จดหมายข่าว สถาบันพระปกเกล้า kpi congress

จดหมาข่าว ฉบับวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
เสด็จพระราชดำาเนินพร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา
ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร
ทรงเปิดการประชุมวิชาการสถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ ๑๒ ประจำาปี ๒๕๕๓
เรื่อง คุณภาพสังคมกับคุณภาพประชาธิปไตยไทย
(Social Quality and Quality of Thai Democracy)
ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ ถนนราชดำาเนินนอก กรุงเทพมหานคร
วันพฤหัสบดีที่ ๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓
Opening address from His Royal Highness Crown Prince Maha Vajiralongkorn
The Crown Prince expressed his conviction that this gathering of academics,
administrators, and executives from the business and social sectors to present
research and discuss the pressing issues in Thai politics and society will be very
helpful in ensuring continued peace and prosperity in Thailand. He also expressed
confidence that gathers such as these will help to find a resolution to issues in
Thai society and to strengthen democracy.

จดหมาข่าว ฉบับวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
เสด็จพระราชดำาเนินพร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ
พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ โดยรถยนต์พระที่นั่ง
จากวังศุโขทัย ยังศูนย์การประชุมสหประชาชาติ ถนน
ราชดำาเนินนอก กรุงเทพมหานคร เมื่อเวลา ๑๓.๓๐ น.
โดยนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ในฐานะ
ประธานสภาสถาบันพระปกเกล้า ศาสตราจารย์
ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า
กรรมการสภาสถาบันพระปกเกล้า คณะกรรมการจัดงาน
ประชุมวิชาการสถาบันพระปกเกล้า คณะผู้บริหารและ
ผู้แทนองค์การสหประชาชาติเฝ้า ฯ รับเสด็จ
หลังจากนั้นเสด็จ ฯ เข้าสู่ที่ประทับ ภายในห้อง
ประชุมสหประชาชาติ (Escap Hall) ศาสตราจารย์
ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า
ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตรและหนังสือ แด่สมเด็จ
พระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และรอง
ศาสตราจารย์ วุฒิสาร ตันไชย รองเลขาธิการสถาบัน
พระปกเกล้า ทูลถวายสูจิบัตรและหนังสือ แด่พระเจ้า
วรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ
นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา กราบบังคมทูล
รายงานสรุปความเป็นมาและวัตถุประสงค์การประชุม
วิชาการสถาบันพระปกเกล้าครั้งที่ ๑๒ ประจำาปี ๒๕๕๓,
ขอพระราชทานพระราชดำารัส พร้อมทั้งกราบบังคมทูลเชิญเสด็จฯ
ทรงตัดแถบแพรเปิดนิทรรศการ การประชุมวิชาการฯ
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ พระราชทานพระราช
ดำารัสเปิดการประชุมวิชาการสถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ ๑๒
ประจำาปี ๒๕๕๓ เรื่อง “คุณภาพสังคมกับคุณภาพประชาธิปไตย
ไทย” (Social Quality and Quality of Thai Democracy)
หลังจากทั้งสองพระองค์ได้ทอดพระเนตรนิทรรศการ
แล้ว ได้เสด็จไปยังโต๊ะ ทรงลงพระนามาภิไธยและทรงลงพระนาม
ในสมุดที่ระลึกของสถาบันพระปกเกล้า และสมุดที่ระลึกของศูนย์
ประชุมสหประชาชาติตามลำาดับ จากนั้น ทั้งสองพระองค์เสด็จ
พระราชดำาเนินกลับวังศุโขทัยเวลา ๑๔.๓๐ น.
๒

ผู้แทนพิเศษของนายกรัฐมนตรีภูฏาน และอดีตรัฐมนตรี
ว่าการกระทรวงวัฒนธรรม Lyonpo Dago Tshering กล่าวถึงแนวคิด
“ความสุขมวลรวมประชาชาติ” ในฐานะแนวคิดหลักในการพัฒนา
ประเทศของภูฏานว่า เป็นแนวคิดที่มิได้มุ่งเน้นที่จะพัฒนาประเทศ
แบบดั้งเดิมที่มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจ หากแต่เป็นแนวคิดการ
พัฒนาที่สอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง
ผู้แทนพิเศษฯ เน้นว่า ที่ผ่านมาภูฏานได้ใช้แนวคิดการพัฒนา
ความสุขมวลรวมประชาชาติ ที่มุ่งเน้นเรื่องความสุขของประชาชนเป็น
หลัก โดยบูรณาการการพัฒนาด้านวัตถุไปพร้อมกับการพัฒนาด้าน
จิตใจ แนวทางนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกับการพัฒนาคุณภาพของ
สังคม ซึ่งเป็นรากฐานที่สำาคัญของการพัฒนาประชาธิปไตยของภูฏาน
พระมหากษัตริย์ของภูฏานได้เสด็จพระราชดำาเนินไปทั่ว
ประเทศและทรงพบว่า การพัฒนาที่มุ่งเน้นทางด้านเศรษฐกิจก่อ
ให้เกิดผลเสียด้านการทำาลายทรัพยากรธรรมชาติและจิตใจของ
ประชาชน
ทั้งนี้ การพัฒนาในแนวคิดของความสุขมวลรวมประชาชาติ
ดังกล่าว ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำาคัญซึ่งเปรียบเสมือนเป็นเสาหลักทั้งสี่ด้าน
ได้แก่
1. การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมให้มีความเท่าเทียม และลด
ความเหลื่อมล้ำา
2. เป็นการพัฒนาที่คำานึงถึงระบบนิเวศ
3. ส่งเสริมวัฒนธรรมที่ดีของประเทศ
4. การพัฒนาด้วยหลักธรรมาภิบาล โดยเน้นเรื่อง ความ
รับผิดชอบ และความโปร่งใส
ส่วนของปัจจัยที่ทำาให้เกิดความสำาเร็จนั้น ผู้แทนพิเศษฯ
สรุปว่า ขึ้นอยู่กับ 4 ปัจจัย คือ
1.การพัฒนาที่ควบคู่ไปกับวัฒนธรรมการเมืองแบบ
ประชาธิปไตย
2.การประชาเสวนากับประชาชน
3.การก่อตั้งองค์กรที่มีบทบาทในการปราบปรามคอรัปชั่น
อย่างจริงจัง
4. บทบาทที่เข้มแข็งของสื่อมวลชน
การแสดงปาฐกถานำา เรื่อง
“Gross National Happiness and Social Quality”
“ความสุขมวลรวมประชาชาติกับคุณภาพสังคม”
โดย Lyonpo Dago Tshering (Special Envoy of the
Prime Minister of Bhutan and Former Minister of
Home and Cultural Affairs, The Kingdom of Bhutan)
Opening keynote address from Lyonpo
Dago Tshering, Special Envoy of the Prime Minister
of Bhutan and Former Minister of Home and
Cultural Affairs, The Kingdom of Bhutan
Lyonpo Dago Tshering explained that one
of the main factors that led to the progress of
Bhutan is the concept of Gross National Happiness
(GNH) as opposed to Gross National Product
(GNB). GNH is a concept that grew together
with democracy in Bhutan and became the country’s
guiding philosophy. It cuts across all development
areas and relies on four pillars: Sustainable
social and economic development, protecting
mountain ecology, preservation and promotion of
heritage, and good governance (the golden pillar).
The result of this policy of GNH is that
Bhutan has seen a narrowing of the wealth gap,
and strong performance towards meeting the Millennium
Development Goals (MDGs). GDP per
capita has risen. Bhutan’s commitment to good
governance has given the country democracy. The
country has also instituted new laws on decentralization
and people participation to ensure that
government is transparent, accountable and responsible.
This system gave people full empowerment
and were widely supported. Ownership in
the government and country was transferred to
local people. Lyonpo Dago Tshering also talked
about how GNH is closely related to the To Thai
values of dharma and Pan-Sila and the concept of
sufficient economy. Lyonpo Dago Tshering says
จดหมาข่าว ฉบับวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
๓

จดหมาข่าว ฉบับวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
that democracy came not from the people but from the
King of Bhutan and his belief in the rights of people and
his faith in the people. Democracy came to Bhutan over a
period of 30 years, as the result of systems, procedures
and policies that were put in place. These included a
devolution of power from the center to the district levels,
and then to more than 200 local entities. Lyonpo Dago
Tshering explains that this system did not come through
way of conflict or a struggle but from Bhutan’s trusted
rulers.
Four factors have contributed to Bhutan’s transition
from monarchy to democracy. These include the
implementation of the concept of GNH, which promoted
democratic culture; careful consultation with the people on
provisions of the constitutions; timely establishment of
institutions like the anti-corruption, election, and judiciary;
and the role of the media. Lyonpo Dago Tshering says
that the highest achievement of monarchy has been the
constant nurturing of democracy. Leadership is extremely
important to the success of the democratic transition in
Bhutan. He concluded his remarks by stressing that in
order to make social quality and democracy a reality, we
must have strong leadership. He said that we need uncommon
leaders with wisdom and creativity to lead the
country.
๔

การอภิปรายร่วมระหว่างผู้แทนจากต่างประเทศ
เรื่อง “คุณภาพสังคมกับคุณภาพประชาธิปไตย
(Social Quality and Quality of Democracy)”
โดย Prof. Alan Walker, University of Sheffield
(สหราชอาณาจักร) Prof. Jaeyeol Yee, Seoul National
University (เกาหลีใต้) Prof. Lih-rong Wang, National
Taiwan University (ไต้หวัน) Ms.Laura Edgar, Vice
President - Partnerships & International Programming
Institute On Governance (แคนาดา) ดำาเนินรายการโดย
ดร.ชิงชัย หาญเจนลักษณ์
Prof. Alan Walker ได้อธิบายถึงความ
สัมพันธ์ของคุณภาพสังคมกับประชาธิปไตย โดย
อธิบายว่าคุณภาพของสังคมเป็นเครื่องมือสำาคัญใน
การส่งเสริมกระบวนการประชาธิปไตย ซึ่งที่ผ่านมา
ประชาธิปไตยในระบบรัฐสภามีข้อจำากัด การพัฒนา
ประชาธิปไตยจึงจำาเป็นต้องทำาให้เกิดการมีส่วนร่วม
ทางการเมือง รวมทั้งการตัดสินใจทางการเมือง
Professor Alan Walker presented his views on
“Social Quality and Democracy” into 3 perspectives. Firstly,
he viewed social quality as a tool of democracy. Secondly,
he mentioned social quality in the United Kingdom and thirdly,
the need for empowered participatory governance. Prof. Walker
defined Social Quality as the extent to which people are able to
participate in the social, economic and cultural life of their communities
under conditions which enhance their well-being and
individual potential. Regarding social quality as a tool, he pointed
out the need for social quality as followed:
1.Value changing from social value to self-interest or individualism
2.The subordinate of social to economic policy
3.Defense of welfare state
4.Need to overcome policy fragmentation
5.Exclusion of citizens from decision-making
With regards to social quality in the U.K., he
mentioned the domains of social quality measurement.
The socio-economic security domain is measured by financial
resources, housing, environment and education. The social
cohesion domain is measured by trust, social networks, and
other integrative norms and values. Social inclusion is measured
by citizenship rights and labor market services in both public
and private sectors. The social empowerment domain is also
measured by knowledge base, labor market, institutional and
personal relations.
Regarding the need for empowered participatory
governance, he asserted that this idea is derived from the idea of
social empowerment, the social quality model, and direct democracy
which aims to empower citizens and leads to democratization
of democracy. He also viewed social empowerment as the
degree to which personal capabilities and the ability of people to
act are enhanced by social relations. In conclusion, since democracy
needs to be democratized in various ways, social quality is
a useful tool to assist this process.
๕

จดหมาข่าว ฉบับวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
Prof. Jaeyeol Yee ได้ยกตัวอย่างประสบการณ์การ
พัฒนาประชาธิปไตยของประเทศเกาหลีเพื่ออธิบายถึงปัญหา
สังคมที่นำาไปสู่ความขัดแย้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการ
กระจายรายได้ที่ไม่เป็นธรรม รัฐบาลเกาหลีได้มีบทบาทในการ
แก้ปัญหาเพื่อสร้างสังคมที่เป็นธรรมด้วยการกำาหนดนโยบาย
ที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของคนในสังคม เน้นการพัฒนาทั้งทาง
กายภาพและทุนมนุษย์ควบคู่กันไป รวมทั้งเป็นการพัฒนาที่
คำานึงความยั่งยืนเป็นสำาคัญ
Professor Jaeyeol Yee, Seoul National
University, Republic of Korea
Professor Jaeyeol Yee opened by remarking that
by economic measures and membership in
international clubs, Korea is a developed country
but three quarters of Koreans don’t think that it
is. Professor Yee applies the social quality model
to measure social conflict in Korea.
He focused on techniques of measuring social
quality to assess Korea’s place in transitioning
from an authoritarian society to a democratic
society. He remarked that while authoritarianism
has been broken down, Korea has yet to find a
new, legitimate source of authority for its
existence as a democratic polity. Developing this
new source of legitimacy will involve a focus on
social quality, including social welfare for
economic security, transparency for dealing with
conflicts, stronger institutions and public trust.
๖
Presentation by Professor Lih-Rong Wang,
National Taiwan University, Taiwan
Professor Lih-Rong Lillian Wang’s presentation
looked at efforts to measure subjective feelings
about social inclusion in Taiwan and the social
policy from this evidence. The research works
on social inclusion variables by factor analysis
and tests the correlation between dependent
and independent variables in seven multivariate
regression models from a comprehensive social
quality survey. Across all models, this research
suggests that the subjective feelings of
social inclusion are weak in Taiwan. In addition,
education, democratic satisfaction and the level
of group participation are the most important
variables affecting an individual’s subjective
feelings about social inclusion in Taiwan.
Several equation models provide concrete factor
analysis of affecting factors on different domain
of social inclusion such as social network, and
social services and citizenship.
Prof. Lih-rong Wang ได้นำาเสนอขบวนการทางสังคม
ของไต้หวันที่มีการขับเคลื่อนอย่างหลากหลาย และได้
นำาเสนอผลการวิจัยซึ่งอธิบายถึงความรู้สึกในการเป็น
ส่วนหนึ่งของสังคมของประชาชนชาวไต้หวัน ผลการ
วิจัยได้อธิบายว่าปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความรู้สึกเป็น
ส่วนหนึ่งของสังคมได้แก่ การศึกษา ความพึงพอใจใน
ประชาธิปไตย และระดับการมีส่วนร่วมในกลุ่มต่างๆ
อย่างไรก็ตามการศึกษาและระดับรายได้เป็นปัจจัยที่
มีความสัมพันธ์ทางลบกับความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของ
สังคม

Ms.Laura Edgar ได้นำาเสนอถึงตัวอย่างความสำาเร็จใน
ออนตาริโอ ประเทศแคนาดา ด้วยการใช้สมัชชาพลเมือง
เป็นเครื่องมือในการปฏิรูปการเลือกตั้ง ซึ่งในกระบวนการ
ประชาธิปไตยของสมัชชาพลเมืองนี้จำาเป็นต้องสร้างการ
เรียนรู้ให้กับประชาชน ทำาให้เกิดการตระหนัก และนำาไป
สู่กระบวนการปรึกษาหารือก่อน จึงจะสามารถนำาไปสู่การ
ตัดสินใจเพื่อเปลี่ยนแปลงระบบการเลือกตั้งใหม่
Presentation by Ms. Laura Edger, Vice President—
Partnerships and International Programming Institute on
Governance (IOG), Canada
Ms. Edger started her presentation with an introduction
to the Institute on Governance, providing an
overview of the Institution’s mission and foci. She
then introduced two cases: Citizen’s Councils in Ontario
and engaging youth in democracy using social
media. She then outlined four principles that guide
good governance: Legitimacy, direction and purpose,
effective performance, accountability and transparency,
and fairness and ethical behavior. She said that these
principles sometimes conflict with each other.
The first case that she presents is citizen groups in
Ontario. In this case, Ontario introduced a mixed system
of representation with two votes for each person
and proportional representation. The lessons learned
where that councils needed access to expertise, there
was significant importance in promoting learning, that
councils not overlap the learning and consultation
phases, there was a need for more resources and
monitoring results, more communication and outreach
in the lead up to the referendum, and that the Chair
played a key role, including in the creation of a structured
plan.
The second example was the engagement of youth in
democracy through the use of social media. The IOG
brought in many groups and media. The result was that
over 200 questions were received, the debate had an
expanded reach, and more people watched. The conclusion
of this case was that social media played a key
role in the political debate. The lessons learned were
that social media allows for ongoing engagement, is inexpensive,
government needs to keep up with this technology,
and that conversations using social media need
to be managed as there is sometimes a lack of respect
in those conversations.
Ms. Edger concluded her presentation by saying that
engaging people in democracy involves finding ways to
collaborate, leverage new ways to get feedback, and
enabling genuine customization.
๗