06.01.2015 Views

Ship Propulsion and Engines - สภาวิศวกร

Ship Propulsion and Engines - สภาวิศวกร

Ship Propulsion and Engines - สภาวิศวกร

SHOW MORE
SHOW LESS

Create successful ePaper yourself

Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.

สาขา: เครื่องกล วิชา: ME82 <strong>Ship</strong> <strong>Propulsion</strong> <strong>and</strong> <strong>Engines</strong><br />

1 of 125<br />

ขอที่ : 1<br />

ขอที่ : 2<br />

ขอที่ : 3<br />

ขอที่ : 4<br />

หากตองการทราบขนาดแรงมาของเพลาใบจักรที่กําลังหมุน ขอมูลที่ตองการทราบคือขอใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Thrust กับ RPM<br />

Torque กับ RPM<br />

Thrust กับ <strong>Ship</strong> Speed<br />

<strong>Ship</strong> Speed กับ Torque<br />

คาประสิทธิภาพตัวใดที่ทําใหคา Shaft Horsepower และ Brake Horsepower แตกตางกัน<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

คาประสิทธิภาพของเกียร<br />

คาประสิทธิภาพของกระบอกดีฟุต<br />

คาประสิทธิภาพของใบจักร<br />

คาประสิทธิภาพของตัวเรือ<br />

ลักษณะสภาพแวดลอมที่ทําใหระบบขับเคลื่อนบนเรือแตกตางไปจากเครื่องจักรกลบนบกอยางเดนชัดที่สุดคือขอใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

อุณหภูมิอากาศโดยรอบ<br />

คําตอบ 2 : อุณหภูมิของน้ํา<br />

คําตอบ 3 : ความชื้น<br />

คําตอบ 4 : ความดัน<br />

ขอใดไมจัดวาเปนภาระหรือ Load ของระบบขับเคลื่อนของเรือ<br />

คําตอบ 1 :<br />

ใบจักร<br />

คําตอบ 2 : ปมพ<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 3 : เครื่องกําเนิดไฟฟา<br />

คําตอบ 4 : เครื่องอัดลม<br />

ขอที่ : 5<br />

ขอเสียของเครื่องยนตดีเซลเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องยนตเบนซินในการนํามาใชเปนเครื่องจักรใหญในเรือคือขอใด


คําตอบ 1 : อัตราการกินน้ํามันสูง<br />

คําตอบ 2 : น้ําหนักมาก<br />

คําตอบ 3 : กําลังมานอย<br />

คําตอบ 4 : ตองใชอุปกรณชวยจุดระเบิด<br />

2 of 125<br />

ขอที่ : 6<br />

อุปกรณขับเคลื่อนของเรือในขอใดที่มีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนต่ําที่สุด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Contrarotating Propeller<br />

Propeller in Nozzle<br />

Vertical Axis Propeller<br />

Fully Cavitating Propeller<br />

ขอที่ : 7<br />

Sterntube Stuffing Box มีหนาที่อะไร<br />

ขอที่ : 8<br />

คําตอบ 1 : ปองกันน้ําไหลเขาตัวเรือ<br />

คําตอบ 2 : ปองกันการสั่นสะเทือน<br />

คําตอบ 3 : รับน้ําหนักเพลา<br />

คําตอบ 4 : ตอเพลาเขาดวยกัน<br />

คา Thrust Deduction, t ที่ใชในการคํานวณหาคา Thrust Horsepower มีสาเหตุมาจากขอใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

ความฝดของเพลา<br />

คําตอบ 2 : ความตานทานของน้ําที่มีตอเพลา<br />

คําตอบ 3 : การเปลี่ยนแปลงของน้ําที่ไหลเขาสูใบจักร<br />

คําตอบ 4 : ใบจักรอยูใกลผิวน้ํา<br />

ขอที่ : 9<br />

สูตรการหากําลังในการใชลากเรือตัวเปลาโดยปราศจากใบจักร(Effective Horsepower) ไปดวยความเร็วใดๆคืออะไร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ความตานทานเรือคูณดวยความเร็ว<br />

ความตานทานเรือคูณดวนแรงผลักของใบจักร<br />

แรงผลักของใบจักรคูณดวยความเร็วเรือ<br />

ความตานทานของเรือคูณดวยความเร็วรอบของเพลา


ขอที่ : 10<br />

ขอที่ : 11<br />

ขอที่ : 12<br />

ขอที่ : 13<br />

เครื่องยนตที่ติดตั้งบนเรือ ซึ่งใชกําลังเต็มพิกัด (FULL-POWER OPERATION) อยูเกือบตลอดเวลา สิ่งที่คาดหวังไดวานาจะเกิดขึ้นคือขอใด<br />

คําตอบ 1 : เครื่องยนตมีความเร็วรอบสูง<br />

คําตอบ 2 : เครื่องยนตมี TURBOCHARGER อยูดวย<br />

คําตอบ 3 : เครื่องยนตมีอัตรากินน้ํามันสูง<br />

คําตอบ 4 : เครื่องยนตมีคา MTBO สูง<br />

ขอใดเปนหลักการของ WASTE HEAT RECOVERY ที่มักปฏิบัติกันอยูบนเรือทั่วไป<br />

คําตอบ 1 : เอาน้ําทะเลจาก LUBE OIL COOLER มาหุงตมอาหาร<br />

คําตอบ 2 : เอาอากาศรอนจากทอแกสเสียมาใหความรอนกับหมอน้ํา<br />

คําตอบ 3 : เอาน้ําหลอเสื้อสูบมาทําน้ําอุนสําหรับใหผูโดยสารอาบ<br />

คําตอบ 4 : เอาอากาศรอนจากทอแกสเสียไปอุนน้ํามันเชื้อเพลิง<br />

โดยทั่วไปตัวขับเคลื่อน ( PROPULSOR) ชนิดใดใหประสิทธิภาพต่ําที่สุดเมื่อติดตั้งบนเรือแบบ DISPLACEMENT TYPE<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

FULLY CAVITATING PROPELLER<br />

PROPELLER IN NOZZLES<br />

CONTRAROTATING PROPELLER<br />

VERTICAL-AXIS PROPELLER<br />

ใบจักรแบบ PROPELLER IN NOZZLE มักนํามาติดตั้งในเรือชนิดใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

เรือลากจูง (TUG)<br />

คําตอบ 2 : เรือบรรทุกน้ํามัน<br />

คําตอบ 3 : เรือรบความเร็วสูง<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 4 : เรือประเภทใบจักรคู<br />

3 of 125<br />

ขอที่ : 14<br />

คากําลังของเรือที่ SUSTAINED SEA SPEED มีคาประมาณกี่เปอรเซ็นตของคากําลังที่ TRIAL SPEED<br />

คําตอบ 1 : 50 %


คําตอบ 2 : 60 %<br />

คําตอบ 3 : 70 %<br />

คําตอบ 4 : 80 %<br />

4 of 125<br />

ขอที่ : 15<br />

ปจจัยที่สําคัญที่สุดในการเลือกชนิดของเครื่องจักรกลที่ติดตั้งบนเรือคือขอใด<br />

คําตอบ 1 : ความเชื่อถือได [ RELIABILITY]<br />

คําตอบ 2 : อัตราการกินน้ํามัน<br />

คําตอบ 3 : น้ําหนัก<br />

คําตอบ 4 : พื้นที่ติดตั้ง<br />

ขอที่ : 16<br />

เพื่อใหไดมาซึ่งคาประสิทธิภาพสูงสุดของใบจักร สิ่งที่ควรทําคือขอใด<br />

คําตอบ 1 : ใชเพลาที่มีขนาดใหญ<br />

คําตอบ 2 : ใชใบจักรขนาดเล็ก<br />

คําตอบ 3 : ใชใบจักรหลายใบ<br />

คําตอบ 4 : ใชความเร็วรอบเพลาต่ํา<br />

ขอที่ : 17<br />

ขอที่ : 18<br />

ขอใดไมใชขอไดเปรียบของเครื่องยนตดีเซลรอบต่ําที่เหนือกวาเครื่องยนตรอบสูง<br />

คําตอบ 1 : ใชกับน้ํามันที่มีคุณภาพต่ํากวาได<br />

คําตอบ 2 : งายแกการทําใหเปนระบบอัตโนมัติ<br />

คําตอบ 3 : ไมจําเปนตองใชเกียรทดรอบ<br />

คําตอบ 4 : ใชการดับความรอนในเครื่องดวยน้ําทะเลได<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

เรือชนิดใดที่เหมาะกับการใชระบบขับเคลื่อนแบบ ELECTRIC DRIVE PROPULSION มากที่สุด<br />

คําตอบ 1 : เรือบรรทุกเครื่องบิน<br />

คําตอบ 2 : เรือ HYDROFOIL<br />

คําตอบ 3 : เรือ SWATH<br />

คําตอบ 4 : เรือลากจูง ( TUG )


ขอที่ : 19<br />

ขอที่ : 20<br />

ขอที่ : 21<br />

ขอที่ : 22<br />

ขอไดเปรียบของการใชระบบ DC ELECTRIC-DRIVE PROPULSION ที่มีตอ AC ELECTRIC-DRIVE PROPULSION คือขอใด<br />

คําตอบ 1 : มีน้ําหนักเบากวา<br />

คําตอบ 2 : มีประสิทธิภาพสูงกวา<br />

คําตอบ 3 : แผกระจายรังสีความรอนนอยกวา<br />

คําตอบ 4 : ใหคาแรงบิดไดสูงกวา<br />

การใช GAS TURBINE เปนเครื่องจักรใหญของเรือดีกวาการใช STEAM TURBINE หลายอยาง ยกเวนขอใด<br />

คําตอบ 1 : มีน้ําหนักเบา<br />

คําตอบ 2 : ใชน้ํามันเกรดต่ํากวา<br />

คําตอบ 3 : ใชพื้นที่ติดตั้งนอยกวา<br />

คําตอบ 4 : สรางมลภาวะนอยกวา<br />

ขอใดเปนอุปกรณที่สําคัญที่สุดในการปองกันความเสียหายที่อาจเกิดกับเครื่องยนตดีเซลที่ติดตั้งบนเรือ<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

LUBE OIL COOLER<br />

FUEL OIL SERVICE TANK<br />

FUEL OIL PURIFIER<br />

DISTILLING PLANT<br />

หนาที่ของ THRUST BEARING คืออะไร<br />

คําตอบ 1 :<br />

ปองกันแรงรุนของเพลาใบจักร<br />

คําตอบ 2 : รองรับน้ําหนักหนาเกียร<br />

คําตอบ 3 : ปองกันการควงของเพลา<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 4 : ชวยไมใหเกิดการเยื้องศูนยเพลา<br />

5 of 125<br />

ขอที่ : 23<br />

AUXILIARY BOILER ที่ติดตั้งอยูในหองเครื่องของเรือที่มีเครื่องยนตดีเซลเปนเครื่องจักรใหญโดยทั่วไปมีหนาที่อะไร<br />

คําตอบ 1 : ขับเครื่องกําเนิดไฟฟา<br />

คําตอบ 2 : อุนน้ํากอนเขา MAIN BOILER


คําตอบ 3 : ทําน้ําอุนเพื่อใหความรอนแกน้ํามันเชื้อเพลิง<br />

คําตอบ 4 : ผลิตน้ําสําหรับการหุงตม หรือการซักรีด<br />

6 of 125<br />

ขอที่ : 24<br />

ขอใดไมใชอุปกรณที่ติดตั้งสําหรับระบบขับเคลื่อนที่มีเครื่องยนตดีเซลเปนเครื่องจักรใหญ<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

DEAERATING FEED HEATER<br />

FUEL OIL BOOSTER PUMP<br />

JECKET WATER COOLER<br />

LUBE OIL FILTER<br />

ขอที่ : 25<br />

MAIN AIR COMPRESSOR ในหองเครื่องมีไวสําหรับทําอะไร<br />

ขอที่ : 26<br />

ขอที่ : 27<br />

คําตอบ 1 : ผลิตลมเพื่อควบคุมระบบนิวเมติกสในเรือ<br />

คําตอบ 2 : ผลิตลมเพื่อใชสตารทเครื่องยนตดีเซล<br />

คําตอบ 3 : ใชกับเครื่องทําความเย็นในเรือ<br />

คําตอบ 4 : ระบายอากาศตามหองตางๆ ในเรือ<br />

ระบบขับเคลื่อนชนิดใดมีอัตราการกินน้ํามันสูงสุด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

STEAM ENGINE<br />

DIESEL ENGINE<br />

GAS TURBINE<br />

ELECTRIC DRIVE<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอใดกลาวไดถูกตองเกี่ยวกับ GAS TURBINE ที่นํามาติดตั้งบนเรือ<br />

คําตอบ 1 : ใชน้ํามันเกรดเดียวกับเครื่องยนตดีเซลทั่วไป<br />

คําตอบ 2 : ใชเกียรที่มีอัตราทดไมเกิน 10 ตอ 1<br />

คําตอบ 3 : สวนใหญเปนเครื่องที่เรียกวา AIRCRAFT-DERIVATIVE TYPE<br />

คําตอบ 4 : มีอัตราการกินน้ํามันสูงกวา STEAM TURBINE ในขนาดกําลังเทากัน<br />

ขอที่ : 28


สําหรับเรือที่มีปฏิบัติการในหลายยานความเร็วที่แตกตางกันมาก ระบบขับเคลื่อนที่สมควรนํามาพิจารณาติดตั้งคืออะไร<br />

คําตอบ 1 : DIESEL ENGINE<br />

คําตอบ 2 : GAS TURBINE<br />

คําตอบ 3 : CODOG<br />

คําตอบ 4 : NUCLEAR PROPULSION<br />

7 of 125<br />

ขอที่ : 29<br />

ขอที่ : 30<br />

ขอที่ : 31<br />

ขอที่ : 32<br />

ในการใชระบบขับเคลื่อนแบบ CODOG นั้น เมื่อตองการใชเรือที่ความเร็วสูงสุด เครื่องตนกําลังขับที่ใชคือเครื่องใด<br />

คําตอบ 1 : DIESEL ENGINE<br />

คําตอบ 2 : GAS TURBINE<br />

คําตอบ 3 : ทั้ง DIESEL และ GAS TUBINE ที่ FULL POWER<br />

คําตอบ 4 : ทั้ง DIESEL และ GAS TUBINE ที่ HALF POWER<br />

ระบบขับเคลื่อนแบบ CODOG กับ CODAG แตกตางกันอยางไร<br />

คําตอบ 1 : มีจํานวนเครื่องยนตดีเซลไมเทากัน<br />

คําตอบ 2 : CODOG ใชน้ํามันตางชนิดกับ CODAG<br />

คําตอบ 3 : ชนิดของ COUPLING ที่ใชในเกียร<br />

คําตอบ 4 : CODAG ใชเครื่องตนกําลังขับทั้ง 2 ชนิดพรอมกัน<br />

ระบบใดที่เหมาะสมกับการนํามาใชรวมกับการขับเคลื่อนดวย CODAG มากที่สุด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ระบบปรับพิทชใบจักร<br />

ระบบ VERTICAL-AXIS PROPELLER<br />

ระบบเกียรแบบ PLENETARY<br />

ระบบ HYDRAULIC COUPLING<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ในระบบขับเคลื่อนแบบ COGOG นั้นสาเหตุที่ควรใชเครื่อง GAS TURBBINE ขนาดเล็กหนึ่งตัวและขนาดใหญหนึ่งตัวเพราะเหตุใด<br />

คําตอบ 1 : ลดขนาดของพื้นที่ติดตั้ง<br />

คําตอบ 2 : ลดอุณหภูมิในหองเครื่อง<br />

คําตอบ 3 : ประหยัดน้ํามันเชื้อเพลิง


คําตอบ 4 : สามารถแลนที่ความเร็วรอบเครื่องต่ํา ๆ ได<br />

ขอที่ : 33<br />

ระบบขับเคลื่อนที่มีการรวมการทํางานทั้งทางกลและทางดาน THERMODYNAMICS คือขอใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

COGAS<br />

COGOG<br />

STAG<br />

CONAG<br />

ขอที่ : 34<br />

WASTE HEAT BOILER มีความจําเปนอยางยิ่งในระบบขับเคลื่อนชนิดใด<br />

ขอที่ : 35<br />

ขอที่ : 36<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

CODOG<br />

COGAG<br />

STEAM ENGINE<br />

STAG<br />

อุปกรณในขอใดสามารถนํามาใชชวยในการเดินถอยหลัง (REVERSING) ของเครื่องจักรใหญได<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

FLEXIBLE COUPLING<br />

RIGID COUPLING<br />

HYDRAULIC COUPLING<br />

CHAIN COUPLING<br />

อุปกรณในขอใดที่จําเปนตองมีจํานวนมากกวาที่ตองการใชงานจริงหรือที่เรียกวา REDUNDANCY<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

EXHUAST SILENCER<br />

LUBE-OIL PUMP<br />

REDUCTION GEAR<br />

VENTILATION FAN<br />

8 of 125<br />

ขอที่ : 37<br />

การทํา POWER TAKE-OFF จากเครื่องยนตดีเซลซึ่งเปนเครื่องจักรใหญของเรือลําหนึ่งคือขอใด


คําตอบ 1 : เครื่องยนตไปขับเครื่องกําเนิดไฟฟาผานทางสายพานดานหัวเครื่อง<br />

คําตอบ 2 : การเอาแกสเสียไปใชกับ WASTE HEAT BOILER<br />

คําตอบ 3 : ปมสูบน้ําดับเพลิงถูกขับดวยเพลาใบจักรผานทางเกียร<br />

คําตอบ 4 : เครื่องยนตเครื่องนี้ขับเพลา 2 เพลา<br />

9 of 125<br />

ขอที่ : 38<br />

ขอที่ : 39<br />

ขอที่ : 40<br />

ขอที่ : 41<br />

หากเรือของทานมีปญหาในเรื่องของน้ําหนักเรือ เพื่อลดน้ําหนัก ทานควรเลือกติดตั้งเครื่องยนตในขอใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

GAS TURBINE<br />

DIESEL ENGINE<br />

STEAM ENGINE<br />

CODAD<br />

การทํา ELECTRIC LOAD ANALYSIS มีวัตถุประสงคอะไร<br />

คําตอบ 1 :<br />

ใชกระแสไฟอยางมีประสิทธิภาพสูงสุด<br />

คําตอบ 2 : หาจํานวนอุปกรณไฟฟาที่ตองติดตั้งบนเรือ<br />

คําตอบ 3 : ปองกันการรั่วไหลของกระแสไฟฟาในเรือ<br />

คําตอบ 4 : หาขนาดของเครื่องกําเนิดไฟฟาที่จะติดตั้ง<br />

ขอใดกลาวถึงระบบกําเนิดไฟฟาในเรือไดถูกตองที่สุด<br />

คําตอบ 1 : SHIP-SERVICE UNIT ควรประกอบดวยเครื่องกําเนิดไฟฟาขนาดเทากัน 2 เครื่อง<br />

คําตอบ 2 : EMERGENCY UNIT ควรมีขนาดใหญพอเพียงที่จะจายไฟใหกับเครื่องกวานและไฟแสงสวางในเรือได<br />

คําตอบ 3 : ทั้ง SHIP-SERVICE และ EMERGENCY UNIT ควรอยูในหองเดียวกัน<br />

คําตอบ 4 : EMERGENCY UNIT ควรผลิตไฟไดทั้ง AC และ DC<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

การใช POWER TAKE-OFF UNIT สามารถกระทําไดหลายจุดในระบบขับเคลื่อนยกเวนขอใด<br />

คําตอบ 1 : บริเวณหัวเครื่องยนต<br />

คําตอบ 2 : บริเวณเกียรทดรอบ<br />

คําตอบ 3 : บริเวณเพลาใบจักร<br />

คําตอบ 4 : บริเวณกระบอกดีฟุต


ขอที่ : 42<br />

ขอที่ : 43<br />

ขอที่ : 44<br />

ขอที่ : 45<br />

ในการออกแบบระบบหางเสือของเรือคาสําคัญที่สุดที่ผูออกแบบควรทราบคืออะไร<br />

คําตอบ 1 : ความเร็วของน้ําเขาสูหางเสือ<br />

คําตอบ 2 : ความเร็วเรือ<br />

คําตอบ 3 : ระวางขับน้ําของเรือ<br />

คําตอบ 4 : คาแรงบิดของใบหางเสือ<br />

สถานีควบคุมของระบบขับเคลื่อนบนเรือสามารถพบไดหลายแหงยกเวนขอใด<br />

คําตอบ 1 : หองเครื่องจักรใหญ<br />

คําตอบ 2 : หองหางเสืออะไหลทายเรือ<br />

คําตอบ 3 : สะพานเดินเรือ<br />

คําตอบ 4 : หองทํางานของตนกล [ CHIEF ENGINEER ’S OFFICE]<br />

ขอใดเปนคําจํากัดความของคําวา AVAILABILITY ของระบบ<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

เทากับ MTBF<br />

เทากับ MTBR<br />

เทากับ MTBF/[MTBF+MTTR]<br />

เทากับ MTBF/[MTBF-MTTR]<br />

การทดสอบในขอใดมิไดกระทําในระหวางทดลองเรือในทะเล [ SEA TRIAL ]<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

FULL-POWER ENDURANCE TEST<br />

ASTERN ENDURANCE TEST<br />

ASTERN STEERING TEST<br />

MACHINERY ALIGNMENT TEST<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

10 of 125<br />

ขอที่ : 46<br />

อัตราสวนระหวาง Cpo/Cvo ของอากาศมีคาเทาใด<br />

คําตอบ 1 : 0.8


คําตอบ 2 : 1.0<br />

คําตอบ 3 : 1.2<br />

คําตอบ 4 : 1.4<br />

11 of 125<br />

ขอที่ : 47<br />

ขอที่ : 48<br />

ขอที่ : 49<br />

ขอที่ : 50<br />

เครื่อง Low-Speed Marine Diesel Engine จะมีลักษณะการทํางานแบบใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

2 จังหวะ<br />

4 จังหวะ<br />

คําตอบ 3 : ทั้ง 2 และ 4 จังหวะ<br />

คําตอบ 4 : 4 จังหวะพรอมติดตั้ง Turbocharger<br />

ลูกสูบแบบใดที่มีการนํามาใชกับเครื่องยนต Low-Speed Marine Diesel Engine เทานั้น<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Trunk Piston<br />

Opposed Piston<br />

Crosshead Piston<br />

Rotary Piston<br />

สาเหตุที่เครื่องยนต Marine Diesel Engine สวนใหญมีการนําเอา Turbocharger มาใชก็เพราะเหตุใด<br />

คําตอบ 1 : ลดอัตราการกินน้ํามัน<br />

คําตอบ 2 : ใหอากาศผสมกับน้ํามันไดดียิ่งขึ้น<br />

คําตอบ 3 : ลดความรอนที่เกิดขึ้นในกระบอกสูบ<br />

คําตอบ 4 : เพิ่มคาความดันอากาศในกระบอกสูบ<br />

หากตองการทราบวาเครื่องยนตดีเซลจะสามารถผลิตกําลังไดมากนอยเพียงใด คาตัวเลขที่สามารถบงชี้ไดดีที่สุดคือขอใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

อุณหภูมิของการจุดระเบิด<br />

IMEP<br />

Compression Ratio<br />

ความดันสูงสุดในระบบ


ขอที่ : 51<br />

ขอที่ : 52<br />

ขอที่ : 53<br />

ขอที่ : 54<br />

ขอใดมีการแปรผันโดยตรงกับคา Brake Horsepower ของเครื่องยนตดีเซล<br />

คําตอบ 1 : อัตราการกินน้ํามันของเครื่อง<br />

คําตอบ 2 : จํานวนลูกสูบ<br />

คําตอบ 3 : อัตราสวนผสมของอากาศและน้ํามัน<br />

คําตอบ 4 : ปริมาณน้ํามันที่ฉีดเขาในกระบอกสูบ<br />

การเพิ่มคา BMEP ของเครื่องยนตดีเซลสามารถทําไดดวยวิธีใด<br />

คําตอบ 1 : เพิ่มคาความเร็วรอบเครื่อง<br />

คําตอบ 2 : ติดตั้ง Turbocharger<br />

คําตอบ 3 : ลดอุณหภูมิภายในเครื่อง<br />

คําตอบ 4 : ใชเกียรที่มีขนาดเหมาะสม<br />

ขอใดเปนสูตรความเร็วของลูกสูบ (Piston Speed) เมื่อ L=Stroke และ N= RPM<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

LN<br />

2LN<br />

L/N<br />

N/L<br />

ทางทฤษฎีมักพบคําพูดที่วา เครื่องยนตดีเซลเปนเครื่องจักรที่มีคาแรงบิด (Torque) คงที่ นั่นหมายความวาอยางไร<br />

คําตอบ 1 : คาความเร็วรอบเครื่องและแรงบิดไมขึ้นอยูกับกันและกัน<br />

คําตอบ 2 : คาแรงบิดไมขึ้นอยูกับอัตราการไหลของน้ํามัน<br />

คําตอบ 3 : คากําลังเครื่องไมขึ้นอยูกับแรงบิด<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 4 : คากําลังเครื่องไมขึ้นอยูกับความเร็วรอบ<br />

12 of 125<br />

ขอที่ : 55<br />

คาความเร็วรอบต่ําสุด (Minimum RPM) ของเครื่องยนตดีเซลแบบความเร็วรอบสูงมักถูกกําหนดขึ้นโดยคํานึงถึงขอใด<br />

คําตอบ 1 : การควบคุมอัตราการไหลของน้ํามันที่ความเร็วรอบต่ํา<br />

คําตอบ 2 : ความสึกหรอ


คําตอบ 3 : อุณหภูมิของอากาศเสียที่ถูกขับออกไป<br />

คําตอบ 4 : การดับความรอนในเครื่องไมดีพอ<br />

13 of 125<br />

ขอที่ : 56<br />

ขอใดมีผลในการกําหนดคาความเร็วรอบสูงสุดของเครื่องยนต<br />

คําตอบ 1 : Heat Exchanger<br />

คําตอบ 2 : Reduction Gear<br />

คําตอบ 3 : Turbocharger<br />

คําตอบ 4 : Type of Fuel Pump<br />

ขอที่ : 57<br />

ขอใดกลาวไดถูกตองเกี่ยวกับการ Rating ของเครื่องยนตดีเซล<br />

คําตอบ 1 : Max power < MCR<br />

คําตอบ 2 : MCR < Intermittent Power<br />

คําตอบ 3 : Max Power < Intermittent Power<br />

คําตอบ 4 : Intermittent Power=60% Power<br />

ขอที่ : 58<br />

การปรับลดคากําลังของเครื่อง (Derating) มีสาเหตุหลายประการยกเวนขอใด<br />

ขอที่ : 59<br />

คําตอบ 1 : ความดันบรรยากาศโดยรอบ<br />

คําตอบ 2 : ความชื้นสัมพัทธ<br />

คําตอบ 3 : อุณหภูมิของน้ําทะเล<br />

คําตอบ 4 : อุณหภูมิของน้ํามัน<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

อัตราการกินน้ํามันของเครื่องยนตจะไดรับผลกระทบมากที่สุดเมื่อมีการกระทําในขอใด<br />

คําตอบ 1 : ปรับลดกําลังเครื่องลง (Derating)<br />

คําตอบ 2 : ติดตั้ง Intercooler<br />

คําตอบ 3 : เปลี่ยนที่ตั้งของถังน้ํามันใชการในเรือ<br />

คําตอบ 4 : อุณหภูมิของน้ํามันหลอสูงขึ้น<br />

ขอที่ : 60


ระบบขับเคลื่อนบนเรือที่มีเครื่องยนตดีเซลเปนเครื่องจักรใหญนั้น กําลังที่เครื่องจะสามารถสรางขึ้นมาไดขึ้นอยูกับขอใด<br />

คําตอบ 1 : ระยะหางของแบริ่งรับเพลา<br />

คําตอบ 2 : ขนาดของเพลา<br />

คําตอบ 3 : ลักษณะการทํางานของใบจักร<br />

คําตอบ 4 : ระบบของเกียรที่ใช<br />

14 of 125<br />

ขอที่ : 61<br />

ขอที่ : 62<br />

คา Mean Time Between Overhaul (MTBO) เปนตัวที่ใชกําหนดการกระทําในขอใด<br />

คําตอบ 1 : การเปลี่ยนเครื่องใหมแทนของเกา<br />

คําตอบ 2 : การซอมบํารุงเครื่อง<br />

คําตอบ 3 : ขนาดของเครื่องที่ติดตั้งบนเรือ<br />

คําตอบ 4 : โครงสรางของฐานแทนเครื่อง<br />

เครื่องยนตที่ใชติดตั้งบนเรือสําราญสวนใหญจะใช การ Rating แบบใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Maximum Power<br />

Intermittent Power<br />

MCR<br />

Temporary Maximum Power<br />

ขอที่ : 63<br />

High-Speed Marine Diesel Engine ที่มีการดูดอากาศเขาลูกสูบเอง โดยไมมี Turbocharger มีคา Compression Ratio ประมาณเทาใด<br />

ขอที่ : 64<br />

คําตอบ 1 : 9 ตอ 1<br />

คําตอบ 2 : 12 ตอ 1<br />

คําตอบ 3 : 14 ตอ 1<br />

คําตอบ 4 : 19 ตอ 1<br />

คาประสิทธิภาพสูงสุดที่คาดหวังไดจากเครื่องยนตดีเซลในทางปฏิบัติ คือคาใด<br />

คําตอบ 1 : 30%<br />

คําตอบ 2 : 50%<br />

คําตอบ 3 : 70%<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


คําตอบ 4 : 80%<br />

ขอที่ : 65<br />

15 of 125<br />

ขอที่ : 66<br />

ขอที่ : 67<br />

ขอที่ : 68<br />

คําตอบ 1 : 1.2<br />

คําตอบ 2 : 1.3<br />

คําตอบ 3 : 1.4<br />

คําตอบ 4 : 1.5<br />

คา CETANE NUMBER บงบอกถึงคุณภาพของน้ํามันในขอใด<br />

คําตอบ 1 : ปริมาณคารบอนในน้ํามัน<br />

คําตอบ 2 : การระเหย<br />

คําตอบ 3 : การจุดระเบิด<br />

คําตอบ 4 : ปริมาณของออกซิเจนในน้ํามัน<br />

การเพิ่มคา COMPRESSION RATIO ของเครื่องยนตดีเซลจะสงผลกระทบอยางไร<br />

คําตอบ 1 : เพิ่มจํานวนลูกสูบของเครื่อง<br />

คําตอบ 2 : เพิ่มน้ําหนักของเครื่อง<br />

คําตอบ 3 : เพิ่มจํานวนของเขมา<br />

คําตอบ 4 : เพิ่มอัตราการไหลของน้ําดับความรอน<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอใดบรรยายเกี่ยวกับคา IMEP ไดถูกตองที่สุด<br />

คําตอบ 1 : เปนคาความดันเฉลี่ยในแตละกระบอกสูบ<br />

คําตอบ 2 : เปนคาความดันสูงสุดในกระบอกสูบของเครื่องยนต<br />

คําตอบ 3 : เปนคาความดันแกสกอนเขาสูกระบอกสูบ<br />

คําตอบ 4 : เปนคาความดันคงที่ ที่จะกอใหเกิดงานเทากับที่เกิดขึ้นจริงทางปฏิบัติหากใสเขาไปในกระบอกสูบเดียวกัน<br />

ขอที่ : 69


ถาเอาคา BMEP หารดวย IMEP ผลที่ไดคืออะไร<br />

คําตอบ 1 : ประสิทธิภาพทางกลของเครื่องยนตดีเซล<br />

คําตอบ 2 : คาประสิทธิภาพของลูกสูบ<br />

คําตอบ 3 : ปริมาตรในกระบอกสูบ<br />

คําตอบ 4 : งานที่เกิดจากการหมุนของเพลา<br />

16 of 125<br />

ขอที่ : 70<br />

ขอที่ : 71<br />

ขอที่ : 72<br />

ขอที่ : 73<br />

คา IMEP บงบอกสิ่งใด<br />

คําตอบ 1 : ประสิทธิภาพของเครื่องยนต<br />

คําตอบ 2 : ประสิทธิภาพของน้ํามัน<br />

คําตอบ 3 : พลังงานที่ WORKING FLUID ใหกับเครื่องยนต<br />

คําตอบ 4 : พลังงานที่อากาศใหกับเครื่องยนต<br />

พื้นที่ที่ลอมรอบดวยเสนเชื่อมตอระหวาง STATE ตาง ๆ ของวัฏจักรดีเซลบนไดอะแกรม P-V มีคาเทากับเทาใด<br />

คําตอบ 1 : ความรอนที่ตองใสใหกับระบบ<br />

คําตอบ 2 : ความรอนที่ไดออกมาจากระบบ<br />

คําตอบ 3 : งานที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของลูกสูบครบ 1 วงรอบ<br />

คําตอบ 4 : ปริมาตรของอากาศในลูกสูบ<br />

เครื่องยนตดีเซลมี 6 ลูกสูบ ขนาด BORE = 25 in (635 mm), stroke = 95 in (2,413 mm) คา IMEP= 200psi (1,379 kPa) ที่ 120 rpm การทํางานแบบ 4 จังหวะ จงหาคา<br />

INDICATIVE POWER<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

6,373 HP (4,752 kW)<br />

8,478 HP (6,322 kW)<br />

12,384 HP (9,235 kW)<br />

16,957 HP (12,645 kW)<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

เครื่องยนตดีเซล 2 เครื่อง มีลักษณะเหมือนกันทุกประการ ทั้งดานทางกลและทาง THEMODYNAMICS เวนเพียงแตเครื่องหนึ่งทํางานแบบ 2 จังหวะ อีกเครื่องทํางานแบบ 4<br />

จังหวะ เครื่องใดจะผลิตกําลังไดมากกวากัน<br />

คําตอบ 1 : เครื่องแบบ 2 จังหวะ<br />

คําตอบ 2 : เครื่องแบบ 4 จังหวะ


คําตอบ 3 : เทากันทั้ง 2 เครื่อง<br />

คําตอบ 4 : ขอมูลไมเพียงพอ<br />

17 of 125<br />

ขอที่ : 74<br />

ขอที่ : 75<br />

ขอที่ : 76<br />

ขอที่ : 77<br />

เราไมสามารถเพิ่มกําลังของเครื่องยนตดีเซลเครื่องหนึ่งซึ่งมีการทํางานแบบ 2 จังหวะไดดวยการกระทําในขอใด<br />

คําตอบ 1 : เพิ่ม IMEP<br />

คําตอบ 2 : เพิ่มคา BORE<br />

คําตอบ 3 : เพิ่มคาความยาวของ STROKE<br />

คําตอบ 4 : เปลี่ยนการทํางานของเครื่องใหเปนแบบ 4 จังหวะ<br />

เครื่องยนตดีเซลแบบ 2 จังหวะ มีคา IHP = 10,000 HP (7,457 kW), IMEP = 150 PSI (1,034 kPa), BORE = 32 in (813 mm), STROKE = 105 in (2,667 mm) จะมี<br />

ความเร็วรอบเทากับกี่ RPM<br />

คําตอบ 1 : 122<br />

คําตอบ 2 : 216<br />

คําตอบ 3 : 313<br />

คําตอบ 4 : 487<br />

เครื่องดีเซล ผลิตกําลังได 567 kW ที่ 1,800 RPM หากเครื่องถูกตั้งคา THROTTLE ไวที่ 80% ของคาสูงสุด เครื่องจะสามารถผลิตกําลังไดกี่ kW<br />

คําตอบ 1 : 397<br />

คําตอบ 2 : 453<br />

คําตอบ 3 : 113<br />

คําตอบ 4 : 283<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ในทางทฤษฎี หากนําคาแรงบิด (TORQUE) ที่เครื่องยนตดีเซลผลิตไดมาพลอต (แกน y) กับ RPM (แกน x) ลักษณะของเสนที่ไดจะเปนอยางไร<br />

คําตอบ 1 : เสนดิ่ง<br />

คําตอบ 2 : เสนระนาบ<br />

คําตอบ 3 : เสนทแยงผานจุดกําเนิด (ORIGIN)<br />

คําตอบ 4 : เสนโคงพาราโบลิก


ขอที่ : 78<br />

ขอที่ : 79<br />

ขอที่ : 80<br />

ขอที่ : 81<br />

เมื่อนําคากําลังที่เครื่องยนตดีเซลสรางขึ้นมาไดมาพลอต (แกนy) กับ RPM (แกน x) ลักษณะของเสนที่ไดในทางทฤษฎีจะมีลักษณะอยางไร<br />

คําตอบ 1 : เสนดิ่ง<br />

คําตอบ 2 : เสนระนาบ<br />

คําตอบ 3 : เสนเฉียงขึ้น<br />

คําตอบ 4 : เสนคลายพาราโบลิก<br />

คา MEP ในสูตรการคํานวณหาคากําลังของเครื่องยนตดีเซลจะเปลี่ยนแปลงตามขอใดในทางทฤษฎี<br />

คําตอบ 1 :<br />

เปอรเซนตการ THROTTLE<br />

คําตอบ 2 : ความเร็วรอบเครื่อง<br />

คําตอบ 3 : อุณหภูมิของอากาศเขาสูเครื่อง<br />

คําตอบ 4 : อุณหภูมิของเครื่องกอนทํางาน<br />

เครื่องยนตดีเซลมีคา COMPRESSION RATIO =20 อากาศเขาสูลูกสูบที่อุณหภูมิ 300 K จงหาคาอุณหภูมิของอากาศที่ทางออกหลังจากถูกขับออกจากกระบอกสูบ ถาเรา<br />

สามารถใชสมมติฐานของแกสในอุดมคติได<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

417 K<br />

576 K<br />

838 K<br />

994 K<br />

ที่คา COMPRESSION RATIO เทากัน เครื่องยนตเบนซินกับเครื่องยนตดีเซล เครื่องใดจะมีประสิทธิภาพสูงกวากัน<br />

คําตอบ 1 : เครื่องยนตเบนซิน<br />

คําตอบ 2 : เครื่องยนตดีเซล<br />

คําตอบ 3 : มีคาเทากัน<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 4 : ขึ้นอยูกับอุณหภูมิของอากาศที่เขาลูกสูบ<br />

18 of 125<br />

ขอที่ : 82<br />

สําหรับเครื่องยนตดีเซลแบบ 4 จังหวะ CRANKSHAFT จําเปนตองหมุนครบกี่รอบ เครื่องจึงทํางานครบหนึ่งวงรอบของการสรางกําลัง ( ONE POWER STROKE )<br />

คําตอบ 1 : 1<br />

คําตอบ 2 : 2


คําตอบ 3 : 3<br />

คําตอบ 4 : 4<br />

19 of 125<br />

ขอที่ : 83<br />

ขอที่ : 84<br />

ขอที่ : 85<br />

เครื่องยนตดีเซลมีการทํางานจริงคลายกับวัฏจักรใดมากที่สุด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

OTTO CYCLE<br />

DIESEL CYCLE<br />

DUAL CYCLE<br />

STERLING CYCLE<br />

เครื่องยนตดีเซลแบบ 4 จังหวะเครื่องหนึ่งมี 8 ลูกสูบ ความเร็วรอบ = 160 RPM จงหาคาจํานวน POWER STROKE ตอนาที<br />

คําตอบ 1 : 160<br />

คําตอบ 2 : 320<br />

คําตอบ 3 : 480<br />

คําตอบ 4 : 640<br />

จงหาคาความเร็วรอบของเครื่องยนตดีเซลที่มี 10 ลูกสูบ มีการทํางานแบบ 2 จังหวะ และมีจํานวน POWER STROKE ตอนาทีเทากับ 1680<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

168 RPM<br />

240 RPM<br />

336 RPM<br />

420 RPM<br />

ขอที่ : 86<br />

เครื่องยนตดีเซลแบบ2 จังหวะ มีจํานวนลูกสูบ 12 สูบ จะมีจํานวน POWER STROKE เทากับเทาใดใน 1 รอบการหมุนของ CRANKSHAFT<br />

คําตอบ 1 : 6<br />

คําตอบ 2 : 12<br />

คําตอบ 3 : 18<br />

คําตอบ 4 : 24<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอที่ : 87


การจัดวางลูกสูบของเครื่องยนตดีเซลแบบใดทําใหเกิดการสั่นสะเทือนต่ําที่สุด<br />

คําตอบ 1 : IN - LINE<br />

คําตอบ 2 : V - TYPE<br />

คําตอบ 3 : OPPOSED PISTON<br />

คําตอบ 4 : DELTA CONFIGURATION<br />

20 of 125<br />

ขอที่ : 88<br />

เครื่องดีเซลมีขนาด BORE = 50 cm และ STROKE = 150cm จงหาปริมาตรในกระบอกสูบ<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ขอที่ : 89<br />

ขอที่ : 90<br />

เครื่องยนตดีเซลมีกําลัง 550 HP (410 kW) ที่ความเร็วรอบ 1,200 RPM จงหาคาแรงบิดที่เครื่องนี้สามารถทําได<br />

คําตอบ 1 : 1200 ft-lb (1,627 N-m)<br />

คําตอบ 2 : 2407 ft-lb (3,264 N-m)<br />

คําตอบ 3 : 3111 ft-lb (4,218 N-m)<br />

คําตอบ 4 : 3648 ft-lb (4,947 N-m)<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ถาความเร็วรอบของเครื่องยนตดีเซล = 800 RPM และขนาด STROKE = 260 cm จงหาความเร็วของลูกสูบ (Piston Speed)<br />

คําตอบ 1 : 29.3 m/s<br />

คําตอบ 2 : 46.7 m/s<br />

คําตอบ 3 : 69.3 m/s<br />

คําตอบ 4 : 88.2 m/s


ขอที่ : 91<br />

ขอที่ : 92<br />

ขอที่ : 93<br />

เครื่องยนตดีเซลแบบ 4 จังหวะ มี 8 ลูกสูบจัดเรียงในลักษณะตัววี คา IMEP= 180 psi (1,241 kPa) และคา BMEP = 162 psi (1,117 kPa) จงหาคาประสิทธิภาพทางกลของ<br />

เครื่องนี้<br />

คําตอบ 1 : 0.1<br />

คําตอบ 2 : 0.2<br />

คําตอบ 3 : 0.5<br />

คําตอบ 4 : 0.9<br />

เครื่องยนตดีเซลที่มีคาแรงบิดเทากับ 1800 ft-lb (2,441 kPa) จะตองมีความเร็วรอบเทาใดจึงจะผลิตกําลังได 600 HP (447 kW)<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

918 RPM<br />

1,094 RPM<br />

1,750 RPM<br />

1,892 RPM<br />

กรณีที่เครื่องดีเซล 2 เครื่อง มีความเหมือนกันและจํานวนลูกสูบเทากัน คาสัดสวนของ BORE และ STROKE ก็เทากัน คา WEIGHT-DISPLACEMENT RATIO จะมีคาเทาใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

21 of 125<br />

ขอที่ : 94


คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

อัตราสวนของ BORE<br />

อัตราสวนของ Stroke<br />

% Throttle<br />

% Piston Speed<br />

22 of 125<br />

ขอที่ : 95<br />

คา % THROTTLE แปรผันอยางไรกับคาแรงบิด, Q ของเครื่องยนตดีเซล<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ขอที่ : 96<br />

เครื่องยนตดีเซลที่มี RATING แบบ INTERMITTENT- DUTY หมายความวาสามารถนําไปใชงานที่ 90 % ของความเร็วรอบสูงสุดไดเปนเวลาเทาใด<br />

คําตอบ 1 : 1 ชม. ของทุก 12 ชม. ใชงาน<br />

คําตอบ 2 : 2 ชม. ของทุก 12 ชม. ใชงาน<br />

คําตอบ 3 : 1 ชม. ของทุก 6 ชม. ใชงาน<br />

คําตอบ 4 : 2 ชม. ของทุก 6 ชม. ใชงาน<br />

ขอที่ : 97<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

เรือชนิดใดที่นาจะมีการใช RATING ของเครื่องยนตดีเซลที่ MAXIMUM POWER มากที่สุด<br />

คําตอบ 1 : PASSENGER LINER<br />

คําตอบ 2 : AIRCRAFT CARRIER<br />

คําตอบ 3 : TUG<br />

คําตอบ 4 : YACHT


ขอที่ : 98<br />

ขอที่ : 99<br />

ขอที่ : 100<br />

ขอที่ : 101<br />

ตามหลักการแลว ในการเลือกใบจักรที่ดี จะตองเลือกใหมันสามารถใชกําลังของเครื่องไดอยางมีประสิทธิภาพที่สุด ที่ความเร็วรอบเครื่องยนตประมาณเทาใด<br />

คําตอบ 1 : 50 %<br />

คําตอบ 2 : 60 %<br />

คําตอบ 3 : 85 %<br />

คําตอบ 4 : 100 %<br />

การ RATING แบบใดที่จะทําใหเครื่องยนตดีเซลสามารถทํางานไดตลอดเวลาที่คา RPM สูงสุด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

MCR<br />

INTERMITTENT<br />

MAXIMUM<br />

MEDIUM<br />

เพื่อเปนการปองกันอาการ STALL ของเครื่องยนตดีเซลจึงจําเปนตองมีการตั้งคาต่ําสุดของตัวแปรตัวใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

FUEL RATE<br />

BMEP<br />

RPM<br />

EXHAUST TEMPERATURE<br />

การใชเครื่องยนตดีเซลที่คา BMEP ต่ําเกินไปสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือขอใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

เกิดควันดํา<br />

เทอรโบชารจเจอรไมสามารถทํางานได<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

เกิดปญหาในการจุดระเบิด<br />

การจับตัวของคารบอนทําใหลูกสูบสึกหรอเร็ว<br />

23 of 125<br />

ขอที่ : 102<br />

หากคา MAXIMUM POWER ของเครื่องยนตดีเซลเครื่องหนึ่งเทากับ 200 HP (149 kW) แลว คา INTERMITTENT POWER ของเครื่องนี้นาจะมีคาใด<br />

คําตอบ 1 : 90 HP (67kW)


คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

165 HP (123 kW)<br />

210 HP (156 kW)<br />

275 HP (205 kW)<br />

24 of 125<br />

ขอที่ : 103<br />

การทํางานของเครื่องยนตดีเซลที่ติดตั้งบนเรือขึ้นอยูกับปจจัยในขอใดมากที่สุด<br />

คําตอบ 1 : การทํางานของใบจักร<br />

คําตอบ 2 : ชนิดของเพลาที่ใช<br />

คําตอบ 3 : การทํางานของเกียร<br />

คําตอบ 4 : ชนิดของ LINE SHAFT BEARING<br />

ขอที่ : 104<br />

ขอใดเปนเหตุที่ทําใหการ RATING กําลังของเครื่องยนตดีเซลตกเปนความรับผิดชอบของวิศวกรเครื่องกลเรือ<br />

คําตอบ 1 : เครื่องยนตที่มีจําหนายไมไดมาตรฐาน<br />

คําตอบ 2 : การทํางานของเครื่องขึ้นอยูกับความยาวของเพลา<br />

คําตอบ 3 : กําลังของเครื่องยนตขึ้นอยูกับตําแหนงติดตั้งเครื่องบนเรือ<br />

คําตอบ 4 : การสึกหรอของเครื่องและชวงเวลาในการซอมบํารุง<br />

ขอที่ : 105<br />

เครื่องยนตดีเซลแบบใดที่มีลักษณะเปน CROSSHEAD ENGINE<br />

คําตอบ 1 : LOW SPEED<br />

คําตอบ 2 : MEDIUM SPEED<br />

คําตอบ 3 : HIGH SPEED<br />

คําตอบ 4 : TURBOCHARGED ENGINE<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอที่ : 106<br />

TURBOCHARGER แบบใดจําเปนตองมี COMMON MANIFOLD สําหรับเก็บแกสเสียที่ออกมาจากลูกสูบของเครื่องยนตดีเซล<br />

คําตอบ 1 : CONSTANT-PRESSURE TYPE<br />

คําตอบ 2 : PULSE TYPE<br />

คําตอบ 3 : SINGLE-STAGE TURBOCHARGER<br />

คําตอบ 4 : ถูกทั้งขอ 1 และ 2


ขอที่ : 107<br />

การนําเอาน้ําจืดที่ออกจากเครื่องจักรใหญไปผานในหมอดับความรอน (Heat Exchanger) ถือวาเปนขั้นตอนใด เมื่อเปรียบเทียบกับ Air St<strong>and</strong>ard Cycle<br />

คําตอบ 1 : เพิ่มความดัน<br />

คําตอบ 2 : ลดความชื้น<br />

คําตอบ 3 : ถายเทความรอนใหกับสิ่งแวดลอม<br />

คําตอบ 4 : เพิ่มความหนาแนนของน้ํา<br />

ขอที่ : 108<br />

อุณหภูมิของอากาศที่ถูกดูดเขาเครื่องยนตดีเซลตามมาตรฐาน ISO St<strong>and</strong>ard มีคาเทากับเทาใด<br />

คําตอบ 1 : 25 C<br />

คําตอบ 2 : 27 C<br />

คําตอบ 3 : 30 C<br />

คําตอบ 4 : 37 C<br />

ขอที่ : 109<br />

น้ํามันที่ใชกับเครื่องยนตดีเซลชนิดความเร็วรอบสูงมีชื่อเรียกวาอะไร<br />

คําตอบ 1 : Residual<br />

คําตอบ 2 : Marine Gas Oil<br />

คําตอบ 3 : Marine Diesel Oil<br />

คําตอบ 4 : Intermidiate<br />

ขอที่ : 110<br />

การแบงประเภทของน้ํามันออกเปน Heavy Fuel และ Light Fuel จัดวาเปนการแบงตามปจจัยขอใด<br />

คําตอบ 1 : ความหนาแนน<br />

คําตอบ 2 : ความบริสุทธิ์<br />

คําตอบ 3 : จุดเดือด<br />

คําตอบ 4 : ความหนืด<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

25 of 125<br />

ขอที่ : 111<br />

น้ํามันที่ใชกับเรือที่มีเครื่องจักรไอน้ําเปนเครื่องจักรใหญคือขอใด<br />

คําตอบ 1 : Distillate<br />

คําตอบ 2 : Intermediate


คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Bunker C<br />

Navy Diesel<br />

26 of 125<br />

ขอที่ : 112<br />

ขอที่ : 113<br />

ขอที่ : 114<br />

ขอที่ : 115<br />

อัตราการกินน้ํามันหลอลื่นของเครื่องยนตดีเซลมีคาประมาณเทาใดของอัตราการกินน้ํามันเชื้อเพลิง<br />

คําตอบ 1 : 50 %<br />

คําตอบ 2 : 25 %<br />

คําตอบ 3 : 10 %<br />

คําตอบ 4 : 1 %<br />

คา HHV เปนตัวที่ใชวัดคาใด<br />

คําตอบ 1 : อุณหภูมิของน้ํามันเชื้อเพลิง<br />

คําตอบ 2 : พลังงานที่ไดออกมาจากน้ํามัน<br />

คําตอบ 3 : ความหนืดของน้ํามัน<br />

คําตอบ 4 : คามาตรฐานความรอนของตัวเครื่อง<br />

เหตุใดเครื่องยนตที่มี TURBOCHARGER จึงมีเสียงเงียบกวาเครื่องที่ไมมี TURBOCHARGER<br />

คําตอบ 1 : เครื่องทํางานที่รอบเร็วกวา<br />

คําตอบ 2 : ความเร็วของอากาศมีมากกวา<br />

คําตอบ 3 : เสียงสวนใหญถูกกําจัดไปแลวใน EXHAUST MANIFOLD<br />

คําตอบ 4 : มี TURBINE เปนตัวชวย<br />

เสียงที่เกิดจากทอแกสเสียมีตนเหตุมาจากขอใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

อุณหภูมิของแกสเสีย<br />

อุณหภูมิบรรยากาศโดยรอบ<br />

คําตอบ 3 : ความไมสม่ําเสมอของความดันแกสเสีย<br />

คําตอบ 4 : ความขรุขระของผิวทอแกสเสีย<br />

ขอที่ : 116


WET MUFFLER ที่ใชกับเรือขนาดเล็กโดยทั่วไปใชสิ่งใดมาดับความรอนของแกสเสีย<br />

คําตอบ 1 : น้ําทะเล<br />

คําตอบ 2 : น้ําจืด<br />

คําตอบ 3 : ปลอยแกสออกนอกเรือใตแนวน้ํา<br />

คําตอบ 4 : น้ําจืดที่ใชชําระลางในเรือ<br />

27 of 125<br />

ขอที่ : 117<br />

ความหนืดของน้ํามันเชื้อเพลิงที่ใชกับเครื่องดีเซลมีผลกระทบกับอุปกรณใดมากที่สุด<br />

คําตอบ 1 : BOOSTER PUMP<br />

คําตอบ 2 : FUEL FILTER<br />

คําตอบ 3 : OIL PURIFIER<br />

คําตอบ 4 : INJECTION PUMP<br />

ขอที่ : 118<br />

ขอที่ : 119<br />

น้ํามันในขอใดใหความรอนไดต่ําที่สุด<br />

คําตอบ 1 : RESIDUAL<br />

คําตอบ 2 : INTERMIDIATE<br />

คําตอบ 3 : DISTILLATE<br />

คําตอบ 4 : JP 5<br />

ขอใดไมใชผลผลิตของการจุดระเบิดในลูกสูบของเครื่องยนตดีเซล<br />

คําตอบ 1 : ผงคารบอน ( CARBON RESIDUE )<br />

คําตอบ 2 : SULFUR<br />

คําตอบ 3 : VANADIUM<br />

คําตอบ 4 : SODIUM<br />

ขอที่ : 120<br />

อุปกรณที่ควบคุมความเร็วรอบเครื่องของเครื่องดีเซล เรียกวาอะไร<br />

คําตอบ 1 : FUEL INJECTION PUMP<br />

คําตอบ 2 : GOVERNOR<br />

คําตอบ 3 : PLUNGER<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


คําตอบ 4 :<br />

CAMSHAFT<br />

ขอที่ : 121<br />

ขอที่ : 122<br />

ขอที่ : 123<br />

ขอที่ : 124<br />

สําหรับเครื่องยนตดีเซลที่สามารถกลับทิศทางการหมุนไดโดยตรง ปกติจะตองสามารถเก็บลมไวสําหรับสตารทเครื่องไดอยางนอยกี่ครั้ง โดยไมตองมีการอัดลมเพิ่มในถังเก็บเลย<br />

คําตอบ 1 : 5<br />

คําตอบ 2 : 7<br />

คําตอบ 3 : 9<br />

คําตอบ 4 : 12<br />

อุปกรณใดที่ใชในการควบคุมการฉีดน้ํามันเขากระบอกสูบของเครื่องดีเซล<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

FUEL RACK<br />

STARTING AIR VALVE<br />

INJECTION PUMP<br />

DISTRIBUTOR<br />

สําหรับเครื่องยนตดีเซลที่มีรอบคงที่อยางเชน เครื่องขับเครื่องกําเนิดไฟฟา ฯลฯ ตําแหนงของ FUEL RACK ถูกควบคุมโดยอุปกรณใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

CAM SHAFT<br />

GOVERNOR<br />

FUEL INJECTION PUMP<br />

BOOSTER PUMP<br />

ความดันอากาศที่เก็บไวในถังบนเรือเพื่อใชสตารท เครื่องยนตดีเซลมีคาประมาณเทาใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

5 BAR<br />

10 BAR<br />

15 BAR<br />

30 BAR<br />

28 of 125<br />

ขอที่ : 125<br />

อุปกรณของเครื่องดีเซลในขอใดไมจําเปนตองมีการหลอลื่นดวยน้ํามันหลอ


คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

CYLINDER<br />

BEARING<br />

INJECTION PUMP<br />

TURBOCHARGER BEARING<br />

29 of 125<br />

ขอที่ : 126<br />

ขอที่ : 127<br />

ขอที่ : 128<br />

ขอที่ : 129<br />

หนาที่ของ EXPANSION TANK ในระบบดับความรอนดวยน้ําจืดของเครื่องดีเซลมีหลายอยางยกเวนขอใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

รักษาอุณหภูมิในระบบ<br />

รักษาคา HEAD ในดานทางดูดของระบบ<br />

ระบายอากาศออกจากระบบ<br />

คําตอบ 4 : เปนจุดเติมน้ําเขาสูระบบ<br />

ขอใดเปนจุดเดนของ KEEL COOLER เทียบกับ HEAT EXCHANGER ประเภทอื่น ๆ<br />

คําตอบ 1 : มีขนาดใหญที่สุด<br />

คําตอบ 2 : ติดตั้งอยูใตทองเรือ<br />

คําตอบ 3 : ดับความรอนดวยน้ํามัน<br />

คําตอบ 4 : ลักษณะคลายกระดูกงูของเรือ<br />

ขอใดไมใชน้ําทะเลในการทํางาน<br />

คําตอบ 1 : ระบบน้ําชักโครกในหองสวม<br />

คําตอบ 2 : ระบบน้ําถวงเรือ (BALLAST)<br />

คําตอบ 3 : ระบบดับความรอนกระบอกสูบเครื่องดีเซล<br />

คําตอบ 4 : ระบบ FIREMAIN<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําวา SPEED DROOP มีความสําคัญอยางมากกับอุปกรณในขอใดบนเรือ<br />

คําตอบ 1 : เครื่องกําเนิดไฟฟา<br />

คําตอบ 2 : ระบบน้ํามันเชื้อเพลิง<br />

คําตอบ 3 : ระบบน้ําดับความรอน<br />

คําตอบ 4 : เกียร


ขอที่ : 130<br />

เครื่องกรองน้ํามันเชื้อเพลิงบนเรือ (Fuel Oil Purifier) สวนใหญจะมี 2 ตัว แตละตัวจะมีความสามารถในการกรองน้ํามันไดเทาใด<br />

คําตอบ 1 : 0.25 เทาของอัตราการกินน้ํามันของเครื่องยนต<br />

คําตอบ 2 : 0.5 เทาของอัตราการกินน้ํามันของเครื่องยนต<br />

คําตอบ 3 : 1 เทาของอัตราการกินน้ํามันของเครื่องยนต<br />

คําตอบ 4 : 2เทาของอัตราการกินน้ํามันของเครื่องยนต<br />

ขอที่ : 131<br />

วัฏจักรของ Gas Turbine คือขอใด<br />

คําตอบ 1 : วัฏจักร OTTO<br />

คําตอบ 2 : วัฏจักร RANKINE<br />

คําตอบ 3 : วัฏจักร BRAYTON<br />

คําตอบ 4 : วัฏจักร CARNOT<br />

ขอที่ : 132<br />

อุปกรณสวนใดที่ถือวาเปนหองเผาไหมของเครื่องยนต GAS TURBINE<br />

คําตอบ 1 : Inlet Duct<br />

คําตอบ 2 : Combustor<br />

คําตอบ 3 : Compressor<br />

คําตอบ 4 : Exhaust Duct<br />

ขอที่ : 133<br />

เครื่องยนต GAS TURBINE ที่ใชงานในเรือ มีขอแตกตางอยางไรที่เดนชัดเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องที่ใชสําหรับเครื่องบิน<br />

คําตอบ 1 : หองเผาไหม<br />

คําตอบ 2 : ปกกังหัน<br />

คําตอบ 3 : หัวฉีด<br />

คําตอบ 4 : ชุดเฟองทด<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

30 of 125<br />

ขอที่ : 134<br />

Intercooling ในเครื่องยนต GAS TURBINE ทําหนาที่อะไร<br />

คําตอบ 1 : เพิ่มกําลังอัด


คําตอบ 2 : เพิ่มปริมาณอากาศดีเขาเครื่อง<br />

คําตอบ 3 : เพิ่มกําลังอัดในหองเผาไหม<br />

คําตอบ 4 : เพิ่มความเร็วในการจุดระเบิด<br />

31 of 125<br />

ขอที่ : 135<br />

การ REHEAT ในเครื่องยนต GAS TURBINE กระทําโดยใชแหลงกําเนิดพลังงานจากอุปกรณตัวใด<br />

คําตอบ 1 : Exhaust Duct<br />

คําตอบ 2 : Inlet Duct<br />

คําตอบ 3 : Nozzle<br />

คําตอบ 4 : Combustion Chamber<br />

ขอที่ : 136<br />

ขอใดคือชื่อของอุปกรณยอยที่ใชในการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต GAS TURBINE<br />

คําตอบ 1 : Regenerator<br />

คําตอบ 2 : Turbocharger<br />

คําตอบ 3 : Header<br />

คําตอบ 4 : Blower<br />

ขอที่ : 137<br />

ขอที่ : 138<br />

หัวเทียนเครื่องยนต GAS TURBINE ทําหนาที่ใด<br />

คําตอบ 1 : จุดระเบิดเฉพาะในชวงสตารทเครื่องยนต<br />

คําตอบ 2 : จุดระเบิดในทุกชวงการทํางานของเครื่องยนต<br />

คําตอบ 3 : จุดระเบิดเมื่อแรงอัดต่ําลงกวาปกติ<br />

คําตอบ 4 : จุดระเบิดเมื่อความรอนต่ํากวาปกติ<br />

สวนใดของเครื่อง GAS TURBINE ที่ไดรับพลังงานที่เกิดจากหองเผาไหมของเครื่องยนตโดยตรง<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

Low Pressure Turbine<br />

High Pressure Turbine<br />

Turbine Rear Frame<br />

Turbine Mid Frame


ขอที่ : 139<br />

เครื่องยนต GAS TURBINE เนนการหลอลื่นที่ใด<br />

คําตอบ 1 : ปกกังหัน<br />

คําตอบ 2 : Combustor<br />

คําตอบ 3 : Bearing<br />

คําตอบ 4 : ฐานแทนเครื่อง<br />

ขอที่ : 140<br />

เครื่องยนต GAS TURBINE มีจุดเดนในขอใดเมื่อเทียบกับเครื่องยนตดีเซลที่แรงมาเทากัน<br />

คําตอบ 1 : สิ้นเปลืองน้ํามนเชื้อเพลิงนอยกวา<br />

คําตอบ 2 : สิ้นเปลืองน้ํามันหลอลื่นนอยกวา<br />

คําตอบ 3 : มีรอบต่ํากวา<br />

คําตอบ 4 : กําลังมาตอน้ําหนักสูงกวา<br />

ขอที่ : 141<br />

เครื่องยนต GAS TURBINE แบบ CODOG คือเครื่องยนตที่มีการจัดวางอยางไร<br />

คําตอบ 1 : การใชเครื่องยนต GAS TURBINE รวมกับเครื่องยนตดีเซล โดยสามารถแยกกันทํางานไดอยางอิสระ<br />

คําตอบ 2 : การใชเครื่องยนต GAS TURBINE รวมกับเครื่องยนตดีเซล โดยไมสามารถแยกกันทํางานไดอยางอิสระ<br />

คําตอบ 3 : การใชเครื่องยนต GAS TURBINE รวมกับเครื่องไอน้ํา โดยสามารถแยกกันทํางานไดอยางอิสระ<br />

คําตอบ 4 : การใชเครื่องยนต GAS TURBINE รวมกับเครื่องไอน้ํา โดยไมสามารถแยกกันทํางานไดอยางอิสระ<br />

ขอที่ : 142<br />

ปกกังหันของเครื่องยนต GAS TURBINE ใชหลักการใด<br />

คําตอบ 1 : Wing Theory<br />

คําตอบ 2 : Beam Theory<br />

คําตอบ 3 : Strip Theory<br />

คําตอบ 4 : Section Theory<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

32 of 125<br />

ขอที่ : 143<br />

เครื่องยนต GAS TURBINE ที่ใชในเรือ มีจุดเปราะบางในขอใดที่ตองระมัดระวังเปนพิเศษ<br />

คําตอบ 1 : ปญหาของระบบหลอลื่น<br />

คําตอบ 2 : ปญหาของระบบอากาศดีเขาเครื่อง


คําตอบ 3 :<br />

ปญหาของระบบทอแกสเสีย<br />

คําตอบ 4 : ปญหาของระบบน้ําจืด<br />

33 of 125<br />

ขอที่ : 144<br />

ขอที่ : 145<br />

ขอที่ : 146<br />

ขอที่ : 147<br />

ในวัฎจักรของเครื่องยนต GAS TURBINE ชวงใดที่ถือวามีกําลังดันคงที่<br />

คําตอบ 1 :<br />

ระหวางหองเผาไหมและคอมเพรสเซอร<br />

คําตอบ 2 : ระหวางหองเผาไหมไปสูปกกังหัน<br />

คําตอบ 3 : ระหวางปกกังหันไปยังทอแกสเสีย<br />

คําตอบ 4 : ระหวางหองอัดอากาศไปสูหองเผาไหม<br />

ในวัฎจักรของเครื่องยนต GAS TURBINE สามารถหาคาประสิทธิภาพไดโดยหลักการใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

อัตราสวนผลตางของอุณหภูมิเขาและออกระหวางคอมเพรสเซอรและชุดปกกังหัน<br />

คําตอบ 2 : อัตราสวนผลตางของอุณหภูมิเขาและระหวางออกคอมเพรสเซอรและเครื่องทําความเย็น<br />

คําตอบ 3 : อัตราสวนผลตางของอุณหภูมิทางเขาและทางออกระหวางทอแกสเสีย<br />

คําตอบ 4 : อัตราสวนผลตางของอุณหภูมิเขาและออกเทอรไบนกําลังดันสูงและต่ํา<br />

อาการ STALL ของเครื่องยนต GAS TURBINE เกิดจากขอใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

ปริมาณอากาศเขาหองเผาไหมมากเกินไป<br />

ปริมาณอากาศเขาหองเผาไหมนอยเกินไป<br />

คําตอบ 3 : ปริมาณแกสเสียที่เกิดจากการเผาไหมมากเกินไป<br />

คําตอบ 4 : ปริมาณแกสเสียที่เกิดจากการเผาไหมนอยเกินไป<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

การแกไขอาการ STALL ของเครื่องยนต GAS TURBINE ทําไดอยางไร<br />

คําตอบ 1 : ลดรอบเครื่องยนต<br />

คําตอบ 2 : เพิ่มรอบเครื่องยนต<br />

คําตอบ 3 : เพิ่มปริมาณเชื้อเพลิง<br />

คําตอบ 4 : ลดปริมาณสารหลอลื่น<br />

ขอที่ : 148


ขอใดเปนการตรวจสอบกอนการซอมทําเครื่องยนต GAS TURBINE<br />

คําตอบ 1 : Stroborscope<br />

คําตอบ 2 : Spectrometer<br />

คําตอบ 3 : Spectrum Analyser<br />

คําตอบ 4 : Bore Scope<br />

34 of 125<br />

ขอที่ : 149<br />

ขอที่ : 150<br />

ขอที่ : 151<br />

เครื่องยนต GAS TURBINE แบบ CODAG คือเครื่องยนตที่มีการจัดวางอยางไร<br />

คําตอบ 1 : การใชเครื่องยนต GAS TURBINE รวมกับเครื่องยนตดีเซล โดยสามารถแยกกันทํางานไดอยางอิสระ<br />

คําตอบ 2 : การใชเครื่องยนต GAS TURBINE รวมกับเครื่องยนตดีเซล โดยไมสามารถแยกกันทํางานไดอยางอิสระ<br />

คําตอบ 3 : การใชเครื่องยนต GAS TURBINE รวมกับเครื่องไอน้ํา โดยสามารถแยกกันทํางานไดอยางอิสระ<br />

คําตอบ 4 : การใชเครื่องยนต Gas Turbine รวมกับเครื่องไอน้ําโดยไมสามารถแยกกันทํางานไดอยางอิสระ<br />

ขอใดไมใชประเภท Combustion Chamber ของเครื่องยนต GAS TURBINE<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

แบบ ANNULAR<br />

แบบ CAN<br />

แบบ LAMINAR<br />

แบบ CANNULAR<br />

ขอใดไมใชประเภทของ COMPRESSOR ที่ใชกับเครื่องยนต GAS TURBINE<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

AXIAL FLOW<br />

CENTRIFUGAL FLOW<br />

MIXED FLOW<br />

HIGH FLOW<br />

ขอที่ : 152<br />

Combustion Chamber ของเครื่องยนต GAS TURBINE นิยมใชการหลอเย็นโดยใชตัวกลางประเภทใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

อากาศ<br />

คําตอบ 2 : น้ํามันหลอ<br />

คําตอบ 3 : น้ําจืด<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


คําตอบ 4 : น้ําทะเล<br />

ขอที่ : 153<br />

ขอที่ : 154<br />

ขอที่ : 155<br />

การติดตั้งเครื่องยนต GAS TURBINE ในเรือ ในปจจุบันนิยมทําแบบใด<br />

คําตอบ 1 : ติดตั้งรวมกับเครื่องยนตอื่นในหองเครื่องจักร<br />

คําตอบ 2 : ติดตั้งแยกชุดอิสระ เปนกลองแยกไมเกี่ยวของกับเครื่องยนตอื่น<br />

คําตอบ 3 : ติดตั้งในหองเครื่องไฟฟา<br />

คําตอบ 4 : ติดตั้งบนดาดฟาเปด<br />

ขอควรระวังอยางสูงสุดเมื่อใชงานเครื่องยนต GAS TURBINE ในเรือคือขอใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

ระมัดระวังความเร็วรอบของเพลาไมใหสูงเกิน<br />

ระมัดระวังความเร็วรอบของกังหันไมใหสูงเกิน<br />

คําตอบ 3 : ระมัดระวังการเกิดอัคคีภัยอันเนื่องจากความรอนสูงของเครื่อง<br />

คําตอบ 4 : ระมัดระวังการเกิดเสียงดังที่รอบสูง<br />

ชิ้นสวนในขอใดของเครื่องยนต GAS TURBINE ที่มีขนาดใหญมากที่สุดเมื่อเทียบกับอุปกรณอื่น<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

AIR INTAKE<br />

AIR EXHAUST<br />

TURBINE STATOR<br />

TURBINE ROTOR<br />

ขอที่ : 156<br />

Static Pressure Loss หรือคาแรงดันของอากาศดีเมื่อเขาเครื่องยนต GAS TURBINE ควรมีคาเทาใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ประมาณ 0.4 -0.5 inches of water (100-125 Pa) below atmosphere<br />

ประมาณ 4 - 5 inches of water (1,000-1,250 Pa) below atmosphere<br />

ประมาณ 0.4 - 0.5 inches of water (100-125 Pa) above atmosphere<br />

ประมาณ 4 - 5 inches of water (1,000-1,250 Pa) above atmosphere<br />

35 of 125<br />

ขอที่ : 157<br />

เชื้อเพลิงที่ใชกับเครื่องยนต GAS TURBINE ที่ใชงานในเรือคือขอใด


คําตอบ 1 : น้ํามัน JP 5<br />

คําตอบ 2 : น้ํามันไฮดรอลิกส<br />

คําตอบ 3 : น้ํามันเตา<br />

คําตอบ 4 : น้ํามันเบนซิน<br />

36 of 125<br />

ขอที่ : 158<br />

การติดตั้งเครื่องยนต แบบ CODOG มีขอดีคือขอใด<br />

คําตอบ 1 : ใชGAS TURBINE เมื่อตองการความเร็วต่ํา ใช เครื่องยนตดีเซลเมื่อตองการความเร็วสูง<br />

คําตอบ 2 : ใชGAS TURBINE เมื่อตองการความเร็วสูง ใช เครื่องยนตดีเซลเมื่อตองการความเร็วต่ํา<br />

คําตอบ 3 : ใชGAS TURBINE เมื่อตองการเปลี่ยนความเร็วบอยๆ และใช เครื่องยนตดีเซลเมื่อความเร็วคงที่<br />

คําตอบ 4 : ใชเครื่องยนตดีเซล เมื่อตองการเปลี่ยนความเร็วบอยๆ และใช เครื่องยนต GAS TURBINE เมื่อความเร็วคงที่<br />

ขอที่ : 159<br />

เครื่องยนต GAS TURBINE ที่ใชงานในเรือนิยมใชเครื่องยนตขนาดเทาใด<br />

คําตอบ 1 : ต่ํากวา 200 HP (149 kW)<br />

คําตอบ 2 : ไมเกิน 500 HP (373 kW)<br />

คําตอบ 3 : ไมเกิน 1,000 HP (746 kW)<br />

คําตอบ 4 : มากกวา 20,000 HP (14,914 kW)<br />

ขอที่ : 160<br />

สารในขอใดที่สงผลกระทบอยางรุนแรงตอประสิทธิภาพของเครื่องยนต GAS TURBINE ที่ใชงานในทะเล<br />

คําตอบ 1 : น้ําเค็ม<br />

คําตอบ 2 : CO2<br />

คําตอบ 3 : กาซไฮโดรเจน<br />

คําตอบ 4 : กาซมีเทน<br />

ขอที่ : 161<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

อุปกรณใดมีความจําเปนอยางยิ่งสําหรับเครื่องยนต GAS TURBINE ที่ใชงานในเรือ<br />

คําตอบ 1 : เครื่องแยกน้ํามันเชื้อเพลิง<br />

คําตอบ 2 : เครื่องกลั่นน้ํา<br />

คําตอบ 3 : เครื่องกรองแกสเสีย<br />

คําตอบ 4 : เครื่องบําบัดน้ําเสีย


ขอที่ : 162<br />

การซอมทําเครื่องยนต GAS TURBINE นิยมใชหลักการใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

การซอมบํารุงแบบแกไข (Corrective Maintenance)<br />

การซอมบํารุงแบบปองกัน (Preventive Maintenance)<br />

การซอมบํารุงตามระยะเวลา (Periodic Maintenance)<br />

การซอมบํารุงแบบจํากัด<br />

ขอที่ : 163<br />

Static Pressure Loss หรือคาแรงดันของแกสเสียเมื่อออกจากเครื่องยนต GAS TURBINE ควรมีคาเทาใด<br />

ขอที่ : 164<br />

ขอที่ : 165<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ประมาณ 0.4 – 0.6 inches of water (100-125 Pa) above atmosphere<br />

ประมาณ 4 – 6 inches of water (1,000-1,250 Pa) above atmosphere<br />

ประมาณ 0.4 – 0.6 inches of water (100-125 Pa) below atmosphere<br />

ประมาณ 4 – 6 inches of water (1,000-1,250 Pa) below atmosphere<br />

ทิศทางการหมุนของเครื่องยนต GAS TURBINE ที่ใชงานในเรือ ใชหลักการอยางไร<br />

คําตอบ 1 : ใหหันหนาไปทางทายเครื่อง และกําหนดการหมุน<br />

คําตอบ 2 : ใหหันหนาไปทางหัวเครื่องและกําหนดการหมุน<br />

คําตอบ 3 : ใหใชกราบขวาเปนหลัก และกําหนดการหมุนไดเอง<br />

คําตอบ 4 : ใหใชกราบซายเปนหลัก และกําหนดการหมุนไดเอง<br />

การสตารทเครื่องยนต GAS TURBINE ขนาดใหญ นิยมใชระบบใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ระบบไฮโดรลิกส<br />

ระบบความรอน<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ใชระบบอากาศอัด<br />

ใชการเผาหัว<br />

37 of 125<br />

ขอที่ : 166<br />

ตราอักษรในขอใดไมใชเครื่องยนต GAS TURBINE<br />

คําตอบ 1 : General Electric


คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

MTU<br />

ROLLS ROYCE<br />

PRATT & WHITHNEY<br />

38 of 125<br />

ขอที่ : 167<br />

ขอที่ : 168<br />

ขอที่ : 169<br />

ขอที่ : 170<br />

อาการ STALL ของเครื่องยนต GAS TURBINE ตามหลักการของ AERODYNAMICS คือขอใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

ความผิดปกติของ Angle of Attack ของปกกังหัน<br />

ความผิดปกติของ Angle of Attack ของทอแกสเสีย<br />

คําตอบ 3 : ความผิดปกติของ Angle of Attack ของระบบน้ํามันเชื้อเพลิง<br />

คําตอบ 4 : ความผิดปกติของ Angle of Attack ของเพลาขับ<br />

ขอใดคือรูปทรงมาตรฐาน (Section Blade) ของปกกังหันเครื่องยนต GAS TURBINE<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

NASA-11<br />

BERNOULI-10<br />

NEWTON-60<br />

NACA-65<br />

ขอใดไมใชประเภทของเครื่องยนต GAS TURBINE ที่ติดตั้งบนอากาศยาน<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

TURBOPROP<br />

TURBOFAN<br />

TURBOJET<br />

TURBOCHARGER<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ระบบขับเคลื่อนแบบ COGAG คือขอใด<br />

คําตอบ 1 : การใชเครื่องยนตGAS TURBINE รวมกับเครื่องยนต ดีเซล<br />

คําตอบ 2 : การใชเครื่องยนตGAS TURBINE รวมกับเครื่องยนต เบนซิน<br />

คําตอบ 3 : การใชเครื่องยนตGAS TURBINE รวมกับเครื่องยนต GAS TURBINE<br />

คําตอบ 4 : การใชเครื่องยนตGAS TURBINE รวมกับเครื่องกังหันไอน้ํา


ขอที่ : 171<br />

ขอที่ : 172<br />

ขอที่ : 173<br />

ขอที่ : 174<br />

ระบบขับเคลื่อนแบบ COSAG คือขอใด<br />

คําตอบ 1 : การใชเครื่องยนตGAS TURBINE รวมกับพลังงานแสงอาทิตย<br />

คําตอบ 2 : การใชเครื่องยนตGAS TURBINE รวมกับระบบพลังงานนิวเคลียร<br />

คําตอบ 3 : การใชเครื่องยนตGAS TURBINE ในเรือดําน้ํา<br />

คําตอบ 4 : การใชเครื่องยนต GAS TURBINE รวมกับเครื่องกังหันไอน้ํา<br />

จุดดอยที่กอใหเกิดขอเสียเปรียบเปนอยางยิ่ง ของเครื่องยนต GAS TURBINE เมื่อติดตั้งในเรือรบคือขอใด<br />

คําตอบ 1 : ปลอยแกสเสียที่อุณหภูมิสูงทําใหตรวจจับไดงาย<br />

คําตอบ 2 : เสียงดัง<br />

คําตอบ 3 : มีทอสูงเหนือดาดฟามาก<br />

คําตอบ 4 : ใบจักรสรางพริ้วน้ําและคลื่นมาก<br />

ระบบ Water Wash ของเครื่องยนต GAS TURBINE คือระบบใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

การลางทําความสะอาดสวนของทอแกสเสีย<br />

การลางทําความสะอาดสวนของทออากาศดี<br />

การลางทําความสะอาดสวนของหองเผาไหม<br />

การลางทําความสะอาดสวนของเกียร<br />

อัตราสวนระหวางอากาศดี กับน้ํามันเชื้อเพลิงที่ใชสําหรับเครื่องยนต GAS TURBINE ควรมีคาเทาใด<br />

คําตอบ 1 : อัตราสวน 5 : 1<br />

คําตอบ 2 : อัตราสวน 10 : 1<br />

คําตอบ 3 : อัตราสวน 15 : 1<br />

คําตอบ 4 : อัตราสวน 50 : 1<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

39 of 125<br />

ขอที่ : 175<br />

GAS TURBINE ขนาด 20,000 kW มีอัตราการกินน้ํามัน 250 g/kW- Hr จงหาอัตราความสิ้นเปลืองน้ํามันเชื้อเพลิง ถาคาความถวงจําเพาะของน้ํามันเชื้อเพลิงที่ใชมีคาเทากับ 0.8<br />

คําตอบ 1 : มีความสิ้นเปลือง 3,000 ลิตรตอชั่วโมง<br />

คําตอบ 2 : มีความสิ้นเปลือง 4,000 ลิตรตอชั่วโมง


คําตอบ 3 : มีความสิ้นเปลือง 5,000 ลิตรตอชั่วโมง<br />

คําตอบ 4 : มีความสิ้นเปลือง 6,000 ลิตรตอชั่วโมง<br />

40 of 125<br />

ขอที่ : 176<br />

ขอที่ : 177<br />

ขอที่ : 178<br />

ขอที่ : 179<br />

ขอใดไมใชการควบคุมรอบเครื่องยนต GAS TURBINE<br />

คําตอบ 1 : ปรับแตงการปอนน้ํามันเชื้อเพลิง<br />

คําตอบ 2 : ปรับแตงปกกังหันของ Compressor Stator<br />

คําตอบ 3 : ปรับแตงปกกังหันของ ชุด Inlet Guide Vane<br />

คําตอบ 4 : ใชใบจักรแบบปรับพิทชได<br />

ขอเสียของการใชเครื่องยนต GAS TURBINE รวมกับเครื่องยนตดีเซลคือขอใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

ไมสามารถใชทอแกสเสียรวมกันได<br />

คําตอบ 2 : เครื่องยนตทั้งสองประเภทไมสามารถทํางานในขณะเดียวกันได<br />

คําตอบ 3 : เครื่องยนตดีเซลไมสามารถใชรอบต่ําได<br />

คําตอบ 4 : เครื่องยนต GAS TURBINE ไมสามารถเดินตัวเปลาได<br />

อุปกรณใดมีหนาที่หลักในการลดรอบเครื่องยนต GAS TURBINE ใหสามารถใชงานกับเพลาเรือได<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Rubber Coupling<br />

Fluid Coupling<br />

Reduction Gear<br />

Magnetic Clutch<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ประสิทธิภาพของเครื่องยนต GAS TURBINE โดยทั่วไปมีคาประมาณเทาใด<br />

คําตอบ 1 : ไมเกิน 40 %<br />

คําตอบ 2 : ระหวาง 50 %- 60 %<br />

คําตอบ 3 : ระหวาง 60 % - 80 %<br />

คําตอบ 4 : เกิน 80 %<br />

ขอที่ : 180


ขอใดเปนอาการ STALL ในเครื่องยนตแกสเทอรไบน<br />

คําตอบ 1 : รอบสูงเกินเกณฑ<br />

คําตอบ 2 : น้ํามันหลอแหง<br />

คําตอบ 3 : น้ําจืดขาดระบบ<br />

คําตอบ 4 : เครื่องสั่นมากและมีเสียงดัง<br />

41 of 125<br />

ขอที่ : 181<br />

ขอที่ : 182<br />

ขอที่ : 183<br />

ขอที่ : 184<br />

เรือประเภทใดควรติดตั้งเครื่องยนต GAS TURBINE<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

เรือลากจูง<br />

เรือยนตเร็ว<br />

คําตอบ 3 : เรือบรรทุกน้ํามัน<br />

คําตอบ 4 : เรือสินคาเทกอง<br />

การซอมทําเครื่องยนต GAS TURBINE ในประเทศไทยทําไดโดยหนวยงานใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

ศูนยซอมอากาศยาน<br />

คําตอบ 2 : อูเรือที่ไดมาตรฐาน<br />

คําตอบ 3 : การไฟฟาฝายผลิต<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

สารประเภทใดกอใหเกิดอันตรายตอเครื่องยนต GAS TURBINE เมื่อผสมอยูในน้ํามันเชื้อเพลิง<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

เวนาเดียม<br />

ทองแดง<br />

คําตอบ 3 : ตะกั่ว<br />

คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />

การติดตั้งเครื่องยนต GAS TURBINE มีขอดีอยางไร<br />

คําตอบ 1 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

เปนชุดสําเร็จรูป<br />

คําตอบ 2 : มีความเกี่ยวของกับระบบอื่นนอย<br />

คําตอบ 3 : มีน้ําหนักเบา


คําตอบ 4 :<br />

ถูกทุกขอ<br />

ขอที่ : 185<br />

ขอที่ : 186<br />

ขอที่ : 187<br />

ขอที่ : 188<br />

การติดตั้งเครื่องยนต GAS TURBINE สําหรับเรือใบจักรเดี่ยว ควรมีแนวทางอยางไร<br />

คําตอบ 1 : ใชเครื่องยนต 1 เครื่อง ตอเขาเพลา<br />

คําตอบ 2 : ใชเครื่องยนต 2 เครื่อง ตอรวมเขาขับเพลาเดียวกัน<br />

คําตอบ 3 : ไมมีการใชงานในลักษณะดังกลาว<br />

คําตอบ 4 : ถูกทั้งขอ 1 และ 2<br />

การทํางานของเครื่องยนต GAS TURBINE ในชวงใดถือวาความดันคงที่<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Inlet Duct<br />

Compressor<br />

Combustion Chamber<br />

Turbine<br />

เครื่องยนต GAS TURBINE มีการทํางานคลายกับเครื่องยนตชนิดเผาไหมภายในแบบใด<br />

คําตอบ 1 : เครื่องแบบ ROTARY<br />

คําตอบ 2 : เครื่องแบบ Twin Cam<br />

คําตอบ 3 : เครื่องแบบ Super Charge<br />

คําตอบ 4 : เครื่องแบบ Common Rail<br />

การสตารทเครื่องยนต GAS TURBINE คลายกับการทํางานของเครื่องยนตในขอใด<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 1 : เครื่องยนตดีเซล<br />

คําตอบ 2 : เครื่องยนตเบนซิน<br />

คําตอบ 3 : เครื่องยนตไอน้ํา<br />

คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />

42 of 125<br />

ขอที่ : 189<br />

เครื่องยนต GAS TURBINE ที่ติดตั้งในเรือรบ ตองออกแบบทอแกสเสียอยางไร เพื่อใหเกิดความปลอดภัย


คําตอบ 1 : ออกแบบใหมีขนาดเล็ก<br />

คําตอบ 2 : ออกแบบใหเกิดอากาศพลศาสตรที่ดี<br />

คําตอบ 3 : ออกแบบปองกันการแผรังสี INFRARED<br />

คําตอบ 4 : ออกแบบปองกันการผุกรอน<br />

43 of 125<br />

ขอที่ : 190<br />

ขอที่ : 191<br />

ขอที่ : 192<br />

ขอที่ : 193<br />

ขอใดที่จัดเปนสาเหตุที่ทําใหเครื่องยนต GAS TURBINE มีอัตราการกินน้ํามันสูงกวาเครื่องยนตประเภทอื่น<br />

คําตอบ 1 : น้ํามันเชื้อเพลิงเมื่อเขาหัวฉีดไมมีทอกลับถัง<br />

คําตอบ 2 : เครื่องรอบสูงกวา<br />

คําตอบ 3 : อัตราสวนของ แรงอัดต่ํากวา<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

เมื่อเริ่มสตารทเครื่องยนต GAS TURBINE อุปกรณที่เริ่มทํางานคือขอใด<br />

คําตอบ 1 : สูบน้ํามันเชื้อเพลิง<br />

คําตอบ 2 : สูบน้ํามันหลอ<br />

คําตอบ 3 : สูบน้ําจืด<br />

คําตอบ 4 : ขอ 1 และ 2<br />

ระบบในขอใดที่จําเปนตองติดตั้งเสมอในจุดที่ติดตั้งเครื่องยนต GAS TURBINE<br />

คําตอบ 1 : ระบบบําบัดน้ําเสีย<br />

คําตอบ 2 : ระบบดับเพลิงอัตโนมัติ<br />

คําตอบ 3 : ระบบปรับอากาศ<br />

คําตอบ 4 : ระบบกลั่นน้ําทะเล<br />

ระบบ Water Wash ของเครื่องยนต GAS TURBINE จะอยูที่สวนประกอบใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

Compressor<br />

Combustion Chamber<br />

Inlet Duct<br />

Exhaust Pipe


ขอที่ : 194<br />

ขอที่ : 195<br />

ขอที่ : 196<br />

ขอที่ : 197<br />

วงรอบการซอมทําเครื่องยนต GAS TURBINE ในเรือ ใชอะไรเปนเกณฑ<br />

คําตอบ 1 : ชั่วโมงการใชงาน<br />

คําตอบ 2 : สภาพน้ํามันหลอ<br />

คําตอบ 3 : ตรวจสอบปกกังหัน<br />

คําตอบ 4 : ทุกขอที่กลาวมาแลวประกอบกัน<br />

ประสิทธิภาพของเครื่องยนต Gas Turbine คือขอใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

อัตราสวนของพลังงานระหวางชุดเทอรไบนตอชุดคอมเพรสเซอร<br />

อัตราสวนของพลังงานระหวางชุดเทอรไบนตอชุดทอทางดูด<br />

อัตราสวนของพลังงานระหวางทอทางดูดตอชุดคอมเพรสเซอร<br />

คาพลังงานความรอนของชุดเทอรไบน<br />

ขอใดเปนอุณหภูมิแกสเสียของเครื่องยนต GAS TURBINE<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ประมาณ 100 องศาเซลเซียส<br />

ประมาณ 200 องศาเซลเซียส<br />

ประมาณ 400 องศาเซลเซียส<br />

ประมาณ 600 องศาเซลเซียส<br />

ใน COMBUSTION CHAMBER ของเครื่องยนต GAS TURBINE จะตองทําใหอากาศไหลเขาหองเผาไหมอยางไร<br />

คําตอบ 1 : อากาศไหลเขาแบบปนปวน<br />

คําตอบ 2 : อากาศไหลเขาแบบราบเรียบ<br />

คําตอบ 3 : อากาศไหลเขาเปนจังหวะ<br />

คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

44 of 125<br />

ขอที่ : 198<br />

ขอใดจัดเปนมาตรฐานเปรียบเทียบที่ใชในการออกแบบใบจักร<br />

คําตอบ 1 : K- Series


คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

J- Series<br />

Wageningen B - Series<br />

P- Series<br />

45 of 125<br />

ขอที่ : 199<br />

คา Rake ของใบจักรคือขอใด<br />

คําตอบ 1 : ความโคงของขอบนํา (Leading Edge)<br />

คําตอบ 2 : ความโคงของขอบตาม (Trailing Edge)<br />

คําตอบ 3 : ความโคงของขอบบนของใบจักร<br />

คําตอบ 4 : ความเอียงของใบจักรไปทางดานหลัง เมื่อมองจากดานขาง (Side View)<br />

ขอที่ : 200<br />

ขอที่ : 201<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


46 of 125<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ขอที่ : 202<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอที่ : 203<br />

ขอใดเปนการทดสอบใบจักรโดยไมพิจารณาปจจัยที่มีผลกระทบจากตัวเรือ


คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Open Water Test<br />

Closed Water Test<br />

Self <strong>Propulsion</strong> Test<br />

Wind Tunnel Test<br />

47 of 125<br />

ขอที่ : 204<br />

ขอที่ : 205<br />

ขอที่ : 206<br />

ขอที่ : 207<br />

ฟองอากาศที่เกิดบริเวณใบจักรเรือ สวนใหญเกิดจากอิทธิพลของขอใด<br />

คําตอบ 1 : ความสกปรกของน้ํา<br />

คําตอบ 2 : ความเร็วของเรือ<br />

คําตอบ 3 : ความหนาแนนของน้ํา<br />

คําตอบ 4 : ความแตกตางของความดันบริเวณหนาและหลังใบจักร<br />

ขอใดมิใชผลจากการเกิด Cavitation ที่ใบจักร<br />

คําตอบ 1 : รอยขรุขระที่ผิวใบจักร<br />

คําตอบ 2 : รอยบิ่นตามขอบใบจักร<br />

คําตอบ 3 : การสึกกรอนที่ดุมใบจักร<br />

คําตอบ 4 : สนิมที่เพลาใบจักร<br />

ประสิทธิภาพของใบจักรขึ้นอยูกับคาใด<br />

คําตอบ 1 : กําลังขับของเครื่องยนตที่ใชขับเพลา<br />

คําตอบ 2 : อัตราสวนของเกียรทดไปยังเพลาใบจักร<br />

คําตอบ 3 : สัดสวนระหวางแรงผลักตอแรงบิดของใบจักร<br />

คําตอบ 4 : ขนาดเสนผาศูนยกลางของใบจักร<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 1 :


48 of 125<br />

คําตอบ 2 :<br />

ขอที่ : 208<br />

ขอที่ : 209<br />

ขอที่ : 210<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ในการออกแบบใบจักร นิยมแบงใบจักรออกเปนกี่สวน<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สามสวน<br />

หาสวน<br />

สิบสวน<br />

สิบหาสวน<br />

หากเปรียบเทียบการทํางานของใบจักรใหเหมือนเกลียวโดยทั่วไป คา Pitch (ระยะทางเมื่อใบจักรหมุนครบรอบ) ของใบจักรขณะทํางาน แตกตางอยางไรกับคา Pitch ของเกลียว<br />

คําตอบ 1 : ใบจักรมีคา Pitch มากกวาเนื่องจากคา Slip ของใบจักร<br />

คําตอบ 2 : ใบจักรมีคา Pitch นอยกวาเนื่องจากคา Slip ของใบจักร<br />

คําตอบ 3 : ใบจักรมีคา Pitch มากกวาเนื่องจากคาความเร็วของเรือ<br />

คําตอบ 4 : มีคา Pitch เทากัน<br />

ขอใดเปนชื่อที่ใชเรียกใบจักรที่สามารถปรับ PITCH ได<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

CDD<br />

CFF<br />

COP<br />

CPP<br />

ขอที่ : 211


ขอไดเปรียบประการสําคัญของใบจักรแบบปรับ PITCH ได คือขอใด<br />

คําตอบ 1 : ทําใหความเร็วเรือเพิ่มขึ้น<br />

คําตอบ 2 : ชวยปองกันมิใหเครื่องยนตขับทํางานเกินกําลัง (Overload)<br />

คําตอบ 3 : ชวยปองกันมิใหเกิดกําลังดันแกสเสียยอนกลับ (Back Pressure)<br />

คําตอบ 4 : ชวยใหมีอากาศดีเขาเครื่องยนตขับมากขึ้น<br />

49 of 125<br />

ขอที่ : 212<br />

เครื่องพนน้ําแบบ Water Jet ใชหลักการของใบจักรในขอใด<br />

คําตอบ 1 : Conventional Propeller<br />

คําตอบ 2 : Ducted Propeller<br />

คําตอบ 3 : Vertical Propeller<br />

คําตอบ 4 : Controllable Pitch propeller<br />

ขอที่ : 213<br />

ขอใดเปนการเลือกใบจักรที่ถูกตอง<br />

คําตอบ 1 : เลือกใบจักรที่ใหคา Pitch สูงสุด<br />

คําตอบ 2 : เลือกใบจักรที่ใหคา Pitch ต่ําสุด<br />

ขอที่ : 214<br />

คําตอบ 3 : เลือกใบจักรที่ใหคา Pitch ต่ํากวาที่คํานวณไดเล็กนอย<br />

คําตอบ 4 : เลือกใบจักรที่ใหคา Pitch สูงกวาที่คํานวณไดเล็กนอย<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 3 :


คําตอบ 4 :<br />

50 of 125<br />

ขอที่ : 215<br />

ขอที่ : 216<br />

ขอที่ : 217<br />

ขอที่ : 218<br />

วัสดุประเภทใดที่นิยมใชทําเปนใบจักร สําหรับเรือเดินทะเล<br />

คําตอบ 1 : Titanium<br />

คําตอบ 2 : Stainless Steel Grade 304<br />

คําตอบ 3 : Brass<br />

คําตอบ 4 : Manganese - Bronze<br />

ขอใดเปนวิธีการเลือกใบจักรที่ถูกตอง<br />

คําตอบ 1 : ใชกราฟความสัมพันธระหวางกําลังเครื่องยนตและความเร็วรอบของเพลา<br />

คําตอบ 2 : ใชกราฟความสัมพันธระหวางกําลังเครื่องยนตและอัตราทดของเกียร<br />

คําตอบ 3 : ใชกราฟความสัมพันธระหวางกําลังเครื่องยนตและคาความตานทานของเรือ<br />

คําตอบ 4 : ใชคา PITCH สูงสุด<br />

ขอใดเปนวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพใบจักรอยางงายที่สุด<br />

คําตอบ 1 : ชักเพลา ตั้งศูนยใหม<br />

คําตอบ 2 : เชื่อมพอกเพลาใหม<br />

คําตอบ 3 : ทําความสะอาดใบจักร<br />

คําตอบ 4 : ทํา Dynamic Balance ใบจักร<br />

อุปกรณใดทําหนาที่รองรับเพลาใบจักรที่อยูนอกตัวเรือ<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 1 : แบริ่งกันรุน<br />

คําตอบ 2 : หางเสือ<br />

คําตอบ 3 : โยงโย<br />

คําตอบ 4 : ลิ่มของเพลา<br />

ขอที่ : 219


เมื่อนําเรือเขาอูแหง จะตองปรนนิบัติบํารุงใบจักรอยางไร<br />

คําตอบ 1 : ทําความสะอาดทันที<br />

คําตอบ 2 : ปลอยใหแหงเองตามธรรมชาติ<br />

คําตอบ 3 : ใชเชือกผูกมัดใหแนนหนา<br />

คําตอบ 4 : ชโลมดวยจาระบี<br />

51 of 125<br />

ขอที่ : 220<br />

ขอที่ : 221<br />

ขอที่ : 222<br />

ขอที่ : 223<br />

ใบจักรประเภทปรับ PITCH ได นิยมใชระบบกําลังขับแบบใด<br />

คําตอบ 1 : ระบบแรงเหวี่ยง<br />

คําตอบ 2 : ระบบไฮดรอลิกส<br />

คําตอบ 3 : ระบบลมอัด<br />

คําตอบ 4 : ระบบน้ํากําลังดันสูง<br />

คามุม Skew ของใบจักรคือคาใด<br />

คําตอบ 1 : การเอียงไปทางทายเรือของใบจักรเมื่อเทียบกับเสนตั้งฉาก<br />

คําตอบ 2 : การรับน้ําหนักของใบจักร<br />

คําตอบ 3 : ความคมของใบจักร<br />

คําตอบ 4 : มุมปลายใบจักรที่เยื้องไปจากแนวเสนตั้งฉากศูนยกลางเพลา เมื่อมองเขาจากทายเรือ<br />

ขอใดเปนรูปแบบหนาตัดมาตรฐานที่ใชในการออกแบบใบจักร<br />

คําตอบ 1 : NAVA-65<br />

คําตอบ 2 : NACA-65<br />

คําตอบ 3 : ASA -60<br />

คําตอบ 4 : BSA- 60<br />

ขอใดไมใชสวนประกอบของระบบเพลาใบจักร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

โยงโย<br />

เพลา<br />

คําตอบ 3 : แบริ่งรองรับเพลา


คําตอบ 4 :<br />

หางเสือ<br />

ขอที่ : 224<br />

ใบจักรที่ปรับ PITCH ไดนิยมใชในเรือประเภทใด<br />

คําตอบ 1 : เรือใหญที่ตองการความคลองตัวสูง<br />

คําตอบ 2 : เรือเล็กความเร็วสูง<br />

คําตอบ 3 : เรือสินคา<br />

คําตอบ 4 : เรือดําน้ํา<br />

ขอที่ : 225<br />

ขอใดเปนงานที่ตองดําเนินการโดยชางที่มีความชํานาญอยางสูง<br />

คําตอบ 1 : การหาคาความสั่นสะเทือนของเพลาใบจักร<br />

คําตอบ 2 : การหาแรงผลักของใบจักร<br />

คําตอบ 3 : การหาศูนยของเพลาใบจักร<br />

คําตอบ 4 : การกวดนัตปกใบจักร<br />

ขอที่ : 226<br />

ขอใดเปนการเกิดฟองอากาศบริเวณปลายปกใบจักร<br />

คําตอบ 1 : Cloud Cavitation<br />

คําตอบ 2 : Hub Cavitation<br />

คําตอบ 3 : Sheet Cavitation<br />

คําตอบ 4 : Tip Cavitation<br />

ขอที่ : 227<br />

วัสดุในขอใดไมนิยมใชทําแบริ่งรองรับเพลาใบจักร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

พลวง<br />

ไม<br />

ยาง<br />

เหล็กหลอ<br />

52 of 125<br />

ขอที่ : 228<br />

เรือสินคาโดยทั่วไปนิยมใชใบจักรจํานวนเทาใด


คําตอบ 1 : ใบจักรเดียว<br />

คําตอบ 2 : สองใบจักร<br />

คําตอบ 3 : สามใบจักร<br />

คําตอบ 4 : สี่ใบจักร<br />

53 of 125<br />

ขอที่ : 229<br />

ในเรือประเภทระวางขับทั่วไป (Displacement Type) ควรมีจํานวนรอบการหมุนของเพลาใบจักรเทาใด<br />

คําตอบ 1 : มากกวา 5,000 รอบตอนาที<br />

คําตอบ 2 : มากกวา 3,000 รอบตอนาที<br />

คําตอบ 3 : มากกวา 2,000 รอบตอนาที<br />

คําตอบ 4 : นอยกวา 1,000 รอบตอนาที<br />

ขอที่ : 230<br />

ขอใดคืออุปกรณในการใชศึกษาการทํางานของใบจักร<br />

คําตอบ 1 : Wind Tunnel<br />

คําตอบ 2 : Air Tunnel<br />

คําตอบ 3 : Water Tunnel<br />

คําตอบ 4 : Oil Tunnel<br />

ขอที่ : 231<br />

การหาน้ําหนักของใบจักร สามารถทําไดโดยใชหลักการใด<br />

ขอที่ : 232<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ใชกฏของ Simpson<br />

ใชกฏของ Bernoulli<br />

ใชกฏของ Newton<br />

ใชกฏของ Edison<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ใบจักรประเภทใดที่มีการติดตั้งในแนวดิ่ง<br />

คําตอบ 1 : ใบจักรประเภท CPP<br />

คําตอบ 2 : ใบจักรประเภท Voith Schneider<br />

คําตอบ 3 : ใบจักรประเภท FPP<br />

คําตอบ 4 : ใบจักรประเภท Contrarotating Propeller


ขอที่ : 233<br />

ขอที่ : 234<br />

ขอที่ : 235<br />

ขอที่ : 236<br />

ใบจักรที่มีระบบการใชอากาศอัดไปปลอยบริเวณปลายใบจักร เพื่อจุดประสงคใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

ลดเสียงของใบจักร<br />

คําตอบ 2 : ลดน้ําหนักของใบจักร<br />

คําตอบ 3 : ลดการเกิด Cavitation ของใบจักร<br />

คําตอบ 4 : เพิ่มการลอยตัวของใบจักร<br />

การขับเคลื่อนเรือดวยระบบ Water Jet มักประสบอุปสรรคในขอใด<br />

คําตอบ 1 : ความเร็วของน้ําที่สูงเกินไป<br />

คําตอบ 2 : ความเร็วของเรือที่สูงเกินไป<br />

คําตอบ 3 : ความลึกของน้ํา<br />

คําตอบ 4 : ความสกปรกและขยะในน้ํา<br />

ใบจักรประเภทใดที่มักจะอยูติดเปนชิ้นเดียวกันกับเครื่องยนต<br />

คําตอบ 1 : ใบจักรของเครื่องยนตประเภท Outboard<br />

คําตอบ 2 : ใบจักรของเครื่องยนตประเภท Inboard<br />

คําตอบ 3 : ใบจักรของเครื่องยนตประเภท Long Shaft Tail<br />

คําตอบ 4 : ใบจักรของเครื่องยนตประเภท Light Shaft Tail<br />

เครื่องยนตเรือเล็กขนาด 150 HP (112kW) ที่ 2,500 RPM ใชเกียรที่มีอัตราทด 2.5 ตอ 1 ใชเพลาใบจักรขนาด 75 มม. และเสนผาศูนยกลางของใบจักร 250 มม. จงคํานวณความ<br />

เร็วรอบสูงสุดของเพลาใบจักร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ไมเกิน 500 รอบตอนาที<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ไมเกิน 400 รอบตอนาที<br />

ไมเกิน 300 รอบตอนาที<br />

ไมเกิน 200 รอบตอนาที<br />

54 of 125<br />

ขอที่ : 237<br />

เครื่องยนตเรือเล็กขนาด 150 HP (112kW) ที่ 2,500 RPM ใชเกียรที่มีอัตราทด 2.5 ตอ 1 เสนผาศูนยกลางของใบจักร 250 มม. หากตองการเพิ่มความเร็วเรือจะตองทําอยางไร<br />

คําตอบ 1 : เพิ่มขนาดเสนผาศูนยกลางใบจักร


คําตอบ 2 : เพิ่ม Pitch ใบจักร<br />

คําตอบ 3 : ลดน้ําหนักบรรทุกของเรือ<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

55 of 125<br />

ขอที่ : 238<br />

ขอที่ : 239<br />

ขอที่ : 240<br />

ขอที่ : 241<br />

ในเรือประมงหรือเรือที่มีขนาดใกลเคียงกัน การเพิ่มความเร็วเรือสามารถกระทําไดอยางงายๆ อยางไร<br />

คําตอบ 1 : เปลี่ยนเครื่องยนต<br />

คําตอบ 2 : เปลี่ยนเกียรทด<br />

คําตอบ 3 : เพิ่ม Pitch ใบจักร<br />

คําตอบ 4 : ลด Pitch ใบจักร<br />

สําหรับวัตถุที่เคลื่อนที่ใตน้ําดวยความเร็วสูง และตองการควบคุมทิศทางการเคลื่อนที่ใหมีความเที่ยงตรงและแมนยํา เชน อาวุธตอรปโด นิยมใชใบจักรแบบใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Contrarotating Propeller<br />

CPP Propeller<br />

FPP Propeller<br />

Ducted Propeller<br />

ขอใดเปนขอไดเปรียบของระบบใบจักรแบบปรับ PITCH ได<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

ไมตองใชเกียรทด<br />

ไมตองกลับทางหมุนของเพลา<br />

คําตอบ 3 : ไมตองมีแบริ่งรองรับเพลา<br />

คําตอบ 4 : ไมตองมีแบริ่งกันรุน<br />

กรณีที่มีการใชงานรวมกันระหวางเครื่องยนตดีเซลและแกสเทอรไบน (CODAG) ทําใหประสบปญหาที่ไมสามารถหาจุดลงตัวในการเลือกใบจักรที่เหมาะสมได จึงควรใชใบจักร<br />

ประเภทใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

CPP<br />

FPP<br />

Contra Propeller<br />

Voith Schneider


ขอที่ : 242<br />

ขอที่ : 243<br />

ขอที่ : 244<br />

ขอที่ : 245<br />

ขอใดเปนความสัมพันธที่ถูกตองเมื่อตองการออกแบบใบจักรใหมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น<br />

คําตอบ 1 :<br />

ลดขนาดใบจักร ลดจํานวนรอบของเพลา<br />

คําตอบ 2 : ลดขนาดใบจักร เพิ่มจํานวนรอบของเพลา<br />

คําตอบ 3 : เพิ่มขนาดใบจักร เพิ่มจํานวนรอบของเพลา<br />

คําตอบ 4 : เพิ่มขนาดใบจักร ลดจํานวนรอบของเพลา<br />

กําหนดให w คือคา Wake Fraction บริเวณใบจักรทายเรือมีคา 0.3 จงหาคาสัมประสิทธิ์กระแสน้ํา wake<br />

คําตอบ 1 : มีคา 1.3<br />

คําตอบ 2 : มีคา 0.3<br />

คําตอบ 3 : มีคา 1.7<br />

คําตอบ 4 : มีคา 0.7<br />

กําหนดให t คือคา Thrust Deduction บริเวณใบจักรทายเรือมีคา 0.2 จงหาคาสัมประสิทธิ์การผลักน้ํา<br />

คําตอบ 1 : มีคา 1.2<br />

คําตอบ 2 : มีคา 1.8<br />

คําตอบ 3 : มีคา 0.8<br />

คําตอบ 4 : มีคา 0.2<br />

คาสัมประสิทธิ์การผลักน้ํามีคาเทากับ 1-t และคาสัมประสิทธิ์กระแสน้ํา Wake เทากับ 1-w ถากําหนดให t=0.2 และ w=0.3 จงหาคาประสิทธิภาพของตัวเรือ<br />

คําตอบ 1 : ประมาณ 1.1<br />

คําตอบ 2 : ประมาณ 10.1<br />

คําตอบ 3 : ประมาณ 1.5<br />

คําตอบ 4 : ประมาณ 15<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

56 of 125<br />

ขอที่ : 246<br />

การสรางใบจักร นิยมทําโดยวิธีใด<br />

คําตอบ 1 : ตีขึ้นรูป


คําตอบ 2 : การหลอ<br />

คําตอบ 3 : กลึง<br />

คําตอบ 4 : เชื่อมพอก<br />

57 of 125<br />

ขอที่ : 247<br />

ใบจักรที่ใชงานทั่วไปมีจํานวนปกใบจักรเทาใด<br />

คําตอบ 1 : ประมาณ 1-2 ปก<br />

คําตอบ 2 : ประมาณ 2-3 ปก<br />

คําตอบ 3 : ประมาณ 3-4 ปก<br />

คําตอบ 4 : ประมาณ 6-8 ปก<br />

ขอที่ : 248<br />

สําหรับเรือที่มีใบจักรคู ขอใดเปนการการหมุนของใบจักรที่ถูกตอง เมื่อมองจากทายเรือ<br />

คําตอบ 1 : หมุนตามเข็มนาฬิกา<br />

คําตอบ 2 : หมุนทวนเข็มนาฬิกา<br />

คําตอบ 3 : หมุนสลับกัน<br />

คําตอบ 4 : หมุนเขาหากัน<br />

ขอที่ : 249<br />

ขอที่ : 250<br />

โดยทั่วไปเรือที่มีใบจักรโผลพนน้ําขึ้นมาในขณะที่เรือแลนมีขอเสียอยางไร<br />

คําตอบ 1 : เสียงดัง<br />

คําตอบ 2 : สั่นสะเทือนมาก<br />

คําตอบ 3 : ใบจักรสึกกรอนเร็ว<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

อิทธิพลของใบจักรที่สงผลตอตัวเรือ ขณะที่เรือแลนในน้ําตื้นคือขอใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

Doppler Effect<br />

Shallow Water Effect<br />

Water Hammer Effect<br />

Error Effect


ขอที่ : 251<br />

หาก Blade Area Ratio ของจักร มีคาเทากับ 1.2 ทานคิดวาใบจักรจะมีลักษณะอยางไร<br />

คําตอบ 1 : ปกใบจักรแตละใบหางกันมาก<br />

คําตอบ 2 : ปกใบจักรแตละใบหางกันนอย<br />

คําตอบ 3 : ปกใบจักรแตละใบชิดหรือเกยกัน<br />

คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />

ขอที่ : 252<br />

ขอเสียของใบจักรแบบปรับ PITCH ไดคือขอใด<br />

คําตอบ 1 : ดุมใบจักรมีขนาดใหญ<br />

คําตอบ 2 : ดุมใบจักรมีขนาดเล็ก<br />

คําตอบ 3 : ปกใบจักรเล็กซอนเกยกัน<br />

คําตอบ 4 : ปกใบจักรบิดไมเทากัน<br />

ขอที่ : 253<br />

ใบจักรประเภท High performance เหมาะสําหรับเรือประเภทใด<br />

คําตอบ 1 : เรือหางยาว<br />

คําตอบ 2 : เรือยนตความเร็วสูง<br />

คําตอบ 3 : เรือลากจูง<br />

คําตอบ 4 : เรือทองแบน<br />

ขอที่ : 254<br />

เรือ CATAMARAN โดยทั่วไปจะมีใบจักรจํานวนเทาใด<br />

คําตอบ 1 : ใบจักรเดียว<br />

คําตอบ 2 : สองใบจักร<br />

คําตอบ 3 : สามใบจักร<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 4 : ใชระบบพนน้ํา<br />

58 of 125<br />

ขอที่ : 255<br />

การทดลองเรือจําลองแบบใดที่ใบจักรมีอิทธิพลตอตัวเรือโดยตรง<br />

คําตอบ 1 : Self <strong>Propulsion</strong> Test<br />

คําตอบ 2 : Service Water Test


คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Open Water test<br />

Loop Water Test<br />

59 of 125<br />

ขอที่ : 256<br />

Cavitation Number ของใบจักรขอใดที่มีคาเหมาะสมที่สุด<br />

ขอที่ : 257<br />

ขอที่ : 258<br />

ขอที่ : 259<br />

คําตอบ 1 : มีคา 1000<br />

คําตอบ 2 : มีคา 100<br />

คําตอบ 3 : มีคา 10<br />

คําตอบ 4 : มีคา 1<br />

ขอใดควรเปนคาความเร็วรอบเพลาใบจักรของเรือยนตขามฟากแมน้ําเจาพระยา โดยมีเครื่องยนต ขนาด 100 HP (75 kW) ที่ 2000 รอบตอนาที<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ประมาณ 0- 1000 รอบตอนาที<br />

ประมาณ 0- 10,000 รอบตอนาที<br />

ประมาณ 5,000- 10,0000 รอบตอนาที<br />

ไมมีขอใดถูก<br />

ขอใดเปนอุปกรณในการหาศูนยเพลาใบจักร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

กลองดิจิตอล<br />

กลอง Telescope<br />

กลอง Theodolite<br />

กลอง Perisciope<br />

พื้นที่ของใบจักรใบหนึ่งเมื่อหมุน 1 รอบ มีพื้นที่ A ตารางเมตร สมมติวาพื้นที่คลี่แบนรวมของใบจักรทุกใบมีคา B ตารางเมตร จงหาคา Blade Area Ratio ของใบจักรใบนี้<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

A x B<br />

A + B<br />

A/B<br />

B/A<br />

ขอที่ : 260


ใบจักรแบบปรับ PITCH ได มีขอไดเปรียบประการสําคัญเรื่องใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

หยุดไดงายกวา<br />

คําตอบ 2 : เรงเครื่องไดเร็วกวา<br />

คําตอบ 3 : เลี้ยวไดแคบกวา<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

60 of 125<br />

ขอที่ : 261<br />

ขอที่ : 262<br />

ขอที่ : 263<br />

ขอที่ : 264<br />

ใบจักรของเครื่องยนตติดทาย (Outboard) แตกตางอยางไรกับใบจักรเรือยนตทั่วไป<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ไมมีมุมพิชท<br />

ไมตองมีใบหางเสือหลังใบจักร<br />

ไมตองมีดุมใบจักร<br />

ไมมีขอใดถูก<br />

ใบจักรประเภท Super Cavitation มีหลักการทํางานอยางไร<br />

คําตอบ 1 :<br />

สรางความเร็วเหนือเสียง<br />

คําตอบ 2 : ผลักน้ําดวยแรงบิดสูง<br />

คําตอบ 3 : สรางโพรงอากาศบนใบจักร<br />

คําตอบ 4 : สรางเสียงความถี่สูง<br />

ใบจักรสําหรับเรือหางยาว มีขอไดเปรียบอยางไร<br />

คําตอบ 1 :<br />

ปรับความยาวได<br />

คําตอบ 2 : ปรับอัตราการกินน้ําลึกได<br />

คําตอบ 3 : ปรับแตงวงหันได<br />

คําตอบ 4 : ไมมีขอถูก<br />

โลหะใดสามารถใชทําเพลาใบจักรได<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

Stainless Steel<br />

เหล็กหลอ<br />

ทองเหลือง


ขอที่ : 265<br />

ขอที่ : 266<br />

ขอที่ : 267<br />

คําตอบ 4 : อลูมินั่ม<br />

วัสดุในขอใดชวยลดการกัดกรอนของตัวเรือและใบจักร<br />

คําตอบ 1 :<br />

สังกะสีกันกรอน<br />

คําตอบ 2 : อลูมินั่มอัลลอย<br />

คําตอบ 3 : โครเมียม<br />

คําตอบ 4 : ทองแดง<br />

การหลอลื่นที่เกิดขึ้นที่ Journal bearing รองรับเพลาในขณะ Steady state โดยที่การหมุนของเพลาทําใหเกิดความดันในชั้นฟลมน้ํามันหลอดันใหเพลาลอยขึ้น การหลอลื่นชนิดนี้<br />

เรียกวาอะไร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Hydrodynamic lubrication<br />

Hydrostatic lubrication<br />

Mixed-film lubrication<br />

Boundary lubrication<br />

อาการหมุนควง (Whirling or whipping) ของเพลา หรือที่เรียกวาเกิด Dynamic instability ซึ่งอาจมีผลทําใหเกิดความสั่นสะเทือนมากจนเกิดความเสียหาย เกิดขึ้นไดในสภาวะ<br />

อยางไร<br />

คําตอบ 1 :<br />

ความเร็วรอบสูง, ภาระสูง<br />

คําตอบ 2 : ความเร็วรอบสูง, ภาระต่ํา<br />

คําตอบ 3 : ความเร็วรอบต่ํา, ภาระสูง<br />

คําตอบ 4 : ความเร็วรอบต่ํา, ภาระต่ํา<br />

ขอที่ : 268<br />

ภาระที่เกิดขึ้นเนื่องจากการเหนี่ยวนําของใบจักร( Propeller-induced load) ที่มีจํานวนปกเปนเลขคี่ กับที่มีจํานวนปกเปนเลขคูซึ่งกระทําตอเพลาใบจักรมีลักษณะอยางไร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

อยางแรกทําใหเกิดการแปรปรวนของแรงรุน (Thrust variation) มากกวา<br />

อยางแรกทําใหเกิดความแปรปรวนของแรงบิด( Torque variation) มากกวา<br />

อยางแรกทําใหเกิด Bending moment มากกวา<br />

ถูกทุกขอ<br />

61 of 125<br />

ขอที่ : 269


อุปกรณในเรือประเภทใดนิยมใช Rolling-Contact Bearing<br />

คําตอบ 1 :<br />

เพลาใบจักร<br />

คําตอบ 2 : เครื่องกําเนิดไฟฟาขนาดเล็ก<br />

คําตอบ 3 : ชุดเฟองทดของเครื่องจักรใหญ<br />

คําตอบ 4 : ระบบถือทาย<br />

62 of 125<br />

ขอที่ : 270<br />

เพลาทอนใดรับ Bending Load มากที่สุด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Line Shaft<br />

Stern-Tube Shaft<br />

Propeller Shaft<br />

Thrust Shaft<br />

ขอที่ : 271<br />

Load ประเภทใดที่มีอิทธิพลมากที่สุดในการพิจารณาเรื่อง Strength ของวัสดุที่ใชทําเพลาใบจักร<br />

ขอที่ : 272<br />

ขอที่ : 273<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Torsional Load<br />

Thrust Load<br />

Bending Load<br />

Radial Load<br />

ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับระบบเพลาใบจักร<br />

คําตอบ 1 : โดยปรกติหนาแปลนตอเพลาจะหลอเปนชิ้นเดียวกันกับเพลา<br />

คําตอบ 2 : ทอนเพลาที่ผาน Stern Tube หนาแปลนดานหนา ( Forward Flange) มักจะถอดได<br />

คําตอบ 3 : สลักที่ใชยึดหนาแปลนเปนสลักเรียว<br />

คําตอบ 4 : สลักที่ใชยึดหนาแปลนไมจําเปนตองตอกอัดใหแนนเพราะมี Split Pin ล็อกตรงปลายสลักไมใหนัตเลื่อนหลุด<br />

คุณสมบัติสําคัญของ Coupling ที่ใชตอระหวางเพลาของReciprocating Engine กับ Reduction Gear คืออะไร<br />

คําตอบ 1 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ตองรองรับการหักมุมของแนวเพลา ( Angular Misalignment) ไดมาก<br />

คําตอบ 2 : ตองรองรับการเยื้องศูนยของแนวเพลา ( Lateral Misalignment ) ไดมาก<br />

คําตอบ 3 : ลด Torque variation


คําตอบ 4 :<br />

ลด Thrust variation<br />

ขอที่ : 274<br />

Clutch ประเภทใด นิยมใชใน Reverse Gear ของเรือ <br />

ขอที่ : 275<br />

ขอที่ : 276<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Frictional<br />

Mechanical (gear teeth)<br />

Hydraulic<br />

Electric<br />

Single reduction, Single input<br />

Single reduction, Double input<br />

Double reduction, Single input<br />

Double reduction, Double input<br />

สิ่งใดที่ไมเกี่ยวกับคุณสมบัติ “ Self-locking” ของเฟองตัวหนอน<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

Pressure angle<br />

Lead angle<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 3 : สัมประสิทธิ์ความเสียดทานระหวางตัวหนอนกับลอ<br />

คําตอบ 4 : Axial pitch ของตัวหนอน<br />

63 of 125<br />

ขอที่ : 277<br />

การชํารุดของผิวฟนเฟองของเฟองตรงซึ่งเปนผลของ Hertz Contact Stress จะเกิดมากที่สุดบริเวณใด<br />

คําตอบ 1 : Addendum<br />

คําตอบ 2 : Dedendum


คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Pitch circle<br />

Top l<strong>and</strong><br />

64 of 125<br />

ขอที่ : 278<br />

เมื่อยกแบริ่งรับเพลา# 1 ขึ้น 0.002 in. (0.0508 mm.) Load เปลี่ยนจาก 88,960 N เปน 93,408 N สวนที่แบริ่ง# 2 เปลี่ยนจาก 84,512 N เปน 82,288 N จงหาคา RIN ของแบริ่ง<br />

2 เนื่องจากการยกแบริ่ง 1<br />

ขอที่ : 279<br />

ขอที่ : 280<br />

ขอที่ : 281<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

2,224 N<br />

- 2,224 N<br />

1,112 N<br />

- 1,112 N<br />

ในการวางแนวตอเพลากับ Reduction Gear อยูในระดับต่ําควรคํานึงถึงขอใด<br />

คําตอบ 1 : เมื่อใชงานแบริ่งรองรับ Reduction Gear จะขยายตัวสูงขึ้นกวาแบริ่งรองรับเพลา<br />

คําตอบ 2 : เมื่อใชงานแบริ่งรองรับเพลาจะขยายตัวขึ้นสูงกวาแบริ่งรองรับ Reduction Gear<br />

คําตอบ 3 : เวลาใชงานแบริ่งของ Reduction Gear คูหนาจะขยายตัวยกตัวมากกวาคูหลัง<br />

คําตอบ 4 : เวลาใชงานเพลาจะขยายตัวตามความยาวยันกับ Reduction Gear<br />

ตาราง Bearing reaction influence number (RIN) ไมสามารถใชประโยชนไดในขอใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

วิเคราะหหาคา Flexibility ของ เพลา<br />

หาคา Load รวมของเพลา<br />

คําตอบ 3 : ปรับใหแบริ่งแตละตัวรับ Load เทา ๆ กัน<br />

คําตอบ 4 : หา Misalignment<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

a<br />

b<br />

c<br />

d<br />

65 of 125<br />

ขอที่ : 282<br />

ขอที่ : 283<br />

ในการหาศูนยเพลาของชุดมอเตอรและปม ควรถอดสลักฐานแทนชิ้นสวนใดออกเพื่อสะดวกในการปรับแตงศูนยเพลา<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 : ปม<br />

มอเตอร<br />

คําตอบ 3 : อุปกรณที่หนาแปลนอยูสูงกวา<br />

คําตอบ 4 : อุปกรณที่หนาแปลนอยูต่ํากวา<br />

การใช Dial gauge เพื่อวัดระยะ Gap หรือระยะ Sag ระหวางหนาแปลน 2 อัน จะใหหนาแปลนอันหนึ่งอยูนิ่ง(ไมหมุน)ในขณะที่จะทําการวัดระยะเมื่อหมุนหนาแปลนอีกอันหนึ่งไปทุก<br />

ๆกี่องศา<br />

คําตอบ 1 : 30<br />

คําตอบ 2 : 45<br />

คําตอบ 3 : 60<br />

คําตอบ 4 : 90<br />

ขอที่ : 284<br />

Unit Load ของแบริ่งสามารถคํานวณไดจากสิ่งใด<br />

ขอที่ : 285<br />

คําตอบ 1 : น้ําหนักทั้งหมดของเพลาหารดวยจํานวนแบริ่งที่รองรับเพลา<br />

คําตอบ 2 : น้ําหนักที่รองรับโดยแบริ่งหารดวยพื้นผิวภายในทรงกระบอกสวนลางของแบริ่ง<br />

คําตอบ 3 : น้ําหนักที่รองรับดวยแบริ่งหารดวยผลคูณของเสนผาศูนยกลางภายในและความยาวของแบริ่ง<br />

คําตอบ 4 : เปนคาที่โรงงานผูผลิตคํานวณมาใหแลวสําหรับแบริ่งแตละตัว<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ในการหลอลื่นแบบ Fully Hydrodynamic ใน Journal Bearing ขอใดไมมีอิทธิพลตอคาสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานในการหมุนของเพลา<br />

คําตอบ 1 : ความหนืดของน้ํามันหลอลื่น<br />

คําตอบ 2 : ความเร็วรอบของเพลา<br />

คําตอบ 3 : Bearing Unit Load<br />

คําตอบ 4 : ชนิดของโลหะที่ใชทําแบริ่ง


ขอที่ : 286<br />

ขอที่ : 287<br />

ขอที่ : 288<br />

คา Clearance ratio คืออัตราสวนระหวางรัศมีของเพลากับระยะ Clearance สําหรับ Journal Bearing โดยปรกติมีคาอยูระหวางใด<br />

คําตอบ 1 : 10 - 50<br />

คําตอบ 2 : 50 - 100<br />

คําตอบ 3 : 100 – 500<br />

คําตอบ 4 : 500 – 1,000<br />

โดยปรกติการระบุความหนืดของน้ํามันเครื่อง ของ Society of Automotive Engineering ของสหรัฐอเมริกาจะอางอิงที่อุณหภูมิกี่องศา<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

เพลาที่อยูภายในตัวเรือตองผาน Stuffing Box เมื่อเพลายาวผานสวนใดของเรือ<br />

คําตอบ 1 : ผนังกั้นหองใด ๆ<br />

คําตอบ 2 : ผนังผนึกน้ํา<br />

คําตอบ 3 : ทะลุกงเรือ<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 4 : ผนังหองที่ใชเก็บสารระเหย<br />

66 of 125<br />

ขอที่ : 289<br />

บริษัทผูผลิตแบริ่งมักจะระบุอายุการทํางานของแบริ่งเปน “B-10 Life” ซึ่งหมายถึงขอใด<br />

คําตอบ 1 : แบริ่งแบบนั้นทุกตัวที่ออกมาจากโรงงานจะมีอายุการใชงานเทากับหรือเกินกวา ถาถูกใชงานในสภาพทั่ว ๆไป<br />

คําตอบ 2 : แบริ่งแบบนั้นทุกตัวที่ออกมาจากโรงงานจะมีอายุการใชงานเทากับหรือเกินกวา ถาถูกใชงานในสภาพที่อุณหภูมิและการหลอลื่นเหมาะสม


คําตอบ 3 : 90% ของแบริ่งแบบนั้นที่ออกมาจากโรงงานจะมีอายุการใชงานเทากับหรือเกินกวา ถาถูกใชงานในสภาพ ทั่ว ๆ ไป<br />

คําตอบ 4 : 90% ของแบริ่งแบบนั้นที่ออกมาจากโรงงานจะมีอายุการใชงานเทากับหรือเกินกวา ถาถูกใชงานในสภาพที่อุณหภูมิและการหลอลื่นเหมาะสม<br />

67 of 125<br />

ขอที่ : 290<br />

Sleeve Bearing ที่ทําจากสารสังเคราะห “TEFLON” มีขอดีคืออะไร<br />

ขอที่ : 291<br />

ขอที่ : 292<br />

ขอที่ : 293<br />

คําตอบ 1 :<br />

มีความทนทาน<br />

คําตอบ 2 : ไมตองใชสารหลอลื่น<br />

คําตอบ 3 : สัมประสิทธิ์ความเสียดทานลดลงเมื่อแรงกดมากขึ้น<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขอใดไมใชขอไดเปรียบของการใช Roller Bearing เทียบกับการใช Sleeve Bearing กับเครื่องกังหันขนาดใหญ<br />

คําตอบ 1 : ขีดความสามารถในการรับภาระ (Capacity)<br />

คําตอบ 2 : การกินเนื้อที่ (Space Requirement)<br />

คําตอบ 3 : น้ําหนัก<br />

คําตอบ 4 : ความคงทนตอการใชงาน<br />

การใสน้ํามันหลอลื่นให Anti-Friction Bearing มากเกินไป สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือขอใด<br />

คําตอบ 1 : โดยปรกติไมมีผลเสียหายใด ๆ เกิดขึ้น<br />

คําตอบ 2 : สามารถทําใหเกิดการขัดตัว (Hydraulic lock) และเสียงดัง<br />

คําตอบ 3 : สิ้นเปลืองน้ํามันหลอ<br />

คําตอบ 4 : เกิดการรั่วไหลของน้ํามันหลอ<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

แรง Thrust บนใบจักรไมไดมีแนวแรงเปนแนวเดียวกับเพลาเสียทีเดียวเนื่องจากอิทธิพลของกระแสการไหลของน้ําที่เขาปะทะใบจักร ทําใหแรง Thrust ในเรือใบจักรเดียวโดยปรกติ<br />

จะอยูในลักษณะใด<br />

คําตอบ 1 : สูงกวาแนวแกนใบจักรและเบี่ยงไปทางกราบขวา<br />

คําตอบ 2 : สูงกวาแนวแกนใบจักรและเบี่ยงไปทางกราบซาย<br />

คําตอบ 3 : ต่ํากวาแนวแกนใบจักรและเบี่ยงไปทางกราบขวา<br />

คําตอบ 4 : ต่ํากวาแนวแกนใบจักรและเบี่ยงไปทางกราบซาย


ขอที่ : 294<br />

ขอที่ : 295<br />

ขอที่ : 296<br />

ขอที่ : 297<br />

สิ่งที่มีผลตอตําแหนงของแรง Thrust ลัพธที่กระทําตอใบจักรบนเรือคือขอใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

รูปรางของทายเรือ<br />

รูปรางใบจักร<br />

คําตอบ 3 : ความลึกที่ใบจักรจมน้ํา<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขอใดมีผลทําใหความแปรปรวนของแรงรุน (Thrust variation) และแรงบิด (Torque variation) ของเพลาใบจักรเพิ่มขึ้น<br />

คําตอบ 1 : เปลี่ยนจํานวนใบ(Blade)ของใบจักรจากจํานวนคี่เปนจํานวนคู<br />

คําตอบ 2 : เพิ่มมุมบิด(Skew)ของใบจักร<br />

คําตอบ 3 : เลื่อนใบจักรใหอยูใกลทายเรือมากยิ่งขึ้น<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขอมูลใดไมจําเปนตองใชในการคํานวณหาแรงบิดของเพลาใบจักร<br />

คําตอบ 1 : กําลังที่เครื่องยนตทําได<br />

คําตอบ 2 : ความเร็วรอบของเครื่องยนต<br />

คําตอบ 3 : อัตราทดของ Reduction Gear<br />

คําตอบ 4 : รัศมีของเพลาใบจักร<br />

การคํานวณหาแรงบิดสําหรับหาขนาดเครื่องยนตที่จะใชขับเพลาใบจักร ตองเผื่อไวสําหรับการขับเคลื่อนในสภาวะฉุกเฉินและเมื่อตัวเรือมีเพรียง โดยปรกติจะเพิ่มแรงบิดจากที่คํานวณ<br />

แลวไปอีกเทาใด<br />

คําตอบ 1 : 5%<br />

คําตอบ 2 : 10%<br />

คําตอบ 3 : 20%<br />

คําตอบ 4 : 50%<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

68 of 125<br />

ขอที่ : 298<br />

จากการลากแบบจําลองของเรือในถังน้ําทดสอบ(Towing Tank) พบวาแรงตานทานของเรือเปน R และประเมินคา Thrust Reduction Fraction เทากับ t แรง Thrust ที่ใบจักรตอง<br />

สรางขึ้นมาเทากับเทาใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

(1+t)R


คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

(1-t)R<br />

R/(1+t)<br />

R/(1-t)<br />

69 of 125<br />

ขอที่ : 299<br />

ขอที่ : 300<br />

ขอที่ : 301<br />

ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับ Thrust Load ในเพลาใบจักร<br />

คําตอบ 1 : คาเฉลี่ย(Mean)ทําใหเกิดความเคนในเพลาใบจักรมีคานอยจนไมตองนํามาคิดเรื่องความแข็งแรงของเพลา<br />

คําตอบ 2 : คาแปรปรวน(Variation)มีคานอยจนไมตองนํามาคิดเรื่องความแข็งแรงของเพลา<br />

คําตอบ 3 : คาแปรปรวนโดยปรกติมีคาประมาณ 20%ถึง 5 เทาของคาเฉลี่ย(Mean)<br />

คําตอบ 4 : จํานวนปก(Blade) ของใบจักรมีผลตอขนาดของคาแปรปรวน<br />

ขอใดไมทําใหเกิดการโกงตัว (Bending) ของเพลาใบจักร<br />

คําตอบ 1 : น้ําหนักเพลา<br />

คําตอบ 2 : การวางแนวเพลาไมดี ( Misalignment )<br />

คําตอบ 3 : แรงปฏิกิริยา (Reaction Force) ของน้ําที่กระทําตอใบจักร<br />

คําตอบ 4 : แรงในแนวรัศมีของเพลาใบจักร<br />

คําตอบ 1 : d/2<br />

คําตอบ 2 : d<br />

คําตอบ 3 : 2d<br />

คําตอบ 4 : L/2<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอที่ : 302<br />

ความเรียวของสลักเรียวไรหัว(Headless Taper Bolt) ที่ใชยึดหนาแปลนเพลาใบจักรเมื่อเปรียบเทียบกับสลักยึดที่มีหัว (Headed bolt) จะเปนอยางไร


คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

มากกวา<br />

เทากัน<br />

นอยกวา<br />

ไมแนนอน<br />

70 of 125<br />

ขอที่ : 303<br />

ขอที่ : 304<br />

ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับการอัดสลักยึดหนาแปลนเพลาโดยใชไฮดรอลิกส<br />

คําตอบ 1 : ตั้งคาอัดที่แนนอนได<br />

คําตอบ 2 : อัดแลวไมจําเปนตองตรวจสอบโดยวิธีการใดๆ อีก<br />

คําตอบ 3 : ไมทําใหผิวสัมผัสระหวางสลักกับหนาแปลนเสียหาย<br />

คําตอบ 4 : หัวอัดไฮดรอลิกสตองถูกถอดออกจากหัวสลักเมื่ออัดเสร็จแลว<br />

ขอใดไมใชความจําเปนที่ตองมี Clutch ภายในเรือ<br />

คําตอบ 1 : มีเครื่องจักรใหญชนิดเดียวกันมากกวา 1 เครื่องขับเคลื่อนเพลาใบจักรเดียวกัน<br />

คําตอบ 2 : มีเครื่องจักรใหญตางชนิดกันขับเคลื่อนเพลาใบจักร<br />

คําตอบ 3 : ใชระบบเฟองถอยหลัง<br />

คําตอบ 4 : เปนเรือใบจักรเดี่ยวและใบจักรปรับพิทชได<br />

ขอที่ : 305<br />

Clutch ที่ถายแรงบิดไปในทิศทางเดียว และจะหมุนฟรีไปในทิศทางตรงกันขามคือชนิดใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Drum<br />

Multiple-Disk<br />

Overrunning<br />

Hydraulic<br />

ขอที่ : 306<br />

ในเรือที่มีการใชเครื่องยนตดีเซลตอรวมกับเครื่องกาซเทอรไบนในการขับเพลาใบจักร(CODAG) เพื่อปองกันการเกิด Overspeed ของเครื่องยนตดีเซลควรใช Clutch ประเภทใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

Drum<br />

Multiple-Disk<br />

Overrunning<br />

Hydraulic


ขอที่ : 307<br />

ขอที่ : 308<br />

ขอที่ : 309<br />

ขอที่ : 310<br />

อุปกรณประเภทใดสามารถทําหนาที่คลายเกียรและใชเพิ่มอัตรา Reduction Ratio ระหวางเครื่องยนตดีเซลกับเพลาใบจักรได<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Drum type Clutch<br />

Overrunning Clutch<br />

Hydraulic Torque Converter<br />

Electric Clutch<br />

ขอดอยของ Hydraulic Clutch คือขอใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

ไมสามารถสงผานแรงบิดขนาดสูง ๆ ได<br />

คําตอบ 2 : ประสิทธิภาพต่ําถาไมทํางานตามความเร็วที่ออกแบบไว<br />

คําตอบ 3 : สามารถสงผานการหมุนไดทิศทางเดียว<br />

คําตอบ 4 : ดูดซับแรงสั่นสะเทือนไดไมดี<br />

ในการทํางานของ Hydraulic Coupling คา “SLIP” ควรมีคาใด<br />

คําตอบ 1 : นอยกวา 1<br />

คําตอบ 2 : เทากับ 1<br />

คําตอบ 3 : มากกวา 1<br />

คําตอบ 4 : ไมแนนอน<br />

ขอตอเพลาชนิดใดนิยมใช เฉพาะกับเรือเล็ก ๆ (เรือใหญไมนิยมใช)<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

แบบฟนเฟอง (Gear Coupling)<br />

แบบใชแผนยางสังเคราะห (Elastomeric Coupling)<br />

แบบ Universal joint<br />

แบบใชแผนไดอะแฟรมโลหะ (Diaphragm Coupling)<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

71 of 125<br />

ขอที่ : 311<br />

Reduction Gear ในเรือนิยมใชเฟองกางปลา (Double Helical) แทนที่จะใชเฟองตรงเนื่องจากอะไร<br />

คําตอบ 1 :<br />

สงผานกําลังไดมากกวา


คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

มีเสียงเงียบกวา<br />

ไมมีแรงลัพธในแนวแกนเฟอง<br />

ถูกทุกขอ<br />

72 of 125<br />

ขอที่ : 312<br />

คําตอบ 1 : Single input, Articulated<br />

คําตอบ 2 : Double input, Articulated<br />

คําตอบ 3 : Single input, Locked train<br />

คําตอบ 4 : Double input, Locked train<br />

ขอที่ : 313<br />

เฟองตรงคูหนึ่งประกอบดวยตัวขับและตัวตามซึ่งมีความหนาเทากันเปนวัสดุชนิดเดียวกันแตจํานวนฟนไมเทากัน คาตอไปนี้คาใดที่เทากัน<br />

คําตอบ 1 : ความเร็วเชิงมุม<br />

คําตอบ 2 : มุมความดัน ( Pressure angle)<br />

คําตอบ 3 : Bending stress ( Lewis stress)<br />

คําตอบ 4 : Contact stress (Hertz stress)<br />

ขอที่ : 314<br />

คาเฉลี่ยของจํานวนฟนเฟองที่สัมผัสกัน ในขณะที่เฟองตรง 2 อันหมุนขบกันเรียกวาอะไร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

Gear ratio<br />

Tooth ratio<br />

Contact ratio<br />

Velocity ratio<br />

ขอที่ : 315


การชํารุดของผิวหนาฟนเฟองที่เรียกวา “รอยครูด” (Scoring หรือ Galling) เกิดจากอะไร<br />

คําตอบ 1 : ความเคนที่เกิดจากผิวโคงของฟนเฟองกลิ้งสัมผัสกัน ( Contact stress) เมื่อเฟองขบกัน<br />

คําตอบ 2 : การลื่นไถลระหวางฟนเฟอง(Sliding) เมื่อเฟองขบกัน<br />

คําตอบ 3 : ความเคนที่พยายามทําใหฟนเฟองโกงตัว (Bending stress)<br />

คําตอบ 4 : ความเคนตกคาง(Residual stress) จาการขึ้นรูปฟนเฟอง<br />

73 of 125<br />

ขอที่ : 316<br />

ขอที่ : 317<br />

ขอที่ : 318<br />

ขอที่ : 319<br />

เพื่อหลีกเลี่ยงการเกยกัน(Interference)ของฟนเฟองตรงที่ขบกันวิธีตอไปนี้อาจถูกนํามาใช ยกเวนขอใด<br />

คําตอบ 1 : ตัดปลายฟนเฟองออกใหสั้นกวาความยาวมาตรฐาน<br />

คําตอบ 2 : กัดฟนเฟองใหมีรองระหวางฟนกวางขึ้นทําใหฟนเฟองบางลง<br />

คําตอบ 3 : ใชคูเฟองขับและเฟองตามที่มีความตางของจํานวนฟนลดลง<br />

คําตอบ 4 : ใชเฟองที่มีมุมกดดันของฟนเฟอง(Pressure angle) ลดลง<br />

ทําไมเฟองขับและเฟองตามที่มีขนาดตางกันมากจึงมักทําดวยโลหะตางชนิดกัน<br />

คําตอบ 1 : เพื่อปองกันการหลอมติดกันกันของผิวฟนเฟอง<br />

คําตอบ 2 : เพื่อใหพื้นผิวฟนเฟองมีการปรับสภาพใหขบกันไดสนิทเมื่อใชงานไประยะหนึ่ง<br />

คําตอบ 3 : เพื่อใหเกิดการหลอลื่น<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับน้ํามันเกียร<br />

คําตอบ 1 : น้ํามันเกียรที่หลอเพลาของเฟองเปนคนละชนิดกับที่หลอฟนเฟอง<br />

คําตอบ 2 : ชวยกระจายความกดดันที่เกิดจากการขบกันของฟนเฟองไปตามผิวหนาฟนเฟอง<br />

คําตอบ 3 : ลดแรงเสียดทานระหวางพื้นผิวฟนเฟองที่สัมผัสกัน<br />

คําตอบ 4 : ระบายความรอนออกจากฟนเฟอง<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


คําตอบ 1 :<br />

74 of 125<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ขอที่ : 320<br />

คา Bearing Reaction Influence Numbers (RIN) คืออะไร<br />

คําตอบ 1 : แรงกดดันที่กระทําลงที่แบริ่งละตัว<br />

คําตอบ 2 : แรงกดดันที่กระทําลงที่แบริ่งแตละตัวเมื่อยกแบริ่งแตละตัวขึ้น 1 หนวยจากตําแหนงปรกติ<br />

คําตอบ 3 : แรงกดดันที่เปลี่ยนไปบนแบริ่งแตละตัวเมื่อยกแบริ่งตัวใดตัวหนึ่งขึ้น 1 หนวยจากตําแหนงปรกติ<br />

คําตอบ 4 : แรงกดดันที่เปลี่ยนไปบนแบริ่งแตละตัวเมื่อยกแบริ่งทุกตัวขึ้น 1 หนวยจากตําแหนงปรกติ<br />

ขอที่ : 321<br />

ในตาราง Bearing Reactions <strong>and</strong> Influence Numbers (RIN) ระยะยกตัวของแบริ่งแตละตัวมีคาเทากับเทาใด<br />

ขอที่ : 322<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

1 มิลลิเมตร<br />

1 เซนติเมตร<br />

คําตอบ 3 : 1/10 นิ้ว<br />

คําตอบ 4 : 1/1000 นิ้ว<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ในทางทฤษฎีแนวเพลาควรเปนเชนใดและเพราะเหตุผลใด<br />

คําตอบ 1 : เปนเสนตรงอุดมคติเพื่อหลีกเลี่ยง Reversed bending stress ซึ่งจะทําใหเกิดความเสียหายแกเพลา<br />

คําตอบ 2 : เปนเสนตรงอุดมคติเพื่อหลีกเลี่ยงการขัดตัวกับแบริ่งซึ่งจะทําใหเกิดความเสียหายแกเพลาและแบริ่ง<br />

คําตอบ 3 : เปนเสนโคงเพื่อใหเขากับการแอนตัวของเพลาเนื่องจากน้ําหนักของตัวมันเอง<br />

คําตอบ 4 : เปนเสนโคงเพราะตองคํานึงถึงการเปลี่ยนแปลงของแรงปฏิกิริยาของ แบริ่งเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นในขณะเพลาถูกใชงาน


ขอที่ : 323<br />

ขอที่ : 324<br />

ขอที่ : 325<br />

ในกรณีของเรือที่ใชเครื่องยนตขับเพลาใบจักรผาน Reduction Gear การวางแนวเพลาที่ไมดีพออาจเกิดการชํารุดที่จุดใด<br />

คําตอบ 1 : เครื่องยนต<br />

คําตอบ 2 : Reduction Gear<br />

คําตอบ 3 : ใบจักร<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ผูผลิตมักจะแสดงขอมูลหนึ่งบน Reduction Gear ซึ่งมีประโยชนในการพิจารณาเรื่องการวางแนวเพลา ขอมูลนั้นคือขอใด<br />

คําตอบ 1 : Reduction Ratio<br />

คําตอบ 2 : น้ําหนักของ Reduction Gear<br />

คําตอบ 3 : ความตางสูงสุดระหวางแรงปฏิกิริยาของแบริ่งคูหนาและคูหลังที่อนุญาตใหเกิดได<br />

คําตอบ 4 : มิติของตัวเรือนของ Reduction Gear<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

75 of 125<br />

คําตอบ 4 :


ขอที่ : 326<br />

ขอที่ : 327<br />

ขอที่ : 328<br />

ขอที่ : 329<br />

ในการวางเพลาภายในเรือจะมีการวัดแรงปฏิกิริยาของแบริ่งรองรับเพลาเพื่อใชปรับความสูงของแบริ่ง การวัดแรงปฏิกิริยาครั้งแรกจะกระทําเมื่อใด<br />

คําตอบ 1 : เพลาแตละทอนวางอยูบนแบริ่ง แตยังไมไดตอหนาแปลนระหวางทอนเพลา<br />

คําตอบ 2 : เพลาแตละทอนวางอยูบนแบริ่ง และไดตอหนาแปลนระหวางทอนเพลาแลว<br />

คําตอบ 3 : ไดตอหนาแปลนระหวางทอนเพลาและเขากับหนาแปลนของ Reduction Gear แลว<br />

คําตอบ 4 : ไดตอหนาแปลนระหวางทอนเพลา, หนาแปลนของ Reduction Gear และหนาแปลนเพลาเขาทอ Stern tube แลว<br />

ในการตอเพลาเขากับ Reduction Gear คา “Drop” เปน + ในกรณีใด<br />

คําตอบ 1 : แนวแกนเพลาสูงกวาแนว แกน(Output) ของ Reduction Gear<br />

คําตอบ 2 : แนวแกนเพลาต่ํากวาแนว แกน(Output) ของ Reduction Gear<br />

คําตอบ 3 : หนาแปลนทั้งสองเกยกัน<br />

คําตอบ 4 : หนาแปลนทั้งสองไมเกยกัน<br />

ในการตอเพลาเขากับเครื่องยนตดีเซลรอบต่ําที่ใชขับเคลื่อนเพลาใบจักรโดยตรง ควรมีการตรวจสอบขอมูลใดเพิ่มเติมเพื่อใหแนใจวาแนวเพลาอยูในเกณฑยอมรับได<br />

คําตอบ 1 : ความเคนที่ขอเหวี่ยงของเครื่องยนต<br />

คําตอบ 2 : แรงอัดที่กระบอกสูบ<br />

คําตอบ 3 : แรงปฏิกิริยาที่แบริ่งของขอเหวี่ยงดานหัวเรือ<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับการใช Strain gauge หาศูนยเพลาใบจักร<br />

คําตอบ 1 : สามารถวัดคาพรอมกันทั้งในแนวดิ่งและแนวระดับ<br />

คําตอบ 2 : เมื่อติดตั้งอุปกรณเสร็จหมดแลว การอานคาทําไดรวดเร็ว<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 3 : สามารถใชวิธีนี้หาศูนยเพลาไดแมขณะเรือออกทะเล<br />

คําตอบ 4 : การวิเคราะหขอมูลที่อานไดไมยุงยาก<br />

76 of 125<br />

ขอที่ : 330<br />

Feeler หรือ Taper gage ใชวัดคาใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

ระยะหางระหวางหนาแปลน


คําตอบ 2 : ระยะเยื้องกันระหวางหนาแปลน<br />

คําตอบ 3 : มุมระหวางหนาแปลน<br />

คําตอบ 4 : ระยะหางและระยะเยื้องกันระหวางหนาแปลน<br />

77 of 125<br />

ขอที่ : 331<br />

ขอที่ : 332<br />

ขอที่ : 333<br />

การหาศูนยเพลาโดยไมใสหนาแปลนเพลาไวนิยมทําเมื่อหนาแปลนมีขนาดอยางไร<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

เทากัน<br />

ไมเทากัน<br />

ใหญ<br />

เล็ก<br />

คําตอบ 1 : ขนานกัน<br />

คําตอบ 2 : ไมเยื้องในแนวระดับ(ขวา-ซาย)<br />

คําตอบ 3 : ไมเยื้องกันในแนวดิ่ง<br />

คําตอบ 4 : ไมขนานกัน<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

ขนานกัน<br />

ไมขนานกัน


คําตอบ 3 : เยื้องกันในแนวดิ่ง<br />

คําตอบ 4 : เยื้องกันในแนวระดับ<br />

78 of 125<br />

ขอที่ : 334<br />

ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับการวัดแบบ Face- Peripheral Dial Indicator Method ที่วัดระยะทางดานหลังของหนาแปลน<br />

คําตอบ 1 : จะใชเมื่อหนาแปลนอยูชิดกันมาก<br />

คําตอบ 2 : เปลี่ยนเครื่องหมายของคาที่วัดไดจาก Face Indicator จากบวกเปนลบ และจากลบเปนบวก<br />

คําตอบ 3 : การวัดระยะของ Peripheral Indicator เหมือนกับในกรณีที่วัดทางดานหนาของหนาแปลน<br />

คําตอบ 4 : เหมาะกับหนาแปลนที่มีเสนผาศูนยกลางขนาดเล็ก<br />

ขอที่ : 335<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


คําตอบ 3 :<br />

79 of 125<br />

คําตอบ 4 :<br />

ขอที่ : 336<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


คําตอบ 3 :<br />

80 of 125<br />

คําตอบ 4 :<br />

ขอที่ : 337<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


คําตอบ 3 :<br />

81 of 125<br />

ขอที่ : 338<br />

คําตอบ 4 :<br />

แบริ่งรับเพลาใบจักรบริเวณโยงโยที่ใชน้ําเปนตัวหลอลื่น โดยปรกติมีอัตราสวนระหวางความยาว (L) กับเสนผาศูนยกลาง(D) ประมาณเทาใด<br />

คําตอบ 1 : 1<br />

คําตอบ 2 : 2<br />

คําตอบ 3 : 3<br />

คําตอบ 4 : 4<br />

ขอที่ : 339<br />

Thrust Eccentricity Factor คืออัตราสวนระหวาง Thrust Eccentricity (ระยะเยื้องของ Thrust จากจุดศูนยกลางของเพลาใบจักร) กับขอใด<br />

ขอที่ : 340<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

เสนผาศูนยกลางของเพลาใบจักร<br />

รัศมีเพลาใบจักร<br />

เสนผาศูนยกลางของใบจักร<br />

รัศมีใบจักร<br />

ขอใดเปนหนวยวัดความหนืดสัมบูรณของน้ํามันหลอ<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

Poise<br />

Centistokes<br />

Saybolt Universal Seconds (SUS)<br />

ถูกทุกขอ


ขอที่ : 341<br />

ขอที่ : 342<br />

ขอที่ : 343<br />

ขอที่ : 344<br />

ขอใดเปนหลักในการเลือกใชน้ํามันหลอลื่นในเรือ<br />

คําตอบ 1 : ความหนืดของน้ํามันหลอลื่นที่ใชตองเพียงพอกับสภาพการทํางานของเครื่องจักรกลในภาวะวิกฤต<br />

คําตอบ 2 : ถาไมแนใจใหเลือกที่มีความหนืดมากๆ เผื่อไวเพราะความรอนเวลาใชงานจะทําใหความหนืดลดลง<br />

คําตอบ 3 : เลือกใชหลากหลายชนิดและความหนืดตามตองการเพื่อใหเหมาะกับสภาพเครื่องจักรแตละเครื่องใหดีที่สุด<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

การหาแนวเพลาโดยวิธีใดเปนที่นิยมใชนอยที่สุดเนื่องจากมักมีความผิดพลาดมากในการอานคาตางๆ<br />

คําตอบ 1 :<br />

การวัดระยะ Gap และระยะ Gap<br />

คําตอบ 2 : การหาแรงปฏิกิริยาที่แบริ่งโดยใชแมแรงไฮดรอลิกส<br />

คําตอบ 3 : การใช Strain Gage<br />

คําตอบ 4 : การใช Optical Method<br />

สิ่งใดไมมีผลตออายุการใชงานของเฟอง<br />

คําตอบ 1 : ความหยาบหรือประณีตในการติดตั้ง<br />

คําตอบ 2 : อุณหภูมิใชงาน<br />

คําตอบ 3 : ความเรียบของผิวฟนเฟองที่สัมผัสกัน<br />

คําตอบ 4 : ขนาดของเฟอง<br />

คูของจํานวนฟนเฟองที่ขบกันขอใดมี “ Hunting tooth”<br />

คําตอบ 1 : 10 30<br />

คําตอบ 2 : 13 37<br />

คําตอบ 3 : 17 68<br />

คําตอบ 4 : ไมมีขอถูก<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

82 of 125<br />

ขอที่ : 345<br />

เฟองตรงตัวแรกมีเสนผาศูนยกลาง = a มีจํานวนฟน = A เฟองตรงตัวที่2 ซึ่งขบกันอยูกับตัวแรกมีเสนผาศูนยกลาง = b มีจํานวนฟน = B อัตราทดระหวางเฟองทั้งสองหาไดเทากับ<br />

เทาใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

a/b<br />

A/B


คําตอบ 3 : ถูกทั้งสองขอขางตน<br />

คําตอบ 4 : ไมมีขอถูก<br />

83 of 125<br />

ขอที่ : 346<br />

ขอที่ : 347<br />

การใชเพลากลวงเปนสิ่งจําเปนโดยเฉพาะในกรณีใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

เรือใชใบจักรแบบ Controllable Pitch Propeller<br />

คําตอบ 2 : เรือที่มีความเร็วสูง<br />

คําตอบ 3 : เรือที่มีเพลาใบจักรยาวมาก<br />

คําตอบ 4 : เรือที่ตองเผินขึ้นเหนือน้ํา (Planing boat)<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

น้ําไหลในทอเสนผาศูนยกลาง 50 เซนติเมตร คาความหยาบสัมพัทธ ( Relative roughness ) 0.05, Reynolds number = 1600 จงหาคา Friction factor ของทอ ( ดู Moody<br />

diagram )


84 of 125<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


85 of 125<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


คําตอบ 1 : 0.1<br />

คําตอบ 2 : 0.2<br />

คําตอบ 3 : 0.3<br />

คําตอบ 4 : 0.4<br />

86 of 125<br />

ขอที่ : 348<br />

ขอที่ : 349<br />

ขอที่ : 350<br />

ถาเพิ่ม Globe valve ขึ้นในระบบ Single pipe line จะมีผลอะไรกับเสนกราฟ System total head curve <br />

คําตอบ 1 : เสนโคงเลื่อนขึ้น<br />

คําตอบ 2 : เสนโคงเลื่อนลง<br />

คําตอบ 3 : เสนโคงมีความชันเพิ่มขึ้น<br />

คําตอบ 4 : เสนโคงมีความชันลดลง<br />

จงเรียงลําดับ Valve ที่ทําใหเกิด Head loss จากนอยไปหามาก ในขณะที่อยูในตําแหนงเปดสุด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Globe, Butterfly, Gate<br />

Gate, Butterfly, Globe<br />

Butterfly, Gate, Globe<br />

Butterfly, Globe, Gate<br />

การปด Valve โดยกะทันหันในระบบที่ของเหลวเชน น้ํา กําลังไหลอยูควรระวังวาอาจทําใหเกิดเหตุการณใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

เกิด Cavitations<br />

เกิด Hammering<br />

คําตอบ 3 : ความดันในระบบเพิ่มขึ้นกะทันหัน<br />

คําตอบ 4 : ความดันในระบบลดลงกะทันหัน<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอที่ : 351<br />

Pump ถูกเรียกวามี “ Negative suction head ” เมื่อตัว Pump ตั้งอยูที่ใด<br />

คําตอบ 1 : สูงกวาระดับของเหลวที่สูบ<br />

คําตอบ 2 : ต่ํากวาระดับของเหลวที่สูบ<br />

คําตอบ 3 : สูงกวาระดับของเหลวที่ปลายทางทอสง<br />

คําตอบ 4 : ระหวางทอทางสงและทอทางดูด


ขอที่ : 352<br />

Pump แบบใดไมนิยมใชในระบบไฮโดรลิกส<br />

ขอที่ : 353<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สูบชัก<br />

Vane<br />

ฟนเฟอง<br />

หอยโขง<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

87 of 125<br />

ขอที่ : 354


88 of 125<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

a<br />

b<br />

a + b<br />

a - b<br />

ขอที่ : 355<br />

Head loss เนื่องจากการไหลในทอมีคาเทากับขอใด (D = เสนผาศูนยกลางทอ, f = สัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน, g = ความเรงจากแรงโนมถวงที่ผิวโลก, L = ความยาวทอ, V = ความ<br />

เร็วของการไหล)<br />

ขอที่ : 356<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

คา Friction Factor ของทอ เมื่อของเหลวไหลแบบเปนระเบียบ(Laminar Flow) ขึ้นอยูกับปจจัยใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


89 of 125<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ขอที่ : 357<br />

เมื่อการไหลในทอเปนไปแบบ Complete Turbulent Flow คาFriction Factor จะขึ้นอยูกับคาใด<br />

ขอที่ : 358<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

จากแผนภูมิ Relative roughness <strong>and</strong> Friction factors for new clean pipes คา Reynolds number = 1200, เสนผาศูนยกลางทอ = 1,270 mm, ความขรุขระ = 0.0457 mm,<br />

จงหาคา Friction Factor


90 of 125<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


91 of 125<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


คําตอบ 1 : 0.01<br />

คําตอบ 2 : 0.0018<br />

คําตอบ 3 : 0.0072<br />

คําตอบ 4 : 0.0085<br />

92 of 125<br />

ขอที่ : 359<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

จากแผนภูมิ Relative roughness <strong>and</strong> Friction factors for new clean pipes คา Reynolds number = 20,000 เสนผาศูนยกลางทอ=1,270 mm ความขรุขระ= 0.0457 mm จง<br />

หาคา Friction Factor


93 of 125<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


94 of 125<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


คําตอบ 1 : 0.01<br />

คําตอบ 2 : 0.0018<br />

คําตอบ 3 : 0.0072<br />

คําตอบ 4 : 0.0085<br />

95 of 125<br />

ขอที่ : 360<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ขอที่ : 361<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


คําตอบ 1 :<br />

96 of 125<br />

ขอที่ : 362<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


คําตอบ 1 :<br />

97 of 125<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ขอที่ : 363<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


คําตอบ 1 :<br />

98 of 125<br />

ขอที่ : 364<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 1 :<br />

A


คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

B<br />

C<br />

D<br />

99 of 125<br />

ขอที่ : 365<br />

ขอที่ : 366<br />

คําตอบ 1 : ความเร็วของน้ําในทอทั้ง 2 เทากัน<br />

คําตอบ 2 : Head loss เนื่องจากแรงเสียดทานในแขนงทอทั้ง 2 เทากัน<br />

คําตอบ 3 : ปริมาณการไหลในแขนงทอทั้ง 2 เทากัน<br />

คําตอบ 4 : ไมสามารถสรุปแนนอนได<br />

คําตอบ 1 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 2 :


100 of 125<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

ขอที่ : 367<br />

คําตอบ 1 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


คําตอบ 2 :<br />

101 of 125<br />

ขอที่ : 368<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

คําตอบ 1 : 1<br />

คําตอบ 2 : 2<br />

คําตอบ 3 : 3<br />

คําตอบ 4 : 4<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอที่ : 369


102 of 125<br />

ขอที่ : 370<br />

ขอที่ : 371<br />

ขอที่ : 372<br />

คําตอบ 1 :<br />

Head vs. flow ของ A, B, C, D และ E<br />

คําตอบ 2 : Head vs. flow ของปม<br />

คําตอบ 3 : อัตราการไหลของทั้งระบบ<br />

คําตอบ 4 : ขนาดทอของแขนง A, B และ C<br />

สิ่งใดไมมีผลตอคาสัมประสิทธิ์ของความตานทานการไหล(คา K) ของวาลว<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

รูปราง<br />

ขนาด<br />

เปอรเซ็นตการเปด<br />

ความเร็วของไหล<br />

ลิ้นที่นิยมใชทําหนาที่ควบคุมปริมาณการไหลคือขอใด<br />

คําตอบ 1 : ลิ้นประตู(Gate Valve)<br />

คําตอบ 2 : ลิ้นกันกลับ(Check Valve)<br />

คําตอบ 3 : ลิ้นปลั๊ก (Plug Valve)<br />

คําตอบ 4 : ลิ้นลูกโลก (Globe Valve)<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอใดไมใชขอไดเปรียบที่ลิ้นผีเสื้อ (Butterfly Valve) มีตอลิ้นลูกโลก (Globe Valve)<br />

คําตอบ 1 : น้ําหนักเบากวา<br />

คําตอบ 2 : ใชกับของเหลวที่มีสารแขวนลอย(ขุน-สกปรก) ไดดี<br />

คําตอบ 3 : ปดไดสนิทแมในของไหลอุณหภูมิสูง ๆ<br />

คําตอบ 4 : ความดันลด (Pressure Drop) ต่ํากวา


ขอที่ : 373<br />

103 of 125<br />

ขอที่ : 374<br />

ขอที่ : 375<br />

ขอที่ : 376<br />

คําตอบ 1 : ลิ้นปดบาไดสนิท<br />

คําตอบ 2 : ลดการกระพือของลิ้น<br />

คําตอบ 3 : ลดการสึกกรอนของลิ้น<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ขอใดไมใชขอไดเปรียบของลิ้นกันกลับแบบยกตัว (Lift Check Valve) ที่มีตอลิ้นกันกลับแบบแกวง (Swing check Valve)<br />

คําตอบ 1 :<br />

ความดันลด (Pressure drop) นอยกวา<br />

คําตอบ 2 : ใชกับระบบที่มีอัตราการไหลสูงไดดี<br />

คําตอบ 3 : ใชไดดีกับไอน้ํา แกส หรือ อากาศ<br />

คําตอบ 4 : เหมาะสมกับระบบที่เดินๆ หยุดๆ<br />

คาความดันสวนเกิน (Overpressure) ของลิ้นแบบ Pressure-Relief Valve หมายถึงอะไร<br />

คําตอบ 1 : คาตางความดันที่เกินไปกวาคาที่ตั้งไวที่ลิ้นยังเปดอยู<br />

คําตอบ 2 : คาตางของความดันระหวางคาที่ตั้งไวกับคาที่อยูในทอหรือในภาชนะในสภาวะใชงานตามปรกติ<br />

คําตอบ 3 : คาตางของความดันระหวางความดันสูงสุดที่ลิ้นทํางานไดกับคาที่ตั้งไว<br />

คําตอบ 4 : คาตางของความดันระหวางคาสูงสุดที่ลิ้นทําวานไดกับคาที่อยูในทอหรือในภาชนะในสภาวะใชงานตามปรกติ<br />

จงเรียงลําดับวาลวที่เกิดความดันลดจากมากไปนอย<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

Globe, Angle, Swing Check<br />

Angle, Swing Check, Globe<br />

Swing Check, Globe, Angle<br />

Globe, Swing Check, Angle


ขอที่ : 377<br />

ขอที่ : 378<br />

ขอที่ : 379<br />

ขอที่ : 380<br />

อุปกรณประเภทใดไมนิยมติดที่ทางดูดของปมในเรือที่อยูใตระดับน้ํา<br />

คําตอบ 1 : ลิ้นประตู (Gate Valve)<br />

คําตอบ 2 : หมอกรองหยาบ (Strainer)<br />

คําตอบ 3 : ลิ้นกันกลับ<br />

คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />

ลิ้นที่นิยมใชควบคุมการไหลโดยใชกับระบบควบคุมระยะไกลที่ใชลมกําลังดัน ไฮดรอลิกส หรือไฟฟาควบคุม คือขอใด<br />

คําตอบ 1 : ลิ้นประตู (Gate Valve)<br />

คําตอบ 2 : ลิ้นลูกบอลล(Ball Valve)<br />

คําตอบ 3 : ลิ้นลูกโลก(Globe Valve)<br />

คําตอบ 4 : ลิ้นผีเสื้อ(Butterfly Valve)<br />

คําตอบ 1 : ประเภทของปม<br />

คําตอบ 2 : อุณหภูมิของของเหลว<br />

คําตอบ 3 : ความกดดันที่ผิวหนาของเหลวที่สูบ<br />

คําตอบ 4 : ความเสียดทานของทอทางดูด<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

104 of 125<br />

คําตอบ 1 :<br />

10 m


คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

9 m<br />

8 m<br />

7 m<br />

105 of 125<br />

ขอที่ : 381<br />

คําตอบ 1 : A<br />

คําตอบ 2 : B<br />

คําตอบ 3 : C<br />

คําตอบ 4 : D<br />

ขอที่ : 382<br />

ปมสูบชักแบบ Duplex single acting มีกราฟปริมาณการไหล vs เวลา เปน<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


คําตอบ 3 :<br />

106 of 125<br />

คําตอบ 4 :<br />

ขอที่ : 383<br />

จงเรียงลําดับปมที่มีคาความเร็วจําเพาะ (Specific speed) จากต่ําไปสูง<br />

คําตอบ 1 : Radial flow, Mixed flow, Axial flow<br />

คําตอบ 2 : Radial flow, Axial flow, Mixed flow<br />

คําตอบ 3 : Axial flow, Mixed flow, Radial flow<br />

คําตอบ 4 : Axial flow, Radial flow, Mixed flow<br />

ขอที่ : 384<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

a - b<br />

a- c<br />

b - c<br />

b - d<br />

ขอที่ : 385


107 of 125<br />

คําตอบ 1 : 1 - C<br />

คําตอบ 2 : 3 - A<br />

คําตอบ 3 : 1 - A<br />

คําตอบ 4 : 3 - C<br />

ขอที่ : 386<br />

ปมชนิดใดมักจะกอใหเกิดปญหาเกี่ยวกับ Water Hammer<br />

คําตอบ 1 : แบบหอยโขง<br />

คําตอบ 2 : แบบฟนเฟอง<br />

คําตอบ 3 : แบบสูบชัก<br />

คําตอบ 4 : แบบใบพัด<br />

ขอที่ : 387<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

a<br />

b<br />

c<br />

d<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอที่ : 388


108 of 125<br />

ขอที่ : 389<br />

ขอที่ : 390<br />

ขอที่ : 391<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Total head<br />

Pressure head<br />

Elevation head<br />

ถูกทุกขอ<br />

คาสัมประสิทธิ์การสูญเสียเฮด (Loss coefficient หรือ K factor) ของลิ้นประตูอันหนึ่งเมื่อเปดเต็มที่มีคาประมาณ 0.2 ถาของไหลเปนน้ําที่ความเร็ว 4.88 m/s Head loss คิดเปน<br />

ความกดของลําน้ําสูงเทาใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

182.8 mm<br />

213.4 mm<br />

243.8 mm<br />

274.3 mm<br />

ปมที่มีหลักการทํางานเดียวกับพัดลมคือขอใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Axial Flow Pump<br />

Mixed Flow Pump<br />

Radial Flow pump<br />

Positive Displacement Pump<br />

การติดตั้งปมควรตรวจสอบคา NPSH (Net Positive Suction Head) ทุกครั้งวาคาที่ตองการตองนอยกวาคาที่ปมตัวนั้นที่ตําแหนงติดตั้งนั้นๆ มีอยูเพื่อใหแนใจวา<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

กําลังดูดพอเพียง<br />

กําลังสงจายพอเพียง<br />

ไมเกิด Cavitation<br />

ถูกทุกขอ


ขอที่ : 392<br />

ขอที่ : 393<br />

ขอที่ : 394<br />

ขอที่ : 395<br />

เมื่อนําปมน้ําแบบหอยโขงตัวหนึ่งไปทดสอบปรากฏวากราฟของเฮด(Head)กับอัตราการไหลเปนไปตามที่โรงงานผูผลิตระบุไวทุกอยาง แตปมมีประสิทธิภาพลดลงเนื่องจากใชกําลัง<br />

109 of 125<br />

ไฟเกินกวาที่กําหนดไว ขอใดนาจะเปนขอสันนิษฐานที่ถูกตอง<br />

คําตอบ 1 :<br />

ใบพัดชํารุด<br />

คําตอบ 2 : ซีล(Mechanical Seal)รั่ว<br />

คําตอบ 3 : ใบพัดหมุนกลับทิศทาง<br />

คําตอบ 4 : ซีล (Mechanical Seal) คับเกินไป<br />

ในการคํานวณหาคา Head Loss ในระบบทอทางจะตองนําคา Head ตางๆ มาพิจารณา ยกเวนในขอใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

Pressure Head<br />

Elevation Head<br />

Dynamic Head<br />

Thermal Head<br />

สาเหตุที่จัดใหการไหลในทอทางมีเพียง 1 มิติ (One Dimension Analysis) เพราะไมตองคํานึงถึงสิ่งใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

ความแตกตางของความเร็วตามแนวรัศมีของทอ<br />

คําตอบ 2 : แรงเสียดทานที่ผิวทอ<br />

คําตอบ 3 : ความขรุขระที่ผิวทอ<br />

คําตอบ 4 : ความหนืดของของไหล<br />

ขอใดกลาวไดถูกตองเกี่ยวกับคาอัตราการไหล (Flow Rate) และ Head ของน้ําในทอ 2 ทอที่นํามาตอกันในลักษณะขนาน<br />

คําตอบ 1 : ใหคิดวาคาอัตราการไหลและ Head ในทอทั้งสองเทากัน<br />

คําตอบ 2 : ใหรวมคาอัตราการไหลของทอทั้งสองที่คา Head เดียวกัน<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 3 : ใหรวมคา Head ของทอทั้งสองที่คาอัตราการไหลเดียวกัน<br />

คําตอบ 4 : ใหคิดเชนเดียวกันกับการตอทอในลักษณะอนุกรม<br />

ขอที่ : 396<br />

ขอใดไมใชชนิดของทอที่มีจําหนายอยูในทองตลาดทั่วไป<br />

คําตอบ 1 : Schedule 10<br />

คําตอบ 2 : Schedule 20


คําตอบ 3 : Schedule 40<br />

คําตอบ 4 : Schedule 50<br />

110 of 125<br />

ขอที่ : 397<br />

อุปกรณในระบบทอทางในขอใดที่นิยมใชในการควบคุมอัตราการไหล<br />

คําตอบ 1 : Gate Valve<br />

คําตอบ 2 : Ball Valve<br />

คําตอบ 3 : Globe Valve<br />

คําตอบ 4 : Strainer<br />

ขอที่ : 398<br />

การกําหนดความเร็วต่ําสุดของอัตราการไหลในทอทางบนเรือ มีสาเหตุมาจากขอใด<br />

คําตอบ 1 : ปองกันการเกิดเสียง<br />

คําตอบ 2 : ปองกันการสั่นสะเทือน<br />

คําตอบ 3 : หลีกเลี่ยงความสกปรกที่ติดผนังทอ<br />

คําตอบ 4 : ลดแรงเสียดทานที่ผิวของทอ<br />

ขอที่ : 399<br />

ขอที่ : 400<br />

วัสดุที่นิยมนํามาใชทําหลอดของคอนเดนเซอร (Condenser) ในงานเรือคือขอใด<br />

คําตอบ 1 : 90/10 Copper-Nickel 1.5 Fe Alloy<br />

คําตอบ 2 : 70/30 Copper-Nickel 0.5 Fe Alloy<br />

คําตอบ 3 : เหล็กสเตนเลส (Stainless Steel)<br />

คําตอบ 4 : ทอเหล็กหลอ (Grey Cast Iron)<br />

ปม (Pump) ที่นิยมใชในการสูบน้ํามันเชื้อเพลิงในเรือคือขอใด<br />

คําตอบ 1 :<br />

คําตอบ 2 :<br />

คําตอบ 3 :<br />

คําตอบ 4 :<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

Centrifugal Pump<br />

Axial Pump<br />

Priming Pump<br />

Rotary Pump<br />

ขอที่ : 401


การติดตั้งเครื่องจักรใหญบนเรือ ผูที่ดําเนินการจะตองมีความรูหลายเรื่องดวยกัน ยกเวนในเรื่องขอใด<br />

คําตอบ 1 : ระบบทอทาง<br />

คําตอบ 2 : ระบบน้ําถวงเรือ<br />

คําตอบ 3 : โครงสรางตัวเรือ<br />

คําตอบ 4 : ระบบน้ําดับความรอน<br />

ขอที่ : 402<br />

คากําลังของเครื่องยนต ( Brake Horsepower) เปนคากําลังที่วัดไดตรงจุดใด<br />

คําตอบ 1 : Flywheel<br />

คําตอบ 2 : Crankshaft<br />

คําตอบ 3 : Governor<br />

คําตอบ 4 : Cylinder Head<br />

ขอที่ : 403<br />

เรือที่มีการควบคุมทิศทางการขับเคลื่อนไดดีควรมีลักษณะเชนใด<br />

ขอที่ : 404<br />

คําตอบ 1 : มี 2 ใบจักรขึ้นไป<br />

คําตอบ 2 : ใชกระดูกงูเสริม<br />

คําตอบ 3 : ใชทายเรือแบบตัด (Transom Stern)<br />

คําตอบ 4 : มีเครื่องจักรใหญ 2 เครื่องขึ้นไป<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอใดสงผลกับขนาดของคาแรงผลัก (Thrust) ที่ใบจักรตองผลิตไดเพื่อใชในการขับเคลื่อนเรือ<br />

คําตอบ 1 : ระบบสมอ<br />

คําตอบ 2 : ระบบควบคุมหางเสือ<br />

111 of 125


คําตอบ 3 : ความยาวกระบอกดีฟุตกับเพลา<br />

คําตอบ 4 : อวนลากปลา<br />

112 of 125<br />

ขอที่ : 405<br />

ขอใดกลาวไดถูกตองเกี่ยวกับการทํางานของระบบขับเคลื่อนเรือรบ<br />

คําตอบ 1 : ใชความเร็วสูงสุด (Maximum Speed) เปนสวนใหญ<br />

คําตอบ 2 : ใชความเร็วเดินทาง (Cruising Speed) เปนสวนใหญ<br />

คําตอบ 3 : ออกแบบมาใหใชความเร็วเดียว<br />

คําตอบ 4 : ใชความเร็วสูงสุดและความเร็วเดินทางเปนเวลาเทาๆกัน<br />

ขอที่ : 406<br />

ใบจักรแบบ Contrarotating Propeller มีลักษณะเฉพาะหลายอยางดวยกัน ยกเวนขอใด<br />

คําตอบ 1 : เหมาะกับเรือความเร็วสูง<br />

คําตอบ 2 : มีระบบการทํางานที่ซับซอน<br />

คําตอบ 3 : กินน้ําตื้น<br />

คําตอบ 4 : ราคาแพงกวาใบจักรทั่วไป<br />

ขอที่ : 407<br />

โดยทั่วไปจํานวนใบจักรที่ใชกับเรือ SWATH นั้นมีจํานวนเทาใด<br />

คําตอบ 1 : 2 ใบ<br />

คําตอบ 2 : 1 ใบ<br />

คําตอบ 3 : 4 ใบ<br />

คําตอบ 4 : 3 ใบ<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย


ขอที่ : 408<br />

หากทานตองการใชเครื่องจักรใหญที่จําเปนตองมีการบํารุงรักษานอยที่สุด ทานควรเลือกเครื่องในขอใด<br />

คําตอบ 1 : เครื่องยนตดีเซล<br />

คําตอบ 2 : เครื่องแก็สเทอรไบน<br />

คําตอบ 3 : เครื่องจักรไอน้ํา<br />

คําตอบ 4 : CODAG<br />

ขอที่ : 409<br />

คากําลังที่ใชกับเรือมีอยูดวยกันหลายตัว แตละตัวมีความสัมพันธซึ่งกันและกัน จากขอตอไปนี้ขอใดมีคาสูงที่สุด<br />

คําตอบ 1 : Thrust Horsepower<br />

คําตอบ 2 : Delivered Horsepower<br />

คําตอบ 3 : Shaft Horsepower<br />

คําตอบ 4 : Effective Horsepower<br />

ขอที่ : 410<br />

อุปกรณในขอใดที่ทําใหคา Shaft Horsepower และ Delivered Horsepower แตกตางกัน<br />

คําตอบ 1 : เกียรทดรอบ<br />

คําตอบ 2 : ใบจักร<br />

คําตอบ 3 : แบริ่งรับเพลาใบจักร<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 4 : หางเสือ<br />

ขอที่ : 411<br />

เปนที่ทราบกันดีวาความเร็วของน้ําเขาสูใบจักรเทากับ V A<br />

สวนความเร็วของเรือเทากับ V และความสัมพันธระหวางคาทั้งสองคือ V A<br />

= (1-w)*V คํากลาวในขอใดถูกที่สุด<br />

คําตอบ 1 : (1-w) อาจมีคามากกวา 2<br />

113 of 125


คําตอบ 2 : w มีคานอยกวา 1 เสมอ<br />

คําตอบ 3 : w เปนคาคงที่ตลอดทุกยานความเร็วเรือ<br />

คําตอบ 4 : w ไมแปรผันตามคา Block Coefficient<br />

114 of 125<br />

ขอที่ : 412<br />

สําหรับเครื่องจักรไอน้ําแลว ประสิทธิภาพของหมอน้ํา (Boiler Efficiency) สงผลกับคาใดมากที่สุด<br />

คําตอบ 1 : จํานวนเขมาที่ปลองแก็สเสีย<br />

คําตอบ 2 : อัตราการไหลของไอน้ํา<br />

คําตอบ 3 : คาความรอนที่น้ํามันเชื้อเพลิงใหออกมา<br />

คําตอบ 4 : อัตราการกินน้ํามันเชื้อเพลิง<br />

ขอที่ : 413<br />

ประสิทธิภาพของหมอน้ําของเครื่องจักรไอน้ําขึ้นอยูกับขอใด<br />

คําตอบ 1 : อุณหภูมิของแก็สเสียที่ออกจากปลอง<br />

คําตอบ 2 : ขนาดรอบของเครื่องกังหันไอน้ํา<br />

คําตอบ 3 : จํานวนน้ําที่อยูในหมอ<br />

คําตอบ 4 : สถานที่ติดตั้งหมอน้ํา<br />

ขอที่ : 414<br />

ขอใดเปนคําศัพทที่ใชกับเครื่องยนตดีเซล<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 1 : Trial Speed<br />

คําตอบ 2 : Sustained Speed<br />

คําตอบ 3 : Overall Speed<br />

คําตอบ 4 : Maximum Continuous Speed


ขอที่ : 415<br />

ถาตองการเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของระบบขับเคลื่อนที่ใชแก็สเทอรไบนแลว ควรกระทําตามในขอใด<br />

คําตอบ 1 : เอาความรอนจากแก็สเสียไปใชงาน<br />

คําตอบ 2 : ลดรอบเพลาใบจักรลง<br />

คําตอบ 3 : เพิ่มขนาดของเพลาใบจักร<br />

คําตอบ 4 : เพิ่มอุณหภูมิของแก็สเสีย<br />

ขอที่ : 416<br />

สารเวนาเดียม (Vanadium) ในน้ํามันเชื้อเพลิงสรางผลเสียอยางไรกับระบบขับเคลื่อน<br />

คําตอบ 1 : ทําใหเครื่องจักรใหญสั่น<br />

คําตอบ 2 : ทําใหเครื่องจักรใหญดับ<br />

คําตอบ 3 : ทําใหการเผาไหมไมสมบูรณ<br />

คําตอบ 4 : ทําใหอุปกรณเกิดการผุกรอน<br />

ขอที่ : 417<br />

ถาใหเครื่องจักรใหญผลิตกําลังไดเทากัน คาน้ําหนักของเครื่องจักรใหญทั้งระบบตอหนวยกําลังที่เครื่องผลิตออกมาในขอใดมีคาสูงที่สุด<br />

คําตอบ 1 : เครื่องแก็สเทอรไบน<br />

คําตอบ 2 : เครื่องจักรไอน้ํา<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 3 : เครื่องยนตดีเซลที่ติดตั้งพรอมเกียร<br />

คําตอบ 4 : เครื่องยนตดีเซลที่ตอกับเพลาโดยตรง<br />

115 of 125<br />

ขอที่ : 418<br />

เรือที่แลนในแมน้ําที่คดเคี้ยวเปนสวนใหญควรมีลักษณะเชนใดจึงจะเหมาะสมที่สุด


คําตอบ 1 : ใบจักรมีขนาดเล็ก<br />

คําตอบ 2 : ใชเครื่องยนตดีเซลความเร็วรอบสูง<br />

คําตอบ 3 : มี 2 ใบจักร<br />

คําตอบ 4 : ใชกระดูกงูเสริม<br />

ขอที่ : 419<br />

ครีบกันโคลงของเรือ (Stabilizer fin) ควรติดตั้งอยูที่ตําแหนงใด<br />

คําตอบ 1 : ใกลกับกระดูกงู<br />

คําตอบ 2 : คอนไปทางหัวเรือ<br />

คําตอบ 3 : หางจากใบจักรประมาณ 2 เมตร<br />

คําตอบ 4 : มุมโคงใตทองเรือทั้ง 2 กราบ (Bilge)<br />

ขอที่ : 420<br />

เพื่อการควบคุมทิศทางเรือที่ดีที่สุด ตําแหนงของใบหางเสือควรอยูที่ใด<br />

ขอที่ : 421<br />

คําตอบ 1 : แนวเดียวกับดุมใบจักร ถามองไปทางหัวเรือ<br />

คําตอบ 2 : เยื้องไปทางดานขางใบจักรเล็กนอย ถามองไปทางหัวเรือ<br />

คําตอบ 3 : หางจากใบจักรประมาณ 3 เมตร ถามองจากดานขางเรือ<br />

คําตอบ 4 : ยื่นต่ําลงมาใตกระดูกงู<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ตามวัฏจักรดีเซล คาปริมาตรที่ State 3 หารดวยคาปริมาตรที่ State 2 จะไดอัตราสวนที่เรียกวา Fuel Cutoff Ratio หากคาดังกลาวมีคาสูงเกินไปจะเกิดอะไรขึ้น<br />

คําตอบ 1 : ควันเสียจะออกมามาก<br />

คําตอบ 2 : เครื่องยนตจะรอนเกินไป<br />

คําตอบ 3 : เครื่องยนตจะสั่นมาก<br />

116 of 125


คําตอบ 4 : เกิดไฟไหมเครื่อง<br />

117 of 125<br />

ขอที่ : 422<br />

เครื่องยนตที่ใชลูกสูบแบบ Crosshead Piston เปนเครื่องยนตชนิดใด<br />

คําตอบ 1 : Rotary Marine Diesel Engine<br />

คําตอบ 2 : Opposed-Piston Marine Diesel Engine<br />

คําตอบ 3 : Low Speed Marine Diesel Engine<br />

คําตอบ 4 : Long Stroke Marine Diesel Engine<br />

ขอที่ : 423<br />

เครื่องยนตเครื่องหนึ่งมีคา Compression Ratio = 19 เครื่องยนตเครื่องนี้นาจะเปนเครื่องในขอใด<br />

คําตอบ 1 : เครื่องยนตเบนซินที่มีความเร็วรอบสูง<br />

คําตอบ 2 : เครื่องยนตเบนซินที่มีความเร็วรอบต่ํา<br />

คําตอบ 3 : เครื่งยนตดีเซลที่มี Turbocharger<br />

คําตอบ 4 : เครื่งยนตดีเซลที่ไมมี Turbocharger<br />

ขอที่ : 424<br />

อุปกรณที่ใชวัดคากําลังของเครื่องยนตไดมีชื่อวาอะไร<br />

คําตอบ 1 : Thermometer<br />

คําตอบ 2 : Dynamometer<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 3 : Nanometer<br />

คําตอบ 4 : Turbometer<br />

ขอที่ : 425


ถาตองการเพิ่มคาแรงบิด (Torque) ของเครื่องยนตดีเซล ควรทําอยางไร<br />

คําตอบ 1 : เพิ่มคาอัตราการกินน้ํามัน<br />

คําตอบ 2 : ลดคาอัตราการกินน้ํามัน<br />

คําตอบ 3 : เพิ่มอากาศเขาเครื่อง<br />

คําตอบ 4 : เพิ่มปริมาณน้ํามันฉีดเขากระบอกสูบ<br />

ขอที่ : 426<br />

เครื่องยนตดีเซลของเรือสินคาลําหนึ่งมีคาความเร็วรอบสูงสุดเทากับ 55 RPM เครื่องยนตเครื่องนี้ควรมีลักษณะเชนใด<br />

คําตอบ 1 : ติดตั้ง Turbocharger<br />

คําตอบ 2 : เปนเครื่องขนาดใหญมีน้ําหนักมาก<br />

คําตอบ 3 : ระบายความรอนดวยอากาศ<br />

คําตอบ 4 : ใชเกียรที่มีอัตราทดรอบมากกวา 10:1<br />

ขอที่ : 427<br />

เครื่องยนตดีเซลในขอใดที่นาจะมีการสึกหรอเกิดขึ้นกับลูกสูบและแหวนลูกสูบสูง<br />

คําตอบ 1 : เสื้อสูบมีอุณหภูมิต่ําขณะใชงาน<br />

คําตอบ 2 : มีอุณหภูมิแก็สเสียสูง<br />

คําตอบ 3 : ติดตั้ง Turbocharger<br />

คําตอบ 4 : มีอัตราการกินน้ํามันต่ํา<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอที่ : 428<br />

จุดประสงคของการฉีดน้ําเขาไปใน Turbocharger ของเครื่องยนตเพื่อประโยชนในขอใด<br />

คําตอบ 1 : ทําความสะอาดสิ่งสกปรกภายใน Turbocharger<br />

คําตอบ 2 : ดับความรอนภายใน Turbocharger<br />

118 of 125


คําตอบ 3 : สรางไอระเหยภายใน Turbocharger<br />

คําตอบ 4 : ลดอัตราการกินน้ํามัน<br />

119 of 125<br />

ขอที่ : 429<br />

ในกรณีที่อุณหภูมิของอากาศภายนอกเขาสูเครื่องยนตดีเซลมีคาสูงขึ้น สิ่งที่นาจะเกิดขึ้นมากที่สุดคืออะไร<br />

คําตอบ 1 : อัตราการกินน้ํามันสูงขึ้น<br />

คําตอบ 2 : อัตราการไหลของมวลอากาศเขาเครื่องสูงขึ้น<br />

คําตอบ 3 : อุณหภูมิของแก็สเสียลดลง<br />

คําตอบ 4 : อัตราการไหลของแก็สเสียสูงขึ้น<br />

ขอที่ : 430<br />

จงหาคาความเร็วรอบของเครื่องยนตดีเซลที่มี 12 ลูกสูบ มีการทํางานแบบ 2 จังหวะ และมีจํานวน POWER STROKE ตอนาทีเทากับ 1440<br />

คําตอบ 1 : 240 RPM<br />

คําตอบ 2 : 140 RPM<br />

คําตอบ 3 : 120 RPM<br />

คําตอบ 4 : 100 RPM<br />

ขอที่ : 431<br />

จุดที่สามารถนําเอาความรอนที่ไดออกมาจากเครื่องยนตดีเซลไปใชงานอยางอื่นหรือที่เรียกวา Waste-Heat Recovery นั้น สามารถทําไดหลายจุดยกเวนที่ใด<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 1 : แก็สเสียที่ออกจากเครื่อง<br />

คําตอบ 2 : น้ําจากหมอดับความรอนของอากาศอัดเขาเครื่อง (Charge-Air Cooler)<br />

คําตอบ 3 : น้ําไฟรเมนเขาเครื่องยนต<br />

คําตอบ 4 : น้ําดับความรอนเสื้อสูบ (Jacket Coolant)


ขอที่ : 432<br />

สาเหตุของการปนเปอนของน้ํามันเกียร (Gear Oil) สวนใหญมาจากขอใด<br />

คําตอบ 1 : น้ําหลอเพลาใบจักร<br />

คําตอบ 2 : น้ําจากการควบแนนภายในเกียร<br />

คําตอบ 3 : ฝุนจากภายนอกเขาไปในเกียร<br />

คําตอบ 4 : น้ําหลอเกียร<br />

ขอที่ : 433<br />

น้ํามัน Marine Gas Oil จะใชเปนเชื้อเพลิงของเครื่องยนตแบบใด<br />

คําตอบ 1 : เครื่องจักรไอน้ํา<br />

คําตอบ 2 : เครื่องยนตดีเซลความเร็วรอบสูง<br />

คําตอบ 3 : เครื่องยนตดีเซลความเร็วรอบต่ํา<br />

คําตอบ 4 : เครื่องแก็สเทอรไบน<br />

ขอที่ : 434<br />

ขอไดเปรียบของการใช Gas Turbine เปนเครื่องจักรใหญของเรือมีดวยกันหลายประการ ยกเวนขอใด<br />

คําตอบ 1 : สัดสวนระหวางกําลังตอหนวยน้ําหนักสูง<br />

คําตอบ 2 : สตารทเครื่องไดรวดเร็ว<br />

คําตอบ 3 : ประหยัดน้ํามันถาเทียบกับเครื่องยนตดีเซล<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 4 : เรงความเร็วเครื่องไดอยางรวดเร็ว<br />

ขอที่ : 435<br />

ปจจัยที่มีผลตอขีดความสามารถในการผลิตกําลังมาของเครื่อง Gas Turbine อยางมากคือขอใด<br />

คําตอบ 1 : ตําแหนงของหองเครื่อง<br />

120 of 125


คําตอบ 2 : อุณหภูมิของบรรยากาศภายนอก<br />

คําตอบ 3 : ชนิดของเกียรทดรอบ<br />

คําตอบ 4 : อุณหภูมิของน้ําดับความรอนของเกียร<br />

121 of 125<br />

ขอที่ : 436<br />

ระบบขับเคลื่อนที่มีการติดตั้งหมอน้ําที่ใชความรอนจากทอแก็สเสีย (Waste Heat Boiler) ของเครื่อง Gas Turbine อยูดวยมากที่สุดนาจะเปนในขอใด<br />

คําตอบ 1 : CODAD<br />

คําตอบ 2 : CODAG<br />

คําตอบ 3 : CODAG<br />

คําตอบ 4 : COGAS<br />

ขอที่ : 437<br />

ชวงเวลาที่ใชจากการสตารทเครื่องไปจนถึงจุดเรงใหเครื่อง Gas Turbine มีกําลังสูงสุดจะใชเวลาประมาณเทาใด<br />

คําตอบ 1 : 30 วินาที<br />

คําตอบ 2 : 2 นาที<br />

คําตอบ 3 : 30 นาที<br />

คําตอบ 4 : 1 ชั่วโมง<br />

ขอที่ : 438<br />

ขอใดไมใชเหตุผลของการนําเอาเครื่อง Gas Turbine ที่ติดตั้งเปนเครื่องจักรใหญของเรือใสไวในกลองปด (Enclosure)<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 1 : ปองกันเสียงดังของเครื่อง<br />

คําตอบ 2 : ควบคุมไฟงายหากเกิดไฟไหม<br />

คําตอบ 3 : ปองกันในกรณีที่เกิดการชํารุดของชิ้นสวนที่หมุน<br />

คําตอบ 4 : ปองกันกลิ่นของน้ํามันเชื้อเพลิง


ขอที่ : 439<br />

ถาให w เปนคา Wake Fraction บริเวณทายเรือและมีคาเทากับ 0.24 จงหาคาสัมประสิทธิ์กระแสน้ํา wake หรือที่เรียกกันวา Wake Factor<br />

คําตอบ 1 : 1.24<br />

คําตอบ 2 : 0.8<br />

คําตอบ 3 : 0.76<br />

คําตอบ 4 : 0.04<br />

ขอที่ : 440<br />

ในทางทฤษฎีใบจักรที่ติดตั้งกับเรือควรมีลักษณะเชนใด<br />

คําตอบ 1 : ใหญที่สุดที่ทายเรือรับได<br />

คําตอบ 2 : เทากับความสูงของใบหางเสือ<br />

คําตอบ 3 : มีจํานวนปกเทากับ 3 ปก<br />

คําตอบ 4 : มีคาประสิทธิภาพสูงที่สุด<br />

ขอที่ : 441<br />

สาเหตุที่ตองกําหนดระยะหางขั้นต่ําระหวางตัวเรือกับปลายปกของใบจักรเอาไว มีเหตุผลใด<br />

คําตอบ 1 : ปองกันการสั่นของตัวเรือ<br />

คําตอบ 2 : ปองกันสิ่งของลอยน้ํามาขวาง<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 3 : ลดเสียงของใบจักร<br />

คําตอบ 4 : ลดโอกาสการเกิดโพรงอากาศ (Cavitation)<br />

122 of 125<br />

ขอที่ : 442<br />

คาตอไปนี้เกี่ยวของกับการทํางานของใบจักร ยกเวนขอใด


คําตอบ 1 : K Q<br />

(Torque Coefficient)<br />

คําตอบ 2 : R T<br />

(Total ship Resistance)<br />

คําตอบ 3 : K T<br />

(Thrust Coefficient)<br />

คําตอบ 4 : J (Advance Coefficient)<br />

ขอที่ : 443<br />

คากําลังตัวใดที่เกี่ยวของกับใบจักรโดยตรง<br />

คําตอบ 1 : Effective Horsepower<br />

คําตอบ 2 : Thrust Horsepower<br />

คําตอบ 3 : Shaft Horsepower<br />

คําตอบ 4 : Brake Horsepower<br />

ขอที่ : 444<br />

ใบจักรในขอใดมีการผันแปรของแรงผลัก (Thrust Variation) นอยที่สุดในขณะใชงาน<br />

คําตอบ 1 : 3<br />

คําตอบ 2 : 4<br />

คําตอบ 3 : 6<br />

คําตอบ 4 : 2<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

ขอที่ : 445<br />

โพรงอากาศ (Cavitation) สามารถเกิดขึ้นไดหลายที่ในระบบขับเคลื่อน ยกเวนขอใด<br />

คําตอบ 1 : ดุมใบจักร<br />

คําตอบ 2 : ดานหนาของปกใบจักร<br />

123 of 125


คําตอบ 3 :<br />

ดานหลังของปกใบจักร<br />

คําตอบ 4 : เพลาใบจักร<br />

124 of 125<br />

ขอที่ : 446<br />

การตั้งศูนยเพลาใบจักรผิดพลาดสามารถสงผลกระทบกับระบบขับเคลื่อนในขอใด<br />

คําตอบ 1 : เกียรชํารุด<br />

คําตอบ 2 : ปกใบจักรชํารุด<br />

คําตอบ 3 : โยงโยคด<br />

คําตอบ 4 : ดุมใบจักรราว<br />

ขอที่ : 447<br />

เพลาทอนที่อยูดานในตัวเรือมีชื่อวาอะไร<br />

คําตอบ 1 : Gear shaft<br />

คําตอบ 2 : Line Shaft<br />

คําตอบ 3 : Tail Shaft<br />

คําตอบ 4 : Strut Shaft<br />

ขอที่ : 448<br />

Overrunning Clutch มักจะนํามาใชกับระบบขับเคลื่อนแบบใดมากที่สุด<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

คําตอบ 1 : เครื่องยนตดีเซลเปนเครื่องจักรใหญ<br />

คําตอบ 2 : เครื่องจักรไอน้ําเปนเครื่องจักรใหญ<br />

คําตอบ 3 : แบบ CODAG<br />

คําตอบ 4 : เครื่องยนตดีเซลตอตรงกับเพลาใบจักรเลย


ขอที่ : 449<br />

คา Friction Factor, f ในเรื่องเกี่ยวกับระบบทอทางมีความสัมพันธกับขอใด<br />

คําตอบ 1 : ความดันไอของน้ํา<br />

คําตอบ 2 : ความแตกตางของความดันระหวางจุด 2 จุดในทอ<br />

คําตอบ 3 : ความตึงผิว<br />

คําตอบ 4 : แรงดึงดูดระหวางโมเลกุลของน้ํา<br />

ขอที่ : 450<br />

คาความเร็วต่ําสุดของน้ําในทอทางบนเรือเพื่อปองกันความสกปรกหรือ Fouling ควรมีคาประมาณเทาใด<br />

คําตอบ 1 : 50 m/s<br />

คําตอบ 2 : 10 m/s<br />

คําตอบ 3 :<br />

5 m/s<br />

คําตอบ 4 : 1 m/s<br />

สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />

125 of 125

Hooray! Your file is uploaded and ready to be published.

Saved successfully!

Ooh no, something went wrong!