06.09.2015 Views

ไอกูสแตง ลุย โคซี Augustin Louis Cauchy

ไอกูสแตงลุยโคซี AugustinLouisCauchy

ไอกูสแตงลุยโคซี AugustinLouisCauchy

SHOW MORE
SHOW LESS
  • No tags were found...

You also want an ePaper? Increase the reach of your titles

YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.

<strong>ไอกูสแตง</strong><br />

<strong>ลุย</strong> <strong>โคซี</strong><br />

<strong>Augustin</strong> <strong>Louis</strong> <strong>Cauchy</strong><br />

ปี ค.ศ. ค 1789 - 1857<br />

เรียบเรียงโดย วราภรณ์ สุขสุชะโน<br />

<strong>ไอกูสแตง</strong> <strong>ลุย</strong> <strong>โคซี</strong> เป็น นักคณิตศาสตร์ ชาวฝรั่งเศส เป็นผู้ริเริ่มวางรากฐานคณิตศาสตร์ วิเคราะห์<br />

(mathematical analysis) บทนิยามของลิมิต(limit) ความต่อเนื่อง(continuum) อนุพันธ์(derived)และอินทิกรัล<br />

จ ากัด(finite integral) ผลงานที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย การลู่เข้าและ การลู่ออกของอนุกรม (convergence and<br />

divergence of series) การวิเคราะห์เชิงซ้อน (complex analysis) กรุปจ ากัด (finite group) วิธีเรียงสับเปลี่ยน<br />

(permutation) และ ทรานสโพสิชัน (transposition) ดีเทอร์มินันต์ (determinant) ฟิสิกส์เชิงคณิตศาสตร์<br />

(mathematical physics) เขาได้เขียนบทความวิจัยประมาณแปดร้อยเรื่องและเขียนต าราที่สมบูรณ์ถึงห้าเล่ม<br />

<strong>โคซี</strong>เกิดเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ค.ศ.1789 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส บิดาชื่อ <strong>Louis</strong> François <strong>Cauchy</strong><br />

มารดาชื่อ Marie-Madeleine Desestre เขามีพี่ชายสองคน คือ Alexandre Laurent <strong>Cauchy</strong> มีอาชีพทางด้าน<br />

ตุลาการ และ Eugene Francois <strong>Cauchy</strong> เป็นนักหนังสือพิมพ์ซึ่งเขียนผลงานทางคณิตศาสตร์ด้วย <strong>โคซี</strong>เป็นผู้<br />

ที่มีความศรัทธาโรมันคาทอลิกที่เข้มงวดและสนับสนุนราชวงศ์บรูบองส์ (Bourbon) เมื่อเขาอายุสี่ขวบได้<br />

แผนที่ตั้งกรุงปารีส Eiffel Tower ที่กรุงปารีส


2<br />

เกิดเหตุการณ์ปฏิวัติทางการเมือง บิดาของเขาจึงได้อพยพครอบครัวไปอยู่ที่ Arcueil ซึ่งเป็นชุมชนที่อยู่ใน<br />

Val - de - Marne เขตชานเมืองทางตอนใต้<br />

ของกรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส อยู่ห่างจาก ใจ<br />

กลางกรุงปารีสประมาณ 5.3 กม. (3.3 ไมล์)<br />

โคชีได้รับการศึกษาจากบิดา ปีค .ศ.1794 บิดา<br />

ของเขาได้พาครอบครัวกลับมาอาศัยอยู่ที่ กรุง<br />

ปารีส และได้เริ่มประกอบอาชีพ อีกครั้งหนึ่ง<br />

ปีค.ศ. 1799 ในสมัยที่ นโปเลียน มหาราช<br />

(Napoleon Bonaparte)มีอ านาจ บิดาของโ คชี<br />

ได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขาธิการวุฒิสภา<br />

ปราสาทในชุมชน Arcueil<br />

นโปเลียนมหาราช<br />

(Secretary-General of the Senate) ท างานโดยตรงภายใต้ ปิแยร์ ซีมง เดอ<br />

ลาปลาช (Pierre Simon de Laplace) 1 ซึ่งต่อมาได้กลายเป็น นักฟิสิกส์เชิง<br />

คณิตศาสตร์ (mathematical physics) ที่มีชื่อเสียงของโลก โชแซฟ <strong>ลุย</strong><br />

ลากรองช์ (Joseph <strong>Louis</strong> Lagrange) 2 ซึ่งเป็นนักคณิตศาสตร์ที่มีชื่อเสียง<br />

ของโลกอีกคนหนึ่งที่รู้จักกับบิดาของโคชี ลากรองจ์ได้แนะน าบิดาของโค<br />

ชีให้พาโคชีเข้าเรียนใน École Centrale du Panthéon ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยม<br />

ที่ดีที่สุดของกรุงปารีส ในขณะนั้น การจัดการเรี ยนการสอน ของหลักสูตร<br />

เป็นภาษาสากล โคชีจึงได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนแห่งนี้ในฤดูใบไม้ร่วง ปี<br />

ค.ศ. 1802 เขาได้รับรางวัลจ านวนมากด้านภาษาละตินและ มนุษยศาสตร์<br />

(Latin and Humanities) หลังจากจบการศึกษา บิดาของเขาได้วางแผนให้<br />

เขาประกอบอาชีพวิศวกรและสอบเข้าศึกษาต่อที่ École Polytechnique 3<br />

ปิแยร์ ซิมง เดอ ลาปลาช<br />

โชแซฟ <strong>ลุย</strong> ลากรองช์


3<br />

ที่ตั้งสถาบัน Ecole Polytechnique ในฝรั่งเศส ตราสัญลักษณ์ของสถาบัน Ecole Polytechnique<br />

สาขาวิศวกรรมศาสตร์ ในปี ค.ศ. 1805 และจบการศึกษา สองปีต่อมาเมื่อ<br />

อายุ 18 ปี หลังจากนั้นโคชีได้เข้าศึกษา สาขาวิศวกรรมโยธาที่ Ecole des<br />

Ponts ที่ Chaussees ซึ่งตั้งอยู่เขตชุมชน ชานเมืองด้านตะวันออกของกรุง<br />

ปารีสและจบการศึกษาปีค .ศ. 1810 เขาได้ประกอบอาชีพวิศวกรที่<br />

Cherbourg ระยะเวลา 3 ปี ถึงแม้ว่างานด้านวิศวกรรม ยุ่งมาก เพียงใดก็<br />

ตาม แต่เขาก็ยังอุทิ ศเวลาให้กับการเขียนผลงาน ทางคณิตศาสตร์เรื่อง the<br />

angles of a convex polyhedron, polygons and polyhedra และ<br />

symmetric functions เขาได้เสนอผลงานนี้ปี ค .ศ. 1812 ซึ่งได้ถูกตีพิมพ์เผยแพร่ใน the Journal of the École<br />

Polytechnique ปี ค.ศ. 1815 ได้มีการเปลี่ยนแป ลงเกิดขึ้นกับโคชีเมื่อ ลากรองจ์ และ ลาปลาซได้เกลี้ยกล่อม<br />

ให้โคชีทิ้งงานด้านวิศวกรรมโยธาหันมาค้นคว้าเกี่ยวกับ วิทยาศาสตร์และสอนที่ Ecole Polytechnique ปีค.ศ.<br />

1816 โคชีได้รับรางวัล the Grand Prix ของ the French Academy of Sciences 4 เรื่องคลื่นบนพื้นผิว<br />

ของเหลวที่มีความลึกไม่จ ากัด<br />

โคชีได้แต่งงานกับ Aloïse de Bure เมื่อวันที่ 4 เมษายน ปีค.ศ. 1818 ที่โบสก์ Saint-Sulpice ใน<br />

กรุงปารีสมีบุตร 2 คน Marie Françoise Alicia เกิดเมื่อปีค.ศ. 1819 และ Marie Mathilde เกิดเมื่อปีค.ศ. 1823<br />

ปีค.ศ.1817 โคชีได้รับเชิญเป็นวิทยากรบรรยายเรื่อง วิธีการอินทิกรัล (methods of integration) ที่ the<br />

Collège de France เป็นเรื่องที่เขาค้นพบและน ามาเผยแพร่ครั้งแรก โคชีได้ศึกษาและริเริ่มวางรากฐานเรื่อง<br />

การลู่เข้าและการลู่ ออกของอนุกรมอนันต์ (convergence and divergence of infinite series) ผลงานเรื่อง<br />

คณิตศาสตร์วิเคราะห์ที่โคชีเขียน ได้รับการยอมรับให้เป็นต าราเรียนที่ École Polytechnique ปีค.ศ. 1821 โคชี


4<br />

ได้เริ่มศึกษาเรื่อง แคลคูลัส ปีค .ศ. 1826 เขาได้ก าหนดบทนิยามของ ลิมิต ความต่อเนื่อง อนุพันธ์ และ<br />

อินทิกรัลจ ากัดขอบเขตอย่างรัดกุม และปีค.ศ. 1829 เขาได้ก าหนดบทนิยามของฟังก์ชันเชิงซ้อน (function of<br />

complex variables)<br />

ภาพวาดโบสก์ Saint-Sulpice ในศตวรรษที่ 17 ภายในโบสก์ Saint-Sulpice<br />

โดย Matthys Schoevaerdts<br />

หลังการปฏิวัติ ปีค.ศ. 1830 ท าให้โคชีต้องออกจากราชการที่ Ecole Polytechnique ด้วยเหตุผลที่เขา<br />

สนับสนุนราชวงศ์บรูบองส์และไม่ได้รับราชการต่อมาอีก 18 ปี โคชีได้ลี้ภัยไปอยู่ที่ Fribourg ประเทศสวิท<br />

เซอร์แลนด์ (Switzerland) ในช่วงเวลาสั้น ๆ และได้รั บคัดเลือกเป็นสมาชิกต่าง ประเทศ ของสมาคม<br />

วิทยาศาสตร์ในพระบรมราชูประถัมภ์แห่งสวีเดน (The Royal Swedish Academy of Sciences) โคชีได้ย้ายไป<br />

แผนที่ตั้งและ ทิวทัศน์เมือง Fribourg ประเทศสวิทเซอร์แลนด์


5<br />

แผนที่เมืองตูริน ประเทศอิตาลี<br />

ทิวทัศน์เมืองตูริน ประเทศอิตาลี


6<br />

ลี้ภัยอยู่ที่เมืองตูริน (Turin) ประเทศอิตาลี ปีค.ศ. 1832 – 1833 ระหว่างที่เขาอยู่ที่นี่พระมหากษัตริย์ซาร์ดิเนีย<br />

(King of Sardinia) ผู้ปกครองเมืองตูรินได้เสนอให้โคชีด ารงต าแหน่งนักฟิสิกส์ทฤษฎี (a chair of theoretical<br />

physics) และสอนที่นี่ โคชีรับข้อเสนอนี้ หลังจากนั้นเขาได้ย้ายไปลี้ภัยที่กรุงปราก (Prague) ซึ่งเป็นเมือง<br />

หลวงของประเทศสาธารณรัฐแห่งเชคโกสโลวาเกีย (Republic Of Czechoslovakia) โคชีได้เดินทางกลับ<br />

แผนที่ตั้งกรุงปราก สาธารณรัฐแห่งเชคโกสโลวา<br />

เกีย<br />

ทิวทัศน์กรุงปราก สาธารณรัฐแห่งเชคโกสโลวา


7<br />

กรุงปารีสปีค .ศ. 1838 และปีค .ศ. 1843 ได้รับต าแหน่งอาจารย์คณิตศาสตร์ ที่ วิทยาลัยของฝรั่งเศส (the<br />

Collège de France) ซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงปารีส ในช่วงระยะเวลานี้โคชีได้สร้างผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อวงการ<br />

คณิตศาสตร์และฟิสิกส์ คือ สมการอนุพันธ์ (differential equations) ฟิสิกส์เชิงคณิตศาสตร์(mathematical<br />

physics) และ ดาราศาสตร์ เชิงคณิตศาสตร์ (mathematical astronomy) ปีค.ศ. 1848 เขาได้กลับไปสอนที่<br />

Ecole Polytechnique อีกครั้งหนึ่ง โคชีเสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ค.ศ. 1857 อายุ 67 ปี ที่ Sceaux เป็น<br />

ชุมชนชานในเขตชานเมืองทางตอนใต้ของกรุงปารีส และห่างจากใจกลางกรุงปารีส ประมาณ 9.7 กิโลเมตร<br />

(6.0 ไมล์) ก่อนตายท่านได้กล่าวแก่สังฆราชแห่งกรุงปารีสว่า “คนตาย แต่ผลงานคงอยู่”<br />

ทิวทัศน์กรุงปราก สาธารณรัฐแห่งเชคโกสโลวา<br />

รูปปั้นGuillaume Budé ที่ College de France


8<br />

ผลงานของโคชี<br />

1.ริเริ่มวางรากฐานคณิตศาสตร์ วิเคราะห์ (mathematical analysis) และสมการอนุพันธ์ ก าหนด<br />

บทนิยามของลิมิต ความต่อเนื่อง อนุพันธ์ อินทิกรัลจ ากัด ขอบเขต ชื่อของโคชีที่ เกี่ยวข้องกับผลงาน เรื่องนี้<br />

ได้แก่ <strong>Cauchy</strong>'s theorem (geometry), <strong>Cauchy</strong> argument principle, <strong>Cauchy</strong> boundary condition, <strong>Cauchy</strong><br />

formula for repeated integration และชื่อของโคชีร่วมกับ นักคณิตศาสตร์ท่านอื่น ได้แก่ <strong>Cauchy</strong>–Euler<br />

equation, <strong>Cauchy</strong>–Kovalevskaya theorem, <strong>Cauchy</strong>–Peano theorem, <strong>Cauchy</strong> problem, <strong>Cauchy</strong>–Riemann<br />

equations, <strong>Cauchy</strong>–Schwarz inequality<br />

2.พัฒนาและเผยแพร่ผลงานเรื่องการลู่เข้าและลู่ออก(convergence and divergence)ของอนุกรม ชื่อ<br />

ของโคชีที่เกี่ยวข้องกับผลงานเรื่องนี้ได้แก่ <strong>Cauchy</strong> root test , <strong>Cauchy</strong> ratio test, <strong>Cauchy</strong> product, <strong>Cauchy</strong>'s<br />

convergence test, <strong>Cauchy</strong> sequence, <strong>Cauchy</strong>'s radical test และชื่อของโคชีร่วมกับนักคณิตศาสตร์ท่านอื่น<br />

เช่น Maclaurin-<strong>Cauchy</strong> test<br />

3.พัฒนาและเผยแพร่ผลงานเรื่องการวิเคราะห์ฟังก์ชันเชิงซ้อน ชื่อของโคชีที่เกี่ยวข้องกับผลงานเรื่อง<br />

นี้ได้แก่ <strong>Cauchy</strong> inequality, <strong>Cauchy</strong> integral formula , <strong>Cauchy</strong>’s integral theorem, <strong>Cauchy</strong> functional<br />

equation, <strong>Cauchy</strong> principal value และชื่อของโคชีร่ วมกับนักคณิตศาสตร์ท่านอื่น ได้แก่ <strong>Cauchy</strong>–Hadamard<br />

theorem<br />

4.พัฒนาและเผยแพร่ผลงานเรื่อง กรูปจ ากัด (finite group) วิธีเรียงสับเปลี่ยน (permutation) และ<br />

ทรานสโพสิชัน (transposition) ชื่อของโคชีที่เกี่ยว ข้องกับผลงานเรื่องนี้ได้แก่ <strong>Cauchy</strong>'s theorem (group<br />

theory) และชื่อของโคชีร่วมกับนักคณิตศาสตร์ท่านอื่น ได้แก่ <strong>Cauchy</strong>–Frobenius lemma<br />

5.พัฒนาและเผยแพร่ผลงานเรื่องดีเทอร์มินันต์ (determinant) ชื่อของโคชีที่เกี่ยวข้องกับผลงานเรื่อง<br />

นี้ ได้แก่ <strong>Cauchy</strong> determinant<br />

6.พัฒนาและเผยแพร่ผลงานเรื่องทฤษฎีความน่าจะเป็น(probability theory) ค้นพบการแจกแจงโคชี<br />

(<strong>Cauchy</strong> Distribution)<br />

7.พัฒนาและเผยแพร่ผลงานเรื่อง ฟิสิกส์เชิงคณิตศาสตร์ และดาราศาสตร์เชิงคณิตศาสตร์ โดยเฉพาะ<br />

ผลงานหัวข้อคลื่นบนพื้นผิวของเหลวที่มีความลึกไม่จ ากัด ซึ่งได้รับรางวัล the Grand Prize ของ the French<br />

Academy of Sciences ชื่อของท่านที่เกี่ยว ข้องกับเรื่องฟิสิกส์เชิงคณิตศาสตร์ ได้แก่ <strong>Cauchy</strong>'s equation (เป็น<br />

สมการความสัมพันธ์ระหว่างดัชนีหักเหของแสงกับความยาวคลื่นของแสงส าหรั บตัวกลางโปร่งใส ) <strong>Cauchy</strong><br />

horizon, <strong>Cauchy</strong> momentum equation, <strong>Cauchy</strong> momentum equation


9<br />

ต าแหน่งและรางวัลอันทรงเกียรติที่ โคชีได้รับ<br />

ปีค.ศ.1816 ได้รับรางวัลסּ the Grand Prix ของ the French Academy of Sciences<br />

ปีค.ศ.1831<br />

ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกต่างประเทศของสมาคมวิทยาศาสตร์ในพระบรมราชูประถัมภ์แห่งสวีเดนסּ<br />

1832<br />

ค.ศ. ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ของมูลนิธิราชวงศ์อังกฤษסּ 5 (the Royal Society:FRS) ปี<br />

ค.ศ. 1845 ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกของסּ the Royal Society of Edinburgh 6 ปี<br />

เพื่อเป็น เกียรติแก่ โคชี ได้มีการ น าชื่อของเขา ตั้ง เป็น ชื่อถนนที่กรุงปารีส<br />

Rue <strong>Cauchy</strong> (15th<br />

Arrondissement) น าชื่อของเขาตั้งเป็นชื่อสถานที่ต่างๆบนดวงจันทร์ Crater <strong>Cauchy</strong> และ Rupes <strong>Cauchy</strong><br />

โคชีเป็นหนึ่งใน 72 นักวิทยาศาสตร์ ของฝรั่งเศส ที่ได้รับ<br />

การจารึก ชื่อไว้ที่<br />

the Eiffel Tower และได้รับ<br />

การบันทึกในรายชื่อประวัติ<br />

ประวัตินั นักวิทยาศาสตร์<br />

กวิทยาศาสตร์ความนิยมมากที่สุด<br />

ความนิยมมากที่สุดหมายเลข<br />

45<br />

____________________________<br />

1 http://teacher.aru.ac.th/waraporn/images/stories/pdf/laplace.pdf<br />

2 http://teacher.aru.ac.th/waraporn/images/stories/pdf/lagrange.pdf<br />

3 เป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมและการวิจัยที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศส ตั้งอยู่ในชุมชน Palaiseau เขตชาน<br />

เมืองทางตอนใต้ของกรุงปารีส<br />

4<br />

สถาบันวิทยาศาสตร์ของฝรั่งเศส ก่อตั้งขึ้นในปี 1666 โดย <strong>Louis</strong> XIV ตามค าแนะน าของ Jean Baptiste<br />

เพื่อส่งเสริม สนับสนุน พัฒนางานวิจัยและผลงานทางด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์และคัดเลือกบุคคลที่<br />

มีความสามารถเสนอผลงานวิจัยและผลงานทางด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ของฝรั่งเศส เป็นสถาบัน<br />

ที่อยู่ในระดับแนวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์แห่งยุโรปในศตวรรษที่ 17 และ 18 และเป็นหนึ่งใน<br />

สถาบันการศึกษาที่เก่าที่สุดทางด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์


10<br />

สถาบันวิทยาศาสตร์ของฝรั่งเศส ตั้งอยู่ที่ปารีส<br />

5 มูลนิธิของราชวงศ์อังกฤษก่อตั้งขึ้น เมื่อเดื อนพฤศจิกายน พ .ศ. 1660 โดย King Charles II เพื่อสนับสนุน<br />

และคัดเลือกบุคคลที่มีความสามารถเสนอผลงานวิจัยและผลงานทางด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์<br />

ปัจจุบันส านักงานตั้งอยู่ที่ Carlton House Terrace, London<br />

สถานที่ตั้ง the Royal Society ที่ ลอนดอน<br />

6<br />

มูลนิธิของราชวงศ์ของสกอตแลนด์ก่อตั้งขึ้นปีค.ศ. 1783 เป็นองค์กรการกุศลที่จดทะเบียนในการด าเนินงาน<br />

บนพื้นฐานทั้งหมดที่เป็นอิสระและไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง เพื่อส่งเสริม สนับสนุนและคัดเลือกบุคคลที่มี<br />

ความสามารถเสนอผลงานวิจัยและผลงาน หลากหลายสาขาวิชา ได้แก่ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ศิลป<br />

ศาสตร์ มนุษยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ วิทยาศาสตร์ทางสังคมธุรกิจและการบริการสาธารณะ<br />

สถานที่ตั้งมูลนิธิของราชวงศ์ของสกอตแลนด์


ที่มา: 1.http://www.gap-system.org/~history/Biographies/<strong>Cauchy</strong>.html<br />

11<br />

2.http://en.wikipedia.org/wiki/<strong>Augustin</strong>-<strong>Louis</strong>_<strong>Cauchy</strong><br />

3.http://www.prague.fm/?gclid=CNrh2rDNsK0CFUZ66wodTUEumQ<br />

4.http://en.wikipedia.org/wiki/Arcueil<br />

5.http://en.wikipedia.org/wiki/Fribourg<br />

6.http://www.gap-system.org/~history/Societies/Eiffel.html<br />

7.http://en.wikipedia.org/wiki/Royal_Society<br />

8.http://www.gap-system.org/~history/Societies/FRSE.html<br />

9.http://www.gap-system.org/~history/Societies/ParisNames.html<br />

10.http://www.gap-system.org/~history/Miscellaneous/Popular.html<br />

11.http://www.gap-system.org/~history/Societies/LunarFeatures0.html<br />

Created: 07 January 2012<br />

Modified: 13 April 2012

Hooray! Your file is uploaded and ready to be published.

Saved successfully!

Ooh no, something went wrong!