ดาวน์โหลด All Proceeding - AS Nida
ดาวน์โหลด All Proceeding - AS Nida
ดาวน์โหลด All Proceeding - AS Nida
Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
กิโลกรัม จัดอยูในขนาด<br />
S3 ชวงน้ําหนัก<br />
113-117 กิโลกรัม จัดอยูใน<br />
ขนาด S4 และชวงน้ําหนัก<br />
118-122 กิโลกรัม จัดอยูในขนาด<br />
S5 จากนั้น<br />
สุกรจะถูกชําแหละออกเปนชิ้นเนื้อตางๆ<br />
ซึ่งเรียกวาเนื้อสวนหลัก<br />
(Primal<br />
Cut) ไดแก สะโพกหรือขาหลัง (Ham) สันใน (Tenderloin) สันนอก<br />
(Loin) คอหมู (Collar) สันคอหรือไหล (Shoulder) และเนื้อสวนทองหรือ<br />
สามชั้น<br />
(Belly) ซึ่งชิ้นเนื้อแตละสวนจะถูกจําแนกออกเปนขนาดตางๆ<br />
ตามขนาดของสุกรที่รับมา<br />
(S1, S2, S3, S4 หรือ S5) เพื่อแปรรูปเปน<br />
ผลิตภัณฑชนิดตางๆ ตามความตองการของลูกคาและในขั้นตอนตอมา<br />
โรงปรุงสุก (Cooked Factory) จะนําชิ้นเนื้อไปผลิต<br />
ซึ่งจํานวนสุกรในแต<br />
ละขนาดที่ถูกนํามาชําแหละนั้นมีจํานวนไมตรงตามความตองการของชิ้น<br />
เนื้อสวนตางๆ<br />
ในแตละขนาดของโรงปรุงสุก<br />
ในปจจุบันอุตสาหกรรมแปรรูปสุกรประสบปญหาจากความ<br />
แปรปรวนของขนาดปริมาณสุกร ซึ่งทําใหสงผลกระทบตอตนทุนรวม<br />
อันเนื่องมาจากตนทุนสินคาคงคลัง<br />
(Inventory Cost) มีคาสูงขึ้น<br />
อัน<br />
เนื่องมาจากมีปริมาณวัตถุดิบในคลังสินคามากขึ้น<br />
กอใหเกิดคาใชจาย<br />
สําหรับการจัดเก็บ ยกตัวอยางเชน เมื่อมีความตองการชิ้นเนื้อสันในขนาด<br />
S3 จํานวน 1 ชิ้นมาผลิตเปนผลิตภัณฑ<br />
จะตองทําการชําแหละสุกร 1 ตัว<br />
แตผลที่ไดจากการชําแหละสุกร<br />
1 ตัวนั้น<br />
กอใหเกิดชิ้นเนื้อขนาด<br />
S3 ที่ไม<br />
ตองการเกิดขึ้นในสวนของ<br />
สะโพกหรือขาหลัง สันนอก คอหมู สันคอ<br />
หรือไหลและเนื้อสวนทองหรือสามชั้น<br />
ซึ่งชิ้นเนื้อเหลานี้จะตองถูกเก็บ<br />
ในคลังสินคา กอใหเกิดคาใชจายเพิ่มขึ้นและตนทุนการผลิต<br />
(Production<br />
Cost) ประกอบดวยตนทุนการชําแหละสุกร (Slaughtering cost) ถา<br />
บริหารจัดการไมเหมาะสม ตัวอยางเชน การชําแหละสุกรมีจํานวนมาก<br />
เกินไปสงผลทําใหตนทุนการชําแหละสูงขึ้นและตนทุนวัตถุดิบ<br />
(Material<br />
cost) กรณีมีการนําชิ้นเนื้อสวนหลักขนาดใหญทดแทนขนาดเล็ก<br />
สงผล<br />
ทําใหตนทุนวัตถุดิบสูงขึ้น<br />
ดังนั้นงานวิจัยนี้จึงทําการพัฒนาเครื่องมือที่ชวยในการวาง<br />
แผนการผลิตของโรงงานกรณีศึกษาโดยมีจุดมุงหมายเพื่อลดตนทุนรวม<br />
ระหวางโรงชําแหละและโรงปรุงสุกใหมีคาต่ําที่สุด<br />
ซึ่งตนทุนรวม<br />
ประกอบดวย ตนทุนสินคาคงคลังและตนทุนการผลิต ในงานวิจัยนี้ได<br />
กําหนดลําดับการวางแผนการผลิตมีขั้นตอนดังตอไปนี้<br />
คือ เริ่มตนจาก<br />
โรงปรุงสุกรับคําสั่งซื้อผลิตภัณฑจากลูกคา<br />
ตอมาจึงทําการคํานวณ<br />
ปริมาณเนื้อสวนหลักที่จะนําไปใชในการผลิตจากการโครงสรางของ<br />
ผลิตภัณฑ (Bill of material : BOM) ขั้นตอนตอไปจะทําการตรวจสอบวา<br />
ผลิตภัณฑตางๆ สามารถใชชิ้นเนื้อใดทดแทนกันไดหรือไม<br />
จากนั้นทํา<br />
การวางแผนความตองการเนื้อชิ้นสวนหลักจากปริมาณเนื้อชิ้นสวนหลักที่<br />
104<br />
ตองการ โดยตองพิจารณาถึงจํานวนสุกรที่สามารถนํามาชําแหละไดใน<br />
แตละชวงเวลา ขั้นตอนสุดทาย<br />
ใชรูปแบบทางคณิตศาสตร<br />
(Mathematical model) ที่พัฒนาขึ้นหาคําตอบที่ดีที่สุด<br />
โดยผลลัพธที่ได<br />
คือ จํานวนสุกรที่ตองการชําแหละในแตละขนาดและแผนการทดแทนชิ้น<br />
เนื้อ<br />
เพื่อประยุกตใชในการวางแผนการผลิต<br />
ดังแสดงในรูปที่<br />
1<br />
รูปที่<br />
1 แสดงลําดับขั้นตอนการวางแผนการผลิต<br />
2. ทบทวนวรรณกรรม<br />
งานวิจัยที่เกี่ยวของกับการวางแผนการผลิตดวยการใชรูปแบบ<br />
ทางคณิตศาสตร โดยในป 2005 Spitter et al. [1] พัฒนาวิธีการตัวแบบ<br />
กําหนดการเชิงเสน (Linear Programming models) ในการแกปญหาการ<br />
วางแผนดวยเวลานําของการผลิตในหวงโซอุปทาน ภายใตเงื่อนไข<br />
ขอจํากัดดานปริมาณการผลิต ซึ่งแกปญหาโดยใชตัวแบบกําหนดการเชิง<br />
เสน โดยมีทั้งหมด<br />
2 รูปแบบ คือ ลดตนทุนสินคาและตนทุนคางสินคา<br />
โดยมีวัตถุประสงคเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นระหวางการผลิตในหวงโซ<br />
อุปทานและความเปนไปไดในการวางแผนจัดตารางการผลิตและในป<br />
1994 Lotfi & Yoon [2] ศึกษาการจัดตารางวางแผนการผลิตโดยมี<br />
ขอจํากัดดานกําลังการผลิตซึ่งมีหลากหลายผลิตภัณฑในระดับเดียว<br />
(Multi-period Single-item production) ชวงเวลาในการวางแผนตามแนว<br />
ยาว (Planning Horizon) โดยความตองการเปลี่ยนไปในแตละชวงเวลา<br />
ซึ่งกําหนดใหกําลังผลิตสามารถเปลี่ยนแปลงไดและไมมีงานคั่งคาง<br />
(Backlog) แลวจึงสรางรูปแบบทางคณิตศาสตรเพื่อหาปริมาณการผลิตที่<br />
เหมาะสม โดยมีวัตถุประสงคเพื่อตองการใหมีผลรวมของคาใชจายดาน<br />
การผลิต คาใชจายในการเก็บรักษาวัสดุคงคลังและคาใชจายในการตั้ง<br />
เครื่องจักรใหมใหมีคาต่ําที่สุด<br />
งานวิจัยที่เกี่ยวของกับการวางแผนการผลิตที่มีการทดแทนกัน<br />
ของวัตถุดิบ โดยในป 2007 Geunes [3] เสนอขั้นตอนวิธีการแกปญหา<br />
การวางแผนความตองการวัตถุดิบที่มีขนาดการผลิตขนาดใหญดวยวิธีการ<br />
การแทนที่<br />
สําหรับการผลิตแบบทําตามสั่ง<br />
โดยใชวิธีการโปรแกรมเชิง