คำแนะนำวัณโรค (ภาษาไทย)
คำแนะนำวัณโรค (ภาษาไทย)
คำแนะนำวัณโรค (ภาษาไทย)
You also want an ePaper? Increase the reach of your titles
YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.
้<br />
้<br />
อาการของวัณโรค<br />
- มีอาการอ่อนเพลีย<br />
- บางครั ้งอาจจะมีอาการเบื่ออาหารและมีน ้ าหนัก<br />
ลด<br />
- อาจมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว หรื อเป็ นไข้<br />
ต ่า ๆ ตอนบ่าย<br />
- มีเหงื่อออกตอนกลางคืน<br />
- มีอาการไอโดยระยะแรก ไอแห้ง ๆ ต่อมาจึงมี<br />
เสมหะ และไอมากเวลาเข้านอน หรือตื่นนอน<br />
ตอนเช้า หรือหลังอาหาร ทั ้งนี ้ อาการไอจะเรื้อรัง<br />
เป็ นแรมเดือนแต่บางคนอาจไม ่มีอาการใดเลยก็<br />
ได้<br />
- ผู้ป่ วยอาจรู้สึกแน่นหรือเจ็บหน้าอกโดยที่ไม ่มี<br />
อาการไอ<br />
- ในรายที่เป็ นมากอาจจะมีอาการหอบหรือไอเป็ น<br />
เลือดก้อนแดง ๆ หรือด า ๆ แต่น้อยรายที่จะมี<br />
เลือดออกมากถึงกับช็อก<br />
- ในรายที่เป็ นน้อย ๆ อาจไม ่มีอาการอะไรเลย และ<br />
มักตรวจพบโดยบังเอิญจากการเห็นจุดในปอดบน<br />
ภาพถ่ายเอกซเรย์<br />
- ผู้ป่ วยบางรายอาจมีอาการเป็ นไข้นานเป็ นแรม<br />
เดือนโดยไม ่รู้สาเหตุ<br />
- การรักษา<br />
ผู้ป่ วยวัณโรคที่ไม ่ได้รักษาจะมีอัตราการ<br />
ตาย ร้อยละ 40-60 ปั จจุบันมีวิธี การรักษาวัณโรค<br />
ระยะสั ้น โดยการให้ยารักษาควบคู่กันไปหลาย<br />
ขนาน หากรักษาครบก าหนดจะมีอัตราหายร้อย<br />
ละ 90 การรักษาจะใช้ยาร่วมกันหลายชนิดใช้<br />
ระยะ เวลาเพียง 6 – 18 เดือนเท่านั ้น แต่ผู้ป่ วยต้อง<br />
ปฏิบัติตัวอย ่างเคร่งครัด ดังนี<br />
1. กินยาตามชนิดและขนาดที่แพทย์สั่งอย ่าง<br />
สม ่าเสมอจนครบก าหนด (ไม ่ลดหรือเพิ่ม<br />
ขนาดของยาเอง)<br />
2. มาพบแพทย์ตามนัดทุกครั ้ง<br />
3. อย ่าหยุดกินยาเองเป็ นอันขาด เพราะอาจท าให้<br />
เชื้อวัณโรคดื้อยาได้<br />
* วัณโรครักษาด้วยยาได้ แต่การให้ก าลังใจ<br />
ไม ่ทอดทิ้ง ส าคัญยิ่งกว ่าสิ่งใด *<br />
ใส่ใจตนเองสักนิ ด ไอเกิน 3 อาทิตย์<br />
มีสิทธิ ์ เป็ นวัณโรคปอด<br />
ยาที่ใช้รักษา<br />
ผู้ที่ป่ วยด้วยวัณโรคปอดจะได้รับยาต้านวัณโรค<br />
ซึ ่งมักจะประกอบด้วยตัวยาดังนี<br />
ไรแฟมพิซิน, ไอโซไนอะซิด<br />
อีแธมบูธอล, ไพราซินาไมด์<br />
นอกจากนั ้นอาจได้รับไพริด๊อกซิน หรือวิตามิน บี 6<br />
หรือวิตามิน บี 1 – 6 –12 ร่วมกับยาดังกล่าว เพราะผู้ที่ป่ วย<br />
ด้วยเชื้อวัณโรคจะขาดวิตามินดังกล่าว ซึ ่งต้องใช้ร่วมกัน<br />
กับยารักษาวัณโรค ตามที่ได้รับค าแนะน า<br />
อาการข้างเคียงและวิธีรับประทานที่ถูกต้อง<br />
ไรแฟมพิซิน ( Rifampicin ) ปัสสาวะ น ้ าตา เหงื่อ<br />
และ อุจจาระอาจเป็ นสีส้ม – แดง โดยไม ่มีอันตรายใด<br />
ๆ รับประทานก ่อนอาหาร 30 นาที หรือก ่อนนอน<br />
ยกเว้นเมื่อมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ให้รับประทาน<br />
ร่วมกับอาหาร<br />
ไอโซไนอะซิด ( Isoniazid , INH ) ผื่นไข้ หรืออาการ<br />
แพ้อื่น ๆ อาจท าให้ระดับวิตามิน บี 6 ลดลง ถ้าเกิดขึ ้น<br />
จะท าให้รู้สึ ก ชา ปวดแสบปวดร้อน รู้สึ กเหมือนผิว<br />
ไหม้ที่บริเวณมือเท้า ( ควรแจ้งให้แพทย์ผู้รักษาทราบ<br />
) รับประทานก ่อนอาหาร 30 นาที หรือ ก ่อนนอน<br />
ยกเว้นเมื่อรู้สึ กไม ่สบายในท้องคลื่นไส้ อาเจียน ให้<br />
รับประทานร่วมกับอาหาร
อีแธมบูธอล ( Ethambutol ) หากรับประทานขนาด<br />
สูงเป็ นเวลานานจะเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน มึน<br />
มองเห็นภาพซ้อน ผื่น ปวดตา ( ควรแจ้งให้<br />
แพทย์ผู้รักษาทราบ ) รับประทานร่วมกับอาหารหรือ<br />
ก ่อนนอน<br />
ไพราซินาไมด์ ( Pyrazinamide ) เป็ นไข้ เบื่ออาหาร<br />
คลื่นไส้ อาเจียน รับประทานร่วมกับอาหารหรื อก ่อน<br />
นอน<br />
สเตร็บโตมัยซิน ( Streptomycin ) เกิดผื่น วิธีใช้ ฉีด<br />
เข้ากล้าม<br />
การปฏิบัติตนเมื่อป่ วยเป็ นวัณโรค<br />
1. ไปพบแพทย์ตามนัด และเก็บเสมหะส่งตรวจทุก<br />
ครั ้งตามแพทย์สั่ง<br />
2. กินอาหารที่มีประโยชน์ เช ่น เนื้อสัตว์ ไข่ ผัก<br />
ผลไม้ เพื่อบ ารุงร่างกายให้แข็งแรง<br />
3. ปิ ดปาก จมูก เวลาไอหรือจามทุกครั ้ง เพื่อป้ องกัน<br />
การแพร่เชื้อไปสู ่ผู้อื่น<br />
4. จัดบ้านให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก<br />
5. ให้บุคคลในบ้านไปรับการตรวจ ถ้าพบวาป่ ่ วย<br />
เป็ นวัณโรคแพทย์จะได้ให้การรักษาทันที<br />
6. กินยาให้ครบถ้วนทุกชนิดตามที่แพทย์สั่ง และกิน<br />
ติดต่อกันสม ่าเสมอทุกวันจนครบตามก าหนด<br />
การป้ องกัน<br />
1. ถ้ามีอาการผิดปกติที่น่าสงสัยวาเป็ ่ นวัณโรคเช ่น<br />
ไอเรื้อรัง 2 สัปดาห์ขึ ้นไป มีไข้ต ่าๆโดยเฉพาะ<br />
ตอนบ่ายๆหรื อค ่าๆ เจ็บหน้าอก เหนื่อยหอบ เบื่อ<br />
อาหาร น ้ าหนักลด ควรรีบไปรับการตรวจรักษา<br />
โดยการเอกซเรย์ปอด ตรวจเสมหะ<br />
2. รักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู เสมอ ่ ออกก าลังกาย<br />
สม ่าเสมอ กินอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู ่<br />
3. หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ท าให้เกิดโรค เช ่น การส า<br />
ส่อนทางเพศ เพื่อป้ องกันการติดเชื้อเอดส์ เพราะ<br />
จะท าให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายเสื่อมลง มีโอกาสที่<br />
จะป่ วยเป็ นวัณโรค จะได้รีบรักษาก ่อนที่จะ<br />
ลุกลามมากขึ ้น<br />
4. ประชาชนทั่วไป ควรตรวจร่างกายโดยการเอกซ์<br />
เรย์ปอดหรือตรวจเสมหะ (AFB) อย ่างน้อยปี ละ 1<br />
ครั ้ง ถ้าพบวาเป็ ่ นวัณโรคจะได้รี บรักษาก ่อนที่จะ<br />
ลุกลามมากขึ ้น<br />
5. ในเด็กควรได้รับการฉี ดวัคซีนบีซีจี (Bacilus<br />
Calmette Guerin) รวมถึงผู้ที่ท าการทดสอบทู<br />
เบอร์คูลินเทสท์ (Tuberculin test) ให้ผลเป็ นลบ<br />
เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน<br />
การติดต่อ<br />
โรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียล 328/1 ม.9 ถ.พัทยากลาง ต.หนองปรือ อ.บางล ะมุง จ.ชล บุรี 20150<br />
โทร. 038-488777 แฟกซ์. 038-422740, 427742 Email : Pmhospital@hotmail.com , pmhos@hotmail,com, pmhos@cscoms.com<br />
วัณโรค<br />
วัณโรค ซึ ่งเป็ นแบคทีเรี ยชื่อ Mycobacterium<br />
Tuberculosis บางครั ้งเรียกว ่า เชื้อ AFB เป็ นโรคติดต่อที่<br />
เรื้อรัง และเป็ นได้กับอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย เช ่น ที่<br />
ต่อมน ้ าเหลือง กระดูก เยื่อหุ้มสมอง ปอด แต่วัณโรคที่เป็ น<br />
กันมากและเป็ นปั ญหาทางสาธารณสุขอยู ่ในขณะนี ้ ก็คือ<br />
วัณโรคปอด มักพบในคนแก ่คนที่ร่างกายอ่อนแอจากการ<br />
เป็ นโรคอื่น ๆ มาก ่อน เช ่น หวัด หัด ไอกรน พวกติดยา<br />
และโรคเอดส์และในคนที่ตรากตร าท างานหนัก พักผ ่อน<br />
ไม ่พอ ขาดอาหาร ดื่มเหล้าจัด หรือในคนที่มีประวัติ<br />
ใกล้ชิดกับคนที่เป็ นโรค เช ่น นอนห้องเดียวกัน หรืออยู ่<br />
บ้านเดียวกัน<br />
ผู้ป่ วยวัณโรค จะมีเชื้อโรคอยู ่ในปอด เมื่อผู้ป่ วย<br />
ไอจาม เชื้อจะออกมากับละออง เสมหะหรือน ้ าลายนั ้น<br />
เสมหะที่ตกสู ่พื้นดินถ้าถูกแสงแดดส่องนาน ๆ เข้า เชื้อ<br />
จะตายไปเอง ส่วนละอองเล็ก ๆ จะลอยอยู ่ในอากาศได้<br />
เป็ นเวลานาน ๆ หากผู้ใกล้ชิดสู ดหายใจเข้าไป เชื้อวัณโรค<br />
จะเข้าสู ่ร่างกาย ท าให้มีโอกาสป่ วยเป็ นวัณโรคได้ แต่ผู้ที่<br />
ได้รับเชื้อแล้ว บางคนก็ยังไม ่ป่ วยเป็ นวัณโรค แต่จะเป็ น<br />
พาหะน าโรคแพร่เชื้อโรคไปสู ่ผู้อื่นได้