นายดำหริ ดารกานนท์ - Saha-Union Co., Ltd

จำนวนประมาณ 15 ล้านเรนมินบิ (คิดเป็นสัดส่วนการลงทุนในบริษัทดังกล่าว ร้อยละ 10) โดยบริษัทฯ และ Saha - Union Investment (China)Co., Ltd. จะต้องทยอยจ่ายชำระค่าหุ ้นตามที ่ระบุในสัญญา ณ วันที ่ 31 ธันวาคม 2550 บริษัทฯ และ Saha - Union Investment (China) Co., Ltd.ได้จ่ายชำระค่าหุ ้นดังกล่าว ทั ้งหมดแล้ว รวมเป็นจำนวนเงินประมาณ 53 ล้านเรนมินบิ (เฉพาะของบริษัทฯ เป็นจำนวนประมาณ 38 ล้านเรนมินบิ)11) Saha - Union Investment (China) Co., Ltd. (บริษัทย่อย) บริษัท ยูเนี่ยนเอ็นเนอร์ยี่ (ไชน่า) จำกัด (บริษัทย่อย) และ Yixing - UnionCogeneration Co., Ltd. (บริษัทร่วม) ได้ลงทุนใน Huanan - Union Spring Cogeneration Co., Ltd. ซึ ่งเป็นบริษัทผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีมูลค่าสัญญาเป็นจำนวนเงิน 52 ล้านเรนมินบิ คิดเป็นสัดส่วนการลงทุนในบริษัทดังกล่าว ร้อยละ49.99 โดยบริษัททั้งสามแห่งได้จ่ายชำระค่าหุ้นดังกล่าว ทั้งหมดแล้วภายในปี 255012) บริษัทฯ และ Saha - Union Investment (China) Co., Ltd. (บริษัทย่อย) ได้ลงทุนใน Taixing Union Zond Chemicals Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทผลิต Phthalic anhydride & Fumaric acid และผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่อง ด้วยมูลค่าการลงทุนจำนวน 4.8 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา คิดเป็นสัดส่วนเงินลงทุนร้อยละ 40.0013) บริษัท ยูเนี ่ยนบริหารธุรกิจ จำกัด (บริษัทร่วม ซึ ่งประกอบธุรกิจการลงทุน โดยบริษัทฯ ลงทุนโดยตรงในหุ ้นสามัญจำนวน 1.47 ล้านหุ ้นคิดเป็นสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 29.40) ให้กับบริษัท ยูเนี่ยนแคปปิทอล จำกัด (บริษัทร่วม ซึ่งประกอบธุรกิจการลงทุน โดยบริษัทฯ มีสัดส่วนการลงทุนโดยตรงร้อยละ 29.00) ในราคาหุ้นละ 130.46 บาท โดยกำหนดราคาขายจากมูลค่าสุทธิทางบัญชี ณ วันที่ 30 เมษายน 2550 ของบริษัท ยูเนี่ยนบริหารธุรกิจ จำกัด เป็นจำนวนเงินรวม 191.8 ล้านบาท (ณ วันที่ทำสัญญาซื้อขายเงินลงทุน บริษัท ยูเนี่ยนบริหารธุรกิจ จำกัดมีมูลค่าสุทธิทางบัญชีหุ ้นละ 125.32 บาท) โดยการขายเงินลงทุนดังกล่าว ได้รับการอนุมัติจากที ่ประชุมกรรมการบริษัทฯ ครั ้งที ่ 5/2550 และ 7/2550เมื ่อวันที ่ 24 พฤษภาคม 2550 และวันที ่ 19 กรกฎาคม 2550 ตามลำดับ โดยบริษัทฯ ได้โอนกรรมสิทธิในเงินลงทุนดังกล่าว ให้กับ บริษัท ยูเนี ่ยนแคปปิทอล จำกัด แล้ว และบริษัท ยูเนี่ยนแคปปิทอล จำกัด ได้จ่ายชำระค่าหุ้นบางส่วนจำนวน 26.2 ล้านบาทให้กับบริษัทฯ แล้ว สำหรับค่าหุ้นส่วนที่เหลือจำนวน 165.6 ล้านบาท บริษัท ยูเนี่ยนแคปปิทอล จำกัด จะผ่อนชำระเป็นรายปี ภายในระยะเวลา 8 ปี (สิ้นสุดภายในปี 2558)พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ MLR-1 ต่อปี บริษัทฯ ได้บันทึกกำไรจากการขายเงินลงทุนดังกล่าว ในงบกำไรขาดทุนรวมสำหรับปีสิ้นสุดวันที่31 ธันวาคม 2550 เป็นจำนวนเงินประมาณ 37.3 ล้านบาท (งบการเงินเฉพาะของกิจการ: 45.0 ล้านบาท)14) บริษัทฯ ได้ขายเงินลงทุนในบริษัท ยูเนี ่ยนแคปปิทอล จำกัด (บริษัทร่วม ซึ ่งประกอบธุรกิจการลงทุน โดยบริษัทฯ ลงทุนโดยตรงในหุ ้นสามัญจำนวน 725,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 29) ให้กับบริษัท ยูเนี่ยนบริหารธุรกิจ จำกัด (บริษัทร่วม ซึ่งประกอบธุรกิจการลงทุนโดยบริษัทฯมีสัดส่วนการลงทุนโดยตรงร้อยละ 29.4) ในราคาหุ้นละ 248.45 บาท โดยกำหนดราคาขายจากมูลค่าสุทธิทางบัญชี ณ วันที่ 30 เมษายน 2550ของบริษัท ยูเนี่ยนแคปปิทอล จำกัด เป็นจำนวนเงินรวม 180.1 ล้านบาท (ณ วันที่ทำสัญญาซื้อขายเงินลงทุน บริษัท ยูเนี่ยนแคปปิทอล จำกัดมีมูลค่าสุทธิทางบัญชีหุ้นละ 222.14 บาท) โดยการขายเงินลงทุนดังกล่าว ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมกรรมการของบริษัทฯ ครั้งที่ 5/2550และ 7/2550 เมื ่อวันที ่ 24 พฤษภาคม 2550 และวันที ่ 19 กรกฎาคม 2550 ตามลำดับ โดยบริษัทฯ ได้โอนกรรมสิทธิในเงินลงทุนดังกล่าว ให้กับบริษัท ยูเนี่ยนบริหารธุรกิจ จำกัด แล้ว และบริษัท ยูเนี่ยนบริหารธุรกิจ จำกัด ได้จ่ายชำระค่าหุ้นบางส่วนจำนวน 97.5 ล้านบาทให้กับบริษัทฯแล้ว สำหรับค่าหุ้นส่วนที่เหลือจำนวน 82.6 ล้านบาท บริษัท ยูเนี่ยนบริหารธุรกิจ จำกัด จะผ่อนชำระเป็นรายปี ภายในระยะเวลา 5 ปี (สิ้นสุดภายในปี 2555) พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ MLR-1 ต่อปี บริษัทฯ ได้บันทึกกำไรจากการขายเงินลงทุนดังกล่าว ในงบกำไรขาดทุนรวมสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 เป็นจำนวนเงินประมาณ 54.9 ล้านบาท (งบการเงินเฉพาะของกิจการ: 107.6 ล้านบาท)เพื่อความระมัดระวังรอบคอบ ในปี 2551 บริษัทฯ ได้มีการตั้งค่าเผื่อการด้อยค่าของเงินลงทุนในบริษัทร่วมเพิ่มจำนวน 192.9 ล้านบาทส่งผลให้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 บริษัทฯ มีค่าเผื่อการด้อยค่าของเงินลงทุนในบริษัทร่วมเป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 217.3 ล้านบาท เพื่อให้มูลค่าสุทธิของเงินลงทุนดังกล่าว ได้สะท้อนผลตอบแทนที่บริษัทฯ คาดการณ์ว่าจะได้รับจากการลงทุนในอนาคตส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสียของบริษัทร่วม 13 แห่ง จำนวนประมาณ 90 ล้านบาท สำหรับปีสิ ้นสุดวันที ่ 31 ธันวาคม 2551(2550: 14 แห่ง ส่วนแบ่งกำไรจำนวนประมาณ 462 ล้านบาท) คำนวณขึ้นจากงบการเงินที่ตรวจสอบแล้วโดยผู้สอบบัญชีของบริษัทดังกล่าวส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสียของบริษัทร่วม 23 แห่ง จำนวนประมาณ 122 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในงบกำไรขาดทุนสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 (2550: 21 แห่ง จำนวนประมาณ 139 ล้านบาท) คำนวณจากงบการเงินที่จัดทำขึ้นโดยฝ่ายบริหารของบริษัทร่วมโดยยังไม่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีของบริษัทร่วมเหล่านั้น อย่างไรก็ตาม ฝ่ายบริหารของบริษัทฯ เชื่อว่างบการเงินดังกล่าว ไม่มีความแตกต่างอย่างเป็นสาระสำคัญหากได้ถูกตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีของบริษัทร่วมบริษัท สหยูเนี่ยน จำกัด (มหาชน)107