ดาวน์โหลด All Proceeding - AS Nida
ดาวน์โหลด All Proceeding - AS Nida
ดาวน์โหลด All Proceeding - AS Nida
Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
เสร็จชั่วโมงที่<br />
22 บนสถานีงานที่<br />
5 จากนั้นคําสั่งผลิต<br />
C2 จึงสามารถเริ่ม<br />
ทํางานที่ชั่วโมงที่<br />
22 และเสร็จที่ชั่วโมงที่<br />
27 บนสถานีงานที่<br />
3 เปนตน<br />
2. การหาคําตอบเริ่มตนดวยวิธีการขั้นตอนเชิงพันธุกรรม<br />
วิธีการขั้นตอนเชิงพันธุกรรมเปนอัลกอริทึมที่อิงกระบวนการ<br />
หาคําตอบมาจากแนวความคิดของชารลส ดารวิน (Charles Darwin) ใน<br />
เรื่องของการอยูรอดของผูที่แข็งแรงที่สุด<br />
(Survival of the Fittest) [9,10]<br />
วิธีการนี้มีลักษณะการคนหาคําตอบแบบขนาน<br />
(Parallel Search) ใน<br />
รูปแบบของโครโมโซม (Chromosome) ซึ่งโครโมโซมที่มีความแข็งแรง<br />
ดีที่สุดจะเปนตัวแทนของคําตอบที่แมนตรง<br />
(Exact Solution) หรือคําตอบ<br />
โดยประมาณ (Approximate Solution) วิธีการขั้นตอนเชิงพันธุกรรมมี<br />
ขั้นตอนในการหาคําตอบ<br />
7 ขั้นตอน<br />
แสดงดังรูปที่<br />
3<br />
รูปที่<br />
3 วิธีการขั้นตอนเชิงพันธุกรรม<br />
- ขั้นตอนที่<br />
1 ทําการเขารหัสโครโมโซมแบบวิธีเรียงสับเปลี่ยน<br />
(Permutation Encoding) และกําหนดประชากรเริ่มตน<br />
(Initial Population)<br />
ในงานวิจัยนี้ผูวิจัยกําหนดประชากรเริ่มตนเทากับ<br />
5 โครโมโซม<br />
โดยใชกฎการจายงาน (Dispatching Rule) ในการสรางประชากรเริ่มตน<br />
จํานวน 3 โครโมโซม ไดแก EDD (Earliest Due Date), MST (Minimum<br />
Slack Time) และ SPT (Shortest Processing Time) และใชการสุมแบบ<br />
เรียงสับเปลี่ยน<br />
(Random Permutation) ในการสรางประชากรเริ่มตน<br />
2<br />
โครโมโซม แสดงดังตารางที่<br />
2 คอลัมนที่<br />
1, 2 และ 3<br />
284<br />
ตารางที่<br />
2 การสรางประชากรเริ่มตน<br />
โครโมโซมที่<br />
วิธีการสราง<br />
ประชากรเริ่มตน<br />
ประชากรเริ่มตน<br />
คาความแข็งแรง<br />
( f k )<br />
่<br />
่<br />
1 EDD A C B D 269.500<br />
2 MST A C D B 274.625<br />
3 SPT B D C A 504.250<br />
4 การสุมครั้งที<br />
1 C A B D 218.750<br />
5 การสุมครั้งที<br />
2 B C D A 597.375<br />
รวม 1864.5<br />
- ขั้นตอนที่<br />
2 การประเมินคาความแข็งแรง (Evaluate Individual) ของ<br />
โครโมโซมที่เปนตัวแทนคําตอบในการจัดตารางการผลิตจะทําการ<br />
ประเมินดวยสมการเปาหมายของการจัดตารางการผลิต งานวิจัยนี้มี<br />
เปาหมายที่จะหาคานอยที่สุดของผลรวมระหวางคาใชจายของความลาชา<br />
และคาใชจายของการมีงานคางอยูในระบบ<br />
โดยมีสมการเปาหมายแสดง<br />
ดังสมการที่<br />
1<br />
Minimize Total<br />
n<br />
n<br />
Cost ∑ CTiQ<br />
iti<br />
+ ∑ CFiQ<br />
i fi<br />
i = 1<br />
i = 1<br />
โดยที่<br />
f i คือ เวลาที่งาน<br />
i อยูในระบบ<br />
t i คือ เวลาลาชาของงาน i<br />
CT i คือ คาปรับเมื่องาน<br />
i ลาชาตอชิ้นตอหนวยเวลา<br />
CF i คือ คาใชจายในการจัดเก็บเมื่องาน<br />
i อยูในระบบตอชิ้นตอหนวย<br />
เวลา<br />
Q i คือ จํานวนของผลิตภัณฑแตละชนิด<br />
n คือ จํานวนงานทั้งหมด<br />
โดยที่<br />
f i สามารถคํานวณไดจากเวลาที่งาน<br />
i เริ่มดําเนินการ<br />
ในระบบลบดวยเวลาที่งาน<br />
i เสร็จสิ้น<br />
ในขณะที่<br />
ti คํานวณจากเวลาเสร็จ<br />
งานของงาน i ลบดวยเวลาที่ตองการของงาน<br />
i ในกรณีที่เวลาเสร็จงาน<br />
อยูหลังเวลาที่ตองการเทานั้น<br />
โดยใชขอมูลคาใชจายที่แสดงดังตารางที่<br />
3<br />
และขอมูลจากรูปที่<br />
2 สามารถคํานวณผลลัพธของขั้นตอนที่<br />
2 ไดดัง<br />
ตารางที่<br />
2 คอลัมนที่<br />
4<br />
ตารางที่<br />
3 คาปรับเมื่องานและคาใชจายเมื่อมีงานคาง<br />
ใบสั่งผลิต<br />
จํานวน<br />
( Q i )<br />
คาปรับเมื่องานลาชา<br />
( CT i ) (บาท/ชิ้น/วัน)<br />
คาใชจายเมื่องานอยูในระบบ<br />
( CF i ) (บาท/ชิ้น/วัน)<br />
A 1 150 3<br />
B 1 120 2<br />
C 1 100 1<br />
D 1 80 1<br />
หลักการคํานวณคาความแข็งแรงโดยใชสมการที่<br />
(1) นั้น<br />
จะตองนําคําสั่งผลิตทั้งหมดวางบนเครื่องจักร<br />
ซึ่งมีเงื่อนไขในการวาง<br />
ดังตอไปนี้<br />
(1)