ดาวน์โหลด All Proceeding - AS Nida
ดาวน์โหลด All Proceeding - AS Nida ดาวน์โหลด All Proceeding - AS Nida
ตารางที่ 4 ระยะเวลาในการยอยสลายในดิน การทดลอง A B C ผลการทดสอบการยอย สลายในดิน(วัน) 1 150 59 1500 38 7 150 67.5 1000 36 11 146 59 1500 37 12 148 59 1500 39 21 150 59 1500 38 26 150 59 1000 36 28 148 67.5 1500 40 30 150 67.5 1500 42 33 150 67.5 1500 42 34 150 59 1000 36 35 150 67.5 1000 38 54 148 59 1500 38 จากตารางที่ 4 จะเห็นวา จํานวนวันที่ใชในการยอยสลายใน ดินที่สั้นที่สุด คือ 36 วัน ซึ่งเปนกระถางเพาะชําที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด มี ดังนี้ กระถางที่ 7 สัดสวน คือ 150:67.5:1000 (ปริมาณขี้เลื่อย:ปริมาณตัว ประสาน:แรงอัด) กระถางที่ 26 และ 34 สัดสวน คือ 150:59:1000 (ปริมาณขี้เลื่อย:ปริมาณตัวประสาน:แรงอัด) สรุปไดดังนี้ กระถางเพาะชําจากขี้เลื่อยทั้ง 3 กระถางนี้ ใหประ สิทธิที่เหมือนกันแตสัดสวนไมเทากัน โดยแตกตางกันที่ปริมาณตัว ประสาน คือ 59 และ 67.5 กรัม เนื่องการใชปริมาณตัวประสานที่ 67.5 กรัม เปนการเพิ่มตนทุนคือตองใชปริมาณขี้เลื่อยมากที่สุด ดังนั้น จึงเลือก ปริมาณตัวประสานที่ 59 กรัม เพื่อเปนการประหยัดตนทุน ดังนั้น ประสิทธิภาพกระถางที่ดีที่สุดในการทดสอบ คือสัดสวนที่ 150:59:1000 (ปริมาณขี้เลื่อย:ปริมาณตัวประสาน:แรงอัด) คือ กระถางที่ 26 และ กระถางที่ 34 6. ขอเสนอแนะ 6.1 สําหรับงานวิจัยนี้ทําการศึกษาปจจัยเพียง 3 ปจจัย แตละ ปจจัยมีเพียง 3 ระดับ เนื่องจากขอจํากัดดานระยะเวลาการวิจัย หากมีการ วิจัยตอไปควรมีการศึกษาปจจัยและระดับของปจจัยที่มากกวานี้ และควร จะศึกษาผลกระทบของสภาพแวดลอมที่มีผลตอการยอยสลาย 6.2 งานวิจัยนี้มีการทดลองทําซ้ําเพียง 2 ครั้ง ซึ่งทําใหมีความ นาเชื่อถือของการทดลองมีไมมากนัก ดังนั้น การเพิ่มความนาเชื่อถือ ใหกับขอมูลควรมีการเพิ่มจํานวนซ้ําของขอมูลไวตั้งแต 5 ถึง 10 ครั้ง จะ ทําใหเกิดประโยชนอยางยิ่งตอการออกแบบการทดลองกระถางเพาะชํา จากขี้เลื่อย ซึ่งสามารถนํามาเปนงานวิจัยขั้นตอไปได 343 กิตติกรรมประกาศ ขอขอบคุณ คุณวันวิสา เกษศิระและคุณจันทรสุดา เหมือนมาตยสําหรับการเก็บขอมูล เอกสารอางอิง [1] ปทุมทิพย ตนทับทิมทอง, มาริสา จินะดิษฐ, สุรัตน บุญพึ่ง และจิระพล กลิ่นบุญ. (2550), การวิจัยกระถางตนไมจากวัสดุ เหลือใชทางเกษตร. วิทยานิพนธ คณะวิชาเทคโนโลยีเคมี สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ [2] ปารเมศ ชุติมา. (2545), “การออกแบบการทดลองทางวิศวกรรม”. กรุงเทพมหานคร : สํานักพิมพแหงจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย [3] วิทยาลัยการอาชีพดานซาย (2552) , กระถางดอกไมเศษวัสดุ เหลือใช Leavings flowerpot , วิทยาลัยการอาชีพดาน ซาย จังหวัด เลย ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ [4] นายเฉลิม บัวสิงห และนายศตภิษั ไกรษี (2553) , กระถางยอย สลายเองตามธรรมชาติจากขี้เลื่อยยางพารา , จังหวัดศรีสะเกษ [5] นายวุฒิชัย เกื้อเล็กและคณะ (2553) , ผลิตภัณฑกระถางตนไม จากวัสดุธรรมชาติ , วิทยาลัยการอาชีพบางแกว [6] นายฉลอง สีแกวสิ่ว. (2552), Full Factorial Design. [ออนไลฟน] http://www.statistics.ob.tc/Full_DOE.htm ภาคผนวก ตารางภาคผนวก ก การบันทึกผลในการยอยสลายในดินของกระถาง เพาะชําจากขี้เลื่อย การทดลองที่ A B C ผลทดสอบการสลายในดิน (วัน) 1 150 59 1500 38 2 146 67.5 1500 36 3 146 51 1500 32 4 148 67.5 1500 40 5 148 59 500 28 6 146 59 1000 30 7 150 67.5 1000 36 8 150 59 500 30 9 146 51 1000 32 10 146 67.5 1500 38 11 146 59 1500 37 12 148 59 1500 39 13 148 51 1000 34 14 148 51 1000 34 15 148 67.5 500 30
- Page 309 and 310: รูปที่ 11 วงลอ
- Page 311 and 312: [11] M. L. Pinedo, “Scheduling: T
- Page 314 and 315: ตารางที่ 2 ตา
- Page 317: กระบวนการบด
- Page 323 and 324: ซึ่งทําใหเก
- Page 326 and 327: เอกสารอางอิ
- Page 328: ผลิตภัณฑนี้
- Page 332: บทคัดยอ 312 การ
- Page 336 and 337: ถาพิจารณาคา
- Page 338: 4. เมื่อพิจาร
- Page 343: 6.2 ดานการศึกษ
- Page 346 and 347: เมื่อ มีการแ
- Page 348: True positive (TP)คือ จํ
- Page 354 and 355: โดยที่ A เปนจ
- Page 356 and 357: นางปรารถนา ม
- Page 359: 2.2 การออกแบบก
- Page 368 and 369: New D High Cur 0.96932 Low Composit
- Page 370 and 371: 2. ตัวแบบและท
- Page 372: ของลักษณะที
- Page 376 and 377: = = (4) เนื่องจาก
- Page 378 and 379: ecdf_Value at Risk ecdf_Value at Ri
- Page 380 and 381: [3] David X. Li, Gaussian Copula,
- Page 382: ใหบริเวณคอน
- Page 385: จากตารางที่ 3
- Page 388 and 389: 368 การประชุมว
- Page 391: 2.3.2 กลุมพนักง
- Page 394 and 395: ของเทศบาลตํ
- Page 396 and 397: 376 การประชุมว
- Page 398 and 399: จากที่ไดกลา
- Page 401 and 402: ตารางที่ 2 ผล
- Page 403: 383 การประชุมว
- Page 406 and 407: รูปที่ 6 คาพา
- Page 408 and 409: ของคาความบา
ตารางที่<br />
4 ระยะเวลาในการยอยสลายในดิน<br />
การทดลอง A B C<br />
ผลการทดสอบการยอย<br />
สลายในดิน(วัน)<br />
1 150 59 1500 38<br />
7 150 67.5 1000 36<br />
11 146 59 1500 37<br />
12 148 59 1500 39<br />
21 150 59 1500 38<br />
26 150 59 1000 36<br />
28 148 67.5 1500 40<br />
30 150 67.5 1500 42<br />
33 150 67.5 1500 42<br />
34 150 59 1000 36<br />
35 150 67.5 1000 38<br />
54 148 59 1500 38<br />
จากตารางที่<br />
4 จะเห็นวา จํานวนวันที่ใชในการยอยสลายใน<br />
ดินที่สั้นที่สุด<br />
คือ 36 วัน ซึ่งเปนกระถางเพาะชําที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด<br />
มี<br />
ดังนี้<br />
กระถางที่<br />
7 สัดสวน คือ 150:67.5:1000 (ปริมาณขี้เลื่อย:ปริมาณตัว<br />
ประสาน:แรงอัด) กระถางที่<br />
26 และ 34 สัดสวน คือ 150:59:1000<br />
(ปริมาณขี้เลื่อย:ปริมาณตัวประสาน:แรงอัด)<br />
สรุปไดดังนี้<br />
กระถางเพาะชําจากขี้เลื่อยทั้ง<br />
3 กระถางนี้<br />
ใหประ<br />
สิทธิที่เหมือนกันแตสัดสวนไมเทากัน<br />
โดยแตกตางกันที่ปริมาณตัว<br />
ประสาน คือ 59 และ 67.5 กรัม เนื่องการใชปริมาณตัวประสานที่<br />
67.5<br />
กรัม เปนการเพิ่มตนทุนคือตองใชปริมาณขี้เลื่อยมากที่สุด<br />
ดังนั้น<br />
จึงเลือก<br />
ปริมาณตัวประสานที่<br />
59 กรัม เพื่อเปนการประหยัดตนทุน<br />
ดังนั้น<br />
ประสิทธิภาพกระถางที่ดีที่สุดในการทดสอบ<br />
คือสัดสวนที่<br />
150:59:1000<br />
(ปริมาณขี้เลื่อย:ปริมาณตัวประสาน:แรงอัด)<br />
คือ กระถางที่<br />
26 และ<br />
กระถางที่<br />
34<br />
6. ขอเสนอแนะ<br />
6.1 สําหรับงานวิจัยนี้ทําการศึกษาปจจัยเพียง<br />
3 ปจจัย แตละ<br />
ปจจัยมีเพียง 3 ระดับ เนื่องจากขอจํากัดดานระยะเวลาการวิจัย<br />
หากมีการ<br />
วิจัยตอไปควรมีการศึกษาปจจัยและระดับของปจจัยที่มากกวานี้<br />
และควร<br />
จะศึกษาผลกระทบของสภาพแวดลอมที่มีผลตอการยอยสลาย<br />
6.2 งานวิจัยนี้มีการทดลองทําซ้ําเพียง<br />
2 ครั้ง<br />
ซึ่งทําใหมีความ<br />
นาเชื่อถือของการทดลองมีไมมากนัก<br />
ดังนั้น<br />
การเพิ่มความนาเชื่อถือ<br />
ใหกับขอมูลควรมีการเพิ่มจํานวนซ้ําของขอมูลไวตั้งแต<br />
5 ถึง 10 ครั้ง<br />
จะ<br />
ทําใหเกิดประโยชนอยางยิ่งตอการออกแบบการทดลองกระถางเพาะชํา<br />
จากขี้เลื่อย<br />
ซึ่งสามารถนํามาเปนงานวิจัยขั้นตอไปได<br />
343<br />
กิตติกรรมประกาศ<br />
ขอขอบคุณ คุณวันวิสา เกษศิระและคุณจันทรสุดา<br />
เหมือนมาตยสําหรับการเก็บขอมูล<br />
เอกสารอางอิง<br />
[1] ปทุมทิพย ตนทับทิมทอง, มาริสา จินะดิษฐ, สุรัตน บุญพึ่ง<br />
และจิระพล กลิ่นบุญ.<br />
(2550), การวิจัยกระถางตนไมจากวัสดุ<br />
เหลือใชทางเกษตร. วิทยานิพนธ คณะวิชาเทคโนโลยีเคมี<br />
สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ<br />
[2] ปารเมศ ชุติมา. (2545), “การออกแบบการทดลองทางวิศวกรรม”.<br />
กรุงเทพมหานคร : สํานักพิมพแหงจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย<br />
[3] วิทยาลัยการอาชีพดานซาย (2552) , กระถางดอกไมเศษวัสดุ<br />
เหลือใช Leavings flowerpot , วิทยาลัยการอาชีพดาน<br />
ซาย จังหวัด เลย ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ<br />
[4] นายเฉลิม บัวสิงห และนายศตภิษั ไกรษี (2553) , กระถางยอย<br />
สลายเองตามธรรมชาติจากขี้เลื่อยยางพารา<br />
, จังหวัดศรีสะเกษ<br />
[5] นายวุฒิชัย เกื้อเล็กและคณะ<br />
(2553) , ผลิตภัณฑกระถางตนไม<br />
จากวัสดุธรรมชาติ , วิทยาลัยการอาชีพบางแกว<br />
[6] นายฉลอง สีแกวสิ่ว.<br />
(2552), Full Factorial Design.<br />
[ออนไลฟน] http://www.statistics.ob.tc/Full_DOE.htm<br />
ภาคผนวก<br />
ตารางภาคผนวก ก การบันทึกผลในการยอยสลายในดินของกระถาง<br />
เพาะชําจากขี้เลื่อย<br />
การทดลองที่<br />
A B C<br />
ผลทดสอบการสลายในดิน<br />
(วัน)<br />
1 150 59 1500 38<br />
2 146 67.5 1500 36<br />
3 146 51 1500 32<br />
4 148 67.5 1500 40<br />
5 148 59 500 28<br />
6 146 59 1000 30<br />
7 150 67.5 1000 36<br />
8 150 59 500 30<br />
9 146 51 1000 32<br />
10 146 67.5 1500 38<br />
11 146 59 1500 37<br />
12 148 59 1500 39<br />
13 148 51 1000 34<br />
14 148 51 1000 34<br />
15 148 67.5 500 30