น้ำยาตรวจหมู่โลหิต โมโนโคลนัลแอนติบอดี้

240 ทัศนีย สกุลดํารงคพานิชการ ผลิต โพ ลีโคลนัลAHG ปญหา หลัก คือ การ ผลิตโพ ลี โคลนัล anti-complement เพราะ กระบวน การเตรียม ยาก ตอง มี การ ดูด ซับ แอนติบอดี ตอ complement ที่ไมตองการ (anti-C4) ออก ไป มีความ แตก ตางใน แตละ lot ที่ทํา การ ผลิต และ ที่ยาก ที่สุด คือ การ เจือ จางซีรัมใหมีความ แรง ของ anti-C3c และC3d พอเหมาะ ที่จะ ตรวจ พบ เม็ด เลือด แดง ที่ เกิด ปฏิกิริยา บวก ออน ๆ แตตอง ไมทําใหเกิด ผลบวก ปลอม กับ เม็ด เลือด แดง ปกติที่มีC3d ไป จับ( ใน ภาวะ ปกติเม็ด เลือด แดง ที่เก็บ ที่4 ํC C3dจะ ขึ้น ไป จับ บน ผิว เม็ด เลือด แดง ได และ ถา incubate กับซีรัมสด C3d ก็ จะ จับ เพิ่ม มาก ขึ้น) 36 การ ผลิต โมโนโคลนัล anti-C3c และ โมโน โคลนัล anti-C3d จะ มีประโยชน มาก ทําให สามารถ นํา มา ผสม ใน สัดสวน ที่เหมาะสม ที่จะ ไมทําใหเกิด ผลบวก ปลอม ได งาย แกการผลิต และ ควบคุม คุณภาพ นอก จาก นี้เมื่อ มีการ ผลิต โมโนโคลนัลแอนติบอดี ตอ complement มาก ขึ้น มี การศึกษา พบ วา เมื่อ แอนติบอดีตอ หมูเลือด กระตุน complement ใน ซีรัม ทําให C3b มา จับ บน ผิว เม็ด เลือด แดง(iC3b = intact C3b) เซลลนี้จะ ทํา ปฏิกิริยา ไดดีกับ โมโนโคลนัล anti-C3c และ anti-C3d นอก จาก นี้ ยัง ทําปฏิกิริยา กับ โมโน โคลนัล anti-C3g ไดดวย 37,38 แตจะ ทําปฏิกิริยา ได แรง ขึ้น กับ น้ํา ยา ผสม ของ โมโน โคลนัลทั้ง 3ชนิด ( anti-C3c + anti-C3d + anti-C3g ) ซึ่ง การ ศึกษานี้สอด คลอง กับ การ ศึกษา กอน หนา นี้ที่พบ วา iC3b บน ผิวเม็ด เลือด แดง ประกอบ ดวย C3c + C3g + C3d39 อีก ทั้งเมื่อ ศึกษา ผูปวยColdAgglutininDisease ยัง พบ วาเม็ด เลือด แดง คนไขเหลา นี้นอก จาก ทํา ปฏิกิริยา กับ anti-C3d แลว ยัง ทํา ปฏิกิริยา กับanti-C3g ดวย 38การ พัฒนาการ ผลิต โมโน โคลนัล anti-C3c anti-C3d และ anti-C3g ทําให สา มารถ เลือกโมโน โคลนัลแอนติบอดี เหลา นี้ มา ผสม กัน ใน สัดสวน ที่ เหมาะสม เปนanti-C3 ที่ สามารถ นํา ไป รวม กับ anti-IgG เปน น้ํา ยาAHG ที่ มี ประ สิทธ ภาพ เทียบ เทา หรือ ดี กวา โพ ลี โคลนัลAHG มาตรฐาน โดย ไมเกิด ปญหา ผลบวก ปลอม 8,33 เชนanti-IgG + anti-C3c จํานวน มาก + anti-C3d จํานวนนอย หรือ anti-IgG + anti-C3c + anti-C3g หรือanti-IgG + anti-C3d เปนตน และ เหมาะสม ที่ใชตรวจหา complement จับ อยูเม็ด เลือด แดง ใน งาน ทาง ธนาคารเลือดใน ป 1986 International Committee forStandardisation in Haematology (ICSH) และ TheInternational Society of Blood Transfusion (ISBT)ไดเชิญ ผูเชี่ยวชาญ ใน สาขา นี้ มา รวมกัน ทดสอบ คัด เลือกน้ํา ยา AHG เพื่อ ใช เปน น้ํา ยา มาตรฐาน (Referencereagent) เหมาะสม ที่จะ ใชตรวจ สอบ แอนติบอดีตอ เม็ดเลือด แดง ใน indirect antiglobulin test ใน ครั้ง นั้น ไดคัด เลือก น้ํา ยา AHG2 ชนิด เปน น้ํา ยา มาตรฐาน คือ R3Pเปน น้ํา ยา โพ ลีโคลนัลที่ประกอบ ดวยanti-IgG +anti-C3 เตรียม จาก ซีรัมกระตาย และ RIIIM เปน น้ํา ยา โพ ลีโคลนัล anti-IgG ( กระตาย) ผสม กับ โมโน โคลนัล anti-C3c และ anti-C3d โดย น้ํา ยา AHG ที่ จะ ขาย ใน ทองตลาด จะ ตอง มีประสิทธิภาพ เทียบ เทา น้ํา ยา นี้ การ ที่ตอง คัดเลือก น้ํา ยา 2 ชนิด เพราะ ขณะ นั้น ยัง ไม มี การ ผลิต น้ํา ยาAHG ที่ มี สวน ผสม ของ โมโน โคลนัล anti-C3 ออกจําหนาย จาก การ ทดสอบ ยัง พบ วา ความ แรง ของ anti-C3c ใน RIIIM คือ 64 ขณะ ที่ R3P เทากับ 32 และ ถึงแมวา anti-C3c ของ RIIIM จะ สูง กวา 64 ก็ไมทําใหเกิดผลบวก ปลอม 40 จาก การ ศึกษา ของ Voak และ คณะ พบวา โมโน โคลนัล anti-C3c ใน RIIIM อาจ สูง กวา นี้ไดโดยไมเกิด ผลบวก ปลอม แตโพ ลีโคลนัล anti-C3c ใน R3Pไม ควร เกิน 32 เพราะ จะ เกิด ผลบวก ปลอม 33 สําหรับความ แรง ของ anti-C3d ใน น้ํา ยา RIIIM และ R3Pใกลเคียง กันใน ป 1994 พบ วา น้ํา ยา มาตรฐาน RIIIM ความ แรงของ anti-C3 เริ่ม เสื่อม ลง ดังนั้น ISBT/ICSH โดย คณะผู เชี่ยวชาญ ได ตกลง ทํา การ คัด เลือก น้ํา ยา AHGมาตรฐานใหมเพื่อ ทดแทน และ หลัง จาก ป 1986 ไดมีการผลิต โมโน โคลนัลแอนติบอดี C3 มาก ขึ้น มาก และ หลายThai Journal of Hematology and Transfusion Medicine Vol. 12 No. 3 June-September 2002