à¸à¸à¸à¸µà¹ 1 à¹à¸¡à¸à¸£à¸´à¸ à¸
à¸à¸à¸à¸µà¹ 1 à¹à¸¡à¸à¸£à¸´à¸ ภà¸à¸à¸à¸µà¹ 1 à¹à¸¡à¸à¸£à¸´à¸ à¸
เอกสารประกอบการสอนวิชา SC142 จัดทำโดย ดร.อัจฉรา ปาจีนบูรวรรณ์ 24 จากทฤษฎีบท 2.7 เราสามารถกล่าวได้ว่า ถ้า A เป็นเมทริกซ์ไม่เอกฐาน แล้วเมทริกซ์ผกผัน ของ A มีเพียงเมทริกซ์เดียว ซึ่งจะเขียนแทนด้วย A −1 ดังนั้น AA −1 = I และ A −1 A = I ทฤษฎีบท 2.8 ให้ A เป็นเมทริกซ์มิติ n×n ใดๆ A จะมีเมทริกซ์ผกผัน ก็ต่อเมื่อ rank(A) = n นั่นคือก็ต่อเมื่อ det(A) ≠ 0 ดังนั้น A เป็นเมทริกซ์ไม่เอกฐาน ถ้า rank(A) = n และเป็น เมทริกซ์เอกฐานถ้า rank(A) < n ทฤษฎีบท 2.9 ถ้า A และ B เป็นเมทริกซ์ไม่เอกฐานและมีขนาดเท่ากัน แล้ว AB เป็น เมทริกซ์ไม่เอกฐาน และ (AB) −1 = B −1 A −1 ทฤษฎีบท 2.10 ถ้า A 1 ,A 2 ,...,A n เป็นเมทริกซ์ไม่เอกฐานและมีขนาดเท่ากัน แล้ว A 1 A 2···A n เป็นเมทริกซ์ไม่เอกฐาน และ (A 1 A 2···A n ) −1 = A −1 n A−1 n−1···A−1 2 A−1 1 ทฤษฎีบท 2.11 ถ้า A เป็นเมทริกซ์ที่หาตัวผกผันได้ แล้ว (a) A −1 เป็นเมทริกซ์ไม่เอกฐาน และ (A −1 ) −1 = A (b) สำหรับสเกลาร์ k ≠ 0 ใดๆ เมทริกซ์ kA เป็นเมทริกซ์ไม่เอกฐาน และ (kA) −1 = 1 k A−1 ทฤษฎีบท 2.12 ถ้า A เป็นเมทริกซ์ไม่เอกฐาน แล้ว A T เป็นเมทริกซ์ไม่เอกฐาน และ (A T ) −1 = (A −1 ) T ลำดับต่อไปเราจะศึกษาวิธีการหาเมทริกซ์ผกผันของเมทริกซ์ไม่เอกฐานขนาดใดๆ อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีบทต่อไปนี้จะกล่าวถึงเงื่อนไขที่ทำให้เมทริกซ์มิติ 2 × 2 มีเมทริกซ์ผกผัน พร้อมทั้งสูตร ง่ายๆของเมทริกซ์ผกผันของเมทริกซ์มิติ 2×2 ทฤษฎีบท 2.13 เมทริกซ์ [ ] a b A = c d เป็นเมทริกซ์ไม่เอกฐาน ถ้า ad−bc ≠ 0 และเมทริกซ์ผกผันของ A คือ ⎡ [ ] d A −1 1 d −b ⎢ − b ⎤ = = ⎣ ad−bc ad−bc⎥ ad−bc −c a − c a ⎦ ad−bc ad−bc ตัวอย่าง 2.12 จงหาเมทริกซ์ผกผันของ [ ] 1 2 A = (ex +e −x 1 ) 2 (ex −e −x ) 1 2 (ex −e −x 1 ) 2 (ex +e −x ) วิธีทำ .........
เอกสารประกอบการสอนวิชา SC142 จัดทำโดย ดร.อัจฉรา ปาจีนบูรวรรณ์ 25 การหาเมทริกซ์ผกผันโดยวิธีกำจัดเกาส์-จอร์แดน การหาเมทริกซ์ผกผัน A −1 ของเมทริกซ์ไม่เอกฐาน A มิติ n × n นั้นเราสามารถใช้วิธีการที่ เรียกว่า วิธีการกำจัดเกาส์-จอร์แดน (Gauss-Jordan elimination) ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ ขั้นตอน 1 สร้างเมทริกซ์แบ่งส่วน [A|I n ] ซึ่งมีขนาด n×2n ขั้นตอน 2 ใช้การดำเนินการตามแถวขั้นมูลฐานกับเมทริกซ์นี้ จนกระทั่งเมทริกซ์ย่อยทางซ้ายมือ ถูกลดรูปเป็นเมทริกซ์ I n และการดำเนินการตามแถวขั้นมูลฐานเหล่านี้จะแปลงเมทริกซ์ย่อย ทางขวามือเป็น A −1 ดังนั้นขั้นตอนสุดท้ายจะได้เมทริกซ์แบ่งส่วนในรูป [I |A −1 ] ตัวอย่าง 2.13 จงหาเมทริกซ์ผกผันของ ⎡ ⎤ 1 −2 1 ⎢ ⎥ A = ⎣2 −5 2 ⎦ 3 2 −1 วิธีทำ ......... บ่อยครั้งที่เราไม่ทราบว่าเมทริกซ์ที่กำหนดให้เป็นเมทริกซ์ไม่เอกฐานหรือไม่ ถ้าเมทริกซ์ A มิติ n × n เป็นเมทริกซ์เอกฐาน แล้วเมทริกซ์ขั้นบันไดตามแถวลดรูปของ A จะมีแถวอย่าง น้อยหนึ่งแถวที่มีสมาชิกทุกตัวเป็นศูนย์ดังนั้นถ้าใช้วิธีการเช่นเดียวกับตัวอย่าง 2.13 กับเมทริกซ์ที่ กำหนดให้ แล้วพบว่ามีแถวที่มีสมาชิกทุกตัวเป็นศูนย์เกิดขึ้นในการคำนวณกับเมทริกซ์ย่อยทางซ้ายมือ ในกรณีเช่นนี้เราสามารถหยุดการคำนวณ และสรุปได้ว่า เมทริกซ์ที่กำหนดให้เป็นเมทริกซ์เอกฐาน ตัวอย่าง 2.14 จงพิจารณาว่าเมทริกซ์ ⎡ ⎤ 1 3 4 ⎢ ⎥ A = ⎣−2 −5 −3⎦ 1 4 9 เป็นเมทริกซ์ไม่เอกฐานหรือไม่ วิธีทำ ......... การหาเมทริกซ์ผกผันโดยใช้เมทริกซ์ผูกพัน บทนิยาม 2.4 ถ้า A เป็นเมทริกซ์มิติ n×n ใดๆ และ C ij เป็นตัวประกอบร่วมเกี่ยวของ a ij แล้วเมทริกซ์ ⎡ ⎤ C 11 C 12 ··· C 1n C 21 C 22 ··· C 2n ⎢ ⎥ ⎣ . . . ⎦ C n1 C n2 ··· C nn เรียกว่า เมทริกซ์ของตัวประกอบร่วมเกี่ยว ของ A และเมทริกซ์สลับเปลี่ยนของเมทริกซ์นี้เรียก ว่า เมทริกซ์ผูกพัน (adjoint matrix) ของ A เขียนแทนด้วย adj(A)
- Page 1 and 2: บทที่ 1 เมทริ
- Page 3 and 4: เอกสารประกอ
- Page 5 and 6: เอกสารประกอ
- Page 7 and 8: เอกสารประกอ
- Page 9 and 10: เอกสารประกอ
- Page 11 and 12: เอกสารประกอ
- Page 13 and 14: เอกสารประกอ
- Page 15 and 16: เอกสารประกอ
- Page 17 and 18: เอกสารประกอ
- Page 19 and 20: เอกสารประกอ
- Page 21 and 22: เอกสารประกอ
- Page 23: เอกสารประกอ
- Page 27 and 28: เอกสารประกอ
- Page 29 and 30: เอกสารประกอ
- Page 31 and 32: เอกสารประกอ
- Page 33 and 34: เอกสารประกอ
- Page 35 and 36: เอกสารประกอ
- Page 37 and 38: เอกสารประกอ
- Page 39 and 40: เอกสารประกอ
- Page 41 and 42: • • • • • เอกสา
- Page 43 and 44: • • • • เอกสาร
- Page 45 and 46: • • เอกสารประ
- Page 47 and 48: • เอกสารประก
- Page 49 and 50: เอกสารประกอ
- Page 51 and 52: เอกสารประกอ
- Page 53 and 54: เอกสารประกอ
- Page 55 and 56: เอกสารประกอ
- Page 57 and 58: เอกสารประกอ
- Page 59 and 60: เอกสารประกอ
- Page 61 and 62: เอกสารประกอ
- Page 63 and 64: เอกสารประกอ
- Page 65 and 66: บทที่ 5 อนุพั
- Page 67 and 68: เอกสารประกอ
- Page 69 and 70: เอกสารประกอ
- Page 71 and 72: เอกสารประกอ
- Page 73 and 74: เอกสารประกอ
เอกสารประกอบการสอนวิชา SC142 จัดทำโดย ดร.อัจฉรา ปาจีนบูรวรรณ์ 24<br />
จากทฤษฎีบท 2.7 เราสามารถกล่าวได้ว่า ถ้า A เป็นเมทริกซ์ไม่เอกฐาน แล้วเมทริกซ์ผกผัน<br />
ของ A มีเพียงเมทริกซ์เดียว ซึ่งจะเขียนแทนด้วย A −1 ดังนั้น<br />
AA −1 = I และ A −1 A = I<br />
ทฤษฎีบท 2.8 ให้ A เป็นเมทริกซ์มิติ n×n ใดๆ A จะมีเมทริกซ์ผกผัน ก็ต่อเมื่อ rank(A) =<br />
n นั่นคือก็ต่อเมื่อ det(A) ≠ 0 ดังนั้น A เป็นเมทริกซ์ไม่เอกฐาน ถ้า rank(A) = n และเป็น<br />
เมทริกซ์เอกฐานถ้า rank(A) < n<br />
ทฤษฎีบท 2.9 ถ้า A และ B เป็นเมทริกซ์ไม่เอกฐานและมีขนาดเท่ากัน แล้ว AB เป็น<br />
เมทริกซ์ไม่เอกฐาน และ<br />
(AB) −1 = B −1 A −1<br />
ทฤษฎีบท 2.10 ถ้า A 1 ,A 2 ,...,A n เป็นเมทริกซ์ไม่เอกฐานและมีขนาดเท่ากัน แล้ว A 1 A 2···A n<br />
เป็นเมทริกซ์ไม่เอกฐาน และ<br />
(A 1 A 2···A n ) −1 = A −1<br />
n A−1 n−1···A−1 2 A−1 1<br />
ทฤษฎีบท 2.11 ถ้า A เป็นเมทริกซ์ที่หาตัวผกผันได้ แล้ว<br />
(a) A −1 เป็นเมทริกซ์ไม่เอกฐาน และ (A −1 ) −1 = A<br />
(b) สำหรับสเกลาร์ k ≠ 0 ใดๆ เมทริกซ์ kA เป็นเมทริกซ์ไม่เอกฐาน และ (kA) −1 = 1 k A−1<br />
ทฤษฎีบท 2.12 ถ้า A เป็นเมทริกซ์ไม่เอกฐาน แล้ว A T เป็นเมทริกซ์ไม่เอกฐาน และ<br />
(A T ) −1 = (A −1 ) T<br />
ลำดับต่อไปเราจะศึกษาวิธีการหาเมทริกซ์ผกผันของเมทริกซ์ไม่เอกฐานขนาดใดๆ อย่างไรก็ตาม<br />
ทฤษฎีบทต่อไปนี้จะกล่าวถึงเงื่อนไขที่ทำให้เมทริกซ์มิติ 2 × 2 มีเมทริกซ์ผกผัน พร้อมทั้งสูตร<br />
ง่ายๆของเมทริกซ์ผกผันของเมทริกซ์มิติ 2×2<br />
ทฤษฎีบท 2.13 เมทริกซ์<br />
[ ]<br />
a b<br />
A =<br />
c d<br />
เป็นเมทริกซ์ไม่เอกฐาน ถ้า ad−bc ≠ 0 และเมทริกซ์ผกผันของ A คือ<br />
⎡<br />
[ ] d<br />
A −1 1 d −b ⎢<br />
− b ⎤<br />
= = ⎣<br />
ad−bc ad−bc⎥<br />
ad−bc −c a − c a ⎦<br />
ad−bc ad−bc<br />
ตัวอย่าง 2.12 จงหาเมทริกซ์ผกผันของ<br />
[ ]<br />
1<br />
2<br />
A =<br />
(ex +e −x 1<br />
)<br />
2 (ex −e −x )<br />
1<br />
2 (ex −e −x 1<br />
)<br />
2 (ex +e −x )<br />
วิธีทำ .........