Cambridge Audio - Piyanas

Cambridge AudioAzur 550A + 550Cภมรเดช หัสเนตรเหมาะสำหรับคนชอบฟังเพลงร้องลีลานุ่มเนิบที่ไม่ดึงหนังตาให้ปิดเร็วเกินไปนำเข้าและจัดจำหน่ายโดย บริษัท Global Star Worldwide จำกัดโทร. 0-2576-0317Cambridge Azur 550A ราคา 18,500 บาทCambridge Azur 550C ราคา 18,500 บาทเรื่องบางเรื่องโคตระ... ง่ายแต่อยู่ในข่ายอธิบายไม่ได้ ไม่รู้ทำไม“กฎทุกกฏ จึงมีข้อยกเว้น...” และมักมีข้อหนึ่งให้เราฝ่าฝืนเสมอ และกฎทุกข้ออีกเช่นกัน มีบางข้อสมควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ฝ่าฝืนแล้วไม่ดีแน่ และโดยมากไอ้ข้อเหล่านั้นนั่นเอง ที่เราชอบฝ่ากัน!ทำไมนะหรือ? กฎข้อใหญ่ที่ผมท่องขึ้นใจมีเกินหนึ่งข้อที่ข้องเกี่ยวกับการจัดวางลำโพงในพื้นที่ไม่ทำร้ายจริตน้ำเสียงของผู้ผลิตให้ผิด-เพี้ยน, ข้อพาดพิงยังความเก่งกาจของมือมาสเตอริ่งเมื่อฟังงานที่กูรูว่าเสียงเจ๋งจริงโดยฟันธงจากเพลเยอร์ติดดีทูเอไฮเรโซลู-ชั่น, ข้อคาดคะเนกำลังขับบั้นปลายของแอมป์ตัวโปรดเมื่อเปิดฟังต่อเนื่อง (ทั้งโปรดแล้วมีปัญญาซื้อและไม่มี) และอีกหลายข้อที่เหลือ รวมถึงข้อพิเศษที่เน้น48แม็ตชิ่งแอมป์กับเพลเยอร์ให้เข้ากันที่สุดในด้านสัญญาณไฟฟ้าและกระแสเสียงเพื่อนำมาใช้เป็น Simply System ระดับMain Reference ของตัวเอง ข้อหลังนี้ ถ้าใครอยากล้วงลึก และมีประสบการณ์ลึกๆขอบอกว่าต้องลงมือ ณ บัดเดี๋ยวนี้ ด้วยเครื่องเคราเครื่องเคียงที่คุณมี นานแค่ไหนแล้วครับที่ลืมนึกถึงเรื่องแม็ตชิ่งเกนสัญญาณเสียง และคาแร็คเตอร์เสียงให้แนบเนียนในทางเดียวกัน มารื้อฟื้นด้วยCambridge Audio แก้โรคลืมกันดีกว่าผมมีแอมป์กับซีดีเพลเยอร์ในเวอร์ชั่นอัพ-เกรดมาเป็นยาช่วยจำแบบแพ็คคู่ จะกินก่อนนอนหรือหลังอาหารก็สุดแล้วแต่ อย่าลืมดื่มน้ำมากๆ ตามกฎด้วย...! Matching Good or Notกฎว่าด้วยเรื่อง “แม็ตชิ่งระหว่างเครื่องกับเครื่อง” การแม็ตชิ่งมีสองเรื่องให้ขบคิดและเลือก คือ 1. เรื่องรูปร่างหน้าตาว่ามีสีสันและเลย์เอาต์ฟังก์ชั่นในแนวทางเดียวกันหรือไม่ ถ้าเป็นแบรนด์และซีรี่ส์เดียวกันถือว่าแม็ตเหมือนคู่นี้ ถ้าคนละเจ้าคนละดีไซน์ การแม็ตชิ่งก็ลดทอนลงไปเว้นเรื่องสีสันที่คงไม่ต่างกันนัก 2. เรื่องแนวเสียง ถ้าเป็นแบรนด์และรุ่นเดียวกันเลิกพะวงเรื่องน้ำเสียงไม่เข้าขาได้เลย แต่ถ้าเป็นคนละเจ้าก็ต้องเหนื่อยปรับจูนเกนเสียงและคาแร็คเตอร์กันหน่อย ทั้งสองข้อนี้เห็นภาพชัดและอยู่ใกล้ตัวเราที่สุด มันคือ“อินทิเกรตแอมป์กับซีดีเพลเยอร์” ในฐานะที่ทั้งคู่เป็นซิสเต็มจำเป็นเสมือนยาสามัญประจำบ้าน ปวดเจ็บก็ทุเลาแค่นำมาต่อกับลำโพงที่เหมาะสม สายสัญญาณและสายลำโพงที่เปล่งคุณภาพเสียงสมควรกันอีกอย่างละคู่ แค่นี้ก็เห็นสวรรค์รำไรแล้ว! ผมเคยขึ้นสวรรค์เพราะเสียงนาง พาลอารมณ์บานปลายกับการผสมผสานน้ำเสียงของ Azur 340A SE และ Azur 340Cแพ็คคู่รุ่นเล็กสุด และหุ่นบางที่สุดในซีรี่ส์Azur ของ Cambridge เมื่อคราวจัดกรุ๊ปเทสต์ซิสเต็มราคาต่ำกว่า 20,000 บาท ในโอกาสหนังสือย่างสู่ขวบปีที่ 13 ครั้งนั้นบันดาลยอดขายถล่มทลายจนสร้างชื่อให้แบรนด์นี้กลับมาหอมหวานในบ้านเรา (และต่างประเทศ) หลังจากเงียบฉี่มานาน ด้วยน้ำเสียงและหุ่นพ้องและเกื้อกูลกัน 340ASE+340C จึงกลายเป็นซิสเต็มดังฝันของหลายคน เพราะซื้อไปแล้วคุ้มราคา เหมือนถูกหวยใต้ดินและบนดินพร้อมกัน!

ไม่ว่าจะเปลี่ยนเลขเป็น 5 หรือ 6 ในรุ่นใหญ่ขึ้น น้ำเสียงยังคงไม่สวนทางกับหุ่นหนาอวบและหนักอึ้งที่เพิ่มขึ้นจากภาคจ่ายไฟและวงจร ซึ่งถูกขยายกล้ามและบวกด้วยหลายฟังก์ชั่นเสริมหล่อ นักวิจารณ์ขั้นเทพหลายสำนักยืนยันถึงประสิทธิภาพของพวกมันได้ การหยิบสีซิลเวอร์มาเป็นตัวเลือกเพิ่มจากสีผิวดำด้านเดิมของเครื่องในแต่ละรุ่น ส่งผลต่อความชอบของผู้ใช้นอกจากเรื่องช่วยระบายความร้อน บางคนเลือกสีเงินด้าน เพราะโทนสีสะอาดตา แลดูเบากว่าความจริงและทันสมัยอยู่ในทีแต่บางคนชอบสีดำเดิมๆ เพราะเข้มน่าเกรงขาม ก็สุดแล้วแต่ครับ ผมได้รับยาแพ็คคู่แผงใหม่ในรหัสรุ่น Azur 550A และ550C แบบปัจจุบันทันด่วน ยอมรับว่า Azurมีจำนวนรุ่นครอบคลุมทั้งกำลังขับ รูปโฉม สีผิว และฟังก์ชั่น ไม่ว่าผู้ใช้มีจริตยังไงชอบใหญ่เล็กแค่ไหน เป็นต้องโดนเข้าซักรุ่นแหละ (ต้องยกความดีให้ทีมดีไซน์ 550A/650A ที่มีนาย Matthew Bramble เป็นหัวหน้าใหญ่) การเสริมหล่อด้วยเทคนิควงจรและโครงสร้างกายภาพ เพื่อสร้างเสียงลื่นไหลเป็นธรรมชาติ และสยบแรงสั่นสะเทือนอันเป็นตัวการบั่นทอนบิดเบือนน้ำเสียง (LowerDistortion) ถูกคิดค้นและใช้ในสองเครื่องนี้ เมื่อแรงสั่นไม่ก่อการสะเทือนหรือก่อน้อย อาการก้องสะท้อนของคลื่นพลังงานที่สะสมในแชสซีส์เครื่องแต่ละจุดก็ย่อมน้อยไปด้วย (Low Resonance) และเพื่อแน่ใจว่าปลอดแรงสั่นสะเทือนจริงๆ ทางผู้ผลิตจึงออกแบบตัวถังโลหะด้วยวิธีพับห่อและยึดด้วยน็อตจำนวนมากจากด้านล่าง เพื่อรองรับอุปกรณ์ทั้งหมด ไม่ได้แยกเป็นชิ้นเล็กแล้วยึดด้วยน็อตทีละด้าน (เคสของแอมป์หนากว่าซีดี) และแดมป์ตัวถังในจุดยึดรับแผงวงจรและอุปกรณ์ต่างๆ เพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจว่านิ่งจริง ลองยกเครื่องขึ้นก็จะรู้ว่าเมื่อเคสแกร่งและถ่ายเทน้ำหนักสมดุลแม้ว่าไซส์แบนบางก็เถอะ มันกลายเป็นหนักอึ้งได้เลย งานนี้ไม่มีเล่ห์ไม่มีกล มีแต่โนว์ฮาวล้วนๆ คร้าบ พื้นที่รับแขกอย่างแผงหน้า ผู้ผลิตไม่ได้สักแต่ว่าทำ และเพื่อให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเคส ทั้งสองเครื่องจึงติดตั้งแผ่นอะลูมิเนียมไร้เสี้ยนสากหนาร่วมเซ็นติเมตรใต้เครื่องรองรับทั้งสี่มุมด้วยพลาสติกและยางเนื้อหนา ยกเครื่องสูงจากพื้นหลายหน่วย เปิดเครื่องใช้งานยังไงก็บ่ยั่น และไม่พบเสียงอั้นตื้อจากการสะสมความร้อนในวงจรแล้วไม่แพร่สู่อากาศ เรียกว่าเย็นโล่งตั้งแต่ล่างขึ้นบน เพราะด้านบนก็เจาะช่องซี่ใหญ่ยาวเกือบเต็มพื้นที่ ด้านล่างก็เช่นกัน(550A)550C with Wolfson +S3 Servoนอกจาก 550C จะเสริมหล่อข้างต้นแบบเต็มอัตราศึกแล้ว ด้วยว่าตัวมันจำเป็นต้องเจอแรงสะเทือนจากมอเตอร์หมุนแผ่นความเร็วสูง ไหนจะเอฟเฟ็คต์จากหม้อแปลงเทอรอยดัลไซส์บิ๊กกระพือตัวอีกงานนี้เลยเน้นเป็นพิเศษหลายจุด เริ่มจากใช้ชุดควบคุมมอเตอร์เลื่อนถาดเกรดออดิโอ“Audio S3 Servo” เป็นเจเนอเรชั่นที่ 3ของระบบเซอร์โวที่ Cambridge คิดค้นเปิดฝาเครื่องอยู่ด้านซ้ายในกล่องดำขนาดใหญ่ ด้านบนติดว่า S3 มีสายคอนเน็คต์ตรงจากภาคทรานสปอร์ต และต่อเนื่องไปยังเมนบอร์ดแผงใหญ่ทางด้านหลัง ซีดีตัวนี้มีทีเด็ดตรงความเงียบของเสียงแบ็คกราวด์ที่พร้อมผลักดันชิ้นดนตรีให้พุ่งทะยานออกมา เนื่องจากผู้ผลิตวางไลน์กราวด์ให้วงจรและตัวถังแบบ Three Pole DoubleVirtual Earth Balanced Filter ชื่อยาวแต่มั่นใจสมรรถนะได้ครับ ใครอยากรู้ว่าดียังไง ต้องเสียบใช้สายเอซีสามขา (เหมือนในคอมพิวเตอร์) ไม่ยั่นว่าเป็นเกรดออดิโอ-ไฟล์หรือเปล่า แค่มีไลน์ครบ 3 ก็พอ (ในกล่องให้สายเอซี 3 ขา มาด้วย) เมื่อใช้ไขควงวัดไฟแตะที่ตัวถังแล้วเปิดเครื่องใช้งาน ไฟไม่วาบครับ) รอบหมุนในภาคทรานสปอร์ตที่นิ่งและเที่ยงตรง (แบบเดียวกับรุ่นใหญ่ 740C Upsampling CD) สัมพันธ์กับกลไกเลื่อนตัวของถาดรับแผ่นที่นุ่มนวล ไม่ส่งเสียงดังจัดวางกลางเครื่องเพื่อถ่ายน้ำหนักสมมาตรกัน ไม่พบถาดสะดุดเป๋ไปมาเหมือนถาดเกรดต่ำกว่านี้ในเครื่องราคาประหยัดทั่วไปมันทำให้เพลเยอร์ในข่ายต้นมิดเอ็นด์ตัวนี้น่าใช้ (ไม่อยากเทียบกับถาดนิ่มที่สุดในเครื่องไฮเอ็นด์ราคาแพงกว่านี้) ผู้นิยมซีดี“ภาคเอาต์พุตของแอมป์ตัวนี้มีพลังและกระแสเสียงที่ค่อนข้าง ‘จิก’ พอควร”1 2 31. โชว์ CAP 5 Protection System ใกล้ช็อคเก็ตเอซี 2. ขั้วต่อชุบทองเต็มพรืด 3. แผงหน้าอะลูมิเนียมอะโนไดซ์ มีไฟ ProtectionSpecifications (550A) Power Output 60 W 8 Ohms/90 W 4 Ohms Max. Power Consumption 500 W Damping Factor >100 Frequency Response 5 Hz-50 kHz S/N Ratio >92dB Dimensions (H x W x D) 4.7 x 16.9 x 13.8 cm Weight 8 kg49

1 2 3เครื่องหมายมาตรฐานความปลอดภัยเพียบปุ่มกดน้อยแต่เท่ เอาต์พุตชุบทอง“เจาะจงใช้ชิพเสียงดีเบอร์WM8740ของ WolfsonMicroelectronicsในภาค D/A”Specifications (550C) D/A Convertions Wolfson #WM8740 (24-Bit/192 kHz) Filter 2-Pole Differential Bessel Virtual Earth BalancedFrequency Response 20 Hz-20 kHz Output Impedance 100dB Digital Outputs Opt & Coax Dimensions (H x W x D) 3 x 16.9 x 12.2 cm Weight 4.8 kgถาดนิ่มๆ ไม่กระโชกโฮกฮากน่าจะชอบ550C ตัวนี้ครับ ยาขนานเอกในซีดีตัวนี้อยู่ตรงชิพแปลงสัญญาณดิจิทัลชนิด 24-Bits/192 kHz ตัวเดียวในภาค D/A ที่เจาะจงใช้ “WM8740 ของ Wolfson Microelectronics”(รุ่น 650A ใช้ 2 ตัว ในแบบบาลานซ์ ค่าคลาดเคลื่อนทางจิตเตอร์มีน้อยกว่ารุ่นนี้ราว 10pS) ชุดหัวอ่านแสงเลเซอร์ใช้ของ Sony รุ่นใหญ่ไม่ระบุเบอร์ (รุ่น 340Cใช้ชิพ Crystal #CS4338 พิสัย 24/96ส่วน 540C ใช้ WM8716) ซีดีที่เคยผ่านมือผมที่ติดชิพข่ายเดียวกับ 550C น่าจะเป็น Onkyo #DX7555 ตัวหนาสีทอง เสียงดนตรีจากชิพไฮเอ็นด์ที่ให้สมรรถนะเที่ยงตรง ลื่นไหล และมีมวลอากาศไม่แห้งแล้ง ในตระกูล Wolfson จัดว่าน่าสนใจฟังครับ ใครเป็นสาวก ipod/iPhone/Macintosh ในสังกัด Apple ที่เสพดนตรีผ่านโปรแกรม iTune เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมแนวเสียงถึงฉ่ำเนียน และอุดมด้วยรายละเอียดทุ้มกลางแหลม มันเกิดจากซอฟต์แวร์ส่วนหนึ่ง ระบบปฏิบัติ-การส่วนหนึ่ง และอีกส่วนจาก Wolfson นี่แหละ (Apple สั่งผลิตชิพเป็นพิเศษ และไม่โชว์เบอร์ด้วย) WM8740 ในซีดีตัวนี้มีค่าความเพี้ยนรวมวัดได้ 104 ดีบี กวาดกินความถี่กว้างตั้งแต่ 8 kHz-192 kHz ค่าSNR สูงถึง 120 ดีบี คาแร็คเตอร์ส่วนตัวโชว์หราในเพลเยอร์ที่ติดตั้ง มันทำให้ผมลืมชิพตัวอื่นที่โด่งดังในยุทธจักร DAC 50ซึ่งเคยผ่านหูจากเพลเยอร์รุ่นดัง อาทิCirrus Logic ใน Myryad #Z120 และMarantz #CD6002, BurrBrown ใน Rotel#RCD06, Crystal ใน Audiolab #8000CD ทำไมถึงกล้าพูดเช่นนั้น ตอบตามประ-สบการณ์และความชอบส่วนตัวว่า ชิพดิจิ-ทัลแต่ละตัวมีสถาปัตยกรรมและอัตราแซมปลิ้งข้อมูลใกล้เคียงกัน (ข้อมูลดิจิทัลที่เก็บรายละเอียดเสียงดนตรีเพื่อรอแปลงสัญญาณทางตัวเลขเป็นสัญญาณทางไฟ-ฟ้าและเสียงแบบอะนาล็อกต่อไป) แต่ละรุ่นและแบรนด์ ย่อมเที่ยงตรงและพึงใช้อุปกรณ์ร่วมแตกต่างกันตามการออกแบบของผู้ผลิตชิพนั้นๆ แม้แต่ชิพตัวเดียวกันประกอบวงจรเดียวกัน เสียงออกมายังไม่เหมือนกัน นั่นทำให้แนวเสียงจากชิพแซมปลิ้งสูงขั้น 24/96 หรือมากกว่าแทบทุกตัว คล้ายกันในความต่าง หรือต่างอย่างแยกไม่ออกในความเหมือน ส่วนคล้ายนั้นปรากฎเป็นชิ้นดนตรี (ย่านสูงจะแจ้งฟังชัดและซึมซับง่ายกว่าย่านเสียงอื่น) ปรากฎเป็นไดนามิค (ย่านต่ำฟังชัดเจนต่อเนื่องรับกับย่านกลาง ทำให้ทรวดทรงเสียงเพรียวกระชับ) ในส่วนของน้อยซ์หรือสัญญาณรบกวนในระบบไฟ ตัวการทำให้เสียงขึ้นขอบคมมีสากเสี้ยนที่หลายคนไม่ชอบ ส่วนต่างอยู่ตรงว่าชิพมีประสิทธิภาพจัดการน้อยซ์ไม่ให้รบกวนความถี่ได้ชะงัดแค่ไหนโดยปรากฏเป็นเสียงนุ่มเนียนลื่นไหลและหวานฉ่ำ ม่านหมอกไม่บดบังหน้าตานักร้องหรือรบกวนท่วงท่าที่นักดนตรีบรรเลงทำให้ชิ้นดนตรีแผ่กว้างโอบล้อม ชวนฟังยาวนานโดยไม่เซ็งซะก่อน เมื่อตัดสินแบบนี้คำตอบสุดท้ายอยู่ที่ชิพตัวไหน ตัวนั้นแหละเจ๋ง ทั้งนี้ไม่ได้หมายรวมว่าชิพตัวไหนถูกค่ายใดนำมาใช้มากที่สุดจะเป็นชิพเหมาะ-สมที่สุด สำหรับผมใช้วิธีข้างต้นพิจารณาครับ งานนี้แพ้คัดออกสถานเดียว WM8740 หรือ Wolfson ช่วยผมชี้ชัดส่วนต่างมากกว่าส่วนเหมือน และช่วยให้ผมนิ่งตรึงกับพนักเก้าอี้ไม้โดยไม่หนักหนังตาซะก่อน ต่างจากฟังชิพดิจิทัลอื่นทั่วไป โดยรวมแล้ว 550C มีหุ่นสเลนเดอร์ที่ทำน้ำหนักเอาเรื่องครับ (จากส่วนประกอบข้างต้น) แผงหน้าอะลูมิเนียมปัดเสี้ยนหนา วางปุ่มสั่งงาน Open/Close,Play/Pause, Stop, Skip/Scan (คำสั่งใดใช้ปุ่มเดียวกันจะมีเครื่องหมาย / ) ทางด้านขวา และปล่อยทางซ้ายไว้แค่ปุ่ม เปิด/ปิดไฟ และสกรีนยี่ห้อเท่านั้น แผงหลังติด-ตั้งขั้วเอาต์พุตอะนาล็อกแบบซิงเกิ้ลเอ็นด์ 1 ชุด ดิจิทัลแบบโคแอ็กเชี่ยลและอ็อปติคัลอย่างละชุด เมนสวิตช์เปิด-ปิดเครื่องอยู่ด้านหลัง (ต้องสับสวิตช์นี้ก่อน แอลอีดีสีฟ้าด้านหน้าถึงจะสว่างเข้าสู่โหมดสแตนด์บาย) การใช้งานซีดีตัวนี้ไม่ต่างจากเครื่องทั่วไป ทว่าให้ความมั่นคงและนิ่งตรึงที่น่าประทับใจ (จากมวลรวม และขารองเครื่อง) จอแสดงผลแบบ Dot Matrixสว่างและสบายตาในระยะไกล สามารถลดความเข้มลงกึ่งหนึ่งและดับสนิทเลย (สั่งงานจากรีโมต) พร้อม CD-Text บอก

รายชื่อเพลง ถ้ามีโค้ดติดมาในแผ่น กดปุ่ม i: Info บนรีโมต (ลูกทุ่งไฮไฟชุดล่าสุดของบรรณก็มีชื่อภาษาอังกฤษให้อ่าน) เมื่อลดความสว่างของจอ ซาวด์สเตจจะเป็น 3 มิติขึ้นเล็กน้อย วงไม่แบนเมื่อเทียบกับไม่ลดนอกจากนี้ยังมีลูกเล่นปรับฟิลเตอร์กรองความถี่สูงในภาคเอาต์พุต เพื่อลดปัญหาสั่นค้างระหว่าง 22.05-44.1 kHz แบ่งเป็นSharp Roll-off และ Slow Roll-off แบบSharp ตัดความถี่ชันใกล้ 22.05 kHz น้ำเสียงที่ได้ยินเมื่อฟังเพลงมีความถี่ย่านดังกล่าวเยอะจากเพลงบันทึกเสียงในฮอลล์ใหญ่ หรือใช้เทคนิควางไมโครโฟน 2 ตัวเก็บเสียงตรงและเสียงสะท้อน (อาทิ งานของ Sheffield Lab, Clarity Records, เพลงออร์เคสตร้า/ซิมโฟนีส่วนใหญ่, เพลงไทยเดิม) พบว่าเมื่อเลือกฟิลเตอร์ Sharpโฟกัสชิ้นดนตรีถูกเน้น ให้เขม็งเกร็ง สปีดกระชับต่อเนื่องกัน ในบางเพลงที่โชว์ได-นามิคและทรานเชี้ยนส์ อาทิ บรรเลงเพอร์-คัสชั่น ร็อค ฟิวชั่น แนวเสียงแบบนี้เกื้อ-หนุนให้ฟังสนุก ยิ่งเร่งวอลลุ่มดัง ความลื่น-ไหลและจังหวะจะเป็นจุดเด่น คนชอบความคมชัด เปิดปุ๊บติดปั๊บรับรองแฮปปี้ครับ ฟิลเตอร์แบบ Slow (ความถี่สูงลาด-เอียงกว่า อยู่กึ่งกลางระหว่างสองความถี่ข้างต้น) น้ำเสียงผ่อนปรน และทิ้งหางเสียงในผืนอากาศนานกว่าแบบ Sharp ฟังแล้วผ่อนปรนกว่า ใครชอบฟังเพลงร้อง ฟังทุ้มนุ่มนวลมากกว่าทุ้มกระชับโฟกัสจี้จุด คงต้องเลือกแบบ Slow ล่ะครับ (ลองฟังประกอบแนวเพลง และตำแหน่งเซ็ตอัพลำโพงในห้องคุณ ก่อนตกลงปลงใจเลือกฟิลเตอร์ โดยเช็คกับการไม่ใช้ด้วยครับ)การเลือกฟิลเตอร์เหล่านี้ทำได้โดยกดปุ่มStop บนเครื่องไว้ 5 วินาที ตัวหนังสือบนจอจะโชว์ Filter Setting กดเลื่อนซ้ายขวาเลือก Sharp หรือ Slow ในฟังก์ชั่นนี้มีคำสั่ง Autoplay เลือกเล่นเพลงตามใจเครื่องและ Auto Power Down ตั้งเวลาเล่น 5/10/15 นาที ตามใจชอบ พ่วงติดมาด้วย550A - 60W+CAP5 Techเมื่อซีดีเนื้อคู่ให้น้ำเสียงฉ่ำเนียน บ่งรายละเอียดต่างๆ อย่างรอบคอบ และละมุนละไม เสียงของอินทิเกรตคู่เคียงกันก็จำเป็นอยู่เองที่จะส่งเสียงละม้ายกัน เป็นความละม้ายอันแทรกซึมด้วยคำว่า “บรรจงเน้น” ครับ เริ่มจากกำลังขับพื้นฐานแบบขับลำโพงทั่วไปได้สบายมือ แม้เป็นตัวตั้งพื้นหลายไดรเวอร์ก็ตาม ขอให้มีอิมพีแดนซ์รวมไม่ต่ำกว่า 6 โอห์ม เป็นอันเสร็จ 60Wของ 550A หมด ผมลองขับโหลด 4 โอห์มของ Epos #M5i ตู้เปิดเบสรีเฟล็กซ์ และตู้ปิดสนิทโหลด 6 โอห์ม ของ NHT #SuperOne ทั้งสองคู่ให้เสียงไม่ด้านและแห้งผากอิมแพ็คต์ทุ้มไม่แป๊ก เมื่อเร่งวอลลุ่มมากขึ้นจนถึง 11 นาฬิกา บุคลิกลำโพงทั้งสองถูกแอมป์ตัวนี้ผลักออกจนระบุความต่างของตู้เปิดกับตู้ปิดได้ มันให้แง่มุมบางอย่างที่พอสรุปว่า ภาคเอาต์พุตของแอมป์ตัวนี้มีพลังและกระแสเสียงที่ค่อนข้าง “จิก” พอควรมันสอดรับกับคำว่าบรรจงเน้นแหละครับจิกแล้วน่าฟังเพราะได้ยินการถ่ายทอดอารมณ์และโน้ตของเครื่องดนตรีชัดเจนฟังแล้วสนุก เมื่อเพ่งยังน้ำเสียงนิ่งสนิทที่สะอาดเอี่ยม ถือว่าตู้ปิดอย่าง SuperOneมีภาษีกว่าตู้เปิด (ตู้เปิดพอร์ตหน้าก็อยู่ในข่ายเดียวกับตู้ปิดด้วย) ถ้าอยากได้ทุ้มกังวานรับกับเสียงกลางอวบอิ่มมีมวลที่เคลื่อนตัวไม่เร็วไม่ช้า ต้องยกให้ M5i ครับแม้ว่าต้องเร่งวอลลุ่มมากหน่อย แต่ก็ สอบอ มอ ยิ่งเมื่อผมเห็นตัวหนังสือรับรองความปลอดภัยหลังเครื่อง ยิ่งหายใจทั่วท้องเมื่อฟังงานอิมโพรไวส์มันส์ๆ แล้วลืมดูเกนวอลลุ่ม แอมป์ตัวนี้ติดตั้งวงจรตรวจสอบการขับกระแสเกินกำลัง เพื่อป้องกันโอเวอร์-โหลด การคลิปปิ้งทางความถี่และความผิดปกติทางกระแสที่ส่งผลต่อคุณภาพเสียงรวมถึงความปลอดภัยของเครื่องและลำโพงที่พ่วงใช้งานผ่าน CAP5 ProtectionSystem (เหมือนโปรเทคชั่นในรุ่น 340A SEบางอย่าง รุ่นนี้มีไฟกระพริบสีฟ้าตรงแผงหน้าเป็นจุดสังเกต) อ่านรายละเอียดของมันได้จากแผงหลังเครื่องและคู่มือดังนี้ กระพริบ* (Fault DC Detect) ป้องกันการเร่งเสียงแอมป์ขับลำโพงดังเกินไป,กระพริบ** (Over Temperature Detect)แสดงถึงอุณหภูมิจากการขับกระแสเอาต์-พุตมากเกินไปเนื่องจากอิมพีแดนซ์ลำโพงต่ำ อันนี้น่ากลัวมากในรายที่ใช้ลำโพงหินหนักขับไม่ออก ต้องเร่งวอลลุ่มเยอะ ความเสี่ยงเอาต์พุตขาด เพราะทนกำลังขับไม่ไหวไปตกอยู่ที่เน็ตเวิร์กลำโพง (ของแพงยิ่งน่ากลัว), กระพริบ*** (Over Voltage/Current Detect) ระบบจะตัดการทำงานภาคเอาต์พุตไม่ให้จ่ายกระแสยังลำโพง,กระพริบ**** (Short Circuit Detect)แอมป์ปรับโหมดสู่สแตนด์บายทันที ไม่จ่ายกระแสยังวงจร จากเหตุสายลำโพงพาดแตะขั้วกัน สังเกตว่า CAP5 ทำงานปกติเพื่อป้องกันการคลิป (ขับกระแสเกินกำลังจนเกิดความเพี้ยน) เมื่อสับสวิตช์หลังเครื่องLED จะสว่างเพื่อตรวจสอบความผิดปกติในส่วนเอาต์พุต รอไม่กี่วินาที ถ้าไม่กระพริบตามข้างต้น นั่นคือแอมป์พร้อมใช้งานตามปกติ และเพื่อไม่ให้วงจรส่วน CAP5 ต้องทำงานหนัก ทาง Cambridge จึงติดตั้งหม้อแปลงเทอรอยดัลขนาดใหญ่ในภาคจ่ายไฟ (ด้านซ้าย) เสมือนเป็นบ่อเก็บกักน้ำให้ใช้อย่างพอเพียง และออกแบบภาคเอาต์-พุตให้ใช้ทรานซิสเตอร์จ่ายกระแสสูงของSanken เสมือนมีบ่อน้ำเล็กไว้เก็บน้ำอีกชุดหนึ่ง จึงมั่นใจได้ว่าน้ำดีไฟแรงแน่นอน แอมป์ตัวนี้ให้พื้นเสียงเกลี้ยงเกลาโฟกัสนิ่งตรึง และมีเรี่ยวแรงอยู่ในที ไม่ว่าเร่งดังหรือเบา (อย่างพรวดพราด) เสียงก็ไม่พร่าเลือนหรือแตก การควบคุมทำได้น่าฟัง แม้ฟังเบาในช่วงดึกสงัด (วอลลุ่มน้อยกว่า 7 น.) ผู้ผลิตติดตั้งวอลลุ่มคอนโทรลของ ALPS #Black Box เพื่อควบคุมโทนบาลานซ์ และความเข้มอ่อนของซาวด์สเตจอุปกรณ์ร่วมทดสอบในห้อง 4 x 9 เมตรปรีแอมป์หลอด Viola #TL1, Firestone Audio #Tube Head เพาเวอร์แอมป์หลอด Viola #SA15 ซิงเกิ้ลเอ็นด์ Viola #SE-3, Vactech #Flute, Single End (6AQ5-6DE7:DIY) ปรีโฟโน Firestone Audio #Korora อินทิเกรตแอมป์ Cambridge Audio #550A, Marantz #PM5003, Onix #OA30 Wireless USB DAC DuGood #WDAC-2แอมป์คลาสที PopPulse #T2024/T150 ดิจิทัลแอมป์ Firestone Audio #Big Joe III ซีดีเพลเยอร์ Roksan #Kandy K2, Cambridge Audio #550C, NAD #502 ลำโพง Epos #M5i, NHT #SuperOne, KASD #SD100, Wharfedale #Diamond 10.1, Energy #CB20, Voight Pipes (4” FL + Transmission Line) สายสัญญาณ Acoustic System #Liveline, Kimber Kable #Hero/PBJ, Audioplus #SNR700T/Cantus06, Oehlbach #NF14, Monster Cable #i400MKII/M550i, vdH #The First(ms), Apogee #WydeEye 75-110 Ohms สายลำโพง Anti Cable, Black Rhodium #Salsa, Nordost #Flatline, Kimber Kable #4TC, vdH #GoldWater, inakustik#Silver สายไฟเอซี Hifi-Cables #Ultimate (Wattgate #320i), Oyaide l L/i50 Exs, Viola AC + Pass&Seymore Plug, Thai Wonderful AC อุปกรณ์ไฟฟ้า StabilProPlug #Exclusive, Viola #Enhanced Noise Filter & Isolation, Sidital #Mountain Next, MRZ SurgeGuard #MZ-8 อุปกรณ์ปรับอะคูสติค Roomtune, Diffusor,Wall Diffuse, Sandbase, Quartz Crystal51