ฉบับวิชาการ - สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ฉบับวิชาการ - สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฉบับวิชาการ - สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
๔ - ๑๗ก.ข.ค.แคแสด Spathodea campanulata P. Beauv. ก. ต้น, ข. ดอก, ค. ผล (ฝัก)ที่มา จังหวัดฉะเชิงเทรา
๔ - ๑๘๙. สนทะเลชื่อพฤกษศาสตร์ Casuarina equisetifolia J. R. & G.Forst.ชื่อวงศ์ CASUARINACEAEชื่อพื้นเมือง กู (นราธิวาส)ชื่อสามัญ Beefwood, Common ironwood, Queensland swampoak, Sea oakนิเวศวิทยาและการกระจายพันธุ์ สนทะเลเป็นไม้พื้นเมืองของไทยพบขึ้นอยู่ตามธรรมชาติบนหาดทราย ชายทะเลทั่วไปที่ความสูงจากระดับน้ําทะเลจนถึง ๑,๕๐๐ เมตร ต่างประเทศพบที่ชายฝั่งตอนเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศออสเตรเลียตามหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ตั้งแต่อินโดนีเซีย มาเลเซียอินเดีย ศรีลังกา ปากีสถาน จนถึงโพลีนีเซียลักษณะทั่วไปและลักษณะเด่น ไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่สูง ๑๐-๒๐ เมตร ไม่ผลัดใบ ลําต้นเปลาตรง เปลือกสีน้ําตาลปนเทา แตกเป็นสะเก็ดเล็ก ๆใบ ใบเดี่ยว เรียงเป็นวงกลม มีลักษณะเป็นเกล็ด (scale leaf)รูปสามเหลี่ยมขนาดเล็ก ข้อละ ๖-๘ ใบ สีเหลืองอมเขียวดอก ดอกแยกเพศอยู่ร่วมต้น ดอกเพศผู้สีขาว เกสรสีน้ําตาลรูปกระบองเรียว ออกตามปลายกิ่ง ยาว ๑-๓ เซนติเมตร ดอกบานเต็มที่กว้าง ๑ มิลลิเมตร ดอกเพศเมียสีแดงออกตามลําต้นใกล้ปลายกิ่ง รูปทรงกระบองหรือเกือบกลม ช่อดอกออกเป็นช่อแบบช่อกระจุกแน่นกว้าง ๔-๕ มิลลิเมตร ดอกย่อยไม่มีก้านก้านช่อดอกยาวประมาณ ๑ เซนติเมตรผล ผลแห้งแตก เป็นผลรวม ทรงกลม ขนาด ๑-๑.๕ เซนติเมตรสีเขียวอมเหลือง เมื่อแก่จะแตกตามรอยประสาน เมล็ดกลมรียาว ๖-๗ มิลลิเมตร มีปีกที่ปลายเมล็ดลักษณะเด่น ใบเดี่ยว เรียงเป็นวงกลม มีลักษณะเป็นเกล็ด(scale leaf) รูปสามเหลี่ยมขนาดเล็ก ข้อละ ๖-๘ ใบ ดอกแยกเพศอยู่ร่วมต้นความสําคัญของพันธุ์ไม้ -ช่วงการออกดอกและติดผล ออกดอกเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน ติดผลเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฎาคมการปลูกและการดูแล ใช้วิธีการขยายพันธุ์จากเมล็ด เนื่องจากเป็นวิธีการที่สะดวกและสามารถขยายพันธุ์ได้จํานวนมาก ๆแต่อย่างไรก็ตาม สนทะเลสามารถขยายพันธุ์โดยการปักชําหรือตอนกิ่งได้แต่ไม่เป็นที่นิยมกัน สามารถเจริญเติบโตได้ทั้งในดินเปรี้ยวและดินเลว ทนทานต่อสภาพที่มีหินปูนและดินเค็มเล็กน้อยได้เป็นอย่างดี เนื่องจากสนทะเลเป็นพันธุ์ไม้ที่มีรากเป็นปม (nodule)ซึ่งทําหน้าที่ containing nitrogen-fixing actomycete microorganismsแต่สนทะเลไม่สามารถเจริญเติบโตต่อไปได้ในดินที่แน่น หรือดินที่เป็นดินเหนียว ในพื้นที่ที ่มีน้ําขังเป็นครั้งคราวก็พอจะทนทานอยู่ได้สามารถขึ้นได้ดีในดินที่มีความชื้นมาก เช่น ดินบริเวณชายฝั่งทะเลถึงแม้ว่าสภาพอากาศจะมีช่วงแล้งในปีหนึ่ง ๖-๗ เดือน ก็สามารถทนได้ แต่ถ้าความชื้นในดินน้อยเมื่อพบกับสภาพอากาศแห้งแล้งติดต่อกันยาวนาน สนทะเลก็อาจตายได้ (พิทยา เพชรมาก และคณะ,๒๕๓๖) สามารถขึ้นได้ดีในท้องถิ่นที่มีอากาศอบอุ่น ไปจนถึงท้องถิ่นที ่มีอากาศร้อน ซึ่งมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ระหว่าง ๑๐-๓๕ องศาเซลเซียส และเป็นไม้ที่สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของอากาศในโซนร้อนได้ดี แต่ไม่ชอบอากาศที่หนาวจัดจนเป็นเกล็ดน้ําแข็ง (frost) สามารถเจริญงอกงาม ปริมาณน้ําฝนตั้งแต่๗๐๐–๒,๐๐๐ มิลลิเมตร/ปีประโยชน์ทั่วไป ใช้ในการก่อสร้าง ทําเชื้อเพลิง ทํากระดาษฟอกหนัง เลี้ยงสัตว์ ปลูกเป็นไม้ประดับ สรรพคุณทางสมุนไพรเปลือก แก้บิด แก้ท้องร่วง สมานแผล แก้โรคเหน็บชา ทําให้ประจําเดือนมาปกติ ใบ ขับปัสสาวะ แก้จุกเสียด แก้ปวดท้อง เมล็ดแก้ปวดศีรษะ (พงษ์ศักดิ์ พลเสนา, ๒๕๕๐ ข)ประโยชน์ด้านการลดมลพิษและข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องปลูกเป็นแนวกันลม สามารถต้านทานลมได้ดี (พิทยา เพชรมากและคณะ, ๒๕๓๖)
- Page 33 and 34: ๒ - ๑๐๒.๒.๒ พรร
- Page 35 and 36: ๒ - ๑๒ผลการจํ
- Page 37 and 38: ๒ - ๑๔๑๐) ยางแด
- Page 39 and 40: ๒ - ๑๖๑๑๒) เตยท
- Page 41 and 42: ๒ - ๑๘๓๑) มะค่า
- Page 43 and 44: ๒ - ๒๐๑๙) ทรงบา
- Page 45 and 46: ๒ - ๒๒๑.๔) ไมที
- Page 47 and 48: ๒ - ๒๔๒๒) ถั่วด
- Page 49 and 50: ๒ - ๒๖๔๐) มะเม่
- Page 51 and 52: ๒ - ๒๘๗) ยางกล่
- Page 53 and 54: ๒ - ๓๐๑๖) ยมหอม
- Page 55 and 56: ๒ - ๓๒๒.๓.๒ ไม้
- Page 57 and 58: ๒ - ๓๔พันธุ์ไ
- Page 59 and 60: ๓ - ๒พันธุไม ช
- Page 61 and 62: ๓ - ๔พันธุไม ช
- Page 63 and 64: ๓ - ๖พันธุไม ช
- Page 65 and 66: ๓ - ๘พันธุ์ไม
- Page 67 and 68: ๓ - ๑๐พันธุไม
- Page 69 and 70: ๔ - ๒๑. รางจืดช
- Page 71 and 72: ชื่อพฤกษศาส
- Page 73 and 74: ๔ - ๖๓. มะม่วงช
- Page 75 and 76: ๔ - ๘๔. การเวกช
- Page 77 and 78: ๔ - ๑๐๕. กระดัง
- Page 79 and 80: ๔ - ๑๒๖. อโศกอิ
- Page 81 and 82: ๔ - ๑๔๗. แคทะเล
- Page 83: ๔ - ๑๖๘. แคแสดช
- Page 87 and 88: ๔ - ๒๐๑๐. กระจู
- Page 89 and 90: ๔ - ๒๒๑๑. ยางนา
- Page 91 and 92: ๔ - ๒๔๑๒. เหียง
- Page 93 and 94: ๔ - ๒๖๑๓. ยางแด
- Page 95 and 96: ่๔ - ๒๘๑๔. ตะเค
- Page 97 and 98: ๔ - ๓๐๑๕. สบูดํ
- Page 99 and 100: ๔ - ๓๒๑๖. ขันทอ
- Page 101 and 102: ๔ - ๓๔๑๗. ก่อขี
- Page 103 and 104: ๔ - ๓๖๑๘. รักทะ
- Page 105 and 106: ๔ - ๓๘๑๙. ตังหน
- Page 107 and 108: ๔ - ๔๐๒๐. กระทิ
- Page 109 and 110: ๔ - ๔๒๒๑. ชะมวง
- Page 111 and 112: ์๔ - ๔๔๒๒. ซ้อช
- Page 113 and 114: ๔ - ๔๖๒๓. กระโด
- Page 115 and 116: ๔ - ๔๘๒๔. มะค่า
- Page 117 and 118: ๔ - ๕๐๒๕. ฝางชื
- Page 119 and 120: ๔ - ๕๒๒๖. ราชพฤ
- Page 121 and 122: ่้่๔ - ๕๔๒๗. หล
- Page 123 and 124: ๔ - ๕๖๒๘. นนทรี
- Page 125 and 126: ๔ - ๕๘๒๙. โสกน้
- Page 127 and 128: ๔ - ๖๐๓๐. พฤกษช
- Page 129 and 130: ๔ - ๖๒๓๑. จามจุ
- Page 131 and 132: ๔ - ๖๔๓๒. ประดู
- Page 133 and 134: ๔ - ๖๖๓๓. ตะแบก
๔ - ๑๘๙. สนทะเลชื่อพฤกษศาสตร์ Casuarina equisetifolia J. R. & G.Forst.ชื่อวงศ์ CASUARINACEAEชื่อพื้นเมือง กู (นราธิวาส)ชื่อสามัญ Beefwood, Common ironwood, Queensland swampoak, Sea oakนิเวศวิทยาและการกระจายพันธุ์ สนทะเลเป็นไม้พื้นเมืองของไทยพบขึ้นอยู่ตามธรรมชาติบนหาดทราย ชายทะเลทั่วไปที่ความสูงจากระดับน้ําทะเลจนถึง ๑,๕๐๐ เมตร ต่างประเทศพบที่ชายฝั่งตอนเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศออสเตรเลียตามหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ตั้งแต่อินโดนีเซีย มาเลเซียอินเดีย ศรีลังกา ปากีสถาน จนถึงโพลีนีเซียลักษณะทั่วไปและลักษณะเด่น ไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่สูง ๑๐-๒๐ เมตร ไม่ผลัดใบ ลําต้นเปลาตรง เปลือกสีน้ําตาลปนเทา แตกเป็นสะเก็ดเล็ก ๆใบ ใบเดี่ยว เรียงเป็นวงกลม มีลักษณะเป็นเกล็ด (scale leaf)รูปสามเหลี่ยมขนาดเล็ก ข้อละ ๖-๘ ใบ สีเหลืองอมเขียวดอก ดอกแยกเพศอยู่ร่วมต้น ดอกเพศผู้สีขาว เกสรสีน้ําตาลรูปกระบองเรียว ออกตามปลายกิ่ง ยาว ๑-๓ เซนติเมตร ดอกบานเต็มที่กว้าง ๑ มิลลิเมตร ดอกเพศเมียสีแดงออกตามลําต้นใกล้ปลายกิ่ง รูปทรงกระบองหรือเกือบกลม ช่อดอกออกเป็นช่อแบบช่อกระจุกแน่นกว้าง ๔-๕ มิลลิเมตร ดอกย่อยไม่มีก้านก้านช่อดอกยาวประมาณ ๑ เซนติเมตรผล ผลแห้งแตก เป็นผลรวม ทรงกลม ขนาด ๑-๑.๕ เซนติเมตรสีเขียวอมเหลือง เมื่อแก่จะแตกตามรอยประสาน เมล็ดกลมรียาว ๖-๗ มิลลิเมตร มีปีกที่ปลายเมล็ดลักษณะเด่น ใบเดี่ยว เรียงเป็นวงกลม มีลักษณะเป็นเกล็ด(scale leaf) รูปสามเหลี่ยมขนาดเล็ก ข้อละ ๖-๘ ใบ ดอกแยกเพศอยู่ร่วมต้นความสําคัญของพันธุ์ไม้ -ช่วงการออกดอกและติดผล ออกดอกเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน ติดผลเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฎาคมการปลูกและการดูแล ใช้วิธีการขยายพันธุ์จากเมล็ด เนื่องจากเป็นวิธีการที่สะดวกและสามารถขยายพันธุ์ได้จํานวนมาก ๆแต่อย่างไรก็ตาม สนทะเลสามารถขยายพันธุ์โดยการปักชําหรือตอนกิ่งได้แต่ไม่เป็นที่นิยมกัน สามารถเจริญเติบโตได้ทั้งในดินเปรี้ยวและดินเลว ทนทานต่อสภาพที่มีหินปูนและดินเค็มเล็กน้อยได้เป็นอย่างดี เนื่องจากสนทะเลเป็นพันธุ์ไม้ที่มีรากเป็นปม (nodule)ซึ่งทําหน้าที่ containing nitrogen-fixing actomycete microorganismsแต่สนทะเลไม่สามารถเจริญเติบโตต่อไปได้ในดินที่แน่น หรือดินที่เป็นดินเหนียว ในพื้นที่ที ่มีน้ําขังเป็นครั้งคราวก็พอจะทนทานอยู่ได้สามารถขึ้นได้ดีในดินที่มีความชื้นมาก เช่น ดินบริเวณชายฝั่งทะเลถึงแม้ว่าสภาพอากาศจะมีช่วงแล้งในปีหนึ่ง ๖-๗ เดือน ก็สามารถทนได้ แต่ถ้าความชื้นในดินน้อยเมื่อพบกับสภาพอากาศแห้งแล้งติดต่อกันยาวนาน สนทะเลก็อาจตายได้ (พิทยา เพชรมาก และคณะ,๒๕๓๖) สามารถขึ้นได้ดีในท้องถิ่นที่มีอากาศอบอุ่น ไปจนถึงท้องถิ่นที ่มีอากาศร้อน ซึ่งมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ระหว่าง ๑๐-๓๕ องศาเซลเซียส และเป็นไม้ที่สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของอากาศในโซนร้อนได้ดี แต่ไม่ชอบอากาศที่หนาวจัดจนเป็นเกล็ดน้ําแข็ง (frost) สามารถเจริญงอกงาม ปริมาณน้ําฝนตั้งแต่๗๐๐–๒,๐๐๐ มิลลิเมตร/ปีประโยชน์ทั่วไป ใช้ในการก่อสร้าง ทําเชื้อเพลิง ทํากระดาษฟอกหนัง เลี้ยงสัตว์ ปลูกเป็นไม้ประดับ สรรพคุณทางสมุนไพรเปลือก แก้บิด แก้ท้องร่วง สมานแผล แก้โรคเหน็บชา ทําให้ประจําเดือนมาปกติ ใบ ขับปัสสาวะ แก้จุกเสียด แก้ปวดท้อง เมล็ดแก้ปวดศีรษะ (พงษ์ศักดิ์ พลเสนา, ๒๕๕๐ ข)ประโยชน์ด้านการลดมลพิษและข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องปลูกเป็นแนวกันลม สามารถต้านทานลมได้ดี (พิทยา เพชรมากและคณะ, ๒๕๓๖)