<br />

คําตอบ 2 : Gas detector<br />

คําตอบ 3 : Economizer<br />

คําตอบ 4 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />

ของเสียที่ปลอยออกทางปลองของโรงไฟฟาแบบ Steam ควรมีคาเทาใดของความเขมขอในเตาเผา<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

1 เปอรเซ็นต<br />

1.5 ถึง 2 เปอรเซ็นต<br />

2 ถึง 3 เปอรเซ็นต<br />

4 ถึง 5 เปอรเซ็นตๆ<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

มลภาวะที่เกิดจากโรงไฟฟาแบบ Steam หรือ Thermal เกิดทางใดบาง<br />

คําตอบ 1 : ทางน้ํา<br />

คําตอบ 2 : ทางอากาศ<br />

คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />

คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก


ขอที่ : 284<br />

ขอที่ : 285<br />

ขอที่ : 286<br />

ขอที่ : 287<br />

ผลิตภัณฑที่ไดจากการกําจัดของเสียของโรงไฟฟาแบบ Steam เมื่อเชื้อเพลิงเปนถานหินเกรดต่ํา(ลิกไนต) มีอะไรบาง<br />

คําตอบ 1 :<br />

ปูนซีเมนต<br />

คําตอบ 2 : ยิปซั่ม<br />

คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ระบบชวยทํางานของโรงไฟฟาแบบ Steam หรือ Thermal มีอะไรบางตอไปนี้<br />

คําตอบ 1 : ระบบชวยทํางานที่สําคัญ<br />

คําตอบ 2 : ระบบชวยบริการ<br />

คําตอบ 3 : ระบบฉุกเฉิน<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ในการควบคุมโรงไฟฟาแบบ Thermal มีจุดประสงคหลักกี่ขอ<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

4 ขอ<br />

5 ขอ<br />

6 ขอ<br />

7 ขอ<br />

ในการควบคุมแรงดันที่บัสของโรงไฟฟาใหคงที่จะตองควบคุมจากระบบใดตอไปนี้<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

AVR control<br />

GOV control<br />

Water flow control<br />

Steam flow control<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

92 of 237<br />

ขอที่ : 288<br />

ในการควบคุมความถี่ที่บัสของโรงไฟฟาแบบ Thermal ใหคงที่จะตองควบคุมจากระบบใดตอไปนี้<br />

คําตอบ 1 : Combustion control<br />

คําตอบ 2 : Feed water flow control


คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

stream temperature control<br />

ถูกทุกขอ<br />

93 of 237<br />

ขอที่ : 289<br />

ขอใดคือความสัมพันธของขนาดความยาวและเสนผานศูนยกลางของ Stator ของ Generator ในโรงไฟฟาแบบ Thermal<br />

คําตอบ 1 : L = (0.8 – 1.2 )( pri D/P)<br />

คําตอบ 2 : L = (2 – 2.4 ) (pri D/P)<br />

คําตอบ 3 : L = (3 – 5) (pri D/P)<br />

คําตอบ 4 : L = (pri D/P)<br />

ขอที่ : 290<br />

คา B (Flux density) ของ Generator ที่ใชในโรงไฟฟาแบบ Thermal ควรจะมีคาเทาใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


94 of 237<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :


95 of 237<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 4 :


96 of 237<br />

ขอที่ : 291<br />

ขอที่ : 292<br />

คา ac (Ampere – conductors per cm. Of stator per’s phase) ของ Genarator ที่ใชในโรงไฟฟาแบบ Thermal ควรจะมีคาเทาไร<br />

คําตอบ 1 : 300 – 430<br />

คําตอบ 2 : 400 – 500<br />

คําตอบ 3 : 500 – 600<br />

คําตอบ 4 : 700 – 800<br />

ประสิทธิภาพรวมของโรงไฟฟาแบบ Thermal มีคาอยูใน Range ใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

18 – 32 เปอรเซ็นต<br />

35 – 40 เปอรเซ็นต<br />

มากกวา 40 เปอรเซ็นต<br />

มากกวา 50 เปอรเซ็นต<br />

ขอที่ : 293


ในการทํา <strong>Plant</strong> lay out ของโรงไฟฟาแบบ Steam เพื่อกําหนดสิ่งใด<br />

คําตอบ 1 : พื้นที่กอสรางโรงไฟฟา<br />

คําตอบ 2 : ราคาโรงไฟฟา<br />

คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />

คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />

97 of 237<br />

ขอที่ : 294<br />

ในการลงทุนกอสรางโรงไฟฟาแบบ Steam แบงออกเปนกี่หมวด<br />

คําตอบ 1 : 2 หมวด<br />

คําตอบ 2 : 3 หมวด<br />

คําตอบ 3 : 4 หมวด<br />

คําตอบ 4 : 5 หมวด<br />

ขอที่ : 295<br />

เมื่อสรางโรงไฟฟาแบบ Steam เสร็จแลวในการผลิตไฟฟาจะเสียคาใชจายในหมวดเชื้อเพลิงกี่เปอรเซ็นต<br />

คําตอบ 1 : 40 – 50 เปอรเซ็นต<br />

คําตอบ 2 : 50 – 60 เปอรเซ็นต<br />

คําตอบ 3 : 60 – 75 เปอรเซ็นต<br />

คําตอบ 4 : 80 – 100 เปอรเซ็นต<br />

ขอที่ : 296<br />

โรงไฟฟาแบบ Steam เหมาะสําหรับที่จะเดินเครื่องเพื่อจายโหลดในลักษณะใด<br />

คําตอบ 1 : Peak load plant<br />

คําตอบ 2 : Base load plant<br />

คําตอบ 3 : St<strong>and</strong>by plant<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขอที่ : 297<br />

ขอใดตอไปนี้ไมใชคุณสมบัติของโรงไฟฟาแบบ Steam<br />

คําตอบ 1 : มี St<strong>and</strong>by loss<br />

คําตอบ 2 : ตองสรางใกลแหลงเชื้อเพลิงและแหลงน้ํา<br />

คําตอบ 3 : พื้นที่ที่ใชกอสรางโรงไฟฟาตองใชมากๆ<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


คําตอบ 4 : มีกําลังผลิตตอหนวยผลิตต่ําในชวง 25 – 5,000 kW<br />

ขอที่ : 298<br />

ขอที่ : 299<br />

ขอที่ : 300<br />

ขอที่ : 301<br />

โรงไฟฟาแบบ Steam ที่อําเภอแมเมาะใชเชื้อเพลิงชนิดใด<br />

คําตอบ 1 : น้ํามันเตา<br />

คําตอบ 2 : กาซธรรมชาติ<br />

คําตอบ 3 : ถานหินลิกไนต<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

เมื่อหลายปกอนโรงไฟฟาแมเมาะถูกประชาชนที่อาศัยอยูรอบๆโรงไฟฟานี้ฟองรองเรียกคาเสียหายจากสาเหตุใด<br />

คําตอบ 1 : ปลอยน้ําเสียลงแหลงน้ํา<br />

คําตอบ 2 : ปลอยกาซพิษทําใหเกิดฝนกรด<br />

คําตอบ 3 : ปลอยฝุนจากถานหินใหฟุงกระจาย<br />

คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />

โรงไฟฟาแบบ Steam นอกจากที่แมเมาะแลวมีที่ใดอีกในประเทศไทย<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

พระนครเหนือ<br />

บางปะกง<br />

ขนอม<br />

ถูกทุกขอ<br />

กระบวนการใดไมไดทําเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

Deaerator<br />

Economizer<br />

Reheat<br />

Regeneration<br />

98 of 237<br />

ขอที่ : 302<br />

ระบบของโรงจักรพลังความรอนประกอบดวยขอใด


คําตอบ 1 : ระบบเตรียมเชื้อเพลิง<br />

คําตอบ 2 : ระบบเตรียมน้ําสําหรับ Boiler<br />

คําตอบ 3 : ระบบกําจัดของเสีย<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

99 of 237<br />

ขอที่ : 303<br />

ขอที่ : 304<br />

การพิจารณาสรางโรงไฟฟาพลังงานความรอนคือขอใด<br />

คําตอบ 1 : ตองสรางใกลแหลงน้ํา<br />

คําตอบ 2 : ตองสรางใกลแหลงเชื้อเพลิง<br />

คําตอบ 3 : ขอ1และ 2 ถูก<br />

คําตอบ 4 : ผิดทุกขอ<br />

กําหนดใหประสิทธิภาพโดยรวมในการผลิตไฟฟาจากโรงไฟฟาที่ใชลิกไนท มีคา 30% และ กําหนดให พลังงานไฟฟา 1 kWh = 860 k Cal ลิกไนท 1 กก. = 2,500 k Cal หากตอง<br />

การผลิตไฟฟาจากโรงไฟฟาที่ใชลิกไนทใน 1 ป เปนปริมาณ 30,000 GWh จงคํานวณปริมาณลิกไนทที่ตองในการผลิตไฟฟาวามีคากี่ตันตอป<br />

คําตอบ 1 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


100 of 237<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


101 of 237<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 2 :


102 of 237<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 3 :


103 of 237<br />

ขอที่ : 305<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

โรงไฟฟาที่ใชลิกไนทเปนเชื้อเพลิงแหงหนึ่งมีประสิทธิภาพโดยรวม 30% หากมีลิกไนทสําหรับใชผลิตไฟฟาอยูเปนปริมาณ 10,000 ตัน และโรงไฟฟาแหงนี้จายโหลดเฉลี่ย 50 MW<br />

จงคํานวณวาโรงไฟฟาแหงนี้จะจายไฟฟาไดเปนระยะเวลากี่วัน กําหนดให ลิกไนท 1 กก. = 2,500 k Cal พลังงานไฟฟา 1 kWh = 860 k Cal<br />

คําตอบ 1 : 7.27 วัน<br />

คําตอบ 2 : 24.22 วัน<br />

คําตอบ 3 : 48.44 วัน<br />

คําตอบ 4 : 96.88 วัน


ขอที่ : 306<br />

ขอที่ : 307<br />

ขอที่ : 308<br />

ขอที่ : 309<br />

หลักการพื้นฐานในการผลิตกระแสไฟฟาของ Steam power plant ใชหลักการแบบใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Heat recovery<br />

Rankine cycle<br />

Brayton cycle<br />

Steam cycle<br />

ขอใดตอไปนี้เปนลักษณะของไอน้ําที่จะเขา Turbine<br />

คําตอบ 1 : ไอน้ํามีความชื้นเล็กนอย<br />

คําตอบ 2 : ไอน้ําเปยก<br />

คําตอบ 3 : ไอน้ําแหง<br />

คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />

ขอใดตอไปนี้ไมใชวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพของ Rankine cycle<br />

คําตอบ 1 : เพิ่มคุณภาพไอน้ําจากสภาพอิ่มตัวเปนไอรอนยวดยิ่ง<br />

คําตอบ 2 : เพิ่มความดันใน Boiler<br />

คําตอบ 3 : ลด Condenser pressure<br />

คําตอบ 4 : ปรับปรุงคุณภาพของน้ํากอนเขา Boiler<br />

ขอใดตอไปนี้ไมใชเปนวิธีการแกไขไอเปรียกใหเปนไอน้ําแหงกอนเขา Turbine<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Reheat cycle<br />

Regenerative cycle<br />

Regenerative <strong>and</strong> reheat cycle<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ไมมีขอใดถูก<br />

104 of 237<br />

ขอที่ : 310<br />

ในการแกไขหลักการของ Rankine cycle โดยการเพิ่มหลักการของ Reheat cycle จะทําใหสวนใดของ Steam power plant ดีขึ้น<br />

คําตอบ 1 : ลด Wet steam ที่ Turbine, อุณหภูมิของ Steam ไมสูงมาก


คําตอบ 2 : ลดจํานวนเชื้อเพลิงที่ฉีดเขา Boiler<br />

คําตอบ 3 : ทําให Wet steam ลดลง<br />

คําตอบ 4 : ทําให Turbine มีอายุใชงานยาวนานขึ้น<br />

105 of 237<br />

ขอที่ : 311<br />

ขอที่ : 312<br />

ขอที่ : 313<br />

ขอที่ : 314<br />

ในการแกไขหลักการของ Rankine cycle โดยการเพิ่มหลักการของ Regenerative cycle จะทําใหสวนใดของ Steam power plant ดีขึ้น<br />

คําตอบ 1 : ลด Wet steam ที่ Turbine, อุณหภูมิของ Steam ไมสูงมาก<br />

คําตอบ 2 : ลดจํานวนเชื้อเพลิงที่ฉีดเขา Boiler<br />

คําตอบ 3 : ทําให Wet steam ลดลง<br />

คําตอบ 4 : ทําให Turbine มีอายุใชงานยาวนานขึ้น<br />

ในการแกไขหลักการของ Rankine cycle โดยการเพิ่มหลักการของ Regenerative <strong>and</strong> reheat cycle ขอใดตอไปนี้ไมใชผลของการเพิ่มหลักการดังกลาว<br />

คําตอบ 1 : ลด Wet steam ที่ Turbine, อุณหภูมิของ Steam ไมสูงมาก<br />

คําตอบ 2 : ลดจํานวนเชื้อเพลิงที่ฉีดเขา Boiler<br />

คําตอบ 3 : ทําให Wet steam ลดลง , ทําให Turbine มีอายุใชงานยาวนานขึ้น<br />

คําตอบ 4 : ไมมีขอใดผิด<br />

การเพิ่มประสิทธิภาพของกาซเทอรไบนแบบ Intercooling หมายถึงอะไร<br />

คําตอบ 1 : การใหอากาศรอนที่ออกจากเทอรไบนกลับมาถายเทความรอนใหกับกาซรอนที่ออกจากคอมเพรสเซอรไปเขาเทอรไบน<br />

คําตอบ 2 : การทําใหอากาศรอนที่ออกจากคอมเพรสเซอรหนึ่งใหมีอุณภูมิลดลงกอนเขาในคอมเพรสเซอรชุดถัดไป<br />

คําตอบ 3 : การทําใหกาซรอนที่ออกจากเทอรไบนรอนขึ้นโดยการผานเขาหองเผาไหมกอนเขาไปเทอรไบนชุดตอไป<br />

คําตอบ 4 : การนํากาซรอนที่ออกจากเทอรไบนไปใชในกิจการอื่นเพื่อใหเกิดประโยชนแทนที่จะปลอยใหเสียไป<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

การเพิ่มประสิทธิภาพของกาซเทอรไบนแบบ Regenerate หมายถึง<br />

คําตอบ 1 : การทําใหกาซรอนที่ออกจากเทอรไบนรอนขึ้นโดยการผานเขาหองเผาไหมกอนเขาไปเทอรไบนชุดตอไป<br />

คําตอบ 2 : การใหอากาศรอนที่ออกจากเทอรไบนกลับมาถายเทความรอนใหกับกาซรอนที่ออกจากคอมเพรสเซอรไปเขาเทอรไบน<br />

คําตอบ 3 : การทําใหอากาศรอนที่ออกจากคอมเพรสเซอรหนึ่งใหมีอุณภูมิลดลงกอนเขาในคอมเพรสเซอรชุดถัดไป<br />

คําตอบ 4 : การใหอากาศกอนเขาคอมเพรสเซอรผานทอที่เลี้ยงดวยน้ําเย็นกอน


ขอที่ : 315<br />

ขอที่ : 316<br />

ขอที่ : 317<br />

ขอที่ : 318<br />

ขอที่ : 319<br />

การเพิ่มประสิทธิภาพกาซเทอรไบนแบบ Reheating คืออะไร<br />

คําตอบ 1 : การนํากาซรอนที่ออกจากเทอรไบนไปใชในกิจการอื่นเพื่อใหเกิดประโยชนแทนที่จะปลอยใหเสียไป<br />

คําตอบ 2 : การทําใหกาซรอนที่ออกจากเทอรไบนรอนขึ้นโดยการผานเขาหองเผาไหมกอนเขาไปเทอรไบนชุดตอไป<br />

คําตอบ 3 : การใหอากาศรอนที่ออกจากเทอรไบนกลับมาถายเทความรอนใหกับกาซรอนที่ออกจากคอมเพรสเซอรไปเขาเทอรไบน<br />

คําตอบ 4 : การใหอากาศกอนเขาคอมเพรสเซอรผานทอที่เลี้ยงดวยน้ําเย็นกอน<br />

ขอไดเปรียบของโรงไฟฟากาซเทอรไบนเมื่อเทียบกับโรงไฟฟาพลังงานไอน้ําขอใดที่ไมถูกตอง<br />

คําตอบ 1 : ไมตองปอนกําลังงานใหกับคอมเพรสเซอรตอนเริ่มเดินเครื่อง<br />

คําตอบ 2 : ที่ขนาดโรงจักรที่เทากันคาลงทุนและคาดําเนินการถูกกวาโรงจักรไอน้ํา<br />

คําตอบ 3 : ความดันใชงานต่ํากวาแบบโรงจักรไอน้ําทําใหเกิดความเครียดนอยกับอุปกรณทางกลตางๆ<br />

คําตอบ 4 : คาบํารุงรักษาต่ํากวา<br />

ขอใดคือขอดีของโรงไฟฟากังหันกาซ<br />

คําตอบ 1 : เดินเครื่องหรือหยุดไดรวดเร็ว<br />

คําตอบ 2 : เปลี่ยนแปลงระดับการผลิต(Load changing) ทําไดรวดเร็ว<br />

คําตอบ 3 : ไมตองมีน้ําระบายความรอน<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

โรงไฟฟาชนิดใดตองใชมอเตอรชวยสตารท<br />

คําตอบ 1 : โรงไฟฟาพลังงานน้ํา<br />

คําตอบ 2 : โรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา<br />

คําตอบ 3 : โรงไฟฟากังหันกาซ<br />

คําตอบ 4 : โรงไฟฟาดีเซล<br />

ขอใดไมใชสวนประกอบของโรงไฟฟากังหันกาซ<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

Compressor<br />

Combustion chamber<br />

106 of 237


คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Turbine<br />

Condenser<br />

107 of 237<br />

ขอที่ : 320<br />

ขอที่ : 321<br />

ขอที่ : 322<br />

ขอที่ : 323<br />

ประสิทธิภาพของโรงไฟฟากังหันกาซขึ้นกับอุณหภูมิตรงสวนใดมากที่สุด<br />

คําตอบ 1 : อุณหภูมิของอากาศที่ไหลเขา Compressor<br />

คําตอบ 2 : อุณหภูมิของอากาศที่ไหลออกจาก Compressor<br />

คําตอบ 3 : อุณหภูมิของอากาศที่ไหลเขา Turbine<br />

คําตอบ 4 : อุณหภูมิของอากาศที่ไหลออกจาก Turbine<br />

ขอใดไมใชสวนประกอบของ Gas turbine plant<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Boiler<br />

Compressor<br />

Combustion chamber<br />

Turbine<br />

ขอใดไมใชคุณสมบัติของ Gas turbine plant<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

Start และ Shutdown ไดเร็ว<br />

มีขนาดใหญกวา Stream power plant<br />

คําตอบ 3 : ไมตองใชน้ําปริมาณมาก<br />

คําตอบ 4 : ใชเปน Peak load plant<br />

หลักการทํางานของ Gas turbine เปนไปตามใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

Pressure/volume diagram<br />

Flow duration curve<br />

Brayton cycle<br />

Mass curve<br />

ขอที่ : 324


ขอใดถูกตอง<br />

คําตอบ 1 : Gas turbine ทํางานที่อุณหภูมิสูงกวา Steam turbine ทําใหมีประสิทธิภาพสูงกวา<br />

คําตอบ 2 : เชื้อเพลิงของ Gas turbine ถูกกวา ถานหิน ที่ใชใน Steam turbine<br />

คําตอบ 3 : ขนาดของ Gas turbine plant ใหญกวา Steam turbine plant ที่พิกัดเทากัน<br />

คําตอบ 4 : Gas turbine ตองการน้ําหลอเย็นมากกวา Steam turbine<br />

108 of 237<br />

ขอที่ : 325<br />

ขอที่ : 326<br />

ขอที่ : 327<br />

ขอที่ : 328<br />

ขอใดไมถูกตอง<br />

คําตอบ 1 :<br />

การบํารุงรักษา Gas turbine งายกวา Diesel plant<br />

คําตอบ 2 : ขนาดของ Gas turbine plant เล็กกวา Diesel plant ที่พิกัดเทากัน<br />

คําตอบ 3 : ใน Gas turbine plant ไมมีลูกสูบจึงไมเกิดการกระตุกเหมือนเกิด Diesel plant เมื่อ Torque เปลี่ยนไป<br />

คําตอบ 4 : ราคาของ Gas turbine plant สูงกวา Diesel <strong>Plant</strong> ที่พิกัดเทากัน<br />

ขอเสียของ Gas turbine power plant ไดแก<br />

คําตอบ 1 : มีประสิทธิภาพต่ํา<br />

คําตอบ 2 : ไมสามารถตอบสนองตอการเปลี่ยนแปลงของโหลดที่รวดเร็วได<br />

คําตอบ 3 : มีความนาเชื่อถือในการผลิตไฟฟาต่ํา<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขอใดเปนสาเหตุของการนําโรงไฟฟากังหันกาซ มาใชแทนโรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา<br />

คําตอบ 1 : แหลงน้ําขนาดใหญหายาก<br />

คําตอบ 2 : มีคาใชจายต่ํา<br />

คําตอบ 3 : ใหกําลังการผลิตไดมากขึ้น<br />

คําตอบ 4 : สามารถลดปริมาณเชื้อเพลิงลงได<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอใดตอไปนี้เปนความคลายกันของโรงไฟฟากังหันกาซกับโรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา<br />

คําตอบ 1 : ใชหลักการเครื่องยนตชนิดเดียวกัน<br />

คําตอบ 2 : มีอัตราการผลิตกําลังไฟฟาใกลเคียงกัน<br />

คําตอบ 3 : ใชแหลงน้ําขนาดใหญเหมือนกัน


ขอที่ : 329<br />

ขอที่ : 330<br />

ขอที่ : 331<br />

ขอที่ : 332<br />

คําตอบ 4 : เปลี่ยนพลังงานความรอนเปนพลังงานกลที่ตัวกังหันเหมือนกัน<br />

โดยปกติโรงไฟฟากังหันกาซใชกับงานประเภทใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

เปนโรงไฟฟาจายไฟฟาสํารอง<br />

เปนโรงไฟฟาจายไฟฟาหลัก<br />

คําตอบ 3 : ใชกับโหลดที่ตองการกําลังต่ํา<br />

คําตอบ 4 : ใชกับโหลดที่ตองการกําลังสูง<br />

การเพิ่มประสิทธิภาพของโรงไฟฟากังหันกาซโดยระบบ Regenerating ทํางานอยางไร<br />

คําตอบ 1 : เพิ่มอุณหภูมิของกาซรอนใหสูงขึ้นกอนเขากังหัน<br />

คําตอบ 2 : เพิ่มความดันของอากาศที่ออกจากเครื่องอัดอากาศใหสูงขึ้น<br />

คําตอบ 3 : ถายเทความรอนของอากาศรอนจากกังหันใหอากาศบริเวณกอนหองเผาไหม<br />

คําตอบ 4 : เพิ่มอัตราเชื้อเพลิงในหองเผาไหม<br />

ขอเสียของโรงไฟฟากังหันกาซเมื่อเปรียบเทียบกับโรงไฟฟาพลังงานไอน้ําคือ<br />

คําตอบ 1 : ตองมีตัวจายกําลังขณะเริ่มเดินเครื่อง<br />

คําตอบ 2 : การลงทุนกอสรางมีราคาสูง<br />

คําตอบ 3 : การเดินเครื่องมีขอยุงยาก จากอุปกรณที่มีจํานวนมากกวา<br />

คําตอบ 4 : คาใชจายในการบํารุงรักษาสูง<br />

ขอใดตอไปนี้จัดเปนขอดอยของโรงไฟฟากังหันกาซ<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 1 : มีปญหาเรื่องขี้เถาจากกระบวนการผลิตกําลังงานผลิตไฟฟา<br />

คําตอบ 2 : เปนโรงไฟฟาที่เดินเครื่องไดชา<br />

คําตอบ 3 : ประสิทธิภาพขึ้นอยูกับ Ambient temperature<br />

คําตอบ 4 : capital cost สูง<br />

109 of 237<br />

ขอที่ : 333<br />

โรงไฟฟาพลังงานความรอนแหงหนึ่งใชกาซธรรมชาติเปนเชื้อเพลิงและมีประสิทธิภาพรวมเฉลี่ยของโรงไฟฟาอยูที่ 50% หากโรงไฟฟาแหงนี้จายโหลดสูงสุดอยูที่ 500 MW และมี


ขอที่ : 334<br />

ขอที่ : 335<br />

ขอที่ : 336<br />

ขอที่ : 337<br />

คา Annual plant factor อยูที่ 75% จงคํานวณวาโรงไฟฟาแหงนี้ตองใชกาซธรรมชาติจํานวนกี่ลาน ลบ. ฟุต/ป หมายเหตุ: กําหนดใหกาซธรรมชาติ 1 ลบ.ฟุต มีคาความรอนจําเพาะ<br />

250 k Cal และพลังงานไฟฟา 1 kWh มีคาพลังงานเทียบเทากับ 860 k Cal<br />

คําตอบ 1 : 9.5<br />

คําตอบ 2 : 11.3<br />

คําตอบ 3 : 19.1<br />

คําตอบ 4 : 22.6<br />

ขอใดตอไปนี้ เปนคุณสมบัติเดนของโรงไฟฟากังหันกาซ<br />

คําตอบ 1 : ระยะเวลากอสรางโรงไฟฟาสั้น<br />

คําตอบ 2 : ตนทุนการผลิตตอหนวยต่ํา<br />

คําตอบ 3 : ประสิทธิภาพการผลิตสูง<br />

คําตอบ 4 : กําลังการผลิตติดตั้งสูง<br />

ขอใดคือจุดเดนของโรงไฟฟากังหันกาซ<br />

คําตอบ 1 : ใชพลังงานน้ําในการขับกังหัน<br />

คําตอบ 2 : ใชพลังงานแสงแดดในการขับกังหัน<br />

คําตอบ 3 : ใชระบบไอน้ําในการขับกังหัน<br />

คําตอบ 4 : ใชกาซรอนในการขับกังหัน<br />

ขอใดตอไปนี้เปนขอมูลของโรงไฟฟากังหันกาซที่ผิดจากความเปนจริง<br />

คําตอบ 1 : กอสรางงาย ขนาดเล็ก ใชเวลาสั้น<br />

คําตอบ 2 : ตองใชน้ําระบายความรอน<br />

คําตอบ 3 : การเดินเครื่องทําไดในเวลาอันรวดเร็ว<br />

คําตอบ 4 : การเปลี่ยนแปลงระดับการผลิตทําไดรวดเร็ว<br />

โรงไฟฟาแบบ Gas turbine ประกอบดวย Main part กี่สวน<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

2 สวน<br />

3 สวน<br />

4 สวน<br />

110 of 237


คําตอบ 4 :<br />

5 สวน<br />

ขอที่ : 338<br />

ขอที่ : 339<br />

ขอที่ : 340<br />

ขอที่ : 341<br />

โรงไฟฟาแบบ Gas turbine สามารถใชเชื้อเพลิงไดกี่ชนิด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

2 ชนิด<br />

3 ชนิด<br />

4 ชนิด<br />

5 ชนิด<br />

เชื้อเพลิงที่นิยมใชในการเดินเครื่องของโรงไฟฟาแบบ Gas turbine คือเชื้อเพลิงใดบางตอไปนี้<br />

คําตอบ 1 :<br />

กาซธรรมชาติ<br />

คําตอบ 2 : น้ํามันดีเซล<br />

คําตอบ 3 : น้ํามันเตา<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

การใชงานของโรงไฟฟาแบบ Gas turbine จะเดินเครื่องจายโหลดในลักษณะใด<br />

คําตอบ 1 : Peak load plant<br />

คําตอบ 2 : St<strong>and</strong>by plant<br />

คําตอบ 3 : Base load plant<br />

คําตอบ 4 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />

โรงไฟฟาแบบ Gas turbine สามารถเดินเครื่องจายโหลดสลับกับโรงไฟฟาใดตอไปนี้จึงจะเหมาะสมที่สุด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

Steam power plant<br />

Nuclear power plant<br />

Hydro power plant<br />

Tidal power plant<br />

111 of 237<br />

ขอที่ : 342<br />

ขอใดตอไปนี้เปนขอเสียของโรงไฟฟาแบบ Gas turbine


คําตอบ 1 :<br />

ตองมี Starting motor<br />

คําตอบ 2 : ไมสามารถเดินเครื่องติดตอกันเปนเวลานาน<br />

คําตอบ 3 : ขณะเดินเครื่องมีอุณหภูมิสูงถึง 650 องศาเซลเซียสหรือมากกวา<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

112 of 237<br />

ขอที่ : 343<br />

ขอที่ : 344<br />

ขอที่ : 345<br />

โรงไฟฟาใดตอไปนี้ในประเทศไทยที่ไมใชโรงไฟฟาแบบ Gas turbine<br />

คําตอบ 1 :<br />

โรงไฟฟาหนองจอก<br />

คําตอบ 2 : โรงไฟฟาน้ําพอง<br />

คําตอบ 3 : โรงไฟฟาระยอง<br />

คําตอบ 4 : โรงไฟฟาพระนครเหนือ<br />

ปลองควันของโรงไฟฟาแบบ Gas turbine เปนลักษณะใด<br />

คําตอบ 1 : เสนผานศูนยกลางใหญและต่ํา<br />

คําตอบ 2 : เสนผานศูนยกลางเล็กและสูง<br />

คําตอบ 3 : เสนผานศูนยกลางใหญเหมือนปากแตรและต่ํา<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

กําหนดใหประสิทธิภาพโดยรวมในการผลิตไฟฟาจากโรงไฟฟาที่ใชกาซธรรมชาติ มีคา 50% และ กําหนด ใหพลังงานไฟฟา 1 kWh = 860 k Cal กาซธรรมชาติ 1 ลบ.ฟุต = 250 k<br />

Cal หากตองการผลิตไฟฟาจากโรงไฟฟาที่ใชกาซธรรมชาติใน 1 ป เปนปริมาณ 70,000 GWh จงคํานวณปริมาณกาซธรรมชาติที่ตองใชในการผลิตไฟฟาวามีคากี่ลานลบ.ฟุตตอป<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


113 of 237<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 1 :


114 of 237<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 2 :


115 of 237<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 3 :


116 of 237<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 4 :<br />

ขอที่ : 346


117 of 237<br />

คําตอบ 1 : 1,000 ชม.<br />

คําตอบ 2 : 2,000 ชม.<br />

คําตอบ 3 : 3,125 ชม.<br />

คําตอบ 4 : 6,250 ชม.<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอที่ : 347<br />

ในการผลิตกระแสไฟฟาของ Gas turbine ใชหลักการแบบใด<br />

คําตอบ 1 : Heat recovery


คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Rankine cycle<br />

Brayton cycle<br />

Steam cycle<br />

118 of 237<br />

ขอที่ : 348<br />

โรงไฟฟาพลังความรอนรวมเปนการทํางานรวมกันของขอใด<br />

คําตอบ 1 : กังหันแกสและกังหันไอน้ํา<br />

คําตอบ 2 : กังหันแกสและกังหันลม<br />

คําตอบ 3 : พลังน้ําและกังหันไอน้ํา<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขอที่ : 349<br />

Magneto Hydro Dynamics (MHD) Generator คือเครื่องกําเนิดไฟฟาที่ทํางานดวยหลักการใด<br />

ขอที่ : 350<br />

คําตอบ 1 : ใหกาซรอนที่นําไฟฟาเคลื่อนที่ผานสนามแมเหล็กความหนาแนนสูง<br />

คําตอบ 2 : ใหน้ําเคลื่อนที่ผานสนามแมเหล็กความหนาแนนสูง<br />

คําตอบ 3 : ใหไอน้ําเคลื่อนที่ผานสนามแมเหล็กความหนาแนนสูง<br />

คําตอบ 4 : ใหแมเหล็กเคลื่อนอยูในของไหล<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

MHD Genarator เครื่องหนึ่งมีพารามิเตอรตางๆ ดังรูปดานลางนี้ ถาทอสวนที่อยูภายใตสนามแมเหล็กมีปริมาตร 5 ลบ.ม. จงหากําลังไฟฟาที่เครื่องกําเนิดดังกลาวสามารถผลิตได


119 of 237<br />

คําตอบ 1 : 300 MW<br />

คําตอบ 2 : 400 MW<br />

คําตอบ 3 : 500 MW<br />

คําตอบ 4 : 600 MW<br />

ขอที่ : 351<br />

ขอใดตอไปนี้เปนขอจํากัดของไอน้ําที่นํามาใชในโรงไฟฟาพลังความรอนและสงผลใหเกิดการพัฒนาโรงไฟฟาวัฏจักรรวม (Combined cycle power plant)<br />

คําตอบ 1 : ไดความรอนในปริมาณต่ําเมื่อเทียบกับอุณหภูมิที่ใชในกระบวนการ<br />

คําตอบ 2 : ตองการตัวใหความรอนซ้ํา (Reheater) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางความรอนใหกระบวนการ<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 3 : อุณหภูมิวิกฤติ (Critical temperature) ของไอน้ํามีคาต่ํา<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขอที่ : 352<br />

ขอใดจัดเปนขอดีของโรงไฟฟาพลังความรอนรวม (Combined cycle power plant)<br />

คําตอบ 1 : ประสิทธิภาพโดยรวมของโรงไฟฟามีคาสูง


คําตอบ 2 : ใชน้ําหลอเย็นประมาณ 40 – 50% ของโรงไฟฟาพลังความรอนเทานั้น<br />

คําตอบ 3 : เกิดผลกระทบตอสิ่งแวดลอมนอย<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

120 of 237<br />

ขอที่ : 353<br />

ขอที่ : 354<br />

ขอที่ : 355<br />

ขอที่ : 356<br />

ขอใดตอไปนี้ไมใชโรงไฟฟาพลังความรอนรวม (Combined cycle power plant)<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

โรงไฟฟาราชบุรี<br />

โรงไฟฟาพระนครใต<br />

โรงไฟฟาลําตะคอง<br />

คําตอบ 4 : โรงไฟฟาน้ําพอง<br />

โรงไฟฟาพลังความรอนรวมเปนการนําโรงไฟฟาประเภทใดมาใชงานรวมกัน<br />

ก. โรงไฟฟาพลังไอน้ํา<br />

ข. โรงไฟฟากังหันกาซ<br />

ค. โรงไฟฟาเครื่องยนตเผาไหมภายใน<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ก และ ข<br />

ก และ ค<br />

ข และ ค<br />

ก ข และ ค<br />

ประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟาของโรงไฟฟาพลังงานความรอนรวม อยูที่ประมาณเทาใด<br />

คําตอบ 1 : 25-30 %<br />

คําตอบ 2 : 35-40 %<br />

คําตอบ 3 : 55-60 %<br />

คําตอบ 4 : 65-70 %<br />

องคประกอบใดมีเฉพาะในโรงไฟฟาพลังงานความรอนรวม แตไมมีในโรงไฟฟาพลังงานความรอนทั่วไป<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

High-Pressured Steam Turbine<br />

Heat Recovery Steam Generator<br />

Condenser <strong>and</strong> cooling tower


คําตอบ 4 :<br />

Combustion chamber<br />

ขอที่ : 357<br />

ขอใด ไมใช เหตุผลสําคัญที่ทําใหโรงไฟฟาพลังงานความรอนรวมไดรับความนิยมแพรหลายในปจจุบัน<br />

คําตอบ 1 : ประสิทธิภาพในการผลิตสูง<br />

คําตอบ 2 : มีความยืดหยุนในการใชงานสูง<br />

คําตอบ 3 : ใชเงินลงทุนในการกอสรางต่ํา<br />

คําตอบ 4 : ตองการดูแลและบํารุงรักษาต่ํา<br />

ขอที่ : 358<br />

โรงไฟฟา Combined cycle หรือโรงไฟฟาพลังงานความรอนรวม ในประเทศไทยเปนลักษณะใด<br />

คําตอบ 1 : Gas turbine + steam turbine power plant<br />

คําตอบ 2 : MHD + steam turbine power plant<br />

คําตอบ 3 : MHD + Fuel cell<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขอที่ : 359<br />

ขอที่ : 360<br />

โรงไฟฟาใดตอไปนี้ในประเทศไทยที่เปนโรงไฟฟา Combined cycle<br />

คําตอบ 1 : โรงไฟฟาวังนอย<br />

คําตอบ 2 : โรงไฟฟาราชบุรี<br />

คําตอบ 3 : โรงไฟฟาราชบุรี<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

โรงไฟฟาใดตอไปนี้ที่ใชเชื้อเพลิงคุมคาที่สุด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

Diesel<br />

Steam<br />

Gas turbine<br />

Combined cycle<br />

121 of 237<br />

ขอที่ : 361<br />

ในโรงไฟฟา MHD ถา B = 4 Tesla, conductivity = 6 mho/m, v = 2,000 m/sec. K = 0.5 จะไดกําลังผลิต/m3 เทาใด


คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

100 MW/m3<br />

200 MW/m3<br />

300 MW/m3<br />

400 MW/m3<br />

122 of 237<br />

ขอที่ : 362<br />

ขอที่ : 363<br />

ขอที่ : 364<br />

ขอที่ : 365<br />

โรงไฟฟาใดตอไปนี้ในประเทศไทยที่เปนระบบของโรงจักร MHD<br />

คําตอบ 1 : โรงไฟฟากระบี่<br />

คําตอบ 2 : โรงไฟฟาน้ําพอง<br />

คําตอบ 3 : โรงไฟฟาน้ําพอง<br />

คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />

ยูเรเนียมที่ใชเปนเชื้อเพลิงในโรงไฟฟานิวเคลียร คือ ชนิดใด<br />

คําตอบ 1 : U 335<br />

คําตอบ 2 : U 325<br />

คําตอบ 3 : U 235<br />

คําตอบ 4 : U 239<br />

โมเดอเรเตอร (Moderator) คืออุปกรณที่ทําหนาที่อะไรในโรงไฟฟานิวเคลียร<br />

คําตอบ 1 : เพื่อเพิ่มความเร็วของนิวตรอนเพื่อใหมีพลังงานสูงขึ้นจนเกิดปฏิกริยานิวเคลียร<br />

คําตอบ 2 : ลดความเร็วต่ําลงจนผานพลังงานเรโซแนนซในสารซึ่งไมจับหรือดูดนิวตรอนมากเกินไป<br />

คําตอบ 3 : อุปกรณสําหรับเปลี่ยนพลังงานความรอนเปนพลังงานไฟฟา<br />

คําตอบ 4 : อุปกรณแปลงสัญญาณไฟฟาจากสภาพหนึ่งไปยังอีกสภาพหนึ่ง<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอใดที่ไมใชคุณสมบัติของการมีหรือสรางโรงไฟฟานิวเคลียร<br />

คําตอบ 1 : ของเสียเชื้อเพลิงหลังจากการใชงานตองนําไปทิ้งกลางทะเลหรือขุดฝงดินลึก<br />

คําตอบ 2 : เงินลงทุนสูงมากเมื่อเทียบกับโรงไฟฟาอื่นๆ<br />

คําตอบ 3 : คําดําเนินการและการบํารุงรักษาสูงมาก<br />

คําตอบ 4 : คาขนสงเชื้อเพลิงสูงมากเมื่อเทียบกับโรงไฟฟาเชื้อเพลิงอื่น


ขอที่ : 366<br />

ขอที่ : 367<br />

ขอที่ : 368<br />

ขอที่ : 369<br />

ปฏิกริยานิวเคลียรแบบฟวชัน (Fusion) หมายถึง<br />

คําตอบ 1 : นิวเคลียสสองนิวเคลียสหรือมากกวามารวมกันกลายเปนนิวเคลียสใหมที่หนักกวาและเสถียรภาพมากกวา แตน้ําหนักนอยกวาผมรวมของนิวเคลียสทั้งหมด<br />

คําตอบ 2 : นิวเคลียสแตกตัวออกเปนนิวเคลียสสองนิวเคลียสหรือมากกวาซึ่งน้ําหนักรวมนอยกวาน้ําหนักนิวเคลียสเดิม<br />

คําตอบ 3 : อะตอมชนกับอิเล็กตรอนจํานวนมากที่มาวิ่งมารวมตัวกัน<br />

คําตอบ 4 : อิเล็กตรอนหลุดออกจากวงโคจรของอะตอมมาก<br />

ปฏิกริยานิวเคลียร ฟสชัน (Fission) หมายถึง<br />

คําตอบ 1 :<br />

อิเล็กตรอนหลุดออกจากวงโคจรของอะตอมมาก<br />

คําตอบ 2 : นิวเคลียสสองนิวเคลียสหรือมากกวามารวมกันกลายเปนนิวเคลียสใหมที่หนักกวาและเสถียรภาพมากกวา แตน้ําหนักนอยกวาผมรวมของนิวเคลียสทั้งหมด<br />

คําตอบ 3 : อะตอมชนกับอิเล็กตรอนจํานวนมากที่มาวิ่งมารวมตัวกัน<br />

คําตอบ 4 : นิวเคลียสแตกตัวออกเปนนิวเคลียสสองนิวเคลียสหรือมากกวาซึ่งน้ําหนักรวมนอยกวาน้ําหนักนิวเคลียสเดิม<br />

องคประกอบใดที่ไมไดใชหรือมีการใชนอยที่สุดในการเลือกที่ตั้งของโรงไฟฟานิวเคลียร<br />

คําตอบ 1 : ไมควรอยูหางไกลจากแหลงเชื้อเพลิง<br />

คําตอบ 2 : ปริมาณน้ําที่ตองมีเปนจํานวนมาก<br />

คําตอบ 3 : บริเวณที่ตั้งที่ควรหางไกลจากแหลงชุมชนใหมากที่สุด<br />

คําตอบ 4 : การกําจัดของเสีย<br />

ขอใดไมใชขอดีของโรงไฟฟานิวเคลียร<br />

คําตอบ 1 : ไมตองหวงเรื่องราคาของเชื้อเพลิงที่ใชเหมือนอยางกรณีของของถาหินและน้ํามันที่มีแนวโนมเพิ่มสูงขึ้น<br />

คําตอบ 2 : ราคาโรงไฟฟาถูก<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 3 : ใชพื้นที่คอนขางนอย<br />

คําตอบ 4 : สามารถผลิตกําลังไดมาก<br />

123 of 237<br />

ขอที่ : 370<br />

ปกติโรงไฟฟานิวเคลียรจะเปลี่ยนรูปพลังงานที่ไดเปนพลังงานไฟฟาโดยอาศัยโรงไฟฟาประเภทใด<br />

คําตอบ 1 : โรงไฟฟาดีเซล


คําตอบ 2 : โรงไฟฟาพลังงานน้ํา<br />

คําตอบ 3 : โรงไฟฟากังหันกาซ<br />

คําตอบ 4 : โรงไฟฟาพลังงานไอน้ํา<br />

124 of 237<br />

ขอที่ : 371<br />

ขอใดไมใช Reactor ที่ใชในโรงไฟฟานิวเคลียร<br />

คําตอบ 1 : Pressurized water reactor<br />

คําตอบ 2 : Boiling water reactor<br />

คําตอบ 3 : Gas cooled graphit moderated reactor<br />

คําตอบ 4 : Vacuum graphit moderated reactor<br />

ขอที่ : 372<br />

ขอใดไมใชขอดีของ Nuclear power plant<br />

คําตอบ 1 : ไมตองใช ถานหิน น้ํามัน และ กาซ ซึ่งราคาจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และจะหมดไป<br />

คําตอบ 2 : น้ําหนักของเชื้อเพลิงที่ใชสําหรับ Nuclear power plant นอยมากเมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงที่ใชสําหรับ <strong>Plant</strong> ชนิดอื่นที่ พิกัดเดียวกัน ทําใหประหยัดคาขนสง<br />

คําตอบ 3 : ใชพื้นที่นอยเมื่อเทียบกับ <strong>Plant</strong> ชนิดอื่นที่พิกัดเดียวกัน<br />

คําตอบ 4 : คากอสราง Nuclear power plant มีราคาถูกกวา เมื่อเทียบกับ <strong>Plant</strong> ชนิดอื่นที่พิกัดเดียวกัน<br />

ขอที่ : 373<br />

ขอใดไมใชสวนประกอบของ Nuclear power plant<br />

คําตอบ 1 : Reactor<br />

คําตอบ 2 : Boiler<br />

คําตอบ 3 : Combustion chamber<br />

คําตอบ 4 : Stream Turbine<br />

ขอที่ : 374<br />

ขอใดไมใชสวนประกอบของ Reactor ของ Nuclear power plant<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

Refinery<br />

Moderator<br />

Reactor core<br />

Shielding


ขอที่ : 375<br />

ขอที่ : 376<br />

ขอที่ : 377<br />

ขอที่ : 378<br />

ขอที่ : 379<br />

ขอใดไมใชชนิดของ Reactor ของ Nuclear power plant<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Magnox reactor<br />

Advance gas cooled reactor<br />

Melting water reactor<br />

C<strong>and</strong>u type reactor<br />

ขอใดไมใชปจจัยพื้นฐานที่ตองพิจารณาในการออกแบบ Nuclear power plant<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

ชนิดของ Reactor<br />

<strong>Power</strong> rating<br />

ความปลอดภัย<br />

คําตอบ 4 : แหลงน้ํามัน<br />

ปฏิกิริยานิวเคลียรที่สามารถใชงานไดในโรงไฟฟาในปจจุบันคือ<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ใชปฏิกิริยาเคมี<br />

ใชปฏิกิริยา Fission<br />

ใชปฏิกิริยา Fusion<br />

ใชปฏิกิริยาไฟฟา<br />

ปฏิกิริยานิวเคลียรแบบ Fission คือ<br />

คําตอบ 1 : การแตกตัวเปนออกซิเจนและไฮโดรเจนของน้ํา<br />

คําตอบ 2 : ปฏิกิริยาการเกิดกระแสไฟฟาในสารอิเล็กโทรไลต<br />

คําตอบ 3 : วิธีการกําจัดกากนิวเคลียร<br />

คําตอบ 4 : ปฏิกิริยาการเกิดความรอนจากการชนกันของอนุภาคระดับอะตอมหรือเล็กกวา<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอใดเปนวิธีการหยุดการทํางานของเตาปฏิกรณที่ถูกตอง<br />

คําตอบ 1 : ฉีดน้ําเขาไปในเตาปฏิกรณ<br />

คําตอบ 2 : นําเอายูเรเนียมออกจากเตาปฏิกรณ<br />

125 of 237


คําตอบ 3 : ใชปมสุญญากาศดูดเอาสารกัมมันตรังสีออกจากเตาปฏิกรณ<br />

คําตอบ 4 : ใสแทงควบคุมในเตาปฏิกรณเพื่อดูดกลืนนิวตรอน<br />

126 of 237<br />

ขอที่ : 380<br />

ขอที่ : 381<br />

ขอที่ : 382<br />

ขอที่ : 383<br />

เลขอะตอม (Atomic number) บอกคาของ<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

จํานวนนิวตรอน<br />

จํานวนโปรตอน<br />

คําตอบ 3 : น้ําหนักอะตอม<br />

คําตอบ 4 : น้ําหนักนิวเคลียส<br />

ปฏิกริยาใดตอไปนี้เปนปฏิกริยานิวเคลียร<br />

คําตอบ 1 : ปฏิกริยาที่เกิดจากการรวมตัวกันของอะตอม 2 อะตอมขึ้นไป<br />

คําตอบ 2 : ปฏิกริยาการแตกตัวของอะตอม<br />

คําตอบ 3 : ปฏิกริยาการแลกเปลี่ยนอิเล็กตรอนที่หมุนในวงโคจร<br />

คําตอบ 4 : ปฏิกริยาที่นิวเคลียสถูกยิงดวยอนุภาคนิวตรอนแลวแยกเปนสวนที่เล็กลง<br />

การใชน้ําเปนสารหนวงนิวตรอนมีขอดีอยางไร<br />

คําตอบ 1 : การเหนี่ยวนําใหเกิดรังสีต่ํา<br />

คําตอบ 2 : ไมตองใชเชื้อเพลิงมาก<br />

คําตอบ 3 : มีความดันในเตาปฏิกรณสูง<br />

คําตอบ 4 : อุปกรณตางๆ มีการสึกกรอนนอย<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอใดตอไปนี้ไมใชประเด็นหลักในการพิจารณาเริ่มกอสรางโรงไฟฟานิวเคลียร<br />

คําตอบ 1 : แหลงน้ํา<br />

คําตอบ 2 : แหลงชุมชน<br />

คําตอบ 3 : การกําจัดของเสีย<br />

คําตอบ 4 : คาขนสงเชื้อเพลิง<br />

ขอที่ : 384


ขอใดคือสารกัมมันตรังสีที่สามารถนํามาใชในโรงไฟฟานิวเคลียรได<br />

คําตอบ 1 : ธอเรียม (Thorium)<br />

คําตอบ 2 : ยูเรเนียม (Uranium)<br />

คําตอบ 3 : พลูโตเนียม (Plutonium)<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

127 of 237<br />

ขอที่ : 385<br />

ขอที่ : 386<br />

ขอที่ : 387<br />

ขอที่ : 388<br />

ขอใดไมใชชนิดของรีแอกเตอรที่ใชในโรงไฟฟานิวเคลียร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Pressurized water reactor (PWR)<br />

Cooling water reactor (CWR)<br />

Boiling water reactor (BWR)<br />

High-temperature gas-cooled reactor (HTGR)<br />

ขอใดไมใชปจจัยที่นํามาใชเลือกสถานที่ตั้งโรงไฟฟานิวเคลียร<br />

คําตอบ 1 : ควรจะตั้งอยูใกลแหลงเชื้อเพลิง<br />

คําตอบ 2 : ควรหลีกเลี่ยงบริเวณที่อาจจะเกิดแผนดินไหว<br />

คําตอบ 3 : ควรจะตั้งอยูใกลแหลงน้ํา<br />

คําตอบ 4 : ควรจะตั้งอยูใกลแหลงชุมชน<br />

ขอใด ไมใช ขอเสียของโรงไฟฟานิวเคลียร<br />

คําตอบ 1 : ตนทุนคาเชื้อเพลิงตอหนวยไฟฟาที่ผลิตไดสูงมาก<br />

คําตอบ 2 : ใชเงินลงทุนในการกอสรางสูงมาก<br />

คําตอบ 3 : การจัดการกากเชื้อเพลิงตองอาศัยความระมัดระวังสูงมาก<br />

คําตอบ 4 : ไมสามารถตอบสนองตอการเปลี่ยนแปลงโหลดอยางรวดเร็วได<br />

โรงไฟฟานิวเคลียรใชจายโหลดในกรณีใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

โหลดฐาน<br />

โหลดปานกลาง<br />

โหลดฐานและโหลดฉุกเฉิน


คําตอบ 4 :<br />

โหลดคายอด<br />

ขอที่ : 389<br />

ขอที่ : 390<br />

โรงจักรไฟฟานิวเคลียรนิยมใชผลิตไฟฟาในชวงใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

ชวงโหลดสูง<br />

คําตอบ 2 : ชวงโหลดต่ํา<br />

คําตอบ 3 : ชวงเบสโหลด<br />

คําตอบ 4 : ตลอดทุกชวงโหลด<br />

ขอใดไมใชปญหาของโรงไฟฟานิวเคลียร<br />

คําตอบ 1 :<br />

การลงทุนใชงบประมาณสูง<br />

คําตอบ 2 : อันตรายเนื่องจากรังสีในโรงไฟฟา<br />

คําตอบ 3 : ตองมีทําเลอยูใกลแหลงน้ํา<br />

คําตอบ 4 : ปญหาการกําจัดกากกัมมันตภาพรังสี<br />

ขอที่ : 391<br />

Furnance ในโรงไฟฟา Steam เทียบไดกับสวนใดของโรงไฟฟา Nuclear<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Reactor<br />

Heat exchange<br />

Boiler<br />

Turbine<br />

ขอที่ : 392<br />

Boiler ในโรงไฟฟา Steam เทียบไดกับสวนใดของโรงไฟฟา Nuclear<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

Reactor<br />

Heat exchange<br />

Boiler<br />

Turbine<br />

128 of 237<br />

ขอที่ : 393<br />

เชื้อเพลิงใดตอไปนี้ที่ไมสามารถใชไดในโรงไฟฟา Nuclear


คําตอบ 1 : U235<br />

คําตอบ 2 : U238<br />

คําตอบ 3 : Uranium oxide<br />

คําตอบ 4 : Cobol 60<br />

129 of 237<br />

ขอที่ : 394<br />

ขอที่ : 395<br />

ขอที่ : 396<br />

โรงไฟฟา Nuclear ใชงานในลักษณะใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Peak load plant<br />

Base load plant<br />

St<strong>and</strong>by plant<br />

ถูกทุกขอ<br />

โรงไฟฟา Nuclear เหมาะที่จะจายใหกับโหลดที่มี Load factor เทาใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

80 เปอรเซ็นต<br />

มากกวา 80 เปอรเซ็นต<br />

นอยกวา 80 เปอรเซ็นต<br />

ถูกทุกขอ<br />

สถานที่ ที่เหมาะสมที่จะสรางโรงไฟฟา Nuclear ควรจะอยูที่ใด<br />

คําตอบ 1 : ติดปาที่สมบูรณ<br />

คําตอบ 2 : ติดทะเลหรือแหลงน้ําขนาดใหญ<br />

คําตอบ 3 : ติดภูเขาที่มีปาสมบูรณ<br />

คําตอบ 4 : ถูกทั้ง 2 และ 3<br />

ขอที่ : 397<br />

Reactor หรือ เตาปฏิกรณ ที่มีขายแบงเปนกี่ชนิด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

6 ชนิด<br />

7 ชนิด<br />

8 ชนิด<br />

9 ชนิด


ขอที่ : 398<br />

Reacotr หรือเตาปฏิกรณชนิดใดในโรงไฟฟา Nuclear ที่ใหสารกัมมันตภาพรังสีออกมากับน้ําระบายความรอนมากที่สุด<br />

ขอที่ : 399<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Magnox<br />

AGR<br />

BWR<br />

Condu<br />

สิ่งใดตอไปนี้ที่ไมใชของเสียที่ระบายออกมาจากโรงไฟฟา Nuclear<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

Iodine<br />

130 of 237


131 of 237<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :


132 of 237<br />

ขอที่ : 400<br />

จากสถาบันกําหนดมาตรฐานนานาชาติ กําหนดวาคนสามารถทนสารกัมมันตภาพรังสีไดจากสมการใด ( N = อายุคน)<br />

คําตอบ 1 : D = 5 (N – 18) rem<br />

คําตอบ 2 : D = N – 18 rem<br />

คําตอบ 3 : D = 5N rem<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขอที่ : 401<br />

บุคคลที่ปฏิบัติงานในโรงไฟฟา Nuclear จะตองมีสารกัมมันตภาพรังสีในเลือดไมเกินเทาใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

0.5 rem/ป<br />

1.0 rem/ป<br />

1.5 rem/ป<br />

ไมมีขอใดถูก<br />

ขอที่ : 402


Capital cost ในการกอสรางโรงไฟฟา Nuclear มีคากี่เปอรเซ็นต<br />

คําตอบ 1 : 60 เปอรเซ็นต<br />

คําตอบ 2 : 65 เปอรเซ็นต<br />

คําตอบ 3 : 70 เปอรเซ็นต<br />

คําตอบ 4 : 75 เปอรเซ็นต<br />

133 of 237<br />

ขอที่ : 403<br />

Fuel cost และ Operating cost ของโรงไฟฟา Nuclear มีคากี่เปอรเซ็นต<br />

ขอที่ : 404<br />

ขอที่ : 405<br />

ขอที่ : 406<br />

คําตอบ 1 : 20, 10<br />

คําตอบ 2 : 10, 20<br />

คําตอบ 3 : 30, 10<br />

คําตอบ 4 : 10 , 30<br />

ราคาในการกอสรางโรงไฟฟาใดตอไปนี้ ที่มีราคากอสรางสูงสุด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Diesel<br />

Steam<br />

Gas turbine<br />

Nuclear<br />

ปลองควันของโรงไฟฟา Nuclear เปนลักษณะใด<br />

คําตอบ 1 : เสนผานศูนยกลางใหญ และต่ํา<br />

คําตอบ 2 : เสนผานศูนยกลางเล็ก และสูง<br />

คําตอบ 3 : เสนผานศูนยกลางใหญเหมือนปากแตรและต่ํา<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ในการผลิตกระแสไฟฟาโดยใชพลังงาน Nuclear จะทําใหเกดผลกระทบตอปฎิกิริยาเรือนกระจกอยางไร<br />

คําตอบ 1 : นอยที่สุดเมื่อเทียบกับการผลิตดวยหลังงานอยางอื่น<br />

คําตอบ 2 : มากที่สุดเมื่อเทียบกับการผลิตดวยหลังงานอยางอื่น<br />

คําตอบ 3 : ปานกลางที่สุดเมื่อเทียบกับการผลิตดวยหลังงานอยางอื่น


คําตอบ 4 :<br />

ไมมีขอใดถูก<br />

ขอที่ : 407<br />

ขอที่ : 408<br />

ขอที่ : 409<br />

กากยูเรเนียม 235 น้ําหนัก 1 กิโลกรัม ที่เลิกใชจากโรงไฟฟานิวเคลียร นําไปฝงกลบลงดินลึก 50 เมตร อยากทราบวาในอีก 150 ป จะเหลือกากยูเรเนียมน้ําหนักเทาไหร เมื่อ Half<br />

life ของยูเรนียมเทากับ 5213 ป<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

0.98 kg<br />

34.75 g<br />

0.3475 kg<br />

3 g<br />

กากโคบอล 60 ที่เลิกใชจากโรงไฟฟานิวเคลียร นําไปฝงกลบลงดินลึก 100 เมตร ในอีก 1500 ปตอมาขุดขึ้นมาชั่งน้ําหนักเหลือ 0.75 กรัมโดย Half life ของโคบอล 60 เทากับ<br />

1213 ป อยากทราบวาเมื่อตอนนําโคบอล 60 มาฝงมีน้ําหนักเทาไหร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

1.5 g<br />

0.0882 g<br />

0.5 g<br />

1.767 g<br />

กากโคบอล 60 น้ําหนัก 0.89 g ที่เลิกใชจากโรงไฟฟานิวเคลียร นําไปฝงกลบลงดินลึก 100 เมตร ในอีก 1500 ปตอมาขุดขึ้นมาชั่งน้ําหนักเหลือ 0.75 กรัม อยากทราบวา Half life<br />

ของโคบอล 60 มีคาเทากับเทาไหร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

2,456 ป<br />

6,087.36 ป<br />

1,500 ป<br />

3,000 ป<br />

134 of 237<br />

ขอที่ : 410<br />

กากพลูโตเนียม น้ําหนัก 0.95 กิโลกรัม ที่เลิกใชจากโรงไฟฟานิวเคลียร นําไปฝงกลบลงดินลึก 50 เมตร อยากทราบวาในอีก 120 ป จะเหลือกากพลูโตเนียมน้ําหนักเทาไหร เมื่อ


Half life ของพลูโตเนียมเทากับ 1250 ป<br />

ขอที่ : 411<br />

ขอที่ : 412<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

0.889 kg<br />

0.889 g<br />

0.3475 kg<br />

3 g<br />

กากพลูโตเนียมที่เลิกใชจากโรงไฟฟานิวเคลียร นําไปฝงกลบลงดินลึก 200 เมตร ในอีก 100 ปตอมาขุดขึ้นมาชั่งน้ําหนักเหลือ 0.75 กรัมโดย Half life ของพลูโตเนียมเทากับ 800<br />

ป อยากทราบวาเมื่อตอนนําพลูโตเนียมมาฝงมีน้ําหนักเทาไหร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

1.5 g<br />

0.0882 g<br />

0.5 g<br />

0.818 g<br />

กากพลูโตเนียมน้ําหนัก 0.69 g ที่เลิกใชจากโรงไฟฟานิวเคลียร นําไปฝงกลบลงดินลึก 100 เมตร ในอีก 1000 ปตอมาขุดขึ้นมาชั่งน้ําหนักเหลือ 0.35 กรัม อยากทราบวา Half life<br />

ของพลูโตเนียมมีคาเทากับเทาไหร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

2,456 ป<br />

1020.84 ป<br />

1,500 ป<br />

3,000 ป<br />

ขอที่ : 413<br />

Reactor แบบใดที่ผลิตกระแสไฟฟาโดยตรง<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

Pressurized water reactor (PWR)<br />

Boiling water reactor (BWR)<br />

C<strong>and</strong>u<br />

ไมมีขอใดถูก<br />

135 of 237


ขอที่ : 414<br />

Reactor แบบใดที่มีอุปกรณและเปลี่ยนความรอน (Heat exchange)<br />

ขอที่ : 415<br />

ขอที่ : 416<br />

ขอที่ : 417<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Pressurized water reactor (PWR)<br />

Boiling water reactor (BWR)<br />

C<strong>and</strong>u<br />

ไมมีขอใดถูก<br />

เชื้อเพลิงที่ออกจาก Reactor จะตองนําไปแชอยูในน้ําเปนเวลาเทาไหร<br />

คําตอบ 1 : ไมต่ํากวา 6 เดือน<br />

คําตอบ 2 : ไมต่ํากวา 2 เดือน<br />

คําตอบ 3 : ไมต่ํากวา 6 ชั่วโมง<br />

คําตอบ 4 : ไมต่ํากวา 2 ชั่วโมง<br />

องคกรกลางที่ดูแลทางดาน Nuclear คือองคกรใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

PEA<br />

MEA<br />

IAEA<br />

TIS<br />

ลักษณะของปานที่ใชเตือนบริเวณที่มีรังสี จะมีลักษณะแบบใด<br />

คําตอบ 1 : พื้นแดง อักษรขาว<br />

คําตอบ 2 : พื้นเหลือง อักษรขาว<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 3 : พื้นแดง อังษรดํา<br />

คําตอบ 4 : พื้นเหลือง อังษรสีดํา<br />

136 of 237<br />

ขอที่ : 418<br />

หนวยที่ใชในการเรียกปริมาณรังสีคือขอใด<br />

คําตอบ 1 : Rem


คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

กรัม<br />

กิโลกรัม<br />

137 of 237<br />

ขอที่ : 419<br />

ขอที่ : 420<br />

ขอที่ : 421<br />

ใหเลือกคําตอบที่ไมใชขอดีของโรงไฟฟาพลังงานน้ํา<br />

คําตอบ 1 : คาใชจายในการดําเนินงานต่ํา<br />

คําตอบ 2 : ไมมีควันเสียหรือกาซพิษ<br />

คําตอบ 3 : สามารถเดินโรงไฟฟาใหเขากับการเปลี่ยนโหลดไดเร็ว<br />

คําตอบ 4 : จายโหลดไดมากเปนเวลานานๆ<br />

ขอใดไมใชขอเสียของโรงไฟฟาพลังงานน้ํา<br />

คําตอบ 1 :<br />

คาใชจายสรางโรงไฟฟาสูง<br />

คําตอบ 2 : โรงไฟฟาอยูหางไกลจากศูนยกลางโหลด<br />

คําตอบ 3 : จํานวนคนทํางานมากที่สุดเมื่อเทียบกับโรงไฟฟาพลังงานอื่นๆ<br />

คําตอบ 4 : ใชเวลาในการกอสรางนาน<br />

เขื่อนในประเทศไทยสวนใหญเปนเขื่อนประเภทใด<br />

คําตอบ 1 : เขื่อนดิน<br />

คําตอบ 2 : เขื่อนคอนกรีต<br />

คําตอบ 3 : เขื่อนหินถมแกนดินเหนียว<br />

คําตอบ 4 : เขื่อนไม<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอที่ : 422<br />

Surge tank ในโรงไฟฟาพลังงานน้ํา มีประโยชนอยางไร<br />

คําตอบ 1 : รองรับปริมาณน้ําจํานวนมากที่เกิดในหนาฝนลงมาที่อางเก็บน้ํา<br />

คําตอบ 2 : รองรับปริมาณน้ําจํานวนมากที่ทายน้ําเพื่อไมใหดินทายน้ําพังเสียหาย<br />

คําตอบ 3 : ควบคุมความดันที่เพิ่มขึ้นของน้ําในทอสงน้ํา (Penstock)<br />

คําตอบ 4 : เพื่อจายน้ํากรณีขาดแคลนน้ําในอางเก็บน้ํา


ขอที่ : 423<br />

ขอที่ : 424<br />

ขอที่ : 425<br />

ขอที่ : 426<br />

โรงไฟฟาพลังงานน้ําที่เขื่อนใดในประเทศไทยที่มีเทอรไบนแบบแรงกระแทก (Impulse turbine)<br />

คําตอบ 1 : เขื่อนแกงกระจาน<br />

คําตอบ 2 : เขื่อนภูมิพล<br />

คําตอบ 3 : เขื่อนอุบลรัตน<br />

คําตอบ 4 : เขื่อนจุฬาภรณ<br />

อุปกรณใดที่ไมใชเปนสวนหนึ่งของโรงไฟฟาพลังงานน้ํา<br />

คําตอบ 1 : ฟรานซิสเทอรไบน (Francis turbine)<br />

คําตอบ 2 : เพลตันเทอรไบน (Pelton turbine)<br />

คําตอบ 3 : เทอรไบนความดันต่ํา (Low pressure turbine)<br />

คําตอบ 4 : คาปลานเทอรไบน (Kalplan turbine)<br />

เครื่องจักรพลังน้ําเครื่องหนึ่งทํางานที่ความเร็วรอบ 300 rpm อยากทราบวาเครื่องกําเนิดไฟฟาที่ใชตองมีกี่ขั้ว<br />

คําตอบ 1 : 2 ขั้ว<br />

คําตอบ 2 : 8 ขั้ว<br />

คําตอบ 3 : 14 ขั้ว<br />

คําตอบ 4 : 20 ขั้ว<br />

น้ําไหลจากแหลงน้ําผานทอที่มีเสนผานศูนยกลาง 1 เมตร ยาว 500 เมตร ที่ความเร็วเฉลี่ย 1.5 เมตร ตอวินาที ไปสูกังหัน ถาดานเขาของกังหันอยูต่ํากวาผิวของแหลงน้ํา 300 เมตร<br />

จงหากําลังดานออกถาประสิทธิภาพของระบบเปน 90 %<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

3,120 kW<br />

3,432 kW<br />

4,380 kW<br />

5,200 kW<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

138 of 237<br />

ขอที่ : 427<br />

Hydrograph เปนกราฟที่ plot ระหวาง<br />

คําตอบ 1 :<br />

Discharge (ลูกบาศกเมตรตอวินาที) กับ เวลา(hours)


คําตอบ 2 : Discharge (ลูกบาศกเมตรตอวินาที) รายวัน รายสัปดาห หรือ รายเดือน กับ Percent of time<br />

คําตอบ 3 : ปริมาณน้ําสะสมที่สามารถเก็บจากการไหลของน้ํา กับ เวลา เปนวัน สัปดาห หรือ เดือน มีหนวยเปน Day-second-metre<br />

คําตอบ 4 : ปริมาณน้ําสะสมที่สามารถเก็บจากการไหลของน้ํา กับ Percent of time มีหนวยเปน ลูกบาศกเมตร<br />

139 of 237<br />

ขอที่ : 428<br />

Flow duration curve เปนกราฟที่ Plot ระหวาง<br />

ขอที่ : 429<br />

คําตอบ 1 : Discharge (ลูกบาศกเมตรตอวินาที) กับ เวลา (Hours)<br />

คําตอบ 2 : Discharge (ลูกบาศกเมตรตอวินาที) รายวัน รายสัปดาห หรือ รายเดือน กับ Percent of time<br />

คําตอบ 3 : ปริมาณน้ําสะสมที่สามารถเก็บจากการไหลของน้ํา กับ เวลา เปนวัน สัปดาห หรือ เดือน มีหนวยเปน Day-second-metre<br />

คําตอบ 4 : ปริมาณน้ําสะสมที่สามารถเก็บจากการไหลของน้ํา กับ Percent of time มีหนวยเปน ลูกบาศกเมตร<br />

จาก Mass curve ที่ใหมาเพื่อใชออกแบบขนาดความจุของอางเก็บน้ํา จะสามารถคํานวณหาอัตราการไหลของน้ําทีไดหลังจากสรางอางเก็บน้ําจาก<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 1 : พื้นที่ใตกราฟ ABDA<br />

คําตอบ 2 : ขนาดของ CD<br />

คําตอบ 3 : ขนาดของ FG<br />

คําตอบ 4 : Slope ของ AB


ขอที่ : 430<br />

Mass curve เปนกราฟที่ plot ระหวาง<br />

ขอที่ : 431<br />

ขอที่ : 432<br />

ขอที่ : 433<br />

ขอที่ : 434<br />

คําตอบ 1 : Discharge (ลูกบาศกเมตรตอวินาที) กับ เวลา(hours)<br />

คําตอบ 2 : Discharge (ลูกบาศกเมตรตอวินาที) รายวัน รายสัปดาห หรือ รายเดือน กับ percent of time<br />

คําตอบ 3 : ปริมาณน้ําสะสมที่สามารถเก็บจากการไหลของน้ํา กับ เวลา เปนวัน สัปดาห หรือ เดือน มีหนวยเปน day-second-metre<br />

คําตอบ 4 : ปริมาณน้ําสะสมที่สามารถเก็บจากการไหลของน้ํา กับ Percent of time มีหนวยเปน ลูกบาศกเมตร<br />

ปริมาณน้ํา 1 Day-second-metre หมายถึง<br />

คําตอบ 1 : ปริมาตรน้ําที่ไหลในอัตรา 1 ลูกบาศกเมตรตอวินาที เปนเวลา 1 วัน<br />

คําตอบ 2 : ปริมาตรน้ําที่ไหลในอัตรา 1 ลูกบาศกเมตรตอวัน เปนเวลา 1 sec<br />

คําตอบ 3 : ปริมาตรน้ํา 86,400 ลูกบาศกเมตร<br />

คําตอบ 4 : ถูกทั้งคําตอบ 1 และ 3<br />

ขอใดไมใชชนิดของเขื่อน<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

เขื่อนภูมิพลเปนเขื่อนชนิดใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Solid gravity concrete dams<br />

Arch dams<br />

Rock-fill dams<br />

Steel dams<br />

Earth dam<br />

Arch dam<br />

Rock-fill dam<br />

Steel dam<br />

ขอใดไมใชสวนประกอบของเขื่อน<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

Spill ways<br />

Intake<br />

140 of 237


คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Outtake<br />

Penstock<br />

141 of 237<br />

ขอที่ : 435<br />

ขอใดไมใชชนิดของ Turbine ของ Hydro power <strong>Plant</strong><br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Francis turbine<br />

Jet turbine<br />

Propeller turbine<br />

Pelton wheel<br />

ขอที่ : 436<br />

โรงไฟฟาพลังงานน้ําเขื่อนจุฬาภรณมีเฮด(Head) สูง 370 เมตร ใชกังหันน้ําชนิดใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Kaplan<br />

Propeller<br />

Francis<br />

Pelton<br />

ขอที่ : 437<br />

โรงไฟฟาพลังงานน้ําเขื่อภูมิพลมีเฮด(Head) สูง 80 เมตร ใชกังหันน้ําชนิดใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ขอที่ : 438<br />

Spill way คือ<br />

Kaplan<br />

Propeller<br />

Francis<br />

Pelton<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 1 : ทางนําน้ําเขาสูกังหันน้ํา<br />

คําตอบ 2 : ทางนําน้ําออกจากกังหันน้ําไปสูทายน้ํา<br />

คําตอบ 3 : ทางนําน้ําที่จะลนออกจากเขื่อน<br />

คําตอบ 4 : ทางนําน้ําเขาสูงเครื่องสูบน้ํา<br />

ขอที่ : 439


Penstock คือ<br />

คําตอบ 1 : ทางนําน้ําเขาสูงกังหันน้ํา<br />

คําตอบ 2 : ทางนําน้ําออกจากกังหันน้ําไปสูทายน้ํา<br />

คําตอบ 3 : ทางนําน้ําที่จะลนออกจากเขื่อน<br />

คําตอบ 4 : ทางนําน้ําเขาสูเครื่องสูบน้ํา<br />

142 of 237<br />

ขอที่ : 440<br />

Draft tube คือ<br />

คําตอบ 1 : ทางนําน้ําเขาสูกังหันน้ํา<br />

คําตอบ 2 : ทางนําน้ําออกจากกังหันน้ําไปสูทายน้ํา<br />

คําตอบ 3 : ทางนําน้ําที่จะลนออกจากเขื่อน<br />

คําตอบ 4 : ทางนําน้ําเขาสูเครื่องสูบน้ํา<br />

ขอที่ : 441<br />

Surge tank คือ<br />

คําตอบ 1 : ถังเก็บน้ําที่ตอจากทอนําน้ําเขากังหันโดยที่ปลายเปดออกสูบรรยากาศ<br />

คําตอบ 2 : ถังเก็บน้ําในโรงจักรพลังน้ําที่ปลายเปดออกสูบรรยากาศ<br />

คําตอบ 3 : ถังระบายน้ําลนดานหนาของเขื่อน<br />

คําตอบ 4 : ผิดทุกขอ<br />

ขอที่ : 442<br />

Intake gate คือ<br />

คําตอบ 1 : ประตูระบายน้ําลน<br />

คําตอบ 2 : ประตูเปดน้ําเขาสูกังหันน้ํา<br />

คําตอบ 3 : ประตูฉุกเฉินปดน้ําไมใหเขากังหัน<br />

คําตอบ 4 : ประตูปดทายน้ํา<br />

ขอที่ : 443<br />

Water power ของกังหันน้ําที่เขื่อนแหงหนึ่ง เมื่อเฮด(Head) เปน 100 เมตร และอัตราการไหลเปน 2 ลูกบาศกเมตรตอวินาที คือ<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

200 กิโลวัตต<br />

1,862 กิโลวัตต<br />

1,603 กิโลวัตต


คําตอบ 4 :<br />

1,963 กิโลวัตต<br />

ขอที่ : 444<br />

Dead storage ของอางเก็บน้ําคือ<br />

คําตอบ 1 : ปริมาตรของน้ําสวนที่เปนของตาย<br />

คําตอบ 2 : ปริมาตรของน้ําสวนที่ปลอยทิ้งไปทายน้ํา<br />

คําตอบ 3 : ปริมาตรของน้ําสวนที่นําไปใชงานได<br />

คําตอบ 4 : ปริมาตรของน้ําสวนที่ใชงานไมได<br />

ขอที่ : 445<br />

Active storage ของอางเก็บน้ําคือ<br />

ขอที่ : 446<br />

ขอที่ : 447<br />

คําตอบ 1 : ปริมาตรของน้ําตนทุน<br />

คําตอบ 2 : ปริมาตรของน้ําสวนที่ปลอยทิ้งไปทายน้ํา<br />

คําตอบ 3 : ปริมาตรของน้ําสวนที่นําไปใชงานได<br />

คําตอบ 4 : ปริมาตรของน้ําสวนที่ใชงานไมได<br />

กังหันของโรงไฟฟาพลังงานน้ําแบบใดที่น้ํามีทิศทางการไหลผานตามแนวรัศมีของกังหัน<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Francis turbine<br />

Kaplan turbine<br />

Pelton turbine<br />

Bulb type turbine<br />

กังหันของโรงไฟฟาพลังงานน้ําแบบใดที่น้ํามีมีทิศทางการไหลผานตามแนวแกนของกังหัน<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

Francis turbine<br />

Kaplan turbine<br />

Pelton turbine<br />

Bulb type turbine<br />

143 of 237<br />

ขอที่ : 448<br />

กังหันของโรงไฟฟาพลังงานน้ําแบบใดที่น้ํามีทิศทางการไหลผานตามแนวสัมผัสของกังหัน


คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Francis turbine<br />

Kaplan turbine<br />

Pelton turbine<br />

Bulb type turbine<br />

144 of 237<br />

ขอที่ : 449<br />

ขอที่ : 450<br />

ขอที่ : 451<br />

ขอที่ : 452<br />

กังหันของโรงไฟฟาพลังงานน้ําแบบใดที่น้ํามีทิศทางการไหลผานตามแนวขวางของกังหัน<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Francis turbine<br />

Kaplan turbine<br />

Pelton turbine<br />

Bulb type turbine<br />

กังหันน้ําประเภทใดที่เหมาะที่จะใชกับโรงไฟฟาพลังงานน้ําที่มี Water head สูง<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Francis turbine<br />

Kaplan turbine<br />

Pelton turbine<br />

Bulb type turbine<br />

การพิจารณาสถานที่ตั้งโรงไฟฟาพลังงานน้ําจะตองพิจารณาปจจัยใดบาง<br />

คําตอบ 1 : ศักยภาพดานน้ํา<br />

คําตอบ 2 : ระยะทางจากโรงไฟฟาถึงโหลดศูนยกลาง<br />

คําตอบ 3 : ชนิดของดินและหินของบริเวณที่ตั้งเขื่อน<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

เมื่อโหลดของโรงไฟฟาพลังงานน้ําเพิ่มขึ้น ขอใดตอไปนี้เปนจริง<br />

คําตอบ 1 : วาลวจะชดเชยโดยการเปดน้ําเพิ่มเพื่อใหกังหันหมุนเร็วขึ้น<br />

คําตอบ 2 : วาลวจะชดเชยโดยการเปดน้ําเพิ่มเพื่อใหกังหันหมุนชาลง<br />

คําตอบ 3 : วาลวจะชดเชยโดยการเปดน้ําเพิ่มเพื่อใหกังหันหมุนดวยความเร็วคงที่<br />

คําตอบ 4 : วาลวจะชดเชยโดยการเปดน้ําเทาเดิมเพื่อใหกังหันหมุนดวยความเร็วคงที่


ขอที่ : 453<br />

ขอใดไมใชเขื่อนที่ใชในการผลิตไฟฟา<br />

คําตอบ 1 : เขื่อนภูมิพล<br />

คําตอบ 2 : เขื่อนเจาพระยา<br />

คําตอบ 3 : เขื่อนอุบลรัตน<br />

คําตอบ 4 : เขื่อนปากมูล<br />

ขอที่ : 454<br />

ขอใดตอไปนี้คือโรงไฟฟาพลังงานน้ําแบบสูบกลับ (Pump storage plant)<br />

คําตอบ 1 : เขื่อนลําตะคอง<br />

คําตอบ 2 : เขื่อนลํามูลบน<br />

คําตอบ 3 : เขื่อนลําพระเพลิง<br />

คําตอบ 4 : เขื่อนลําปลายมาศ<br />

ขอที่ : 455<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

145 of 237<br />

จงคํานวณขนาดของเครื่องกําเนิดไฟฟาที่ตองใชในการสรางโรงไฟฟาพลังน้ําที่มีอัตราการไหลของน้ําผานกังหัน 500 m3/s มีคาหัวน้ํา (Water head) 150 m กังหันน้ํามีประสิทธิภาพ<br />

60%


146 of 237<br />

ขอที่ : 456<br />

คําตอบ 1 : 120 MW<br />

คําตอบ 2 : 240 MW<br />

คําตอบ 3 : 360 MW<br />

คําตอบ 4 : 450 MW<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอใดตอไปนี้คือความหมายของคําวา Steam flow<br />

คําตอบ 1 : อัตราการไหลของน้ํา ณ บริเวณที่จะสรางเขื่อนที่เก็บเปนรายสัปดาห เพื่อนํามาคํานวณหาอัตราการไหลของน้ําเฉลี่ยและ Output power ที่ควรจะได<br />

คําตอบ 2 : อัตราความรอนสะสม ณ บริเวณที่จะสรางเขื่อนที่เก็บเปนรายสัปดาห เพื่อนํามาคํานวณหาอัตราการไหลของน้ําเฉลี่ยและ Output power ที่ควรจะได<br />

คําตอบ 3 : อัตราของฝนที่ตกลงมา ณ บริเวณที่จะสรางเขื่อนที่เก็บเปนรายสัปดาห เพื่อนํามาคํานวณหาอัตราการไหลของน้ําเฉลี่ยและ Output power ที่ควรจะได<br />

คําตอบ 4 : อุณหภูมิของไอน้ํา ณ บริเวณที่จะสรางเขื่อนที่เก็บเปนรายสัปดาห เพื่อนํามาคํานวณหาอัตราการไหลของน้ําเฉลี่ยและ Output power ที่ควรจะได<br />

ขอที่ : 457


โรงไฟฟาพลังงานน้ําแบบสูบกลับ มีลักษณะการใชงานที่สําคัญ คือ ขอใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

กักเก็บพลังงาน<br />

บริหารจัดการการผลิตไฟฟา<br />

คําตอบ 3 : เพิ่มความมั่นคงใหระบบ<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

147 of 237<br />

ขอที่ : 458<br />

ขอที่ : 459<br />

ขอที่ : 460<br />

ขอที่ : 461<br />

ขอใดตอไปนี้บงชี้ลักษณะสําคัญของโรงไฟฟาพลังน้ําไดถูกตองที่สุด<br />

คําตอบ 1 :<br />

กอสรางรวดเร็ว อายุการใชงานนาน<br />

คําตอบ 2 : ใชเงินลงทุนต่ํา คาดําเนินการและคาบํารุงรักษาต่ํา<br />

คําตอบ 3 : เดินเครื่อง หยุดเครื่องไดรวดเร็ว มีความแนนอนในการทํางานสูง<br />

คําตอบ 4 : ไมมีคาเชื้อเพลิง และไมมีผลกระทบตอสิ่งแวดลอม<br />

โดยหลักแลวควรใชโรงไฟฟาพลังงานน้ําแบบมีอางเก็บน้ํา เพื่อผลิตไฟฟาใชในกรณีใดเปนสําคัญ<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

โหลดฐาน<br />

โหลดปานกลาง<br />

โหลดคายอดและกําลังการผลิตสํารอง<br />

โหลดใดก็ได<br />

ปริมาตรน้ํา 3.6 ลานลูกบาศกเมตร ถูกนํามาใชในการผลิตไฟฟา โดยเขื่อนที่มีหัวน้ําสูง 100 เมตร และมีประสิทธิภาพโดยรวมของทอสงน้ํา กังหันน้ํา เครื่องกําเนิดไฟฟา และหมอ<br />

แปลงไฟฟากําลัง คิดเปน 80% จะสามารถผลิตพลังงานไฟฟาไดกี่ยูนิต (kWh)<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

1,226,250 kWh<br />

981,000 kWh<br />

784,800 kWh<br />

80,000 kWh<br />

โรงไฟฟาพลังงานน้ําแบงออกเปนกี่แบบ<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

2 แบบ<br />

3 แบบ<br />

4 แบบ


คําตอบ 4 :<br />

5 แบบ<br />

ขอที่ : 462<br />

ชนิดของเขื่อนที่ใชสําหรับโรงไฟฟาพลังงานน้ําแบงเปนกี่แบบ<br />

คําตอบ 1 : 2 แบบ<br />

คําตอบ 2 : 3 แบบ<br />

คําตอบ 3 : 4 แบบ<br />

คําตอบ 4 : 5 แบบ<br />

ขอที่ : 463<br />

ในการสรางเขื่อน จะตองมีการสํารวจขอมูลเพื่อนําไปคํานวณขนาดกําลังผลิตของโรงไฟฟาพลังงานน้ํา ขอมูลที่ตองการคือขอใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

148 of 237<br />

คําตอบ 2 : ความสูงของน้ํา m


คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />

คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />

149 of 237<br />

ขอที่ : 464<br />

จาก Flow duration curve สามารถแปลงเปน <strong>Power</strong> duration curve ไดจากสมการใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


คําตอบ 2 :<br />

:สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 3<br />

150 of 237


คําตอบ 4 :สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

151 of 237


152 of 237<br />

ขอที่ : 465<br />

จาก <strong>Power</strong> duration curve ที่ไดจะสามารถหาขนาดกําลังผลิตของโรงไฟฟาพลังงานน้ํา ไดที่กี่เปอรเซ็นตของเวลา<br />

คําตอบ 1 : 10 %<br />

คําตอบ 2 : 20 %<br />

คําตอบ 3 : 30 %<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขอที่ : 466<br />

Turbine ที่ใชในโรงไฟฟาแบบอาศัยปรากฎการณของน้ําขึ้นและลงระหวางปากแมน้ํากับทะเลเปนแบบใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

Kaplan<br />

Francis


คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Pelton<br />

Bulb type<br />

153 of 237<br />

ขอที่ : 467<br />

โรงไฟฟาแบบ Run of river ที่สรางในประเทศไทย คือเขื่อนใดตอไปนี้<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ปากมูล<br />

ลําตะคลอง<br />

รัชประภา<br />

ศรีนครินทร<br />

ขอที่ : 468<br />

Tidal power plant ที่สรางในประเทศไทยคือที่จังหวัดใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สุราษฎรธานี<br />

อุบลราชธานี<br />

ยะลา<br />

ไมมีขอใดถูก<br />

ขอที่ : 469<br />

Tidal power plant จะตองมีความสูงของน้ํา ประมาณเทาใดจึงจะผลิตไฟฟาได<br />

ขอที่ : 470<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

0 – 3 เมตร<br />

3 – 25 เมตร<br />

30 – 40 เมตร<br />

50 – 100 เมตร<br />

โรงไฟฟาพลังงานน้ําแหงหนึ่ง มีกําลังผลิตติดตั้งเทากับ 50 MW กําลังผลิตสํารองเทากับ 10 MW จงหาวาโรงไฟฟาแหงนี้จะมีกี่หนวยผลิต<br />

คําตอบ 1 : 4<br />

คําตอบ 2 : 5<br />

คําตอบ 3 : 6<br />

คําตอบ 4 : 7<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอที่ : 471


Reaction turbine ในโรงไฟฟาพลังงานน้ําอาศัยสิ่งใดตอไปนี้ในการเปลี่ยนใหเปนกําลังทางกลที่เพลาของ Turbine<br />

คําตอบ 1 : ความเร็วของน้ําในทอนําน้ํา<br />

คําตอบ 2 : ความดันของน้ําในทอนําน้ํา<br />

คําตอบ 3 : ความหนาแนนของน้ํา<br />

คําตอบ 4 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />

154 of 237<br />

ขอที่ : 472<br />

Impulse turbine ในโรงไฟฟาพลังงานน้ําอาศัยสิ่งใดตอไปนี้ในการเปลี่ยนใหเปนกําลังทางกลที่เพลาของ Turbine<br />

คําตอบ 1 : พลังงานจลนของน้ําที่หัวฉีด<br />

คําตอบ 2 : ความสูงของน้ํา<br />

คําตอบ 3 : ความหนาแนนของน้ํา<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขอที่ : 473<br />

Turbine ชนิดใดตอไปนี้ที่เหมาะกับ Load ที่เปลี่ยนแปลง<br />

คําตอบ 1 : Kaplan<br />

คําตอบ 2 : Francis<br />

คําตอบ 3 : Pelton<br />

คําตอบ 4 : ถูกทั้ง 1 และ 3<br />

ขอที่ : 474<br />

Turbine ชนิดใดตอไปนี้ที่เหมาะกับ Load ที่คงที่<br />

คําตอบ 1 : Kaplan<br />

คําตอบ 2 : Francis<br />

คําตอบ 3 : Pelton<br />

คําตอบ 4 : ถูกทั้ง 1 และ 3<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอที่ : 475<br />

Specific speed ของ Turbine ในโรงไฟฟาพลังงานน้ําหาไดจากสมการ


คําตอบ 1 :<br />

:สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 2<br />

155 of 237


คําตอบ 3 :สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

156 of 237


คําตอบ 4 :สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

157 of 237


158 of 237<br />

ขอที่ : 476<br />

Specific speed ของ Turbine ชนิด Pelton 2 หัวฉีดมีคาเทาใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

17 – 50 rpm<br />

24 – 70 rpm<br />

120 – 220 rpm<br />

310 – 1,000 rpm<br />

ขอที่ : 477<br />

Specific speed ของ Turbine ชนิด Francis (normal)<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

17 – 50 rpm<br />

24 – 70 rpm


คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

120 – 220 rpm<br />

310 – 1,000 rpm<br />

159 of 237<br />

ขอที่ : 478<br />

Specific speed ของ Turbine ชนิด Kaplan<br />

ขอที่ : 479<br />

ขอที่ : 480<br />

ขอที่ : 481<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

17 – 50 rpm<br />

24 – 70 rpm<br />

120 – 220 rpm<br />

310 – 1,000 rpm<br />

ในการออกแบบเลือก Generator ของโรงไฟฟาพลังงานน้ําถา Speed ของ Turbine = 1,280 rpm ควรจะเลือก Generator กี่ Poles<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

4 Pole 50 Hz<br />

5 Pole 50 Hz<br />

6 Pole 50 Hz<br />

7 Pole 50 Hz<br />

ขนาดหรือ Main dimension ของ Reaction turbine ที่ใชในโรงไฟฟาพลังงานน้ํา จะตองบอกคาใดบางตอไปนี้<br />

คําตอบ 1 : เสนผานศูนยกลางของทางนําน้ําเขา Turbine<br />

คําตอบ 2 : เสนผานศูนยกลางของทางน้ําเขา Turbine<br />

คําตอบ 3 : ระยะกวางของใบ Turbine<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขนาดหรือ Main dimension ของ Impulse turbine ที่ใชในโรงไฟฟาพลังงานน้ํา จะตองบอกคาใดบางตอไปนี้<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

เสนผานศูนยกลางกงลอ Turbine<br />

เสนผานศูนยกลางของหัวฉีด<br />

จํานวนลูกถวย<br />

ถูกทุกขอ<br />

ขอที่ : 482


ในการ Set turbine เหนือระดับทายนี้ จะสามารถคํานวณหาไดจากวิธีการใด<br />

คําตอบ 1 : Beraulli’s equation<br />

คําตอบ 2 : Sanitation coefficient<br />

คําตอบ 3 : Matlab<br />

คําตอบ 4 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />

160 of 237<br />

ขอที่ : 483<br />

ในการคํานวณหาคา Turbine setting<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

3.62 เมตร<br />

3.52 เมตร<br />

3.72 เมตร<br />

3.12 เมตร


ขอที่ : 484<br />

161 of 237<br />

ขอที่ : 485<br />

คําตอบ 1 : 2.42 m<br />

คําตอบ 2 : 2.41 m<br />

คําตอบ 3 : 2.32 m<br />

คําตอบ 4 : 33 m<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


162 of 237<br />

ขอที่ : 486<br />

คําตอบ 1 : 0.95 cm<br />

คําตอบ 2 : 1.25 cm<br />

คําตอบ 3 : 1.5 cm<br />

คําตอบ 4 : 2.0 cm<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขนาดเสนผานศูนยกลางและความยาวของ Stator ของ Generator ที่ใชในโรงไฟาพลังงานน้ําควรมีความสัมพันธเชนไร


คําตอบ 1 :<br />

:สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 2<br />

163 of 237


คําตอบ 3 :สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

164 of 237


165 of 237<br />

คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />

ขอที่ : 487<br />

คา B (Flux density) ของ Generator ที่ใชในโรงไฟฟาพลังงานน้ําควรมีคาอยูใน Range ใด<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


คําตอบ 1 :<br />

:สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 2<br />

166 of 237


คําตอบ 3 :สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

167 of 237


168 of 237<br />

คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />

ขอที่ : 488<br />

ขนาดกําลังผลิต/หนวยผลิต ของโรงไฟฟาพลังงานน้ํา ควรจะมีคาอยูใน Range ใดตามมาตรฐาน<br />

คําตอบ 1 : 3 – 200 MW<br />

คําตอบ 2 : 500 kW - 200 MW<br />

คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />

คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูกตอง<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอที่ : 489<br />

ถา X = 5, ns ของ Turbine = 120 rpm, เสนผานศูนยกลางของทอนําน้ําออก Turbine = 2.42 m จงหาระยะหางระหวางจุดศูนยกลางของแตละหนวยผลิต<br />

คําตอบ 1 : 12.10 m


คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

12.15 m<br />

12 m<br />

11.99 m<br />

169 of 237<br />

ขอที่ : 490<br />

การนํา <strong>Plant</strong> lay out ของโรงไฟฟาพลังงานน้ํา พรอมแบบอาคารโรงไฟฟาและอื่นๆ เพื่อบอกสิ่งใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ราคากลางในการกอสรางโรงไฟฟา<br />

ราคาในการผลิตกระแสไฟฟา<br />

ราคาขายพลังงานไฟฟา<br />

ถูกทุกขอ<br />

ขอที่ : 491<br />

ราคาในการกอสรางโรงไฟฟาพลังงานน้ําแบบใดมีราคาแพงที่สุดในขนาดกําลังผลิตที่เทากัน(150 MW )<br />

ขอที่ : 492<br />

ขอที่ : 493<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Reservoir plant<br />

Pump storage plant<br />

Run off river plant<br />

Tidal power plant<br />

ความสูงของน้ําที่ใชผลิตไฟฟา ของโรงไฟฟาพลังงานน้ําแบบใดที่มีความสูงของน้ํามากที่สุด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Reservoir plant<br />

Pump storage plant<br />

Run off river plant<br />

Tidal power plant<br />

โรงไฟฟาพลังงานไอน้ําใชเชื้อเพลิงแบบเดียวกันทั้งสองเครื่อง และรวมกันจายโหลด ใหพิจารณาวาคําตอบขางลางใดถูกตอง F1,F2 = คาเชื้อเพลิงสําหรับผลิตไฟฟา P1,P2 =<br />

กําลังไฟฟาจากโรงจักร 1 และ 2 ตามลําดับ<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

การจายโหลดอยางประหยัดโดยรวม ตองให F1/P1=F2/P2<br />

การจายโหลดอยางประหยัดโดยรวม ตองให dF1/dP1=dF2/dP2<br />

คําตอบ 3 : การจายโหลดอยางประหยัดโดยรวมตองใหโรงไฟฟาทั้งสองมีประสิทธิภาพในการจายสูงสุด<br />

คําตอบ 4 : การจายโหลดไมวากรณีใดตองใหโรงไฟฟาที่มีคา F/P ต่ํากวาเปนโรงจักรที่จายโหลดออกมากอน


ขอที่ : 494<br />

ขอที่ : 495<br />

ขอที่ : 496<br />

โรงไฟฟาสองแหง มีการจายโหลด P ที่สัมพันธกับคาใชจายเชื้อเพลิง F ดังนี้ โรงไฟฟาที่ 1 dF1=P1+40 โรงไฟฟาที่ 2 dF2=P2+100 รวมกันจายโหลด 400 MW ใหหาคา P1,<br />

P2 ที่จายโหลดอยางประหยัด<br />

คําตอบ 1 : P1=200, P2=200<br />

คําตอบ 2 : P1=170, P2=230<br />

คําตอบ 3 : P1=230, P2=170<br />

คําตอบ 4 : P1=150, P2=250<br />

ใหเลือกคําตอบที่คิดวาถูกตองที่สุดสําหรับ การจายโหลดอยางประหยัด<br />

คําตอบ 1 : คาเชื้อเพลิง+คาบํารุงรักษาต่ําที่สุด<br />

คําตอบ 2 : คาเชื้อเพลิง+คาบํารุงรักษา+เงินเดือนต่ําที่สุด<br />

คําตอบ 3 : คาเชื้อเพลิง+คาบํารุงรักษา+เงินเดือน+คาวัสดุต่ําที่สุด<br />

คําตอบ 4 : คาเชื้อเพลิง+คาบํารุงรักษา+เงินเดือน+คาวัสดุ+คาดําเนินการอื่นๆรวมต่ําที่สุด<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

170 of 237<br />

โรงจักรไฟฟาแหงหนึ่งมีขนาดเครื่องจักรขนาด 600 kW 2 เครื่อง โดยมีคาใชจายในการผลิตกระแสไฟฟาเปนดังสมการดานลาง ถาตองใชโหลดขนาด 920 kW ถามวาตองใหเครื่อง<br />

ไหนจายโหลดเทาไรจึงจะประหยัดคาใชจายที่สุด


171 of 237<br />

ขอที่ : 497<br />

คําตอบ 1 : เครื่องที่ 1 จาย 600 kW เครื่องที่ 2 จาย 320 kW<br />

คําตอบ 2 : เครื่องที่ 1 จาย 500 kW เครื่องที่ 2 จาย 420 kW<br />

คําตอบ 3 : เครื่องที่ 1 จาย 460 kW เครื่องที่ 2 จาย 460 kW<br />

คําตอบ 4 : เครื่องที่ 1 จาย 320 kW เครื่องที่ 2 จาย 600 kW<br />

โรงไฟฟาพลังงานไอน้ํามีเครื่องกําเนิดไฟฟาขนาด 300 MW 2 เครื่อง แตละเครื่องมีความสามารถจายโหลดสูงสุดได 300 MW จายโหลดต่ําสุดได 100 MW แตละเครื่องมี Fuel<br />

incremental cost คือ เครื่องที่ 1 dF1/dP1 = ( 0.14P1 + 12 ) Bath per MWh เครื่องที่ 2 dF2/dP2 = ( 0.13P2 + 14 ) Bath per MWh จงหากําลังผลิตของแตละเครื่องที่<br />

ประหยัดที่สุด เมื่อโหลดรวมของทั้งโรงไฟฟาเทากับ 210 MW<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

P1 = 100 MW P2 = 110 MW<br />

P1 = 80 MW P2 = 130 MW<br />

P1 = 100 MW P2 = 100 MW<br />

P1 = 140 MW P2 = 70 MW<br />

ขอที่ : 498<br />

โรงไฟฟาพลังงานไอน้ํามีเครื่องกําเนิดไฟฟาขนาด 300 MW 2 เครื่อง แตละเครื่องมีความสามารถจายโหลดสูงสุดได 300 MW จายโหลดต่ําสุดได 100 MW แตละเครื่องมี fuel


ขอที่ : 499<br />

ขอที่ : 500<br />

incremental cost คือ เครื่องที่ 1 dF1/dP1 = ( 0.14P1 + 12 ) Bath per MWh เครื่องที่ 2 dF2/dP2 = ( 0.13P2 + 14 ) Bath per MWh จงหากําลังผลิตของแตละเครื่องที่<br />

ประหยัดที่สุด เมื่อโหลดรวมของทั้งโรงไฟฟาเทากับ 400 MW<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

P2 = 200 MW P1= 200 MW<br />

P2 = 214.8 MW P1= 185.2 MW<br />

P2 = 190 MW P1= 210 MW<br />

P2 = 150 MW P1= 250 MW<br />

โรงไฟฟาพลังงานไอน้ํามีเครื่องกําเนิดไฟฟาขนาด 300 MW 2 เครื่อง แตละเครื่องมีความสามารถจายโหลดสูงสุดได 300 MW จายโหลดต่ําสุดได 100 MW แตละเครื่องมี fuel<br />

incremental cost คือ เครื่องที่ 1 dF1/dP1 = ( 0.14P1 + 12 ) Bath per MWh เครื่องที่ 2 dF2/dP2 = ( 0.13P2 + 14 ) Bath per MWh จงหากําลังผลิตของแตละเครื่องที่<br />

ประหยัดที่สุด เมื่อโหลดรวมของทั้งโรงไฟฟาเทากับ 580 MW<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

P2= 500 MW P1= 180 MW<br />

P2= 180 MW P1= 500 MW<br />

P2= 250 MW P1= 330 MW<br />

P2= 300 MW P1= 280 MW<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

172 of 237<br />

เครื่องกําเนิดไฟฟาขนาด 320 MW มีฟงกชันคาเชื้อเพลิงเปน


173 of 237<br />

ขอที่ : 501<br />

คําตอบ 1 : 108,000<br />

คําตอบ 2 : 132,000<br />

คําตอบ 3 : 168,960<br />

คําตอบ 4 : 191,840<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

เครื่องกําเนิดไฟฟาขนาด 200 MW มีฟงกชั่นคาเชื้อเพลิงเปน


174 of 237<br />

ขอที่ : 502<br />

คําตอบ 1 : 7.6<br />

คําตอบ 2 : 8.4<br />

คําตอบ 3 : 9.2<br />

คําตอบ 4 : 10.8<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

โรงไฟฟาแหงหนึ่งมีหนวยผลิตยอย 2 หนวย แตละหนวยมีคาเชื้อเพลิงดังนี้


175 of 237<br />

ขอที่ : 503<br />

คําตอบ 1 : หนวยที่ 1 ผลิต 100 MW, หนวยที่ 2 ผลิต 400 MW<br />

คําตอบ 2 : หนวยที่ 1 ผลิต 200 MW, หนวยที่ 2 ผลิต 300 MW<br />

คําตอบ 3 : หนวยที่ 1 ผลิต 300 MW, หนวยที่ 2 ผลิต 200 MW<br />

คําตอบ 4 : หนวยที่ 1 ผลิต 400 MW, หนวยที่ 2 ผลิต 100 MW<br />

ความเร็วซิงโครนัสสําหรับเครื่องกําเนิดไฟฟาชนิด 48 ขั้ว ความถี่ 50 Hz มีคาเปนเทาใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

75 rpm<br />

125 rpm<br />

250 rpm<br />

325 rpm<br />

ขอที่ : 504


ขอที่ : 505<br />

เครื่องกําเนิดไฟฟาซิงโครนัสเดินเครื่องตัวเปลามีแรงดันที่ขั้วเปน 14.8 kV ความถี่ 52.4 Hz นํามาจายโหลดขนาด 6.4 MW จงคํานวณความถี่ของระบบภายหลังการเชื่อมตอโหลดนี้<br />

เมื่อกําหนดให speed regulation ของเครื่องกําเนิดไฟฟานี้มีคาเปน 3.2 MW/Hz<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

49.8 Hz<br />

50.4 Hz<br />

51.0 Hz<br />

51.8 Hz<br />

โรงไฟฟาแหงหนึ่งมีเครื่องกําเนิดไฟฟา 2 เครื่อง (G1 และ G2) แตละเครื่องมีคาใชจายในการผลิตไฟฟาตามสมการตอไปนี้ กําหนดใหเครื่องกําเนิดไฟฟาทั้งสองเครื่องมีพิสัยการ<br />

ผลิตไฟฟาในชวง 100-400 MW หากโรงไฟฟาไดรับคําสั่งจากศูนยควบคุมระบบไฟฟาใหทําการจายโหลดขนาด 500 MW จงคํานวณวา G1 และ G2 ควรจายโหลดเครื่องละเทาไร<br />

จึงจะทําใหโรงไฟฟาแหงนี้มีคาใชจายต่ําที่สุด<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

176 of 237<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

G1 = 120 MW ; G2 = 380 MW<br />

G1 = 380 MW ; G2 = 120 MW<br />

G1 = 250 MW ; G2 = 250 MW


คําตอบ 4 :<br />

G1 = 333 MW ; G2 = 167 MW<br />

ขอที่ : 506<br />

ขอที่ : 507<br />

โรงไฟฟาแหงหนึ่งมีเครื่องกําเนิดไฟฟา 2 เครื่อง (G1 และ G2) แตละเครื่องมีคาใชจายในการผลิตไฟฟาตามสมการตอไปนี้ กําหนดใหเครื่องกําเนิดไฟฟาทั้งสองเครื่องมีพิสัยการ<br />

ผลิตไฟฟาในชวง 150-400 MW หากโรงไฟฟาไดรับคําสั่งจากศูนยควบคุมระบบไฟฟาใหทําการจายโหลดขนาด 500 MW จงคํานวณวา G1 และ G2 ควรจายโหลดเครื่องละเทาไร<br />

จึงจะทําใหโรงไฟฟาแหงนี้มีคาใชจายต่ําที่สุด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

G1 = 120 MW ; G2 = 380 MW<br />

G1 = 380 MW ; G2 = 120 MW<br />

G1 = 150 MW ; G2 = 350 MW<br />

G1 = 350 MW ; G2 = 150 MW<br />

เจาหนาที่ผูหนึ่งกําลังพิจารณากําหนดการเดินเครื่องและจัดสรรกําลังการผลิตสําหรับโรงไฟฟาพลังความรอน 3 แหงที่มีคาใชจายในการผลิตไฟฟาดังนี้<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

177 of 237


คําตอบ 1 : เดินเครื่องโรงไฟฟา 2 โรงแรก โดยจัดสรรกําลังการผลิต ให P1 = 450 MW และ P2 = 450 MW<br />

คําตอบ 2 : เดินเครื่องโรงไฟฟา 2 โรงแรก โดยจัดสรรกําลังการผลิต ให P1 = 500 MW และ P2 = 400 MW<br />

คําตอบ 3 : เดินเครื่องโรงไฟฟา 3 โรงแรก โดยจัดสรรกําลังการผลิต ให P1 = 300 MW , P2 = 300 MW และ P3 = 300 MW<br />

คําตอบ 4 : เดินเครื่องโรงไฟฟา 3 โรงแรก โดยจัดสรรกําลังการผลิต ให P1 = 500 MW , P2 = 300 MW และ P3 = 100 MW<br />

178 of 237<br />

ขอที่ : 508<br />

เจาหนาที่ผูหนึ่งกําลังพิจารณาจัดสรรกําลังการผลิตสําหรับโรงไฟฟาพลังความรอน 2 แหงซึ่งกําลังเชื่อมตออยูกับระบบไฟฟา โรงไฟฟาทั้ง 2 แหงมีคาใชจายในการผลิตไฟฟาดังนี้<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

P1 = 300 MW , P2 = 500 MW<br />

P1 = 400 MW , P2 = 400 MW<br />

P1 = 500 MW , P2 = 300 MW<br />

ไมมีขอใดถูกตอง<br />

ขอที่ : 509


เจาหนาที่ผูหนึ่งกําลังพิจารณาจัดสรรกําลังการผลิตสําหรับโรงไฟฟาพลังความรอน 2 แหงซึ่งกําลังเชื่อมตออยูกับระบบไฟฟา โรงไฟฟาทั้ง 2 แหงมีคาใชจายในการผลิตไฟฟาดังนี้<br />

179 of 237<br />

ขอที่ : 510<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

P1 = 500 MW , P2 = 150 MW<br />

P1 = 450 MW , P2 = 200 MW<br />

P1 = 400 MW , P2 = 250 MW<br />

P1 = 350 MW , P2 = 300 MW<br />

ขณะที่กําลังการผลิตและโหลดของระบบไฟฟาแหงหนึ่งสมดุลอยูที่ประมาณ 20,000 MW ในชวงวินาทีตอมา ประชาชนรวมใจกันปดไฟฟาทันทีเปนขนาด 500 MW ความถี่ของ<br />

ระบบในชวง 1 – 5 วินาที จากนั้นจะเปนเชนไร<br />

คําตอบ 1 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คงเดิม<br />

คําตอบ 2 : เพิ่มขึ้น<br />

คําตอบ 3 : ลดลง<br />

คําตอบ 4 : เพิ่มขึ้นกอนแลวจึงลดลง


ขอที่ : 511<br />

ขอที่ : 512<br />

ขอที่ : 513<br />

ขอที่ : 514<br />

ขณะที่การผลิตและโหลดสมดุลของระบบไฟฟาแหงหนึ่งสมดุลอยูที่ประมาณ 20,000 MW หากโรงไฟฟาขนาด 500 MW เกิดหลุดออกจากระบบ (Forced outage) แตระบบ<br />

สามารถรักษาเสถียรภาพไวได ความถี่ของระบบในชวงเวลาประมาณ 10 นาที หลังจากเกิดเหตุการณนั้นเปนเชนไร<br />

คําตอบ 1 :<br />

ลดลง<br />

คําตอบ 2 : เพิ่มขึ้น<br />

คําตอบ 3 : เพิ่มขึ้นชั่วครู จากนั้นคอย ๆ ลดลงจนเขาสูความถี่คงที่<br />

คําตอบ 4 : ลดลงชั่วครู จากนั้นคอย ๆ เพิ่มขึ้นจนเขาสูความถี่คงที่<br />

อุปกรณหรือระบบทางไฟฟาตอไปนี้ ขอใดมีวัตถุประสงคในการควบคุมตางไปจากการควบคุมแบบอื่น<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Automatic generation control<br />

Automatic voltage regulator<br />

Tab-changing transformer<br />

Synchronous condenser<br />

การควบคุมแบบ Load frequency control จะไมสงผลตอพฤติกรรมใดของระบบไฟฟา<br />

คําตอบ 1 : การรักษาสมดุลของกําลังการผลิตและโหลดในพื้นที่<br />

คําตอบ 2 : การรักษาความถี่ของระบบที่คากําหนด<br />

คําตอบ 3 : การรักษาขนาดของแรงดันที่คาโหลดความตองการในพื้นที่<br />

คําตอบ 4 : การรักษากําลังการผลิตในพื้นที่ใหสอดคลองกับปริมาณการซื้อขายไฟไวลวงหนากับระบบขางเคียง<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

180 of 237<br />

โรงไฟฟากําลังความรอนมี 2 หนวยผลิต แตละหนวยผลิตมีขนาด 200 MW และมีคา Incremental fuel cost ดังนี้


181 of 237<br />

ขอที่ : 515<br />

คําตอบ 1 : P1 = 200 MW, P2 = 180 MW<br />

คําตอบ 2 : P1 = 180 MW, P2 = 200 MW<br />

คําตอบ 3 : P1 = 190 MW, P2 = 190 MW<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

โรงไฟฟาพลังงานความรอนมี 2 หนวยผลิต แตละหนวยผลิตมีขนาด 200 MW และมีคา Incremental fuel cost ดังนี้


182 of 237<br />

ขอที่ : 516<br />

คําตอบ 1 : 31 บาท/MWh<br />

คําตอบ 2 : 32 บาท/MWh<br />

คําตอบ 3 : 33 บาท/MWh<br />

คําตอบ 4 : 34 บาท/MWh<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ถาโรงไฟฟาที่เสียคาใชจายเชื้อเพลิงกําลังผลิตผานสายสงที่มี <strong>Power</strong> loss = PL จะมีผลทําใหคาใชจายของเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นตามขอใดตอไปนี้


คําตอบ 1 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 2 :<br />

183 of 237


คําตอบ 3 :สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

184 of 237


คําตอบ 4 :สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

185 of 237


186 of 237<br />

ขอที่ : 517<br />

การควบคุมการจาย Load อยางประหยัดของทุกชนิดของโรงไฟฟาจะถูกควบคุมโดยอัตโนมัติจากศูนยควบคุมการผลิตและสงจายกําลังไฟฟา ศูนยดังกลาวของประเทศไทยอยูที่ใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

โรงไฟฟาความรอนรวมราชบุรี<br />

โรงไฟฟาความรอนรวมแมเมาะ<br />

โรงไฟฟาความรอนรวมบางปะกง<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

โรงไฟฟาพระนครเหนือ<br />

ขอที่ : 518<br />

โรงไฟฟาใดที่เสียคาใชจายเชื้อเพลิงจะควบคุมใหแตละหนวยผลิตเกิดการจาย Load อยางประหยัด<br />

คําตอบ 1 : ควบคุมใหคา dF / dP ของแตละหนวยผลิตเทากัน<br />

คําตอบ 2 : ควบคุมใหคา dF / dP ของแตละหนวยผลิตต่ําสุด


คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />

คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />

187 of 237<br />

ขอที่ : 519<br />

ขอที่ : 520<br />

ขอที่ : 521<br />

โรงไฟฟาใดที่เสียคาใชจายเชื้อเพลิงสูงและต่ํา เมื่อนํามารวมกันจายกําลังผลิตรวมกัน จะตองควบคุมเชนไรจึงจะเกิดการจาย Load อยางประหยัด<br />

คําตอบ 1 : ใหโรงไฟฟาที่เสียคาใชจายเชื้อเพลิงสูงเปน Peak load<br />

คําตอบ 2 : ใหโรงไฟฟาที่เสียคาใชจายเชื้อเพลิงต่ําเปน Base load<br />

คําตอบ 3 : ใหโรงไฟฟาที่เสียคาใชจายเชื้อเพลิงต่ํารับ <strong>Power</strong> loss ในสายสง<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

การจายกําลังผลิตรวมกันระหวางโรงไฟฟาที่เสียคาใชจายเชื้อเพลิงกับไมเสียคาใชจายเชื้อเพลิงจะตองควบคุมเชนไรจึงจะเกิดการจาย Load อยางประหยัด<br />

คําตอบ 1 : ใหโรงไฟฟาที่เสียคาใชจายเชื้อเพลิงเปน Peak load<br />

คําตอบ 2 : ใหโรงไฟฟาที่ไมเสียคาใชจายเชื้อเพลิงเปน Base load<br />

คําตอบ 3 : ใหโรงไฟฟาที่ไมเสียคาใชจายเชื้อเพลิงรับ <strong>Power</strong> loss ในสายสง<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


188 of 237<br />

ขอที่ : 522<br />

คําตอบ 1 : 160,308 kWh<br />

คําตอบ 2 : 238,868 kWh<br />

คําตอบ 3 : 320,616 kWh<br />

คําตอบ 4 : 477,736 kWh<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


189 of 237<br />

ขอที่ : 523<br />

คําตอบ 1 : 160,308 kWh<br />

คําตอบ 2 : 238,868 kWh<br />

คําตอบ 3 : 320,616 kWh<br />

คําตอบ 4 : 477,736 kWh<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

โรงไฟฟาพลังความรอน 2 แหงมี Cost function ดังนี้


190 of 237<br />

ขอที่ : 524<br />

คําตอบ 1 : 363.64 MW<br />

คําตอบ 2 : 436.2 MW<br />

คําตอบ 3 : 540.5 MW<br />

คําตอบ 4 : 563.8 MW<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

โรงไฟฟาพลังความรอน 2 แหงมี Cost function ดังนี้


191 of 237<br />

ขอที่ : 525<br />

คําตอบ 1 : 436.2 MW<br />

คําตอบ 2 : 459.5 MW<br />

คําตอบ 3 : 563.8 MW<br />

คําตอบ 4 : 636.6 MW<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

โรงไฟฟาพลังความรอน 2 แหงมี Cost function ดังนี้


192 of 237<br />

ขอที่ : 526<br />

คําตอบ 1 : 275.1 MW<br />

คําตอบ 2 : 436.2 MW<br />

คําตอบ 3 : 563.8 MW<br />

คําตอบ 4 : 724.9 MW<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

โรงไฟฟาพลังความรอน 2 แหงมี Cost function ดังนี้


193 of 237<br />

ขอที่ : 527<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

275.1 MW<br />

436.2 MW<br />

563.8 MW<br />

724.9 MW<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

โรงไฟฟาสองแหง มีการจายโหลด P ที่สัมพันธกับคาใชจายเชื้อเพลิง F ดังนี้ โรงไฟฟาที่ 1 dF1=1.5P1+20 โรงไฟฟาที่ 2 dF2=P2+50 รวมกันจายโหลด 400 MW ใหหาคา P1,<br />

P2 ที่จายโหลดอยางประหยัด<br />

คําตอบ 1 : P1=200, P2=200<br />

คําตอบ 2 : P1=172, P2=228<br />

คําตอบ 3 : P1=230, P2=170<br />

คําตอบ 4 : P1=228, P2=172


ขอที่ : 528<br />

ขอที่ : 529<br />

ขอที่ : 530<br />

ขอที่ : 531<br />

โรงไฟฟาสองแหง มีการจายโหลด P ที่สัมพันธกับคาใชจายเชื้อเพลิง F ดังนี้ โรงไฟฟาที่ 1 dF1=1.5P1+20 โรงไฟฟาที่ 2 dF2=P2+40 รวมกันจายโหลด 200 MW ใหหาคา P1,<br />

P2 ที่จายโหลดอยางประหยัด<br />

คําตอบ 1 : P1=100, P2=100<br />

คําตอบ 2 : P1=88, P2=112<br />

คําตอบ 3 : P1=80, P2=120<br />

คําตอบ 4 : P1=60, P2=140<br />

โรงไฟฟาพลังงานไอน้ํามีเครื่องกําเนิดไฟฟาขนาด 300 MW 2 เครื่อง แตละเครื่องมีความสามารถจายโหลดสูงสุดได 300 MW จายโหลดต่ําสุดได 100 MW แตละเครื่องมี fuel<br />

incremental cost คือ เครื่องที่ 1 dF1/dP1 = ( 3P1 + 40 ) Bath per MWh เครื่องที่ 2 dF2/dP2 = ( 2P2 + 30 ) Bath per MWh จงหากําลังผลิตของแตละเครื่องที่ประหยัดที่<br />

สุด เมื่อโหลดรวมของทั้งโรงไฟฟาเทากับ 600 MW<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

P2= 238 MW P1= 362 MW<br />

P2= 362 MW P1= 238 MW<br />

P2= 250 MW P1= 350 MW<br />

P2= 300 MW P1= 300 MW<br />

โรงไฟฟาพลังงานไอน้ํามีเครื่องกําเนิดไฟฟาขนาด 300 MW 2 เครื่อง แตละเครื่องมีความสามารถจายโหลดสูงสุดได 300 MW จายโหลดต่ําสุดได 100 MW แตละเครื่องมี fuel<br />

incremental cost คือ เครื่องที่ 1 dF1/dP1 = ( 3P1 + 40 ) Bath per MWh เครื่องที่ 2 dF2/dP2 = ( 2P2 + 30 ) Bath per MWh จงหากําลังผลิตของแตละเครื่องที่ประหยัดที่<br />

สุด เมื่อโหลดรวมของทั้งโรงไฟฟาเทากับ 200 MW<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

P2= 100 MW P1= 100 MW<br />

P2= 78 MW P1= 122 MW<br />

P2= 122 MW P1= 78 MW<br />

P2= 30 MW P1= 170 MW<br />

โรงไฟฟาพลังงานไอน้ํามีเครื่องกําเนิดไฟฟาขนาด 300 MW 2 เครื่อง แตละเครื่องมีความสามารถจายโหลดสูงสุดได 300 MW จายโหลดต่ําสุดได 50 MW แตละเครื่องมี fuel<br />

incremental cost คือ เครื่องที่ 1 dF1/dP1 = ( 3P1 + 40 ) Bath per MWh เครื่องที่ 2 dF2/dP2 = ( 2P2 + 30 ) Bath per MWh จงหากําลังผลิตของแตละเครื่องที่ประหยัดที่<br />

สุด เมื่อโหลดรวมของทั้งโรงไฟฟาเทากับ 200 MW<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

P2= 100 MW P1= 100 MW<br />

P2= 78 MW P1= 122 MW<br />

P2= 122 MW P1= 78 MW<br />

194 of 237


คําตอบ 4 :<br />

P2= 30 MW P1= 170 MW<br />

ขอที่ : 532<br />

ขอที่ : 533<br />

ขอที่ : 534<br />

ขอที่ : 535<br />

โรงไฟฟาพลังงานไอน้ํามีเครื่องกําเนิดไฟฟาขนาด 400 MW 2 เครื่อง แตละเครื่องมีความสามารถจายโหลดสูงสุดได 400 MW จายโหลดต่ําสุดได 100 MW แตละเครื่องมี fuel<br />

incremental cost คือ เครื่องที่ 1 dF1/dP1 = ( 3P1 + 40 ) Bath per MWh เครื่องที่ 2 dF2/dP2 = ( 2P2 + 30 ) Bath per MWh จงหากําลังผลิตของแตละเครื่องที่ประหยัดที่<br />

สุด เมื่อโหลดรวมของทั้งโรงไฟฟาเทากับ 550 MW<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

P2= 218 MW P1= 332 MW<br />

P2= 332 MW P1= 218 MW<br />

P2= 250 MW P1= 300 MW<br />

P2= 225 MW P1= 225 MW<br />

โรงไฟฟาพลังงานไอน้ํามีเครื่องกําเนิดไฟฟาขนาด 400 MW 2 เครื่อง แตละเครื่องมีความสามารถจายโหลดสูงสุดได 400 MW จายโหลดต่ําสุดได 50 MW แตละเครื่องมี fuel<br />

incremental cost คือ เครื่องที่ 1 dF1/dP1 = ( 3P1 + 40 ) Bath per MWh เครื่องที่ 2 dF2/dP2 = ( 2P2 + 30 ) Bath per MWh จงหากําลังผลิตของแตละเครื่องที่ประหยัดที่<br />

สุด เมื่อโหลดรวมของทั้งโรงไฟฟาเทากับ 120 MW<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

P1= 46 MW P21= 74 MW<br />

P1=74 MW P2= 46 MW<br />

P1= 50 MW P2= 70 MW<br />

P1= 70 MW P2= 50 MW<br />

เครื่องกําเนิดไฟฟาขนาด 300 MW มีฟงกชันคาเชื้อเพลังเปน f= 42,000+800P+0.5P2 บาท/ชั่วโมง จงคํานวณคาเชื้อเพลิงของโรงไฟฟานี้ที่กําลังผลิตพิกัดในหนวย บาท/ชั่วโมง<br />

คําตอบ 1 : 173,250<br />

คําตอบ 2 : 222,000<br />

คําตอบ 3 : 327,000<br />

คําตอบ 4 : 442,000<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

เครื่องกําเนิดไฟฟาขนาด 300 MW มีฟงกชันคาเชื้อเพลังเปน f= 42,000+800P+0.5P2 บาท/ชั่วโมง จงคํานวณคาเชื้อเพลิงของโรงไฟฟานี้ที่กําลังผลิตที่ 2/3 ของพิกัดในหนวย<br />

บาท/ชั่วโมง<br />

คําตอบ 1 : 173,250<br />

คําตอบ 2 : 222,000<br />

คําตอบ 3 : 327,000<br />

195 of 237


ขอที่ : 536<br />

ขอที่ : 537<br />

ขอที่ : 538<br />

ขอที่ : 539<br />

คําตอบ 4 : 442,000<br />

เครื่องกําเนิดไฟฟาขนาด 300 MW มีฟงกชันคาเชื้อเพลังเปน f= 42,000+800P+0.5P2 บาท/ชั่วโมงจงคํานวณคาเชื้อเพลิงของโรงไฟฟานี้ที่กําลังผลิตที่ 1/2 ของพิกัดในหนวย<br />

บาท/ชั่วโมง<br />

คําตอบ 1 : 173,250<br />

คําตอบ 2 : 222,000<br />

คําตอบ 3 : 327,000<br />

คําตอบ 4 : 442,000<br />

ขอความใดที่ไมถูกตองเกี่ยวกับสถานีไฟฟา<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

สถานีไฟฟาไมจําเปนตองมีอะเรสเตอรปองกันถามีเสาสูงปองกัน<br />

สถานีไฟฟาอาจไมมีการแปลงระดับแรงดันไฟฟา<br />

คําตอบ 3 : สถานีไฟฟาตองมีการปองกันฟาผาลงโดยตรงโดยติดตั้งเสาสูงปลายแหลมรอบสถานีไฟฟา<br />

คําตอบ 4 : สถานีไฟฟาตองติดตั้งระบบการตอลงดินเพื่อตอเขากับอุปกรณไฟฟาในสถานี<br />

สถานีไฟฟาภายในหรือสถานีไฟฟาที่ใชอุปกรณที่ใช SF6 มีขอใดที่ไมถูกตอง<br />

คําตอบ 1 : เนื่องจากเทคโนโลยีทันสมัยและดีขึ้นทําใหสถานีไฟฟาที่สรางใหมใช SF6 ทั้งหมด<br />

คําตอบ 2 : อุปกรณ SF6 จะมีขนาดเล็กลงกวาอุปกรณไฟฟาทั่วไป<br />

คําตอบ 3 : SF6 เปนกาซที่สามารถทนสนามไฟฟาไดสูงกวาอากาศไมนอยกวา 2.3 เทา<br />

คําตอบ 4 : อุปกรณ SF6 ตองมีระบบเช็คความดันและมีสัญญาณเตือนเมื่อความดันต่ํากวากําหนด<br />

ขอใดที่ไมใชประเภทหรือชนิดของการจัดบัส<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

Single bus<br />

Double bus, Double breaker<br />

Main <strong>and</strong> transfer bus<br />

Radial <strong>and</strong> loop tie<br />

196 of 237<br />

ขอที่ : 540


การตอลงดินหรือสวนประกอบของการตอหรือวิธีการในสถานีไฟฟายอยในขอใดที่ไมถูกตอง<br />

คําตอบ 1 : แรงดันเมช (Mesh voltage) มีคาสูงกวาหรือเทากับแรงดันสัมผัสเสมอ<br />

คําตอบ 2 : เพื่อใหอุปกรณไฟฟาตอลงดินทุกอุปกรณ<br />

คําตอบ 3 : โรยหินกรวดในสถานีไฟฟายอยีเพื่อใหดินใตหินกรวดชุมชื้นตลอดและเพื่อใหมีความตานทานสูง<br />

คําตอบ 4 : สถานีไฟฟายอยที่มีความตานทานจําเพาะของดินสูงไมปลอดภัยกวาสถานีไฟฟายอยที่มีความตานทานจําเพาะของดินต่ําเสมอ<br />

197 of 237<br />

ขอที่ : 541<br />

ขอที่ : 542<br />

ขอใดคืออุปกรณปองกันเมื่อตัวมันทํางานแลวสามารถนํากลับมาใชใหมได<br />

คําตอบ 1 : ดร็อปเอาทฟวส(Drop out fuse)<br />

คําตอบ 2 : แอรเซอรกิตเบรคเกอร(ACB)<br />

คําตอบ 3 : เบรคเกอรแบบน้ํามัน(OCB)<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขอใดตอไปนี้ไมใชหนาที่และจุดประสงคของ <strong>Substation</strong><br />

คําตอบ 1 : เปนจุดเปลี่ยนระดับแรงดันไฟฟา<br />

คําตอบ 2 : เปนจุดวัดปริมาณไฟฟา<br />

คําตอบ 3 : เปนจุดปรับระดับแรงดันในระบบใหคงที่<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขอที่ : 543<br />

Differential Relay ไมไดถูกใชสําหรับปองกันอุปกรณใด<br />

ขอที่ : 544<br />

คําตอบ 1 : เครื่องกําเนิดไฟฟา<br />

คําตอบ 2 : บัสบาร<br />

คําตอบ 3 : หมอแปลง<br />

คําตอบ 4 : สายสง<br />

ขอใดไมใชวิธีการตอลงดินในระบบไฟฟากําลัง<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

Soil earthing<br />

Reactance earthing<br />

Capacitance earthing


คําตอบ 4 :<br />

Earth fault neutralizer earthing<br />

ขอที่ : 545<br />

ขอใดไมใชรูปแบบสําหรับการจัดวางบัสบาร<br />

คําตอบ 1 : Ring bus<br />

คําตอบ 2 : Double bus<br />

คําตอบ 3 : Breaker <strong>and</strong> one half<br />

คําตอบ 4 : Control bus<br />

ขอที่ : 546<br />

ขอใดไมใชอุปกรณหลักของโรงไฟฟา<br />

คําตอบ 1 : Generator<br />

คําตอบ 2 : Transformer<br />

คําตอบ 3 : Circuit breaker<br />

คําตอบ 4 : Computer<br />

ขอที่ : 547<br />

ขอที่ : 548<br />

ขอใดไมใชขอหลักสําหรับการพิจารณาการติดตั้งหมอแปลงในโรงไฟฟา<br />

คําตอบ 1 : การตอขนานหมอแปลง<br />

คําตอบ 2 : วัสดุเคลือบผิวตัวถังหมอแปลง<br />

คําตอบ 3 : Harmonics<br />

คําตอบ 4 : Vector group<br />

ขอใดไมใชประโยชนของระบบตอลงดินในโรงไฟฟา<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ลดจํานวนสายตัวนําไฟฟา<br />

ลดคาใชจายในการบํารุงรักษา<br />

ชวยเสริมการปองกันฟาผา<br />

คําตอบ 4 : เพิ่มความปลอดภัย<br />

198 of 237<br />

ขอที่ : 549<br />

ขอใดไมใชวิธีการตอลงดินในโรงไฟฟา


คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Solid earthing<br />

Reactance earthing<br />

Capacitance earthing<br />

Resistance earthing<br />

199 of 237<br />

ขอที่ : 550<br />

ขอใดไมใชชนิดของ circuit breaker<br />

คําตอบ 1 : Oil circuit breaker<br />

คําตอบ 2 : Air circuit breaker<br />

คําตอบ 3 : SF6 circuit breaker<br />

คําตอบ 4 : CO2 circuit breaker<br />

ขอที่ : 551<br />

ขอใดไมเกี่ยวของกับ Generator<br />

คําตอบ 1 : Exciter<br />

คําตอบ 2 : Current regulator<br />

คําตอบ 3 : Voltage regulator<br />

คําตอบ 4 : Synchronous compensator<br />

ขอที่ : 552<br />

ขอที่ : 553<br />

ขอใดตอไปนี้เปนหนาที่ของ Shunt reactor<br />

คําตอบ 1 : เปนตัวจาย VAR ใหกับระบบเนื่องจากแรงดันในระบบต่ําเกิน<br />

คําตอบ 2 : เปนตัวรับ VAR ในระบบ เนื่องจากแรงดันในระบบสูงเกิน<br />

คําตอบ 3 : เปนตัวจาย VA ใหกับระบบ เนื่องจากแรงดันในระบบสูงเกิน<br />

คําตอบ 4 : เปนตัวรับ VA ในระบบ เนื่องจากแรงดันในระบบต่ําเกิน<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอใดตอไปนี้ไมใชหนาที่ของ Shunt capacitor<br />

คําตอบ 1 : ชวยเพิ่มระดับแรงดันไฟฟา<br />

คําตอบ 2 : ชวยลด Loss ในสายสง และเพิ่ม PF ของเครื่องกําเนิดไฟฟา<br />

คําตอบ 3 : เปนอุปกรณรับ VAR ของระบบ<br />

คําตอบ 4 : ชวยใหหมอแปลงถึง Full load ชาลง


ขอที่ : 554<br />

ขอที่ : 555<br />

ขอที่ : 556<br />

ขอที่ : 557<br />

หนาที่หลักของสถานีไฟฟายอยไดแก<br />

คําตอบ 1 :<br />

ตัดตอนระบบไฟฟา<br />

คําตอบ 2 : ปรับระดับแรงดันไฟฟาใหคงที่<br />

คําตอบ 3 : เปลี่ยนระดับแรงดันไฟฟา<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขอดีของการสรางสถานีไฟฟายอยแบบ Gas insulated substation (GIS) ไดแก<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

การขยายสถานีไฟฟายอยทําไดงาย<br />

ราคาคากอสรางถูกวาแบบ Air insulated substation (AIS)<br />

การบํารุงรักษานอยกวาแบบ Air insulated substation (AIS)<br />

ถูกทุกขอ<br />

ขอดีของการสรางสถานีไฟฟายอยแบบ Air insulated substation (AIS) ไดแก<br />

คําตอบ 1 : มีความปลอดภัยในการใชงานสูงกวาแบบ Gas insulated <strong>Substation</strong> (GIS)<br />

คําตอบ 2 : มีการปองกันมลภาวะจากฝุนละอองและสารแปลกปลอมอื่นๆไดดีกวาแบบ Gas insulated substation (GIS)<br />

คําตอบ 3 : การกอสรางสถานีไฟฟายอยทําไดงายกวาแบบ Gas insulated substation (GIS)<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

แรงดันยางกาว (Step voltage) ในสถานีไฟฟาคือ<br />

คําตอบ 1 : ความตางศักยที่รูสึกไดโดยบุคคลไมตองสัมผัสกับวัตถุขณะยืนเทาหางกันประมาณ 1 เมตร<br />

คําตอบ 2 : ความตางศักยระหวางพื้นดินกับจุดที่บุคคลสัมผัสโครงสรางที่ตอลงดิน<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 3 : แรงดันสูงสุดที่ตาขายลงดินของสถานีไฟฟามีจุดตอลงดินอื่น<br />

คําตอบ 4 : แรงดันระหวางวัตถุที่เปนโลหะซึ่งเกิดจากการสัมผัสวัตถุทั้งสอง<br />

200 of 237<br />

ขอที่ : 558<br />

หมอแปลงจําหนายมักจะถูกติดตั้งอยูที่ใด<br />

คําตอบ 1 : ติดกับเครื่องกําเนิดไฟฟา


คําตอบ 2 :<br />

ในสถานีจายไฟฟายอย<br />

คําตอบ 3 : กอนเขาสูอาคารผูใชไฟฟา<br />

คําตอบ 4 : บริเวณลานไกไฟฟา<br />

201 of 237<br />

ขอที่ : 559<br />

ขอที่ : 560<br />

ขอที่ : 561<br />

ขอที่ : 562<br />

การตอรีแอคเตอรไวในระบบการสงจายไฟฟามีประโยชนอยางไร<br />

คําตอบ 1 : เพิ่มประสิทธิภาพของระบบ<br />

คําตอบ 2 : ปรับคาเพาเวอรแฟคเตอร<br />

คําตอบ 3 : เพื่อความสมดุลของระบบ<br />

คําตอบ 4 : เปนตัวจํากัดกระแสที่จายจากเครื่องกําเนิดไฟฟา<br />

โดยปกติถามีความผิดปกติเกิดขึ้นที่ตัวรีเลย ที่แผงควบคุมจะมีสัญญาณเตือนอยางไร<br />

คําตอบ 1 :<br />

สัญญาณไฟจะกระพริบ<br />

คําตอบ 2 : เสียงสัญญาณจะดังขึ้น<br />

คําตอบ 3 : เสียงระเบิดของรีเลยจะไดยินชัดเจน<br />

คําตอบ 4 : ไมมีการเตือน เนื่องจากไมสามารถรูไดวารีเลยตัวไหนทํางานผิดปกติ<br />

ขอใดไมใชคุณสมบัติที่ดีของระบบปองกัน<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

ความถูกตองในการทํางาน<br />

ประสิทธิภาพ<br />

ความรวดเร็ว<br />

คําตอบ 4 : ความเชื่อถือได<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอใดตอไปนี้ไมถูกตองเกี่ยวกับระบบปองกันของสายสง เมื่อมีความผิดพลาดหรือเหตุขัดของเกิดขึ้น<br />

คําตอบ 1 : รีเลยปองกันสั่งใหเบรกเกอรตัดวงจรโดยอัตโนมัติ<br />

คําตอบ 2 : เมื่อมีการตัดวงจรสายสงครั้งแรก สายสงจะถูกเชื่อมตออีกครั้งทันที<br />

คําตอบ 3 : ถายังมีความผิดพลาดอยูในระบบ ก็จะตัดวงจรอีกครั้ง<br />

คําตอบ 4 : เมื่อมีการตัดวงจรสายสงครั้งตอมา สายสงก็จะถูกเชื่อมตออยูเรื่อยๆ


ขอที่ : 563<br />

ขอที่ : 564<br />

ขอที่ : 565<br />

ขอที่ : 566<br />

ขอที่ : 567<br />

ขอใดตอไปนี้ถูกตอง<br />

คําตอบ 1 : การจัดบัสแบบบัสคูเบรกเกอรคูจะใชเบรกเกอรทั้งสิ้น 2 ตัวตอ 1 วงจร<br />

คําตอบ 2 : การจัดบัสแบบเบรกเกอรครึ่งจะใชเบรกเกอรทั้งสิ้น 3 ตัวตอ 2 วงจร<br />

คําตอบ 3 : การจัดบัสแบบบัสประธานคูและบัสโอนจะใชเบรกเกอรทั้งสิ้น 1 ตัวตอ 1 วงจร รวมกับเบรกเกอรเชื่อมโยงอีก 2 ตัว<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

การไฟฟาสวนภูมิภาคใชระดับแรงดันจําหนายเทาใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

220 V<br />

2.2 kV<br />

22 kV<br />

24 kV<br />

การปองกันชนิดใดพบไดเฉพาะในการปองกันเครื่องกําเนิดไฟฟาขนาดใหญ<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ขอใดตอไปนี้ถูกตอง<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

over-current protection<br />

over-voltage protection<br />

out-of-step protection<br />

differential protection<br />

51 คือ device number ของ AC directional over-current relay<br />

52 คือ device number ของ AC time over-current relay<br />

67 คือ device number ของ distance relay<br />

87 คือ device number ของ differential protective relay<br />

การปองกัน Bus bar ใช relay อะไร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

Overcurrent relay<br />

Differential relay<br />

202 of 237


คําตอบ 3 : Earth fault relay<br />

คําตอบ 4 : ถูกทั้ง 1 และ 3<br />

203 of 237<br />

ขอที่ : 568<br />

ขอที่ : 569<br />

ขอที่ : 570<br />

ขอที่ : 571<br />

การปองกัน Bus bar ใช relay อะไร<br />

คําตอบ 1 : overcurrent relay<br />

คําตอบ 2 : Differential relay<br />

คําตอบ 3 : Earth fault relay<br />

คําตอบ 4 : ถูกทั้ง 2 และ 3<br />

ขอใดมิใชหนาที่ของสถานีไฟฟายอย<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

ปรับระดับและควบคุมแรงดันไฟฟาในระบบจําหนายไฟฟา<br />

ทําการตัดตอวงจรของระบบไฟฟา<br />

วัดปริมาณความตองการกําลังไฟฟาและพลังงานไฟฟา<br />

คําตอบ 4 : เปนที่ตั้งของเครื่องกําเนิดไฟฟา<br />

ขณะที่กําลังการผลิตไฟฟาและโหลดสมดุล หากในชวงวินาทีตอมามีโหลดเปนปริมาณมากเพิ่มขึ้นอยางฉับพลัน ความถี่ของระบบไฟฟาในชวงเวลานั้นควรเปนเชนไร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คงเดิม<br />

คําตอบ 2 : เพิ่มขึ้น<br />

คําตอบ 3 : ลดลง<br />

คําตอบ 4 : เพิ่มขึ้นกอนแลวจึงลดลง<br />

อุปกรณใดไมไดติดตั้งอยูภายในสถานีไฟฟายอย (<strong>Substation</strong>)<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

<strong>Power</strong> transformer<br />

Primary feeder<br />

Lightning arrester<br />

Current transformer<br />

ขอที่ : 572


Generator ที่ใชในโรงไฟฟาเปนแบบใดในปจจุบัน<br />

คําตอบ 1 : D.C generator<br />

คําตอบ 2 : Synchronous generator<br />

คําตอบ 3 : Induction generator<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

204 of 237<br />

ขอที่ : 573<br />

การพิจารณา Short circuit current ใน generator ควรจะดูจากคา Reactance ของ generator คาใด<br />

คําตอบ 1 : Xd<br />

คําตอบ 2 : X’d<br />

คําตอบ 3 : X”d<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขอที่ : 574<br />

คา Xd และ Xq ใน Synchronous generator มีคาตางกันเทาใด<br />

คําตอบ 1 : Xq = 0.4 – 0.5 Xd<br />

คําตอบ 2 : Xq = 0.6 – 0.7 Xd<br />

คําตอบ 3 : Xq = 0.7 – 0.8 Xd<br />

คําตอบ 4 : Xq = Xd<br />

ขอที่ : 575<br />

คา Reactance ของ generator คาใดที่ใชสําหรับคํานวณหากระแสลัดวงจรแบบไมสมมาตร<br />

ขอที่ : 576<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Xd, Xq<br />

X”d, X”d<br />

X2, X0<br />

X1, X5<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ระบบตอลงดินในระบบไฟฟากําลังแบงออกเปนกี่แบบ<br />

คําตอบ 1 : 1 แบบ<br />

คําตอบ 2 : 2 แบบ<br />

คําตอบ 3 : 3 แบบ


คําตอบ 4 :<br />

4 แบบ<br />

ขอที่ : 577<br />

ขอที่ : 578<br />

จุดตอลงดินในระบบไฟฟากําลังสามารถตอลงดินไดที่ใดบาง<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Generator<br />

Transformer<br />

Bus bar<br />

ถูกทุกขอ<br />

หมอแปลงที่เปน <strong>Power</strong> transformer ที่ใชใน <strong>Substation</strong> ควรมีขนาดเทาใด<br />

คําตอบ 1 : นอยกวา 5 MW<br />

คําตอบ 2 : มากกวา 5 MW<br />

คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />

คําตอบ 4 : คาเทาใดก็ได<br />

ขอที่ : 579<br />

Vector group ของหมอแปลงแบงเปนกี่ Group<br />

ขอที่ : 580<br />

คําตอบ 1 : 2<br />

คําตอบ 2 : 3<br />

คําตอบ 3 : 4<br />

คําตอบ 4 : 5<br />

หมอแปลงที่ใชใน Switch yard ของโรงไฟฟาควรจะเปน Group ใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

Group No.1<br />

Group No.2<br />

Group No.3<br />

Group ใดก็ได<br />

205 of 237<br />

ขอที่ : 581<br />

หมอแปลงที่ใชใน <strong>Substation</strong> ควรจะเปน Group ใด


คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Group No.1<br />

Group No.2<br />

Group No.3<br />

Group ใดก็ได<br />

206 of 237<br />

ขอที่ : 582<br />

หมอแปลงที่ใชใน Distribution substation ควรเปน Group ใด<br />

คําตอบ 1 : Group No.3<br />

คําตอบ 2 : Group No.4<br />

คําตอบ 3 : Group No.5<br />

คําตอบ 4 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />

ขอที่ : 583<br />

Vector group ของหมอแปลงระบุวาเปน Dy1 หมายถึงขอใดตอไปนี้<br />

ขอที่ : 584<br />

ขอที่ : 585<br />

คําตอบ 1 : ขดลวด Primary ตอ แบบ Delta<br />

คําตอบ 2 : ขดลวด Secondary ตอแบบ Star<br />

คําตอบ 3 : มุมของแรงดันทางดาน Primary ตางกับ Secondary เทากับ – 30 องศา<br />

คําตอบ 4 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />

หมอแปลงที่ใชในโรงไฟฟาและสถานีไฟฟายอยจะเปนแบบ 3 ขดลวด ขด Terming มีไวเพื่ออะไร<br />

คําตอบ 1 : จายกําลังไฟฟาใหระบบไฟฟาในโรงไฟฟา<br />

คําตอบ 2 : จายกําลังไฟฟาใหระบบไฟฟาในสถานีไฟฟายอย<br />

คําตอบ 3 : ไมมีประโยชนอะไร<br />

คําตอบ 4 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />

ในการขนานหมอแปลงที่เปนแบบ 2 ขดลวด หมอแปลงจะตองมีคุณสมบัติใดบางที่สําคัญที่สุด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

Vector group เดียวกัน<br />

MVA หรือ kVA เทากัน<br />

Transformation ratio เทากัน<br />

ถูกทุกขอ


ขอที่ : 586<br />

ขอที่ : 587<br />

ในการเลือกหมอแปลงมาใชในระบบไฟฟากําลังควรจะเลือกขอใดประหยัดพลังงาน<br />

คําตอบ 1 : Copper loss ต่ําสุด<br />

คําตอบ 2 : Core loss ต่ําสุด<br />

คําตอบ 3 : กําลังไฟฟาต่ําสุด<br />

คําตอบ 4 : กําลังไฟฟาสูงๆ<br />

ในการออกแบบ Circuit breaker ควรจะตองตัดตอวงจรในชวงใด<br />

คําตอบ 1 : Wave from ของกระแสเปน 0<br />

คําตอบ 2 : Wave from ของแรงดันเปน 0<br />

คําตอบ 3 : ชวงใดก็ได<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขอที่ : 588<br />

Circuit breaker ที่ควรจะเลือกใชใน <strong>Substation</strong> แรงดัน 500 kV ควรจะเปนแบบใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Air circuit breaker<br />

Oil circuit breaker<br />

Vacuum circuit breaker<br />

SF6<br />

ขอที่ : 589<br />

Oil circuit breaker จะตัดวงจรในกี่ Cycle<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

3 Cycle<br />

5 cycle<br />

8 Cycle<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ถูกทุกขอ<br />

207 of 237<br />

ขอที่ : 590<br />

เวลาในการตัดวงจรของ Circuit breaker 3 cycle, 50 Hz มีคาเทาใด<br />

คําตอบ 1 : 0.06 sec


คําตอบ 2 : 60 msec<br />

คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />

คําตอบ 4 : กี่ sec ก็ได<br />

208 of 237<br />

ขอที่ : 591<br />

ขอที่ : 592<br />

ในการจัด Bus bar ใน <strong>Substation</strong> แบบใดที่มีผลใหมีโอกาสเกิดไฟดับนอยที่สุด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Single bus bar<br />

Double bus bar<br />

Breaker <strong>and</strong> a half<br />

ถูกทุกขอ<br />

การตอ Reactor สามารถตอที่ใดไดบาง<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Generator<br />

Feeder<br />

Bus bar<br />

ถูกทุกขอ<br />

ขอที่ : 593<br />

Reactor ที่ตอในระบบไฟฟากําลังทําหนาที่อะไร<br />

ขอที่ : 594<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

ลดแรงดัน<br />

จํากัดกระแสลัดวงจรในระบบ<br />

คําตอบ 3 : เพิ่มกําลังไฟฟาในระบบ<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

การหาขนาดของ Reactor ที่จะติดตั้งในระบบไฟฟากําลังหาไดจากสมการใด


คําตอบ 1 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 2 :<br />

209 of 237


210 of 237<br />

คําตอบ 3 : X = เทาใดก็ได<br />

คําตอบ 4 : X = 0<br />

ขอที่ : 595<br />

การควบคุมแรงดันที่ Bus ของโรงไฟฟาใหคงที่ ควบคุมไดจากขอใด<br />

คําตอบ 1 : ระบบExcitation ของ Generator<br />

คําตอบ 2 : GOV control<br />

คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />

คําตอบ 4 : Voltage control<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอที่ : 596<br />

การควบคุมความถี่ที่ Bus ของโรงไฟฟาใหคงที่ ควบคุมไดจากขอใด


คําตอบ 1 : ระบบ Excitation ของ Generator<br />

คําตอบ 2 : GOV control<br />

คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />

คําตอบ 4 : Voltage control<br />

211 of 237<br />

ขอที่ : 597<br />

สิ่งใดตอไปนี้ที่ไมใชระบบ Excitation control ของ Generator<br />

คําตอบ 1 : GOV control<br />

คําตอบ 2 : AVR control<br />

คําตอบ 3 : Pulse type voltage regulator<br />

คําตอบ 4 : Servo type voltage regulator<br />

ขอที่ : 598<br />

เมื่อสรางโรงไฟฟาเสร็จแลว กอนจายไฟฟาเขาระบบของประเทศจะตองตรวจสอบสวนใดของ Generator บาง<br />

คําตอบ 1 : ทดสอบฉนวน<br />

คําตอบ 2 : ทดสอบระบบปองกัน<br />

คําตอบ 3 : ทดสอบระบบ Synchronize<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขอที่ : 599<br />

ขอที่ : 600<br />

การควบคุมเสถียรภาพของ Generator ภานในโรงไฟฟาพิจารณาไดจากสิ่งใดบาง<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

<strong>Power</strong> angle<br />

Swing equation<br />

เวลาในการตัดวงจรของ Circuit breaker<br />

ถูกทุกขอ<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

การควบคุมแรงดันในสายสงใหคงที่ ควบคุมไดจากสิ่งใดตอไปนี้<br />

คําตอบ 1 : Tap change ของหมอแปลง<br />

คําตอบ 2 : Generator<br />

คําตอบ 3 : Reactor<br />

คําตอบ 4 : ระบบตอลงดิน


ขอที่ : 601<br />

ขอที่ : 602<br />

ขอที่ : 603<br />

ขอที่ : 604<br />

การควบคุมการเชื่อมตอโรงไฟฟาตางๆใหจายกําลังผลิตผานสายสงไฟฟา ผูใชไฟสามารถควบคุมไดที่<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Dispatching center<br />

Generator center<br />

<strong>Substation</strong> center<br />

ไมมีขอใดถูก<br />

ในการควบคุมการเชื่อตอโรงไฟฟา ในโรงไฟฟาจะสงขอมูลไปยังศูนยควบคุมดวยระบบอะไร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Voltage control<br />

Frequency control<br />

Telemetering<br />

ถูกทุกขอ<br />

ในการควบคุมกําลังไฟฟาใหสงไฟฟ ผูใชไดสูงสุด ในกรณีที่สายสงยาวมากๆ ควรจะควบคุมจากสิ่งใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

หมอแปลง<br />

คําตอบ 2 : ตอ C ที่ปลายทาง<br />

คําตอบ 3 : Static VAR ที่กลางสายสง<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ระบบปองกันใน Switch yard ของโรงไฟฟาที่Zone ในการปองกันกี่ Zone<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

3 Zone<br />

4 Zone<br />

5 Zone<br />

6 Zone<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

212 of 237<br />

ขอที่ : 605<br />

Relay ใดตอไปนี้ที่ไมใช Relay ที่ใชในการปองกัน Generator ในโรงไฟฟา<br />

คําตอบ 1 :<br />

Differential relay


คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Frequency relay<br />

Over/under voltage relay<br />

Carrier protection relay<br />

213 of 237<br />

ขอที่ : 606<br />

Relay ใดตอไปนี้ ที่ใชปองกันหมอแปลง<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Differential relay<br />

Distance relay<br />

Frequency relay<br />

Phase frailer relay<br />

ขอที่ : 607<br />

Relay ใดตอไปนี้ใชปองกัน Bus bar<br />

คําตอบ 1 : Differential relay<br />

คําตอบ 2 : Earth fault relay<br />

คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขอที่ : 608<br />

Buchholz relay ใชปองกันอะไรในหมอแปลง<br />

ขอที่ : 609<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Pressure<br />

Temperature<br />

Voltage<br />

Current<br />

ถา Field coil ใน Rotor ของ Synchronous generator ขาดจะเกิดปรากฎกาณใดตอไปนี้<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

Generator ไมสามารถจายกําลังผลิตได<br />

Generator เกิดการแกวง<br />

Primover หยุดหมุน<br />

ถูกทุกขอ


ขอที่ : 610<br />

ขอที่ : 611<br />

ขอที่ : 612<br />

ขอที่ : 613<br />

ถาเกิด Short turnในขดลวดหมอแปลงที่เฟส A สวนเฟส B, C ปกติ แลวหมอแปลงตอแบบ Star ลง Ground จะเกิดปรากฏการณใด<br />

คําตอบ 1 : แรงดันในเฟส A, B, C ไมเทากัน<br />

คําตอบ 2 : มีกระแส In มากผิดปรกติ<br />

คําตอบ 3 : ถูกทั้ง 1 และ 2<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ถาเชื้อเพลิงที่ใชอยูคือ ถานหิน, น้ํามัน, Gas , สารกัมมันตภาพรังสี หมดจากโลกนี้ โรงไฟฟาในอนคตจะใชเชื้อเพลิงใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

Hydrogen<br />

Oxygen<br />

คําตอบ 3 : Gas เฉื่อย<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ในการวัดคาความตานทานของดิน (Soil resistivity) ดวยวิธี Wenner method โดยจะทําการปก Ground refferent จํานวน 4 แทงลงในดิน มีระยะหางระหวางแทง เทากับ 2 เมตร<br />

และปกลึกลงดินเทากับ 10 เซนติเมตร และอานคาจากเครื่องมือวัดไดคาความตานทานเทากับ 15 ohm.m อยากทราบวาคา Soil resistivity มีคาเทากับเทาไหร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

188.5 ohm.m<br />

30 ohm.m<br />

600 ohm.m<br />

47.124 ohm.m<br />

ขอใดตอไปนี้เปนปจจัยในการออกแบบสถานีไฟฟา<br />

คําตอบ 1 : ความนาเชื่อถือ และการจัดเตรียมเผื่อการขยายระบบ<br />

คําตอบ 2 : ความปลอดภัย<br />

คําตอบ 3 : ความงายในการใชงาน และ คาใชจายในการลงทุน<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

214 of 237<br />

ขอที่ : 614<br />

ในการออกแบบระยะนอยที่สุดของสวนที่มีแรงดันไฟฟา(Hot part) จะตองทําการออกแบบสวนใด<br />

คําตอบ 1 : สวนที่เปน Hot part กับระยะพื้นดิน(Groung level)<br />

คําตอบ 2 : สวนที่เปน Hot part กับระยะพื้นถนน(Road level)


คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ขอ ก. และ ข. ถูก<br />

ไมมีขอใดถูก<br />

215 of 237<br />

ขอที่ : 615<br />

ขอที่ : 616<br />

ในกรณีที่เกิดกระแสลัดวงจรและไหลผานรางกาย ขอใดตอไปนี้ทําใหเกิดอันตรายตอรางกายมากที่สุด<br />

คําตอบ 1 : กระแสไหลผานไหลผานรางกายมาก แตไหลเปนระยะเวลาสั้นๆ<br />

คําตอบ 2 : กระแสไหลผานรางกายนอย แตเปนระยะเวลานาน<br />

คําตอบ 3 : กระแสไหลผานรางกายนอย เปนเวลาสั้น<br />

คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />

ในการออกแบบสถานีไฟฟาแหงหนึ่งตองการวาง Current transformer เพื่อใชวัดคากระแสไฟฟา ของระดับแรงดัน 230 kV อยากทราบวาระยะหางที่ต่ําที่สุดของจุดที่เปน Hot part<br />

กับ Hot part จะมีระยะเทาใดตามมาตรฐาน NEMA st<strong>and</strong>ard<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

226.06 cm<br />

180.34 cm<br />

210 cm<br />

134.62 cm<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอที่ : 617<br />

ในสถานีไฟฟาแรงสูงพิกัดแรงดัน 230 kVแหงหนึ่ง ขนาด 100 x 100 เมตร และมี <strong>Power</strong> transformer ขนาด 25 MVA ซึ่งมีความจําเปนที่จะตองนํารถเครนเขาซอมบํารุงตัวหมอ<br />

แปลงนี้ โดยความสูงของรถเครนมีขนาด 7.5 เมตร อยากทราบวาระยะความสูง Hot part ของเสาตน Deat end จะตองมีความสูงเทากับเทาไหร


216 of 237<br />

ขอที่ : 618<br />

คําตอบ 1 : 457.2 m<br />

คําตอบ 2 : 914.4 m<br />

คําตอบ 3 : 12.072 m<br />

คําตอบ 4 : 16.644 m<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ในสถานีไฟฟาแรงสูงพิกัดแรงดัน 230 kVแหงหนึ่ง ขนาด 100 x 100 เมตร และมี <strong>Power</strong> transformer ขนาด 25 MVA โดยตอกับ Bus bar อลูมิเนียม ขนาด 10 นิ้ว ระยะหาง<br />

ระหวาง Bus bar อลูมิเนียมเทากับ 226.06 cm อยากทราบวา Bus bar อลูมิเนียมนี้จะตองสูงเทาไหร ซึ่งจะตองใหผูปฏิบัติงานสูง 160 cm และยืดแขนจะสามารถวัดสวนปลายแขน<br />

ถึงเทาได 195 cm เขาไปปฏิบัติงานดานลาง Bus bar ในกรณีจายไฟฟา


217 of 237<br />

ขอที่ : 619<br />

คําตอบ 1 : 457.2 cm<br />

คําตอบ 2 : 617.2 cm<br />

คําตอบ 3 : 652.2 cm<br />

คําตอบ 4 : 1371.6 cm<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

จากรูปดานลางนี้ เปนการจัดวางอุปกรณของสถานีไฟฟาระดับแรงดัน 115 kV ใหคํานวณหาระยะ a จะมีระยะหางต่ําสุดเทาไหรตามมาตรฐาน IEC st<strong>and</strong>ard.


218 of 237<br />

ขอที่ : 620<br />

คําตอบ 1 : 110 cm<br />

คําตอบ 2 : 575 cm<br />

คําตอบ 3 : 650 cm<br />

คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอใดตอไปนี้ไมใชหลักการวัดคา Soil resistivity<br />

คําตอบ 1 : 2 point method<br />

คําตอบ 2 : 3 point method<br />

คําตอบ 3 : 4 point method<br />

คําตอบ 4 : 5 point method


ขอที่ : 621<br />

ขอที่ : 622<br />

ขอที่ : 623<br />

ขอที่ : 624<br />

ในการวัดคา Soil resistivity ของสถานีไฟฟาแหงหนึ่ง ทําการวัดดวยวิธี 4 point method โดยวางระยะหางของ Electrode จํานวน 4 แทงวางหางเทาๆ กันคือระยะ 5 เมตร ตาม<br />

มาตรฐาน IEEE 80-2000 อยากทราบวาจะตองฝงแทง Electrode นี้ลึกลงในดินเทาไหร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

5 m<br />

1 m<br />

0.25 m<br />

ไมตองคํานึงถึงความลึกในการฝงแทง Electrode<br />

ในการวัดคา Soil resistivity ดวยวิธี 4 Point method จะใชแทง Electrode จํานวน 4 แทงฝงในดิน ขอใดตอไปนี้กลาวถูกตอง<br />

คําตอบ 1 : แทง Electrode คูนอกเปน Voltage และคูในเปน Current<br />

คําตอบ 2 : แทง Electrode คูนอกเปน Current และคูในเปน Voltage<br />

คําตอบ 3 : แทง Electrode คูทางดานซายเปน Voltage และคูทางดานขวาเปน Current<br />

คําตอบ 4 : แทง Electrode คูทางดานซายเปน Current และคูทางดานขวาเปน Voltage<br />

ขอใดตอไปนี้ไมใชผลของการใชหินโรยหนาผิวดินในสถานีไฟฟา<br />

คําตอบ 1 : เพิ่มคาความตานทานของผิวดิน<br />

คําตอบ 2 : เพื่อลดกระแสไหลผานรางกาย<br />

คําตอบ 3 : เพื่อใหกระแสไหลผานรางกายไดเร็วๆ<br />

คําตอบ 4 : ขอ ก. และ ข. ถูก<br />

ในการออกแบบระบบรากสายดินของสถานีไฟฟาจะตองทําการคํานวณหาคาแรงดันที่ตกคลอมรางกาย เมื่อมีกระสลัดวงจรเทากับ 31.5 kA, คาความตานทานของรางกายเทากับ<br />

1,000 ohm และคาความตานทานที่เทา 2 ขางเทากับ 800 ohm ใหทําการคํานวณหาคาแรงดันที่ตกคลอมรางกายจะเทากับเทาไหร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

31,500 kV<br />

25,200 kV<br />

56,700 kV<br />

39.375 kV<br />

219 of 237<br />

ขอที่ : 625<br />

ขอใดตอไปนี้ไมใชวิธีการปองกันฟาในสถานีไฟฟา


คําตอบ 1 : การปองกันโดยใช Earth fault relay<br />

คําตอบ 2 : การปองกันโดยใชเสาสอฟา (High mast air terminal)<br />

คําตอบ 3 : การปองกันโดยใชสายดินลอฟาวางเหนือระบบ (Overhead ground wire)<br />

คําตอบ 4 : การปองกันโดยใชทั้งเสาและสายดินลอฟาวางเหนือระบบ<br />

220 of 237<br />

ขอที่ : 626<br />

ระบบปองกันฟาผาของสถานีไฟฟาของการไฟฟาฝายผลิตแหงประเทศไทยใชขนาดสายที่มีเสนผานศูนยกลางเทากับ 3/8 นิ้ว 7 St<strong>and</strong> galvanized steel , ความสูงเฉลี่ยของตัวนํา<br />

ปองกันที่จะปองกันเทากับ 30 เมตร ใหคํานวณหาคา Surge impedance ในขณะที่เกิดฟาผาลงบนระบบสายสง<br />

คําตอบ 1 : 363.36<br />

คําตอบ 2 : 346.1<br />

คําตอบ 3 : 566.4796<br />

คําตอบ 4 : 128.91<br />

ขอที่ : 627<br />

. ในสายสงไฟฟาของการไฟฟาแหงหนึ่งที่สงจายจากสถานีไฟฟา A ไปยังสถานีไฟฟา B และเกิดฟาผาที่ตําแหนงหางจากสถานีไฟฟา A ออกไป 3 km มีคา Surge impedance<br />

เทากับ 235 และคา BIL เทากับ 35 kV ใหทําการคํานวณหาคา กระแสฟาผาที่เกิดขึ้นจะเทากับเทาไหร<br />

ขอที่ : 628<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

35 kA<br />

0.149 kA<br />

105 kA<br />

0.298 kA<br />

ในสถานีไฟฟามีการติดตั้ง <strong>Power</strong> transformer ขนาด 10 MVA แตยังไมไดใชงาน เกิดฟาผาที่บริเวณขั้วดานแรงสูงของหมอแปลงตัวนี้ โดยที่หมอแปลงตัวนี้มีคา BIL เทากับ 70<br />

kV และมีคา Surge impedance เทากับ 445 อยากทราบวากระแสฟาผามีคาเทากับเทาไหร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

0.157 kA<br />

142.857 kA<br />

22.471 kA<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ไมมีขอใดถูก<br />

ขอที่ : 629<br />

ในสถานีไฟฟามีการติดตั้ง <strong>Power</strong> transformer ขนาด 10 MVA แตยังไมไดใชงาน เกิดฟาผาที่บริเวณขั้วดานแรงสูงของหมอแปลงตัวนี้ โดยที่หมอแปลงตัวนี้มีคา BIL เทากับ 70<br />

kV และมีคา Surge impedance เทากับ 445 อยากทราบวากระแสฟาผาวิกฤติมีคาเทากับเทาไหร เมื่อกระแสฟาผาวิกฤติเทากับ 1.1 ของกระแสฟาผา


คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

0.1727 kA<br />

157.1427 kA<br />

0.1727 kA<br />

ไมมีขอใดถูก<br />

221 of 237<br />

ขอที่ : 630<br />

ขอใดตอไปนี้ไมใชปจจัยของคากระแสที่มีผลทําใหเกิดอันตรายตอรางกาย<br />

คําตอบ 1 : เสนทางที่กระแสไหลผานรางกายจากทางเขาถึงทางออก<br />

คําตอบ 2 : ปริมาณกระแสที่ไหลผานรางกาย<br />

คําตอบ 3 : ระยะเวลาที่กระแสไหลผานรางกาย<br />

คําตอบ 4 : ภูมิคุมกันภายในของรางกาย<br />

ขอที่ : 631<br />

จากรูปวงจรดานลางใหทําการคํานวณหา ZEQ โดยที่วงจรนี้ใชกับแรงดัน 50 โวลต ที่ความถี่ 50 Hz<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :


222 of 237<br />

ขอที่ : 632<br />

จากรูปวงจรดานลางใหทําการคํานวณหากระแสในวงจร โดยที่วงจรนี้ใชกับแรงดัน 50 โวลต มุม 30 องศา ที่ความถี่ 50 Hz<br />

ขอที่ : 633<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

จากรูปวงจรดานลางใหทําการคํานวณหา <strong>Power</strong> factor โดยที่วงจรนี้ใชกับแรงดัน 50 โวลต ที่ความถี่ 50 Hz


223 of 237<br />

ขอที่ : 634<br />

คําตอบ 1 : 0.457<br />

คําตอบ 2 : 0.895<br />

คําตอบ 3 : 0.567<br />

คําตอบ 4 : 0.399<br />

จากรูปวงจรดานลางใหทําการคํานวณหา <strong>Power</strong> โดยที่วงจรนี้ใชกับแรงดัน 50 โวลต ที่ความถี่ 50 Hz<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

15.9201 W<br />

20.56 W<br />

25.74 W<br />

35.21 W<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอที่ : 635<br />

วงจรสมมูลยของหมอแปลงไฟฟาในอุดมคติดังรูปใหคํานวณหา Z ทางดาน Primary


224 of 237<br />

คําตอบ 1 : 18 – j4<br />

คําตอบ 2 : 2 + j1<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 : 30 – j4<br />

ขอที่ : 636<br />

วงจรสมมูลยของหมอแปลงไฟฟาในอุดมคติดังรูปใหคํานวณหากระแส I1<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


คําตอบ 1 :<br />

225 of 237<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ขอที่ : 637<br />

วงจรสมมูลยของหมอแปลงไฟฟาในอุดมคติดังรูปใหคํานวณหาแรงดันทางดาน Primary<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 3 :


คําตอบ 4 :<br />

226 of 237<br />

ขอที่ : 638<br />

วงจรสมมูลยของหมอแปลงไฟฟาในอุดมคติดังรูปใหคํานวณหากระแส I2<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอที่ : 639<br />

วงจรสมมูลยของหมอแปลงไฟฟาในอุดมคติดังรูปใหคํานวณหาแรงดันทางดาน Secondary


227 of 237<br />

ขอที่ : 640<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

จากมาตรฐาน ANSI C37.04 กําหนดคา IC ของ Circuit breaker แบบใชฉนวนเปน SF6 เทากับ 37 kA ที่แรงดัน 72.5 kV โดยมีคา Voltage range factor k เทากับ 1.1 อยาก<br />

ทราบวาถาจะนํา Circuit breaker นี้มาใชที่ระดับแรงดัน 69 kV คา IC จะเปนเทาไหร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

37 kA<br />

38.9 kA<br />

35.21 kA<br />

40.7 kA<br />

ขอที่ : 641


ขอที่ : 642<br />

ขอที่ : 643<br />

ขอที่ : 644<br />

จากมาตรฐาน ANSI C37.04 กําหนดคา IC ของ Circuit breaker แบบใชฉนวนเปน SF6 เทากับ 37 kA ที่แรงดัน 72.5 kV โดยมีคา Voltage range factor k เทากับ 1.1 อยาก<br />

ทราบวา Maximum symmetrical interrupting current เทากับเทาไหร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

37 kA<br />

38.9 kA<br />

35.21 kA<br />

40.7 kA<br />

จากมาตรฐาน ANSI C37.04 กําหนดคา IC ของ Circuit breaker แบบใชฉนวนเปน SF6 เทากับ 37 kA ที่แรงดัน 72.5 kV โดยมีคา Voltage range factor k เทากับ 1.1 ให<br />

คํานวณหาวาแรงดันต่ําสุดที่จะสามารถนํา Circuit breaker ตัวนี้นําไปใชไดที่แรงดันเทาไหร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

79.75 kV<br />

72.5 kV<br />

65.9 kV<br />

ไมมีขอใดถูก<br />

จากมาตรฐาน ANSI C37.04 กําหนดคา IC ของ Circuit breaker แบบใชฉนวนเปน SF6 เทากับ 37 kA ที่แรงดัน 72.5 kV โดยมีคา Voltage range factor k เทากับ 1.1 ให<br />

คํานวณหา Close <strong>and</strong> latch (C&L) ที่ระดับแรงดัน 69 kV เมื่อ C&L = 1.6 (k) (rate short circuit current<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

65.1 kA<br />

68.464 kA<br />

82.5 kA<br />

90 kA<br />

ขอใดตอไปนี้เปนการระบายความรอนดวย OA ของ Transformer<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Liquid immersed, self cooled<br />

Liquid immersed<br />

Liquid immersed, Forced air cooled<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ไมมีขอใดถูก<br />

228 of 237<br />

ขอที่ : 645<br />

ขอใดตอไปนี้เปนการระบายความรอนดวย OA/FA/FA ของ Transformer<br />

คําตอบ 1 : Liquid immersed, self cooled


คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Liquid immersed, self cooled / Forced air cooled / Forced air cooled<br />

Liquid immersed, Forced air cooled<br />

ไมมีขอใดถูก<br />

229 of 237<br />

ขอที่ : 646<br />

ขอใดตอไปนี้เปนการระบายความรอนดวย AA/FA ของ Transformer<br />

คําตอบ 1 : Liquid immersed, self cooled<br />

คําตอบ 2 : Liquid immersed, self cooled / Forced air cooled / Forced air cooled<br />

คําตอบ 3 : Liquid immersed, Forced air cooled<br />

คําตอบ 4 : Ventilated, Self-cooled / forced-air cooled<br />

ขอที่ : 647<br />

ขอใดตอไปนี้เปนการระบายความรอนดวย OA/FA/FOA ของ Transformer<br />

ขอที่ : 648<br />

ขอที่ : 649<br />

คําตอบ 1 : Liquid immersed, self cooled<br />

คําตอบ 2 : Liquid immersed, self cooled / Forced air cooled / Forced air cooled<br />

คําตอบ 3 : Liquid immersed, Self-cooled / Forced air cooled / forced-liquid cooled<br />

คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />

ขอใดตอไปนี้เปนการระบายความรอนดวย OA/FA ของ Transformer<br />

คําตอบ 1 : Liquid immersed, self cooled<br />

คําตอบ 2 : Liquid immersed, self cooled / Forced air cooled<br />

คําตอบ 3 : Liquid immersed, Forced air cooled<br />

คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />

ในการเคลือบผิวของโครงสรางที่เปนเหล็กตามมาตรฐาน ASTM A123 จะตองเคลือบดวย Galvanizing อยางนอยที่สุดเทากับเทาไหร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

0.008636 มิลลิเมตร<br />

0.08636 มิลลิเมตร<br />

0.1 มิลลิเมตร<br />

เทาไหรก็ได


ขอที่ : 650<br />

ขอที่ : 651<br />

ขอที่ : 652<br />

ขอที่ : 653<br />

สถานีไฟฟาแหงหนึ่งตองการแรงดันไฟฟาสํารองที่เปนแบบใช Battery ขนาด 140 V โดยคุณสมบัติของ Battery ที่มีขายในประเทศไทยขนาด 1.25 Volt per<br />

230<br />

cell<br />

of<br />

อยากทราบวาจะ<br />

237<br />

ตองใช Battery จํานวนเทาไหร เพื่อใหไดแรงดันไฟฟาเทากับ 140 V<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

140 cell<br />

100 cell<br />

175 cell<br />

112 cell<br />

ในสวนของลานหมอแปลงจะตองทําการโรยหินเบอรอะไร และตองมีความหนาอยางนอยเทากับเทาไหร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

เบอร 1 หนาอยานอย 100 mm<br />

เบอร 2 หนาอยานอย 100 mm<br />

เบอร 2 หนาอยานอย 300 mm<br />

เบอร 1 หนาอยานอย 300 mm<br />

ในลานหมอแปลงของสถานีไฟฟาแหงหนึ่งมีหมอแปลงติดตั้งอยู ขนาดคือ 1,500 MVA , โดยที่หมอแปลงขนาด 1500 MVA มีปริมาณน้ํามันเทากับ 1,989 ลิตร อยากทราบวาจะ<br />

ตองกําหนดใหบอรองรับน้ํามันที่รั่วไหลเทากับเทาไหร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

5,967 ลิตร<br />

5,301 ลิตร<br />

1,989 ลิตร<br />

3,778 ลิตร<br />

ในลานหมอแปลงของสถานีไฟฟาแหงหนึ่งมีหมอแปลงติดตั้งอยู 3 ขนาดคือ 1,500 MVA , 100 MVA และ 200 MVA โดยที่หมอแปลงขนาด 1500 MVA มีปริมาณน้ํามันเทากับ<br />

1,989 ลิตร, หมอแปลงขนาด 100 MVA มีปริมาณน้ํามันเทากับ 1,523 ลิตร และ หมอแปลงขนาด 200 MVA มีปริมาณน้ํามันเทากับ 1,789 ลิตร อยากทราบวาจะตองกําหนดใหบอ<br />

รองรับน้ํามันที่รั่วไหลเทากับเทาไหร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

5,967 ลิตร<br />

5,301 ลิตร<br />

1,989 ลิตร<br />

3,778 ลิตร<br />

ขอที่ : 654


ในลานหมอแปลงของสถานีไฟฟาแหงหนึ่งมีหมอแปลงติดตั้งอยู ขนาดคือ 1,500 MVA , โดยที่หมอแปลงขนาด 1500 MVA มีปริมาณน้ํามันเทากับ 1,989 ลิตร อยากทราบวาจะ<br />

ตองกําหนดใหบอมีขนาดเทากับเทากับเทาไหร เพื่อรองรับน้ํามันที่รั่วไหล<br />

คําตอบ 1 : กวาง 63.071 เมตร ยาว 63.071 เมตร สูง 0.5 เมตร<br />

คําตอบ 2 : กวาง 63.071 เมตร ยาว 63.071 เมตร สูง 0.5 เซนติเมตร<br />

คําตอบ 3 : กวาง 63.071 เซนติเมตร ยาว 63.071 เมตร สูง 0.5 เมตร<br />

คําตอบ 4 : กวาง 63.071 เซนติเมตร ยาว 63.071 เมตร สูง 0.5 เซนติเมตร<br />

ขอที่ : 655<br />

ระยะเวลาของ Duty cycle ของ Circuit breaker ในกรณี Two close – open ตามมาตรฐาน ANSI/IEEE C37.04 อยูที่เทาไหร<br />

คําตอบ 1 : 5 Second<br />

คําตอบ 2 : 10 Second<br />

คําตอบ 3 : 15 Second<br />

คําตอบ 4 : 20 Second<br />

ขอที่ : 656<br />

ในการนํากระแสของบัสบารทองแดง เทากับ 2500 A ถาเปลี่ยนบัสบารเปนอลูมิเนียม จะนํากระแสเทากับเทาไหร<br />

คําตอบ 1 : 2,500 A<br />

คําตอบ 2 : 1,923.077 A<br />

คําตอบ 3 : 1,250 A<br />

คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />

ขอที่ : 657<br />

ในการนํากระแสของบัสบารอลูมิเนียม เทากับ 5,000 A ถาเปลี่ยนบัสบารเปนทองแดง จะนํากระแสเทากับเทาไหร<br />

คําตอบ 1 : 2,500 A<br />

คําตอบ 2 : 4,166.67 A<br />

คําตอบ 3 : 5,000 A<br />

คําตอบ 4 : 6,500 A<br />

ขอที่ : 658<br />

ในการออกแบบบัสบารอลูมิเนียมของสถานีไฟฟา จะตองคํานึงถึงเรื่องใด<br />

คําตอบ 1 : แรงลม<br />

คําตอบ 2 : ขนาดของกระแส<br />

คําตอบ 3 : อุณหภูมิ<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

231 of 237


คําตอบ 4 :<br />

ถูกทุกขอ<br />

ขอที่ : 659<br />

ขอที่ : 660<br />

ขอที่ : 661<br />

ขอที่ : 662<br />

ในกรณีติดตั้ง Battery back up ระบบ ในสถานีไฟฟา ขนาด 750 Ah อยากทราบวาตามมาตรฐาน IEEE 450-1987 จะยอมใหขนาด Capacity drop ลงถึงเทาไหร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

675 Ah<br />

600 Ah<br />

525 Ah<br />

450 Ah<br />

ลักษณะเฉพาะของฉนวน Non-sele restoring คือขอใด<br />

คําตอบ 1 : ไมสามารถกลับคืนสภาพความเปนฉนวนได เมื่อเกิด flashover<br />

คําตอบ 2 : สามารถกลับคืนสูความเปนฉนวนไดอีกครั้ง เมื่อเกิด flashover<br />

คําตอบ 3 : สามารถกลับคืนสูสภาพความเปนฉนวนไดหลายครั้ง เมื่อเกิด flashover<br />

คําตอบ 4 : เมื่อเกิด flashover ไมสามารถทําลายฉนวนได<br />

การออกแบบเพื่อทนตอ Pollution ตองพิจารณาถึงความเหมาะสม Long creepier distance insulation ของอะไรบาง<br />

คําตอบ 1 : Insulator ที่ใชใกลชายทะเล<br />

คําตอบ 2 : Insulator ที่ใชบริเวณอุตสาหกรรมฝุนมาก<br />

คําตอบ 3 : มีมูลนกมาก<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

โหลดสูญเสีย (Load loss) ขณะที่หมอแปลงจาย Load เกิดจากสวนใดบาง<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

เกิดจากคาความตานทานของขดลวด<br />

เกิดจาก Eddy current ในขดลวด<br />

คําตอบ 3 : เกิดจาก Stray loss ในสวนประกอบที่เปนเหล็ก<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

232 of 237<br />

ขอที่ : 663<br />

ในการออกแบบระบบรากสายดินของสถานีไฟฟาจะตองทําการกําหนดคา Shock duration อยูที่เทาไหรตามมาตรฐาน IEEE80-2000


คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

0.01 ถึง 0.03 seconds<br />

0.5 ถึง 5 seconds<br />

0.03 ถึง 3 seconds<br />

ไมตองคํานึงถึง<br />

233 of 237<br />

ขอที่ : 664<br />

ขอที่ : 665<br />

ขอที่ : 666<br />

ขอที่ : 667<br />

จากมาตรฐาน ANSI C37.04 กําหนดคา IC ของ Circuit breaker แบบใชฉนวนเปน Vacuum circuit breaker เทากับ 27 kA ที่แรงดัน 35 kV โดยมีคา Voltage range factor<br />

k เทากับ 1.1 อยากทราบวาถาจะนํา Circuit breaker นี้มาใชที่ระดับแรงดัน 22 kV คา IC จะเปนเทาไหร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

27 kA<br />

42.955 kA<br />

29.7 kA<br />

21 kA<br />

จากมาตรฐาน ANSI C37.04 กําหนดคา IC ของ Circuit breaker แบบใชฉนวนเปน Vacuum circuit breaker เทากับ 27 kA ที่แรงดัน 35 kV โดยมีคา Voltage range factor<br />

k เทากับ 1.1 อยากทราบวา Maximum symmetrical interrupting current เทากับเทาไหร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

27 kA<br />

42.955 kA<br />

29.7 kA<br />

21 kA<br />

จากมาตรฐาน ANSI C37.04 กําหนดคา IC ของ Circuit breaker แบบใชฉนวนเปน SF6 เทากับ 27 kA ที่แรงดัน 35 kV โดยมีคา Voltage range factor k เทากับ 1.1 ให<br />

คํานวณหาวาแรงดันต่ําสุดที่จะสามารถนํา Circuit breaker ตัวนี้นําไปใชไดที่แรงดันเทาไหร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

37 kV<br />

29.27 kV<br />

31.82 kV<br />

ไมมีขอใดถูก<br />

จากมาตรฐาน ANSI C37.04 กําหนดคา IC ของ Circuit breaker แบบใชฉนวนเปน SF6 เทากับ 27 kA ที่แรงดัน 35 kV โดยมีคา Voltage range factor k เทากับ 1.1ให<br />

คํานวณหา Close <strong>and</strong> latch (C&L) ที่ระดับแรงดัน 24 kV เมื่อ C&L = 1.6 (k) (rate short circuit current)<br />

คําตอบ 1 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

47.52 kA


คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

29.27 kA<br />

43.2 kA<br />

75.6008 kA<br />

234 of 237<br />

ขอที่ : 668<br />

ในการออกแบบฉนวนไฟฟา (Insulator) ถาตองไปติดตั้งในบริเวณที่เปนแบบ Light pollution จะทําการออกแบบที่กี่มิลลิเมตรตอkV<br />

คําตอบ 1 : 16 mm / kV<br />

คําตอบ 2 : 20 mm / kV<br />

คําตอบ 3 : 25 mm / kV<br />

คําตอบ 4 : 31 mm / kV<br />

ขอที่ : 669<br />

ในการออกแบบฉนวนไฟฟา (Insulator) ถาตองไปติดตั้งในบริเวณที่เปนแบบ Medium pollution จะทําการออกแบบที่กี่มิลลิเมตรตอkV<br />

คําตอบ 1 : 16 mm / kV<br />

คําตอบ 2 : 20 mm / kV<br />

คําตอบ 3 : 25 mm / kV<br />

คําตอบ 4 : 31 mm / kV<br />

ขอที่ : 670<br />

ในการออกแบบฉนวนไฟฟา (Insulator) ถาตองไปติดตั้งในบริเวณที่เปนแบบ Heavy duty pollution จะทําการออกแบบที่กี่มิลลิเมตรตอkV<br />

คําตอบ 1 : 16 mm / kV<br />

คําตอบ 2 : 20 mm / kV<br />

คําตอบ 3 : 25 mm / kV<br />

คําตอบ 4 : 31 mm / kV<br />

ขอที่ : 671<br />

ในการออกแบบฉนวนไฟฟา (Insulator) ถาตองไปติดตั้งในบริเวณที่เปนแบบ Very heavy duty pollution จะทําการออกแบบที่กี่มิลลิเมตรตอkV<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

16 mm / kV<br />

20 mm / kV<br />

25 mm / kV<br />

31 mm / kV


ขอที่ : 672<br />

ขอที่ : 673<br />

ขอที่ : 674<br />

ขอที่ : 675<br />

ในการออกแบบฉนวนไฟฟา (Insulator) ถาตองไปติดตั้งในบริเวณที่เปนแบบ Light pollution ของสถานีไฟฟา ระดับแรงดัน 115 kV คาต่ําสุดของ Insulator จะตองยาวเทาไหร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

1,840 mm<br />

2,300 mm<br />

2,875 mm<br />

3,565 mm<br />

ในการออกแบบฉนวนไฟฟา (Insulator) ถาตองไปติดตั้งในบริเวณที่เปนแบบ Medium pollution ของสถานีไฟฟา ระดับแรงดัน 115 kV คาต่ําสุดของ Insulator จะตองยาวเทา<br />

ไหร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

1,840 mm<br />

2,300 mm<br />

2,875 mm<br />

3,565 mm<br />

ในการออกแบบฉนวนไฟฟา (Insulator) ถาตองไปติดตั้งในบริเวณที่เปนแบบ Heavy duty pollution ของสถานีไฟฟา ระดับแรงดัน 115 kV คาต่ําสุดของ Insulator จะตองยาวเทา<br />

ไหร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

1,840 mm<br />

2,300 mm<br />

2,875 mm<br />

3,565 mm<br />

ในการออกแบบฉนวนไฟฟา (Insulator) ถาตองไปติดตั้งในบริเวณที่เปนแบบ Very heavy duty pollution ของสถานีไฟฟา ระดับแรงดัน 115 kV คาต่ําสุดของ Insulator จะตอง<br />

ยาวเทาไหร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

1,840 mm<br />

2,300 mm<br />

2,875 mm<br />

3,565 mm<br />

235 of 237<br />

ขอที่ : 676<br />

สายชนิดใดที่ใชในการเปนตัวนําในสถานีไฟฟาขนาดเล็กๆ


คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สายชนิด AAC (All aluminum conductor)<br />

สายชนิด ACSR (Aluminum conductor steel conductor reinforced)<br />

สายชนิด THW<br />

สายชนิด NYY<br />

236 of 237<br />

ขอที่ : 677<br />

ขอที่ : 678<br />

ขอที่ : 679<br />

ขอที่ : 680<br />

สายชนิดใดที่ใชในการเปนสายตัวนํา ในกรณีตองรับแรงดึง และมีขนาดยาวๆ<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สายชนิด AAC (All aluminum conductor)<br />

สายชนิด ACSR (Aluminum conductor steel conductor reinforced)<br />

สายชนิด THW<br />

สายชนิด NYY<br />

ในการวัดคา Soil resistivity ของดินวัดคาไดเทากับ 25 ohm.m และทําการวัดโดยวิธี Winner method โดยทําการปก Electrode ลงในดินลึก 0.25 cm วัดคาความตานทานได<br />

เทากับ 10 ohm อยากทราบวาระยะหางระหวาง Electrode เทากับเทาไหร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

5 เมตร<br />

10 เมตร<br />

15 เมตร<br />

20 เมตร<br />

ในการวัดคา Soil resistivity ของดินวัดคาไดเทากับ 25 ohm.m และทําการวัดโดยวิธี Winner method โดยทําการปก Electrode ระยะหางเทากับ 2 เมตร และปกลึกลงในดินลึก<br />

0.25 cm อยากทราบวาจะวัดคาความตานทานไดเทากับเทาไหร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

1.989 ohm<br />

25 ohm<br />

157.08 ohm<br />

12.5 ohm<br />

ขอใดตอไปนี้ไมใชผลกระทบอันเนื่องมาจากฟาผา<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ผลกระทบดานความรอน<br />

ผลกระทบดานแรง<br />

ผลกระทบดานไฟฟา


สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 4 : ผลกระทบทางดานเสียง<br />

237 of 237

Hooray! Your file is uploaded and ready to be published.

Saved successfully!

Ooh no, something went wrong!