11.04.2014 Views

Chapter 3 : XRD Theory - ภาควิชาฟิสิกส์

Chapter 3 : XRD Theory - ภาควิชาฟิสิกส์

Chapter 3 : XRD Theory - ภาควิชาฟิสิกส์

SHOW MORE
SHOW LESS

You also want an ePaper? Increase the reach of your titles

YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.

315 351 ฟิสิกส์สถานะของแข็ง<br />

ดร. ธนูสิทธิ์ บุรินทร์ประโคน ทฤษฎีการเลี้ยวเบนรังสีเอ็กซ์<br />

จากกฎของแบรกก์ สมการการเลี้ยวเบนล าดับที่ 1 จากระนาบ (hkl)<br />

คือ<br />

2d<br />

hkl<br />

sin <br />

2<br />

<br />

2<br />

4a<br />

sin ( h<br />

2a<br />

2<br />

2 2 2<br />

จะได้ sin ( h k l )<br />

2 2 2 1/ 2<br />

หรือ k l )<br />

ซึ่งเป็นสมการที่ใช้ท านายมุมการเลี้ยวเบนส าหรับระนาบ (hkl)<br />

เมื่อรู้ค่าคงที่แลตทิซ a เช่น ส าหรับ<br />

การเลี้ยวเบนจากระนาบ ( 110)<br />

หาได้จาก<br />

sin<br />

3.8 ความสอดคล้องของสมการเลาอีกับกฏของแบรกก์<br />

<br />

เป็นต้น<br />

ความสอดคล้องกันระหว่างสมการเลาอีและกฎของแบรกก์ สามารถยกตัวอย่างให้เห็นโดยใช้<br />

ผลึกลูกบาศก์ จากสมการเลาอี (สมการ 3-4 ) ให้ a b c ยกก าลังสองแล้วบวกกันจะหาได้ว่า<br />

2a<br />

2<br />

<br />

(1 cos<br />

cos0<br />

cos cos 0<br />

cos<br />

cos<br />

0 ) <br />

2<br />

a<br />

ถ้า เป็นมุมระหว่างรังสีเอ็กซ์ตกกระทบกับรังสีเอ็กซเลี้ยวเบน สามารถเขียนสมการ 3-12 ได้ในรูป<br />

จากกฎของแบรกก์และความสัมพันธ์ระหว่าง d-spacing กับค่าคงที่แลตทิซ a และดัชนีมิลเลอร์ของ<br />

ระนาบ (hkl)<br />

สามารถแสดงได้ว่า<br />

<br />

2<br />

2a<br />

เนื่องจาก ถ้าเปรียบเทียบสมการ 3-13 และ 3-14 โดยก าหนดให้ p nh, q nk,<br />

r nl จะ<br />

เห็นว่า การเลี้ยวเบนล าดับที่ n ของระนาบ (hkl)<br />

ตามกฏของแบรกก์ จะเป็นการเลี้ยวเบนตามสมการ<br />

ของเลาอีที่ก าหนดโดย p , q,<br />

r นั่นเอง<br />

3.9 การเลี้ยวเบนกับแลตทิซส่วนกลับ<br />

2<br />

(1 cos)<br />

4sin<br />

2<br />

ความส าคัญประการหนึ่งของแลตทิซส่วนกลับคือ การน าไปใช้ส าหรับวิเคราะห์การ<br />

เลี้ยวเบน ซึ่งจะช่วยให้การวิเคราะห์การเลี้ยวเบนสะดวกมากขึ้น<br />

พิจารณาอะตอม O อยู่ที่จุดก าเนิดของ crystal lattice และอะตอมอื่นๆ A ซึ่งอยู่ที่ต าแหน่ง<br />

pqr ใดๆ เทียบกับจุดก าเนิด โดย p, q, r เป็นจ านวนเต็ม ดังรูปที่ 3-8 เราจะวิเคราะห์ว่ารังสีเอ็กซ์ที่<br />

กระเจิงจากอะตอม O ได้รับผลกระทบอย่างไรบ้างจากรังสีเอ็กซ์ที่กระเจิงจากอะตอม A<br />

2a<br />

<br />

( )<br />

2<br />

2<br />

<br />

<br />

2<br />

a<br />

( p<br />

2 2<br />

2sin<br />

[( nh)<br />

( nk)<br />

( nl)<br />

a<br />

2<br />

2 1/ 2<br />

]<br />

q<br />

2<br />

2<br />

( p<br />

r<br />

2<br />

2<br />

q<br />

)<br />

2<br />

r<br />

2<br />

)<br />

3-12<br />

3-13<br />

3-14<br />

12

Hooray! Your file is uploaded and ready to be published.

Saved successfully!

Ooh no, something went wrong!