เรื่อง-ของ-วัตถุ - มหาวิทยาลัยรังสิต

ditor’s talk
Eกวิตา เรืองไทย
สารรังสิตก้าวสู่ปีที่ 14
สารรังสิตฉบับนี้ จะเป็นสารรังสิตเล่มสุดท้าย (ฟังดูน่า
ตกใจจัง) ของปี พ.ศ. 2552 แล้ว กองบก. สารรังสิตได้
พยายามสร้างสรรค์สารรังสิตสวยๆ ดีๆ ออกมาให้ผู้อ่านได้
เสพข้อมูลข่าวสารและความเคลื่อนไหวภายในรั้วรังสิตของเรา
มาด้วยดีตลอด ในปี พ.ศ. 2553 ที่จะมาถึงนี้ สารรังสิตจะก้าว
สู่ปีที่ 14 แล้ว ถ้าเป็นคนก็ถือว่าก้าวสู่วัยรุ่นตอนต้นที่ช่างคิด
และช่างค้นหาสิ่งใหม่ๆ ให้แก่ตนเอง แต่สารรังสิตจะขอทำหน้าที่
เป็นวัยรุ่นที่รู้ (ดี) รู้ (มาก) ป้อนสิ่งใหม่ๆ ที่สร้างสรรค์ ให้แก่
ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่านตลอดไป
เช่นเดียวกับเนื้อหาในสารรังสิตฉบับนี้ที่นำเสนอเรื่องดีๆ
ในรั้วรังสิตของทั้งนักศึกษา อาจารย์ และศิษย์เก่าที่เข้มข้น
เหมือนเดิม ท้ายนี้ ปีใหม่ก็ใกล้จะมาถึงแล้ว กองบก. สารรังสิต
ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยดลบัลดาลให้ผู้อ่านทุกท่านมี
ความสุข สุขภาพแข็งแรง คิดสิ่งใดขอให้สมความปรารถนากัน
ทุกท่าน สิ่งที่ไม่ดีในปีนี้ขอให้ทิ้งไป...
พลิกอ่านทุกหน้านะคะ มีสิ่งดีๆ รออยู่ ไม่ควรพลาด...
6 2 ซีเนียร์คณะบริหารโกอินเตอร์
บินลัดฟ้า รับทุนเรียนที่สวีเดน
7 รวมภาพบรรยากาศประทับใจ
Meet & Greet แกรนด์ เดอะสตาร์ 5
12 เด็กรังสิตโชว์ไอเดียดีๆ
ตอบแทนคุณ “พ่อ”
15 เยาวชน ม.รังสิต อาสาคืนสิ่งที่
ดีสู่สังคม
ออกหน่วยบริการวิชาการด้านเครื่องมือแพทย์
18 รุ่นพี่ สร้างชื่อในเวทีโลก
คนไทยคนแรก - กรรมการตัดสินเชียร์ลีดดิ้งโลก
Check
them
ditorial
Estaff
out!
ที่ปรึกษา : ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์, ดร.มานิต บุญประเสริฐ,
ดำรงค์ อินทรมีทรัพย์, ผศ.ดร.นเรฏฐ์ พันธราธร, ผศ.ดร.วิวรรธน์
ปาณะสิทธิพันธ์, อำนวยวุฒิ สาระศาลิน, อนุสรณ์ ศรีแก้ว
บรรณาธิการบริหาร : สมเกียรติ รุ่งเรืองวิริยะ
บรรณาธิการ : กวิตา เรืองไทย
กองบรรณาธิการ : นิจวรรณ นาวารัตน์, อิสราภรณ์ ทองเพียรพงษ์,
จิราภรณ์ ตุลาผล, ปิยาภรณ์ พินยา
รีไรเตอร์ : รพีวรรณ กลยนี
ช่างภาพ : อรรถยา สุนทรายน, บัญหาร กาศนอก
เลขากองบรรณาธิการ : ภัสณี บำรุงถิ่น
คอมพิวเตอร์กราฟิก : อรรถยา สุนทรายน, เกวภร สังขมาศ
ที่ทำการสารรังสิต : สำนักงานประชาสัมพันธ์ ชั้น 2
อาคารอาทิตย์ อุไรรัตน์ (อาคาร 1) มหาวิทยาลัยรังสิต
ซอยพหลโยธิน 87 ถนนพหลโยธิน อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี 12000
โทรศัพท์ 0-2791-5555 โทรสาร 0-2791-5577 หรือ
e-mail : info@rsu.ac.th
Scoop
[จิราภรณ์ ตุลาผล] สกู๊ป
ภาพยนตร์สั้น ม.รังสิต
คว้า 5 รางวัล
จากมูลนิธิหนังไทย
ทุกๆ ปี มูลนิธิหนังไทย จะมีการจัด
ประกวดภาพยนตร์สั้นขึ้น เพื่อส่งเสริมให้บุคคล
ทั่วไป เยาวชน และนักศึกษาได้ส่งผลงาน
ภาพยนตร์สั้นเข้าประกวด และภาพยนตร์สั้นบาง
เรื่องที่ส่งเข้าประกวดหรือได้รับรางวัลจะถูกนำไป
เผยแพร่ในต่างประเทศ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน
และประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์สั้นระหว่างประเทศ
ในแถบทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกา
และในปีนี้นักศึกษาสาขาวิชาการ
ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ คณะนิเทศศาสตร์
มหาวิทยาลัยรังสิต ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง คว้ารางวัล
สำคัญมาถึง 5 รางวัล ได้แก่ รางวัลช้างเผือก
ภาพยนตร์สั้นนักศึกษายอดเยี่ยม เรื่อง “นักโทษ”
รางวัลถ่ายภาพยอดเยี่ยม Kodak Filmschool
Competition เรื่อง “Red Man” รางวัลขวัญใจ
มหาชน Popular Vote เรื่อง “เรื่อง-ของ-วัตถุ”
ประกาศนียบัตรชมเชย ผลงานภาพยนตร์สั้น
นักศึกษา เรื่อง “Red Man” และ “เรื่อง-ของ-วัตถุ”
เรื่อง-ของ-วัตถุ
นางสาวเจนจิฬา โชติประทุม ว่าที่บัณฑิต
คณะนิเทศศาสตร์ และนายภูมิ บุณยสมภพ
นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาการภาพยนตร์และ
วีดิทัศน์ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
กล่าวว่า ภาพยนตร์สั้น “เรื่อง-ของ-วัตถุ” ชนะ
คนเบื้องหลัง
รางวัลขวัญใจมหาชน และประกาศนียบัตร
ชมเชย โดยเรื่องราวถูกถ่ายทอดผ่านพ่อและลูกคู่
หนึ่ง ด้วยคำสัญญาที่จะต้องซื้อรถให้ลูก พ่อจึง
พาลูกไปที่วัดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นวัดที่เก็บพระพุทธ-
รูปที่ได้รับมรดกมา เมื่อลูกได้รู้ว่าพระที่ตน
ต้องการเป็นพระที่ชาวบ้านแถวนั้นให้ความ
นับถือ กราบไว้บูชา เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำใจ
ของคนที่นั่น เขาจึงเปลี่ยนความคิดและมองเห็น
ถึงคุณค่าทางจิตใจมากกว่าที่จะนำพระองค์นี้ไป
แลกเป็นค่าทางเงินตรา
“หนังสั้นเรื่องนี้ เป็นหนังนิสัยดีเรื่องหนึ่งที่
ทำให้คนดูมองเห็นถึงความดี ทำให้คนดูได้รู้สึก
ถึงคุณค่าทางจิตใจกลับไปหลังจากที่ได้รับชม
แม้แต่คณะทำงานเองก็ตาม ก็ยังได้รับความคิด
อีกมุมมองหนึ่งกลับไป มันทำให้เราได้เห็นคุณค่า
ทางวัตถุที่สำคัญของศาสนาพุทธ ได้รู้ว่าสิ่งสำคัญ
ที่สุดในชีวิตคือการให้เกียรติในความเชื่อของ
ตัวเอง” นางสาวเจนจิฬา กล่าวต่อ
ดังนั้น อารมณ์ของตัวละครที่แสดงเป็น
ลูกในเรื่องนี้ อาจจะทำให้ท่านผู้ชมได้ระลึก
สักนิดว่า เรามองพระพุทธรูปเป็นวัตถุที่ยึดเหนี่ยว
ทางจิตใจ หรือมองเป็นเพียงแค่สิ่งของเพียงชิ้น
หนึ่ง
นักโทษ
“ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่มี
รูปแบบและวิธีการทำที่ไม่เคยมีมาก่อน” นี่คือคำพูดแรกที่นายปรัชญา ลำพองชาติ ศิษย์เก่าสาขา
วิชาการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต พูดถึงหนังสั้นเรื่อง
“นักโทษ”
นายปรัชญา อธิบายต่อถึงความแตกต่างที่ว่าไม่เหมือนเรื่องอื่นตรงที่ “ความโดดเด่นของบท
เรื่องนี้ ผมไม่ได้ทำหนังเพื่อเอารางวัล แต่ผมต้องการเผยแพร่และสื่อสารรูปแบบของภาพยนตร์ใน
แนวใหม่ให้ผู้ชมได้เห็น อีกทั้งเพื่อสร้างความคิดใหม่ และวางรากฐานใหม่ๆ ให้แก่เด็กที่จะทำหนัง
รุ่นต่อๆ ไป ผมทำหนังส่งเข้าประกวดมาหลายเรื่อง โดยพยายามที่จะปรับเปลี่ยนความคิดและมุม
มองใหม่ๆ ลงไปในผลงาน สำหรับครั้งนี้ เรื่องนี้ผมใช้รูปแบบภาพยนตร์แบบเชิงกวี (Plastic
Material) หรือเรียกว่า การใช้กระแสสำนึกของคนดู ผสมกับจิตสำนึกของคนทำ โดยต้องการให้
คนดูใช้ประสบการณ์ของตนเองในการชมภาพยนตร์ ตัวหนังจะไม่ใช่การบรรยายหรือมาเล่าเรื่อง
เหมือนเดิม แต่ออกแนวหาข้อคิดไม่เจอ ไม่ต้องตีความ เพราะมันเป็นงานศิลปะต้องใช้รสนิยม
และประสบการณ์ในการคิดตาม หากพูดถึงประสบการณ์การทำหนังของผมนั้น ผมคิดว่าการกำกับ
ที่ดีจะต้องไม่ทำให้นักแสดงรู้สึกว่าถูกกำกับอยู่ และนี่เป็นอุดมคติในการทำงานของผม”
ความรู้สึกแปลกใจ เป็นความรู้สึกแรกที่ปรัชญาจำได้หลังทราบการประกาศผล เนื่องด้วย
แนวทางการประกวดภาพยนตร์สั้น เป็นที่รู้กันว่าคุณลักษณะ คุณสมบัติของภาพยนตร์ที่จะได้รับ
รางวัลนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งนายปรัชญาบอกว่าผลงานของเขาไม่ได้ตรงกับรูปแบบการตัดสินสักเท่าไร
แต่ก็ยังคงรู้สึกดีใจที่ภาพยนตร์แนวศิลปะของเขานั้นได้รับรางวัล และชายคนนี้ก็ทิ้งท้ายว่า “การจะ
สร้างผลงานชั้นเยี่ยม ไม่จำเป็นต้องใช้สมอง ไม่ต้องเป็นอัจฉริยะ ไม่จำเป็นต้องฉลาด แต่สิ่งที่ต้อง
มีคือความเชื่อมั่น ความศรัทธาในสิ่งที่จะทำ”
Red Man
Red Man เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสี ที่ไม่ได้เกี่ยวพันกับเหตุการณ์บ้านเมือง ณ ปัจจุบัน แต่เป็น
เรื่องของสังคมที่เกิดความรู้สึกแบ่งแยก หรือแม้แต่ความช่วยเหลือกันที่น้อยลงในสังคมปัจจุบัน
นายณัฐพงศ์ หอมชื่น นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ คณะ
นิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ผู้กำกับภาพยนตร์สั้น เรื่อง Red Man กล่าวว่า ปัจจุบันนี้ทุกคน
ตีค่ากันเพียงแค่เราเห็นภายนอก เราตีความคนอื่นทั้งๆ ที่เราไม่เคยคุยกันมาก่อนและโดนชักจูงไป
ตามคำพูดของคนอื่นๆ และนี่จึงเป็นแรงบันดาลใจที่เขียนเรื่อง Red Man ขึ้น
“Red Man คือการโยนคำถามให้สังคมว่า เป็นไปได้ไหมที่วันหนึ่งคุณจะกลายเป็น Red Man
เพราะหนังเรื่องนี้ไม่ได้แสดงถึงการอยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่มันหมายถึงคนที่ถูกตัดแยกออกจาก
สังคม ภาพยนตร์เรื่องนี้พูดถึงชายคนหนึ่งที่ใส่เสื้อสีแดงมาทำงาน ซึ่งทุกคนใส่สีเหลืองเพราะเป็น
วันจันทร์ ดังนั้น จึงทำให้เขารู้สึกกดดันเพราะทุกคนไม่มีใครเข้าใจหรือทราบเหตุผลเลย รวมทั้งไม่มี
ใครคิดที่จะถามเลยว่า “ทำไม?” แต่กลับตีความกันด้วยการมองภายนอกและตัดสิน สุดท้ายเขาก็
ต้องไปซื้อเสื้อสีเหลืองมาใส่ระหว่างวัน เพราะเพียงอยากให้เหมือนคนอื่นๆ และไม่ถูกมองด้วย
สายตากดดัน เมื่อถึงเวลากลับบ้าน เขากลับเจอคนใส่เสื้อแดงกลุ่มใหญ่ที่ป้ายรถเมล์ และนั่นทำให้
เขาต้องหยุดเพื่อคิดว่า “จะต้องเปลี่ยนอีกหรือเปล่า?” เพราะมีเสื้อทั้งสองสีอยู่ในมือแล้ว และจะทำ
อย่างไรต่อไป”
ด้าน นายธนุสชาญ ขเรืองศรี และนายอิสรา อริยเอกอนันต์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชา
การภาพยนตร์และวีดิทัศน์ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เจ้าของรางวัลโกดัก (ถ่ายภาพ
ยอดเยี่ยม) เล่าให้ฟังเกี่ยวกับมุมมองการถ่ายภาพให้ออกมาถูกใจคณะกรรมการให้ฟังว่า การใช้
เลนส์กล้องที่เหมาะสมจะทำให้ถ่ายภาพออกมาสวย สำหรับหนังสั้นเรื่องนี้จะมีเพียงไม่กี่เฟรม ซึ่ง
การจัดไฟนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะบางครั้งแสงมากเกินไป บางครั้งน้อยเกินไป และบางครั้งแสง
ไฟก็เอฟเฟ็คเข้ากล้อง ทำให้เราต้องใช้เทคนิคในการจัดภาพเพื่อให้งานออกมาสวยนั้นค่อนข้างยาก
ภาพยนตร์สั้นรางวัลการันตี ก่อเกิดเป็นความภาคภูมิใจให้แก่ผู้ทำ นับว่าไม่ง่ายที่จะสร้าง
ภาพยนตร์ให้ออกมาถูกใจผู้ชมและคณะกรรมการได้มากขนาดนี้ และนั่นคงไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของ
ฝีมือเพียงอย่างเดียว อีกทั้งแง่มุมในภาพยนตร์ที่แสดงให้เห็นถึงความคิด การแสดงความรู้สึก การ
มองโลกของคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งสะท้อนออกมาให้คนหลายกลุ่มได้รับรู้และพึงพอใจ ไม่ใช่ใครที่ไหนจะ
ทำได้ ซึ่งพวกเขาเหล่านี้คือ เลือดใหม่ของวงการภาพยนตร์ที่จะเติบโตเป็นคนทำหนังต่อไป
นายภูมิ บุณยสมภพ นักศึกษาชั้นปีที่ 4
สาขาวิชาการภาพยนตร์และวีดิทัศน์
คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
นายณัฐพงศ์ หอมชื่น นักศึกษาชั้นปีที่ 4
สาขาวิชาการภาพยนตร์และวีดิทัศน์
คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
นางสาวเจนจิฬา โชติประทุม ว่าที่บัณฑิต
สาขาวิชาการภาพยนตร์และวีดิทัศน์
คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
นายปรัชญา ลำพองชาติ ศิษย์เก่า
สาขาวิชาการภาพยนตร์และวีดิทัศน์
คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
0

0
Buffet
[นิจวรรณ นาวารัตน์] บุฟเฟ่ต์
นางสาวเขมิสรา เรืองเดช นักศึกษาชั้นปีที่ 4
แขนงวิชาการแสดงดนตรี วิทยาลัยดนตรี
มหาวิทยาลัยรังสิต
นางสาวเขมิสรา เรืองเดช (เมย์) นักศึกษาชั้นปีที่ 4
แขนงวิชาการแสดงดนตรี (Performance) เอกวิชา
การขับร้องดนตรี (Classic) วิทยาลัยดนตรี มหาวิทยาลัย
รังสิต คือสาวน้อยที่หลงรักเสียงดนตรีและรักการร้อง
เพลงมาตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก
“เมย์มีความสุขทุกครั้งที่ได้ยินเสียงดนตรี เพราะ
เมย์รู้สึกว่าเพลงเป็นส่วนหนึ่งของตัวเมย์ เมย์จึงเลือก
เส้นทางที่รัก โดยการตัดสินใจเข้าเรียนเอกวิชาการ
ขับร้อง สาขาวิชาการแสดงดนตรี ตลอดระยะเวลาที่
ผ่านมา เมย์เข้าใจว่าดนตรีเป็นสิ่งที่ลึกซึ้ง ไม่ใช่ว่าจะ
เข้าใจได้ง่ายๆ ถ้าจับจุดไม่ได้เราก็ไม่สามารถเข้าใจถึง
บทเพลงได้ เพราะดนตรีมีหลายแบบ หลายแนว หลาย
ภาษาแตกต่างกันทั่วโลก เมย์จึงให้ความสำคัญกับเรื่อง
ของความคิดและความรู้สึกที่ถ่ายทอดผ่านบทเพลงเป็น
อย่างมาก เพราะนั่นจะทำให้เมย์สามารถเข้าใจภาษา
นายรชา นันทะเลขา
นายรชา นันทะเลขา (ตาว) นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะบัญชี มหาวิทยาลัยรังสิต
หนุ่มนักบัญชีมาดกวน ขัดกับภาพลักษณ์ของนักศึกษาบัญชีทั่วไป
“ผมรักการเรียนบัญชี เพราะการเรียนบัญชีนั้นไม่ยากเลย ถ้าตั้งใจและใส่ใจกับ
มัน ความฝันของผมก็คือเป็นนักบัญชีที่เก่งกาจ และที่คณะบัญชี มหาวิทยาลัยรังสิต
เปรียบเหมือนบ้านหลังที่ 2 ของผม รู้สึกได้เลยว่าที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงที่ที่เรามาเรียน
หนังสืออย่างเดียว แต่เป็นสถานที่แห่งความอบอุ่น ไม่ว่าผมจะมีปัญหาใดผมก็มักจะ
นึกถึงที่นี่เป็นที่แรก เพราะผมมั่นใจว่าจะมีอาจารย์คอยเป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำ และ
ช่วยเหลือผม”
อีกมุมหนึ่งนอกจากมุ่งมั่นในการเรียนแล้ว ตาวยังทำกิจกรรมอื่นๆ ควบคู่กันไป
ด้วย ตั้งแต่เข้ามาเรียนชั้นปีที่ 1 ก็เป็นตัวแทนคณะฯ เข้าประกวดดาว-เดือนมหาวิทยาลัย
รังสิต เคยเป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยรังสิตถือธงสัญลักษณ์ 80 พรรษา ในการแข่งขัน
กีฬามหาวิทยาลัยโลก ครั้งที่ 24 และการรับหน้าที่เป็นทูตข่าวสารมหาวิทยาลัยรังสิต
(RSU Smart Team) ประจำคณะบัญชี 2 ปีติดต่อกัน
อนาคตอันใกล้ หนุ่มคนนี้ตั้งใจจะเติมความฝันของเขาให้เต็มและพร้อมที่จะ
กลับมาให้ความช่วยเหลือน้องๆ ทุกเมื่อ ด้วยการให้โอกาสหรือถ่ายทอดประสบการณ์
เกี่ยวกับการเรียนและการใช้ชีวิตในคณะบัญชีและในรั้วมหาวิทยาลัยรังสิต ดังนั้น ตาวจึง
มักจะบอกกับเพื่อนๆ และน้องๆ เสมอว่า มหาวิทยาลัยรังสิตนี่แหละ คือโอกาสสำหรับ
ทุกคนที่ก้าวเข้ามาพร้อมความมุ่งมั่น หากใครที่ไล่ตามความฝันด้วยความตั้งใจจริง ย่อม
ได้รับคำตอบเป็นความสำเร็จกลับออกไปเสมอ ถึงแม้ว่าบางคนอาจจะใช้เวลานานมาก
กว่าคนอื่นก็ตาม
นางสาวเขมิสรา เรืองเดช
นายรชา นันทะเลขา นักศึกษาชั้นปีที่ 3
คณะบัญชี มหาวิทยาลัยรังสิต
ของดนตรีได้อย่างแท้จริง”
เส้นทางไล่ตามความฝันของเมย์ไม่ได้จำกัดแค่
เพียงในห้องเรียนหรือห้องซ้อมดนตรีเท่านั้น แต่เมย์ยัง
ได้รับโอกาสและความไว้วางใจจากทางคณะฯ ให้ทำ
กิจกรรมต่างๆ มากมาย อาทิ การเป็นครูสอนขับร้อง
ที่สถาบันดนตรีต่างๆ การร่วมร้องเพลงประสานเสียง
ในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก ครั้งที่ 24 การ
ร่วมขับร้องเพลงประสานเสียงในพิธีประสาทปริญญา
ของมหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งกิจกรรมที่หลากหลายเป็น
แรงผลักดันสำคัญให้เมย์สนใจเข้าร่วมโครงการทูตข่าว
สารมหาวิทยาลัยรังสิต (RSU Smart Team) เพื่อจะได้
แบ่งปันความรู้และประสบการณ์สังคมคนดนตรีที่
มหาวิทยาลัยรังสิตให้แก่น้องๆ ที่หลงใหลในเสน่ห์ของ
เสียงดนตรีเช่นเดียวกัน
Buffet
[นิจวรรณ นาวารัตน์] บุฟเฟ่ต์
ชื่อนี้... ท่านได้แต่ใดมา? โดย อักษรลักษณ์
คุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไมกาแฟดำถึงได้ถูกเรียกว่า “โอเลี้ยง” ทำไม “ขนมจีน” ถึงไม่ใช่ขนม แถมยัง
ไม่ใช่อาหารของประเทศจีนอีกต่างหาก ทำไมพวกต้มตุ๋นถึงถูกเรียกว่าสิบแปดมงกุฎ ทำไมสนามบินน้ำที่เมือง
นนท์ฯ ไม่มีเครื่องบินสักกะลำ ทำไมไหปลาร้าถึงมาอยู่บนร่างกายเรา คุณเคยรู้ไหมว่าค็อกเทลที่ชื่อ “ไหมไทย”
นั้นไม่ได้คิดโดยคนไทย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเมืองไทยเลยสักนิด ข้อสงสัยเหล่านี้มีคำตอบรอคุณแล้วใน “ชื่อ
นี้... ท่านได้แต่ใดมา?” ซึ่งเป็นการรวบรวมข้อเขียนจากคอลัมน์ Know What Why ในนิตยสารแพรว โดย
ฮ.ซาเปียน ได้แบ่งหมวดหมู่อย่างชัดเจนเพื่อให้ง่ายต่อการอ่านและจดจำ อย่างข้าวปลาอาหาร ขนมนมเนย เครื่องดื่ม
ชื่นใจ ผลหมากรากไม้ ต้นไม้ใบหญ้า สิงสาราสัตว์ ถ้อยคำสำนวน คำฝรั่งอังกฤษ ตำนานแดนกรีก ชื่อบ้านชื่อ
เมือง โรคภัยไข้เจ็บ ข้าวของเครื่องใช้ สิ่งบันเทิงเริงใจ นานาจิปาถะ
หนังสือจำนวน 190 หน้า เล่มนี้เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ใช้อ่านเล่นๆ แต่ให้ความรู้ เพราะผู้เขียนได้
ประเคนสาระมาให้เพียบ
Facebook + Spore Islands โดย อ.เสกสันต์ แสงสวัสดิ์
ปัจจุบันนี้ Blog เป็นที่นิยมและแพร่หลายไปยังบุคคลทุกเพศทุกวัย แทบจะไม่มีใครเลยที่ไม่มี Blog เป็นของ
ตัวเอง หลายคนเริ่มงงว่า Blog คืออะไร มันก็คือ hi5, Twitter หรือ Facebook ที่เราเล่นกันอยู่ทุกวันนี้เอง Blog
หลายๆ ค่ายก็แข่งขันกันมากมาย และที่นิยมที่สุดตอนนี้น่าจะเป็น Facebook ที่มีคนเล่นถึง 300 ล้านคนทั่วโลก
ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ Facebook เป็นที่นิยมคือ เกมนั่นเอง ทุกวันนี้เราจะเห็นคน Login เข้า Facebook เพื่อเล่นเกม
ล่าสุด คือ อีเอ และ Maxis Studio นำเกมจำลองชีวิตซีรีส์ “สปอร์” ที่ผมได้แนะนำไปแล้วในสารรังสิตฉบับก่อน
มาลงให้กับ Facebook บ้าง โดยใช้ชื่อว่า “Spore Islands” เนื้อหาของเกมจะย่อขนาดลงมาจาก Spore ตัวเดิมแต่
ยังคงคอนเซปต์ของเกมไว้อยู่คือ จะให้ผู้เล่นได้แข่งขันกับผู้เล่นคนอื่นเพื่อสร้างเกาะของตัวเองและพัฒนาสายพันธุ์
สปีชีของตัวเอง ในขณะเดียวกันก็ต้องส่งสิ่งมีชีวิตที่ตัวเองสร้างขึ้นไปยังเกาะของผู้เล่นคนอื่นเพื่อเข้ายึดครองด้วย
แล้วอย่าลืมไปสร้างสายพันธุ์ตัวเองขึ้นใน Facebook ของแต่ละคนด้วยนะครับ
Google Map กับ Game Monopoly โดย อ.ไววิทย์ จันทร์วิเมลือง
วันนี้จะมาแนะนำเว็บไซต์ที่มีการนำเกมเศรษฐีชื่อดัง Monopoly มาผนวกเข้ากันกับ Google Map
แผนที่ระดับโลกของ Google หากพร้อมแล้วก็ให้เข้าไปที่ www.monopolycitystreets.com จากนั้นก็ทำการ
สมัครสมาชิกเข้าเล่นเกม โดยตัวเกมก็มีกฎกติกาสอนไว้อยู่แล้ว โดยกฎเบื้องต้นบอกไว้ว่า เราจะได้เงิน 1 ล้าน
เมื่อเข้ามาใช้งานในแต่ละวัน สามารถซื้อถนนและสร้างตึกในราคาต่างๆ ได้ โดยยิ่งตึกที่มีราคาแพงเท่าไร เงิน
ค่าเช่าที่เราจะได้ก็จะมากขึ้นเท่านั้น ที่ดินที่เราจะซื้อนั้น หากโฉนดเป็นสีน้ำเงินแสดงว่ามีเจ้าของแล้วจะซื้อเลยไม่
ได้ ต้องไปประมูลซื้อเอา แต่หากโฉนดนั้นเป็นสีแดงแสดงว่าเป็นโฉนดเปล่า เราสามารถซื้อได้ และขณะที่เล่นอยู่
นั้นทำให้เรารู้ว่าโลกเราใบนี้กว้างใหญ่มากแค่ไหน มีประเทศหลายประเทศที่เราอาจไม่เคยรู้จักมาก่อนให้เราค้นหา
ลองเล่นดูสิครับ เป็นเกมที่ผมรู้สึกว่าไม่เสียเวลาเล่นมาก ทำให้เรารู้อีกด้วยว่าที่ดินในกรุงเทพฯ ราคาแพงมากแค่
ไหน
Recommended
0
เมนูบันเทิง
สวยซามูไร โดย ผศ.ดร.กฤษดา เกิดดี
จากภาพโฆษณาและประชาสัมพันธ์ เห็นได้อย่างชัดเจนว่า “สวยซามูไร” เป็นภาพยนตร์ที่ทางผู้สร้างมีเจตนา
นำเสนอเรื่องราวการต่อสู้ด้วยดาบที่ซามูไรใช้เป็นอาวุธ โดยมีขนาดของหน้าอกของผู้แสดงสาวเป็นสิ่งดึงดูด แต่ดู
เหมือนว่าเจตนาดังกล่าวนั้น กลับถูกทำให้เบี่ยงเบนไปด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับการก่อการร้าย องค์กรลับ และการ
แทรกแซงประเทศอื่นของสหรัฐอเมริกา ทำให้การต่อสู้ด้วยดาบแบบซามูไรและขนาดของหน้าอกกลายเป็นเพียง
ส่วนประกอบ
ผลที่ติดตามมาคือ “สวยซามูไร” กลายเป็นภาพยนตร์ที่มีเรื่องราวสลับซับซ้อนและถูกทำให้ยุ่งยากเกินกว่าที่
ควรจะเป็น และยิ่งถ้าหากพิจารณาว่าทางผู้สร้างมีเจตนาขายเรือนร่างของผู้แสดงสาว การสร้างเรื่องราวให้ยุ่งยาก
ซับซ้อนก็ไม่จำเป็น และเมื่อบวกกับกลวิธีการเล่าเรื่องที่ยุ่งยากพอๆ กับเรื่องราว ทำให้กลายเป็นภาพยนตร์เพื่อความ
บันเทิงที่มีความเพลิดเพลินอยู่น้อยเกินไป
ผู้ที่เคยดูงานในอดีตของ มานพ อุดมเดช อาจจะต้องลืมเรื่องนี้ไปอีกเรื่อง

0
Showcase
[นิจวรรณ นาวารัตน์]
ของดีมีอยู่
News
ภาพข่าว
0
2 ซีเนียร์คณะบริหารฯ โกอินเตอร์
รับทุนโครงการแลกเปลี่ยนฯ ที่สวีเดน
“The secret of success in life is to be
ready for your opportunity when it
comes.” Benjamin Disraeli
…ความลับของความสำเร็จคือเตรียมตัว
ให้พร้อมอยู่เสมอสำหรับโอกาสที่มาถึง
คำคมข้างต้นได้รับการพิสูจน์ให้เห็นเป็น
รูปธรรมจากความสำเร็จก้าวแรกของนางสาว
ณัฐชา ปรีชาพัฒนานนท์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4
และนายไทธัม พัฒนภูมิไทย นักศึกษาชั้นปีที่ 3
สาขาวิชาการจัดการ คณะบริหารธุรกิจ
มหาวิทยาลัยรังสิต 2 นักศึกษาที่สร้างความ
พร้อมให้แก่ตนเองจนสามารถผ่านการพิจารณา
ว่ามีคุณสมบัติอันเหมาะสมให้รับทุน Linnaeus
and Palme Scholarships ซึ่งสนับสนุนการ
ดำเนินงานในโครงการแลกเปลี่ยนอาจารย์และ
นักศึกษาระหว่างมหาวิทยาลัยรังสิต และ
Malardalen University ประเทศสวีเดน เป็น
เวลา 10 เดือน ตั้งแต่เดือนกันยายน 2552 -
มิถุนายน 2553
นางสาวณัฐชา ปรีชาพัฒนานนท์
นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาการจัดการ
คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า
อาจารย์ที่คณะฯ แนะนำให้ไปสอบคัดเลือก
เพราะอาจารย์อยากให้คนที่มีความพร้อมทั้งใน
ด้านของความรู้ การใช้ภาษา และมีความ
ต้องการที่จะพัฒนาได้มีโอกาสรับทุนนี้ ส่วนตัว
แล้วคิดว่าอาจารย์กำลังยื่นโอกาสดีๆ ให้ จึง
ตัดสินใจลองไปสมัครสอบและได้รับทุนในที่สุด
ส่วนเหตุผลที่คาดว่าทำให้ได้รับทุนนั้นเป็น
เพราะอาจารย์มองเห็นว่าเราสามารถไปใช้ชีวิต
คนเดียวในต่างประเทศได้ และผลการเรียนอยู่
ในระดับที่น่าพอใจ เกรดเฉลี่ยสะสม 3.84
ความสามารถด้านภาษาอยู่ในระดับดี ที่ผ่านมา
ก็เรียนพิเศษวิชาภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ อาจารย์ยังสอนอยู่เสมอว่า การจะ
ประสบความสำเร็จในสายงานทางด้าน
บริหารธุรกิจได้ต้องโดดเด่นกว่าคนอื่น เราไม่
จำเป็นต้องเก่งไปทุกอย่าง แต่เลือกสิ่งที่เรา
ถนัดแล้วพยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อให้เราต้อง
แตกต่างจากคนอื่นๆ เช่น เรียนคณะบริหาร
แต่มีความรู้ความสามารถในเรื่องของภาษา
ต่างประเทศ หรือมีทักษะในการใช้
คอมพิวเตอร์ได้ดีมาก จะเป็นจุดเริ่มต้นของ
โอกาสที่มากกว่าคนอื่นๆ
ในขณะที่ นายไทธัม พัฒนภูมิไทย
นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาการจัดการ คณะ
บริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า
เหตุผลที่ตัดสินใจสมัครเข้าร่วมการคัดเลือก
เพราะมองว่าการเรียนบริหารธุรกิจจะอาศัย
ความรู้ในห้องเรียนเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมี
ความรู้และประสบการณ์ที่หลากหลาย
ประกอบกับเคยมีประสบการณ์ใช้ชีวิตในต่าง
ประเทศมาแล้ว ทั้งที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและ
ออสเตรเลีย แต่ตอนนั้นเป็นการเดินทางไป
ทำงานเจอประสบการณ์ที่ยากลำบากมาก ดังนั้น
การเดินทางไปประเทศสวีเดนครั้งนี้เพื่อไปเรียน
และยังได้รับทุนด้วยจึงคิดว่าเป็นสิ่งที่ทำได้
อย่างแน่นอน และตนมีความสนใจเรื่อง
เกี่ยวกับนวัตกรรมใหม่ๆ เป็นพิเศษ ซึ่งทาง
Malardalen University มีชื่อเสียงมากในด้าน
นี้
“ผมคิดว่าเราควรเตรียมพร้อมอยู่เสมอ
โอกาสจะเข้าข้างคนที่มีความพร้อมที่สุด สมัย
ก่อน ผมไม่ชอบภาษาอังกฤษ พูดไม่ได้ ผมก็
คิดว่าถ้ากลัวอะไร วิธีแก้ไขคือต้องทำอย่างนั้น
ผมจึงตัดสินใจเรียนพิเศษภาษาอังกฤษและหา
ทางไปใช้ชีวิตในต่างประเทศ สถานการณ์บังคับ
ให้ต้องเอาตัวรอด ตอนนี้อุปสรรคด้านภาษา
อังกฤษของผมก็หมดไปแล้ว” นายไทธัม กล่าว
เสริม
ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่าเคล็ดลับสู่ความ
สำเร็จนั้นไม่ได้มีอยู่จริงตั้งแต่แรก หากเรา
พยายามทำตนเองให้พร้อมอยู่เสมอ แก้ไขและ
เติมเต็มในสิ่งที่คิดว่ายังทำไม่ได้ เมื่อนั้นความ
สำเร็จก็มาอยู่ตรงหน้าโดยที่เราอาจไม่ได้ตั้งตัว
ด้วยซ้ำไป
นายไทธัม พัฒนภูมิไทย
นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาการจัดการ
คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต
นางสาวณัฐชา ปรีชาพัฒนานนท์
นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาการจัดการ
คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต
เด็กเดิร์นดอทคอม จัด Meet & Greet
แกรนด์ The Star 5
เว็บไซต์เด็กเดิร์นดอทคอม (www.dekdern.com) จัดกิจกรรม Meet
& Greet นางสาวพรรณวรท ด้วยเศียรเกล้า (แกรนด์ The Star 5) นักศึกษา
ทุนความสามารถพิเศษด้านศิลปิน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างแฟนคลับ
ของเว็บไซต์และแฟนคลับของแกรนด์ โดยภายในงานมีกิจกรรมสนุกๆ ชิงของ
ที่ระลึกจากศิลปิน ตลอดจนรับประทานอาหารกลางวันร่วมกันเพื่อให้แฟนคลับ
ได้ใกล้ชิดกับศิลปินอย่างเต็มที่ ณ ห้องประชุม 1-308 ชั้น 3 อาคารอาทิตย์
อุไรรัตน์ (อาคาร1) มหาวิทยาลัยรังสิต
นิทรรศการ DUCTFUN 09 : Simple Design
สาขาวิชาการออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม คณะศิลปะและการออกแบบ
มหาวิทยาลัยรังสิต จัดแสดงนิทรรศการผลงานการออกแบบผลิตภัณฑ์ โครงการ
DUCTFUN 09 ภายใต้แนวคิด Simple Design และการออกร้านจำหน่ายสินค้า
ทำมือของนักศึกษา ณ ART & GALLERY อาคารคุณหญิงพัฒนา (อาคาร 8)
มหาวิทยาลัยรังสิต

0
News
ภาพข่าว
Scoop
สกู๊ป
0
คอนเสิร์ตการกุศล The Broadway Concert
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จทอดพระเนตรการแสดง
คอนเสิร์ตการกุศล The Broadway Concert โดยมีวง Rangsit Philharmonic Orchestra อำนวย
เพลงโดย ดร.เด่น อยู่ประเสริฐ คณบดีวิทยาลัยดนตรี มหาวิทยาลัยรังสิต ได้รับเชิญร่วมแสดงในงาน
เพื่อหารายได้สมทบทุนมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ทั้งนี้ มีนักร้องและ
นักแสดงชั้นนำ เช่น คุณสุรุจ ปรีดารัตน์ คุณธีรนัยน์ ณ หนองคาย และคุณวัลพัฒน์ สุวรรณากริช
ร่วมถ่ายทอดมนต์ขลังแห่งบทเพลงหลากหลายรส จากละครเพลง Broadway อันเลื่องชื่อ ณ
ศรีบูรพา ออดิทอเรียม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
โครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำนักศึกษาหอพัก
สโมสรนักศึกษาหอพัก สำนักงานหอพัก มหาวิทยาลัยรังสิต
จัดโครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำนักศึกษาหอพัก ครั้งที่ 8 ประจำปี
2552 โดยได้รับเกียรติจาก อาจารย์นันทนา กุญชร ณ อยุธยา
ผู้อำนวยการสำนักงานหอพัก บรรยายในหัวข้อ “การเขียนโครงการ
และการนำเสนอโครงการ” Mr. Jerom Loremia Meleclo อาจารย์
ชาวฟิลิปปินส์ สอนการพูดภาษาอังกฤษ ตลอดจนการอภิปรายกลุ่ม
ในหัวข้อ “ภาวะความเป็นผู้นำ” ณ สวนสาริการีสอร์ต จ.นครนายก
งานเทศกาลลอยกระทง
“ประทีปโคมทอง เรืองรองทุ่งรังสิต”
สโมสรนักศึกษา มหาวิทยาลัยรังสิต จัดงาน
เทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2552 ภายใต้ชื่องาน
“ประทีปโคมทอง เรืองรองทุ่งรังสิต”
ภายในงานมีกิจกรรมมากมาย อาทิ การ
ออกร้านจำหน่ายสินค้า บูตจากนักศึกษาคณะ
ต่างๆ การประกวดธิดานพมาศและประกวดเทพ-
บุตรทุ่งรังสิต การประกวดกระทง การแสดงดนตรี
การแสดงทางวัฒนธรรม ของชมรมนาฏศิลป์
ชมรมไทยลูกทุ่ง และชมรมดนตรีสากล ฯลฯ โดย
งานนี้ได้แบ่งพื้นที่ของโซนกิจกรรมไว้ คือ
Landmark Plaza เป็นจุดบริเวณสวนน้ำพุ จุดนัด
พบ ซึ่งเป็นที่สำหรับลอยกระทงและพักผ่อนหย่อนใจ
RSU Market Zone ตลาดนัดสินค้า รวบรวมสินค้า
แฟชั่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ สินค้าหัตถกรรม งาน
ศิลปะ ของใช้ ของตกแต่ง เกมการละเล่นต่างๆ
เช่น ปาโป่ง ยิงเป้า ตักปลา ฯลฯ RSU Food Zone
ลานอาหารและเครื่องดื่ม RSU Thai Market ตลาด
ไทยในบรรยากาศย้อนยุค จำหน่ายอาหารไทย
ขนมไทย ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแบบไทย สินค้า
หัตถกรรมพื้นบ้าน สินค้า OTOP การบริการนวด
แผนไทย RSU Fun Park และ RSU Rama บริเวณ
เครื่องเล่นสวนสนุกเคลื่อนที่ขนาดย่อม และหนัง
กลางแปลง Main Stage เวทีการประกวดและการ
แสดงต่างๆ
สำหรับผลการประกวดธิดานพมาศและ
ประกวดเทพบุตรทุ่งรังสิต ปรากฏว่ารางวัลชนะเลิศ
เทพธิดานพมาศในปีนี้ ได้แก่ นางสาวกมลทิพย์
แสงส่งไพศาล จากวิทยาลัยแพทยศาสตร์ รางวัลรอง
ชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ นางสาวปุณยนุช เปล่งวานิช
คณะศิลปศาสตร์ รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่
นางสาววิจิตรา ฉายสุวรรณ คณะนิเทศศาสตร์
รางวัลชมเชยอันดับ 4 ได้แก่ นางสาวอารีรัตน์
รัตนประดิษฐ์ คณะเทคนิคการแพทย์ รางวัลชมเชย
อันดับ 5 ได้แก่ นางสาวจิรวรรณ อ่อนหวาน คณะ
บัญชี รางวัลทูตวัฒนธรรมไทย ได้แก่ Miss Marlies
Burgstaller จากโครงการ Stenden Rangsit
University
รางวัลชนะเลิศเทพบุตร ได้แก่ Mr.
Christopher Seidenberg จากโครงการ Stenden
Rangsit University รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1
ได้แก่ นายกานต์ กุลานุพงศ์ วิทยาลัยดนตรี
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ นายธนณัฐ
สุขเจริญ คณะนิเทศศาสตร์ รางวัลชมเชยอันดับ 4
ได้แก่ นายนวพล จตุพร คณะการแพทย์แผน
ตะวันออก รางวัลชมเชยอันดับ 5 ได้แก่ นายธีรเมธ
จิรสุวรรณพงศ์ คณะศิลปศาสตร์ รางวัลทูต
วัฒนธรรม ได้แก่ Mr. Wang Sheng จากโครงการ
Chinese Business School of Rangsit University
ผลการประกวดกระทงประเภทสวยงาม
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ คณะเศรษฐศาสตร์
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ คณะเทคโนโลยี-
ชีวภาพ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ คณะ
ทัศนศาสตร์ ประเภทความคิดสร้างสรรค์ รางวัล
ชนะเลิศ ได้แก่ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ รางวัล
รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ คณะนิเทศศาสตร์
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ คณะทันต-
แพทยศาสตร์

10
Hitchhiker
สะพายเป้ เข็มทิศ ลายแทง
[จารย์อิท คณะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการ]
email : ittiphun@hotmail.com
สวัสดีครับทุกท่าน ฉบับนี้ผมจะพาท่าน
ไปเที่ยวต่างประเทศใกล้ๆ บ้านเรา มาเลเซีย-
สิงคโปร์ 5 วัน 4 คืน ไปรถ กลับเครื่องบิน ใน
ราคาแค่หมื่นนิดๆ ทุกครั้งที่ผมจัดทริปส่วนตัว
พากลุ่มคนที่รู้จักกันไม่ว่าจะเป็นศิษย์เก่าที่จบไป
นานแล้ว ศิษย์ปัจจุบันที่ทราบข่าวจาก hi5 ต่างก็
ขนบรรดาญาติพี่น้องไปด้วย เพราะเขาจะรู้กิตติศัพท์
ความฮาและมาตรฐานการจัดทริปของผม ไม่ได้
หมายความว่าผมจะจัดดีกว่าคนอื่นหรือไม่มี
ปัญหา ผมจะพูดอยู่เสมอว่าการเดินทางทุกครั้ง
ย่อมมีอุปสรรคและปัญหาที่เราไม่ได้คาดคิดอยู่
เสมอ แต่การแก้ไขปัญหาและการจัดการใครจะมี
ความรับผิดชอบกว่ากัน ในตอนนี้ที่ท่านกำลังจะ
ได้อ่านจะเห็นได้ว่าผมเจอปัญหาหนักมากแต่ก็
ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีในที่สุด การวางโปรแกรมการ
เดินทางก็เหมือนกัน ผมจะศึกษาสถานที่ที่จะไป
วัดจีนบนหน้าผายอดเขา สร้างโดยผู้ก่อตั้งเกนติ้ง
Mr. Lim Goh Tong
ทั้งค้นข้อมูลจากเว็บไซต์ ถามคนรู้จักในวงการทัวร์
และจากประสบการณ์ที่เคยไปมา นำมาสร้างสรรค์
โปรแกรมใหม่ของตนเองที่ไม่ค่อยเหมือนที่ทัวร์
ทั่วไปจัดอยู่ เพราะอยากจะทำให้ดีถูกอารมณ์และ
คุ้มค่าเงินที่พวกเค้าต้องจ่ายกันหลายสตางค์ ช่วง
หลังปีใหม่ต้นเดือนมกราคมอากาศกำลังหนาวได้ใจ
ก็จะพาไปกลุ่มเล็กๆ ฮ่องกง (ดีสนีย์แลนด์) - จูไห่
(จีน) - มาเก๊า (เวเนเชียน) 4 วัน 3 คืน เป็น
โปรแกรมที่บริษัททัวร์ไม่ทำเพราะราคาจะสูงมาก
ทำให้ขายยาก แต่ผมทำได้ราคากลางๆ กลับมาคง
มีเรื่องราวและภาพสวยๆ มาฝากท่านครับ
เอาล่ะครับ ออกเดินทางไปเที่ยวกับผม
อาคารสุลต่านอับดุล ซาหมัด
ได้แล้ว เราออกเดินทางในวันพุธที่ 21 ตุลาคม
โดยรถตู้ปรับอากาศใหม่เอี่ยมจุคันละ 14 คน แต่
ผมให้นั่งคันละ 9 คนเท่านั้น เพื่อความสบายและ
ไว้กระเป๋าด้านหลัง รวม 3 คัน 26 คน รถออก
ตอนเย็นห้าโมงครึ่ง มาแวะทานข้าวต้มรอบดึกที่
ร้านเจ้าประจำเฉี่ยวโอชาริมอ่าวประจวบฯ อร่อย
เหมือนเดิมครับ หลังจากนั้นก็มุ่งสู่ อ.หาดใหญ่
จ.สงขลา ระหว่างทางก็แวะปั๊มให้เข้าห้องน้ำและ
คนขับได้พักคลายง่วงบ้าง พอประมาณ 6 โมงเช้า
กว่าๆ เราก็ถึงหาดใหญ่ตามเวลา มีน้องตี๋ลูกชาย
คุณอาสวัสดิ์เจ้าของบริษัทวาสนาทัวร์ที่ผมใช้
บริการกันมาเกือบ 10 ปีแล้วให้การต้อนรับ พร้อม
กับน้องอาดัมและน้องบีม ซึ่งจะทำหน้าที่เป็น
มัคคุเทศก์นำกรุ๊ปได้พาไปทานอาหารเช้าร้านดัง
โชคดี แต่เตี้ยม มีซาลาเปาและขนมจีบสารพัด
ชนิด แต่ที่ขึ้นชื่อก็ต้องหมูตุ๋นยาจีน “บ๊ะกุ๊ตแต๋” อร่อย
มากมายครับทั่น หลังผมโซ้ยจนอิ่มแล้ว แต่ลูกทัวร์
กำลังเพลินกันอยู่ ผมก็ออกมาเดินเล่นถ่ายรูป
บรรยากาศยามเช้าก็ได้เรื่องครับ ชายไทยวัยกลางคน
เดินเอียงไปเอียงมาเมาตะโกนเสียงดังพูดกับผมลั่น
ถนน “Hi! Good morning... where u from?”
นึกถึงสภาพผมที่สะพายกล้องถ่ายรูป ผมยาว ใส่
หมวกเบเล่ย์ตามสไตล์ของผม เพ่แกคงนึกว่าผม
เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผมไม่ตอบ ได้แต่ยิ้มมุม
ปาก “U afraid me” แกตะโกนดังอีก ผมชักเซ็ง
เลยตอบไปเรียบๆ “ไม่หร๊อก... แต่รำคาญว๊อย”
“อ้าว! คนทายนี่หว่า... ไปก้อด้าย” ว่าแล้วเพ่ก็รีบ
เผ่นเดินเอียงไปเอียงมาหนีผมแน่บ อันนี้ต้อง
ขอบคุณพ่อแม่ที่ให้หน้าตาเป็นอาวุธ... 555 ต่อ
จากนั้นก็ตรงดิ่งมาที่ด่านจังโหลนผ่านพิธีการแล้ว
ขึ้นรถบัสมาเข้าด่านมาเลเซีย ทุกคนต้องขน
กระเป๋าเดินทางผ่านเครื่อง X-ray ผมอีกและ!
โดนกักที่ด่านอีกโดนเรียกเข้าช่องพิเศษด้านหลัง
ให้ยืนรอหน้าคอมพิวเตอร์สักพักก็บอกว่าไปได้
ผมไม่ได้พูดอะไรรีบเดินออกมาเจอไกด์อีกคน
ชาวจีนมาเลเซียชื่อเคนนี่รีบถามผมด้วยความ
เป็นห่วง “What’s a problem with u” ผมตอบ
แบบไม่เครียดว่า “I think! Maybe about my
face is good looking” เสียงหัวเราะกันตรึม
ต่อจากนั้นก็เดินทางโดยรถบัสปรับ
อากาศที่แอร์เย็นฉ่ำจนหนาวชมวิวประเทศ
มาเลเซีย ถนนไฮเวย์ที่นี่จะดีมากแทบไม่มีจุดตัด
ฟังพนักงานโม้ขายช็อคโกแลต
รถหรือทางแยกเลยและรถบัสที่นี่จะจำกัด
ความเร็วที่ไม่เกิน 90 กม./ชั่วโมง เพื่อความ
ปลอดภัย จนบ่ายโมงก็มาแวะทานอาหารกลางวัน
ที่ร้านอาหารระหว่างทาง เสร็จก็ขึ้นรถบัสชมวิว
ต่อจนห้าโมงเย็นก็มาถึงเก็นติ้งไฮแลนด์ เมือง
ตากอากาศที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี ซึ่งอยู่
สูงกว่าระดับน้ำทะเล 6,000 ฟุต พอลงรถกะ
จะนั่งกระเช้าลอยฟ้า (Skyway) สู่ยอดเขา แต่รถ
กระเช้าลอยฟ้าดันปิดซ่อมบำรุงประจำปีก็ทำให้
หลายคนผิดหวังบ้าง พวกเราต้องขึ้นรถบัสไปส่ง
ด้านบนแทน เข้าสู่ที่พักโรงแรม First World
Hotel ที่มีห้องพักโรงแรมเดียวถึง 6,000 ห้อง
ทุกคนรับ Key Card ที่ใช้เปิดห้องและรูดตอน
มีเรือกอนโดล่าให้นักท่องเที่ยวนั่งเล่นใน
ลำคลองเทียม เรือใช้แล่นโดยมอเตอร์ไฟฟ้า
คนพายก็เป็นหุ่น... ช่างทำไปได้
เข้าทานอาหาร เอาของเก็บและลงมาทานอาหาร
ค่ำที่ห้องอาหารด้านล่างที่มีไว้บริการอย่างเพียบ
ผู้คนล้านแปดรุมตักอาหารแบบบุฟเฟต์ที่กระจาย
ตัวเป็นระยะๆ ตลอด 3 ชั้นของห้องอาหาร ผม
ปล่อยทุกท่านอิสระให้เดินเล่นภายในด้านล่าง
โรงแรมที่จัดเป็นสวนสนุกมีเครื่องเล่นมากมาย
ร้านค้าชอปปิงเป็นร้อย สิ่งบันเทิงต่างๆ โดยรอบ
เรียกว่าเดินกันยันเที่ยงคืนยังไม่ทั่วเลย ส่วนที่
เป็นคาสิโนจะอยู่แยกออกมาที่ชั้นใต้ดิน แต่ใน
กรุ๊ปเราไม่มีใครสนใจ ผมเห็นเดินชอปปิงกัน
นัวเนีย
เช้าวันที่สาม หลังอาหารเช้าก็ออก
จากโรงแรมมาเที่ยวที่วัดจีนที่สร้างโดยท่าน
เจ้าของเกนติ้ง Mr. Lim Goh Tong วัดนี้ตั้งอยู่
บนหน้าผา ยอดเขามีพระพุทธรูปขนาดใหญ่และ
เจ้าแม่กวนอิม ภายในวัดสะอาดมาก มีรูปปั้น
เรื่องราวทางศาสนาที่น่าสนใจมากมายและ
บรรยากาศยามเช้าอากาศเย็นสบายมองเห็น
เกนติ้งไกลๆ ต่อจากนั้นก็มาแวะที่โรงงานทำ
ช็อคโกแลตด้านล่าง เริ่มออกเดินทางเข้าสู่เมือง
หลวงกัวลาลัมเปอร์ แวะทานอาหารกลางวันที่
ภัตตาคารจีน หลังจากนั้นมาต่อกันที่ร้าน
จำหน่ายนาฬิกาที่ราคาถูกบ้างแพงบ้างบางยี่ห้อ
ช่วงบ่ายกว่าๆ ก็มาถึงเมืองราชการแห่งใหม่ของ
มาเลเซียปุตราจายา (Putrajaya) สร้างโดยอดีต
Malaysia-Singapore 1
ตึกแฝด ปิโตรนัส (The PETRONAS
Twin Towers) ที่เคยสูงที่สุดในโลก
Lobby อย่างเริดหรูอลังการ First World Hotel ภายในเครื่องเล่น ร้านค้าเพียบ
นายกฯ มีสิ่งก่อสร้างสถาปัตยกรรมแบบมุสลิม
ประยุกต์ที่สวยงามมาก ทุกอย่างดูเป็นระเบียบ
และสะดวกแก่ประชาชนในการมาติดต่อราชการ
เมืองไทยเคยคิดมาก่อนแต่ทะเลาะกันไม่เสร็จจน
ชาวบ้านเอาไปทำจนมีชื่อเสียง... ฮ่วย ถัดมาชม
จัตุรัสเมอร์เดก้า สถานที่ปลดปล่อยเอกราชจาก
อังกฤษ มีเสาธงที่มีความสูงที่สุดในโลก 100
เมตร ชมอาคารสุลต่านอับดุล ซาหมัด ชม
พระราชวังแห่งชาติ ทหารม้าและทหารราบประจำ
พระองค์ ถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก ชมทัศนียภาพ
ของเมืองหลวง ตึกรัฐสภา มัสยิดหินอ่อน สถานี
รถไฟเก่าแก่ KL Tower ชมตึกแฝด ปิโตรนัส (The
PETRONAS Twin Towers) ที่เคยสูงที่สุดในโลกถึง
452 เมตร จากพื้นดิน เราแวะลงจุดที่ถ่ายภาพได้
มุมที่เห็นทั้งตึกไกลๆ ตอนเย็นมาละลายทรัพย์กัน
ที่ชอปปิงมอลล์สุดหรูของมาเลเซีย KLCC ที่อยู่ติด
กับตึกแฝด แหล่งรวมสินค้าแบรนด์ดังมากมายทั้ง
ตึก ผมได้แต่เดินดูถ่ายภาพเล่น พอได้เวลาก็รวม
พลมาทานอาหารค่ำที่ภัตตาคารจีน... อีกและ
คืนนี้เราเข้าพักที่ Puteri Park Hotel… ใครยังไม่
ง่วงก็ลงมาเดินเล่นตลาดเสื้อผ้าและร้านค้าที่เกือบ
จะปิดกันแล้ว ใครง่วงเพลียก็ตามสะดวกครับ
Good Night, Kuala Lumpur… Zzz
เช้าวันที่สี่ ออกเดินทางลงใต้เพื่อเข้าสู่
ประเทศสิงคโปร์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5
RANGSIT MUSIC COMPETITION 2009 ชิงถ้วยพระราชทานฯ
First World Hotel สีเจ็บมาก มีถึง 6,000 ห้อง... พระเจ้า!
ชั่วโมง แวะทานข้าวกลางวันที่ภัตตาคารจีนที่เมือง
ยะโฮร์ เวลาประมาณบ่ายโมงทุกคนต้องขนของลง
จากรถเพื่อผ่านด่าน การเข้าสิงคโปร์จะเข้มงวด
มาก บุหรี่เข้าได้คนละ 1 ซอง เท่านั้น ที่สิงคโปร์
บุหรี่จะตกซองละ 200 กว่าบาท ผมพกตุนมา 4
ซองต้องฝากลูกศิษย์คนละซอง “จารย์ขา หนูไม่
ดูดบุหรี่ เจ้าหน้าที่เค้าจะรู้และจับหนูมั้ยเนี่ย”
เสียงเว้าวอนลูกศิษย์สาว “ไม่เป็นราย เค้าจะมา
พิสูจน์ขอดมปากแกเอง” ผมตอบแบบมึนๆ “จิง
ดิจารย์... หนูกัวโดนจับนะเนี่ย” เธอยังไม่เลิก “โง่
นี่! จะบ้าเหรอ อย่างดีเค้าก็เอาทิ้งก้อหมดเรื่อง...
อย่าซีเครียดจ้า” “จารย์ก้อ” หมากฝรั่งก็ตัวร้าย
ห้ามนำเข้าเด็ดขาด... ทิ้งอย่างเดียว ว้า! หมด
เนื้อที่แล้ว เอาไว้อ่านต่อฉบับหน้าแล้วกันนะ
คร๊าบบบ
News
ข่าว
วิทยาลัยดนตรีและศูนย์ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต ขอเชิญชมการประกวดวงดนตรีสากล “RANGSIT MUSIC
COMPETITION 2009 (ครั้งที่ 4)” ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รอบรองชนะเลิศ ในวันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม 2552
และรอบชิงชนะเลิศในวันศุกร์ที่ 22 มกราคม 2553 ณ ห้องประชุมใหญ่ 1-301 อาคารอาทิตย์ อุไรรัตน์ (อาคาร 1) มหาวิทยาลัยรังสิต
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อาจารย์สานิตย์ แสงขาม โทร. 08-6777-5576 หรือ วิทยาลัยดนตรี มหาวิทยาลัย
รังสิต โทร. 0-2997-2200 ต่อ 3209, 3210
11

12
Point of view
[อิสราภรณ์ ทองเพียรพงษ์]
นายถาวร พรชัยวรนนท์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4
สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ
คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ
ขยันวันนี้ให้พ่อสบาย
นานาทัศนะ
เด็กรุ่นใหม่ทำอะไรเพื่อพ่อ?
นางสาวอาภารัตน์ รักษาสีมันต์
นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาการจัดการธุรกิจด้านการบิน
คณะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการ
รักพ่อ ทำดีทุกวันไม่ใช่ทำเฉพาะวันพ่อค่ะ
นางสาวเชาวนี อยู่รอต
นักศึกษาชั้นปีที่ 3
คณะการแพทย์แผนตะวันออก
วันพ่อเป็นวันที่สำคัญมากวัน
หนึ่ง แต่เราก็ทำดีกับพ่อทุกๆ
วันอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมี
ของขวัญแค่ทำตัวเราให้เป็น
คนดีก็พอ
5 ธันวาคม ของทุกๆ ปี
เป็นวันสำคัญอีกหนึ่งวันของคนไทย
ทั่วประเทศ ซึ่งแต่ละคนก็มี
สัญลักษณ์ที่สื่อถึงความรักที่มีต่อ
พ่อแตกต่างกัน เราลองมาดูกันว่า
เด็กรุ่นใหม่เขาเตรียมจะทำอะไร
เพื่อพ่อ ในวันพ่อปีนี้กันบ้าง
นางสาวสุทธิลักษณ์ คชเสนี
นักศึกษาชั้นปีที่ 4
คณะเทคนิคการแพทย์
ในวันพ่อ พ่อคงไม่ต้องการ
อะไรจากเราไปมากกว่าการที่
ลูกเป็นคนดี และทำหน้าที่ของ
ตัวเองให้ดีที่สุด โดยเฉพาะ
อย่างยิ่งหน้าที่ของการเป็นลูก
นางสาววรรจสา เพ็ชรส่ง นักศึกษาชั้นปีที่ 3
สาขาวิชาการจัดการธุรกิจด้านการบิน
คณะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการ
ตั้งใจเรียน กราบเท้าพ่อ พ่อจะภูมิใจในตัวเรา
นางสาวพัชรี อินทพรม
นักศึกษาชั้นปีที่ 1
คณะพยาบาลศาสตร์
วันพ่อเป็นวันสำคัญมากวันหนึ่ง
ไม่ต้องมีของขวัญ แต่ทุกๆ วัน
ทำดีเพื่อพ่อค่ะ
นางสาวพลอยไพลิน นาคมินทร์
นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาการประชาสัมพันธ์
คณะนิเทศศาสตร์
จะตั้งใจเรียนให้จบเพื่อพ่อจะได้ภูมิใจค่ะ
Scoop
[ปิยาภรณ์ พินยา] สกู๊ป
กลับมาอีกครั้งกับ “โครงการแนะแนว
สัมพันธ์” ครั้งที่ 13 ของมหาวิทยาลัยรังสิต
โดยการนำทีมอาจารย์แนะแนวจากโรงเรียน
มัธยมศึกษาทั่วประเทศ 38 คน ร่วมเดินทางชม
ความงามและกลิ่นอายของศิลปวัฒนธรรมของ
เมืองเวียงจันทน์ และ จ.หนองคาย การเดินทาง
ครั้งนี้มีทั้งความสนุกและความประทับใจควบคู่
โครงการแนะแนวสัมพันธ์ ครั้งที่ 13
กันไปของคณะอาจารย์แนะแนวและทีมงาน
มหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งได้รับเกียรติจากคณาจารย์
มหาวิทยาลัยรังสิตหลายท่านร่วมเดินทาง
ช่วงเช้าก่อนการเดินทาง เริ่มจาก
การกล่าวต้อนรับอาจารย์แนะแนวอย่างเป็น
กันเองของ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดี
มหาวิทยาลัยรังสิต พร้อมมอบประกาศนียบัตร
และของที่ระลึกจากมหาวิทยาลัยรังสิต ต่อด้วย
การเยี่ยมชมอาคารรังสิตประยูรศักดิ์ ซึ่งเป็น
อาคารเรียนใหม่ของคณะทันตแพทยศาสตร์
อาจารย์หลายท่านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
มหาวิทยาลัยรังสิตน่าเรียน ด้วยความหลากหลาย
ของคณะที่มีให้เลือกมากมาย อาคารเรียนและ
อุปกรณ์ที่ครบครันทันสมัย บวกกับความพร้อม
ของคณาจารย์ผู้สอน หลังจากนั้นได้ไปเยี่ยมชม
โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรังสิต โดยได้รับ
การต้อนรับที่อบอุ่นจากโรงเรียนสาธิตฯ หลัง
จากเสร็จสิ้นกิจกรรมต่างๆ แล้ว คณะอาจารย์
แนะแนวทั้งหมดได้ร่วมเดินทางไปยังสถานี
รถไฟหัวลำโพง ซึ่งเดินทางโดยรถไฟตู้นอนปรับ
อากาศ
กิจกรรมแรกเมื่อไปถึง จ.หนองคาย
เราเริ่มเดินทางโดยรถบัสของประเทศลาว
ขนาดย่อม ไปยังประเทศจุดหมาย เพื่อนำ
สัมภาระไปเก็บที่โรงแรมลาวพลาซ่า หนึ่งใน
โรงแรมที่ดีที่สุดในเวียงจันทน์ ก่อนที่จะออกเดิน
ทางกันต่อไป จากนั้นจึงไปสักการะศาลเจ้าแม่
หลักเมือง กราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ
ชมความงามของศิลปะแบบลาวผสมผสานกับ
(จากซ้าย)
อาจารย์วัฒนกิจ สิทธิสถิตอังกูร
โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
อาจารย์เมทนี โอสถาน
โรงเรียนสตูลวิทยา
อาจารย์บุญฤทธิ์ นาคนวล
โรงเรียนชะอวดวิทยาคาร
ฝรั่งเศสที่ประตูชัย ชมหอพระแก้ววัดหลวง
ประจำราชวงศ์ของลาว และที่ขาดไม่ได้คือการ
ถ่ายรูปที่มีฉากหลังเป็นประตูชัยเรียกว่าเป็นมุม
ยอดฮิตกันเลยทีเดียว หลังจากนั้นได้เดินทางไป
รับประทานอาหารค่ำพร้อมชมบรรยากาศยาม
ค่ำคืนกันที่สนามบินนครเวียงจันทน์
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากรับประทาน
อาหารเช้าที่โรงแรมลาวพลาซ่า ครูแนะแนวได้
ฟังการสัมมนาในหัวข้อ “แนะอย่างไรได้ชื่อว่า
แนะแนว” โดยอาจารย์อรรจน์ สีหะอำไพ
ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาต่อเนื่อง มหาวิทยาลัย
รังสิต ที่เรียกเสียงฮาพร้อมสอดแทรกความรู้ให้
แก่อาจารย์แนะแนวทุกท่าน หลังจากจบสัมมนา
ได้เดินทางไปสักการะหลวงพ่อพระใส พระพุทธรูป
คู่บ้านคู่เมืองชาวหนองคายที่วัดโพธิ์ชัย ชม
สถาปัตยกรรมประยุกต์ และรับประทานอาหาร
กลางวันที่ร้านแดงแหนมเนือง ร้านอาหารขึ้นชื่อ
ใน จ.หนองคาย และแวะชอปปิงเลือกซื้อของที่
ระลึกจากกลุ่มประเทศอินโดจีนที่ตลาดท่าเสด็จ
และเตรียมเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
อาจารย์วัฒนกิจ สิทธิสถิตอังกูร
จากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย กล่าวถึง
การเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ว่า การจัดแนะแนว
สัมพันธ์ในครั้งนี้ ได้ทั้งความรู้และเพื่อนไป
พร้อมๆ กัน ในช่วงการสัมมนาของอาจารย์
อรรจน์ ได้ความรู้ค่อนข้างเยอะ และอีกช่วง
หนึ่งที่ได้ความรู้คือ การได้ไปเยี่ยมชมมหาวิทยาลัย
รังสิต ทำให้เราได้รับข้อมูลที่เป็นปัจจุบันมาก
ขึ้นกว่าที่เราเคยรู้มา
ด้าน อาจารย์เมทนี โอสถาน
สตูลวิทยา จ.สตูล กล่าวว่า ความรู้ที่ได้รับใน
ครั้งนี้ เป็นความรู้ใหม่ที่แปลกออกไปจากที่เรา
เคยได้รับ ในช่วงการสัมมนา อาจารย์อรรจน์
ได้พูดสะท้อนในตัวเด็กให้เราได้เข้าใจ เราได้
เพียงแต่สอนไป แต่อาจารย์ได้สะท้อนกลับมา
ให้เราได้รู้ว่าเด็กรู้สึกอย่างไร ซึ่งจุดนี้เราไม่เคย
ทราบมาก่อน อาจารย์ วิทยากร และบุคลากร
มหาวิทยาลัยรังสิต ให้ความช่วยเหลือและเป็น
กันเอง ซึ่งดีใจมากเพราะตนเองเป็นมุสลิม เป็น
คนส่วนน้อย แต่ทางมหาวิทยาลัยก็ให้เกียรติ
และดูแลเป็นอย่างดี
“ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เข้าร่วมโครงการฯ
ประทับใจในโครงการนี้ 100% ส่วนหนึ่งของ
ความรู้ที่ได้จากการสัมมนาจะนำไปใช้ในการ
แนะแนวให้แก่นักเรียน เพื่อให้นักเรียนเรียนอย่างมี
เป้าหมายและมีความสุข” อาจารย์บุญฤทธิ์ นาคนวล
จากโรงเรียนชะอวดวิทยาคาร จ.นครศรีธรรมราช
ขวัญใจประจำรุ่น กล่าว
อาจารย์อรรจน์ สีหะอำไพ
ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาต่อเนื่อง
มหาวิทยาลัยรังสิต บรรยายในหัวข้อ
“แนะอย่างไรได้ชื่อว่า แนะแนว”
13

14
Show off
[กวิตา เรืองไทย] โชว์ ออฟ
หนุ่มรักภาษาไทยสู่นักแข่งรถมืออาชีพ
ชีวิตวัยรุ่นนักศึกษาเป็นช่วงของการค้นหาสิ่งที่ตนเองรัก ไหนจะมีทั้งเรื่องเรียน สอบ และกิจกรรม แต่
หลายคนจะมีกิจกรรมหลังเลิกเรียนที่รักเป็นชีวิตจิตใจ จนกลายเป็นงานและเป็นอาชีพได้ เช่นเดียวกับ นาย
ภาสกร แย้มเกตุหอม หรือ ต๋อง นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาภาษาไทย คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
นักแข่งรถมืออาชีพ หนุ่มผู้ชื่นชอบกีฬาความเร็ว
สำหรับการเข้าสู่วงการแข่งรถ ต๋องเล่าว่า เพราะหนึ่งได้แรงบันดาลใจจากพ่อชอบรถ สองชอบแข่งรถและ
แต่งรถ ครั้งแรกที่เข้าวงการแข่งรถ เริ่มตั้งแต่ลงแข่งรถ Go Kart เมื่อตอนอายุ 14 ปี ซึ่งพอโตมา พ่อเห็นว่าน่า
จะแข่งรถได้ จึงพาเข้าในวงการแข่งรถตั้งแต่อยู่มัธยมศึกษาปีที่ 4
“ตั้งแต่ ม.4 ที่พ่อผลักดันให้เข้าสู่วงการแข่งรถนั้น ผมก็ตั้งใจฝึกฝน ฝึกปรือฝีมือเรื่อยมา จนลงแข่งสนาม
แรกของชีวิตคือ Toyota Vios One Make Race Class C เมื่อปี 2005 โดยแรกเริ่มลงแข่งในรุ่นมือสมัครเล่น ซึ่ง
ก็สามารถคว้าแชมป์ประเทศไทยมาได้สำเร็จ ดีใจมากๆ หลังจากนั้นก็ลงแข่งรถทุกปี โดยในปี 2006 ได้คะแนน
รวมลำดับที่ 3 ในรายการ Toyota Yaris One Make Race Class B ปีต่อมา 2007 ได้แชมป์ประเทศไทยอีก ใน
รายการ Supercar รุ่น Super Radial Junior Class C โดยใช้รถยนต์ Honda Civic EK9 ลงแข่งในตอนนั้น หลัง
จากนั้นในปี 2008 ก็ลงแข่งขันในรายการ Honda Civic One Make Race ได้คะแนนรวมลำดับที่ 3 ซึ่งเป็น
รายการที่ได้เห็นนักแข่งฝีมือระดับแนวหน้าของประเทศ ประลองความเร็วกันด้วยฝีมือเพียวๆ และล่าสุดในปี
2009 ผมลงแข่งในรายการ Honda Civic One Make Race 2009 Class B ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการแข่งขันสนาม
สุดท้ายในวันที่ 19 ธันวาคม 2552 ที่ จ.เชียงใหม่”
ต๋อง เล่าว่า การแข่งขันในรูปแบบ One Make Race เน้นที่รถแข่งทุกคันต้องมีการตกแต่งที่เหมือนกัน
การโมดิฟายเครื่องยนต์ต้องเท่ากัน ตามกฎกติกาของผู้จัดเท่านั้น โดยวัดกันที่ฝีมือคนขับแบบล้วนๆ ซึ่งต๋องก้าว
มาสู่รุ่น Class B ได้นั้นเขาจะต้องแข่งชนะคว้าแชมป์ในสนาม Class C
มาแล้ว 2 ครั้ง ต๋องย้ำว่า การแข่งรถนั้นไม่ได้ต้องการแค่ทักษะและ
เทคนิคส่วนตัวในการขับรถเท่านั้น แต่ต้องมีสมาธิ มีสติอยู่ตลอดเวลา
และสิ่งสำคัญคือ การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ การเตรียมร่างกาย ออก
กำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งก่อนการแข่งขันทุกครั้ง นักแข่งรถ
ทุกคนจะซ้อมขับรถ เพื่อลองสนามก่อน เหนือสิ่งอื่นใด “น้ำใจนักกีฬา”
สำคัญที่สุด เพราะกีฬาต้องมีการให้อภัยกัน ส่วนอุบัติเหตุจะไม่หนัก
เพราะนักแข่งทุกคนจะมีระบบและอุปกรณ์เซฟตี้ที่ดีได้มาตรฐาน
ต๋องฝากถึงน้องๆ ที่ชอบแข่งรถตามถนนว่า อยากให้มาโชว์ฝีมือ
และความสามารถในสนามแข่ง เพราะปลอดภัยและไม่ผิดกฎหมาย
ในอนาคต เราอาจจะได้เห็นต๋องยืนบนแท่นรับรางวัลในการแข่งขัน
ต่างประเทศก็เป็นได้
นายภาสกร แย้มเกตุหอม
นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาภาษาไทย
คณะศิลปศาสตร์
News ขอเชิญร่วมโครงการ “เรื่องดีๆ 4 ปีรังสิต”
ข่าว
ฝ่ายพัฒนาสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ขอเชิญคณะและหน่วยงานต่างๆ ที่มีความประสงค์ในการเข้าจัด
กิจกรรมหรือโครงการร่วมกับฝ่ายพัฒนาสังคม อาทิ การเสวนาในหัวข้อต่างๆ หรือการชมภาพยนตร์เพื่อการเรียน
การสอน เข้าร่วมโครงการเรื่องดีๆ 4 ปีรังสิต
สำหรับโครงการดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อปลูกฝังโลกทัศน์ สร้างแรงบันดาลใจ และสร้างแรงจูงใจในการค้นหา
คุณค่าของชีวิตแก่นักศึกษา ด้วยการสร้างและขยายประสบการณ์การอ่าน การดู และการฟัง ผ่านงานศิลปะและ
วรรณกรรมอันหลากหลาย โดยทางมหาวิทยาลัยกำหนดประเภทและเนื้อหาของงานเป็นมาตรฐานขั้นต้น เพื่อให้
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปส่งเสริม และสนับสนุนให้เกิดการศึกษาและเสวนาด้วยรูปแบบและวิธีการอันสมควร
ทั้งนี้ คณะและหน่วยงานที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายพัฒนาสังคม
มหาวิทยาลัยรังสิต โทร. 0-2997-2200-30 ต่อ 1686, 2556 หรือ อาจารย์สานิตย์ แสงขาม โทร. 08-6777-5576
News
ข่าว
สาขาวิชาอุปกรณ์ชีวการแพทย์ ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์
และชมรมเครื่องมือแพทย์ RSU เพื่อสังคม จัดกิจกรรมบริการวิชาการทาง
ด้านเครื่องมือแพทย์ ให้แก่สถานีอนามัยบึงคำพร้อย จ.ปทุมธานี มุ่งเน้น
การพัฒนามาตรฐานทางด้านอุปกรณ์ชีวการแพทย์และงานด้านวิศวกรรม
โรงพยาบาล
รศ.นันทชัย ทองแป้น หัวหน้าสาขาวิชาอุปกรณ์ชีวการแพทย์
ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า สาขาวิชา
อุปกรณ์ชีวการแพทย์ ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ และชมรมเครื่องมือ
แพทย์ RSU เพื่อสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ได้จัดกิจกรรมบริการวิชาการ
ทางด้านเครื่องมือแพทย์ “อุปกรณ์การแพทย์สัญจร” ให้แก่สถานีอนามัย
ม.รังสิต จัด “อุปกรณ์การแพทย์สัญจร”
ให้บริการวิชาการแก่สังคม
เน้นพัฒนามาตรฐานด้านอุปกรณ์ชีวการแพทย์และวิศวกรรม รพ.
บึงคำพร้อย จ.ปทุมธานี โดยมีการจัดเป็นประจำในทุกๆ ปี เพื่อให้
ความรู้เกี่ยวกับมาตรฐานเครื่องมือแพทย์และวิศวกรรมโรงพยาบาล
ช่วยตรวจเช็ค บำรุงรักษา และทำการสอบเทียบอุปกรณ์การแพทย์
งานวิศวกรรมโรงพยาบาลที่เกี่ยวข้อง โดยมุ่งหวังในการให้บริการ
ความรู้ และพัฒนามาตรฐานทางด้านอุปกรณ์ชีวการแพทย์ และ
งานทางด้านวิศวกรรมโรงพยาบาล ให้แก่สถานีอนามัยใน จ.ปทุมธานี
เพื่อให้มีความพร้อมทางด้านเครื่องมือแพทย์สำหรับให้บริการกับ
ประชาชนที่ด้อยโอกาสในชุมชน รวมทั้งเป็นการทดสอบการฝึกภาค
ปฏิบัติของนักศึกษาสาขาวิชาอุปกรณ์ชีวการแพทย์ชั้นปีที่ 3 ก่อนจะ
เรียนวิชาฝึกงานอุปกรณ์ชีวการแพทย์ในภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา
2552 อีกทางหนึ่งด้วย
“สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการประกอบด้วยนักศึกษาสาขาวิชา
อุปกรณ์ชีวการแพทย์ สมาชิกชมรมอุปกรณ์การแพทย์ รวมทั้งหมด
ประมาณ 30 คน ภายใต้การกำกับดูแลของคณาจารย์สาขาวิชา
อุปกรณ์ชีวการแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยการดำเนินกิจกรรมดังกล่าว
ได้รับการชื่นชมจากหัวหน้าสถานีอนามัย รวมทั้งบุคลากรของอนามัย
เป็นอย่างมาก และต้องการให้มีโครงการในลักษณะดังกล่าวอย่าง
ต่อเนื่องทุกๆ ปี เนื่องจากทำให้ระบบเครื่องมือทางการแพทย์รวมทั้ง
งานวิศวกรรมโรงพยาบาลมีมาตรฐาน และมีความพร้อมในการใช้
งานมากขึ้น รวมทั้งบุคลากรของโรงพยาบาลได้รับข้อมูลความรู้ใน
ด้านการจัดการเครื่องมือและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ถูกต้อง
มากขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการให้มาตรฐานการบริการทางด้านการดูแลรักษา
สุขภาพของประชาชนสูงขึ้นตามมา ในส่วนของนักศึกษาสาขาวิชา
อุปกรณ์ชีวการแพทย์ ก็จะได้รับประสบการณ์ตรงจากการเข้าร่วม
โครงการฯ ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งในการเตรียมความพร้อมให้แก่
นักศึกษาก่อนที่จะจบเป็นบัณฑิตทางด้านนี้ต่อไป” หัวหน้าสาขาวิชา
อุปกรณ์ชีวการแพทย์ กล่าว
การให้บริการวิชาการทางด้านเครื่องมือแพทย์ของนักศึกษา
15

16
News
ข่าว
นักศึกษาชาวจีนจากมหาวิทยาลัยครูกวางสี ในโครงการศึกษา
ต่อเนื่อง 2+2 รุ่น 3 และ 1+3 รุ่น 1 โดยความร่วมมือทางวิชาการ
ระหว่างสถาบันภาษาและเอเชียตะวันออกศึกษา
คณะศิลปศาสตร์
และคณะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการ มหาวิทยาลัยรังสิต
และมหาวิทยาลัยครูกวางสี เมืองกุ้ยหลิน สาธารณรัฐประชาชนจีน
หวังใช้ภาษาไทยเพื่อต่อยอดการทำงานในอนาคต
นางสาวเทียมจันทร์ หรือ ทะเล นักศึกษาชาวจีนจาก
มหาวิทยาลัยครูกวางสี กล่าวว่า ตนเป็นนักศึกษาโครงการศึกษาต่อเนื่อง
2+2 รุ่นที่ 3 โดยเลือกเรียนสาขาวิชาภาษาไทย เพราะพ่อและแม่เห็น
ความสำคัญของภาษาไทย จึงส่งตนมาเรียนที่มหาวิทยาลัยครูกวางสี
นางสาวเทียมจันทร์ (ทะเล)
นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย
นศ. จีน ปลื้มเมืองไทย คณะศิลปศาสตร์
หวังนำความรู้และภาษาไทยต่อยอดในอนาคต
ตนคิดว่าภาษาไทยมีบทบาทมากในประเทศจีน
เพราะคนไทยไปเที่ยวและทำธุรกิจที่ประเทศจีนเยอะ
ดังนั้น ในอนาคตภาษาไทยจะต้องมีบทบาทสำคัญ
เป็นอย่างมาก เมื่อตอนที่เรียนภาษาไทยที่จีน 2 ปีแรก
นั้น มีอาจารย์รัชดา ลาภใหญ่ อาจารย์จากสาขาวิชา
ภาษาไทย คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ไป
สอนภาษาไทยพื้นฐานให้แก่พวกเรา ทำให้ได้รู้เกี่ยวกับ
ภาษา วัฒนธรรม ประเพณี และกิจกรรมอื่นๆ เกี่ยวกับ
ประเทศไทยมากมาย เช่น งานแนะนำวิชาภาษาไทย
งานแสดงแบบเครื่องแต่งกายไทย งานวัน ลอยกระทง
เป็นต้น และเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ก็ได้เดินทาง
มาถึงประเทศไทย พร้อมกับเพื่อนๆ ชาวจีนอีกกว่า 60
คน ซึ่งเป็นนักศึกษาในสาขาวิชาภาษาไทย 24 คน
ส่วนตัวชอบการเรียนในห้อง เพราะสนุกสนานและ
อาจารย์ผู้สอนใจดี ได้เรียนกับอาจารย์ประจำสาขา
วิชาภาษาไทยทุกวิชาเลย ทำให้ได้ความรู้ ภาษาไทย
ที่ถูกต้องและครบถ้วนจริงๆ นอกจากนี้ อาจารย์และ
เพื่อนๆ ยังช่วยกันตั้งชื่อภาษาไทยให้ ส่วนชื่อเล่นเป็น
ชื่อของตนเองในภาษาจีน
“ตอนนี้อยากมีเพื่อนคนไทยจะได้ฝึกภาษาไทย
และคิดว่าจะร่วมกิจกรรมของคณะฯ ให้มากจะได้รู้จัก
เพื่อนคนไทยค่ะ สำหรับวันหยุดจะไปเที่ยว ซื้อของที่
ห้างสรรพสินค้า จึงต้องใช้ภาษาไทยในการถามทาง
ซื้อของ และสั่งอาหาร เป็นต้น ค่าครองชีพที่ประเทศ
ไทยถูกกว่าที่จีนมาก เช่น อาหาร น้ำดื่ม จึงไม่รู้สึก
ลำบากเลยที่ได้มาเรียนที่ประเทศไทย ส่วนอาหารไทย
ที่ชอบมากคือ ข้าวผัดสับปะรดและข้าวมันไก่”
นางสาวเทียมจันทร์ กล่าวต่อ
นายกิตติพงษ์ หรือ นัท กล่าวว่า ได้เข้าร่วม
โครงการศึกษาต่อเนื่อง 1+3 โดยเรียนในสาขาวิชา
นายกิตติพงษ์ (นัท)
นักศึกษาสาขาวิชาการท่องเที่ยว
คณะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการ
การท่องเที่ยว คณะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและ
การบริการ ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่เปิดโครงการแบบ 1+3
คือเรียนที่มหาวิทยาลัยครูกวางสี 1 ปีแล้วมาเรียนที่
มหาวิทยาลัยรังสิตต่ออีก 3 ปี แต่จะได้รับปริญญาบัตร
ของมหาวิทยาลัยรังสิตเท่านั้น เหตุผลที่เลือกเรียนที่
มหาวิทยาลัยรังสิต เพราะเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง
รวมทั้งดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัย
รังสิต ด้วย ประกอบกับสนใจด้านการท่องเที่ยวใน
ประเทศไทย เพราะประเทศไทยมีชื่อเสียงด้านการ
ท่องเที่ยวมาก และมีพี่ชายเรียนโครงการศึกษาต่อเนื่อง
2+2 ในสาขาวิชานี้ที่มหาวิทยาลัยรังสิตเช่นกัน ซึ่ง
กำลังจะเรียนจบในปีการศึกษา 2552 นี้
“ผมได้รับเลือกจากเพื่อนในห้องให้เป็นหัวหน้าชั้น
จึงต้องช่วยงานอาจารย์ในการประสานงานระหว่าง
อาจารย์และเพื่อนๆ คนอื่นในห้องเรียน เกี่ยวกับเรื่อง
งานบ้าง หรือบางทีก็จะมีทริปไปทัศนศึกษาที่ต่าง
จังหวัดด้วย สำหรับการเรียนก็ไม่มีปัญหาอะไรมาก มี
อาจารย์ช่วยให้คำแนะนำ ถ้าไม่เข้าใจคำศัพท์ หรือ
พูดผิด อาจารย์ก็จะคอยแก้ไขให้ แต่ผมก็จะเปิด
พจนานุกรมไทยตรวจความถูกต้องด้วย ปัจจุบันพัก
อยู่ที่หอพักในมหาวิทยาลัย ซึ่งปลอดภัยและสะดวก
สบาย เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ส่วน
ตัวชอบเมืองไทยมาก รู้สึกว่าคนไทยใจดี เช่น เวลา
หลงทาง ผมก็จะได้รับความช่วยเหลือเต็มที่ ใน
อนาคตแน่นอนว่าอยากอยู่ที่เมืองไทยต่อไป เพราะ
อยากทำธุรกิจที่นี่ แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะทำด้านไหนดี
ตอนนี้ก็เรียนให้ดีที่สุดก่อนครับ” นายกิตติพงษ์ กล่าว
ทิ้งท้าย
Health tip
[อ.ภก.ธเนศ เฟื่องฟู] เกร็ดสุขภาพ
ตาแดงจากการติดเชื้อ
สวัสดีก่อนสิ้นปีครับ และ
ขอแสดงความยินดีกับบัณฑิตทุก
ท่านที่เข้าพิธีรับปริญญาในปีนี้
ช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนที่
ผ่านมา ผมทำงานในโรงพยาบาล
และได้สังเกตว่ามีผู้ป่วยตาแดงมา
พบแพทย์มากขึ้น แสดงว่าเป็นการ
เข้าสู่ฤดูกาลของตาแดงแล้ว ก็เลย
เกิดความเป็นห่วงทุกท่าน จึงขอ
นำเรื่องตาแดงมาเล่าสู่กันฟัง คือ
“ตาแดงจากการติดเชื้อ”
Verbal language
[อ.วรวรรณ เฟื่องขจรศักดิ์ หัวหน้าสาขาวิชาภาษาญี่ปุ่น คณะศิลปศาสตร์]
เรามารู้จักคำศัพท์เทศกาลปีใหม่
เป็นภาษาญี่ปุ่นกันเถอะ
Shin nen akemashite Omedeto
gozaimasu! “สวัสดีปีใหม่”
หรือ พูดให้สั้นอีกนิดว่า Akemashite
Omedeto! ซึ่งก็มีความหมายอย่างเดียวกัน โดย
ทั้ง 2 คำนี้มักจะพูดหลังจากที่เข้าปีใหม่ หรือ เริ่ม
วันที่ 1 มกราคม แล้วค่ะ
ในกรณีถ้าเป็นเพื่อนร่วมงาน หรือผู้ที่ต้อง
ติดต่อไปมาหาสู่กัน ก็อาจจะต่อท้ายด้วยคำว่า
Kotoshi mo yoroshiku onegai shimasu ซึ่ง
หมายความว่า ปีนี้ (kotoshi) ก็ (mo) ขอความ
กรุณาด้วยนะคะ/ ครับ (yoroshiku onegai
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
“ตาแดง” เกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งระคายเคืองจากฝุ่น ลม หรือการแพ้ แต่ที่สำคัญคือ เกิด
จากการติดเชื้อ ซึ่งมี 2 ชนิดใหญ่ๆ คือ เชื้อแบคทีเรียและไวรัส
ตาแดงทั้งจากแบคทีเรียและไวรัสเหมือนกันตรงที่ ผู้ป่วยจะมีอาการตาแดง มักเริ่มจากข้างเดียว
แล้วลามไปอีกข้างหนึ่งได้ มีอาการคันหรือเคืองตามาก มีน้ำตามาก อาจมีอาการปวดตาด้วย
ความแตกต่างอยู่ที่ หากติดเชื้อแบคทีเรีย จะมีขี้ตาเยอะมาก โดยขี้ตาจะมีสีเหลืองเขียว หรือ
เขียว ตื่นนอนมาอาจลืมตาแทบไม่ขึ้นเลย ส่วนเชื้อไวรัสขี้ตามักจะน้อยกว่า แต่ก็ถือว่ามากกว่าปกติ
และขี้ตามักจะสีปกติ หรือเหนียว
ทำอย่างไรเมื่อตาแดงจากการติดเชื้อ
• รับประทานยาพาราเซตามอล หากมีอาการปวด
• ไม่ควรใช้ยาหยอดตาที่ผสมยาสเตอรอยด์ เพราะจะทำให้โรคลุกลามมากขึ้น
• ยาหยอดตาที่ใช้ได้คือ ยาปฏิชีวนะ และยาหยอดลดอาการระคายเคืองตา
• ไม่ใช้ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ร่วมกับผู้อื่น เพราะทำให้ติดต่อได้
• พยายามอย่าขยี้ตา หลีกเลี่ยงการสัมผัสฝุ่น ลม แดด ควรใส่แว่นตาป้องกัน
• หากมีอาการมากกว่าที่กล่าวไว้ข้างต้น ควรพบแพทย์ เพื่อตรวจให้ละเอียด
• หากมีการใช้ยารักษาแล้ว ควรรอผลการรักษาประมาณ 3-5 วัน อาการจะดีขึ้น ถ้าไม่ดีขึ้น
ควรกลับไปพบแพทย์ท่านเดิม อย่าเปลี่ยนแพทย์โดยไม่จำเป็น
• ยาหยอดตาที่ใช้ ไม่ควรให้ผู้อื่นใช้ร่วมด้วย และหลังจากเปิดใช้แล้ว ยาจะมีอายุแค่ 1 เดือน
หวังว่าทุกท่านจะได้ความรู้และประโยชน์กันพอสมควรนะครับ “ดวงตาเป็นหน้าต่างของดวงใจ”
ดูแลรักษาไว้ ให้ดีนะครับ... ขอให้ทุกท่านสุขภาพดี สวัสดีครับ
shimasu) แต่ถ้าเป็นเพื่อนกันหรือมีความสนิทสนมกัน ก็อาจพูดสั้นๆ
คุยเฟื่องเรื่องภาษา ว่า Kotoshi mo yoroshiku ne ก็ได้ ซึ่งมีความหมายเหมือนกัน แต่
เป็นการใช้ภาษาที่มีระดับความสุภาพลดลง
ในช่วงปีใหม่ของญี่ปุ่นจะมีคำที่เรียกวันต่างๆ แบ่งอย่างชัดเจน
เช่น วันสุดท้ายของปี 31 ธันวาคม จะเรียกวันนี้ว่า “โอมิโซะกะ”
Omisoka( 大 晦 日 )หมายถึงวันสิ้นปี ถัดมาวันแรกของปี หรือวันที่
1 มกราคม จะเรียกวันนี้ว่า “กังตัน” Gantan( 元 旦 )ขณะที่ช่วงป
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
ีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1-7 มกราคม จะเรียกโดยรวมว่า “โอะโชงะสึ” (O-
Shougatsu) (お 正 月 )
นอกจากนี้ ชาวญี่ปุ่นมีธรรมเนียมปฏิบัติในช่วงปีใหม่ที่น่าสนใจ
และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น ในวันสิ้นปี หรือ Omisoka( 大
晦 日 ) ช
าวญี่ปุ่นมักจะรับประทาน “โซบะ” กัน เพราะมีความเชื่อว่าจะได้มีชีวิต
ที่ยืนยาวเหมือนเส้นโซบะ นอกจากนี้ บริเวณหน้าบ้านก็จะประดับด้วย
“คะโดะมัตสึ”
(Kadomatsu
門 松 )
ซึ่งจะวางไว้เป็น คู่ ทำมาจากไม้ไผ่และสน โดยจะประดับไว้ตั้งแต่ช่วง
หลังคริสต์มาสจนถึงวันที่ 7 มกราคม เพื่อต้อนรับดวงวิญญาณบรรพ
บุรุษ ที่เชื่อว่าจะกลับมาเยี่ยมเยียนลูกหลานในช่วงนี้ และสิ่งที่ขาดไม่ได้
เลยคือ การไปไหว้ศาลเจ้าหรือวัดเป็นครั้งแรกของปี โดยจะเรียกว่า
“Hatsumode” ( 初 詣 ) โดยในแต่ละปีมีจำนวนชาวญี่ปุ่นที
่เดินทางไปสักการะศาลเจ้า ในช่วงปีใหม่เป็นจำนวนมาก ซึ่งก็คล้ายกับ
17

18
Good old day
[กวิตา เรืองไทย]
กรรมการตัดสินเชียร์ลีดดิ้งที่ประเทศรัสเซีย
บ้านเคยอยู่ อู่เคยนอน
ศิษย์เก่าคณะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและ
การบริการ มหาวิทยาลัยรังสิต และผู้ช่วยเลขาธิการ
สหพันธ์เชียร์ลีดดิ้งประจำประเทศไทย ฝ่ายต่างประเทศ
ได้รับการเชิญจากสหพันธ์กีฬาเชียร์ลีดดิ้งนานาชาติ
เข้าร่วมเป็นกรรมการตัดสินในการแข่งขัน “The 5 th
Cheerleading World Championships 2009” ที่จะจัด
ขึ้นระหว่างวันที่ 28-29 พฤศจิกายน 2552 ณ เมืองเบร
เมน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
นายระภีพงษ์ อุปมา กล่าวว่า ตนเริ่มต้นจาก
การเป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยเข้าร่วมแข่งขันเชียร์ลีดเดอร์
ยูลีก จากนั้นก็เข้าร่วมทีมเชียร์ลีดดิ้งรุ่นแรกของ
มหาวิทยาลัย ลงเล่นเองจนจบมหาวิทยาลัยกระทั่งมา
เป็นผู้ช่วยฝึกสอน และได้มีโอกาสเข้าร่วมการอบรมกับ
สหพันธ์กีฬาเชียร์ ลีดดิ้งนานาชาติ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อ
พัฒนาองค์ความรู้และอบรมทฤษฎีให้เป็นขั้นตอน ซึ่ง
การเข้าร่วมการอบรมนั้น ผู้ที่เข้าร่วมได้จะต้องเป็น
สมาชิกของสหพันธ์ฯ ก่อน ดังนั้น จึงจัดตั้งสหพันธ์กีฬา
เชียร์ลีดดิ้งประจำประเทศไทยขึ้น โดยในปีแรกสหพันธ์
กีฬาเชียร์ลีดดิ้งนานาชาติ ได้เชิญตัวแทนของสหพันธ์
กีฬาเชียร์ลีดดิ้งประจำประเทศไทยเข้าร่วมการอบรม 3
คน เราจึงถือโอกาสนี้เข้าร่วมทดสอบ ซึ่งหลังจากผ่าน
การเข้าร่วมทดสอบแล้ว 1 ปี จึงจะสามารถเข้าร่วมการ
ทดสอบขั้นต่อไปได้ เหตุผลที่ต้องเว้นระยะห่างของการ
เข้าทดสอบนั้น เนื่องจากทางสหพันธ์ฯ ต้องการให้นำ
ความรู้ที่ได้รับมานั้นไปใช้ให้เกิดเป็นประโยชน์ และ
เข้าใจในสิ่งที่ได้รับจากการอบรมอย่างแม่นยำเสียก่อน
“สำหรับการอบรมในครั้งที่ 2 นั้น สามารถ
ผ่านการคัดเลือก และต้องกลับมาทำทีมเชียร์ลีดดิ้งอีก 1
ปี ซึ่งเลือกฝึกสอนให้แก่ทีมเชียร์ลีดดิ้งหญิงล้วนของ
ประเทศมาเลเซีย เมื่อครบ 1 ปี อีกครั้งจึงได้รับเชิญจาก
กรรมการตัดสินเชียร์ลีดดิ้งที่ประเทศญี่ปุ่น
หนึ่งเดียวคนไทย
กรรมการตัดสินกีฬาเชียร์ลีดดิ้งในเวทีโลก
สหพันธ์กีฬาเชียร์ลีดดิ้งนานาชาติให้เข้าร่วมการอบรม Cheerleading
Judge’s Seminar ที่ประเทศรัสเซีย ครั้งนั้นผ่านการทดสอบในส่วน
ของภาคปฏิบัติและได้รับคัดเลือกให้เป็นกรรมการผู้ตัดสินเบื้องต้น
(Prejudge) ซึ่งสามารถตัดสินในส่วนของนานาชาติได้แต่ยังไม่ผ่านการ
รับรองและได้รับใบประกาศเพราะยังไม่ผ่านการทดสอบทุกขั้นตอน
เมื่อปี 2551 ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสเข้าทดสอบการตัดสินอีกครั้ง จนผ่าน
การทดสอบภาคทฤษฎีในที่สุด” นายระภีพงษ์ กล่าว
“สำหรับหัวใจในการตัดสินเชียร์ลีดดิ้งนั้น เหนือสิ่งอื่นใด
กรรมการตัดสินจะต้องมีความแม่นยำและชัดเจนเนื่องจากกีฬาเชียร์ลีดดิ้ง
เป็นกีฬาที่ต้องตัดสิน ผู้เข้าแข่งขันพร้อมกันทั้งทีมในครั้งเดียว ดังนั้น
ความแม่นยำและความเป็นระบบในการให้คะแนนจึงจำเป็นอย่างมาก
ซึ่งการเป็นกรรมการฯ ที่ดีนั้นจำเป็นต้องมีความยุติธรรม มีความรอบรู้
และความแม่นยำ เพราะไม่เพียงการจดจำเกณฑ์อย่างแม่นยำเท่านั้น
แต่ผู้ที่เป็นกรรมการฯ ยังต้องหมั่นเรียนรู้ หมั่นคิด เพราะเทคนิคที่ใช้ใน
กีฬาชนิดนี้จะมีสิ่งแปลกใหม่ตลอดเวลา”
นายระภีพงษ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ล่าสุดตนในฐานะผู้ช่วย
เลขาธิการสหพันธ์เชียร์ลีดดิ้งประจำประเทศไทย ฝ่ายต่างประเทศได้รับ
การเชิญจากสหพันธ์เชียร์ลีดดิ้งนานาชาติ หรือ International
Federation of Cheerleading (IFC) เข้าร่วมเป็นกรรมการตัดสินใน
การแข่งขัน “The 5 th Cheerleading World Championships 2009”
ณ เมืองเบรเมน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ 28-29
พฤศจิกายน 2552 นอกจากนี้ สหพันธ์เชียร์ลีดดิ้งจะส่งทีมนักกีฬา
เชียร์ลีดดิ้งทีมชาติไทยตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันใน
ประเภทเชียร์ลีดดิ้งทีมผสมและประเภทต่อตัวกลุ่มทีมผสมด้วย ซึ่ง
ตลอดระยะเวลา 12 ปี ในการคลุกคลีกับกีฬาเชียร์ลีดดิ้งนั้น ได้สร้าง
ประสบการณ์และเรียนรู้ด้วยตนเองค่อนข้างมาก จึงถือเป็นความสำเร็จ
ที่รู้สึกภูมิใจมาก
On campus
[กนกกร ชูแก้ว] ล้อมรั้วกิจกรรม
รัฐวุฒิ นิวรณุสิต
กิจกรรมกีฬาเป็นกิจกรรมที่สร้างความสามัคคีและปลูกฝังน้ำใจนักกีฬา
แม้ในระดับอุดมศึกษาได้ให้ความสำคัญกับการแข่งขันกีฬา ซึ่งจัดหลายประเภท
หลายระดับอย่างต่อเนื่องตลอดปี และกีฬานัดสำคัญที่ทุกสถาบันอุดมศึกษาจากทุก
สังกัดกว่า 120 สถาบันให้ความสำคัญเข้าร่วมแข่งขัน คือ กีฬามหาวิทยาลัยแห่ง
ประเทศไทย ปีนี้นับเป็นครั้งที่ 37 โดยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นเจ้าภาพ และ
มหาวิทยาลัยรังสิตได้เข้าร่วมแข่งขันครั้งนี้ด้วย
อาจารย์จันทบุรี หิมเวช ผู้อำนวยการศูนย์กีฬาและสุขภาพ เปิดเผยว่า
มหาวิทยาลัยรังสิต ส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย
ครั้งนี้ กว่า 200 คน ใน 13 ประเภท เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล วอลเลย์บอล
นักกีฬารังสิตประกาศพร้อมเต็มร้อย...ขอแรงเชียร์
แข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย
เทนนิส เปตอง เทเบิลเทนนิส ว่ายน้ำ เทควันโด
กรีฑา กอล์ฟ ตะกร้อ ยูโด และแบดมินตัน
ซึ่งจัดแข่งขันรอบคัดเลือกระหว่างวันที่ 1-7
พฤศจิกายน 2552 ณ มหาวิทยาลัย
ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ในการแข่งขันปีที่แล้ว
ได้ 1 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 7 เหรียญ
ทองแดง นับเป็นลำดับที่ 28 จาก 117 สถาบัน
ทั้งนี้ ตั้งเป้าในปีนี้ให้ได้เหรียญรางวัลมากกว่าปี
ที่แล้ว ส่วนประเภททีมหวังเข้ารอบลึกๆ อย่าง
น้อย 8 ทีมสุดท้าย
“ขณะนี้นักกีฬาทุกทีมทุกประเภท
ทุ่มเทและขยันฝึกซ้อม เห็นได้จากผลการแข่งขัน
รอบคัดเลือกเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาทำได้ใน
ระดับดีมากเป็นที่หนึ่งของสายในหลายประเภท
ทั้งนี้ ขอกำลังใจจากผู้บริหาร บุคลากร และ
นักศึกษาร่วมเชียร์นักกีฬาถึงสนามซึ่งอยู่ใกล้
มหาวิทยาลัยของเรา” ผอ.ศูนย์กีฬาฯ กล่าว
นายรัฐวุฒิ นิวรณุสิต นักกีฬา
ฟุตบอล เปิดใจว่า ในทีมฟุตบอลทั้ง 50 คนได้
ร่วมฝึกซ้อมทุกวันไม่หยุดและเข้าร่วมแข่งขัน
หลายประเภทตลอดปี ทั้งดิวิชั่น ยูลีก ฟุตบอล
อุดมศึกษา และล่าสุดผ่านรอบคัดเลือกในเขต
ภาคกลางตะวันออกเป็นที่ 1 ในสาย พวกเรา
ภูมิใจมาก นับเป็นการประสบความสำเร็จที่
ชนะสถาบันเทคโนโลยีแห่งอโยธยา 3 ประตู
ต่อ 1 ซึ่งมีนักกีฬาทีมชาติเกือบทั้งทีมและถือว่า
เป็นทีมที่แข็งที่สุด
ทีมวอลเลย์บอล
น้ำผึ้ง คำอาจ
“การแข่งขันครั้งนี้พวกเราจะทำให้ดี
ที่สุด ตั้งเป้าไว้ว่าต้องผ่านรอบสองขึ้นไป ซึ่งเรา
ไม่ได้เข้ารอบมานาน 6 ปีแล้ว ครั้งนี้ทีมมีกำลังใจ
ฮึกเหิม พวกเราสามัคคีและช่วยกันเล่น ขยันฝึก
ซ้อมทุกวันส่งผลให้ฟิตและมั่นใจมากขึ้น อีกทั้ง
โค้ชดูแลฝึกซ้อมด้วยดีทั้ง 3 คน คือ อาจารย์
ไพรัช หิมเวช ผศ.นันทชัย ทองแป้น นายวิโรจน์
เพชรดอน และฝากเพื่อนๆ ติดตามผลงานและ
มาเชียร์พวกเราซึ่งจะทำให้มีกำลังใจยิ่งขึ้น” นาย
รัฐวุฒิ กล่าวทิ้งท้าย
ด้านทีมเปตอง นายอดุลย์เดช
วงศ์ปัดสา กล่าวว่า จากการแข่งรอบคัดเลือก
ต้องฝ่าฟันกว่า 20 สถาบัน ซึ่งสามารถชนะเป็น
ที่หนึ่งของสายภาคกลางตะวันออก ทั้งนี้ พวกเรา
ต้องขยันฝึกซ้อมทุกวันจันทร์-ศุกร์ และเข้าแข่งขัน
หลายสนามเพื่อพัฒนาฝีมือ และหวังว่าในการ
แข่งขันครั้งนี้จะได้เข้ารอบลึกๆ ซึ่งจะทำให้ดี
ที่สุดและไม่ประมาท ทั้งนี้อยากให้เพื่อนๆ ไป
เชียร์นักกีฬาถึงขอบสนามทุกประเภท เพราะ
กำลังใจจากการเชียร์ของเพื่อนๆ ทำให้เรามี
แรงฮึดสู้
นางสาวน้ำผึ้ง คำอาจ หัวหน้าทีม
วอลเลย์บอล เปิดใจว่า ตอนนี้ทีมมีความพร้อม
เต็มที่ ฝึกซ้อมตลอดให้ฟิตมากที่สุด จากรอบ
คัดเลือกที่ผ่านมาทีมชนะทุกแมตซ์ และในการ
แข่งขันครั้งนี้จะทำให้ดีที่สุดและหวังเข้ารอบ 4
ทีมสุดท้าย ซึ่งปีที่แล้วก็เข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย
นางสาวชญาพร อุดมศิลป์ หัวหน้า
ทีมบาสเกตบอล กล่าวว่า ทีมบาสเกตบอลหญิง
ได้ผ่านรอบคัดเลือกเป็นที่ 2 ของสาย ซึ่งยังไม่
เป็นที่พอใจ ดังนั้น ต้องฝึกซ้อมทุกวันให้พร้อม
แข่งขันในรอบมหกรรม ซึ่งตั้งความหวังเข้ารอบ
8 ทีมสุดท้าย ในส่วนของทีมชายเมื่อปีที่แล้ว
ได้ที่ 4 และปีนี้หวังว่าผลงานจะดีขึ้น ในการ
แข่งขันของนักกีฬากำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ ถ้า
ทีมบาสเกตบอล
ทีมเปตอง
ทีมฟุตบอล
เป็นไปได้อยากให้เพื่อนๆ ไปเชียร์นักกีฬา
มหาวิทยาลัยรังสิตของเรา
มหกรรมกีฬาฯ ครั้งนี้ นับเป็นบท
พิสูจน์ครั้งสำคัญของสปิริตนักกีฬาและความ
สามัคคีรวมกำลังใจเชียร์นักกีฬาของเรา อันดับ
ที่ได้หรือเหรียญรางวัล คำว่าชัยชนะไม่ใช่สิ่ง
สำคัญ แต่พัฒนาการไต่ระดับชั้นที่ดีขึ้นและ
ความภาคภูมิใจตลอดจนแรงใจแรงเชียร์จาก
เพื่อนๆ นักศึกษาของมหาวิทยาลัยถือเป็นสิ่ง
สำคัญ แล้วคุณล่ะ... พร้อมไปเชียร์นักกีฬาของ
เราแล้วหรือยัง!
19