31.07.2013 Views

cache

cache

cache

SHOW MORE
SHOW LESS

You also want an ePaper? Increase the reach of your titles

YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.

M 2 = (100 -14) X M 1<br />

(100 – M 1)<br />

W 2 = 25.0 + M 1 – M 2<br />

้<br />

้<br />

้<br />

เมื่อ<br />

M1 = นํ าหนักตัวอยางตามที่แนะนํ<br />

าไวในคูมือ<br />

M2 = นํ าหนักที่ถูกตอง<br />

W2 = ปริมาณนําที่ถูกตอง<br />

4. การวัดคากํ าลังการพองตัวและรอยละการละลายของแปงตัวอยาง<br />

(ดัดแปลงจากวิธีของ Schoch, 1964)<br />

เครื่องมือ<br />

เครื่องปนเหวี่ยงพรอมหลอดแกวปริมาตร<br />

30 มิลลิลิตร<br />

อางนํ้<br />

าไฟฟาที่ปรับและควบคุทอุณหภุมิได<br />

ตู อบไฟฟาที่ปรับและควบคุมอุณหภูมิได<br />

วิธีวิเคราะห<br />

296<br />

(1) อบหลอดแกวที่อุณหภูมิ<br />

100 องศาเซลเซียส นาน 1 ชั่วโมง<br />

นํ าออกมาใสในเด<br />

สิกเกเตอร ทิ้งไวใหเย็นที่อุณหภูมิหอง<br />

แลวนํ าไปชั่ง<br />

(2) ตรวจวัดความชื้นแปงกอน<br />

แลวชั่งตัวอยางแปง<br />

0.1000 กรัม (นํ้<br />

าหนักแหง, dry<br />

basis weight) แลวใสลงในหลอดแกว<br />

(3) เติมนํ ากลั ้ ่นปริมาตร 15 มิลลิลิตร บงในหลอดแกวและกวนใหเขากัน<br />

(4) นํ าไปตมในอางนํ้<br />

าไฟาที่ปรับ<br />

และควบคุมอุณหภูมิได ทดสอบที่อุณหภูมิ<br />

55,<br />

65, 75, 85, 95 องศาเซลเซียส เปนเวลา 30 นาที โดยกวนตลอดเวลา อยาใหแปงตกตะกอนเปน<br />

กอน

Hooray! Your file is uploaded and ready to be published.

Saved successfully!

Ooh no, something went wrong!